ระหว่างที่กำลังกระซิบคุยกันอยู่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงถังอี้ซู่ดังขึ้นจากด้านนอกห้อง “พี่คะ ทะ…ทุกคนรออยู่ในห้องประชุมค่ะ”
ทุกคนรีบนั่งหลังตรง
ประตูห้องประชุมถูกเปิดออกในไม่ช้าอย่างที่คิดไว้
เผยเชียนเดินเข้ามาในห้องประชุมแล้วนั่งที่หัวโต๊ะ ถังอี้ซู่นั่งลงที่เก้าอี้ว่างด้านซ้ายพร้อมเปิดสมุดเตรียมจนบันทึก
แต่ละคนตอบสนองต่างกันไปเมื่อเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของบอสเผย
พวกเขาเคยถามถังอี้ซู่เรื่องบอสเผยและรู้ว่าคนคนนี้เป็นรุ่นพี่ที่ยังเรียนไม่จบ จึงพอจะมีภาพในหัวไว้บ้างแล้ว แต่บอสเด็กกว่าที่พวกคิดเอาไว้อีก!
บอสเผยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขาเลย!
ขณะเดียวกันพวกเขารู้สึกว่าบอสเผยมีออร่าพิเศษบางอย่าง บอสดูเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและไม่กังวลอะไรเลย เหมือนทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของบอส
จริงๆ แล้วออร่าของเผยเชียนมาจากสองสาเหตุ
หนึ่ง ที่นี่คือบริษัทของเขา เขาคุ้นเคยกับที่นี่มากกว่าบ้านตัวเองซะอีก
สอง เขาไม่ต้องรู้สึกกดดันว่าบริษัทจะทำกำไรได้ไหม ทำให้ไร้ซึ่งความกังวลใจ
และออร่านี้เองที่หลอกให้คนรอบตัวคิดไปไกล
สองสามคนในกลุ่มรู้สึกตงิดใจอยู่พักหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้
คนคนนี้คือนักแสดงซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยไม่ใช่เหรอ!
ถึงซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยจะออกฉายตั้งแต่ปีก่อนและเฟยหวงสตูดิโอก็ไม่ได้ทำภาคต่ออีกจนกระแสเริ่มซาลง แต่ภาพของบอสเผยก็ฝังลึกอยู่ในใจใครหลายคน
เพื่อนร่วมชั้นรู้ว่าเขาเป็นนักแสดง
แต่ตอนนี้เหล่าผู้ปัดงานฝึกผลาญได้รู้แล้วว่าคนที่แสดงเป็นบอสเผยก็คือบอสเผยเอง
พอเห็นสีหน้าท่าทางของพวกเขา เผยเชียนก็รู้ทันทีว่าคนพวกนี้กำลังคิดอะไรกันอยู่ จึงยกนิ้วทำท่า ‘ชู่’
จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “พนักงานเถิงต๋าทุกคนมีหน้าที่เก็บตัวตนของผมเป็นความลับ ผมเชื่อใจว่าพวกคุณจะทำได้เหมือนกันใช่มั้ย”
ทุกคนรีบพยักหน้าทันที
เผยเชียนรู้ว่าไม่ช้าก็เร็วตัวตนของเขาก็จะถูกเปิดเผย แต่ตอนนี้ยังพอปิดบังได้อยู่
ส่วนหนึ่งก็เพราะทุกคนที่รู้ตัวตนของเขาไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ พวกเขาได้ผลประโยชน์ร่วมบางอย่างจึงช่วยเขาปิดบังตัวตน
ตัวอย่างเช่น ครูของเขา หม่าหยาง และพนักงานเถิงต๋า
อีกส่วนก็เพราะตัวตนของเผยเชียนในฐานะบอสบริษัทและผู้ผลิตเกมนั้นไม่ได้เรียกความสนใจขนาดนั้น
ถึงจะมีหลายคนสงสัย อย่างมากคนพวกนั้นก็แค่ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต พอหารูปไม่เจอก็ไม่ได้อยากรู้จักหน้าค่าตาจนถึงกับจะตายให้ได้
อีกอย่างถึงตัวตนจะถูกเปิดเผยก็ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นตกใจอะไร ไม่ได้เป็นประเด็นร้อนให้พูดคุยกันอยู่ดี
สรุปแล้วตอนนี้เผยเชียนหวังแค่สองอย่าง คือไม่อยากให้คนที่มหาวิทยาลัยมองมาเป็นตาเดียวตอนเขาเดินผ่าน กับไม่อยากให้คนใกล้ตัวรู้ โดยเฉพาะพ่อแม่ จะได้ไม่เกิดเรื่องวุ่นวาย
เผยเชียนค่อนข้างพอใจในสภาพปัจจุบัน
พวกผู้จัดการฝึกหัดก็ต้องเก็บความลับให้ได้ด้วยเช่นกัน
ตามข้อมูลที่ได้จากถังอี้ซู่ ทุกคนเรียนชั้นปีเดียวกับเธอ มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือขัดสนเรื่องเงินและได้รับทุนสนับสนุนจากเผยเชียน
นักศึกษาผู้ยากไร้เหล่านี้เป็นคนเก็บตัว ชอบอยู่เงียบๆ คนเดียว ไม่สุงสิงกับใครเท่าไรนัก
เด็กบ้านจนส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบนี้กัน
เผยเชียนพอใจมาก คุณสมบัติแบบนี้เหมาะกับการเป็นหน่วยสืบราชการลับสุดๆ!
เขาไล่สายตามองทุกคนก่อนจะพูดขึ้น “ก่อนอื่น ผมมีเงื่อนไขสามข้อให้ทุกคน
“ข้อแรก เก็บตัวตนผมไว้เป็นความลับ เจอกันที่มหา’ลัยให้ทักทายธรรมดาๆ
“สอง เรียกผมว่าพี่ก็พอ
“สาม ยึดถือคำสั่งผมเหนือผลประโยชน์ของกิจการใดๆ ทั้งหมด
“ทำได้มั้ย”
ทุกคนพยักหน้าและตอบออกมาอย่างพร้อมเพรียง “ได้ครับ/ค่ะ!”
เผยเชียนยิ้ม “ดีมาก ไม่มีใครสงสัยอะไร รักษาสภาพแบบนี้ไว้
“งานของพวกน้องง่ายมาก น้องแค่ต้องเข้าไปในกิจการต่างๆ ของบริษัทในฐานะผู้จัดการฝึกหัดแล้วพยายามระบุรูปแบบการดำเนินงานของกิจการต่างๆ ให้ได้มากที่สุด รวมถึงคอยรายงานแผนงานและความเคลื่อนไหวของกิจการนั้นๆ อยู่ตลอด
“พี่จะเรียกพวกเรามาประชุมวันเสาร์สองถึงสามสัปดาห์ต่อครั้ง
“ทุกคนควรจะสรุปงานของแต่ละกิจการก่อนการประชุมเพื่อมารายงานให้ฟังคร่าวๆ พี่อาจสนใจงานบางอย่างของบางกิจการเป็นพิเศษ น้องต้องแจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้
“เรื่องหนึ่งที่ต้องจำไว้คือตำแหน่งผู้จัดการฝึกหัดเป็นตำแหน่งที่ให้ใครรู้ก็ได้ แต่หน้าที่รายงานการดำเนินงานกับพี่และถังอี้ซู่โดยตรงต้องเก็บเป็นความลับ
“ห้ามแพร่งพรายเรื่องประชุมวันเสาร์กับใครแม้แต่คำได้ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานก็ตาม
“น้องต้องเซ็นสัญญาฝึกงานกับสัญญาการไม่เปิดเผยข้อมูล วางใจได้เลยว่าเราให้เงินเดือนเด็กฝึกงานสูงกว่าบริษัทอื่นแน่นอน ถ้าน้องทำงานได้ดีก็มีสิทธิ์เข้าทำงานกับเถิงต๋าได้เลยหลังเรียนจบโดยไม่ต้องผ่านการสอบคัดเลือก
“พี่ให้เวลาน้องคิดก่อน น้องถัง เอาสัญญาให้ทุกคนดูหน่อย”
ถังอี้ซู่เดินออกจากห้องประชุมไปหยิบสัญญาฝึกงานกับสัญญาการไม่เปิดเผยข้อมูลที่เตรียมไว้ จากนั้นก็แจกให้ทุกคน
ทุกคนอ่านสัญญาก่อนจะเซ็นชื่อโดยไร้ข้อกังขาภายในไม่กี่นาที
เห็นได้ชัดว่านี่คือโอกาสดีๆ ที่ไม่มีวันผ่านเข้ามาอีกถ้าพลาดไป
พวกเขาจะได้ทั้งเงินเดือนสูง ได้ฝึกงานในเถิงต๋ากรุ๊ปและเข้าไปวิเคราะห์โมเดลการดำเนินงานของกิจการ แถมยังมีโอกาสได้เข้าทำงานกับเถิงต๋าหลังเรียนจบ ที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาได้รายงานการดำเนินงานให้บอสเผยฟังโดยตรง
จะไปหาโอกาสดีๆ แบบนี้ได้จากที่ไหนอีก!
ถ้าปฏิเสธไปแล้วเขาหาคนอื่นมาแทน มานึกเสียใจทีหลังก็สายไปแล้ว
เผยเชียนพอใจกับการกระทำทุกคนมาก ไม่มีใครถามคำถามอะไรเลย ซึ่งก็ช่วยให้ง่ายต่อการปั้นทีมงานที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเขา
หากกิจการไหนคิดจะแอบทำอะไรก็ไม่มีทางหลุดรอดสายตาของเขาไปได้อีก!
ที่เผยเชียนเลือกรุ่นน้องมา ให้พวกเขาเรียกแทนตัวเองว่า ‘พี่’ ไม่ใช่ ‘บอสเผย’ และให้รายงานกับเขาโดยตรงก็เพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงความพิเศษของตำแหน่งที่ทำ ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างความสนิทสนม จะได้ปั้นเป็นลูกน้องโดยตรงของเขาได้
ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่ติดขัดอะไร
เผยเชียนเริ่มแจกจ่ายงานหลังทุกคนเซ็นสัญญาเสร็จ
“ต่อไปจะแบ่งกิจการที่ต้องรับผิดชอบ ให้พิจารณาจากเอกที่เรียนอยู่ งานอดิเรก และทักษะของตัวเอง ถ้าคิดว่าตัวเองเหมาะกับกิจการไหนก็ให้ยกมือ
“ถ้ากิจการไหนมีคนยกมือหลายคนให้น้องถังเป็นคนตัดสินใจนะ
“ฝ่ายเกมเถิงต๋า
“ฉางหยางเกมส์
“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
“โมหยูเดลิเวอรี่
“…”
บางคนยกมือทุกกิจการ แต่ถังอี้ซู่จะเป็นคนจัดแบ่งให้ถ้ามีคนอยากทำกิจการเดียวกันหลายคนตามเอกที่พวกเขาเรียนอยู่
ถังอี้ซู่คิดเรื่องนี้ไว้ด้วยตอนคัดคน เธอมองหาคนจากเอกต่างๆ เพื่อที่จะได้แบ่งงานได้ง่ายโuเวลกูดoทคอม
ไม่นานผู้ปัดงานฝึกผลาญทั้งสิบเจ็ดคนก็ถูกแบ่งไปรับผิดชอบสิบเจ็ดกิจการ พวกเขาทั้งสิบแปดคนรวมถังอี้ซู่คือหน่วยสืบราชการลับของเขา ได้เลขดีจริงๆ
แน่นอนว่าจำนวนผู้ปัดงานฝึกผลาญจะเพิ่มขึ้นตามกิจการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
“โอเคทุกคน เตรียมตัวไปรายงานตัวเข้าทำงานกับผู้จัดการกิจการวันจันทร์หน้าถ้าไม่ติดอะไร
“ผมบอกฝ่าย HR ให้ประสานกับกิจการต่างๆ ไว้แล้ว ให้แจ้งน้องถังทันทีถ้าพวกเขาไม่ให้เขาร่วมมือ”
เผยเชียนรู้สึกพอใจมากขณะที่มองเหล่าผู้ปัดงานฝึกผลาญเดินออกไป
พวกเขาไม่มีประสบการณ์การทำงานและยังมีวิธีคิดที่ค่อนข้างเรียบง่าย น่าจะทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด มีแววปั้นมาเป็นมือขวาให้เขาได้มากทีเดียว
ขณะเดียวกันเผยเชียนก็รู้สึกคาดหวังกับการประชุมผู้ปัดงานฝึกผลาญครั้งแรก
จะมีใครแอบแทงข้างหลังฉันได้อีกถ้ามีสายตาช่วยสอดส่องแบบนี้
…
…
วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน
เผยเชียนเดินไปฟิตเนสฝากประจำ
วันอาทิตย์เป็นวันที่มีลูกค้าเยอะที่สุด ถ้าไม่มีใครเลยก็ถือว่าโปรเจ็กต์สำเร็จได้ครึ่งทาง แต่ถ้ามีคนเยอะก็แสดงว่ามีภัยแอบแฝง ต้องรีบหาทางจัดการให้เร็วที่สุด
เขาหยิบมือถือออกมาเช็กดูแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’
ดูเหมือนตอนนี้จะยังควบคุมได้ดีอยู่
เผยเชียนปวดหัวหนักตอนที่บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งปรับแก้แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ หยูผิงอันที่มาจากซวี่เต๋อศึกษาเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่เข้ามาได้เดือนเดียวก็แทงหลังบอสเผยซะแล้ว
แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ทำเงินได้มากมายในฐานะแอปเพื่อการศึกษา ถึงช่วงนี้ความนิยมจะตกลง แต่เนื้อหาก็ช่วยโปรโมตกิจการอื่นๆ ของเถิงต๋า แถมยังมีกำไรในตัวเองด้วย
เผยเชียนต้องเอาวิธีการเดิมซึ่งก็คือ ใครหามาก็ต้องผลาญเอง กลับมาใช้ เขาให้หยูผิงอันผลาญเงินทั้งหมดไปกับโฆษณา พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ แจกเงินให้ผู้ใช้งาน และอื่นๆ
สรุปคือตอนนี้อยู่ในจุดที่รายรับกับรายจ่ายเท่ากัน
หวังจะพลิกให้กำไรกลายเป็นขาดทุนก็ไม่ได้ เผยเชียนกลัวว่าถ้าผลาญเงินไปแบบไม่ลืมหูลืมตาอาจเกิดปัญหาอะไรขึ้นได้ ค่อยๆ ผลาญเงินไปทีละนิดแบบที่ควบคุมได้จะดีกว่า
ถึงอย่างนั้นก็ยังมีองค์กรการศึกษาสองสามที่ติดต่อเข้ามาขอลงทุนหรือซื้อต่อแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ในราคาแพงลิ่ว แต่เผยเชียนก็ยึดมั่นหนักแน่นให้ปฏิเสธไป!
สำหรับคนอื่นแล้ว การขายต่อโปรเจ็กต์ที่ทำกำไรได้นั้นก็เหมือนการที่แม่ไก่ออกไข่ให้ แต่เผยเชียนไม่ได้อยากเก็บแม่ไก่ไว้ เขาอยากฆ่ามันให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็กินไข่ใบโตที่จะได้หลังฆ่าไม่ไหว
จากมูลค่าของแอปตอนนี้ ถ้าขายไปก็แทบไม่มีทางที่จะขาดทุนได้ในรอบบัญชีนี้
ในเมื่อกำจัดไม่ได้ตอนนี้ ก็ได้แต่ประคองไปแบบค่อยเป็นค่อยไป
เขาเก็บมือถือเมื่อไปถึงทางเข้าฟิตเนสฝากประจำ
ป้ายสวยหน้ายิมออกแบบมาตามที่เขาต้องการ กฎทั้งหมดก็แสดงไว้อย่างละเอียด เผยเชียนรู้สึกพอใจมาก
แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็ตระหนักว่ามีอะไรแปลกๆ
ทำไมลูกค้าเยอะจัง!
ลูกค้าไม่ได้ถือว่าแน่นขนัด แต่จำนวนก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างจากสภาพก่อนหน้านี้ลิบลับ!
หลายคนกระจายกันไปตามเครื่องออกกำลังกายต่างๆ หลายคนถามเกี่ยวกับเรื่องกฎเกณฑ์ในโซนพักผ่อน บางคนเริ่มออกกำลังกายกันไปแล้ว
เทรนเนอร์อย่างกั่วลี่เฉิงและย่าหลิงกำลังเทรนแบบตัวต่อตัว คอยช่วยจัดท่าทางที่ถูกต้องและแก้ไขแนวคิดเรื่องการออกกำลังกาย
เผยเชียนใจตกไปอยู่ตาตุ่ม
มันจะฉิบหายเร็วขนาดนี้เลยเหรอ
เป็นไปไม่ได้!