บ่ายสามโมง
ชุยเกิ่งวางเครื่องเกมในมือลงแล้วหันไปมองนาฬิกาในห้องนันทนาการ
“ไม่มีใครมายุ่งอะไรกับฉันจริงๆ เหรอ
“ถ้าไม่มีอะไร ฉันกลับแล้วจริงๆ ด้วย”
ชุยเกิ่งทั้งงงและทำใจเชื่อไม่ลง
เขาอาจจะรู้สึก ‘จะอะไรก็มาเถอะ’ ตอนที่เข้ามาในห้องนันทนาการช่วงเช้า แต่ก็แอบคิดว่าอาจจะมีคนเปิดประตูเข้ามาบอกให้ ‘เริ่มศึกษาเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋า’ ได้แล้ว
พริบตาเดียวเขาก็เล่นเกมถึงเที่ยง อู๋ปินเปิดประตูเข้ามา แต่ก็แค่เอาอาหารจากโมหยูเดลิเวอรี่มาให้
หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ชุยเกิ่งก็นอนเล่นอยู่บนโซฟาในห้องนันทนาการ แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาเลยตลอดทั้งบ่าย
เขาเลยเล่นเกมต่อจนเกือบบ่ายสาม
เล่นต่อไปอีกไม่กี่ชั่วโมง ดวงอาทิตย์ก็คงตก
ชุยเกิ่งสงสัยว่าแล้วการเรียนรู้เรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าล่ะ
ไม่มีใครมาสอนอะไรเลยเหรอ
หรือฝ่าย HR จะมีงานสำคัญกว่าเข้ามา เลยต้องเลื่อนการอบรมออกไปก่อน
ไม่น่าใช่ อู๋ปินก็ดูไม่ได้มีงานสำคัญอะไร
อีกอย่างถ้าบอสเผยเป็นคนสั่งมาก็น่าจะเป็นงานสำคัญมากๆ สิ
ชุยเกิ่งสงสัยหนักมาก
ถึงจะเป็นคนที่ชอบเล่นเกม แต่พอได้มานั่งเล่นเกมทั้งวันก็เบื่อๆ เซ็งๆ อยู่ดี
ชุยเกิ่งเวียนหัวขึ้นมาหน่อยๆ ขณะหยิบมือถือขึ้นมาดู
เขาเปิดอ่านคอมเมนต์นิยายตัวเองตามความเคยชิน
“วันนี้ไม่ลงเหรอ”
“เทเหรอ”
“เฮ้อ วันนี้ราชาจอมเทโดนจับไปปรับทัศนคติ แย่จริงๆ”
นักเขียนคนอื่นๆ ยังไม่ได้ลงตอนใหม่เหมือนกันเพราะยังไม่หกโมงเย็น
พอหกโมงเย็นปุ๊บ ตอนใหม่ก็จะโผล่พรวดมาทีเดียว ปกติจะมีขั้นต่ำอยู่ที่เจ็ดถึงแปดพันคำ คนที่เขียนได้เยอะๆ หน่อยอาจจะพุ่งไปแตะหนึ่งหมื่นคำ
ย้อนกลับมาดูตัวเอง ฉันไม่ได้เขียนอะไรเลยสักคำ
“เฮ้ย โทษฉันไม่ได้นะ ฉันลงงานไม่ได้เพราะบอสเผยให้มาเรียนรู้จิตวิญญาณของเถิงต๋า”
ชุยเกิ่งโยนความผิดให้บอสเผยเพื่อให้ตัวเองสบายใจ
เขาคงจะดีใจถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าจะได้มาเล่นเกมทั้งวันในห้องนันทนาการ
ชุยเกิ่งมาที่นี่ด้วยความคิดว่า ‘จะต้องมาเรียนรู้จิตวิญญาณของเถิงต๋า’ แต่เขากลับได้เล่นเกมทั้งวัน สถานการณ์ชวนไม่สบายใจทำให้ชุยเกิ่งสนุกกับเกมน้อยลง
“เดี๋ยวนะ หรือว่าจะไม่เริ่มสอนจนกว่าฉันจะบอก ยืดไปพรุ่งนี้ไม่ได้นะ!”
ชุยเกิ่งตกใจเมื่อคิดขึ้นได้ เขารู้สึกว่าตอนนี้เจอปัญหาใหญ่แล้ว
แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการเล่นเกมตลอดทั้งวัน แต่ในใจก็รู้สึกไม่ดีเมื่อเป็น ‘แผนที่จัดขึ้นโดยคนอื่น’
คิดได้แบบนั้นชุยเกิ่งก็ลุกขึ้น ตั้งใจจะไปถามอู๋ปินว่ามีอะไรที่ตัวเองต้องทำรึเปล่า
เขาต้องรู้ให้ได้ว่าจะต้องเล่นเกมหรือต้องเรียนอะไร
ให้ว้าวุ่นใจอยู่แบบนี้รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่
ชุยเกิ่งออกจากห้องนันทนาการแล้วหันมองโต๊ะทำงานข้างๆ
เขาแปลกใจเมื่อได้เห็นพนักงานเอนหลังนอนราบกับเก้าอี้เพื่อสุขภาพและกำลังหลับปุ๋ย บางคนกำลังดูซีรีส์พลางกินมันฝรั่งทอด ขณะที่คนอื่นๆ กำลังรัวมือพิมพ์งาน
ชั้นนี้เป็นออฟฟิศของฝ่ายธุรการ ฝ่ายบุคคล และฝ่ายการเงิน ฝ่ายพัฒนาเกมอยู่ชั้นสิบเจ็ดที่อยู่เหนือขึ้นไปอีกชั้น
ฝ่าย HR มีงานน้อยลงหลังจัดการเรื่องรับพนักงานเข้าใหม่เสร็จ คนที่ไม่มีงานทำก็จะนั่งทำอะไรเรื่อยเปื่อย
ภาพเบื้องหน้าทำให้ชุยเกิ่งตะลึงงันเล็กน้อย เขาคิดว่าพนักงานที่นี่น่าจะกัดฟันทำงานกันตัวเกลียวซะอีก
ชุยเกิ่งเจออู๋ปิน เขาอ้ำอึ้งอยู่หน่อยๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเปิดบทสนทนายังไง
แต่เหมือนอู๋ปินจะรู้อยู่แล้วจึงลุกยืนขึ้น “ไปคุยกันในห้องรับรองดีกว่าครับ”
ทั้งสองเข้าไปนั่งในห้องรับรอง
อู๋ปินรินชาด้วยท่วงท่าสง่าผ่าเผย บอสเผยบอกว่าถ้าชุยเกิ่งไม่เข้าใจ เขาต้องเป็นคนบอกใบ้
ดังนั้นอู๋ปินจึงเตรียมตัวไว้ก่อนและรู้ว่าได้เวลาบอกใบ้แล้ว
“มีคำถามอะไรก็ถามได้เลยครับ” อู๋ปินยิ้ม
ชุยเกิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “ผมอยากรู้ว่าการอบรมเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าจะเริ่มเมื่อไหร่ครับ คงไม่ลากยาวไปถึงพรุ่งนี้ใช่มั้ยครับ”
อู๋ปินฉีกยิ้มกว้าง “อบรมเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าเหรอครับ เริ่มไปแล้วนะครับ”
พอเห็นสีหน้างงงวยของชุยเกิ่ง อู๋ปินก็อธิบายเพิ่ม “ตั้งแต่คุณมาถึงตอนเช้าจนถึงตอนนี้ ทั้งหมดที่ผ่านมาคือการอบรมเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าครับ
“ส่วนจิตวิญญาณของเถิงต๋าคืออะไร…
“บอสเผยบอกว่า คุณน่าจะหาคำตอบได้ด้วยตัวเอง”
ชุยเกิ่งงงหนักกว่าเดิม
การอบรมเริ่มไปแล้วเหรอ แต่ฉันเอาแต่เล่นเกมทั้งวันเลยนะ
ชุยเกิ่งเกาหัวพลางถามเพิ่ม “การอบรมเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋านี่เหมือนกันหมดรึเปล่าครับ คือให้เล่นเกมในห้องทั้งวันเหรอครับ”
อู๋ปินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ “กระบวนการเหมือนกันหมดครับ ทุกคนจะได้รับเชิญมาที่บริษัท แต่อาจจะไม่ได้เข้าไปเล่นเกมทั้งวันในห้องนันทนาการ เอาเข้าจริงคุณไม่ต้องเล่นเกมก็ได้ครับ อยากไปไหนก็สามารถไปได้ตามใจชอบ ไม่มีใครจำกัดอิสระคุณ”
ชุยเกิ่ง “เอ๋”
ไปไหนก็ได้ตามใจชอบ งั้นฉันจะอยู่เล่นเกมในห้องทั้งวันไปทำไม
แต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่าตอนเข้าไปในห้อง อู๋ปินไม่ได้บอกว่าสามารถออกจากห้องได้
“แสดงว่าการอบรมนี้ก็เหมือนได้ตั๋วเดินชมรอบออฟฟิศเถิงต๋าฟรี นี่คือวิธีแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของเถิงต๋าแบบอ้อมๆ รึเปล่าครับ”
ชุยเกิ่งสงสัย “แต่ผมไม่เห็นรู้สึกถึงอะไรที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของเถิงต๋าเลย…”
อู๋ปินตระหนักว่าถึงเวลาที่เขาจะให้ ‘คำใบ้’ กับชุยเกิ่งตามที่ได้รับมอบหมายจากบอสเผยแล้ว
“คุณเห็นอะไรในออฟฟิศ” อู๋ปินถาม
ชุยเกิ่งนึกถึงสิ่งที่เขาเห็น แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป
อู๋ปินยิ้ม “พูดมาได้เลยครับ”
ชุยเกิ่งนึกลังเล “ผมเห็นบางคนตั้งใจทำงาน บางคนหลับ บางคนดูซีรีส์ บางคนอ่านหนังสือ…”
อู๋ปินพยักหน้า “แล้วคิดว่าสิ่งที่เห็นบ่งบอกความเป็นจิตวิญญาณของเถิงต๋ายังไงครับ”
ชุยเกิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไปอย่างไม่มั่นใจสุดๆ “เอ่อ…บริษัทคุณไม่ได้สนใจว่าพนักงานจะทำอะไรในชั่วโมงทำงาน จะเล่นหรืออู้ก็ได้ตามใจชอบ บอสเผยสนับสนุนให้ทุกคนทำตัวขี้เกียจใช่รึเปล่าครับ”
“…” อู๋ปินเงียบไปชั่วครู่ เขาถามย้ำ “คิดใหม่ดีๆ ครับ คุณว่าปกติจะคิดกันไปในทางนั้นรึเปล่า”
ชุยเกิ่ง “…ไม่ครับ”
เขาตอบกลับไปตามสัญชาตญาณ แต่พอได้ยินอู๋ปินถามกลับมา ชุยเกิ่งก็รู้สึกว่าที่ตัวเองคิดนั้นเหลวไหลสิ้นดี
อู๋ปินอธิบายจิตวิญญาณของเถิงต๋าตามความเข้าใจของเขา nᴏᴠᴇʟɢu.cᴏm
“คนที่คุณเห็นนอนหลับกับดูซีรีส์คือคนที่ทำงานของตัวเองเสร็จแล้ว หรือไม่ก็ต้องการปรับตัวเพื่อให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ที่พวกเขาพักผ่อนและสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง ไม่ใช่เพื่อผ่อนคลายและทำตัวบันเทิงเริงใจอย่างเดียว แต่เพื่อทำงานให้สำเร็จลุล่วงด้วย
“จิตวิญญาณของเถิงต๋า ถ้าให้สรุปเป็นข้อเดียวก็คือ การใช้ความบันเทิงและการพักผ่อนเป็นเครื่องมือเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานและผลลัพธ์ในระยะยาว
“จิตวิญญาณของเถิงต๋าส่งเสริมเรื่องการพักผ่อนและการสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่ทำไปโดยไร้จุดมุ่งหมาย เพราะแบบนั้นรังแต่จะสร้างผลเสีย
“การพักผ่อนกับการสร้างความบันเทิงเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ก็เพื่อให้ตระหนักถึงคุณค่าของตัวเองมากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่จิตวิญญาณของเถิงต๋าส่งเสริม”
ชุยเกิ่งครุ่นคิดหลังได้ยินที่อู๋ปินอธิบาย
การกระทำของบอสเผยมีความหมายลึกซึ้งขนาดนี้เลยเหรอ
บอสเผยไม่ได้ทำอะไรมาก แค่จับเขาโยนเข้าห้องนันทนาการเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ
แต่ชุยเกิ่งกลับสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าในจิตใจที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
เป็นเพราะเขาเอาแต่เล่นในขณะที่นักเขียนคนอื่นกำลังปั่นงานอยู่เหรอ
ก็ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
คำพูดของอู๋ปินทำให้ชุยเกิ่งตระหนักถึงปัญหา การเล่นสนุกและพักผ่อนของเขาไม่มีจุดมุ่งหมาย!
เป็นเหตุให้เขารู้สึกว่างเปล่าอยู่บ่อยๆ
อย่างตอนงีบช่วงกลางวันหนึ่งชั่วโมง
บางคนงีบเพราะอยากเลี่ยงงาน ไม่อยากทำตอนนี้ แต่พอตื่นก็ต้องทำให้เสร็จอยู่ดี ซึ่งอาจทำให้คิดว่าถ้าไม่งีบหนึ่งชั่วโมง งานก็น่าจะเสร็จไปแล้วครึ่งทาง…
พอคิดอย่างนั้นก็จะรู้สึกว่างเปล่าและเสียดายเวลาขึ้นมา
แต่บางคนงีบเพื่อให้สมองได้พักผ่อน จะได้ทำงานช่วงบ่ายในสภาพที่หัวปลอดโปร่ง พวกเขาจะทุ่มเททำงานเต็มที่ทันทีที่ตื่นนอน
ถ้าทำตามนี้การงีบก็จะมีความหมาย ไม่ทำให้รู้สึกว่างเปล่า
การเล่นสนุกก็เหมือนกัน
การพักผ่อนและการสร้างความบันเทิงให้ตัวเองเป็นส่วนสำคัญในชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิต
คุณค่าสูงสุดของมนุษย์เราขึ้นอยู่กับสิ่งที่ได้ทำ
นี่คือความจริง แต่ชุยเกิ่งไม่เคยมองเห็นมาก่อน
เขาใช้ชีวิตไปวันๆ เพราะผลจากที่อยู่ถูกรื้อทิ้ง ชุยเกิ่งไม่ได้ให้ความสนใจงานเขียนอย่างเต็มที่ แต่การเล่นเกมทุกวันก็ไม่ได้ทำให้เขามีความสุข กลับมีแต่ความว่างเปล่าอันไร้จุดสิ้นสุด
เขาไม่เคยเข้าใจเลยว่าความว่างเปล่านี้มาจากไหน
วันนี้บอสเผยจับเขาโยนเข้าห้องนันทนาการเพื่อเล่นเกมทั้งวัน แล้วให้อู๋ปินมาช่วยสะกิดนิดหน่อยทำให้เขาเข้าใจขึ้นมา
ชุยเกิ่งคลายปมที่คิ้วแล้วพูดสิ่งที่เข้าใจออกมา “งั้นจิตวิญญาณของเถิงต๋าก็น่าจะเป็น…
“ส่งเสริมให้พักผ่อนและเล่นสนุก
“แต่การพักผ่อนกับเล่นสนุกก็เพื่อปรับสภาพร่างกายจิตใจให้เห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น”
อู๋ปินยังไม่ยืนยัน “อะไรอีกครับ”
ชุยเกิ่งขมวดคิ้วแล้วคิดต่อ “ถ้าปรับใช้จิตวิญญาณของเถิงต๋ากับตัวเอง…
“ที่ผมเขียนงานได้ช้าที่สุดในคอร์สเป็นเพราะผมไม่มีจิตวิญญาณแบบนั้น
“การพักผ่อนและเล่นสนุกของผมก็เพราะผมขี้เกียจ ไม่อยากทำงาน ผมทิ้งเวลาไปเปล่าๆ ถ้าผมสามารถผสานการพักผ่อน การเล่นสนุก และการทำงานเข้าด้วยกัน ผมก็มั่นใจได้ว่าจะพักผ่อนและเล่นสนุกไปพร้อมๆ กับเพิ่มพูนประสิทธิภาพการทำงานได้…
“ช่วงที่ผ่านมา ผมลงงานรวดเดียวทีละเยอะๆ แต่ไม่ได้ปรับพล็อตและเนื้อหาให้ดี ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะผมต่อต้านการทำงาน ต้องรีบปรับวิธีคิดตัวเอง…
“ถ้างั้น…
“ผมไม่ต้องปฏิเสธการพักผ่อนหรือเล่นสนุก และไม่ควรรู้สึกแย่ที่ทำอย่างนั้น ผมควรใช้ทั้งสองสิ่งในการช่วยให้ตัวเองทำงานได้ดีขึ้น
“ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องกังวลมากเรื่องจำนวนคำ สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณภาพของงาน…
“ถูกต้องมั้ยครับ”
ชุยเกิ่งหันมองอู๋ปิน
อู๋ปินยิ้ม “แต่ละคนเข้าใจเรื่องจิตวิญญาณของเถิงต๋าต่างกันออกไป ผมตัดสินไม่ได้ว่าคุณเข้าใจถูกรึเปล่า
“ขอแค่คุณคิดว่าถูก มันก็ถูกครับ”