หลังวางสาย เผยเชียนก็เลื่อนหาเบอร์มือถือของหร่วนกวางเจี่ยน
แต่ก่อนจะกดโทร เผยเชียนก็ค้นหาคำว่า ‘ตู้โทรศัพท์ให้เช่า’ บนเว็บเชียนตู้ด้วยความอยากรู้
ไม่นานผลลัพธ์การค้นหามากมายก็โผล่ขึ้นมา ส่วนใหญ่เป็นกระทู้กับโพสต์เว่ยป๋อของชาวเมืองจิงโจว
“วันนี้ฉันไปเจออัจฉริยะคิดค้นไอเดียสุดบรรเจิดขึ้นมา มันคือตู้โทรศัพท์ให้เช่า! พอสแกน QR Code เสร็จก็จะเข้าไปโทรศัพท์ได้!”
“บ้าเปล่าวะ แอปสแกน QR Code อยู่ในมือถือ… ใช้มือถือโทรไปเลยก็ได้นี่”
“ฉันขำเกือบขาดใจตาย นี่ถ่ายรูปมาด้วยเพราะคิดว่าเป็นงานศิลป์ [รูป]”
“ตู้โทรศัพท์เน่าๆ นี่ดูใหญ่ แต่ทำไมดูเหมือนสร้างมือเองเลยล่ะ มีโรงงานทำให้จริงๆ รึเปล่าเนี่ย งานดูไม่เนี้ยบเลย”
“นี่มัน…จ่ายเงินเพื่อเข้าคุก ไปนั่งให้คนดูผ่านกระจก”
เผยเชียนไล่อ่านคอมเมนต์แล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมา
ดูสิ คนพวกนี้สายตาแหลมคมมาก
ในเมื่อทุกคนคิดว่าโทรศัพท์ให้เช่าเป็นไอเดียสุดห่วย ไม่น่าจะทำกำไรได้ ฉันก็ควรขอให้หร่วนกวางเจี่ยนวาดรูปให้ จะได้เปลี่ยนตู้โทรศัพท์ให้เช่าเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมเพื่อสาธารณชน
เป็นไอเดียที่ยอดสุดๆ!
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็ต่อสายหาหร่วนกวางเจี่ยน
…
…
วันจันทร์ที่ 10 มกราคม
หร่วนกวางเจี่ยนเพิ่งจะเสร็จงานที่ฉางหยางเกมส์ เขาให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อปรับปรุงงานภาพกับทีมงานของฉางหยางเกมส์ไปเรียบร้อย จากนั้นก็แวะไปซื้อแปรง สี และอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ ก่อนจะรีบไปห้างหวนยู่เทียนเจี่ย
เนื่องจากเป็นวันจันทร์ ในห้างจึงมีคนไม่ค่อยเยอะ
แต่ก็มีหลายคนกำลังมุงถ่ายรูปอยู่หน้าตู้โทรศัพท์ให้เช่า ที่วันนี้คนมากันเยอะน่าจะเป็นเพราะข่าวเรื่องโปรเจ็กต์สุดห่วยที่กระจายว่อนเน็ตเมื่อวาน
พอหร่วนกวางเจี่ยนขึ้นบันไดเลื่อนไปถึงชั้นบน เขาก็พบชายหุ่นหนาร่างกำยำผมยาวเดินตรงเข้ามาหา
“คุณนักวาด! สวัสดีครับ สวัสดี!
“คุณนักวาดยังเด็กอยู่เลย ไม่เหมือนที่ผมคิดเอาไว้”
จางวั่งมาถึงก่อนเพื่อรอรับหร่วนกวางเจี่ยน พอเห็นว่าอีกฝ่ายถือถุงอุปกรณ์ศิลปะ เขาก็มั่นใจว่าต้องเป็นนักวาดที่บอสเผยจ้างมาแน่
แต่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว หร่วนกวางเจี่ยนไม่เหมือนนักวาดที่จางวั่งคิดเอาไว้ ไม่ได้ผมยาวหรือไว้หนวดเครา ไม่ใส่ต่างหู เจาะห่วง หรือสักลาย ดูเนี้ยบเรียบร้อยเหมือนนักศึกษาทั่วไป
กลับกันจางวั่งไว้ผมยาวสลวย ใครเห็นคงจะคิดว่าเขาเหมือนนักวาดมากกว่าหร่วนกวางเจี่ยน
หร่วนกวางเจี่ยนมองตู้โทรศัพท์ให้เช่า ซึ่งก็เหมือนในรูปไม่มีผิด เว้นแต่ว่าพอมายืนต่อหน้าจริงๆ แล้วดูใหญ่ขึ้นมาหน่อย
พอหร่วนกวางเจี่ยนประเมินตู้โทรศัพท์ให้เช่าเสร็จ จางวั่งก็ถามขึ้นอย่างตื่นเต้น “คุณนักวาดใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะวาดภาพแบบนั้นเสร็จครับ”
หร่วนกวางเจี่ยนคิดอยู่พักหนึ่ง “บอกไม่ได้ครับ
“งานวาดเป็นงานใช้ความคิดสร้างสรรค์ เวลาที่ใช้วาดงานแต่ละงานแตกต่างกันมาก งานภาพสีน้ำมันที่มีภาพร่างกับคอนเซ็ปต์เตรียมไว้แล้วอาจจะใช้เวลาประมาณสิบชั่วโมง ถ้านักวาดมีความสามารถและประสบการณ์มากพอ
“แต่งานสีน้ำมันระดับสูงที่วาดโดยนักวาดมากฝีมืออาจใช้เวลาเป็นปี สามปี หรือห้าปี
“ซึ่งก็รวมเวลาในการหาอุปกรณ์ ออกแบบ และแก้ไข กำหนดไม่ได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่”
จางวั่งรีบพูดขึ้น “สามถึงห้าปีเลยเหรอครับ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ วาดอะไรก็ได้ครับคุณนักวาด ถ้างานดีเกินไปเดี๋ยวมีคนมาขโมยไป
“เพราะตู้โทรศัพท์นี้มันถอดประกอบได้
“แต่ก็เป็นไปได้ยาก เพราะยามที่ห้างช่วยเฝ้าให้อยู่ ฮ่าๆๆ”
หร่วนกวางเจี่ยนไม่รู้สึกขำกับมุกเห่ยของจางวั่งเท่าไหร่
แต่อย่างน้อยก็มั่นใจได้แล้วหนึ่งอย่าง นั่นคือเขาไม่ต้องวาดงานสุดบรรเจิดให้ตู้โทรศัพท์ให้เช่า ดังนั้นก็ไม่ต้องมองว่ามันเป็นงานระดับท็อป
ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถวาดอะไรไปมั่วๆ ได้ เพราะบอสเผยจ้างเขามาแพง แถมพวกเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หร่วนกวางเจี่ยนจึงไม่ควรเอาเปรียบอีกฝ่าย
หร่วนกวางเจี่ยนคิดอยู่พักหนึ่ง “เห็นว่านี่คือตู้แรกจากทั้งหมดยี่สิบตู้ที่ผมต้องวาดใช่มั้ยครับ”
จางวั่งพยักหน้า “ใช่ครับ นี่เป็นแค่ขั้นเริ่มแรก”
หร่วนกวางเจี่ยนกะประมาณพื้นที่บนตู้โทรศัพท์ที่กำหนดให้วาดก่อนจะถามออกไป “มีอะไรที่อยากให้ผมวาดมั้ยครับ”
จางวั่งส่ายหน้ารัวสื่อให้เห็นว่าไม่ได้คิดอะไรไว้ “ไม่มีครับ! คุณนักวาดอยากวาดอะไรได้หมดเลยครับ!”
หร่วนกวางเจี่ยนไตร่ตรองดู ‘อืม… ต้องวาดยี่สิบตู้ แต่ละตู้ถือเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่
“เพราะภาพมีขนาดสูงสองเมตร ใหญ่กว่างานสีน้ำมันธรรมดาสามสี่เท่า
“ถึงจะใช้สไตล์ของฉันเองทำให้ไม่ต้องเน้นรายละเอียดมาก ก็น่าจะต้องใช้เวลาประมาณสามสี่วันถึงจะเสร็จ
“แถมสามสี่วันที่ว่ายังต้องเป็นสไตล์งานที่ฉันคุ้นเคยมากๆ ด้วย
“ตู้โทรศัพท์นี้เป็นโปรเจ็กต์ที่บอสเผยลงทุน เพราะงั้นก็ต้องวาดอะไรที่เกี่ยวกับบริษัทของบอสเผยรึเปล่า
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็มีอะไรให้วาดอยู่ไม่มาก…
“ใช่แล้ว!”
หร่วนกวางเจี่ยนตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีที่นึกไอเดียดีๆ ออก
เขาวาดฮีโร่เกม GOG ได้!
พอดีเลย ฮีโร่กลุ่มแรกของเกม GOG มีประมาณยี่สิบตัว คอนเซ็ปต์อาร์ตกับแอนิเมชันก็ทำเสร็จหมดแล้ว
หร่วนกวางเจี่ยนเป็นคนร่างและออกแบบคอนเซ็ปต์อาร์ตทั้งหมด แบบร่างต้องแก้ไขอยู่หลายรอบทำให้เขาต้องวาดซ้ำไปมาจนคุ้นชินกับฮีโร่พวกนี้สุดๆ
นอกจากนั้นงานภาพนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเกมใหม่ของเถิงต๋า ตู้โทรศัพท์ก็เป็นโปรเจ็กต์ที่บอสเผยลงทุน ถือว่าเป็นโปรเจ็กต์ที่เกี่ยวพันกันมาก
สำหรับลูกค้าวัยรุ่นในห้าง งานภาพฮีโร่ในเกมจะทำให้รู้สึกเข้าถึงได้ง่ายและน่าสนใจกว่าเมื่อเทียบกับงานภาพสีน้ำมันแบบดั้งเดิม
ยิ่งคิดหร่วนกวางเจี่ยนก็ยิ่งมองว่าเหมาะ
สิ่งเดียวที่ต้องแก้คือการสื่ออารมณ์ของงานภาพ
คอนเซ็ปต์อาร์ตกับแอนิเมชันของเกม GOG มีความละเอียดและซับซ้อนมาก นั่นก็เพราะโมเดลในเกมจะสร้างขึ้นจากคอนเซ็ปต์อาร์ต ถ้ามีส่วนไหนไม่ชัดเจน คนปั้นโมเดลก็ต้องจินตนาการเพิ่มเอาเอง
แต่งานภาพที่จะวาดลงตู้โทรศัพท์ให้เช่าจะเป็นแนวงานภาพเพื่อการโฆษณา ซึ่งจะเน้นความสวยงาม
หร่วนกวางเจี่ยนคิดว่าจะใช้สไตล์การวาดโดยใช้เส้นหนาตามแบบฉบับของตัวเอง ส่วนหนึ่งก็เพื่อช่วยลดทอนรายละเอียดและประหยัดเวลา อีกส่วนก็เพื่อทำให้ภาพวาดดูสวยงามและโดดเด่นสะดุดตา
คิดได้ดังนั้น หร่วนกวางเจี่ยนก็เริ่มงาน
ส่วนจะวาดฮีโร่ตัวไหนก่อนดี…
เรื่องนั้นต้องคิดด้วยเหรอ
…
เผยเชียนนั่งหาวอยู่ในออฟฟิศ
เหลือเวลาอีกไม่ถึงสามเดือนจะถึงวันปิดบัญชี
เขารับผิดชอบหลายโปรเจ็กต์พร้อมกัน แต่สัปดาห์ถัดไปหนังน่าจะถ่ายทำเสร็จ เวอร์ชันตัดต่อคร่าวๆ น่าจะเสร็จปลายเดือน ดูจากสถานการณ์การพัฒนาเกม GOG ในปัจจุบันแล้ว เผยเชียนคิดว่าเวอร์ชัน Close Beta น่าจะปล่อยออกมาให้ทดสอบได้ตอนปลายเดือนเหมือนกัน
บ้านผีสิงไม่มีทางสร้างเสร็จ โปรเจ็กต์หลักสองโปรเจ็กต์ไม่น่าจะสร้างเสร็จทันภายในรอบบัญชีนี้ แต่โปรเจ็กต์ที่สองที่เป็นโปรเจ็กต์ขนาดเล็ก น่าจะสร้างโปรเจ็กต์ย่อยออกมาได้สักหนึ่งหรือสองโปรเจ็กต์ตอนปลายเดือน
จากนั้นก็จะได้ส่งหร่วนกวางเจี่ยนไปลองเพื่อให้อีกฝ่ายเสียขวัญ!
เผยเชียนดูตารางงานตัวเอง แล้วพบว่าสัปดาห์นี้น่าจะเป็นสัปดาห์ที่สบายที่สุดในช่วงนี้ เขาต้องรีบใช้เวลานี้ทวนหนังสือ
บอสเผยจะมีหน้าออกไปเจอคนอื่นได้ยังไง ถ้าไอ้หม่าสอบผ่านด้วยความสามารถของตัวเอง แต่เขากลับต้องยัดเงินใต้โต๊ะ
เขาเหลือบมองน้องถังรุ่นน้องของเขา เธอเข้ามาทำงานทุกวัน พอเสร็จจากงานให้อาหารแมวและทำความสะอาดกระบะทรายก็จะมานั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ที่โต๊ะ เดี๋ยวอีกหน่อยต้องได้ทุนการศึกษาสักทุนแน่ nᴏᴠᴇʟɢu.cᴏm
เขาได้แต่ถอนหายใจ “เฮ้อ ถ้าใช้เงินจ้างคนอื่นเรียนแทนได้คงจะดี
“ความรู้นี่เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้จริงๆ!”
ระหว่างที่เผยเชียนกำลังเศร้าใจอยู่ เขาก็พบว่าตอนนี้ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว จึงรีบพลิกสมุดเริ่มทวนหนังสือ
ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็มีคนมาเคาะประตู
เผยเชียนเงยหน้าขึ้นมองแล้วพบว่าเป็นหม่าอี้ฉวิน
“มีอะไรเหรอ” บอสเผยหงุดหงิดที่โดนขัดจังหวะการทวนหนังสือ แต่เขาก็รู้ว่าหม่าอี้ฉวินไม่ค่อยแวะมาเท่าไหร่ ดังนั้นน่าจะมีเรื่องสำคัญสักอย่างจึงไม่ได้ว่าอะไร
หม่าอี้ฉวินพูดขึ้น “บอสเผยครับ เว็บจงเตี่ยนจงเหวินเพิ่งหาเงินได้อีกก้อนครับ…”
เผยเชียน “???”
เลิกแอบทำกำไรกันสักทีได้มั้ย ช่วยส่งสัญญาณมาให้ฉันได้เตรียมตัวบ้าง
เผยเชียนคิดว่าสัปดาห์นี้จะได้พักผ่อน แต่แผนก็พังหมดเรียบร้อย
เว็บจงเตี่ยนจงเหวินผ่านการพัฒนาหลายอย่างตั้งแต่เริ่มเปิดตัว ตอนนี้สามารถพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้แล้ว
ตอนแรกพวกเขาเพิ่มมาตรฐานค่าแรงนักเขียนประจำ เพื่อรักษาผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานให้นักเขียน
ต่อมาก็เพิ่มค่าแรงให้นักเขียนระดับกลางเพื่อให้มีรายได้เทียบเท่านักเขียนตัวท็อปในเว็บอู๋เซียนจงเหวิน
จากนั้นก็จับมือกับเกมกลับใจคือฟากฝั่ง รวมบัญชีทุกอย่างของเถิงต๋าเข้าด้วยกันทำให้ได้ฐานผู้เล่นเกมเถิงต๋าเข้ามาใช้งานเว็บ
ตลอดช่วงที่ผ่านมา เว็บไซต์มียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นสูงมาก ถึงขนาดของเว็บไซต์และรายได้ของนักเขียนตัวท็อปจะยังสู้เว็บอู๋เซียนจงเหวินไม่ได้ แต่นักเขียนระดับล่างก็มีเงินกินอยู่ได้สบาย
ดังนั้นการใช้กำไรที่เว็บไซต์ได้มาจึงกลายเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง
“ห้ามส่งเงินมา เอาไปใช้ให้หมด” เผยเชียนยังคงยึดหลักการ ‘ใครทำก็ต้องแก้ ใครหามาก็ต้องใช้ไป’ คำตอบที่ให้หม่าอี้ฉวินไปจึงยังเหมือนเดิม
“เอ่อ โอเคครับบอสเผย” หม่าอี้ฉวินคิดอยู่แล้วว่าบอสเผยจะตอบแบบนี้ แต่การได้รับคำสั่งจากบอสเผยกับการทำเองตามใจชอบนั้นไม่เหมือนกัน
ถึงจะรู้ว่าบอสเผยต้องให้เอากำไรกลับไปลงทุนขยายเว็บไซต์ต่ออยู่แล้ว แต่หม่าอี้ฉวินก็ข้ามขั้นตอนการขออนุญาตไม่ได้อยู่ดี
เพราะเรื่องนี้มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เหมือนตอนทำกิจกรรมร่วมกับเกมกลับใจคือฟากฝั่ง
ถ้าเป็นเรื่องเหมือนตอนกิจกรรมร่วมมือกับเกมกลับใจคือฟากฝั่ง ในฐานะผู้รับผิดชอบเว็บไซต์ เขาสามารถตัดสินใจได้เลยเพราะไม่ได้มีค่าใช้จ่ายอะไร
“เดี๋ยว”
หม่าอี้ฉวินกำลังจะกลับออกไป แต่บอสเผยเรียกเขาเอาไว้ก่อน
เผยเชียนถามขึ้น “คุณวางแผนว่าจะใช้เงินก้อนนี้ยังไง”
ตอนแรกเขาไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าควรจะถามไถ่อะไรไปบ้าง…
ถ้าปล่อยให้จัดการเองจะมั่นใจได้ยังไงว่าหม่าอี้ฉวินจะเอาเงินไปผลาญหมด!
ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจถามออกไป
หม่าอี้ฉวินยิ้ม “ผมคิดๆ ไว้แล้วครับบอสเผย
“ตอนนี้นักเขียนระดับกลางและล่างค่อนข้างติดใจเว็บเรา แถมพวกเขายังดึงแฟนเกมเถิงต๋ามาใช้งานเว็บได้ยาวๆ หมวดเกมของเรากำลังไปได้สวย นักอ่านเริ่มจับกลุ่มพูดคุยกันโดยเฉพาะ
“ผมคิดว่าปัญหาหลักในตอนนี้คือเราไม่มีนักเขียนระดับท็อป
“เพราะงั้นผมคิดว่าจะใช้เงินก้อนนี้ซื้อตัวนักเขียนตัวท็อปจากเว็บอู๋เซียนจงเหวินที่อาจจะไม่พอใจสภาพปัจจุบัน
“ผมจะเน้นนักเขียนในหมวดที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม กับนักเขียนที่มีฝีมือแต่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ
“ผมไม่คิดว่าเราจะดึงตัวนักเขียนระดับเทพมาได้ แต่ถ้ายอมจ่าย อย่างน้อยก็น่าจะดึงนักเขียนที่ทำรายได้ได้ประมาณสามถึงห้าหมื่นหยวนต่อเดือน แต่มีปัญหาไม่สามารถไต่เต้าไปเป็นนักเขียนระดับเทพมาได้”
เผยเชียนเงียบไป
ฟังดูดีสุดๆ!
ปัญหาใหญ่ของเว็บจงเตี่ยนจงเหวินตอนนี้อยู่ที่เพดานยังต่ำไป ยังไม่สามารถผลิตผลงานดังๆ ที่จะกลายเป็นกระแสร้อนแรงทั่วอินเทอร์เน็ตได้
นักเขียนระดับกลางและล่างอาจจะอยู่ดีมีสุข แต่เว็บไซต์ก็ไม่สามารถผลิตนักเขียนระดับเทพออกมาได้
ถ้าไปซื้อตัวนักเขียนฝีมือดี หาผลงานที่ยอดขายดีๆ แล้วทุ่มโปรโมตทั่วอินเทอร์เน็ต…
เว็บจงเตี่ยนจงเหวินอาจจะพัฒนาไปอีกระดับได้!
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็กระแอมกระไอ “ทำแบบนั้นไม่ได้
“นักเขียนระดับเทพมาจากฝีมือและความพยายาม ต้องผลิตผลงานดีๆ ออกมาและรวบรวมฐานผู้อ่านเอง ไม่ใช่หวังพึ่งเว็บไซต์ให้สร้างชื่อให้
“ถ้าจะซื้อตัวนักเขียนมา เราก็ต้องจ่ายเงินก้อนโต แต่นักเขียนที่ดึงตัวมาจะรู้สึกอยู่ไม่ถูกที่ถูกทาง ต้องเขียนงานออกมาให้ผู้อ่านอีกกลุ่ม พอเป็นอย่างนั้นก็อาจรักษาชื่อเสียงเอาไว้ไม่ได้ ขณะเดียวกันเว็บไซต์ก็ต้องจ้างนักเขียนในอัตราความคุ้มค่าต่อราคาต่ำ การันตีไม่ได้ว่าจะได้กำไรรึเปล่า
“การซื้อตัวมาและกำหนดให้พวกเขาทำให้ได้ตามเป้าก็ไม่ต่างอะไรจากพวกขูดรีด เราไม่มีทางได้ความภักดีจากพวกเขา ส่วนนักเขียนก็จะไม่คิดว่าเป็นข้อตกลงที่ดีพอ
“สรุปแล้ววิธีนี้ก็ไม่ได้ผิด แต่มันไม่เหมาะกับทิศทางของเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน
“ผมคิดว่าเราควรลงทุนกับนักเขียนระดับล่างและกลางต่อ ถ้าอยากสร้างนักเขียนระดับเทพ ก็เริ่มจากกลุ่มนักเขียนที่เรามีอยู่ ทำไมต้องพยายามไปดึงตัวมาจากที่อื่นด้วย”