ส่วนแรกของคลิปเป็นการร้อยเรียงภาพจากเกมอื่นๆ และมีมโน่นนั่นนี่ไว้ด้วยกัน น้ำเสียงแหบห้าวมีเอกลักษณ์ทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันใด
จากนั้นภาพในคลิปก็กลายเป็นตีมของเกม BE QUIET อาจารย์เฉียวกำลังจะเริ่มแนะนำวิธีเล่นเกมนี้แล้ว
“หลายคนอาจไม่ได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมนี้เพราะความขุ่นเคืองหรือเพราะเหตุผลอื่นๆ ผมจะแนะนำวิธีเล่นเกมนี้อย่างถึงแก่นและพูดถึงจุดเด่นของเกมด้วย
“คุณสามารถข้ามไปดูบทสรุปสุดท้ายได้เลยถ้าเข้าใจขั้นตอนการเล่นดีแล้ว
“นี่คือเกมมัลติเพลเยอร์แนวสยองขวัญที่ต้องมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ดังนั้นรบกวนทุกท่านโยนชุดความคิดที่มีต่อเกมแสตนด์อโลนแนวสยองขวัญทิ้งไปซะ และเปิดใจรับความน่ากลัวในรูปแบบใหม่!
“เกมแสตนด์อโลนแนวสยองขวัญที่ผ่านๆ มามักสร้างความน่ากลัวจากไม่กี่รูปแบบ
อย่างฉาก ตัวละคร เนื้อเรื่องที่ไม่คาดคิด… และเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง
“เกมเหล่านี้มักมีฉากน่ากลัวๆ ที่หลากหลาย เช่น เมืองหมอกปริศนา หมู่บ้านกินเนื้อคนที่เต็มไปด้วยชาวบ้านบ้าคลั่ง ห้องทดลองที่มีแต่ซอมบี้ และอื่นๆ พวกเขาสร้างอิทธิพลของความกลัวจากภาพและเสียงผ่านฉากเหล่านี้
“ขณะเดียวกันเกมแสตนด์อโลนเหล่านี้ก็ใช้เนื้อเรื่องในการจัดการความกลัวของเหล่าผู้เล่น ตัวอย่างเช่น NPC จะมัดตัวเอกไว้และลงโทษด้วยการทรมานหลากหลายรูปแบบ เช่น ควักลูกตา ดึงลิ้น ตัดนิ้ว และทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ และเมื่อผู้เล่นเล่นเป็นตัวเอกในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง แน่นอนว่าพวกเขาต้องสัมผัสได้ถึงความสยดสยองสุดขีด
อย่างสุดท้ายก็คือการทำให้กลัวแบบปุบปับ เช่น เปิดประตูไปแล้วศพก็ร่วงลงมา หรือเดินๆ อยู่ก็ถูกสัตว์ประหลาดจับไป
“นี่คือความสยดสยองที่เราประสบได้ในเกมแสตนด์อโลนแนวสยองขวัญทั่วๆ ไป
“แน่นอนว่าพวกนี้คือเกมสยองขวัญสุดแสนจะคลาสสิก แต่ในคลิปนี้ผมจะพูดถึงจุดบกพร่องสองจุดใหญ่ๆ ของมัน
“ข้อแรก การปลุกเร้านั้นโจ่งแจ้งเกินไป
เพื่อให้เกิดความรู้สึกสยองขวัญ บริษัทเกมมากมายมักหลับหูหลับตาใส่เลือด สร้างมอนสเตอร์หน้าตาน่าสะอิดสะเอียนมากมาย รวมถึงออกแบบเนื้อหาการทรมานสยองขวัญทุกรูปแบบ
“แต่การปลุกเร้าแนวๆ นี้โดยหลักแล้วคือการปลุกเร้าประสาทสัมผัส ซึ่งอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาทางกายภาพได้ ขณะเดียวกันการปลุกเร้าประสาทสัมผัสที่มากเกินไปอาจทำให้ให้เกมดูหนักหน่วงเกินไปและดูไม่น่าจดจำ
“ความกลัวที่แท้จริงมาจากภายในใจของผู้คน!
“ข้อสอง ไม่สามารถนำมาเล่นซ้ำได้หลายครั้ง
“ผู้เล่นจะได้รับความรู้สึกตื่นตกใจสูงสุดเมื่อเล่นเกมครั้งแรก แต่พอเคลียร์เกมได้แล้วก็รู้สึกเบื่อที่จะเล่นซ้ำ
“ผู้เล่นทั่วไปมักไม่อยากเล่นซ้ำครั้งที่สอง หรือถ้าเล่นก็จะเป็นการเล่นแบบวิ่งผ่านไวๆ ซึ่งจะทำให้เกมสยองขวัญสูญเสียเป้าหมายดั้งเดิมของมัน
“เกม BE QUIET เป็นเกมรูปแบบใหม่ที่สามารถแก้ปัญหาสองข้อที่ไม่เคยแก้ได้มาก่อน ความกลัวจากการเล่นเกมนี้เกิดขึ้นจากหัวใจ ไม่ใช่จากการเห็นฉากนองเลือดมากมาย ทั้งยังสามารถเล่นซ้ำได้ไม่รู้จักจบจักสิ้นด้วย!”
…
ขั้นต่อไปคือการแนะนำวิธีเล่นพื้นฐานซึ่งอาจารย์เฉียวได้เล่นให้ดูอีกรอบ
เกมแต่ละรอบเป็นการสุ่มจับกลุ่มผู้เล่นในเซิฟเวอร์เดียวกัน สุ่มแผนที่ และสุ่มจุดเกิดใหม่ในแผนที่
ห้องแต่ละห้องและไอเทมต่างๆ ในแผนที่จะเกิดแบบสุ่ม แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ห้องขนาดใหญ่กว่าซึ่งอยู่ในจุดที่อันตรายกว่ามักมีไอเทมที่ดีกว่า
ผู้เล่นทั้งแปดจะได้รับบทเป็นตำรวจ คนดี คนจิตป่วยและคนวางแผน ทุกคนยกเว้นตำรวจไม่รู้ว่าคนอื่นๆ รับบทเป็นอะไร แต่ละคนมีเป้าหมายในเกมแตกต่างกัน
วิธีเอาชนะของตำรวจและคนดีค่อนข้างง่าย ทั้งแผนที่นั้นไม่มีทางออก พวกเขาต้องตามหาอักขระเพื่อถอดรหัส ทางออกจะปรากฏขึ้นแบบสุ่มเมื่อถอดรหัสอักขระได้จำนวนหนึ่ง ใครจะหนีออกไปก็ได้
อาจารย์เฉียวแบ่งวิธีการเล่นเป็นสี่สเตจ
สเตจแรกคือสเตจค้นหาอิสระที่ตอนเปิดเกมมาผู้เล่นจะเกิดห่างกัน พวกเขาต้องค้นหาพื้นที่เปิดให้ได้มากที่สุดเพื่อสะสมไอเทมที่เป็นประโยชน์สำหรับบทบาทของตน และจากไอเทมที่ได้มาก็ต้องตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไป
สเตจต่อไปคือการสื่อสารขั้นต้น โดยทั่วไปแล้วคนจิตป่วยที่มีไม่กี่คนมักเลือกทำตัวคลั่งขึ้นมาในสเตจนี้ แต่ก็อาจถูกตำรวจและคนดีซึ่งมีหลายคนใช้ไอเทมล้อมได้ คนจิตป่วยบางคนอาจเลือกใช้ไอเทมปลอมเป็นคนดี
ขณะเดียวกันตำรวจก็จะเรียกให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ไปตามหาอักขระรวมถึงไอเทมที่ซ่อนอยู่ในแผนที่
ทว่าในเกมมีค่าสติด้วย เมื่อคนจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ก็จะง่ายต่อการปลดล็อกระบบคุยด้วยเสียง แต่การคุยด้วยเสียงจะทำให้ค่าสติของผู้พูดลดลง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เล่นจะรวมตัวกันเป็นเวลานานๆ พอถึงจุดหนึ่งก็ต้องแยกย้ายกันไปตามหาอักขระ
จากนั้นเกมจะเข้าสู่สเตจที่สามคือสเตจปลุกปั่น
ในสเตจนี้คนจิตป่วยจะโจมตีคนดีอย่างบ้าระห่ำด้วยไอเทมทุกชนิดที่รวบรวมมาได้ คนดีสามารถตอบโต้กลับได้ และคนจิตป่วยก็สามารถใช้วิธีต่างๆ ในการลดค่าสติคนดีเพื่อให้กลายเป็นคนจิตป่วยด้วยเช่นกัน เพื่อบังคับให้เดินไปสู่เส้นทางแห่งชัยชนะของคนป่วยจิต…
สรุปคือเกมในช่วงนี้จะวุ่นวายมากเพราะผู้เล่นสามารถบ่อนทำลายผู้เล่นคนอื่นๆ ได้
สเตจสุดท้ายคือการปิดฉาก โดยทั่วไปเมื่อมาถึงสเตจนี้จะมีผู้เล่นถูกกำจัดไปแล้วสองถึงสามคน อักขระถูกถอดรหัสแล้วเกือบทั้งหมด ผู้เล่นจะสู้กันด้วยเทคโนโลยีและไอเทมที่ได้มาเพื่อให้ได้ชัยชนะ
จากนั้นเฉียวเหลียงก็โชว์คลิปการต่อสู้ที่ตนเองรู้สึกว่าน่าตื่นตาตื่นใจ
แน่นอนว่าการต่อสู้เหล่านี้ไม่ได้ดูน่าตื่นเต้นในสายตาของเผยเชียนเลย
การนำเสนอด้วยคลิปนั้นมีข้อจำกัด เพราะถ้ามันซับซ้อนเกินไปคนดูก็ไม่เข้าใจอยู่ดี แบบนั้นก็จะกระอักกระอ่วนมาก
คนเราจะรู้สึกตื่นเต้นไปกับเกมก็ต่อเมื่อได้ลงไปเล่นด้วยตัวเอง
เผยเชียนไม่เคยเล่นเกม BE QUIET แบบจริงจังมาก่อน เพราะมันเป็นเกมออนไลน์ ดังนั้นเขาจึงเล่นคนเดียวไม่ได้…
พอได้มาดูอาจารย์เฉียวอธิบายเผยเชียนก็เข้าใจกระจ่างขึ้น
สเตจแรกคือช่วงฟาร์มไอเทมเหมือนเกม pubg สเตจที่จะระบุตัวตนเหมือนบอร์ดเกมอย่างเกม Three Kingdoms กับ The Werewolf Game สเตจที่ต้องต่อสู้กันค่อนข้างคล้ายเกม Dead by Daylight
ความสนุกของเกมนี้มีอยู่สามแง่
แง่แรกคือ โชคเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้เล่นซ้ำได้ หลายคนมีวิธีไล่ตามชัยชนะโดยเฉพาะ เช่น คนจิตป่วยจะหาห้องที่มีไอเทมเพิ่มค่าสติและเพิ่มพลังชีวิต จากนั้นก็กลายเป็นคนบ้าเพื่อไปฆ่าคนอื่น ส่วนคนอื่นอาจชนะได้ด้วยการเดินตามตำรวจหรือตั้งใจเล่นให้ดีๆ ถ้าในช่วงแรกหาไอเทมดีๆ ไม่ได้
แง่สองคือการทดสอบไหวพริบภายในกติกาที่กำหนด การใช้ถ้อยคำจำกัดเพื่อสั่งการหรือทำให้คนอื่นไขว้เขว และเดาตัวตนของผู้เล่นคนอื่นๆ นั้นไม่ต่างจากวิธีการของบอร์ดเกม
แง่สุดท้ายคือการออกปฏิบัติการเหมือนในเกม Dead by Daylight ใช้ไอเทมและเทคนิคในการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า ในขณะเดียวกันผู้เล่นก็จะได้รับประสบการณ์ความสยองขวัญในรูปแบบพิเศษ ผู้เล่นแต่ละคนต้องระแวดระวังกัน เพราะไม่รู้ว่าจะถูกจับหรือโจมตีเมื่อไหร่ พวกเขาต้องค่อยๆ เคลื่อนที่ไปข้างหน้าในความมืด ระวังตัว และห้ามส่งเสียง…
ความกลัวที่รู้สึกได้นี้มาจากผู้เล่นคนอื่น และเกิดขึ้นในใจของผู้เล่นโดยตรง ดังนั้นจึงน่ากลัวยิ่งกว่าเกมสยองขวัญแสตนด์อโลนทั่วๆ ไป
ตัวอย่างเช่น คนป่วยจิตอาจตั้งใจซ่อนตัวอยู่ในห้อง รอคอยให้คนดีเข้ามาตามหาอักขระจากนั้นก็โผล่ออกมาโจมตี!
สรุปคือไม่ว่าคลิปนี้จะทำได้ดีเพียงใด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายความรู้สึกที่ได้รับจากการเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่เฉียวเหลียงวิเคราะห์จุดดีของเกมนี้ด้วยเทคนิคการตัดต่อและการลงรายละเอียด โดยเฉพาะเมื่ออธิบายกลยุทธ์ที่น่าสนใจของเกม คอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอ ‘บ้าไปแล้ว’ ก็ขึ้นมาเต็มทันที หลายคนถอนหายใจ เกมนี้เล่นแบบนี้ได้ด้วยเหรอ
…
คลิปมาถึงช่วงสุดท้ายในที่สุดโนเวลกูดอทคอม
“ผมมั่นใจว่าหลังจากดูคลิปนี้ทุกคนจะเข้าใจเกม BE QUIET ได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นขอย้อนกลับไปที่คำถามแรก บริษัทเกมต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำเกม ARG และเกมตามรอยสายตาไปทำไม
“พวกเขาจะไม่ทำอะไรและวางขายเกมไปทั้งๆ แบบนี้ก็ได้ เพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าไปเล่นเกมได้ทันที
“แต่พวกเขาก็สร้างกิจกรรมไขปริศนาที่ซับซ้อนออกมา ทั้งยังเพิ่มขั้นตอนก่อนซื้อเกมในรูปแบบของเกมที่มีความสนุกในระดับหนึ่งโดยไม่คิดเงินแม้แต่หยวนเดียว
“นั่นเพราะบริษัทเกมต้องการให้ผู้เล่นเข้าถึงตัวเกมได้รวดเร็วและง่ายดาย!
“ถ้าผู้เล่นจ่ายเงินให้กับเกมที่มาค้นพบทีหลังว่าไม่เหมาะกับตัวเอง พวกเขาก็จะขอรีฟันด์ซึ่งค่อนข้างยุ่งยาก ดังนั้นบริษัทเกมจึงตัดสินใจทดสอบนอกเกม เพื่อที่ว่าผู้เล่นที่ไม่เหมาะกับเกมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับขั้นตอนน่าเบื่อของการขอรีฟันด์
“ต้องมีคนถามแน่ๆ ว่า… ถ้าตนผ่านการทดสอบแล้วเกมนี้จะเหมาะกับตนจริงหรือ
“ต้องขอบอกว่าส่วนใหญ่น่ะใช่ แต่ก็ไม่เสมอไป
“ทุกคนลองคิดดูนะว่าอะไรคือคุณสมบัติสำคัญที่สุดในการเล่นเกม BE QUIET
“เกมนี้ต้องการคนที่มี IQ อดกลั้นต่อความสยองขวัญได้ดี และมีทัศนคติที่จริงจังต่อการเรียนรู้
“ตอนนี้ทุกคนคงจะรู้แล้วว่า ขั้นตอนก่อนซื้อเกมก็คือบททดสอบนั่นเอง!
“เกม ARG ที่ให้ไขปริศนาคือการลับ IQ เกมตามรอยสายตาเป็นการฝึกฝนความสามารถในการอดกลั้นต่อความสยองขวัญ และการทดสอบโดยรวมก็มีเพื่อตรวจดูว่าคุณมีความอดทนและทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้รึเปล่า
“ถ้าล้มเลิกหลังรู้สึกว่ามันยาก หรือไม่ชอบเกมไขปริศนา หรือคนอื่นไขปริศนาได้แล้วแต่คุณไม่ใส่ใจแม้แต่จะก๊อบปี้คำตอบ หรือเอาชนะเกมตามรอบสายตาไม่ได้…
“แบบนั้นคุณก็ไม่น่าจะสนุกไปกับเกม BE QUIET แถมยังไปสร้างผลกระทบกับประสบการณ์การเล่นเกมของผู้เล่นคนอื่นๆ ด้วย!
“การทดสอบนี้เป็นการจัดการผู้เล่นสองแบบไปพร้อมๆ กัน
“สำหรับผู้เล่นที่เหมาะกับเกม การทดสอบนี้ช่วยรับรองประสบการณ์การเล่นเกมเกมนี้ให้ ส่วนผู้เล่นที่ไม่เหมาะ ก็ช่วยรักษาเวลาและเงินในกระเป๋าให้
“ฝ่ายเดียวที่สูญเสียก็คือบริษัทเกมซึ่งต้องเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก
“แต่บริษัทเกมก็เต็มใจเสียรายได้ส่วนนี้ไปเพื่อแลกมากับเกมที่ยั่งยืนและประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีของผู้เล่น ต่อให้เกิดข้อถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนหรือถูกวิจารณ์เสียๆ หายๆ แต่บริษัทเกมกลับไม่ได้ออกมาอธิบายอะไรและเลือกที่จะยอมรับทุกอย่างเงียบๆ
“ดังนั้นการที่หลายคนพูดว่าบริษัทเกมเพี้ยนไปแล้ว พวกเขาสามารถขายเกมได้เลยตรงๆ แล้วทำไมต้องมาเสียเวลาทำขั้นตอนก่อนซื้อด้วย ทำแบบนี้ไม่น่ารังเกียจเหรอ
“ผมอยากบอกว่า จริงครับ ในแง่หนึ่งมันทำให้ผู้คนถอยห่างไปได้จริงๆ
“แต่โปรดใจเย็นและคิดก่อนนะครับ แล้วถ้าบริษัทเกมไม่ได้ทำทุกอย่างนี้เพื่อตัวเองแต่เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีของเหล่าผู้เล่นล่ะ
“ดังนั้นหัวข้อคลิปของสัปดาห์นี้จึงเป็น ‘หยาดเหงื่อแรงงานและความทะนงตนของนักออกแบบเกมชั้นนำ!’
“พวกเขาต้องทำงานหนักมากในการจัดทำขั้นตอนก่อนซื้อที่ซับซ้อน เพื่อรับประกันว่าผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ทะนงตนเกินกว่าจะออกมาอธิบายให้เหล่าเกมเมอร์ฟัง ก็เลยทำตัวนิ่งเฉยพร้อมทัศนคติที่ว่า ‘พวกคุณไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร จะชมหรือจะด่าก็ได้ทั้งนั้นเพราะเกมวางขายแล้ว’
“ผมว่าเหล่าเกมเมอร์ในประเทศโชคดีมากนะครับที่มีนักออกแบบเกมที่มีความคิด มีความเป็นตัวของตัวเองและมีคุณธรรม!
“มีบริษัทเกมมากมายที่พยายามจะดูดเลือดจากเหล่าเกมเมอร์และเหล่าวาฬให้ได้มากที่สุด ถ้าเติมเงินมากพอ คุณอาจกลายเป็นเทพหรือมีชื่อเสียงในเกม พวกเขาจะไม่สร้างอุปสรรคหรือปล่อยให้คุณได้ใช้สมอง และปล่อยให้คุณได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมปลอมๆ จากการคลิกเม้าส์เท่านั้น…
“แต่แบบนั้นคุณมีความสุขจริงเหรอ กระเป๋าตังค์คุณแบนไปแล้วหรือเปล่า สมองของคุณตายไปแล้วหรือเปล่า นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้สัมผัสความรู้สึกตื่นเต้นจนวิญญาณสั่นสะท้านจากการไขปริศนา หรือค้นพบเกมที่มีวิธีเล่นใหม่ๆ
“คุณไม่คิดว่ามันน่าอนาถเหรอที่นักออกแบบเกมในประเทศส่วนใหญ่เอาแต่คิดเกมทำนองนี้ออกมา
“ดังนั้นผมจึงหวังว่าเหล่าเกมเมอร์ที่สนใจเกมนี้จะสงบสติอารมณ์ลง ทำความเข้าใจกับความตั้งใจจริงของนักออกแบบเกมเกมนี้ ค่อยๆ พิชิตขั้นตอนก่อนซื้อ จากนั้นก็เข้าไปสัมผัสความซับซ้อนของเกมด้วยตัวเอง
“ผมเชื่อว่าพวกคุณจะได้พบโลกใหม่อย่างแน่นอน!”