📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 469

บทที่ 469 - ช็อกตาตั้ง!
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม

เมื่อสัปดาห์ก่อนบอสหลี่กับสหายตัดสินใจเรื่องโปรเจ็กต์รอบๆ โฮสเทลเขย่าขวัญเรียบร้อยแล้ว สัปดาห์ถัดๆ มา พวกเขาก็เริ่มสำรวจพื้นที่และจัดการงานก่อสร้าง แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้สร้างโรงแรมและร้านอาหารขึ้นมาใหม่จากศูนย์ แต่ใช้วิธีปรับปรุงโรงงานในโซนอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้วแทน ถ้าพวกเขาเร่งมือและทำงานล่วงเวลากันสักหน่อย ก็น่าจะสร้างโปรเจ็กต์เหล่านั้นเสร็จทันโปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญพอดี หรือไม่ก็ช้ากว่ากันไม่มากนัก

ขอแค่เงินถึง เหล่าคนงานก็พร้อมเร่งมือให้ได้

เผยเชียนรู้สึกว้าวุ่นใจอยู่บ้างที่โปรเจ็กต์รอบข้างคืบหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังทำหน้านิ่งได้อยู่

เฮ้อ ในเมื่อห้ามไม่ได้ ก็คงต้องปล่อยเลยตามเลยละนะ

วันนี้เป็นวันจันทร์ เดิมทีเผยเชียนตั้งใจจะตรงไปที่เฟยหวงสตูดิโอเพื่อเปิดเผยแผนการ ‘ช็อกบำบัดเป็นวงรอบ’ ให้พวกเขาฟัง แต่ห่าวหยุนจากแผนกบุคลากรแจ้งเขาว่ามีเรื่องบางอย่างต้องรายงาน ดังนั้นพอกินมื้อเที่ยงเสร็จ เผยเชียนจึงแวะเข้าไปที่สำนักงานใหญ่ก่อนเป็นอันดับแรก

เผยเชียนประหลาดใจเล็กน้อย เพราะฝ่าย HR ไม่น่าจะงานยุ่งช่วงนี้ ห่าวหยุนไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ทำแล้วหรือไง ถึงได้มาสร้างปัญหาให้เขาแบบนี้

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็คงเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอามากๆ เห็นทีเขาคงต้องพิจารณาเปลี่ยนหัวหน้าฝ่าย HRคนใหม่เสียแล้ว

ห่าวหยุนเคาะประตูห้องทำงานของเผยเชียนก่อนเข้ามา

“บอสเผยคะ หลักๆ แล้วดิฉันจะมารายงานเรื่องการปรับฐานเงินเดือนของพนักงานแต่ละกิจการค่ะ”

ได้ยินดังนี้เผยเชียนยิ่งงงหนักกว่าเก่า “ปรับฐานเงินเดือนเหรอ”

หมายความว่ายังไงกันแน่

เถิงต๋ายังดูแลพวกเขาดีไม่พอหรือยังไง

ยังมี…เพดานเงินเดือนให้ปรับได้อีกเหรอ

ฟังแล้วเผยเชียนก็สนใจขึ้นมาทันที

ห่าวหยุนพูดต่อ “คืออย่างนี้ค่ะบอส หลายกิจการกำลังพยายามวางรากฐานของตัวเองใหม่ เลยเริ่มจากการตรวจสอบการทำงานภายในกิจการก่อน ระหว่างนี้พวกเขาเลยพบว่าพนักงานหลายคนเผชิญปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำค่ะ

“ฝ่าย HR เองตรวจสอบแล้วก็พบว่าปัญหานี้เกิดขึ้นกับพนักงานหลายกิจการ เราเลยใช้เวลาทั้งบ่ายวันศุกร์ที่แล้วและเช้าวันนี้ทำแผนการที่อยากเสนอให้บอสอนุมัติค่ะ”

เผยเชียนเข้าใจขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ยังสับสนอยู่บ้าง

เขารู้ว่า ‘ปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำ’ คืออะไร

มันหมายถึงการที่พนักงานใหม่ได้เงินเดือนมากกว่าพนักงานเก่า พนักงานระดับสูงได้เงินเดือนมากกว่าฝ่ายบริหาร และลูกน้องในทีมได้เงินเดือนมากกว่าหัวหน้างาน

สถานการณ์เช่นนี้พบเจอได้ในหลายๆ บริษัท ยกตัวอย่างเช่น พนักงานเก่าอาจเข้าบริษัทมาในช่วงที่ราคาแรงงานตลาดอยู่ที่สามพันหยวนต่อเดือน ผ่านไปสองปี เงินเดือนที่ได้ก็เพิ่มขึ้นแต่ไม่มากนัก

ในขณะที่สองปีนั้น ราคาแรงงานตลาดกระโดดขึ้นไปถึง 4,500 หยวนต่อเดือน เด็กจบใหม่ไร้ประสบการณ์จึงถูกจ้างด้วยเงินเดือนที่สูงกว่าพนักงานที่มีประสบการณ์ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำขึ้นมา

ปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำนั้นพบเห็นได้ทั่วไป เพราะบริษัทส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับฐานเงินเดือนของพนักงานให้เป็นไปตามราคาแรงงานตลาดที่เพิ่มขึ้นทุกปี เพราะพวกเขาไม่อยากมีต้นทุนเพิ่ม

นั่นจึงเป็นสาเหตุให้บริษัทส่วนใหญ่ห้ามพนักงานพูดคุยเรื่องเงินเดือน เพราะถ้าทำอย่างนั้น ปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำก็จะถูกเปิดเผย พนักงานหลายคนอาจไม่พอใจและขอลาออกได้

ถ้าหัวหน้างานรู้ความจริงว่าตัวเองทำงานหนักกว่าลูกน้องในทีม แต่กลับได้เงินเดือนน้อยกว่า ก็ย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา

ในฐานะบริษัทที่ก่อตั้งมานานกว่าหนึ่งปี เถิงต๋าเองก็ลงทุนไปเยอะกับการสร้างแรงจูงใจให้คนมาสมัครงาน ถึงจะเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานบ่อยๆ แต่สุดท้ายหน้าที่ ประสบการณ์ และความสามารถของพนักงานแต่ละคนก็แตกต่างกันอยู่ดี ทำให้ปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำยังคงมีอยู่

แน่นอนว่าปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำในเถิงต๋าไม่ได้หนักหนาเท่าบริษัทอื่น เพราะมีการเพิ่มเงินเดือนและสวัสดิการสำคัญของบริษัทอยู่บ่อยๆ

ถึงอย่างนั้นห่าวหยุนก็เล็งเห็นความสำคัญในการวางรากฐานที่มั่นคงซึ่งอิงมาจาก ‘จิตวิญญาณของรากฐาน’ ปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำนั้นเป็นภัยแฝง ถึงบริษัทส่วนใหญ่จะไม่ใส่ใจสักเท่าไหร่ และต่อให้เถิงต๋ามองข้ามมันไปก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรอยู่ดี แต่ห่าวหยุนก็ยังเลือกรายงานเรื่องนี้กับบอสเผย และให้เขาตัดสินใจ

เผยเชียนรับเอกสารมาจากห่าวหยุน แต่ตัวเลขยาวเป็นพืดก็ได้แต่ทำให้เขาตาลาย

เขาทำทีเป็นอ่านเอกสารนั้นแล้วพูดขึ้น “คุณจะบอกว่ามีพนักงานใหม่บางคนได้เงินเดือนเยอะกว่าพนักงานเก่าใช่ไหม”

ห่าวหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “ใช่ค่ะ แต่สถานการณ์จริงซับซ้อนกว่านั้นนิดหน่อย

“พูดง่ายๆ คือ พนักงานเก่าที่ว่าเข้ามาก่อนพนักงานใหม่แค่หกเดือน พวกเขามีความสามารถและประสบการณ์มากกว่า แต่กลับได้เงินเดือนต่างกันแค่สองร้อยหยวน สุดท้ายก็กลายเป็นปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำอยู่ดีค่ะ”

นัยน์ตาของเผยเชียนลุกวาวทันใด

เยี่ยมไปเลย! เขากังวลว่าจะเพิ่มเงินเดือนพนักงานไม่ได้อีกมาตั้งนานแล้ว!

“จัดการง่ายนิดเดียว

“ก็จ่ายเงินคนพวกนั้นเพิ่มสิ!

“ตรวจสอบมาตรฐานเงินเดือนสูงสุดที่ใช้จ้างพนักงานใหม่เป็นช่วงๆ จากนั้นก็จ่ายส่วนต่างเพิ่มให้พนักงานเก่า!”

ห่าวหยุนชะงักไป “เอ่อ บอสเผยคะ วิธีนั้นดีที่สุดเลยค่ะ แล้วคงง่ายด้วยถ้าเรามีพนักงานไม่กี่คน แต่ดิฉันต้องขอเตือนบอสก่อนว่าถ้าพนักงานของเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เงินเดือนที่เราต้องโปะเพิ่มก็จะมากขึ้นตามไปด้วย มันอาจมากเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ก็ได้นะคะ

“ถ้าเป็นบริษัทอื่น…พวกเขาคงประหยัดเงินส่วนนี้ไว้ อุตสาหกรรมไหนๆ ก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นค่ะ”

เงินที่เราต้องโปะเพิ่มจะมากขึ้นตามไปด้วยงั้นเหรอ

เยี่ยมไปเลยน่ะสิ!

เผยเชียนดีใจเหมือนเจอเงินตกอยู่บนพื้น เขาเอ่ยอย่างเด็ดขาด “เอาตามนั้นแหละ! ขึ้นเงินเดือนทุกคนพร้อมกันให้หมด!

“ผมไม่สนหรอกว่าเรามีพนักงานเก่ากี่คน หรือต้องจ่ายอีกเท่าไหร่ เอาเป็นว่าขึ้นเงินเดือนทุกคนให้หมดเลย!”

ห่าวหยุนถามย้ำอีกที “ทุกคนเลยเหรอคะ”

เธอรู้ว่าบอสเผยไม่ได้จะจ่ายเงินเดือนให้ทุกคนเท่ากันหมด แต่ตั้งใจจะกำจัดปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำให้หมดไปเท่านั้น

ทว่าเผยเชียนกลับพูดต่อโดยไม่ลังเลใจ

“ถูกต้อง! ทุกคนเลย! ตอนนี้น่าจะยังมีเวลา เริ่มตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป บอกฝ่ายบัญชีให้ทำเบิกเงินเดือนใหม่ด้วย”

ห่าวหยุนพยักหน้ารับด้วยความรู้สึกท่วมท้นสุดๆ “ได้ค่ะ เข้าใจแล้ว ดิฉันจะแจ้งแผนกบัญชีเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

ถึงห่าวหยุนเองจะเดาได้ว่าทุกอย่างต้องลงเอยแบบนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะนำข้อมูลมารายงานบอสเผย แต่การตัดสินใจอย่างรวดเร็วของเขาก็ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยในตัวพนักงานทุกคนจากใจจริง

ตอนที่ห่าวหยุนกำลังจะออกไป บอสเผยก็หยุดเธอเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวก่อน

“ตอนแรกคุณบอกว่าทุกกิจการกำลังพยายามวางรากฐานของตัวเองใหม่ เลยตรวจสอบการทำงานภายในจนเจอว่ามีพนักงานประสบปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำใช่ไหม…ว่าแต่ทุกคนจะวางรากฐานกันใหม่ทำไมล่ะ”

จู่ๆ เผยเชียนก็รู้สึกได้ว่าคำพูดเกริ่นนำของห่าวหยุนมีอะไรไม่ชอบมาพากล

ห่าวหยุนยิ้มก่อนจะตอบ “บอสเผยคะ ที่บอสมอบ ‘รางวัลรากฐานสำคัญ’ เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ก็เพื่อบอกใบ้ให้พวกเราวางรากฐานกันใหม่ไม่ใช่เหรอคะ ทุกกิจการถึงได้เริ่มตรวจสอบการทำงานภายในทีมตัวเองไงคะ แต่นอกจากปัญหาเงินเดือนเหลื่อมล้ำแล้ว ก็ยังไม่พบปัญหาร้ายแรงอย่างอื่นนะคะ”

พอเผยเชียนได้ยินก็กะพริบตาปริบๆ ด้วยความงงงวย

นี่ฉันอีกแล้วเหรอ

แค่เพราะแจกไอ้ ‘รางวัลรากฐานสำคัญ’ ก็กลายเป็นฉันบอกใบ้ให้ทุกคนไปวางรากฐานใหม่เรอะ

ไม่ได้ตั้งใจโว้ย

เอ่อ…แต่ดูเหมือนผลที่ได้ก็ไม่ต่างกันละนะ

พวกเขาไม่พบปัญหาร้ายแรงอะไรนอกจากเรื่องเงินเดือนเหลื่อมล้ำ ยิ่งกว่านั้นฉันยังได้เสียเงินเพิ่มอีกด้วย

จะว่าไปก็ไม่เลวแฮะ!

เผยเชียนไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “โอเค ฝากแจ้งฝ่ายบัญชีด้วย”

หลังจากห่าวหยุนออกไป เผยเชียนก็เก็บข้าวของแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่เฟยหวงสตูดิโอทันที

ภาพยนตร์เรื่องวันพรุ่งนี้ที่สดใสลาโรงไปแล้ว แล้วบริษัทก็เซ็นสัญญากับเว็บอ้ายลี่เต่าเรียบร้อย แค่นี้เผยเชียนก็พึงพอใจแล้วโนเวลกูดอทคoม

เขาต้องรีบจัดการ ‘ช็อก’ ทุกคน ก่อนที่พวกเขาจะสร้างปัญหาใหม่ให้!

ระบบยังใจดียอมให้เขาใช้แผน ‘ช็อกบำบัดเป็นวงรอบ’ กับกิจการไหนก็ได้หนึ่งกิจการในแต่ละรอบบัญชี แค่นี้ก็นับเป็นบุญแล้ว เผยเชียนต้องใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าที่สุด

เมื่อไปถึงเฟยหวงสตูดิโอ เผยเชียนก็พบว่ามีพนักงานแค่สองสามคนกำลังเล่นอินเทอร์เน็ตและดูซีรีส์อยู่

แต่พนักงานส่วนใหญ่ยังทำงานกันไม่หยุดหย่อน! เห็นแล้วบอสเผยก็อดเจ็บใจลึกๆ ไม่ได้

ดูสิ! ดู! คนปกติที่ไหนเขาทำกัน!

พวกเขาเพิ่งจบโปรเจ็กต์กันไป และยังไม่มีโปรเจ็กต์ใหม่ แต่ก็บังคับตัวเองให้ทำงานกันแล้ว!

ดูท่าเฟยหวงสตูดิโอจะประสบปัญหารุนแรงซะแล้ว ทัศนคติในการทำงานหนักแบบผิดๆ ฝังรากลึกลงทุกที สงสัยเผยเชียนต้องใช้แผน ‘ช็อกบำบัดเป็นวงรอบ’ จัดการกับพวกเขาซะหน่อย!

หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อนั่งหารือบางอย่างกันอยู่หน้าจอคอมพ์ พอเห็นบอสเผยเข้ามา ทั้งคู่ก็ผุดลุกขึ้นยืนทันที

“บอสเผย มาทำอะไรที่นี่ครับเนี่ย”

เผยเชียนตัดสินใจเข้าประเด็นทันที “ไม่มีอะไรมาก ผมแค่อยากประกาศระบบการทำงานใหม่

“แผนการช็อกบำบัดเป็นวงรอบ!

“กำไรมหาศาลเท่ากับการทำงานหนัก ยิ่งพวกคุณทำเงินได้เยอะก็ยิ่งเหนื่อยล้ามากขึ้นเท่านั้น

“มองเผินๆ แล้วการทำเงินได้เป็นเรื่องดีก็จริง แต่ที่จริงแล้วมีภัยร้ายแฝงมาด้วย มันไม่เพียงส่งผลต่อพลังกายและสุขภาพของพวกคุณ แต่ยังกลืนกินแรงบันดาลใจและความสามารถไปด้วย!

“ดังนั้นผมเลยตัดสินใจใช้แผนช็อกบำบัดเป็นวงรอบกับกิจการที่ใช้พลังแรงงานกันอย่างหนักหน่วง สี่เดือนต่อจากนี้ไปพนักงานของเฟยหวงสตูดิโอจะยังได้รับเงินเดือนและสวัสดิการทุกอย่างครบถ้วน แต่ห้ามใครเข้างานเป็นอันขาด

“ระหว่างการบำบัดนี้จงตั้งใจกอบกู้พลังกาย สุขภาพ แรงบันดาลใจ และความสามารถของพวกคุณ

“ช็อกบำบัดเป็นวงรอบของเฟยหวงสตูดิโอจะเริ่มต้นเดือนหน้าและกินเวลาสี่เดือน สรุปคือเราจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนจนถึง 31 กรกฎาคม”

ทุกคนต่างช็อกไปตามๆ กัน

นี่มันหมายความว่าไง ทุกคนในแผนกจะโดนพักงานสี่เดือนแต่ยังได้เงินเดือนงั้นเหรอ

บริษัทอื่นอาจจะให้ใครบางคนใช้สิทธิ์นี้ได้ แต่ถ้าคนคนนั้นไม่อยู่ เพื่อนร่วมงานในแผนกก็ต้องสานต่องานของเขาให้เรียบร้อย

แต่บอสเผยกลับจะให้ทั้งกิจการพักงานพร้อมกันเนี่ยนะ

แถมยังเป็นการพักงานแบบได้เงินเดือนด้วย ทำไมบอสเผยถึงได้ขึงขังขนาดนี้ แถมยังกัดฟันพูดอย่างหนักแน่นอีก

ไม่เหมือนกำลังให้รางวัลพวกเขาด้วยการพักงาน แต่น้ำเสียงเหมือนจะไล่พวกเขาออกมากกว่า…

หวงซื่อปั๋วถึงกับชะงักไป “บอสเผยครับ ทำอย่างนั้นไม่ได้นะครับ ถึงสตูดิโอของเราจะยังไม่มีโปรเจ็กต์ใหม่ แต่ก็ต้องมีคนคอยจัดการภาระงานประจำวัน จะให้หยุดพร้อมกันหมดทุกคนคงเป็นไปไม่ได้

“จะให้แผนช็อกบำบัดเป็นวงรอบทำให้เราจบเห่ไม่ได้นะครับ…”

เผยเชียนครุ่นคิดอยู่ห้าวินาที “งั้นเอาอย่างนี้ สลับกันทำงานเป็นไง แต่ขอให้ใช้จำนวนคนน้อยที่สุดในการทำงานนะ

“แบ่งพนักงานออกเป็นทีม แล้วให้แต่ละทีมเข้ามาดูแลทีมละหนึ่งเดือน พนักงานทุกคนจะได้ช็อกบำบัดเป็นวงรอบคนละสี่เดือน แต่ระยะเวลาของการบำบัดจะเพิ่มเป็นห้าเดือนแทน เพราะทุกคนต้องเวียนกันเข้ามาทำงานด้วย พูดง่ายๆ คือยืดเวลาออกไปถึงวันที่ 31 สิงหาคม”

หวงซื่อปั๋วลังเลใจ “แต่ถึงอย่างนั้น…”

เผยเชียนสีหน้าคร่ำเครียด “ไม่มี ‘แต่’ ไปจัดการกับปัญหาของตัวเองให้ได้ แล้วเข้าสู่แผนช็อกบำบัดเป็นวงรอบตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป!”

หวงซื่อปั๋วหันไปมองหน้าจูเสี่ยวเช่อ ต่างฝ่ายต่างมีท่าทีอึกอัก

แต่ก็พยักหน้ารับพร้อมกันในที่สุด “ได้ครับบอสเผย พวกเราจะจัดการให้”

บอสเผยยิ้มด้วยความพึงพอใจ “เยี่ยมมาก ระหว่างช่วงช็อกบำบัดเป็นวงรอบ พวกคุณสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ห้ามเริ่มต้นโปรเจ็กต์ใหม่เป็นอันขาด แล้วก็ไม่ต้องห่วงด้วยว่าจะทำเงินให้เถิงต๋ากรุ๊ปได้ยังไง ที่ผ่านมาพวกคุณเสียสละตัวเองกันมามากพอแล้ว!”

หวงซื่อปั๋วได้ยินดังนั้นก็ซาบซึ้งใจ “ได้ครับบอสเผย! แต่มั่นใจได้เลยนะครับ ต่อให้พวกเราได้พักงาน เฟยหวงสตูดิโอก็ยังสร้างมูลค่าให้เถิงต๋ากรุ๊ปได้ครับ!”

รอยยิ้มของเผยเชียนหายวับไปฉับพลัน “ว่าไงนะ”

จูเสี่ยวเช่อหลบไปข้างๆ เผยให้เห็นหน้าจอคอมพ์ที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เพ่งกันอยู่ “บอสเผยครับ บริษัทจัดฉายภาพยนตร์จากต่างชาติบังเอิญได้ดูวันพรุ่งนี้ที่สดใส เลยจะเอาหนังของเราไปจัดฉายที่เมืองนอกครับ!”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset