งานประชุมประจำปีจบลง ของรางวัลจับสลากถูกแจกจ่ายไปหมด ตู้เกมต่างๆ ของเกลี้ยง ทุกคนอิ่มหนำสำราญใจ เหล่าพนักงานทยอยกันออกจากงานไป
เผยเชียนหันมองนาฬิกา ตอนนี้สี่โมงกว่าๆ ถือว่าทำเวลาได้ดี
ของรางวัลที่แจกมีมากมาย นอกจากมือถือกับซองแดงที่ถือกลับได้ง่ายๆ แล้ว ยังมีทีวี เครื่องกรองอากาศ และเครื่องเกมที่ขนกลับยากหน่อย
แถมผู้เข้าร่วมงานเกือบพันคนต่างได้รางวัลติดมือกันแทบทุกคน ถ้าจะให้มาต่อแถวรับรางวัลทีละคนก็คงจะใช้เวลานาน
ดังนั้นรายชื่อผู้ได้รับรางวัลจะนำไปลงในอินทราเน็ตให้เห็นกันทุกคน และจะมีการแจ้งรางวัลที่แต่ละคนได้ผ่านโปรแกรมสนทนาภายในบริษัท
หลังจากนั้นพนักงานส่งพัสดุของนี่เฟิงโลจิสติกส์ก็จะนำของรางวัลไปส่งถึงหน้าประตูบ้าน
ตอนนี้ทุกคนต้องหอบตุ๊กตาและของรางวัลจากซุ้มเกมกลับบ้าน ยังไงก็ไม่มีทางขนของรางวัลที่ได้จากการจับสลากกลับไปด้วยได้
เผยเชียนพอใจกับงานประชุมครั้งนี้
ตรงตามที่บอกไปทุกอย่างเลย!
ได้ทั้งผลาญเงิน แถมยังไม่เสียเวลามาก สมบูรณ์แบบจริงๆ!
…
เปาซวี่เดินหน้าหงอยออกจากงาน
ทำไงดี!
เขาคิดว่าตัวเองปลอดภัยจนถึงการคัดเลือกพนักงานดีเด่นครั้งต่อไปแล้วแท้ๆ
ไม่คิดเลยว่ารางวัลใหญ่ประจำงานประชุมจะเป็นทริปท่องเที่ยว แถมยังเป็นทริปสำหรับสองคนอีก!
แค่ไปเที่ยวคนเดียวก็ปวดหัวแล้ว นี่ต้องหาคนไปเที่ยวด้วยอีก
อยากตาย อยากตายจริงๆ…
เขาไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี
ระหว่างที่เดินอยู่ ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้นเมื่อเห็นใครคนหนึ่ง
เฉินคังทั่ว!
ถ้าจำไม่ผิด หมอนั่นได้รางวัลเดียวกับเขา
เปาซวี่ตั้งใจจะเข้าไปถามเฉินคังทั่วว่ามีแผนไปเที่ยวยังไง จะไปที่ไหน เผื่อจะได้ติดสอยห้อยตามไปด้วย
ถ้าเฉินคังทั่ววางแผนท่องเที่ยวเอง เปาซวี่ก็หมดเรื่องที่ต้องกังวลไปหนึ่งอย่าง
คิดได้แบบนั้น เขาก็เดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
แต่ก่อนที่จะทันได้ถามอะไร เขาก็เห็นเฉินคังทั่วแอบนัดเจอเยว่จือโจว ห่าวฉยง และหลินหวาน ทั้งสี่เดินเข้าไปในคาเฟ่เล็กๆ แถวนั้น
เปาซวี่ขมวดคิ้ว
หืม ตัดสินกันได้แล้วเหรอว่าจะไปไหน
หรือพวกเขาแอบทำงานล่วงเวลากัน
เปาซวี่รีบเดินตามเข้าไป
…
หลินหวาน เยว่จือโจว ห่าวฉยง และเฉินคังทั่วเดินไปนั่งที่โต๊ะในคาเฟ่
หลินหวานมองไปด้านนอกอย่างระแวดระวังตัว “ไม่มีใครตามเรามาใช่มั้ย”
เฉินคังทั่วตอบ “ผมว่าพี่เปาตามเรามา”
หลินหวานชะงักไป “พี่เปาเหรอ ดีเลย เรียกมานั่งด้วยกันเร็ว!”
เปาซวี่ยังยืนอยู่หน้าประตู ระหว่างที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเข้าไปดีมั้ย เฉินคังทั่วก็เดินออกมาดึงตัวเขาเข้าไป แล้วเชิญให้นั่งลงข้างๆ
เปาซวี่ตะลึงงันไป
ทำอะไรกันเนี่ย ทำไมต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ แบบนี้ด้วย
ทำเอาคิดถึงตอนที่ฉันแอบทำงานล่วงเวลาเลย…
หลินหวานกระแอมกระไอแล้วถามขึ้น “พี่เปา พี่คิดรึยังว่าจะไปเที่ยวที่ไหน พี่น่าจะเชี่ยวชาญเรื่องเที่ยวนะคะ”
เปาซวี่ “…”
หยุดซ้ำเติมกันเดี๋ยวนี้!
เปาซวี่ตอบหน้าหงอย “อย่าพูดเรื่องนี้เลยดีกว่า ผมเศร้า
“ผมไม่ชอบไปเที่ยวเลย ไม่ชอบเลยสักนิด!”
เฉินคังทั่วพูดขึ้น “แต่บอสเผยบอกว่าโอนสิทธิ์ให้คนอื่นไม่ได้”
เปาซวี่พยักหน้าอย่างอับจนหนทาง “ใช่ ผมคิดเรื่องนี้ดูแล้ว บอสเผยบอกว่าไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ใช่มั้ย งั้นผมจะเลือกเมืองจิงโจว! ผมจะได้นอนโรงแรมห้าดาวในเมืองแล้วไปเล่นเกมที่บริษัททุกวัน…”
เฉินคังทั่วกระแอมกระไอ “พี่เปา ระวังหน่อย!
“ถ้าทำแบบนั้นจริง บอสเผยจะมองพี่ยังไง
“แบบนั้นไม่ยิ่งอันตรายกว่าเดิมเหรอ!”
เปาซวี่นึกขึ้นได้ทันที
จริงด้วย!
ทำแบบนั้นอันตรายเกินไป ทำไมต้องแกว่งเท้าหาเสี้ยนด้วย
ถ้าทำแบบนั้นจริง เขาต้องได้รางวัลทริปท่องเที่ยวหนึ่งเดือนตอนคัดเลือกพนักงานดีเด่นอีกแน่…
เขาปล่อยให้อารมณ์ตัวเองมากระทบการตัดสินใจแท้ๆ ทำแบบนั้นไม่ได้!
เปาซวี่ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “ทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ ด้วย
“แล้วผมควรทำยังไงดี… พวกคุณจะไปไหนกัน ผมไปด้วยได้มั้ย คุณคิดแผนเที่ยวเลย ผมเดินตามหลังเงียบๆ ก็พอ”
เฉินคังทั่วผุดยิ้มแล้วหันมองหลินหวาน
หลินหวานตอบอย่างมั่นใจ “เราตัดสินใจกันแล้วว่าจะไปเมืองเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา”
เปาซวี่เกาหัว “เท็กซัสเหรอ ที่นั่นมีอะไรน่าสนใจด้วยเหรอ”
หลินหวานตอบ “มีสิคะ! บ้านผีสิงที่น่ากลัวที่สุดตั้งอยู่เมืองนั้น โรงพยาบาลจิตเวช ‘เขาหมอก’!”
เปาซวี่ “???”
เขาหันมองทั้งสี่คนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ แล้วพบว่าแต่ละคนมีสีหน้าต่างกันไป
เฉินคังทั่วดูเตรียมใจพร้อมรับความตาย
ห่าวฉยงดูเครียดและทุกข์ใจ
เยว่จือโจวหน้าซีดเล็กน้อย ดูจะหวั่นใจอยู่ไม่น้อย
หลินหวานสีหน้าดูดีสุด แววตาของเธอดูแน่วแน่สุดๆ
เปาซวี่งง “มันแค่ทริปเที่ยวนี่ ทำไมต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงด้วย…
“อีกอย่าง ผมไม่เห็นเคยได้ยินว่าพวกคุณชอบอะไรแบบนี้…
“เดี๋ยว อยากบอกนะว่าจะไปหาแรงบันดาลใจกัน”
เปาซวี่นึกอะไรขึ้นได้
หลินหวานกับเยว่จือโจวรับผิดชอบทำเกมสยองขวัญ ส่วนห่าวฉยงกับเฉินคังทั่วรับผิดชอบโปรเจ็กต์บ้านผีสิง
ทั้งสี่คนต่างรับผิดชอบเรื่องสยองขวัญเหมือนกัน!
หลินหวานพยักหน้า “ใช่ค่ะ!
“เกมสยองขวัญกับบ้านผีสิงที่พวกเรารับผิดชอบอยู่เป็นโปรเจ็กต์ที่สำคัญมาก แต่ตอนนี้ยังไม่คืบหน้าไปไหนเลย
“เกมมีบั๊กเพียบ แถมยังไม่ค่อยน่ากลัว
“ส่วนบ้านผีสิงยังไม่มีแผนที่ชัดเจน
“เราปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้! เราต้องหาประสบการณ์สยองขวัญที่ล้ำหน้ากว่านี้ ต้องเอาตัวเข้าไปสัมผัสถึงจะทำโปรเจ็กต์ของเราออกมาให้ดีได้!
“พี่เปา พี่ได้รางวัลนี้ก็เพราะความดีความชอบที่พี่สั่งสมมา แต่นอกจากพี่…”
เปาซวี่หน้าเครียดขึ้นมา หมายความว่าไงที่บอกว่าเป็นเพราะความดีความชอบของฉัน!
หลินหวานพูดต่อ “เยว่จือโจวกับเฉินคังทั่วก็ได้รางวัลเหมือนกัน เห็นได้ชัดเลยว่านี่คือชะตาฟ้าลิขิต!
“ฟ้ากำลังบอกเราว่าให้ใช้โอกาสนี้ไปหาประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด!”
เปาซวี่หันมองทั้งสี่คน ในหัวเขาคิดแค่อย่างเดียว
บ้า เจ้าพวกนี้มันบ้าไปแล้ว!
คนปกติที่ไหนเขาไปบ้านผีสิงกัน
เปาซวี่รู้จักโรงพยาบาลจิตเวช ‘เขาหมอก’ ว่ากันว่าที่นั่นเคยเป็นโรงพยาบาลร้างกลางป่าที่มีหมอกปกคลุมตลอดปี
ต่อมามีนักลงทุนในพื้นที่เข้ามาเปลี่ยนโรงพยาบาลร้างให้เป็นบ้านผีสิง
ด้านนอกของบ้านผีสิงดูเหมือนโรงพยาบาลจิตเวชสุดชำรุดทรุดโทรม ด้านในไม่มีเส้นทางเดินตายตัว สามารถเดินไปรอบๆ ได้ตามใจชอบ
การจัดไฟและฉากสยองขวัญต่างๆ ในบ้านผีสิงดูสมจริงสุดๆ มีพนักงานแต่งตัวเป็นผีกับศพเพื่อ ‘มีปฏิสัมพันธ์’ กับคนที่เข้ามาเล่น
เห็นว่าบ้านผีสิงแห่งนี้ลงทุนไปกว่าสองล้านเหรียญสหรัฐ ถึงจะรู้จักเส้นทางดีก็ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการวิ่งไปถึงทางออก
ถ้าหลง…ก็ขึ้นอยู่กับดวงว่าจะหาทางออกเจอเมื่อไหร่
การเข้าบ้านผีสิงแห่งนี้ ผู้เข้าชมต้องมีอายุยี่สิบเอ็ดปีขึ้นไป และต้องผ่านการทดสอบเพื่อประเมินว่าสามารถรับความเครียดด้านจิตใจได้
นอกจากนี้ยังต้องยื่นใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าสุขภาพแข็งแรงพอที่จะเข้าบ้านผีสิง และต้องเซ็นสัญญายินยอมก่อนเข้าด้วย
สรุปแล้วนี่คือสถานที่ที่คนเสียเงินเข้าไปโดนทรมาน
บริษัทจ่ายเงินให้ไปเที่ยวพักผ่อน ทำไมคนพวกนี้ถึงใช้โอกาสนี้เอาตัวเองไปเสี่ยงตายล่ะ
เปาซวี่ไม่มีทางไปด้วยแน่ пᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ
แค่ต้องไปเที่ยวอีกทริปก็เจ็บปวดมากแล้ว ถ้าให้ไปทริปที่มีบ้านผีสิงก็ตายโหงกันพอดี!
ถ้าจะให้ไปบ้านผีสิง สู้ไปดูอูฐอยู่กลางทะเลทรายสะฮารายังจะดีซะกว่า
แต่เปาซวี่ก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ เขาถามต่อ “แล้วแผนของวันที่เหลือล่ะ”
หลินหวานถามกลับ “แผนของวันที่เหลือ หมายถึงอะไรคะ”
เปาซวี่อึ้งไป “ก็มันทริปห้าวันนี่! ไปบ้านผีสิงน่าจะใช้เวลาวันเดียว แล้วอีกสี่วันที่เหลือไปไหนกัน ไปช้อปปิ้งเหรอ”
เขาคิดว่าถ้าคนอื่นไปช้อปปิ้งกัน เขาก็นอนเล่นที่โรงแรมได้
ไปทรมานแค่วันเดียว อีกสี่วันที่เหลือนอนสบายใจเฉิบที่โรงแรมก็ไม่เลวเลย
หลินหวานส่ายหน้า “บ้านผีสิงดีๆ แบบนี้จะเล่นวันเดียวจบได้ยังไงคะ ถ้าไปเดินดูผ่านๆ กลับมาคงจำอะไรไม่ได้แน่ๆ
“บอสเผยให้งบใช้จ่ายมาเพิ่มด้วยนี่คะ หนูว่าวันที่เหลือจะไม่ทำอย่างอื่นแล้วเอางบไปซื้อตั๋วเข้าบ้านผีสิงวนไป ตั้งใจไว้ว่าจะเล่นวันละสามสี่รอบ ห้าวันก็น่าจะได้สักสิบสามสิบสี่รอบ ถ้าเล่นเยอะขนาดนั้นก็น่าจะจำรายละเอียดต่างๆ ได้
“เราก็จะเป็นนักรบที่ผ่านศึกมานับร้อย จะได้เอาแรงบันดาลใจที่ได้มาปรับใช้กับเกมสยองขวัญและบ้านผีสิง!”
เปาซวี่ “???”
เขาตะลึงงันไป
พวกแกจิตปกติดีรึเปล่า ทำไมวางแผนไว้แบบนั้น!
คิดจะเข้าบ้านผีสิงวันละสามสี่รอบ นี่ไม่อยากมีชีวิตอยู่กันขนาดนั้นเลยเหรอ
หลินหวานยิ้มแล้วถามออกไป “คิดว่าไงคะ ถ้าพี่ไปด้วย ก็จะได้จองห้องคู่นอนด้วยกันแก๊งผู้ชาย เดี๋ยวหนูไปชวนพี่หลี่หย่าต๋าก็ครบพอดี”
เปาซวี่งง “ไม่ใช่ละ ผมกับหลี่หย่าต๋ารับผิดชอบเกม GOG ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเกมสยองขวัญ ถ้าอยากไปตายหมู่ก็เชิญเลย ไม่ต้องลากพวกผมไปด้วย”
หลินหวานพูดเสียงจริงจัง “พี่พูดงั้นได้ไง!
“เถิงต๋ากับฉางหยางเกมส์อยู่ภายใต้การดูแลของบอสเผย ทำไมพี่ถึงแบ่งแยกแบบนั้น พี่ต้องให้คำแนะนำเรื่องเกมสยองขวัญกับพวกหนูด้วย
“เดี๋ยวหนูให้เอาตัวละครในเกมสยองขวัญไปเป็นฮีโร่ในเกม GOG เป็นการตอบแทน”
เปาซวี่นิ่งไปครู่หนึ่ง “…ไม่เอา
“หนึ่งตัวน้อยไป ต้องอย่างน้อยสอง!”
…
…
วันต่อมา
บริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
“หา ไปอเมริกาเหรอ
“จะไปบ้านผีสิงกัน
“พี่เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนเกม GOG ให้ลาไปเที่ยวอาจจะดูไม่เหมาะเท่าไหร่”
พอได้ยินที่หลินหวานแนะนำ หลี่หย่าต๋าก็รู้สึกงงๆ
“ทำไมจะไม่เหมาะล่ะคะ นี่เป็นรางวัลจากงานประชุมประจำปี เราไปพักผ่อนก็ไม่เห็นจะไม่เหมาะตรงไหน ยังไงก็ไม่ผิดกฎของบริษัท บอสเผยเป็นคนยุติธรรมและมีเหตุผล บอสไม่ห้ามพี่ไปแน่นอน”
หลี่หย่าต๋าอึ้งไปหลังโดนหลินหวานหว่านล้อม
งั้นลองดูก็ได้!
เดี๋ยวจะลองไปถามบอสเผยดูว่าบอสจะอนุญาตให้ฉันที่เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนของโปรเจ็กต์ไปพักร้อนที่ต่างประเทศระหว่างการค้นคว้าและพัฒนาเกมได้รึเปล่า
ก่อนจะขอลาหยุด หลี่หย่าต๋าตรวจดูสถานการณ์เกม GOG และตัวเกมเวอร์ชันปรับปรุงตามแผนจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
สรุปแล้วถือว่าไปได้ดี
ตัวเกมเบต้าของทั้งสองเวอร์ชันสามารถเล่นได้ปกติดี ขั้นต่อไปคือการแก้บั๊กและพัฒนาเกมต่อ
เกมเวอร์ชันปรับปรุงตามแผนบริษัทหยวนเมิ่งอัปเดตลงคอมพิวเตอร์ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแบบ real-time แถมยังได้รับผลตอบรับดีกว่าเวอร์ชันแรก
แต่ข้อมูลที่ได้ก็บอกอะไรไม่ได้มาก ต้องดูกันต่อไปสักพักใหญ่ๆ
แต่อย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่าคำแนะนำจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งไม่ใช่คำแนะนำประหลาดๆ สามารถปรับใช้ได้จริง
หลี่หย่าต๋าเองก็ไม่รู้ว่าทำไมทีมนักลงทุนบริษัทหยวนเมิ่งถึงเข้าใจเกมได้ดีขนาดนี้
เธอเปิดอีเมลดูแล้วพบว่าเฮ่อเต๋อเซิ่งส่งคำแนะนำมาเพิ่ม
ต้องยอมรับเลยว่าคนพวกนี้ค่อนข้างขยันส่งคำแนะนำทีเดียว
พวกเขาขยันมากจนหลี่หย่าต๋าเริ่มสงสัยว่าบริษัทลงทุนหาโปรเจ็กต์ลงทุนกันไม่ได้เหรอ
ไม่งั้นวันวันหนึ่งก็คงไม่มีอะไรทำจนมาตามติดสถานการณ์เกม GOG และส่งคำแนะนำมาแบบนี้
แต่ยังไงก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ถ้ามันใช้ได้จริงเธอย่อมไม่ปฏิเสธคำแนะนำจากพวกเขาแน่
หลังอ่านคำแนะนำจากเฮ่อเต๋อเซิ่งเสร็จ หลี่หย่าต๋าก็นำจุดที่ต้องปรับแก้ลงตารางงานสัปดาห์ต่อไป
ถ้าทำแบบนี้ ถึงเธอจะไปต่างประเทศ ทีมออกแบบก็จะทำงานตามแผนที่วางไว้ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความคืบหน้าของโปรเจ็กต์
พอจัดการทุกอย่างเรียบร้อย หลี่หย่าต๋าก็เดินไปห้องทำงานของบอสเผยเพื่อขออนุญาตลาพักร้อนไปสหรัฐอเมริกา