📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 488

บทที่ 488 - คนดูแลก้อนให้กำลังใจพ่วงหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

วันเสาร์ที่ 16 เมษายน

ถังอี้ซู่รูดบัตรเปิดประตูแล้วเดินเข้าออฟฟิศเถิงต๋าพร้อมหนังสือสองสามเล่มในอ้อมแขน

ถึงเงินเดือนส่วนใหญ่จะหมดไปกับการจุนเจือครอบครัว แต่สถานภาพทางการเงินของเธอก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก

ด้วยความเคยชินจากชีวิตความเป็นอยู่ ถังอี้ซู่จึงไม่ใช่เครื่องสำอางหรือสกินแคร์เลย แต่ความเยาว์วัยเป็นทุนที่ดีที่สุด พอได้รับสารอาหารดีๆ ออร่าแห่งความเยาว์วัยก็เจิดจ้าออกมา

ถังอี้ซู่วางหนังสือลงบนโต๊ะแล้วเริ่มหน้าที่คนดูแล จัดการเก็บกวาดกระบะทรายของก้อนให้กำลังใจและเติมอาหารให้จนเต็ม

“อิ้นถัง กินให้น้อยลงหน่อยนะ เหมี่ยนไจด้วย พวกหนูสองตัวควรลดน้ำหนักนะ

“โอ๊ย อิ้นถัง แบ่งเฟยหวงน้องสาวตัวเองกินด้วยสิ ไปกินอาหารกระป๋องของตัวเองเลย!”

ถังอี้ซู่คว้าเข้าที่หลังคอเจ้าแมวดำอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็จับหันไปทางถ้วยข้าวอีกถ้วย แต่อิ้นถังไม่สนใจ หันไปเบียดแมวส้มตัวข้างๆ

ตอนนี้ที่ออฟฟิศมีก้อนให้กำลังใจอยู่สามตัว

แมวหมายเลขหนึ่งคืออิ้นถัง น้องแมวดำถุงเท้าขาว ชื่อของน้องหมายถึงจุดตรงกลางระหว่างคิ้ว

อีกสองตัวเป็นแมวจรที่รับมาจากโรงพยาบาลสัตว์ ตัวหนึ่งสีขาว อีกตัวสีส้ม

น้องแมวขาวหมายเลขสองตัวอ้วนกลมดูน่ารัก หลายคนคิดว่าน้องดูเหมือนแมวนำโชค

เผยเชียนตั้งชื่อน้องว่า ‘เหมี่ยนไจ’ ซึ่งแปลว่าพ้นเคราะห์ ดูเบื้องหน้าเหมือนจะเป็นความหมายดี แต่จริงๆ ตัดมาจากสำนวน ‘เสียเงินเพื่อให้พ้นเคราะห์’ เพราะหวังให้ตัวเองเสียเงิน ไม่ได้อยากให้มีโชคลาภอะไรเข้ามา

แมวส้มหมายเลขสามได้ชื่อเดียวกับเฟยหวงสตูดิโอ เบื้องหน้าเหมือนจะแปลว่าว่องไวกระฉับกระเฉง แต่ก็หมายความถึงแก่และร่วงโรยเร็วได้ด้วย

แมวทั้งสามกินอาหารกระป๋องหมดอย่างรวดเร็ว

ถังอี้ซู่เก็บขยะไปทิ้งแล้วจัดการแปรงขนและตัดเล็บให้น้องแมวทั้งสาม จากนั้นก็นั่งลูบจนหลับปุ๋ยอาบแดด ถึงตรงนี้ก็ถือว่าปฏิบัติหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว

เธอกลับไปที่โต๊ะทำงานแล้วเริ่มอ่านหนังสือ จริงๆ จะไปอ่านที่ห้องสมุดหรือห้องเรียนที่มหาวิทยาลัยก็ได้ แต่ก็ค่อนข้างเสียงดัง เลยเลือกมาอ่านที่บริษัทช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แทน

ที่นี่ทั้งเงียบสงบ แถมยังมีกาแฟและขนมบริการ

ตอนนั้นเองก็มีคนเปิดประตูเข้ามา

ถังอี้ซู่ผงะไปชั่วครู่และนึกขึ้นได้ทันทีว่าตัวเองมีภารกิจพิเศษในการบันทึกรายชื่อทุกคนที่เข้ามาทำงานล่วงเวลา จากนั้นก็เอาไปรายงานกับบอสเผย!

แต่ช่วงที่ผ่านมาไม่มีใครเข้ามาทำงานล่วงเวลาเลย หน้าที่นี้เลยหายไปจากหัวถังอี้ซู่

เหมือนว่าจะมีคนเข้ามาทำงานล่วงเวลาอีกแล้ว ถังอี้ซู่รีบหันไปมองว่าเป็นใคร

หลังจากทำงานด้วยกันมาสักพักเธอก็จำทุกคนที่ทำงานชั้นนี้ได้ คราวนี้ไม่มีทางพลาดบอกชื่อไม่ได้แน่นอน

แต่พอหันไปมองก็พบว่าเป็นบอสเผย

ถ้างั้นก็ไม่เป็นไร

ถังอี้ซู่ลุกยืน “พี่มาทำไมเหรอคะ”

เผยเชียนกวาดตามองรอบออฟฟิศ จากนั้นก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจเมื่อเห็นว่าไม่มีใครแอบมาทำงานล่วงเวลา

“พี่แค่บังเอิญแวะมาแถวนี้” เผยเชียนตอบอย่างไม่ใส่ใจ

จริงๆ เขาตั้งใจแวะเข้ามาตรวจโดยไม่บอกล่วงหน้า

เขาไม่ได้รับรายชื่อคนเข้ามาทำงานล่วงเวลาจากถังอี้ซู่มาพักใหญ่แล้ว เลยสงสัยว่าไม่มีคนเข้ามาทำงานจริงๆ หรือถังอี้ซู่หัดโกหกเป็นแล้วกันแน่

ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกคนจะเลิกเข้ามาทำงานล่วงเวลาแล้วจริงๆ

ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะตอนนี้มีการแข่งขันไม่ทำงานล่วงเวลากับรางวัลรากฐานสำคัญ เผยเชียนพยายามอย่างหนักเพื่อกันไม่ให้ทุกคนทำงานล่วงเวลา ยังไงก็ต้องได้ผลบ้างสิ

ออฟฟิศอันว่างเปล่าในวันหยุดสุดสัปดาห์คือผลลัพธ์จากความเหนื่อยยากของบอสเผย

ดูเหมือนว่าถ้าพยายามเต็มที่ก็จะได้ผลตอบแทนกลับมา!

“ไปห้องรับแขกกับพี่หน่อย” เผยเชียนบอกถังอี้ซู่

เผยเชียนคิดเรื่องจัดตั้ง ‘หน่วยสืบราชการลับเถิงต๋า’ มาสองวันเต็ม

เหตุก็เพราะเขาตระหนักว่าตอนนี้มีกิจการเยอะเกินไป ซึ่งเขาไม่สามารถดูแลจัดการได้หมด

จุดสำคัญที่สุดคือ เขาไม่ได้รับรายงานความคืบหน้าที่ทันต่อเหตุการณ์!

เจ้าของบริษัทใหญ่หลายคนยุ่งกว่าเผยเชียน แต่ก็ตั้งผู้บริหารระดับสูงมากมายขึ้นมาดูแลเรื่องต่างๆ ผู้บริหารเหล่านี้จะถามแนวทางการดำเนินงานเรื่องสำคัญๆ แล้วจัดการเรื่องยิบย่อยเอง

กิจการใหญ่ๆ ดำเนินงานได้อย่างเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพด้วยโมเดลนี้

เผยเชียนเองก็หยิบเอาโมเดลนี้มาใช้ในช่วงหลังๆ แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดคือเป้าหมายของเผยเชียนนั้นตรงข้ามกับเจ้าของบริษัทใหญ่ๆ อย่างสิ้นเชิง!

พวกเจ้าของบริษัทใหญ่ๆ มองว่าผู้บริหารระดับสูงควรจะพัฒนากิจการต่างๆ ให้ออกมาดี เมื่อมีปัญหาใหญ่ที่แก้ไขไม่ได้ให้รายงานทันที และชมเชยกิจการที่พัฒนาได้ดี

แต่บอสเผยไม่อยากให้พวกผู้บริหารพัฒนากิจการตัวเองและต้องรายงานเขาทันทีเมื่อเห็นว่ากิจการมีแววเติบโต โดยเขาจะชมเชยถ้าพบปัญหาใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้

ความต้องการของเขาตรงกันข้ามกับเจ้าของบริษัทอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง

เจ้าของบริษัทอื่นๆ ต้องรู้ปัญหาปัจจุบันของบริษัทตัวเอง พวกเขาให้ทุกกิจการรายงานให้ทราบทันทีเมื่อมีปัญหาอะไร

สิ่งที่เผยเชียนต้องรู้คือความสามารถในการทำกำไรของบริษัทตัวเองในปัจจุบัน แต่หัวหน้ากิจการต่างๆ กลับคิดว่าไม่จำเป็นต้องรายงานเรื่องนี้ให้เขารู้

แล้วยิ่งเผยเชียนแสดงออกว่า ‘เป็นคนไม่ชอบให้พนักงานอวดผลงาน’ ปัญหานี้ก็ยิ่งหนักขึ้นไปใหญ่

เพราะงั้นเผยเชียนจึงคิดว่าตัวเองต้องตั้งฝ่ายเก็บข้อมูลขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลกิจการต่างๆ จะได้หาปัญหาให้เจอได้เร็วๆ

พนักงานในฝ่ายนี้จะเป็นที่รู้จักในนามผู้จัดการฝึกหัด

ผู้จัดการฝึกหัดเดิมเป็นแนวคิดของบริษัทต่างประเทศเพื่อปั้นผู้นำสำหรับโปรเจ็กต์พิเศษต่างๆ ในอนาคต อาจมองได้ว่าเป็นแผนจองตัวไว้เพื่อปั้นเป็นผู้จัดการระดับกลางถึงสูง

ผู้จัดการฝึกหัดมักต้องไปฝึกงานตามฝ่ายต่างๆ ของบริษัท ต้องทำความเข้าใจการดำเนินงานของทั้งบริษัท จากนั้นก็จะได้รับมอบหมายงานตามความสามารถของแต่ละคน

โดยทั่วไปแล้วการคัดเลือกผู้จัดการฝึกหัดนั้นเข้มงวดมาก ส่วนใหญ่มักเลือกคนที่มีศักยภาพที่จะเป็นหัวหน้ากิจการหรือสาขามากที่สุด

แน่นอนว่าตอนนี้แนวคิดนี้ถูกนำมาใช้กันเกร่อ แต่ละบริษัทจะจ้างผู้จัดการฝึกหัดมาสองสามคน สุดท้ายก็กลายเป็นตำแหน่ง ‘เจเนรัลเบ๊’ ใครใช้ไปทำอะไรก็ต้องไป

ตัดเรื่องพวกนี้ออกไป ระบบผู้จัดการฝึกหัดนั้นตรงกับความต้องการตอนนี้ของเผยเชียนสุดๆ

คนพวกนี้จะโดนจัดไปอยู่ในกิจการต่างๆ ของบริษัทผ่านระบบผู้จัดการฝึกหัด

ตราบใดที่คุมเหล่าผู้จัดการฝึกหัดได้ บอสเผยก็จะรู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในกิจการต่างๆ

แถมเผยเชียนยังชอบชื่อ ‘ผู้จัดการฝึกหัด’ ด้วย 

ผู้จัดการฝึกหัด ผู้ปัดงานฝึกผลาญ ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ

จะดีมากถ้ารับคนพวกนี้เข้ามาแล้วช่วยผลาญเงินจนขาดทุนได้!

แต่เผยเชียนก็คิดหนักเรื่องการคัดเลือกผู้จัดการฝึกหัดกับการเลือกคนมารับผิดชอบเรื่องนี้

เลขาซินเก่งมาก ทำงานได้ดีเยี่ยมไร้ที่ติ ไม่ค่อยถามอะไรมากมาย เป็นตัวเลือกที่ดี

แต่ก็ติดตรงที่ทำงานเก่งเกินไปหน่อย หลายๆ กิจการก็คุ้นเคยกับเธอดี

เผยเชียนตั้งฝ่ายนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นหูเป็นตาให้เขาล้วนๆ จะให้เลขาซินเป็นคนดูแลก็เหมือนเชือดไก่ด้วยมีดฆ่าวัว แถมเขาเองก็มีงานให้เลขาซินจัดการอีกมากมาย

นอกจากนั้นหัวหน้ากิจการต่างๆ ก็รู้จักเลขาซิน พวกเขาอาจเผลอระแวดระวังตัวและไม่เปิดเผยมากพอ

หลังจากคิดๆ ดู เผยเชียนก็รู้สึกว่าน้องถังน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุด

ส่วนหนึ่งก็เพราะฉากหน้าเธอเป็นผู้ดูแลก้อนให้กำลังใจ ความไม่มีพิษมีภัย นิสัยสุภาพ อ่อนน้อม และน่ารักเป็นตัวฉาบหน้าให้คนไม่ค่อยระแวงอะไรเธอมากนัก

อีกส่วนก็เพราะน้องถังเป็นคนซื่อๆ พูดอะไรไว้ก็จะทำตามนั้น ก่อนหน้านี้ก็คอยส่งรายชื่อคนทำงานล่วงเวลาให้แล้วก็ทำได้ดีมากด้วย

ปัญหาเดียวคือออร่าความซวยที่แผ่ออกมาเป็นพักๆ ทำให้บั๊กที่ซ่อนอยู่ปรากฏขึ้น แต่ดูเหมือนทุกคนจะชินกับเรื่องนี้ไปแล้ว

ใครจะไปคิดเล่าว่าสาวน้อยที่เข้ามาเก็บกวาดกระบะทรายทุกวัน แท้จริงแล้วจะเป็นหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับ

อืม เหมาะจริงๆ!

แน่นอนว่ามีแค่คนเดียวไม่พอ ต้องหาผู้จัดการฝึกหัดมาเพิ่มเยอะๆ

ถ้าเป็นที่บริษัทอื่น ผู้จัดการฝึกหัดจะเลือกจากเด็กจบใหม่ที่มีแววหรือพนักงานที่มีความสามารถโดดเด่น

แต่ผู้จัดการฝึกหัดที่เผยเชียนอยากได้ต้องไม่คัดมาจากพนักงานที่มีความสามารถโดดเด่น

ใครจะไปรู้ว่าพนักงานพวกนี้จะสร้างปัญหาอะไรขึ้นมาบ้างถ้าแวะไปกิจการต่างๆ ได้ตามใจชอบ!

ถ้าดันไปเลือกโดนคนที่เก่งหลายด้านขึ้นมา เผยเชียนคงได้มีดเสียบหลังเพิ่มอีกเพียบ

ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจว่าพวกผู้ปัดงานฝึกผลาญจะต้องไม่เคยทำงานที่เถิงต๋ามาก่อน และถูกคัดเลือกโดยตรงจากน้องถัง ข้ามขั้นตอนการรับพนักงานที่จัดขึ้นสองครั้งต่อปีไปเลย

คนที่คัดเลือกเข้ามาจะต้องฟังคำสั่งของบอสเผยแต่เพียงผู้เดียว และต้องยึดคำสั่งของบอสเผยเหนือสิ่งอื่นใด

ในห้องรับแขก เผยเชียนจิบชาพลางเล่าสิ่งที่คิดไว้คร่าวๆ

“สรุปคือหาเด็กปีหนึ่งหรือปีสองที่มีเวลาว่างเยอะๆ ลงเรียนไม่มากมาฝึกงานที่บริษัทเรา โดยจัดให้ไปประจำอยู่ตามกิจการต่างๆ

“น้องจะเป็นคนรับผิดชอบโปรเจ็กต์ผู้จัดการฝึกหัด ถ้ามีอะไรคืบหน้าก็ต้องมารายงานความคืบหน้าด้วย

“ผู้จัดการฝึกหัดจะต้องเลือกมาอย่างละเอียด ต้องซื่อสัตย์และไว้ใจได้

“หลังจากได้ประจำตามกิจการต่างๆ แล้วก็ให้จัดเวลางานตามตารางเรียน ให้เอาเรื่องเรียนเป็นหลัก ไม่ต้องมีส่วนร่วมในงานของแต่ละกิจการ แต่ต้องรู้ทุกความเคลื่อนไหวของกิจการที่ไปประจำอยู่

“พวกเขาต้องแวะบริษัทเพื่อรายงานสิ่งที่พบเจอในช่วงนั้นๆ กับพี่โดยตรง พี่จะสุ่มเช็กข้อมูลด้วย พี่อยากให้ทุกคนตอบได้ทุกเรื่องที่พี่ถาม

“แล้วก็โปรเจ็กต์นี้ยังปิดเป็นความลับอยู่ ห้ามไปบอกใคร แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นความลับสุดยอด

“จัดการได้ใช่มั้ย”

ถังอี้ซู่ตกใจเล็กน้อย เธอบีบนิ้วมือตัวเองแน่น “พี่คะ นะ…หนูคงรับผิดชอบหน้าที่นี้ไม่ได้ หัวหน้าห้องหนูยังไม่เคยเป็นเลย…”

เผยเชียนยิ้มอ่อน “ไม่เป็นไร หน้าที่นี้ไม่มีอะไรยาก พี่เชื่อว่าความมานะและใส่ใจของน้องจะช่วยให้งานออกมาดี

“น้องก็ดูแลแมวที่บริษัทเหมือนเดิม แต่พอมีประชุมก็ให้มาเข้าด้วย แล้วก็คอยจับตาดูการทำงานของผู้จัดการฝึกหัด ถ้ามีปัญหาอะไรให้แจ้งพี่ทันที

“แค่นี้เอง ง่ายใช่มั้ยล่ะ”

ถังอี้ซู่เม้มปาก “ได้ค่ะพี่ นะ…หนูจะลองดู”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset