วันที่ 21 กุมภาพันธ์ วันจันทร์อีกวันที่ไม่อยากไปทำงานเลย
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เผยเชียนเจ็บปวดกับกิจการโมหยูที่หลินเฉิงจึงนอนเป็นซากอยู่บนเตียงสองวันเต็ม
แน่นอนว่าก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่ทำอะไรเลยในช่วงสองวันที่ผ่านมา เพราะก็คอยจับตาดูสถานการณ์ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่หลินเชิงกับแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ อยู่
ยิ่งจับตาดูก็ยิ่งเห็นความเลวร้าย สถานการณ์ลุกลามไปไกลเกินควบคุม!
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่หลินเฉิงมีลูกค้าล้นทะลักช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แบรนด์ ROF กับโมหยูเดลิเวอรี่ไม่มีแววว่ากระแสจะซาลงเลย บอกได้คำเดียวเลยว่า กำไร!
มีเรื่องแปลกๆ เกิดกับแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ด้วยเหมือนกัน กระแสความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเผยเชียนเริ่มวิตกกังวล เขารู้สึกเหมือนบริษัทจะขึ้นชื่อในตลาดหุ้นได้ทุกเมื่อ
แน่นอนเผยเชียนรู้ว่าบริษัทจะต้องดำเนินกิจการนานสามปีถึงจะมีสิทธิ์ขึ้นชื่อในตลาดหุ้น แต่จะปล่อยให้เติบโตต่อไปแบบนี้ก็ไม่ได้…
เขารู้สึกอับจนหนทาง ช่วงหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา เขาเริ่มคิดแล้วว่าจะเอาเงินที่ได้เพิ่มไปผลาญตรงไหนดี
เปิดจุดบริการนี่เฟิงที่หลินเฉิงอีกสักสิบสาขาดีมั้ย
หรือจะเพิ่มทุนให้โปรเจ็กต์สโมสรอีสปอร์ตที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างของจางหยวน
โอ๊ย เหนื่อยใจเหลือเกิน!
เผยเชียนใช้เวลาตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์คิดเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้ทางออกที่ดีพอ เลยได้แต่พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน
วันจันทร์มาถึง เขาทำได้แค่รีบลุกจากเตียง ปาดน้ำตา แล้วทำงานต่อ
วันนี้มีเรื่องสำคัญกว่าให้จัดการ
หนังจะออกฉายวันพรุ่งนี้แล้ว แต่เผยเชียนไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไง
อย่างน้อยถ้ามีฉายรอบปฐมทัศน์แล้วออกมาแย่ก็ยังพอวางใจได้
แต่ก็กลัวว่าถ้ารอบปฐมทัศน์ได้กระแสตอบรับดีจนตั๋วรอบฉายวันแรกขายหมดเกลี้ยง คนมาต่อแถวเรียงรายรอดู ต้องเพิ่มรอบฉายขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นวงจรอุบาทว์ขึ้นมาจะทำยังไง
ก้าวพลาดแม้แต่ก้าวเดียวอาจทำให้ทุกข์ระทมไปชั่วกาลนาน
ดังนั้นหลังจากครุ่นคิดดู เผยเชียนก็ตัดสินใจไม่จัดฉายรอบปฐมทัศน์
ในเมื่อเลือกวันแปลกๆ อย่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ไปแล้วก็เท่ากับรอวัดกันไปเลย วันฉายหนัง ยอดรายได้กับชื่อเสียงจะต่ำเตี้ย สถานการณ์จะแย่ลงเรื่อยๆ จนทำเงินไม่ได้เลย
นี่คือภาพในฝันของบอสเผย
“ช่วงนี้ฉันยุ่งเกินไป ไม่มีเวลาไปเช็กความคืบหน้าหนังเลย ไม่รู้ว่าเตรียมการกันเป็นยังไงบ้าง
“เรื่องย่อกับเวลาฉายน่าจะลงเว็บหนังแล้วแหละมั้งตอนนี้
“ปล่อยให้จูเสี่ยวเช่อกับหวงซื่อปั๋วจัดการแล้วกัน ไม่รู้ว่าที่พวกนั้นทำจะตรงกับที่ฉันคิดมั้ย
“ว่ากันตามตรงแล้วทั้งสองยังใหม่และขาดทรัพยากร พวกเขาไม่น่าจะได้รอบฉายดีๆ แล้วก็ไม่ได้ทุ่มเทกับการโปรโมตขนาดนั้นด้วย
“ถ้างั้นก็น่าจะปลอดภัย
“ต้องรอดู ระหว่างนี้ต้องดูว่าหนังที่ออกฉายวันเดียวกันเป็นยังไง ดีกว่าวันพรุ่งนี้ที่สดใสรึเปล่า”
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็ดาวน์โหลดแอปซื้อตั๋วหนังโก่วเหยี่ยนลงมือถือ
มีหลักๆ อยู่สามอย่างที่เขาอยากเช็กดู
การโฆษณาของวันพรุ่งนี้ที่สดใส
สัดส่วนการฉายของวันพรุ่งนี้ที่สุดใส
หนังที่ออกฉายช่วงเดียวกันมีเรื่องที่ดีกว่ามั้ย
เขาต้องเช็กดูสามอย่างนี้เพื่อที่จะบอกได้ว่าหนังจะเจ๊งรึเปล่า
เผยเชียนเข้าแอปโก่วเหยี่ยนเวอร์ชันโปรแล้วเลือกหมวด ‘เร็วๆ นี้’ วันพรุ่งนี้ที่สดใสอยู่ในหมวดนี้จริงๆ ด้วย
เขาอึ้งไปเมื่อรู้สึกได้ว่ามีอะไรแปลกๆ
วันพรุ่งนี้ที่สดใสอยู่บนสุดของหมวด ‘เร็วๆ นี้’ แถมยังมีแถบคาดติดไว้ว่ามีสามหมื่นเจ็ดพันคนอยากดูเรื่องนี้!
พูดอีกอย่างคือ จากหนังทั้งหมดที่จะเข้าฉายช่วงนี้ วันพรุ่งนี้ที่สดใสเป็นหนังที่คนตั้งตารอมากที่สุด!
เผยเชียนรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล!
แต่ในฐานะคนที่ผ่านศึกมานับร้อย บอสเผยจึงสงบสติได้อย่างรวดเร็ว
เขารีบเลื่อนดูหนังเรื่องอื่นๆ แล้วพบว่าไม่มีเรื่องไหนน่าสนใจเลย
หนังเรื่องอื่นๆ มีทั้งแนวโรแมนติก คอเมดี้ แอกชัน ดราม่า แต่ก็เป็นหนังจำพวกที่เห็นชื่อกับโปสเตอร์แล้วไม่ได้รู้สึกอยากดู
ปกติช่วงนี้ต้องมีหนังสัญชาติตะวันตกเข้าฉายบ้าง แต่กลับไม่มีเลย
“ซวยอะไรขนาดนี้ ไม่มีหนังตะวันตกเข้าฉายช่วงนี้เลยเหรอ!”
เผยเชียนอยากทุบอกโวยวายเหมือนคิงคอง
“มองในแง่ดี การที่วันพรุ่งนี้ที่สดใสได้ขึ้นเป็นหนังที่มีคนตั้งตารอมากที่สุดในแอปก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น เพราะหนังเรื่องอื่นๆ ก็ดูกาก แค่วันพรุ่งนี้ที่สดใสชนะหนังพวกนั้น ไม่ได้หมายความว่าหนังจะไม่กาก…
“เดี๋ยวนะ
“การที่หนังเรื่องอื่นๆ กากหมดก็ไม่ใช่เรื่องดีเหมือนกัน…
“แบบนั้นก็หมายความว่าวันพรุ่งนี้ที่สดใสไม่มีคู่แข่งเลยสิ
“ไม่สิ มีหนังที่กำลังฉายอยู่ด้วยนี่นา”
เผยเชียนเปลี่ยนไปหมวด ‘กำลังฉาย’ เพื่อดูว่ามีหนังเรื่องอะไรบ้าง
ตอนนี้หนังที่ออกฉายช่วงตรุษจีนและวาเลนไทน์ยังมีรอบฉายอยู่ เทียบกับหนังพวกนั้นแล้ว วันพรุ่งนี้ที่สดใสก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร
เผยเชียนรีบเลื่อนไปดูหนังที่กระแสดีหน่อย
‘ปาร์ตี้ร้อนรัก’ เป็นหนังรักนำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มสาวมากเสน่ห์ ออกฉายได้แปดวัน ได้คะแนนอยู่ที่ 7.1 ทำรายได้วันแรกไป 18.4 ล้าน รายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 127 ล้านหยวน คาดว่าจะทำกำไรรวมทั้งหมดที่ 190 ล้านหยวน
‘คู่พิฆาต’ หนังสัญชาติตะวันตก ออกฉายได้สิบวัน ได้คะแนนอยู่ที่ 7.5 ทำรายได้วันแรกไป 14.46 ล้าน รายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 87.77 ล้านหยวน คาดว่าจะทำกำไรรวมทั้งหมดที่ 135 ล้านหยวน
‘ตำนานรัตติกาล’ หนังแอกชันสัญชาติจีนสร้างจากนิยายชื่อดัง ออกฉายได้สิบห้าวัน ได้คะแนนอยู่ที่ 6.8 ทำรายได้วันแรกไป 17.68 ล้าน รายได้รวมทั้งหมดอยู่ที่ 124 ล้านหยวน คาดว่าจะทำกำไรรวมทั้งหมดที่ 138 ล้านหยวน
เรื่องอื่นๆ ไม่ต้องเช็กข้อมูลเพราะเทียบกับสามเรื่องนี้ไม่ได้
หลังจากดูข้อมูลหนังทั้งสามเรื่อง เผยเชียนก็โล่งใจขึ้นมาได้นิดหน่อย
มีเรื่องหนึ่งใช้นักแสดงหนุ่มหล่อสาวสวย เรื่องหนึ่งเป็นหนังชาติตะวันตก อีกเรื่องเป็นหนังจีนสร้างจากนิยายชื่อดัง แต่ละเรื่องโดดเด่นในหมวดหมู่ของตัวเองและดูน่าสนุกกว่าวันพรุ่งนี้ที่สดใสหลายเท่า
ทั้งสามเรื่องเข้าโรงมาได้สักพักแล้ว แต่ก็ยังมีคนเข้าไปดูเรื่อยๆ แสดงว่าน่าจะขัดขาวันพรุ่งนี้สดใสได้ดีทีเดียว เผยเชียนรู้สึกพอใจมาก
เขากดเข้าไปที่หน้าข้อมูลวันพรุ่งนี้ที่สดใสอีกครั้ง เพื่อดูว่าเตรียมอะไรไว้ใช้สำหรับการโฆษณาบ้าง
‘วันพรุ่งนี้ที่สดใส’
‘Tomorrow is beautiful’
Film / Sci-fi / Suspense / Drama / 2D
ลู่จือเหยา / จางจู่ถิง / หลินหรูหยี / จูเสี่ยวเช่อ
เข้าฉายวันที่ 22-2-2011 / 93 นาที
มีฉากหลังเครดิตท้ายเรื่องสองฉาก
เนื้อเรื่องย่อ пᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ
ในโลกยุคอนาคต ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้วิถีชีวิตของคนธรรมดาย่ำแย่ลง ผู้คนต้องกินแต่อาหารขยะ มีเวลาออกไปเดินเล่นด้านนอกแค่สามชั่วโมง และต้องทนดูโฆษณาที่โผล่มาแทบทุกที่ คู่รักคู่หนึ่ง (นำแสดงโดยลู่จือเหยาและหลินหรูหยี) เริ่มรู้สึกไม่พอใจความเป็นอยู่ของตัวเอง พวกเขาตัดสินใจต่อสู้กับโชคชะตาอันไม่ยุติธรรมและไล่ตามความฝันด้วยใจกล้าแกร่ง แต่ทั้งสองไม่รู้เลยว่าโชคชะตาแบบใดที่รอคอยพวกเขาอยู่…
ถัดลงมามีรายชื่อทีมสร้าง ตัวอย่างหนัง และภาพบางส่วน
เผยเชียนพบชื่อตัวเองในรายชื่อทีมสร้าง ระบุว่าเป็นคนเขียนบท แต่ไม่มีรูปภาพ
“อืม… เรื่องย่อไม่ตรงใจเท่าไหร่ แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่ค่อยมีคนอ่านอยู่แล้ว”
เขาตั้งใจไว้ว่าจะใช้โปรโมตหนังด้วยคำโฆษณาที่ไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริง เช่น ‘หนังโรแมนติกไซไฟ’ หรือ ‘ซาบซึ้งกินใจ’ ถ้าทำแบบนั้น พอหนังออกฉาย คนดูก็จะคิดว่าตัวเองโดนหลอกให้เข้ามาดูและด่าหนังเละจนชื่อเสียงย่อยยับ
แต่บอสเผยไม่ควรลงไปจัดการเรื่องเล็กน้อยแบบนั้น แถมยังยุ่งมากจนลืมเรื่องพวกนี้ไปเลย
ถึงอย่างนั้นเมื่อพิจารณาจากข้อมูลหนังแล้ว เผยเชียนคิดว่ามันไม่น่าจะดึงดูดคนได้เท่าไหร่ และยังไงก็สายเกินกว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรอยู่ดี
ได้แต่ปล่อยให้เป็นไปตามนั้น
เผยเชียนเลื่อนลงมาอ่านคอมเมนต์
“ลู่จือเหยาเล่นด้วย ได้หนึ่งดาวชัวร์”
“จ๋าจู่ถีเลือกแสดงแต่หนังดีๆ หนังเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะแย่ รอดูไม่ไหวแล้ว!”
“แฟนหนังไซไฟมองหนังไซไฟผลิตในประเทศในแง่ดีมากเกินไป”
“ผู้กำกับเกรดบีกับพิษร้ายในวงการหนังพยายามบุกตลาดหนังไซไฟเหรอ จางจู่ถิงคนเดียวไม่น่าแบกไหว เจ๊งแน่!”
“นักแสดงจีนเล่นหนังเซ็ตติ้งต่างประเทศ แถมยังพากย์ภาษาอังกฤษแล้วมีซับจีนให้ Excuse me? หนังบ้าบออะไรวะเนี่ย!”
“นักแสดงไม่แย่ ไม่น่าจะขายได้แต่ก็ไม่น่าจะแย่ขนาดนั้น คงได้สักร้อยล้านอยู่หรอก”
“ไม่รู้เลยว่าหนังจะเป็นประมาณไหน แต่โปรโมตหนักมาก ไม่รู้ว่านักลงทุนจะขาดทุนยับเยินรึเปล่า…”
คอมเมนต์ที่ได้อ่านทำให้เผยเชียนรู้สึกดีใจผสมท้อใจ
หนังยังไม่ออกฉาย ผู้คนเลยแสดงความเห็นชัดเจนไม่ได้ ทำได้แค่ประเมินจากตัวอย่าง โปสเตอร์ รายชื่อนักแสดง และข้อมูลอื่นๆ
ลู่จือเหยายังคงเป็นประเด็นที่พูดถึงมากที่สุดของหนังเรื่องนี้
ถึงจางจู่ถิงจะเคยได้รับฉายาว่าเป็นราชาภาพยนตร์ แต่ตอนนี้กลายเป็นดาราตกยุคไปแล้ว ในสายตาของผู้ชมชาวจีน เขาไม่ได้ถือว่าเป็นนักแสดงชื่อดังอะไร กลับกันลู่จือเหยาที่ได้รับฉายาว่าเป็นพิษร้ายแห่งวงการหนังกลับเป็นนักแสดงหนุ่มระดับต้นๆ ของวงการ
แต่ชื่อเสียของลู่จือเหยาก็ทำให้ผู้ชมไม่คาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้
บางคนคิดว่าคนออกทุนหนังเรื่องนี้คงจะเจ๊งยับ ซึ่งก็ช่วยปลอบใจเผยเชียนได้ดี
คอมเมนต์ก่อนหนังออกฉายบอกอะไรไม่ได้มาก แต่ก็พอจะบอกได้คร่าวๆ ว่าคนดูสนับสนุนหนังเรื่องนี้รึเปล่า เท่าที่อ่านมาก็ถือว่าดีสำหรับเผยเชียนเลยทีเดียว
“เยี่ยม ขอแค่ชื่อเสียงตกต่ำ หนังก็ไม่มีทางขายออก
“ฉันลงทุนกับหนังเรื่องนี้ไปสามสิบล้านหยวน ต้องทำเงินให้ได้อย่างน้อยร้อยล้านหยวนถึงจะคืนทุน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย”
เผยเชียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขากำลังจะออกจากแอปพลิเคชัน แต่ก็นึกอะไรขึ้นได้ก่อน
ต้องดูตารางฉายหนัง!
ถ้ามีรอบฉายน้อย บวกกับคอมเมนต์ที่ได้อ่านเมื่อกี้ ก็มั่นใจได้ว่าหนังเจ๊งแน่นอน
เผยเชียนรีบกดไปที่หมวด ‘ตารางฉายหนัง’ เพื่อดูสัดส่วนการฉายหนังวันถัดไป
เขาตะลังงันไปเมื่อเห็นข้อมูลที่ปรากฏขึ้นมา
วันพรุ่งนี้ที่สดใสมีสัดส่วนการฉายอยู่ที่ 37.7%
เขากดเข้าไปดูเรื่องอื่นๆ ปาร์ตี้ร้อนรักมีสัดส่วนการฉายอยู่ที่ 24.6% คู่พิฆาตมีสัดส่วนการฉายอยู่ที่ 19.7% ตำนานรัตติกาลมีสัดส่วนการฉายอยู่ที่ 9.2% ส่วนเรื่องอื่นๆ อยู่ที่ 0%
เผยเชียนกดรีเฟรชหน้าข้อมูลอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าสัดส่วนการฉายของวันพรุ่งนี้ที่สดใสอยู่ที่ 37.7% จริงๆ เขาคิดว่าตัวเองอาจจะตาฝาดแล้วเห็นจุดทศนิยมเคลื่อน
WTF???
เผยเชียนทั้งงงทั้งตกใจ อยากจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ทำไมถึงมีคนตั้งสามหมื่นเจ็ดพันคนรอดูวันพรุ่งนี้ที่สดใส
ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย
หวงซื่อปั๋ว จูเสี่ยวเช่อ กับทีมงานเฟยหวงสตูดิโอไม่น่าจะมีทรัพยากรเพียงพอที่จะโฆษณาหนังได้ขนาดนี้
พวกนั้นน่าจะให้บริษัทอื่นช่วยโฆษณาให้ แต่คงโดนขออะไรเยอะแยะเป็นข้อแลกเปลี่ยน และพวกหวงซื่อปั๋วก็ไม่น่าปิดบังไม่รายงานเขา
พอเห็นสัดส่วนการฉายหนังในตอนนี้แล้ว เผยเชียนก็ตระหนักว่าคนที่โปรโมตหนังให้ไม่ใช่หวงซื่อปั๋วหรือจูเสี่ยวเช่อแน่ สองคนนั้นไม่มีทางขอสัดส่วนการฉายสูงขนาดนี้ได้!
ปัญหาใหญ่
เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำบางอย่าง!