เผยเชียนไม่เชื่อสักคำที่หลี่สือพูดออกมา
ธุรกิจก็คือธุรกิจ บอสหลี่เป็นนักลงทุนมืออาชีพ จะเอาเงินมาลงทุนในโปรเจ็กต์ที่ไม่น่าจะหาทุนคืนให้ได้ยังไง
เผยเชียนเคยบอกบอสหลี่เรื่องบ้านผีสิงและทำทีชวนอีกฝ่ายมาร่วมลงทุนด้วยกัน ตอนนั้นบอสหลี่แค่หัวเราะและไม่ได้ตอบอะไร
เห็นได้ชัดว่าบอสหลี่มองว่าบ้านผีสิงน่าจะเจ๊ง เลยไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วม
แล้วทำไมตอนนี้กลับลำซะงั้น
ชัดเจนว่า ‘อยากแสดงความขอบคุณ’ เป็นแค่ข้ออ้างบังหน้า
หรือหลังจากเก็บมาครุ่นคิดและหาข้อมูล หลี่สือจะเห็นแววว่าบ้านผีสิงน่าจะประสบความสำเร็จ
เผยเชียนคิดเรื่องนี้อยู่นาน ผ่านมาได้เกือบเดือนแล้วตั้งแต่โฮสเทลเขย่าขวัญเริ่มสร้าง
โปรเจ็กต์คืบหน้าไปค่อนข้างเร็วเพราะพวกเขาจัดการโปรเจ็กต์เล็กก่อน อีกสองสามวันน่าจะเข้าไปลองเล่นโปรเจ็กต์ย่อยได้สักหนึ่งหรือสองโปรเจ็กต์
ถ้าบอสหลี่ส่งคนไปสำรวจก็จะพบว่าบอสเผยจริงจังกับบ้านผีสิงมาก เพราะโปรเจ็กต์คืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว…
น่าจะมีการเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง
เผยเชียนถอนหายใจเบาๆ “บอสหลี่ ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้คุณไม่เห็นแววสำเร็จของบ้านผีสิง ช่วยบอกได้มั้ยครับว่าทำไมถึงเปลี่ยนใจ”
ที่จะถามคือทำไมบอสหลี่ถึงเปลี่ยนใจคิดว่าโปรเจ็กต์บ้านผีสิงน่าจะมีแววรุ่ง จะได้รีบแก้
หลี่สือยิ้ม “เอ่อ…อาจจะฟังดูเหลวไหลหน่อยนะครับ”
เผยเชียนยิ้ม ไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเหลวไหลแค่ไหน เดี๋ยวให้เฉินคังทั่วแก้!
หลี่สือพูดต่อ “จริงๆ ที่ผมเห็นแววรุ่งของบ้านผีสิงไม่ได้เป็นเพราะตัวโปรเจ็กต์ แต่เป็นเพราะผมคิดอะไรขึ้นได้หลังเปิดภัตตาคาร”
เผยเชียน “?”
แล้วไอ้ที่คิดได้หลังเปิดภัตตาคารมันเกี่ยวกับบ้านผีสิงยังไง
หลี่สืออธิบาย “ภัตตาคารบ้านหมิงฝู่เริ่มต้นได้ไม่ดี ผมก็มาคิดๆ ดูว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
“พอไตร่ตรองดูก็พบว่ากุญแจสำคัญอยู่ที่รายละเอียด เจ้ารายละเอียดนี่แหละที่ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งเป็นตัวกำหนดชื่อเสียงของภัตตาคารระดับสูง…”
หลี่สือเริ่มวิเคราะห์อย่างจริงจัง
เผยเชียนจิบชา พยายามตีหน้านิ่งเต็มที่
บอสหลี่คิดเยอะเกินไปแล้ว! ภัตตาคารบ้านหมิงฝู่เริ่มต้นไม่สวยเพราะฉันเผลอเอาน้องถังมาด้วยเลยพาซวยกันหมด…
แต่เขาก็บอกเรื่องนี้ออกไปไม่ได้ ได้แต่เก็บไว้ในใจแล้วยกชาจิบ
หลี่สือสาธยายสิ่งที่ตัวเองวิเคราะห์ต่ออย่างมีอารมณ์ร่วม “เพราะงั้นผมเลยเข้าใจว่าเป็นเรื่องยากแค่ไหนตอนคุณเปิดภัตตาคารไร้ชื่อ!
“สถานการณ์ภัตตาคารไร้ชื่อช่วงแรกๆ เหมือนบ้านผีสิงมาก!
“ถึงอย่างนั้นภัตตาคารไร้ชื่อก็ดังขึ้นมา!
“ผมรู้แล้วว่าไม่ว่าโปรเจ็กต์จะดูบ้าบิ่นขนาดไหน ขอแค่ได้ผ่านมือบอสเผยก็เหมือนได้รับจิตวิญญาณบางอย่าง!
“บอสเผยน่าจะมั่นใจแล้วถึงตัดสินใจทำบ้านผีสิง เพราะงั้นผมก็จะเชื่อในตัวคุณแม้ไม่รู้ว่าคุณจะบริหารบ้านผีสิงยังไง!”
บอสหลี่จริงใจมาก
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
แค่นั้นเองเหรอ
เผยเชียนคิดว่าจะเปลี่ยนส่วนที่บอสหลี่มองว่ามีแววรุ่ง
สุดท้ายที่คิดอย่างนั้นก็มาจากเหตุผลเหลวไหลจริงๆ
เผยเชียนอึ้งไป “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะครับบอสหลี่ แต่โปรเจ็กต์บ้านผีสิงมีความเสี่ยงสูงมาก ผมแนะนำจากใจจริงว่าไม่ควรลงทุนจะดีกว่า”
เขาพูดออกมาจากใจจริง เผยเชียนไม่อยากให้บอสหลี่เข้ามาทำให้วุ่นวายไปกันใหญ่ ถึงโอกาสสำเร็จของโฮสเทลเขย่าขวัญจะต่ำมาก แต่เขาก็ยังไม่ลืมบทเรียนที่ได้จากครัวส่วนตัวหมิงหยุน
ถ้าบอสหลี่สร้างนั่นสร้างนี่ให้โฮสเทลเขย่าขวัญ เรียกนักลงทุนมาผสมโรงเปลี่ยนแถบนั้นให้กลายเป็นย่านธุรกิจสุดฮอตฮิตแห่งใหม่ขึ้นมา…
ก็จบเห่กันพอดี
หลี่สือยิ้ม ไม่ยอมโอนอ่อนตามที่โน้มน้าว
“บอสเผย ถ้าคิดว่าเป็นน้ำใจก็อย่าปฏิเสธเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ รับไว้เถอะครับ
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ไปก้าวก่ายการบริหารแน่ ผมขอแค่ส่วนแบ่งสักเล็กน้อย มาทำเงินไปด้วยกันไม่ดีกว่าเหรอครับ
“หรือถ้าบอสเผยคิดว่าบ้านผีสิงไม่ใช่โปรเจ็กต์ที่เหมาะกับการลงทุนก็ช่วยแนะนำโปรเจ็กต์อื่นแทนได้มั้ยครับ อย่างเปิดสาขาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเพิ่ม
“หรือ…ผมเอาเงินไปลงทุนที่หลินเฉิงดี”
สีหน้าบอสหลี่ดูจริงจังมาก
เผยเชียน “…”
ภัยคุกคาม นี่มันภัยคุกคามชัดๆ!
เผยเชียนเข้าใจทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘หลินเฉิง’ ถึงเขาจะเตือนจางหยวนว่าอย่าทำอะไรให้เด่นนัก แต่ก็ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของจางหยวนไม่สามารถเล็ดลอดสายตาบอสหลี่ไปได้
ก่อนหน้านี้ แบรนด์ ROF ทำเงินได้ก้อนโตจากราคา RAM ที่พุ่งสูงขึ้น เผยเชียนอนุญาตให้จางหยวนขยายกิจการไปเมืองหลินเฉิงอย่างไม่เต็มใจนัก ด้วยความหวังว่าจะช่วยผลาญกำไรที่ได้มาไปกับการเปิดแฟรนไชส์โมหยูในเมืองแร้นแค้น
เป็นไปไม่ได้เลยที่หลี่สือจะไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเขาคอยจับตาดูเผยเชียนและมีข้อมูลมากมายในมือ
เผยเชียนลังเลใจ
เขาเมินหลี่สือได้ แต่อีกฝ่ายก็จะเอาเงินไปลงทุนที่หลินเฉิง เปิดบาร์ คาเฟ่ และร้านอื่นๆ ในย่านการค้า…
แบรนด์ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูบวกการทุ่มทุนจากบอสหลี่และบริษัทลงทุนต่างๆ ในมณฑลฮั่นตงจะพาเมืองหลินเฉิงไปสู่อนาคตที่ไม่แน่นอน…
เผยเชียนคิดว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากสุดๆ คำพูดหลี่สือสามารถตีความได้ว่า ‘จะเก็บผลประโยชน์ไว้กับตัวหรือจะให้ฉันช่วยหาเพิ่ม’
ถ้าไม่ยอมให้บอสหลี่ลงทุนในบ้านผีสิง เงินก้อนนี้ก็จะเอาไปลงทุนในเมืองหลินเฉิงแทน ไม่สามารถห้ามได้
ต้องเลือกอันใดอันหนึ่ง
เผยเชียนคิดไม่ตก หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย เขาก็คิดว่าหลินเฉิงอันตรายมากกว่า
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นโปรเจ็กต์ที่ประสบความสำเร็จ ถึงหลินเฉิงจะเป็นตลาดใหม่ แต่การเข้ามาแทรกแซงของบอสหลี่ก็อาจสร้างผลกระทบได้…
เผยเชียนไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นภัยคุกคาม
หลี่สือนึกสงสัยเมื่อได้เห็นท่าทีตอบสนองของบอสเผย
อะไรกัน ทำไมบอสเผยถึงลังเลที่จะรับเงินจากฉัน
ทำไมทำหน้าเหมือนมีคนมาเฉือนเนื้อไปแบบนั้น
ทั้งคู่เงียบไปพักหนึ่ง
เผยเชียนคิดอยู่นานก่อนจะถามออกไป “บอสหลี่ไม่กลัวเรื่องขาดทุนจริงๆ ใช่มั้ยครับ”
หลี่สือพยักหน้า “ไม่กลัวครับ”
เผยเชียนถอนหายใจเบาๆ “โอเคครับ งั้นตอนนี้ผมมีโปรเจ็กต์อยู่สองอัน ถ้าบอสหลี่อยากตอบแทนน้ำใจก็เลือกลงทุนในสักโปรเจ็กต์
“โปรเจ็กต์แรกคือบ้านผีสิงโฮสเทลเขย่าขวัญ อีกโปรเจ็กต์คือ ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการศึกษาที่ผมทำอยู่…”
เผยเชียนสังเกตสีหน้าบอสหลี่ระหว่างที่พูด
บอสหลี่ดูตั้งใจฟังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ที่ตัวเองไม่มีข้อมูล
เผยเชียนไม่รู้รายละเอียดโปรเจ็กต์นี้ เพราะยังไม่ได้ถามเฮ่อเต๋อเซิ่งเรื่องแผนงาน จึงเล่าให้ฟังแค่ทิศทางคร่าวๆ
ในมุมมองของเผยเชียน สองโปรเจ็กต์นี้ต้องขาดทุนอย่างแน่นอน ถ้าบอสหลี่ไม่กลัวขาดทุนก็เลือกลงทุนในโปรเจ็กต์ไหนก็ได้ที่ชอบ
หลี่สือคิดอยู่ครู่หนึ่ง “โอเคครับ งั้นผมจะลงทุนใน ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’!”
เห็นได้ชัดว่าเมื่อเอาสองโปรเจ็กต์มาเทียบกัน หลี่สือคิดว่าโปรเจ็กต์ ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ดูน่าเชื่อถือกว่า
เผยเชียนพยักหน้า ขอแค่บอสหลี่ไม่ไปลงทุนที่หลินเฉิง ทุกอย่างก็คุยกันได้ novelgu.com
…
…
วันอังคารที่ 18 มกราคม
บริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
“บอสเผยครับ แอปพัฒนาเสร็จแล้ว รบกวนช่วยตรวจสอบด้วยครับ
“นี่เป็นแอปตัวเบต้าของโปรเจ็กต์ ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’
“แล้วก็เรื่องบริษัทลงทุนฟู่หุย…”
เผยเชียนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเมื่อเห็นเอกสารปึกใหญ่ที่เฮ่อเต๋อเซิ่งยื่นให้
เขาเหลือบมองแล้ววางกองไว้ จากนั้นก็รับมือถือที่มีแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ติดตั้งไว้มา
แอปเสร็จเร็วกว่าที่เขาคิดไว้ ใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ก็ได้ตัวต้นแบบมาแล้ว
เฮ่อเต๋อเซิ่งบอกว่าบริษัทนี้เคยทำโปรเจ็กต์ที่คล้ายๆ กันมาบ้าง จึงแค่เอาโค้ดของโปรเจ็กต์ที่ไปไม่รอดมาแก้ เปลี่ยน UI แล้วเพิ่มฟังก์ชันเข้าไปสองอย่างเพื่อทำแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ เวอร์ชันแรกขึ้นมา
เฮ่อเต๋อเซิ่งเหมือนจะกลัวบอสเผยไม่พอใจ เลยพูดเสริม “วางใจได้ครับบอสเผย เรื่องคุณภาพไม่มีปัญหาเลย ถึงจะเป็นการจ้างบริษัทอื่นมาทำให้ แต่พวกเขาก็มีความรับผิดชอบ…”
เผยเชียนไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ถ้ามีปัญหาเรื่องคุณภาพสิยิ่งดี จะได้เจ๊งไวๆ
เขาแค่อยากผลาญเงิน
เผยเชียนเล่นแอปพลิเคชันสักพักแล้วพบว่าตอนนี้มีแค่ฟังก์ชันพื้นฐานทั่วไป
ตัวแอปเข้าใช้งานได้สองแบบ คือ ‘แบบเด็กหัวกะทิ’ กับ ‘แบบเด็กหัวทึบ’
ถ้าเข้าผ่านแบบเด็กหัวกะทิจะต้องใส่ข้อมูลต่างๆ เช่น คุณสมบัติทางการศึกษา วิชาที่ถนัด ระดับความรู้ และอื่นๆ พร้อมทั้งส่งหลักฐานข้อมูลบางอย่างที่จำเป็น
ฝั่งเด็กหัวทึบจะเรียบง่ายกว่า พวกเขาแค่ใส่จุดประสงค์แล้วรอให้เด็กหัวกะทิตอบรับคำขอ พอทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ก็นัดติว จากนั้นฝั่งเด็กหัวทึบก็จ่ายค่าบริการ
แอปพลิเคชันนี้ทำให้เผยเชียนนึกถึงแอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่
เฮ่อเต๋อเซิ่งตั้งใจจะใส่ฟังก์ชันอื่นเพิ่มด้วย เช่น วิดีโอคอลตอบคำถาม ระบบค้นหาข้อสอบ และอื่นๆ แต่ก็ต้องใช้เวลาพัฒนาเพิ่ม
ฟังก์ชันพื้นฐานตอนนี้มีแค่ ‘จับคู่’ แต่ก็ยังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์
ช่วงแรกๆ ที่ยังมีผู้ใช้งานไม่มาก แอปไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่พอมีผู้ใช้งานมากขึ้นก็ต้องขยายขนาดเซิฟเวอร์เพิ่ม ความเสถียรและสถาปัตยกรรมของแอปก็ต้องปรับตาม
แน่นอนว่า ตอนนี้ยังไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะแอปยังไม่มีผู้ใช้งาน
เฮ่อเต๋อเซิ่งเปิดบริษัทเพื่อแบ่งหุ้นส่วนโปรเจ็กต์ ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ หกสิบเปอร์เซ็นต์ให้ทีมผู้พัฒนา สามสิบเปอร์เซ็นต์ให้บริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง และสิบเปอร์เซ็นต์ให้บริษัทลงทุนฟู่หุย
บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งลงทุนสองล้านหยวน บริษัทลงทุนฟู่หุยลงทุนหนึ่งล้านหยวน
บอสหลี่อยากจะออกทุนมากกว่านี้ แต่เผยเชียนปฏิเสธ
บอสหลี่ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากการทำตามเผยเชียน ขาดทุนสักหนึ่งล้านหยวนน่าจะทำให้บอสหลี่ถอยได้และไม่ตามติดเขาแจอีก ต่อไปก็จะได้สงบสุขมากขึ้น
แต่เผยเชียนก็ยังเป็นห่วงไม่อยากให้บอสหลี่เสียเงินเยอะ
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็เพื่อควบคุมความเสี่ยง เงินทุนเยอะเกินไปอาจสร้างปัญหาให้โปรเจ็กต์นี้ได้
ดังนั้นเขาจึงบอกให้บอสหลี่ลงทุนหนึ่งล้านหยวนก่อน เพราะช่วงแรกไม่ต้องการเงินทุนเยอะ ถ้าต่อไปโปรเจ็กต์ดูดีขึ้นค่อยเพิ่มเงินทุนทีหลังก็ไม่สาย
แน่นอนว่า ทีมผู้พัฒนาก็คือพวกเขาเองนั่นแหละ เผยเชียนกับบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งถือหุ้นเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ บอสหลี่ไม่ได้สนใจบริหารโปรเจ็กต์นี้ ถึงจะบอกว่าอยากตอบแทนบอสเผย แต่จริงๆ ก็อยากกินกำไรด้วย
ด้วยเหตุนี้การพัฒนาโปรเจ็กต์นี้จึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเผยเชียนล้วนๆ
เผยเชียนไม่ได้ดูแอปละเอียดมาก เขาส่งมือถือกลับไปให้เฮ่อเต๋อเซิ่ง “โอเค เริ่มโฆษณาได้เลย”
เฮ่อเต๋อเซิ่งผงะไป “เอ่อ ไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับบอสเผย”
ว่ากันว่าถ้าอยากหลอกคนก็ต้องเตรียมตัวให้ดีไม่ใช่เหรอ
ถ้าเปิดตัวแอปพลิเคชันตอนยังไม่สมบูรณ์ดี ถึงจะทำไปเพื่อหลอกคนก็ไม่น่าจะหลอกได้
เผยเชียนโบกมือปัด “ไม่เห็นเป็นไร เริ่มโฆษณาก่อน”
แอปยังไม่สมบูรณ์เหรอ ยิ่งดีเลย
เผยเชียนกลัวว่าถ้าโฆษณาแอปตอนสมบูรณ์ดีแล้ว บอสหลี่อาจจะดึงนักลงทุนเข้ามาเพิ่ม ต้องเป็นปัญหาแน่ถ้าโปรเจ็กต์นี้เป็นกระแสขึ้นมา
พวกเขาโฆษณาตอนนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากการที่แอปยังไม่สมบูรณ์ดีได้ ถ้าออกทุนไปแล้วโดนด่าคงไม่มีใครมองโปรเจ็กต์นี้ในทางที่ดี แถมบอสเผยก็จะบรรลุจุดประสงค์ถ้าโปรเจ็กต์นี้เจ๊งไม่เป็นท่า