ตอนเย็น…
เฉียวเหลียงออกเกม BE QUIET พลางบิดขี้เกียจ
หลายวันมานี้ ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกันอย่างเผ็ดร้อนบนโลกออนไลน์ แต่เฉียวเหลียงไม่ได้ไปผสมโรงด้วย เขาเอาแต่เล่นเกมเงียบๆ
เขารู้ว่าไม่จำเป็นสักนิดที่ต้องไปร่วมเสวนา ยังไงซะเฉียวเหลียงก็อยู่ข้างบอสเผยอยู่แล้ว
ไม่ใช่เพราะเฉียวเหลียงเป็นเพื่อนกับบอสเผย แต่เอาเข้าจริงเขาเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
เกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ซับซ้อนและดีเยี่ยมเป็นธรรมดา ทุกอย่างตั้งแต่ปริศนาก่อนซื้อเกม ไปจนถึงการได้สิทธิ์ในการซื้อเกมรวมถึงเกมตรวจจับดวงตาถูกใจเฉียวเหลียงสุดๆ
มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมองเรื่องที่เกิดขึ้นในมุมไหน
หากมองว่ามันเป็นกำแพงที่จะทำให้เหล่าเกมเมอร์หันหลังให้เกม ก็ต้องไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ถ้ามองว่ามันเป็นเกมเรียกน้ำย่อยที่เล่นได้ฟรีล่ะ แค่นี้ก็คุ้มแล้วไม่ใช่เหรอ
เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย เกมนักออกแบบเกม รวมถึงเกมตรวจจับดวงตาสามารถเล่นได้ฟรีทั้งนั้น สำหรับเฉียวเหลียงแค่นี้ก็น่ายกย่องแล้ว
เฉียวเหลียงรู้ว่าเกมคือสินค้าทางวัฒนธรรม ไม่ใช่ทุกคนจะชอบเกมทุกเกม
มันไม่มีเหตุผลเลยถ้าเกมเมอร์มองว่าผู้ผลิตนั้นๆ มีมโนธรรมเมื่อพวกเขาผลิตเกมที่ตนเองชอบออกมา และมองว่าผู้ผลิตไร้มโนธรรมเมื่อผลิตเกมที่ตนเองรู้สึกไม่ชอบ
จุดนี้ก็เหมือนกับเกม BE QUIET เกมเมอร์ต้องเคลียร์ขั้นตอนก่อนซื้อให้เสร็จก่อนที่จะได้รับสิทธิ์ในการซื้อเกม ว่ากันตามตรงแล้ว วิธีนี้มีสิทธิ์ทำให้เกมเมอร์หลายคนหันหน้าหนี แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
เพราะเถิงต๋าไม่เคยให้คำมั่นว่าเกมเมอร์ทุกคนสามารถซื้อเกมของพวกเขาได้ทุกเกมโดยไม่มีเงื่อนไข แน่นอนว่าเถิงต๋าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น
บริษัทเกมและเกมเมอร์มีสิทธิ์ที่จะเลือกซึ่งกันและกัน เกมเมอร์มีสิทธิ์เลือกไม่เล่นเกมบางเกมที่ผลิตโดยบริษัทเกมบางบริษัท ในขณะเดียวกัน บริษัทเกมก็เลือกปฏิเสธที่จะไม่เอารายได้จากคนส่วนหนึ่งในสังคมได้
ทั้งสองฝ่ายต่างต้องยินยอมพร้อมใจในการทำธุรกรรม ไม่มีทางถูกบังคับให้ซื้อหรือขายได้ ทั้งสองฝ่ายก็ควรมีอำนาจเท่าเทียมกัน และไม่ควรมีใครกล่าวหาอีกฝ่ายว่าไม่ยุติธรรม
อีกอย่างบอสเผยเองก็เป็นนักออกแบบแบบเกมที่ไม่เหมือนใครมาตลอด เขาไม่ใช่คนที่จะยอมโอนอ่อนเพื่อทำเกมที่เหมาะกับรสนิยมของเหล่าเกมเมอร์
เฉียวเหลียงพบว่าตัวเองสนับสนุนการตัดสินใจของบอสเผยอยู่ตลอด
บอสเผยเป็นผู้ผลิตเกมซึ่งผลิตเกมคุณภาพสูงออกมาในราคาที่จับจ่ายได้ สองเกมก่อนหน้านี้เขายังเปิดให้เหล่าเกมเมอร์รีฟันด์โดยไม่มีเงื่อนไข แต่กลับโดนด่าที่กำหนดให้เหล่าเกมเมอร์ทำตามเงื่อนไขให้เสร็จก่อนถึงจะซื้อเกมได้
ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลสักนิด
แต่ต่อให้พูดแบบนี้ เฉียวเหลียงก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายจุดนี้ให้คนอื่นเข้าใจ
แม้บริษัทเกมมีสิทธิ์ที่จะกำหนดเงื่อนไขก่อนการซื้อเกม แต่ถามจริงว่าเรื่องนี้จำเป็นด้วยเหรอ
บริษัทเกมได้ประโยชน์อะไรจากการทำแบบนี้
นี่คือคำถามหลักที่อยู่ในใจของเฉียวเหลียง
จู่ๆ เขาก็ขมวดคิ้ว พยายามหาคำตอบให้กับคำถามนี้จากความเข้าใจที่เขามีต่อบอสเผย
“ฉันรู้สึกว่าบอสไม่ได้จะบอกลูกค้าว่า ‘ฉันไม่ให้พวกนายเล่นเกมนี้หรอก’ น่าจะเป็น ‘ถ้าแค่ปริศนาพวกนี้พวกนายยังไขไม่ได้ ก็ไม่น่าจะเล่นเกมนี้ได้ เพราะงั้นก็ไม่ต้องซื้อตั้งแต่แรกซะเลยดีกว่า’ มากกว่า
“ความคิดนี้ดูคุ้นๆแฮะ
“เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อนนะ
“…”
“จำได้แล้ว! ตอนเกมกลับใจคือฟากฝั่งยังไงล่ะ!”
จู่ๆ เฉียวเหลียงก็นึกขึ้นได้ว่า ตอนเกมกลับใจคือฟากฝั่งก็มีอะไรแบบนี้เหมือนกัน!
สิ่งเดียวที่แตกต่างคือ แทนที่เหล่าเกมเมอร์จะถูกกระตุ้นให้รีฟันด์เกมหลังเล่นไปแล้ว พวกเขากลับถูกทรมานและทำให้รู้สึกท้อแท้ก่อนที่จะทันได้ซื้อ BE QUIET
ครั้งนี้บอสเผยชักจูงเหล่าเกมเบอร์ให้หันหลังจากเกม BE QUIET ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนคราวเกมกลับใจคือฟากฝั่งซะอีก เขาสกัดไว้ก่อนที่เหล่าเกมเมอร์จะได้ซื้อเกม BE QUIET!
จู่ๆ เฉียวเหลียงก็เหมือนได้ดวงตาเห็นธรรม
“โอเค! ทุกอย่างดูเข้ารูปเข้ารอยแล้ว!
“บอสเผยทำเหมือนเมื่อตอนวางขายเกมกลับใจคือฟากฝั่งชัดๆ! แค่เปลี่ยนวิธีนิดหน่อยเท่านั้น
“เกมคือศิลปะที่สามารถปฏิสัมพันธ์กันได้แขนงหนึ่ง ง่ายๆ คือนักออกแบบเกมตั้งชุดคำถาม ส่วนเหล่าเกมเมอร์ก็พยายามตอบคำถามเหล่านั้น
“มีอยู่อย่างหนึ่งที่เหล่าเกมเบอร์สายฮาร์ดคอร์เห็นพ้องต้องกัน เราต้องยอมเสียอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้อีกอย่างหนึ่งมา
“เราต้องปล่อยวางความปรารถนาที่ฉาบฉวยและตื้นเขิน เพื่อที่จะได้เรียนรู้บทเรียนที่ลึกซึ้งและมีความหมายยิ่งกว่า
“ลองดูเกมกลับใจคือฟากฝั่งเป็นตัวอย่างก็ได้ พวกเราถูกบังคับให้ทนทรมาน และเผชิญหน้ากับความล้มเหลวตั้งแต่แรก เราต้องละทิ้งความปรารถนาที่จะใช้ความรุนแรงอย่างไร้เหตุผล และสงบจิตสงบใจเพื่อลับทักษะของตัวเอง
“ต้องทำแบบนี้เราถึงจะสามารถเติบโตผ่านเกม และได้เรียนรู้ความสนุกที่เกมอื่นๆ ไม่สามารถมอบให้
“นั่นคือความหมายของคำว่ายอมเสียบางอย่างเพื่อให้ได้บางอย่างมา มันคือความอิ่มเอมใจที่เกิดขึ้นทีหลัง ถ้าเกมไม่ได้ยากขนาดนี้ เราอาจไม่ได้สัมผัสถึงความสนุกที่แท้จริงที่มาพร้อมความเติบโตไปกับตัวเกม
“ก็เหมือนกับเกม BE QUIET มันคือเกมที่เหล่าเกมเมอร์จะต้องยอมเสียบางอย่างเพื่อให้ได้บางอย่างมา อย่างแรกเลยคือต้องสละเวลา และกดความอยากเล่นเกมลงเพื่อไขปริศนาให้ได้ก่อน เมื่อถึงตอนนั้นก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ความสนุกจากตัวเกม
“ส่วนที่ว่าทำไมทั้งสองเกมนี้ถือใช้วิธีต่างกัน…
“เห็นได้ชัดว่า เกมกลับใจคือฟากฝั่งเป็นเกมสแตนด์อะโลน ประสบการณ์การเล่นเกมของคนใดคนหนึ่งย่อมไม่กระทบต่อประสบการณ์การเล่นเกมของคนอื่นๆ แต่เกม BE QUIET เป็นเกมออนไลน์
“ถ้าเกมเมอร์ที่ไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อนเข้าเกมไป พวกเขาอาจไปทำลายประสบการณ์การเล่นเกมของผู้เล่นคนอื่นๆ ได้
“บอสเผยอยากมั่นใจว่าทุกคนจะมีทัศนคติที่ถูกต้อง และมีความรอบรู้ในระดับเดียวกัน แบบนี้คนส่วนใหญ่ก็จะสนุกสนานไปกับเกมโดยที่ประสบการณ์การเล่นเกมของพวกเขาไม่ถูกเพื่อนร่วมทีมที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับวิธีเล่นเกมทำลายลง นั่นหมายความว่าเขาต้อง ‘ฝึกฝน’ เหล่าเกมเมอร์เสียก่อน…
เฉียวเหลียงมั่นใจสุดๆ ว่าเขาเข้าใจถึงความตั้งใจจริงของบอสเผยได้อย่างแจ่มชัด! ตรรกะออกจะง่ายสุดๆ แต่เขาก็ยังต้องหาวัตถุดิบที่ถูกต้องในเกมเพื่อโน้มน้าวให้คนอื่นๆ เชื่อ
อีกอย่างคือตอนนี้เหมือนจะเร็วเกินไปที่จะเปิดเผยสิ่งเหล่านี้
ด้านหนึ่งเพราะเขายังไม่เข้าใจวิธีการเล่นที่ซับซ้อนของเกม BE QUIET อย่างสมบูรณ์ ถ้าไม่มีตัวอย่างหรือแผนการดีๆ คลิปที่ออกมาจะดูแห้งมาก อีกด้านหนึ่ง การถกเถียงกันเรื่องนี้ของชาวเน็ตยังไม่ถึงจุดพีคของมัน
หลังจากไตร่ตรองดูสักพัก เฉียวเหลียงก็ตัดสินใจเล่นเกมเพื่อเก็บรวบรวมวัตถุดิบให้ได้มากกว่านี้
สัปดาห์หน้าเขาจะอัปโหลดคลิปใหม่ลงในหมวดผลงานเทพสร้าง ในคลิปเขาจะพูดถึงเกม BE QUIET ซึ่งเป็นเกมสยองขวัญออนไลน์ที่ไม่เหมือนเกมไหนทั้งสิ้น และเขาจะอธิบายถึงความหมายอันลุ่มลึกที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเงื่อนไขการซื้อเกมที่บอสเผยกำหนด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การตลาด! เฉียวเหลียงเชื่อว่าคลิปนี้จะไขปัญหาและแก้ความเข้าใจผิดมากมายที่เหล่าเกมเมอร์มีต่อบอสเผย!
…
วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม
ฉางโหยวเดินไปเดินมารอบห้องทำงานด้วยความรู้สึกเป็นกังวล
ปุ่มในหน้าข้อมูลมือถือ OTTO E1 ในเว็บไซต์ทางการของบริษัท OTTO เปลี่ยนจาก ‘พรีออเดอร์’ มาเป็น ‘ซื้อ’ แล้ว
ไม่จำเป็นต้องต่อสู้แย่งชิงมือถือรุ่นนี้อีกต่อไป ซึ่งฟังดูเป็นเรื่องดี แต่ไม่ใช่สำหรับฉางโหยว
เพราะนั้นแปลว่ายอดขายเกิดการชะงักงัน!
พวกเขาผลาญรายได้ทั้งหมดไปกับการสั่งผลิตสต๊อกมือถือ ตอนนี้ใครๆ ต่างก็รู้ว่าบริษัท OTTO ไม่เหลือเงินสักแดงแล้ว
บริษัทอื่นๆ ย่อมไม่มีทางทำแบบเดียวกันแน่นอน
ฉางโหยวรู้ดีว่าบริษัท OTTO มีเสาหลักที่มั่นคงซึ่งพึ่งพาได้ ที่บริษัทสามารถสั่งผลิตสต๊อกมือถือได้ตั้งมากตั้งมายก็เป็นเพราะบอสเผยให้ทุนมา
และนี่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ฉางโหยวรู้สึกละอายต่อบอสเผย
พวกเขาจะขายมือถือมากกว่าหนึ่งหมื่นเครื่องหมดได้ยังไง!
แต่บอสเผยก็ยังกำชับฉางโหยวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าต้องผลิตสต๊อกมือถือให้เพียงพอ โดยที่ไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่นๆ เขาไม่ต้องคิดเรื่องทำโปรโมชั่นหรือลดราคามือถือด้วยซ้ำโนlวลกูดอทคoม
ฉางโหยวจึงได้แต่นั่งเป็นกังวลอยู่บนเก้าอี้
ฉางโหยวไม่กล้าแม้แต่จะเช็กคอมเมนต์ในเว็บไซต์ เขารู้ว่าคนทั่วไปเรียกเขาว่า ‘นายฉางจอมโม้’ ก่อนหน้านี้สภาพจิตใจเขาดีเยี่ยมสุดๆ แต่พอเขาทำลายความเชื่อมั่นของบอสเผยไป เขากลับรู้สึกว่าการเผชิญหน้ากับคำล้อเลียนหรือคำวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องยากสุดๆ
ขณะที่ฉางโหยวยังคงเดินไปเดินมาในห้องทำงานไม่หยุด มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขารับสายและพบว่าคนที่โทรมาคือ หูเสี่ยนปิน
ดวงตาของฉางโหยวเป็นประกาย เขารีบรับสายทันที
“บอสฉางครับ เกม GOG เวอร์ชันมือถือจะเปิดขายอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้ ก่อนหน้านี้เราเคยคุยกันเรื่องความร่วมมือใช่ไหมครับ ผมเลยจะโทรมาเตือนบอสเรื่องนี้” หูเสี่ยนปินพูดผ่านโทรศัพท์
ฉางโหยวดีใจสุดๆ “ได้ครับ ไม่มีปัญหาครับ! ผมจะบอกให้ทางเราดำเนินการตามแผนที่เตรียมไว้ทันที!”
หูเสี่ยนปินพูดเสริม “ผมเพิ่งคุยกับผู้อำนวยการหลินของฉางหยางเกมส์ ก่อนหน้านี้พวกเขากำลังยุ่งเรื่องการพัฒนาเกม BE QUIET เลยไม่มีเวลาว่าง แต่ตอนนี้น่าจะเตรียมกิจกรรมโปรโมชันสำหรับเกมเพลงรบโลหิตเรียบร้อยแล้ว คุณโทรไปถามเธอก็ได้ว่าจะอัปเดตเกมทั้งสองเกมพร้อมกันวันพรุ่งนี้ได้เลยหรือเปล่า”
ฉางโหยวรีบตอบทันที “ได้ครับๆ! ผมจะโทรถามเดี๋ยวนี้เลย!”
หลังวางสาย ฉางโหยวก็โทรหาหลินหวานเพื่อยืนยันว่า ฉางหยางเกมส์เตรียมกิจกรรมโปรโมชันสำหรับเกมเพลงรบโลหิตให้มือถือของบริษัท OTTO เรียบร้อยแล้ว
จู่ๆ ฉางโหยวก็รู้สึกโล่งใจสุดๆ แถมยังตื้นตันใจไม่น้อย
เถิงต๋าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่โคตรจะอบอุ่นเลย!
อะไรคือจุดขายของเถิงต๋าล่ะ แน่นอนว่าต้องเป็นเกม!
เห็นได้ชัดว่าธุรกิจเกมเป็นหัวใจสำคัญของเถิงต๋าคอร์ปอเรชั่น ทั้งยังเป็นรากฐานให้กิจการอื่นๆ ด้วย
ฉางโหยวรู้ดีว่าสำหรับบอสเผย ร้านโมหยูอินเทอร์เน็ต นี่เฟิงโลจิสติกส์และ OTTO… ขาดทุนอยู่ มีแค่กิจการเกมอย่างเดียวที่ไม่ขาดทุน!
หลังจากรู้ว่าเถิงต๋าจะทำโหมดเฟรมเรตสูงของเกม GOG ซึ่งเป็นเกมใหม่ล่าสุดให้กับบริษัท OTTO โดยเฉพาะ ฉางโหยวก็รู้สึกเหมือนตัวเองได้กินยาระงับประสาท
เขารีบสั่งลูกน้องให้เตรียมตัวอัปโหลดเครื่องมือการขายต่างๆ ทันที!
ตัวอย่างเช่น พวกเขาเตรียมอัปโหลดแบนเนอร์ขนาดใหญ่บนหน้าข้อมูลมือถือ OTTO E1 ซึ่งมีเนื้อหาว่า มือถือออฟฟิเชียลสำหรับเกมใหม่ล่าสุดของเถิงต๋า ‘Glory of Gods’ ซึ่งมีโหมดเฟรมเรตสูงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มือถือรุ่นนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่ล้ำลึกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!
เครื่องมือการขายต่างๆ ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ฉางโหยวจะรีบโฆษณาไม่ได้
เขาไม่ควรปล่อยข่าวเรื่องนี้ทั้งที่เกม GOG ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
แต่ตอนนี้ได้เวลาประโคมข่าวแล้ว!
เอาเข้าจริงเกมไคลแอนต์ของ GOG ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและทดสอบ แต่ก่อนไปเมืองนอก หลี่หย่าต๋า ตัดสินใจว่าจะปล่อยเวอร์ชันมือถือออกไปก่อน
เวอร์ชันมือถือกับเวอร์ชันไคลแอนต์นั้นยังไม่เชื่อมต่อกัน แต่เวอร์ชันมือถือมีเนื้อหาน้อยกว่า เลยปล่อยได้ก่อนหนึ่งสัปดาห์
ขณะเดียวกันการปล่อยเวอร์ชันมือถือออกไปก่อนก็แปลว่าเกม GOG สามารถเลี่ยงสงครามในอุตสาหกรรมเกมไคลแอนต์ที่ IOI ยังถือแต้มต่ออยู่ได้
ฉางโหยวเคยหวังให้หลินหวานทำเกม BE QUIET ออกมาเป็นเวอร์ชันมือถือ แต่หลินหวานบอกว่าพวกเขามีเวลาไม่พอ หนำซ้ำการปรับเกม BE QUIET ให้เป็นเวอร์ชันมือถือก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องแขวนความคิดนี้เอาไว้ก่อน
ฉางโหยวยังเคยหวังอยากให้เกมดังๆ หลายเกมอย่างฐานทัพกลางทะเลทำเป็นเวอร์ชันมือถือ แต่ความหวังทั้งหมดก็ถูกปัดตกไปเพราะทั้งเถิงต๋าและฉางหยางเกมส์มีกำลังคนไม่พอ
แต่เขาก็ไม่ได้กังวลอะไร ยังไงซะเกมทั้งหมดก็เป็นเกมของเถิงต๋า ไม่ว่าพวกเขาจะทำเป็นเวอร์ชันมือถือเมื่อไหร่ ยังไงบริษัท OTTO ก็เป็นฝ่ายได้รับผลประโยชน์
ตอนนี้แค่มีเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันปรับปรุงและโหมดเฟรมเรตสูงของเกม GOG ในมือก็เพียงพอแล้ว
ด้วยปัญหาใหญ่โตสองสามเรื่อง เหล่าวาฬจำนวนมากยังคงเล่นเกมเพลงรบโลหิตอยู่ กำลังการซื้อของพวกเขาถูกกดไว้เพราะในเกมแทบจะไม่มีช่องทางให้พวกเขาได้ใช้เงิน
ถ้าโฆษณามือถือ OTTO E1 ในเกม เหล่าวาฬจำนวนไม่น้อยน่าจะให้ความสนใจแน่!
เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ฉางโหยวก็เลิกวิตก
เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมบอสเผยถึงย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ต้องกังวลเรื่องยอดขายหรือคิดจะลดราคามือถือ แต่ให้หันมาสนใจเรื่องสต๊อกแทน
เพราะอีกไม่นานยอดขายของบริษัท OTTO ต้องพุ่งทะลุเพดานแน่นอน!