เผยเชียนหมดอารมณ์ทันทีหลังจากได้คุยกับจางหยวน
ตอนแรกเขากะจะมาเล่นเกม แต่กลับมาเจอพนักงานแอบทำลายแผนการที่วางไว้ซะนี่!
หงุดหงิดชะมัด!
เผยเชียนกดปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็เดินไปสั่งกาแฟที่โซนคาเฟ่ แล้วนั่งคิดทบทวนชีวิตตัวเองระหว่างจิบกาแฟ
ชีวิตนี้มันช่างหนักหนา!
หลังจากคำนวณดูอย่างละเอียด เผยเชียนก็พบว่าโปรเจ็กต์ที่ยังขาดทุนอยู่ในตอนนี้คือโมหยูเดลิเวอรี่กับนี่เฟิงโล
จิสติกส์
จู่ๆ ก็โดนแทงข้างหลังเข้าซะงั้น จะลำบากเกินไปแล้ว
เผยเชียนคิดว่าตัวเองจะปล่อยตัวสบายๆ ไปจนถึงช่วงใกล้สรุปบัญชีไม่ได้แล้ว เขาต้องวางแผนล่วงหน้า
ถึงเวลาคิดเรื่องการขยายกิจการโมหยูเดลิเวอรี่กับนี่เฟิงโลจิสติกส์แล้ว
โดยเฉพาะโมหยูเดลิเวอรี่ที่ตอนนี้ต้องอาศัยร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู จึงให้บริการได้แค่ละแวกร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเท่านั้น
แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 1.0 ก็ทำกำไรได้เรื่อยๆ จากทั้งยอดขายเครื่องดื่มและยอดใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ร้านพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้แล้ว
เผยเชียนกำลังคิดอยู่ว่าควรจะแยกโมหยูเดลิเวอรี่ออกมาดีรึเปล่า
แยกออกมาเป็นเหมือนแฟรนไชส์ร้านฟาสต์ฟู้ดที่ลูกค้าสามารถมากินที่ร้านหรือสั่งกลับบ้านก็ได้
ทำแบบนี้ก็จะตัดกำไรร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 1.0 และขยายโมหยูเดลิเวอรี่ให้ครอบคลุมทั้งจิงโจวได้เพื่อผลาญเงินต่อไปเรื่อยๆ…
แต่เขาก็ต้องคิดดูก่อนว่าทำแบบนั้นจะส่งผลกระทบอะไรรึเปล่า
ถ้าเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมาแล้วโมหยูเดลิเวอรี่ที่ขาดทุนดีอยู่แล้วพลิกมาทำกำไรได้จะซวยเอา
ใช่ ต้องคิดถึงผลลัพธ์ในระยะยาว
เผยเชียนครุ่นคิดขณะดื่มกาแฟ
…
“ช่วงนี้บอสเผยดูสบายๆ นะครับ
“โปรเจ็กต์บ้านผีสิงกำลังไปได้สวยเหรอครับ”
เผยเชียนเงยหน้าขึ้น เห็นหลี่สือเดินถือกาแฟมานั่งลงตรงข้าม
เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง “บอสหลี่อวยพรแบบนั้นก็ต้องไปได้ดีแหละครับ”
สบายๆ เหรอ ถ้ามองผ่านๆ ก็คงเป็นงั้น
ส่วนเรื่องบ้านผีสิง การไม่มีข่าวดีอะไรเข้ามานี่แหละคือเรื่องที่ดีที่สุด
“ทำไมเหรอครับ บอสหลี่อยากลงทุนกับบ้านผีสิงของผมเหรอ”
หลี่สือหัวเราะขัดเขินเล็กน้อย “อืม…ขอผมคิดดูก่อนนะครับ”
ปากว่างั้นแต่ใจคงคิดอีกอย่าง
หลี่สือสังเกตเห็นว่าเผยเชียนมีท่าทีนิ่งสงบเหมือนอย่างเคย
นอกจากจะดูนิ่งๆ แล้วยังดูเบื่ออยู่หน่อยๆ
เขาอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าบอสเผยช่างเป็นคนสำรวมท่าที คาดเดาอะไรได้ยาก
ที่หลี่สือมารอบนี้มีจุดประสงค์อยู่
ตอนแรกเขากะจะค่อยๆ ตะล่อม แต่ก็ตัดสินใจไม่ทำแบบนั้นเพราะบอสเผยไม่ชอบอ้อมค้อม
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเข้าประเด็นเลย!
หลี่สือคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “บอสเผยครับ ผมมีโปรเจ็กต์ที่อยากจะทำร่วมกัน ไม่รู้ว่าคุณจะสนใจรึเปล่า”
เผยเชียนยิ้มตอบอย่างสุภาพ
มีโปรเจ็กต์อยากทำร่วมกับฉันเหรอ
โปรเจ็กต์ที่บอสหลี่สนใจต้องไม่ใช่โปรเจ็กต์ดีๆ แน่!
บอสหลี่อยู่ในแวดวงการลงทุนมานาน ถึงจะทำกำไรไม่ได้ทุกโปรเจ็กต์ แต่เขาก็มีวิสัยทัศน์ที่เหนือชั้นกว่านักลงทุนทั่วไป จึงมีโอกาสที่จะทำกำไรได้สูง
แถมยิ่งพลาดก็ยิ่งฉลาดกว่าเดิม
ดูจากประสบการณ์การลงทุนที่ผ่านมา เผยเชียนไม่ค่อยเชื่อมั่นในธุรกิจรูปแบบนี้เท่าไหร่
เผยเชียนพูดเสียงจริงจัง “ผมร่วมลงทุนกับบอสหลี่ด้วยแน่นอนถ้าคุณมีโปรเจ็กต์ที่จะพาผมขาดทุน”
หลี่สือหัวเราะลั่น “บอสเผยชอบเล่นมุกฉลาดๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจังตลอดเลยนะครับ”
เผยเชียน “…”
หลี่สือพูดต่อ “ผมได้ยินมาว่าบอสเผยเพิ่งเปิดบริษัทลงทุนแล้วทุ่มเงินทุนไปกับบริษัทเกมต่างประเทศ
“ดูท่าจะไปได้สวยเลยนะครับ
“ขอถามได้มั้ยครับว่านี่เป็นโปรเจ็กต์ที่จะพาคุณขาดทุนเหรอ”
เผยเชียน “…”
จะถามแบบนั้นก็คงไม่แปลก คงเลี่ยงไม่ตอบไม่ได้
“ถ้าบอกว่าโปรเจ็กต์นี้ลงทุนไปโดยที่ผมไม่รู้เรื่อง บอสหลี่จะเชื่อมั้ยครับ” เผยเชียนมองหลี่สือด้วยแววตาจริงใจ
“บอสเผยสมบูรณ์แบบทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องชอบหลอกคนอื่นนี่แหละครับ!
“แต่ผมก็เข้าใจแหละครับว่าการทำธุรกิจน่ะไม่หน่ายเล่ห์พอๆ กับการศึก”
เผยเชียน “…”
หลี่สือไม่อยากเถียงเรื่องนี้ต่อ “มาคุยเรื่องธุรกิจกันดีกว่าครับบอสเผย
“ผมมีโปรเจ็กต์ที่อยากทำร่วมกับคุณอยู่
“ผมมีเพื่อนอีกสองคนที่อยากลงทุนเปิดสาขาภัตตาคารไร้ชื่อเพิ่ม”
เผยเชียน “?”
เปิดสาขาภัตตาคารไร้ชื่อเพิ่มเหรอ
แค่สาขาเดียวก็กำไรบานแล้ว จะให้เปิดเพิ่มอีกเหรอ
แกเป็นหนอนบ่อนไส้ที่ส่งมาจากบริษัทคู่แข่งแน่ๆ!
หืม เดี๋ยวนะ บอสหลี่ก็มาจากบริษัทคู่แข่งจริงๆ นี่…
เผยเชียนยกกาแฟขึ้นจิบ “ผมยังไม่คิดจะเปิดเพิ่มครับ”
หลี่สือ “…บอสเผยปฏิเสธเด็ดขาดตลอดเลยนะครับ”
เผยเชียนปฏิเสธเขาก่อนที่จะทันได้อธิบายอะไรต่อ
ถ้าเปิดสาขาเพิ่ม ทุกคนก็ได้เงินกันถ้วนหน้า แบบนั้นก็เป็นเรื่องดีเลยไม่ใช่เหรอ
อีกอย่างถ้าอยากผูกขาดคนเดียว ไม่สนใจร่วมมือกับใคร อย่างน้อยก็น่าจะลองฟังๆ ดูก่อน
แต่หลี่สือก็เคยเจรจากับบอสเผยมาหลายครั้ง จึงรู้นิสัยอีกฝ่ายดี
หลี่สือรวบรวมสติ “บอสเผยครับ พวกเราไม่ได้ต้องการอะไรอย่างอื่นเลย
“ภัตตาคารไร้ชื่อเป็นธุรกิจของคุณ คุณอยากไปกินตอนไหนก็ได้ตามใจชอบ ส่วนพวกผมต้องจองคิวกันล่วงหน้าเป็นเดือน…
“เราแค่อยากกินอาหารดีๆ บ้าง
“ขอแค่นี้มากไปเหรอครับ”
เผยเชียน “…”
อยากกินตอนไหนก็ได้เหรอ
เหมือนบอสหลี่จะเข้าใจรูปแบบการทำงานครัวส่วนตัวหมิงหยุนผิดไปนะ…
ขนาดฉันเองยังกินได้แค่ห้าครั้งต่อเดือนเลย!
แต่ถ้าลองคิดดูอีกที ขนาดตัวเองยังยากขนาดนี้ คนอื่นๆ นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ครัวส่วนตัวหมิงหยุนโดนจองเต็มยาวสองเดือน ถือว่านานมากๆ สำหรับภัตตาคารทั่วไป ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
เผยเชียนถอนหายใจเบาๆ “บอสหลี่เข้าใจผมผิดแล้วครับ
“ผมไม่เคยคิดที่จะผูกขาดร้านไว้คนเดียวเลย
“ช่างเรื่องนี้ก่อนเถอะครับ ขอผมฟังแผนคุณดีกว่า”
หลี่สือพยักหน้า “ไอเดียนี้มาจากความเก็บกดที่ไม่ได้กินอาหารอร่อยครับ ในเมืองจิงโจวไม่ได้มีแค่ผมที่รู้สึกแบบนี้
“เซวียเจ๋อปินกับหวังเผิงเองก็รู้สึกเหมือนผม
“บอสเผยน่าจะรู้จักสองคนนั้นนะครับ คนนึงเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวย ลูกชายคนเดียวของเซวียหยวนชิ่ง อีกคนคือผู้ร่วมก่อตั้งฉวนหมินรีวิว”
เผยเชียน “…”
รู้จักแน่นอนอยู่แล้ว!
ก็ไอ้เวรสองคนที่ทำให้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนดังขึ้นมาไง!
เผยเชียนยังจำเรื่องราวนั้นได้เหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวาน
เซวียเจ๋อปิน ทายาทตระกูลร่ำรวยตามมากินเพราะเว่ยป๋อของจางจู่ถิง จากนั้นก็พาหวังเผิงมา
หวังเผิงเขียนรีวิวครัวส่วนตัวหมิงหยุนลงฉวนหมินรีวิว…ก็แค่นั้น
หมิงหยุนวิลล่าใช้ครัวส่วนตัวหมิงหยุนในการโฆษณา ส่วนบอสหลี่ก็ใช้โอกาสนี้ในการปลุกกระแสทำเลราคาถูกรอบๆ จนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่ากลายเป็นที่นิยมไปด้วย…
คร่าวๆ ก็ประมาณนี้
สรุปแล้วเผยเชียนเกลียดสองคนนั้นเข้าไส้
แต่ตอนนี้ดันจะมาทำเงินกับฉันเนี่ยนะ
ฝันไปเถอะ!
หลี่สือไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของบอสเผยจึงพูดต่อ “บอสเผยครับ พวกผมสามคนเป็นลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ของหมิงหยุนวิลล่า!
“แต่มันทรมานเหลือเกินกับการรอคิว!
“ตอนแรกๆ ที่ลูกค้ายังไม่เยอะมากก็ยังพอทนไหว แต่หลังๆ ร้านเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“ให้จองล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์ยังพอรับได้ แต่ให้จองล่วงหน้าหนึ่งเดือนนี่คนละเรื่องเลย!
“ปกติเราจองร้านตามตารางงานเรา แต่ตอนนี้เราต้องเปลี่ยนตารางงานให้ตรงกับคิวของร้าน!
“ถ้าอยากจองห้องใหญ่ในครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็ต้องจองล่วงหน้า แล้วรอให้ใกล้ๆ วันถึงค่อยชวนเพื่อนมาจิงโจว
“ลำบากมากครับ!”
เผยเชียนแอบถอนหายใจอยู่ภายใน
เขานึกสมน้ำหน้าทั้งสามคน…
ความสุขขึ้นอยู่กับการเปรียบเทียบจริงๆ ด้วย
เผยเชียนรู้สึกไม่ค่อยสะดวกกับการจองเหมาร้านทุกวันที่ 20 ของทุกเดือน และการจองห้องใหญ่สุดทุกสัปดาห์
แต่พวกบอสหลี่ลำบากยิ่งกว่า
พอได้ยินอย่างนั้นเผยเชียนก็อดสงสารพวกเขาขึ้นมาไม่ได้
หลี่สือพูดต่อ “เพราะงั้นพวกเราสามคนเลยตกลงกันทันทีว่าจะเปิดสาขาครัวส่วนตัวหมิงหยุนเพิ่มกับบอสเผย
“เราตกลงกันไว้ว่าเรื่องเงินทุน กำลังคน และการจัดการต่างๆ พวกเราสามคนจะเป็นคนดูแลเอง บอสเผยแค่ให้พวกเราใช้แบรนด์ ‘ภัตตาคารไร้ชื่อ’ ก็พอ แล้วเราจะให้ส่วนแบ่งทุกเดือนครับ!
“หรือถ้าบอสเผยกังวลเรื่องกำไร เราใช้โมเดลจ่ายค่าแฟรนไชส์กับให้ส่วนแบ่งได้นะครับ เราจะจ่ายค่าแฟรนไชส์ให้แบรนด์ดัง ‘ภัตตาคารไร้ชื่อ’
“เราดูทำเลไว้แล้ว ว่าจะเปิดในห้างใหญ่ใกล้ๆ จะได้การันตีเรื่องคน
“สรุปคืออนาคตดูดีมากครับ!”
เผยเชียนเงียบไป
แผนฟังดูดีเกินไปแล้ว!
ฟังดูดีจนไม่กล้าร่วมลงทุนสุ่มสี่สุ่มห้า…
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงจริงใจ “บอสหลี่ ผมร่วมโปรเจ็กต์นี้ไม่ได้จริงๆ อีกอย่างแบรนด์ภัตตาคารไร้ชื่อก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรเลย แค่อาหารอร่อย บริการเยี่ยม มีแค่นี้คุณก็ทำแบรนด์ภัตตาคารระดับสูงได้แล้วครับ!
“แต่ไม่ต้องห่วงนะครับบอสหลี่ ผมจะช่วยเป็นกำลังใจให้!
“ถ้าติดขัดปัญหาอะไรเรื่องขั้นตอนการเปิดร้านก็ถามผมได้เลย เดี๋ยวผมบอกทั้งหมดที่รู้!”
หลี่สือถอนหายใจเบาๆ “โอเคครับบอสเผย ผมเข้าใจ ถ้าผมเป็นคุณ ผมก็คงไม่ให้แบรนด์ดังในมือกับใครง่ายๆ
“เพราะยังไงบอสเผยก็เป็นคนสร้างมูลค่าแบรนด์ภัตตาคารไร้ชื่อขึ้นมาเอง…”
เผยเชียน “…”
เข้าใจผิดแล้ว เข้าใจผิดมหันต์!
แต่เผยเชียนก็อธิบายอะไรเพิ่มเติมไม่ได้ เลยได้แต่ยิ้มตอบอย่างสุภาพ
หลี่สือพูดด้วยน้ำเสียงเจือความเสียดาย “โอเคครับ เราคงต้องจัดการกันเอง หวังว่าบอสเผยจะให้เกียรติมาวันเปิดร้านนะครับ!”
เผยเชียนพยักหน้ารัว “ไปแน่นอนครับ!
“ไม่ได้ไปแค่คนเดียวด้วยครับ เดี๋ยวผมจะพาพนักงานไปด้วย!
“จะแวะไปบ่อยๆ เลยครับ!”
หลี่สือยิ้ม “บอสเผยเป็นคนเดียวเลยนะครับที่ตอบตามมารยาทได้ดูจริงใจแบบนี้”
เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก
ตอบตามมารยาทเหรอ ฉันพูดจากใจจริงเลยนะ!
ฉันจะขอบคุณมากๆ ถ้านายเปิดภัตตาคารแล้วดึงลูกค้าจากครัวส่วนตัวหมิงหยุนไปได้จริงๆ ทีนี้ฉันก็จะได้ไม่ต้องรอต่อคิว!
หลี่สือกล่าวลาเผยเชียนแล้วกลับออกไป
เผยเชียนได้แต่อวยพรให้อีกฝ่ายเงียบๆ
โชคดีนะบอสหลี่ รีบถล่มครัวส่วนตัวหมิงหยุนให้ได้เร็วๆ นะ!