ขณะเดียวกันที่บริษัท OTTO
ฉางโหย่วอยู่ไม่สุข เขาเดินไปมารอบออฟฟิศ
“ติดต่อบอสเผยไม่ได้เลย
“หวงซื่อปั๋วก็ติดต่อบอสไม่ได้เหมือนกัน
“ช่างเถอะ ตัดสินใจเองแล้วกัน”
หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ ฉางโหย่วก็ตัดสินใจไม่รออีกต่อไป เขาเรียกทุกคนเข้าประชุมทันที
“สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
“วันพรุ่งนี้ที่สดใสเข้าฉายรอบแรกตอนเที่ยงคืนและได้กระแสตอบรับดีมาก เกินกว่าที่เราคาดไว้ในตอนแรกอีก
“เราเริ่มขั้นที่สองของแผนได้
“เสี่ยวเจียง อธิบายให้ทุกคนฟังที”
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ แจกแผนงานให้ทุกคนบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินไปหยุดหน้าจอโปรเจ็กเตอร์แล้วเริ่มอธิบายแผนที่วางเอาไว้
“เราออกแบบตัวเครื่องด้านนอกของมือถือไว้หลายแบบ
“ทุกคนรู้ว่าการออกแบบส่วนใหญ่จะดูเหมือนๆ กันไปหมดเพราะบอสเผยวางแนวทางไว้ให้เราชัดเจนว่าต้องเด่นสะดุดตาและมีโลโก้ขนาดใหญ่
“ดังนั้นเราจึงออกแบบโลโก้ออกมาหลายตัวแล้วจับคู่กับสีตัวเครื่องของมือถือ
“เราเลือกโลโก้ตัวที่เรียบๆ ไว้ก่อน แต่ตอนนี้วันพรุ่งนี้ที่สดใสออกฉายแล้ว เราต้องปรับแผนตาม
“ก่อนหน้านี้ทีมสร้างวันพรุ่งนี้ที่สดใสขอให้เราทำโลโก้สำหรับเอาไปใช้ถ่ายโฆษณา โฆษณาที่ว่าถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยและไปปรากฏในหนังแล้ว เช่นตัวนี้”
เสี่ยวเจียงกดปุ่มเปิดโฆษณาบนจอโปรเจ็กเตอร์
โดรนบินไปรับอาหาร แต่จุดหมายอยู่ไกลเกินไป เจ้าของกิจการเดลิเวอรี่เลยหยิบมือถือมาต่อสายกับโดรนเพื่อชาร์จแบตให้โดรน เสร็จแล้วโดรนก็บินขึ้นฟ้า ข้ามน้ำข้ามทะเล ระหว่างทางเจอพายุทราย พายุหมุน และสภาพอากาศสุดโต่งหลายๆ แบบ หลังกลับจากส่งอาหาร โดรนยังมีแบตเหลืออีกสามสิบเปอร์เซ็นต์
โลโก้มือถือเครื่องนั้นเป็นหนึ่งในโลโก้ที่บริษัท OTTO ไม่ได้เลือกใช้
โลโก้นั้นคือโลโก้ที่ดูล้ำสมัยที่สุด เกิดจากการนำคำว่า OTTO มาจัดวางให้เหมือนสัญลักษณ์อินฟินิตี้และออกแบบให้มีความเป็นโพสต์โมเดิร์น
เสี่ยวเจียงพูดต่อ “เราไม่ได้เลือกโลโก้นี้เพราะมองว่าดูฉูดฉาดเกินไป ไม่เหมาะกับมือถือตัวใหม่ของแบรนด์
“แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ ผู้ชมให้การตอบรับโฆษณาและรูปลักษณ์ของมือถือค่อนข้างดีทีเดียว!
“แล้วหนังก็น่าจะเป็นกระแสขึ้นอีกในอนาคต ถ้าเราปล่อยมือถือที่หน้าตาเหมือนกันออกไป น่าจะเรียกความสนใจจากแฟนหนังได้
“เราผลิตมือถือรุ่นนี้ออกมาไม่มาก เพราะงั้นก็ควรจะทำเป็นสินค้าให้แฟนๆ สะสม”
พอเสี่ยวเจียงพูดจบ ทุกคนก็เริ่มถกกันทันที
“ฉันว่าโลโก้นี้ดูดีที่สุดตั้งแต่แรก!”
“โฆษณามือถือในหนังดูดีมาก ถึงหนังจะออกโรงแล้ว เราก็ยังเอาคลิปโฆษณาไปลงตามเว็บไซต์หรือรายการทีวีได้ แบบนั้นก็จะช่วยประหยัดได้มาก แสดงว่าเราต้องทำมือถือให้หน้าตาเหมือนในโฆษณา!”
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน คงน่าเสียดายแย่ถ้าไม่เอาโฆษณาดีๆ แบบนี้มาใช้ประโยชน์”
“เอ่อ… บอสเผยคิดว่ายังไงเหรอครับบอสฉาง”
ทุกคนหันไปมองฉางโหย่ว
ฉางโหย่วดูลังเลใจ “ผมติดต่อบอสเผยไม่ได้เลย ผมว่าช่วงนี้บอสน่าจะยุ่งมาก”
ทุกคนหันมองกันด้วยแววตาสงสัย
“ผมว่าบอสเผยไม่น่าจะปฏิเสธไอเดียนี้”
“เห็นว่าบอสเผยเป็นคนเขียนบทเอง แถมยังเป็นคนห้ามไม่ให้รับสปอนเซอร์โฆษณา หรือว่าบอสเผยวางแผนจะทำแบบนี้อยู่แล้วตั้งแต่แรก”
“อืม ก็เป็นไปได้นะ”
ทุกคนลงความเห็นว่าควรจะใช้โฆษณาตัวนี้เพราะถ่ายไว้แล้ว และได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี
ฉางโหย่วตัดสินใจทันที “โอเค ถ้าอย่างนั้นก็ใช้โลโก้กับทำรูปลักษณ์ตามนี้ คิดแผนใหม่ตามโลโก้ให้เร็วที่สุดแล้วส่งให้โรงงาน!”
…
บริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
เฮ่อเต๋อเซิ่งมองจอมือถือด้วยสีหน้าอึดอัดใจ
“บอสเผยยังไม่ตอบสักข้อความเลย
“โทรไป…ดีมั้ย
“บอสเผยน่าจะยุ่งอยู่รึเปล่า ถ้าไปรบกวนจะเป็นการเสียมารยาท”
ช่วงที่ผ่านมา แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ กระแสดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากเฮ่อเต๋อเซิ่งจะอัดทุนโปรโมตแล้ว นักลงทุนคนอื่นๆ ยังควักกระเป๋าตัวเองช่วยโปรโมตแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ด้วย
เหตุผลก็ไม่มีอะไรเลย ยิ่งแอปดังเท่าไหร่ บริษัทซวี่เต๋อศึกษาก็ยิ่งอยากจ่าย!
เฮ่อเต๋อเซิ่งทำตามที่บอสเผยสั่งไว้ โดยทยอยขายหุ้นแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ออกไปทีละนิด
เขาเป็นสมาชิกหลักของทีมสร้างแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ และเป็นผู้จัดการบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง จึงเป็นคนดูแลหุ้นส่วนให้บอสเผย
บอสเผยยุ่งมาก ไม่มีทางเข้าประชุมและตามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทุกครั้งที่ขายหุ้นได้
หน้าที่ของเฮ่อเต๋อเซิ่งในการประชุมผู้ถือหุ้นไม่มีอะไรมาก แค่ต้องคุยเรื่องการซื้อขายหุ้นกับตัวแทนจากบริษัทซวี่เต๋อศึกษา
ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ เริ่มขายหุ้นบ้างแล้วเหมือนกัน บริษัทที่บริษัทซวี่เต๋อศึกษาตั้งขึ้นมาสำหรับดูแลแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ เริ่มถือหุ้นเยอะขึ้นเรื่อยๆ
นักลงทุนที่ลงทุนสามล้านหยวนกับโปรเจ็กต์นี้ในตอนแรกขายหุ้นรวดเดียวหมด ได้เงินมาแปดล้านหยวน กำไรมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์!
ตอนนี้มูลค่าของแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ใกล้จะแตะสี่สิบล้านหยวนแล้ว พอนักลงทุนเริ่มขายหุ้น บริษัทซวี่เต๋อศึกษาก็พยายามต่อราคา แต่เหล่านักลงทุนก็ยังได้กำไรงามอยู่ดี
บอกได้เลยว่าบริษัทซวี่เต๋อศึกษาน่าจะกำลังโดนฝูงจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์หลอกอยู่
แน่นอนว่าจะบอกว่าโดนโกงก็ไม่ถูกนัก เพราะบริษัทซวี่เต๋อศึกษาก็อยากได้แอปจริงๆ
บริษัทซวี่เต๋อศึกษาที่เป็นองค์กรทางการศึกษาผู้มั่งมีอยากได้แอปพลิเคชันที่สามารถใช้ขยายอิทธิพลออกไปได้อีกมาตลอด ดังนั้นการซื้อแอปจึงเหมือนเป็นการส่งเสริมชื่อเสียงของพวกเขาเพิ่ม
บอสหลี่กับนักลงทุนคนอื่นๆ อยากทำกำไร ส่วนบริษัทซวี่เต๋อศึกษาอยากสร้างชื่อเสียง ต่างฝ่ายต่างเต็มใจ ไม่มีอะไรให้ว่า
แน่นอนว่าเฮ่อเต๋อเซิ่งก็เปิดโปงนักลงทุนไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าทุกคนจะถอนทุนคืนตั้งแต่แรก
ตอนนี้บอสหลี่กับคนอื่นๆ วางทางหนีทีไล่ไว้แล้ว เฮ่อเต๋อเซิ่งก็ต้องตามน้ำ ไม่มีเหตุผลอะไรให้ไปยุ่งวุ่นวาย
เพื่อให้ได้สิทธิ์ควบคุมโปรเจ็กต์เต็มที่ บริษัทซวี่เต๋อศึกษาจึงอยากซื้อหุ้นทั้งหมดมาก โดยเฉพาะหุ้นที่เฮ่อเต๋อเซิ่งถืออยู่
เฮ่อเต๋อเซิ่งเลยเข้าใจว่าทำไมบอสเผยถึงให้ทยอยขายหุ้นออกทีละนิด
ชัดเจนมากว่าบอสอยากทำกำไรให้ได้สูงที่สุด!
ยิ่งแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ดังมากขึ้นและบริษัทซวี่เต๋อศึกษาถือหุ้นมากขึ้น ราคาหุ้นส่วนที่เหลืออยู่ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีกโน!วลกูดoทคอม
หลังจากขายออกไปเรื่อยๆ เฮ่อเต๋อเซิ่งก็ถือหุ้นไว้ในจำนวนต่ำสุดที่บอสเผยบอกให้ถือ ซึ่งคือประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์
เพื่อให้ได้สิทธิ์ควบคุมบริษัทและมีหุ้นในมือถึงหกสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ บริษัทซวี่เต๋อยอมทุ่มเงินก้อนโตซื้อหุ้นส่วนที่เฮ่อเต๋อเซิ่งขายให้
จากมูลค่าโปรเจ็กต์ที่พุ่งไปเกือบสี่สิบล้านหยวน เฮ่อเต๋อเซิ่งขายหุ้นออกไปได้ราคาราวๆ สิบห้าล้านหยวน หักเงินลงทุนตั้งต้นที่สองล้านหยวนแล้วก็ได้กำไรกว่าสิบล้านหยวน แถมยังถือหุ้นบริษัทอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์
เฮ่อเต๋อเซิ่งกำลังคิดไม่ตกว่าจะขายหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือทิ้งดีมั้ย
ถ้าขายหุ้นส่วนนี้ออกไปก็จะได้เงินมาก้อนโต!
แน่นอนว่าเฮ่อเต๋อเซิ่งไม่กล้าตัดสินใจเอง เพราะบอสเผยบอกให้เหลือถือในมือไว้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์
แต่การถือหุ้นไว้แบบนี้ทำให้เฮ่อเต๋อเซิ่งรู้สึกเหมือนทำกำไรจากโปรเจ็กต์ได้ไม่เต็มที่ ดูขัดกับความตั้งใจเดิมของบอสเผย
พูดอีกอย่างคือ… เขารู้สึกว่าทำงานได้ไม่สมบูรณ์
หลังจากคิดอยู่นาน เฮ่อเต๋อเซิ่งก็ตัดสินใจโทรหาบอสเผย
…
เผยเชียนนอนหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียงตอนที่มือถือดังขึ้น
“หือ เฮ่อเต๋อเซิ่งโทรมาเหรอ”
เผยเชียนรีบรับสาย
“ฮัลโหล มีอะไร”
เฮ่อเต๋อเซิ่งที่อยู่ปลายสายผงะไป เขาไม่คิดว่าบอสเผยจะรับสายเร็วขนาดนี้และดูจะไม่ได้ยุ่งมากด้วย
“อ๋อ บอสเผยครับ ผมขายหุ้นตามที่บอสบอกครบแล้วนะครับ ตอนนี้เหลือไว้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เราควรขายที่เหลือต่อดีมั้ยครับ อาจจะได้เงินอีกสี่ถึงห้าล้านหยวน”
เผยเชียน “…?”
เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าเฮ่อเต๋อเซิ่งพูดอะไรอยู่
ขายหุ้นออกไปหมดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้าขายอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะได้เพิ่มอีกสี่ถึงห้าล้านหยวนด้วย
เหมือนก่อนหน้านี้จะมีหุ้นอยู่ประมาณหกสิบเปอร์เซ็นต์…
นี่ฉันได้เงินเท่าไหร่เนี่ยกับการขายหุ้นออกไปเพื่อทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนคนอื่นๆ!!!
เผยเชียนรีบถาม “มูลค่าโปรเจ็กต์ตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่”
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบตามตรง “ประมาณสี่สิบล้านหยวนครับบอสเผย”
เผยเชียน “?”
เดี๋ยวนะ มันไม่ควรเป็นแบบนั้นสิ
เผยเชียนงงหนักมาก ฉันขายหุ้นส่วนตัวเองออกไปเรื่อยๆ คนอื่นๆ ควรจะคิดว่าฉันพยายามชิ่งแล้วขายหุ้นตาม ความเชื่อมั่นของทุกคนที่มีต่อโปรเจ็กต์ก็จะสั่นคลอน มูลค่าประเมินของบริษัทก็จะตกฮวบ แบบนั้นก็ไม่น่าจะมีใครอยากซื้อหุ้นฉัน…
แต่มูลค่าประเมินบริษัทกลับพุ่งขึ้นทั้งๆ ที่ฉันขายหุ้นออกไปขนาดนี้เนี่ยนะ
เท่าที่จำได้ ก่อนหน้านี้มูลค่าประเมินของบริษัทอยู่ที่ยี่สิบห้าล้านหยวนเอง
เผยเชียนเงียบไป ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี
เฮ่อเต๋อเซิ่งไม่กล้าเร่งขอคำตอบ เขาคิดว่าบอสเผยน่าจะกำลังคิดถึงปัญหาด้านการลงทุนในระดับที่ลึกขึ้นหรือวางแผนกลยุทธ์สำหรับอนาคตอยู่
ครึ่งนาทีต่อมา เผยเชียนก็ถามขึ้น “แล้วหุ้นของบอสหลี่ล่ะ”
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบ “ทำเหมือนเราครับ ขายทั้งหมดให้บริษัทซวี่เต๋อศึกษาไปแล้ว บริษัทซวี่เต๋อศึกษาให้ราคาหุ้นสูงมาก ตอนนี้กุมหุ้นอยู่หกสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์
“เพราะงั้นบริษัทซวี่เต๋อศึกษาเลยไม่ได้อยากซื้อหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เราถืออยู่มากขนาดนั้น น่าจะไม่ยอมให้ราคาเท่าก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถ้าขาย ผมว่าก็น่าจะได้สักสี่ถึงห้าล้านหยวน”
ในหัวของเผยเชียนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
บริษัทซวี่เต๋อศึกษานี่มันใครกัน
ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อตอนพูดเรื่องนักลงทุนคนอื่นๆ
เผยเชียนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถึงบางอ้อ
ซวยแล้ว ฉันสร้างกระแสมากเกินไปจนเกิดปัญหาใหญ่! ตอนนี้มีคนนอกเข้ามายุ่งเพิ่ม!
บริษัทซวี่เต๋อศึกษาน่าจะเห็นแอปพลิเคชันเลยอยากเข้าซื้อต่อกิจการ พอดีกับที่มีนักลงทุนอยากขายหุ้น ก็เลยเหมาไปหมด!
เผยเชียนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาจึงรีบถาม “เราได้เงินเท่าไหร่จากการขายหุ้น”
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบ “ประมาณ 15.6 ล้านหยวนครับ ขอผมเช็กตัวเลขดูอีกที รอสักครู่นะครับ…”
เผยเชียนรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา “ไม่ต้องก็ได้…”
จบเห่แล้ว!
สถานการณ์ไปไกลเกินควบคุมแล้ว!
ตอนแรกตั้งเป้าไว้ว่าจะขาดทุนสักสองล้านหยวน แต่หลังจากเข้าไปปลุกปั่น ดันกลายเป็นทำเงินได้สิบสามล้านหยวนแทน!
พวกแกทำอะไรกัน!
เผยเชียนพยายามใจเย็น จากนั้นก็กระแอมกระไอ “แล้วถ้า… คือ… ถ้าอยากซื้อหุ้นคืนทั้งหมด จะ…ใช้เงินสักเท่าไหร่”
เฮ่อเต๋อเซิ่งหัวเราะ “บอสเผยนี่มีอารมณ์ขันจริงๆ นะครับ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย บริษัทซวี่เต๋อศึกษาอยากได้สิทธิ์ควบคุมโปรเจ็กต์ และตอนนี้ก็ได้ไปแล้ว ทำไมพวกเขาจะขายหุ้นออกล่ะครับ”
เผยเชียน “…ก็ไม่มีอะไรหรอก”
เห็นบอสเผยเหมือนกำลังจะวางสาย เฮ่อเต๋อเซิ่งก็รีบถามขึ้นอีกรอบ “แล้วเราควรขายหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือมั้ยครับบอสเผย”
เผยเชียน “ไม่ต้อง!”
‘ติ๊ด’ เผยเชียนกดตัดสาย
เฮ่อเต๋อเซิ่งมองหน้าจอมือถือด้วยความงุนงง “สงสัยบอสเผยจะมีแผนสำหรับหุ้นที่เหลือเอาไว้ แต่ทำไม…ฉันกลับรู้สึกว่าบอสเผยดูไม่ค่อยพอใจเลย”
