กองถ่ายภาพยนตร์วันพรุ่งนี้ที่สดใส
“คัต!
“โอเค ผ่านซีนนี้ได้
“ขอบคุณทุกคนมาก เชิญแยกย้ายกันพักผ่อน เดี๋ยวต่อไปจะเป็นการถ่ายโฆษณาครับ”
พอผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อพูดจบ ทุกคนก็เริ่มปรบมือและส่งเสียงเชียร์ หลายคนดูโล่งใจมาก
ตอนนี้ซีนส่วนใหญ่ถ่ายไปหมดแล้ว
ถึงจะติดขัดปัญหาในช่วงต้นของการถ่ายทำ แต่คำแนะนำของบอสเผยกับการตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ของทุกคนก็ทำให้ก้าวผ่านปัญหามาได้
ลู่จือเหยากับนักแสดงคนอื่นๆ เคมีเข้ากันมากขึ้นเรื่อยๆ ซีนต่างๆ ของพวกเขาดูน่าสนใจมากขึ้น ตอนแรกพวกเขาต้องถ่ายซ้ำอยู่หลายรอบ แต่ช่วงหลังๆ ถ่ายแค่สองสามเทคก็ผ่าน
แถมทุกเทคที่ถ่ายมายังดีมากจนจูเสี่ยวเช่อเลือกไม่ถูก
เขาเลยเลือกไปตัดสินใจทีหลังตอนช่วงตัดต่อ
ด้วยเหตุนี้การถ่ายทำหนังจึงจบลงในวันนี้
ทีมงานหลายคนรู้สึกโล่งอก เพราะตอนนี้เหลือแค่ถ่ายโฆษณาแล้ว
โฆษณาที่จะถ่ายใช้แค่เป็นฉากหลังในหนัง หลายคนคิดว่าไม่น่าจะต้องเต็มที่มากเท่าตอนถ่ายซีนในหนัง น่าจะถ่ายทำกันสบายๆ
แต่จูเสี่ยวเช่อไม่คิดแบบนั้น
เขาถือแผนถ่ายโฆษณาหนาเตอะไว้ในมือและกำลังอธิบายแผนงานให้นักแสดงที่เกี่ยวข้องฟัง
กลุ่มที่จะมาแสดงโฆษณานั้นคัดเลือกมาใหม่หมด
ตอนแรกจูเสี่ยวเช่อไม่ค่อยมั่นใจเรื่องโฆษณาเท่าไหร่ เขาถึงกับคิดว่าจะให้แบรนด์ใหญ่ๆ ทำโฆษณามาใส่ในหนัง
แต่บอสเผยก็ปัดไอเดียนั้นตกไปแล้วชี้ทางอื่นให้แทน พวกเขาจะถ่ายโฆษณาเอง โดยไม่เอาบริษัท โลโก้ หรือสินค้าจริงมาใช้
พอสรุปว่าจะทำตามนี้ จูเสี่ยวเช่อก็ส่งคนไปตระเวนหานักแสดงใหม่จากทั่วทั้งเมือง
โฆษณาที่ถ่ายจะใช้เป็นฉากหลังในหนัง เพราะงั้นจึงให้นักแสดงหลักมาถ่ายไม่ได้
ตัวละครส่วนใหญ่ในเรื่องเป็นคนจน ถ้าอิงจากตรงนี้ ก็เอาพวกเขามาเล่นโฆษณาไม่ได้
มีแค่กรรมการที่เล่นโดยจางจู่ถิงกับตัวเอก (ตอนมีชื่อเสียงแล้ว) ที่รับบทโดยลู่จือเหยาเท่านั้นที่มาถ่ายโฆษณาได้
สาวสวยที่โผล่มาตอนจบ และได้กรรมการช่วยดันขึ้นมาแทนตัวเอกก็แสดงโฆษณาได้
นอกจากสามคนนี้แล้ว พวกที่ถูกคัดมาแสดงโฆษณาเป็นกลุ่มใหม่ทั้งหมด ทุกคนเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่เคยแสดงหนังมาก่อน
ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อตั้งใจวางแผนเรื่องโฆษณามาก แผนจึงออกมาหนาเตอะอย่างที่เห็น
“ก่อนอื่นผมขอเน้นก่อนว่าถึงเราจะถ่ายแค่โฆษณาไปใช้เป็นฉากหลังในหนัง แต่ก็ต้องตั้งใจเต็มที่ โฆษณานี้สำคัญเท่าๆ กับหนัง เอาเข้าจริงในบางจุดอาจจะสำคัญกว่าด้วยซ้ำ!
“โฆษณาจะเป็นตัวบอกใบ้และเป็นจุดเชื่อมโยงให้คนดู
“เนื้อเรื่องส่วนหนึ่งในหนังจะเชื่อมกับโฆษณา
“ตัวอย่างเช่น ก่อนตัวเอกกับนางเอกจะเข้าร่วมรายการประกวดความสามารถ ตัวเอกมักเห็นโฆษณาที่กรรมการแสดงระหว่างดูรายการทีวีอยู่บ่อยๆ โฆษณาจะเป็นตัวนำเสนอตัวละครกรรมการให้คนดูได้รู้ว่าตัวละครนี้รวย มีอิทธิพล และประสบความสำเร็จมากแค่ไหน
“พอตัวเอกเริ่มดังขึ้นมา ก็จะมีโฆษณาที่ตัวเอกแสดงปล่อยออกมา โดยจะเป็นสินค้าหลายๆ ตัว เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาดังขึ้นมาชั่วข้ามคืนได้ขนาดไหน
“หลังจากชีวิตตัวเอกพลิกผัน ระหว่างที่นอนอยู่บนเตียงก็จะได้เห็นโฆษณาที่แสดงโดยหญิงสาวซึ่งเข้ามาแทนที่เขา เป็นการบอกคนดูว่ากรรมการหาคนมาแทนที่ทันทีที่วางแผนตลบหลังตัวเอก และเริ่มต้นวงจรอุบาทว์ครั้งใหม่
“นอกจากนั้นแล้ว โฆษณายังเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของสังคมยุคใหม่อย่างเรื่องบิ๊กดาต้ากับเรื่องความเป็นส่วนตัว
“เราจะถ่ายโฆษณาสินค้าหลายตัว แต่ทุกตัวจะเชื่อมโยงกับชีวิตของตัวเอก
“ตัวอย่างเช่น หลังจากตัวเอกดื่มเบียร์หมดกระป๋อง โฆษณาไก่ทอดกับไวน์แดงจะเด้งขึ้นมา
“ตอนตัวเอกเสียเงินก้อนใหญ่ให้กับรายการ โฆษณาบริการกู้ยืมเงินก็จะเด้งขึ้นมา
“ตอนตัวเอกรวย ก็จะมีพวกโฆษณาเกี่ยวกับเครื่องมือทางการเงิน ประกันภัย ของหรูหรา อะไรประมาณนี้
“โฆษณาพวกนี้จะมีตลอดทั้งเรื่อง พอชีวิตตัวเอกเปลี่ยนไป โฆษณาก็จะเปลี่ยนตาม
“ส่วนหนึ่งก็ช่วยเสริมอารมณ์ให้หลายๆ ฉาก อีกส่วนก็เป็นการเสียดสีปัญหาเรื่องบิ๊กดาต้ากับความเป็นส่วนตัว
“เรื่องสุดท้าย โฆษณาที่เราจะถ่ายทำใช้องค์ประกอบไซไฟเยอะมากเพื่อสื่อให้เห็นถึงชีวิตและวัฒนธรรมของโลกอนาคต
“บอสเผยบอกไว้ว่า โฆษณาจะต้องทำออกมาอย่างใส่ใจ ดูดีมีระดับ และใช้องค์ประกอบล้ำๆ ให้คนดูงง เพื่อที่จะได้ตอกย้ำคนดูว่าหนังเรื่องนี้มีเซตติ้งอยู่ในโลกอนาคต
“โฆษณาพวกนี้จะทำให้คนดูรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอยู่ในโลกอนาคต ซึ่งจะทำให้รู้สึกอินกับหนังมากขึ้น”
จูเสี่ยวเช่อเลื่อนสายตามองนักแสดงทุกคนก่อนจะหยุดมองนักแสดงคนหนึ่ง
“โอเค เหมือนทุกคนจะเข้าใจตรงกันแล้ว โฆษณาแรกที่จะถ่ายเป็นโฆษณาบริการเดลิเวอรี่ ตัวนี้ไม่มีอะไรมาก จะเป็นโดรนบินส่งเดลิเวอรี่ทั่วเมือง
“แต่โดรนตัวที่ว่าจะมีไฟลุกท่วมเหมือนเป็นลูกไฟพุ่งแหวกฟ้ายามค่ำคืน คุณเปิดประตูออกไปรับอาหาร เปิดกล่องหน้าตาสวยงาม เห็นสเต๊กโคตรน่ากินที่เพิ่งย่างเสร็จใหม่ๆ อยู่ด้านใน ควันยังฉุยอยู่…
“โฆษณาตัวถัดไปเป็นโฆษณามือถือรวมกับเดลิเวอรี่
“โดรนบินไปรับอาหาร แต่หน้าจอขึ้นแสดงว่าจุดหมายอยู่ไกลเกินไป มีแบตเตอรี่ไม่พอบินไปส่ง จังหวะนั้นเราจะซูมเร็วๆ ไปที่แผนที่เพื่อให้เห็นว่าโดรนต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลทรายไปส่งอาหารที่อีกเมืองหนึ่ง
“เจ้าของกิจการเดลิเวอรี่จะหยิบมือถือมาต่อสายกับโดรนเพื่อชาร์จแบตให้โดรน เสร็จแล้วโดรนก็จะบินขึ้นฟ้า
“โดรนจะบินข้ามน้ำข้ามทะเล ระหว่างทางเจอพายุทราย พายุหมุน และสภาพอากาศสุดโต่งหลายๆ แบบ
“คุณก็เปิดประตูไปรับอาหารเหมือนเดิม แล้วโดรนก็บินกลับ พอกลับไปถึง เจ้าของกิจการเดลิเวอรี่ก็เก็บโทรศัพท์กลับแล้วเห็นว่ายังมีแบตเหลืออีกสามสิบเปอร์เซ็นต์…”
จูเสี่ยวเช่ออธิบายเนื้อหาโฆษณาให้นักแสดงฟัง
เขาเค้นหัวคิดเนื้อหาโฆษณาหนักมากจนเซลล์สมองตายไปหลายเซลล์
พวกโฆษณาที่เน้นความล้ำสมัยจะถ่ายง่ายหน่อย เพราะแค่จับนักแสดงมาแต่งตัวล้ำๆ แล้วโพสท่านิดหน่อย จากนั้นก็ยัดฉากประหลาดๆ กับเอฟเฟ็กต์พิเศษเข้าไปก็เสร็จ
แต่จะมีโฆษณาที่ดูล้ำๆ อย่างเดียวคงไม่ได้
ต่อให้อนาคตจะพัฒนาไปไกลขนาดไหน ยังไงโฆษณาก็ต้องมีความหลากหลาย
เพราะงั้นจูเสี่ยวเช่อเลยต้องคิดโฆษณาแบบต่างๆ มาเพิ่มให้เกิดความสมดุล
เขาต้องปวดหัวหนักว่าจะทำโฆษณาสินค้าอะไรดี novelgu.com
เพราะอย่างน้อยก็ต้องคิดโลโก้กับสโลแกนด้วย
ถ้าทำโลโก้ออกมาแบบส่งๆ คนดูก็อาจจะด่าเอาได้ แบบนั้นจะถ่ายโฆษณาเองทำไม
เพราะงั้นก็ต้องทำโลโก้ออกมาให้ดี เอาให้เหมือนเป็นสินค้าจริง
แต่โฆษณามีหลายตัว ถ้าจูเสี่ยวเช่อต้องจัดการคนเดียวหมดคงได้ตายเอาแน่ๆ
ออกแบบโลโก้ขึ้นมาจากศูนย์น่าจะยากเกินไป
หลังจากคุยกับหวงซื่อปั๋ว จูเสี่ยวเช่อก็ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากกิจการในเครือ!
โมหยูเดลิเวอรี่ได้รับมอบหมายให้ทำโลโก้บริษัทเดลิเวอรี่ขึ้นมาโดยปรับจากโลโก้ตัวเอง ส่วนโลโก้บริษัทมือถือก็ขอโลโก้ตัวที่ไม่ได้ใช้จากบริษัท OTTO ขอแค่ผู้ชมไม่เคยเห็นมาก่อนก็ใช้การได้แล้ว
สรุปแล้วด้วยความช่วยเหลือจากกิจการต่างๆ โลโก้ที่ได้จึงดูสมจริงทีเดียว
ถึงชื่อแบรนด์จะคิดขึ้นมาใหม่ แต่จูเสี่ยวเช่อก็บอกให้กิจการต่างๆ เอาชื่อพวกนี้ไปจดทะเบียนไว้ล่วงหน้า
เขาไม่ได้หวังให้หนังช่วยโปรโมตแบรนด์เหล่านั้น แต่กลัวว่าจะมีใครเอาชื่อไปจดทะเบียนหลังดูหนังแล้วมาเรียกร้องขอค่าชดเชย
ถ้าเอาชื่อไปจดทะเบียนไว้ก่อนก็จะป้องกันปัญหานี้ได้
ถึงจะมีโฆษณาหลายตัว แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นโฆษณาสั้นๆ เพราะงั้นจูเสี่ยวเช่อเลยคาดหวังว่าน่าจะใช้เวลาถ่ายทำแค่ประมาณสองสัปดาห์
ถึงตอนนั้นเขาก็จะพูดได้เต็มปากว่า ได้ทุ่มเทจิตวิญญาณไปกับการทำหนังเรื่องนี้อย่างเต็มที่
…
…
ฝ่ายเกม บริษัทเถิงต๋า
หร่วนกวางเจี่ยนถอนหายใจยาว “โอเคครับ คอนเซ็ปต์อาร์ตกับแอนิเมชันของฮีโร่ล็อตแรกเสร็จแล้วครับ”
หลี่หย่าต๋าปรบมือ “ขอบคุณมากค่ะคุณหร่วน!”
ตลอดช่วงที่ผ่านมา หร่วนกวางเจี่ยนง่วนอยู่กับการทำคอนเซ็ปต์อาร์ตกับแอนิเมชันให้ฮีโร่เกม GOG เขาต้องบินไปกลับจิงโจวเซี่ยงไฮ้อยู่หลายหน
แต่การค้นคว้าและพัฒนาเกมก็ดำเนินควบคู่ไปกับการออกแบบคอนเซ็ปต์อาร์ต ไม่มีฝ่ายไหนถ่วงกัน
งานของหร่วนกวางเจี่ยนคือปรับแก้ IP ตัวละครที่เถิงต๋าซื้อมา กับทำฮีโร่ออริจินัลขึ้นมาใหม่ อย่างผู้พิทักษ์ความยุติธรรม Modest
รวมๆ แล้วก็ไม่ได้ถือว่าเป็นงานที่หนักหนาอะไร เพราะไม่ต้องสร้างฮีโร่ขึ้นมาใหม่จากศูนย์ งานส่วนใหญ่เป็นการปรับแต่งจากภาพที่มีอยู่แล้ว
ขอแค่เข้าใจจุดเด่นของตัวละคร การปรับแต่งตัวละครเดิมก็ง่ายกว่าการออกแบบใหม่จากศูนย์มาก
ด้วยเหตุนี้การออกแบบคอนเซ็ปต์อาร์ตกับแอนิเมชันจึงคืบหน้าไปได้รวดเร็วกว่าการค้นคว้าและพัฒนาเกม ตัวเกมยังต้องพัฒนาอีกพักใหญ่ถึงจะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการหรือเปิดให้คนอื่นๆ เข้ามาทดสอบได้ แต่คอนเซ็ปต์อาร์ตกับแอนิเมชันนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว
หลี่หย่าต๋าถาม “คุณหร่วนมีแผนจะทำอะไรต่อคะ ให้ดิฉันไปแจ้งบอสเผยมั้ยคะว่าคุณทำคอนเซ็ปต์อาร์ตกับแอนิเมชันเสร็จแล้ว จะได้ฉลองกัน”
หร่วนกวางเจี่ยนรีบส่ายหัว “ไม่ครับ ไม่ต้อง บอสเผยยุ่งมาก อย่าไปกวนบอสด้วยเรื่องเล็กน้อยเลยครับ
“อีกอย่างผมก็ไปสวนสนุกของจิงโจวมาแล้ว กิจกรรมน่าตื่นเต้นอื่นๆ ก็ไม่มี
“ผมว่าจะพักต่ออีกสองสามวัน ตะลอนเล่นทั่วจิงโจวเผื่อเจออะไรน่าสนใจครับ”
หลี่หย่าต๋าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “จริงด้วยค่ะ เถิงต๋ามีบริษัทเกมอีกบริษัทชื่อฉางหยางเกมส์ เป็นบริษัทที่พัฒนาเกมเพลงรบโลหิต คุณหร่วนเคยได้ยินผ่านๆ บ้างรึเปล่าคะ”
หร่วนกวางเจี่ยนพยักหน้า “เคยได้ยินครับ แต่ผมไม่ค่อยสนใจสไตล์ภาพเกมเพลงรบโลหิตเท่าไหร่”
หลี่หย่าต๋า “นั่นแหละค่ะ เราอยากให้คุณหร่วนช่วยยกระดับมาตรฐานงานภาพให้บริษัทนั้นด้วย! ไม่ต้องห่วงนะคะ เราทำงานภายใต้บอสเผยกันหมด คุณได้ค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อแน่นอนค่ะ”
หร่วนกวางเจี่ยนลังเลเล็กน้อย “ทำพร้อมกันสองโปรเจ็กต์อาจจะหนักเกินไปสำหรับผม…”
หลี่หย่าต๋าโบกมือ “ไม่ต้องกังวลค่ะ ทางนู้นมีงานภาพเยอะแล้ว คุณหร่วนแค่ไปดูแล้วให้คำแนะนำ งานหลักๆ คือช่วยชี้แนะ ไม่ต้องลงมือทำเองค่ะ”
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หร่วนกวางเจี่ยนก็พยักหน้า “โอเคครับ เดี๋ยวผมแวะไปให้คำแนะนำ”