📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 506

บทที่ 506 - บทเรียนจากความผิดพลาด
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม

เผยเชียนแวะมาที่คาเฟ่ใกล้มหาวิทยาลัยอีกครั้งเพื่อพบนักออกแบบเกมอีกคน

ระบบให้งบค่าเล่าเรียน 1.8 ล้านหยวน ตอนนี้ใช้ไปแล้วหนึ่งล้านหยวน เหลือแปดแสนหยวน

เพราะงั้นเผยเชียนจึงขอให้เลขาซินหานักออกแบบที่พอมีชื่อเสียงและเคยมีโปรเจ็กต์ล้มเหลวมาก่อน เพื่อที่จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์นั้น

ที่เผยเชียนกำหนดให้หาคนที่พอมีชื่อเสียงก็เพราะอยากตัดปัจจัยเรื่องความสามารถส่วนตัวออกไปให้ได้เยอะที่สุด

ถ้านักออกแบบที่หามาเป็นคนที่ล้มเหลวเพราะไม่เอาถ่าน ระบบจะไม่ยอมให้เขาเสนอค่าจ้างสูงๆ อีกทั้งความผิดพลาดของเขาก็น่าจะไม่ดีพอที่จะนำมาเป็นบทเรียนได้

ถ้าคนคนนั้นมีแต่ความล้มเหลว เผยเชียนจะไปเรียนรู้อะไรได้ เกิดได้เรียนอะไรที่ไม่ค่อยสำคัญแล้วกลายเป็นเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์จะทำยังไง

เขาต้องหานักออกแบบที่มีความสามารถและประสบความสำเร็จประมาณหนึ่ง แบบนั้นปัจจัยความล้มเหลวของพวกเขาก็น่าจะโดดเด่นเหมือน ‘ขีดเน้นคำ’ ไว้ ทำให้ง่ายต่อการเอาเป็นแบบอย่าง

เหออันสอนเรื่องปัจจัยหลักที่ทำให้เถิงต๋าประสบความสำเร็จ ซึ่งสำหรับเผยเชียนแล้วเหมือนเรียนหนังสือผิดเล่ม เขาเหมือนกำลังทำแบบฝึกหัดตรวจหาความผิดพลาดขนานใหญ่อยู่

คนที่จะมาวันนี้จะพูดเรื่องประสบการณ์ล้มเหลวที่ผ่านมาเป็นหลัก แบบนี้ก็เอาสิ่งที่เหออันสอนไปโยงกับสิ่งที่นักออกแบบอีกคนจะสอนวันนี้ได้

เขาทั้งได้ผลาญเงิน 1.8 ล้านหยวนเพื่อหาความรู้เพิ่ม แถมยังได้เรียนเรื่องการสร้างเกมแบบมืออาชีพด้วย

ถ้าสามารถผ่านการประเมินจากระบบตอนปิดบัญชีและเอาความรู้ที่ได้มาสร้างเกมที่ขาดทุนได้สำเร็จ…

เขาก็จะหาเงินได้เหมือนสุลต่านเลยสิ

เทียบกับการ ‘ถามไม่ตรงกับคำตอบที่ต้องการ’ กับบอสเหอแล้ว นักออกแบบคนนี้จะให้ ‘คำตอบที่ต้องการ’ กับเขา ความรู้เกี่ยวกับผลาญเงินจะเข้าสมองของเขาได้ง่ายกว่า

เพราะงั้นเผยเชียนจึงตื่นเต้นกับการพบกันครั้งนี้มาก!

ไม่นานนักออกแบบเกมคนนั้นก็มาถึงคาเฟ่

“สวัสดีครับบอสหม่า! ผมชื่อชิวหงครับ” ชายผมยาวอายุอยู่ในช่วงสามสิบจับมือกับเผยเชียนอย่างอบอุ่น

เผยเชียนอ่านเรซูเม่ของชิวหงก่อนหน้าที่อีกฝ่ายจะมาถึงแล้ว

เรซูเม่ของชิวหงแตกต่างจากประสบการณ์ความสำเร็จยาวเหยียดของเหออัน ประวัติการทำงานในสายอาชีพการผลิตเกมของชิวหงดูไม่ค่อยจะชิวเท่าไหร่

เรซูเม่ของเขาอาจมองได้ว่าเป็นต้นแบบของคนวัยกลางคนในตลาดวงการเกมปัจจุบัน

หลังเข้าวงการในปีค.ศ.2001 เขาก็ทำงานเป็นนักออกแบบระบบในบริษัทเกมขนาดใหญ่ในประเทศ เขาทำเกมไคลเอนต์แนวเทพเซียน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเกมหวังดูดเงินผู้เล่น

สองปีต่อมา ความสำเร็จก็พาเขาย้ายไปอยู่อีกบริษัทหนึ่ง เขาได้รับหน้าที่เป็นนักออกแบบหลักของเกมไคลเอนต์ตีมแฟนตาซีตะวันตก ต่อมาโปรเจ็กต์ล่มหลังพัฒนาไปได้หนึ่งปีแต่คุณภาพก็ยังแย่อยู่

หลังจากนั้น เขาก็ย้ายไปบริษัทเกมอีกแห่งในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวางแผนทำเกมแนวสงครามที่มีการวางกำแพงค่าใช้จ่าย รอบนี้เขาประสบความสำเร็จและทำยอดได้สูงถึงหนึ่งร้อยล้านหยวนต่อเดือน

เกมสงครามเกมนี้ถือได้ว่าเป็นบ่อเงินบ่อทอง ถึงรายได้จะตกลงหลังผ่านไปครึ่งปี แต่ก็ยังเปิดให้บริการต่อไปได้ถึงสามปี สร้างชื่อให้ชิวหงได้ดีทีเดียว

ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมาจากโปรเจ็กต์ก่อนหน้านี้ ชิวหงจึงตัดสินใจยืนหยัดด้วยตัวเองโดยการระดมทุนมาเปิดบริษัทเกม จากนั้นก็สร้างเกมที่มีเพดานขึ้นมาอีกแต่ก็เจ๊ง

เพราะความล้มเหลวจากโปรเจ็กต์นี้ ชิวหงจึงอยู่ในช่วงหมดกำลังใจ ตั้งใจจะพักไม่ทำอะไรสักพัก แต่ดันมีคนติดต่อมาบอกว่าอยากจ้างเขาให้มาแชร์ประสบการณ์โดยให้ค่าตอบแทนหนึ่งแสนหยวน เขาเลยตอบตกลงและเดินทางมาจิงโจว

เผยเชียนพอใจกับเรซูเม่ของชิวหงมาก

พูดง่ายๆ คือ ยิ่งปีนสูงยิ่งตกลงมาแรง!

เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้เน้นผลิตเกมในประเทศที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่าย ตอนเป็นนักวางแผนเมื่อห้าถึงหกปีก่อน เขาเคยทำยอดได้หนึ่งร้อยล้านหยวนต่อเดือน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ

อีกอย่างความผิดพลาดทั้งสองครั้งก็เหมือนจะไม่ได้เป็นเพราะเงิน

ตอนที่พลาดครั้งแรก บริษัทที่เขาย้ายไปมีกำลังจ่ายสูง พร้อมทุ่มไม่อั้นเพื่อสร้างผลงานชิ้นเอกในยุคนั้น ไม่ได้ขาดเงินทุนอะไร

ครั้งที่สอง เขาได้เงินทุนจากนักลงทุนเพียงพอสำหรับเริ่มต้นธุรกิจ ไม่ได้ขาดเงินทุนเหมือนกัน

ถึงอย่างนั้นชิวหงที่เคยประสบความสำเร็จและมีประสบการณ์เพียงพอก็ยังล้มเหลวได้

ลงทุนสูง ขาดทุนหนัก เงินนับล้านหายไปกับสายลม ตรงกับสิ่งที่เผยเชียนต้องการสุดๆ!

เผยเชียนมั่นใจมากว่าน่าจะเรียนรู้อะไรได้จากประสบการณ์ของชิวหง!

พนักงานยกกาแฟมาเสิร์ฟ ทั้งสองคุยกันพลางยกกาแฟขึ้นจิบ

ชิวหงเล่าประวัติการทำงานของตัวเอง ทัศนคติของเขาแตกต่างจากเหออันอย่างเห็นได้ชัด

เหออันมีออร่าของยักษ์ใหญ่ในวงการและบุคคลผู้ประสบความสำเร็จ คุณวุฒิของเขาเหนือกว่านักออกแบบ 99% ในวงการ เขาสอนตามความสนใจและค่อนข้างยึดมั่นในความคิดของตัวเองทีเดียว

เขาจะสอนตามเนื้อหาที่ตัวเองเตรียมมา ถึง ‘หม่าหยาง’ จะจ้างเขาคลาสละสองแสนหยวน ถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่ต้องการ เขาจะกลับทันที

ชิวหงแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ถึงจะเคยประสบความสำเร็จมาก่อน แต่เขาก็ตระหนักว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนมีชื่อในวงการ ดังนั้นเขาจึงนอบน้อมมากและเต็มใจแบ่งปันเรื่องที่ ‘บอสหม่า’ อยากฟัง

เพราะยังไงชิวหงก็เป็นนักออกแบบระบบ เคยสร้างแค่เกมหวังดูดเงินผู้เล่น ซึ่งคนสร้างเกมแบบนี้ก็มักจะมีลักษณะเหมือนกัน ซึ่งก็คือนิสัยหิวเงิน

ชิวหงคิดว่าในเมื่อ ‘บอสหม่า’ ยอมจ่ายเงินหนึ่งแสนหยวนจ้างเขามาสอน แถมยังออกค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ แบบนี้ก็เหมือนความสัมพันธ์ของผู้เล่นสายวาฬกับพวกเขา คือต้องพึ่งพาอาศัยกัน

เขาต้องทำทุกอย่างตามที่ ‘บอสหม่า’ ต้องการ

เพราะงั้นชิวหงจึงไม่โกรธเลยพอได้ยินว่า ‘บอสหม่า’ อยากรู้เรื่องความผิดพลาดของเขา เขาแค่ยืนยันให้แน่ใจอีกครั้งก่อนจะตอบตกลง

“โอเคครับ ผมจะเล่าให้ฟังถ้าบอสหม่าอยากรู้ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมต้องชี้แจงก่อน

“ถ้าจะให้เล่าเรื่องประสบการณ์ความสำเร็จ ผมต้องการเวลาเตรียมตัว เพราะทุกความสำเร็จเกิดจากปัจจัยความสำเร็จนับไม่ถ้วนมารวมกัน ผมต้องแจกแจงปัจจัยทั้งหมดก่อนเพื่อประกอบภาพรวมทั้งหมดขึ้นใหม่

“แต่ถ้าให้พูดเรื่องความผิดพลาดก็จะง่ายกว่ามาก ไม่ต้องใช้เวลาเตรียมตัวอะไรเยอะ

“ก็เหมือนสำนวนที่ว่า ‘เขื่อนยาวนับพันลี้ ทลายเพราะรังมด’ หลายครั้งที่คุณตัดสินใจถูกหมดเก้าสิบเก้าอย่าง แต่ทุกอย่างกลับพังหมดเพราะการตัดสินใจผิดครั้งเดียว

“เวลาวิเคราะห์สาเหตุความล้มเหลว แค่หาปัจจัยร้ายแรงที่สุดที่ทำให้ล้มเหลวเจอก็พอแล้ว”

ชิวหงคุยกับ ‘บอสหม่า’ เรื่องแนวทางการสอนระหว่างจิบกาแฟไปด้วย เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก นั่นก็คือทำตามที่ ‘บอสหม่า’ ต้องการให้ได้มากที่สุด

เผยเชียนดีใจสุดๆ “เยี่ยมเลยครับ! ผมอยากรู้เรื่องรังมดที่ทำให้ทุกอย่างทลายลงนี่แหละครับ ช่วยเล่าให้ฟังด้วยนะครับ!”

ชิวหงพยักหน้า “ได้ครับ ในคลาสต่อๆ ไป ผมจะพูดเรื่องปัจจัยหลักที่ทำให้โปรเจ็กต์พังไม่เป็นท่า ผมเชื่อว่าบอสหม่าจะเลี่ยงสถานการณ์เดียวกันหรือหาทางแก้ได้ด้วยความรู้ความสามารถของตัวเองได้”

เผยเชียนผุดยิ้ม “ดีเลยครับ” novelgu.com

ชิวหงยกกาแฟขึ้นดื่มอึกใหญ่พลางจัดระเบียบความคิด “สำหรับคลาสวันนี้ ผมจะเริ่มจากปัจจัยพื้นฐานที่ไม่ควรมองข้ามที่สุด

“การบริหารจัดการโปรเจ็กต์

“ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดระหว่างเกม หนัง แอนิเมชัน และอุตสาหกรรมอื่นๆ เมื่อเทียบกับนิยายและการทำสื่อด้วยตัวเอง คือพวกมันเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องมีการแบ่งงานและการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด

“พูดอีกอย่างคือ ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์ถ้าเพื่อนร่วมงานและคนรอบตัวทำเละเทะ ยังไงก็ไม่มีทางสร้างอะไรดีๆ ขึ้นมาได้

“ขนาดโปรดิวเซอร์เกมมากฝีมือยังต้องการทีมโปรดักชันที่แข็งแกร่งมาช่วยเปลี่ยนสิ่งที่เขาออกแบบเป็นโปรเจ็กต์เกมที่ประสบความสำเร็จเลย

“ทุกคนมีความขี้เกียจติดตัวกันหมด พนักงานหลายคนในแวดวงนี้มองตำแหน่งตัวเองเป็นงานที่ได้เงินเดือนตายตัวมาจุนเจือครอบครัว ไม่ใช่งานที่ตัวเองมีไฟอยากทำ ทำให้ไม่มีความกระตือรือร้นในการทำงาน

“จุดนี้แหละที่การบริหารจัดการโปรเจ็กต์เข้ามามีส่วนสำคัญ

“เหตุผลหลักที่ผมทำโปรเจ็กต์ได้สำเร็จ แต่มาพลาดตอนลงทุนเองคือขาดทักษะการบริหารจัดการโปรเจ็กต์

“ผลลัพธ์ที่ออกมาคือแผนการดำเนินการที่ผมทำให้บริษัทเดิมนั้นทำได้ราบรื่นตลอด ล่าช้าที่สุดเต็มที่แค่หนึ่งสัปดาห์

“แต่พอมาเป็นบริษัทตัวเอง แผนการดำเนินงานที่ผมให้ไปมักออกมาล่าช้าเสมอ โดนเลื่อนออกไปหลายต่อหลายครั้ง เกมที่ออกมาก็ไม่ตรงกับภาพที่วางไว้

“ทุกฝ่ายมักมีข้ออ้างต่างๆ ในการปัดความรับผิดชอบไปมา ในภาพรวมเหมือนทุกคนจะทำงานตัวเองเสร็จสมบูรณ์ แต่ถ้าลงไปดูดีๆ จะเห็นว่าไม่มีใครผลักดันโปรเจ็กต์ไปข้างหน้าเลย

“แค่ทุกคนทำงานช้าไปกันคนละนิด ความคืบหน้าของทั้งโปรเจ็กต์ก็พังแล้วครับ…”

เผยเชียนฟังอย่างตั้งใจด้วยสีหน้าสนอกสนใจ

ช่าง…น่าอิจฉาจริงๆ!

ดูสิ บอสบริษัทอื่นไม่เห็นต้องบอกให้พนักงานอู้เลย!

แล้วหันมาดูพนักงานเถิงต๋า บอสบอกให้พักจนปากจะฉีก แต่ทุกคนกลับพยายามหาทางทำงานล่วงเวลากันเต็มที่!

เผยเชียนไม่ได้อะไรที่ใช้ได้จริงจากความผิดพลาดอันสุดยอดนี้เลยนอกจากความอิจฉา

จากที่ชิวหงพูดมา ข้อผิดพลาดในการบริหารจัดการโปรเจ็กต์จะทำให้เกิดการขาดความสามัคคี ถ้าไม่มีใครให้ความร่วมมือก็เดินหน้าต่อไม่ได้

แต่จุดนี้ก็ทำให้เผยเชียนสงสัยขึ้นมา

ฉันไม่เคยจัดการบริหารโปรเจ็กต์อะไรเลยนี่

ทำไมพนักงานของฉันไม่เห็นขาดความสามัคคีเลย พวกเขาสามัคคีกันอย่างกับแผ่นเหล็ก

เข็มเจาะไม่ได้ น้ำซึมไม่ผ่าน หาทางทลายไม่ได้เลย!

เผยเชียนคิดว่าสิ่งที่ชิวหงเล่านั้นน่าสนใจมากๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเอาไปใช้ยังไง

จากที่ชิวหงพูดมา ความผิดพลาดของเขามาจากความพยายามที่ไม่มากพอ ไม่ใช้การบริหารจัดการโปรเจ็กต์ที่ดีเข้ามากระตุ้นพนักงาน พูดอีกอย่างคือไม่ควบคุมพนักงานที่ชอบอู้ให้ดี

แต่เทียบกับชิวหงที่พยายามไม่พอแล้ว เผยเชียนนั้นไม่ได้พยายามอะไรเลย!

นอกจากจะไม่ควบคุมดูแลพนักงานแล้ว ยังทำในสิ่งตรงข้ามอย่างไล่พวกที่ทำงานล่วงเวลากลับบ้านหมดด้วย!

ฉันทำเกินกว่าที่จำเป็นด้วยซ้ำ ทำไมถึงได้ผลตรงกันข้ามล่ะ

ปัญหาอยู่ที่พนักงานหรืออยู่ที่ฉันกันแน่

ปวดหัวจริงๆ…

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset