เฮ่อเต๋อเซิ่งกับทีมผู้เล่นแต้มสูงประจำบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งเริ่มรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับแก้เกม IOI
ถือเป็นขั้นตอนที่ทรมานมาก
เพราะพวกเขาส่วนใหญ่คุ้นเคยกับเกม Gods Rising ที่มีระดับความยากของเกมเป็นตัวแบ่งช่องว่างระหว่างผู้เล่นแต้มสูงกับผู้เล่นธรรมดา
ในการปรับแก้ความยากของเกม พวกเขาต้องมองข้ามประสบการณ์การเล่นของตัวเอง และลดแต้มต่อที่มีในบางจุดลง ซึ่งเป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากมาก
แต่พอคิดดูอีกที
ถ้าไม่เสนอปรับแก้ตอนนี้ ประสบการณ์การเล่นของบอสหม่าก็จะไม่ดีขึ้น
พอเป็นแบบนั้น ถึงพาเล่นจัดฉากยังไง ไม่นานบอสหม่าก็จะเบื่อ
ถ้าบอสหม่าเบื่อขึ้นมา…อาจส่งผลต่อตำแหน่งงานของพวกเขาได้
ดังนั้นพวกเขาต้องหาทางทำให้บอสหม่าเล่นได้สบาย!
ต้องทำแผนเสนอปรับแก้เกมขึ้นมา!
เฮ่อเต๋อเซิ่งเค้นหัวคิดว่าจะปรับแก้เกมตรงไหนดีระหว่างที่เล่นเกม IOI เวอร์ชันเบต้า
พวกเขาได้ตัวเกมเวอร์ชันเบต้ามาง่ายๆ เพราะเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท Finger Games และเป็นผู้ให้บริการเกม IOI ในประเทศจีน
ทุกคนไม่ค่อยได้เล่นเกมนี้เท่าไหร่ เพราะเวลาส่วนใหญ่เอาไปเล่นเกม Gods Rising หมด
เหตุผลก็ไม่มีอะไร สำหรับทุกคนรวมถึงเฮ่อเต๋อเซิ่งและหม่าหยาง เกม IOI ถือเป็นแค่เกม Gods Rising เวอร์ชันลดทอนคุณภาพ
ขนาดแผนที่และระบบการเล่นไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่จุดที่แตกต่างหลักๆ เลยคือกราฟิกของเกมและการออกแบบฮีโร่
จุดแข็งเดียวของเกม IOI คือเป็นเกมที่แยกออกมาเดี่ยวๆ และเป็นเกมออนไลน์ ทำให้เพิ่มเพื่อนและรวมทีมได้ง่ายกว่า
แต่จุดแข็งข้อเดียวนี้ไม่ได้ปรากฏในตัวเกมช่วงทดสอบ
องค์ประกอบอื่นๆ ที่เหลือ เช่น รายละเอียดต่างๆ ของเกม ความลึกล้ำของการออกแบบฮีโร่ยังด้อยกว่า Gods Rising อยู่มาก
ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะเกม Gods Rising มีการพัฒนาต่อเนื่องมาหลายปี ส่วนเกม IOI เพิ่งจะพัฒนาได้ไม่นาน เนื้อหาต่างๆ เลยยังไม่สมบูรณ์ดี
แต่เพราะแบบนี้พวกเฮ่อเต๋อเซิ่งจึงมองว่าเกม IOI มีโอกาสในการปรับแก้ได้มากกว่า
เฮ่อเต๋อเซิ่งจดบันทึกไปด้วยระหว่างที่กำลังถกกันอยู่
“เราเล่นจัดฉากต่อไปได้อีกไม่นาน
“เราต้องเพิ่มความท้าทายใหม่ๆ เข้าไปและพยายามเล่นกับคนที่ไม่รู้จัก
“มีแค่วิธีนี้ที่จะทำให้บอสหม่ายังรู้สึกสนุกอยู่
“แต่ดูจากระบบการเล่นในตอนนี้แล้ว… บอสหม่าน่าจะปรับตัวได้ยาก ประสบการณ์การเล่นเกมของบอสไม่น่าจะดีขึ้น
“ถ้าเป็นอย่างนั้น เราต้องคิดว่าทำยังไงบอสหม่าถึงจะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นอย่างเต็มที่เวลาเจอคู่แข่งจริงๆ
“ฉันว่าแผนที่ตอนนี้ใหญ่ไป เวลาบอสหม่าโดนเข้า เราจะไปช่วยไม่ทัน เพราะงั้นแผนที่ควรจะมีขนาดเล็กลงให้เราเข้าไปช่วยบอสตอนไหนก็ได้
“บอสหม่าไม่เก่งเรื่องลาสต์กับดีนายครีป ให้ฝึกก็คงไม่น่าไหวเพราะบอสก็ตารางงานยุ่ง งั้นตัดระบบดีนายครีปออกดีมั้ย แต่เก็บการลาสต์ครีปไว้ ถ้าลาสต์ได้ก็จะได้เงินเพิ่ม”
“ถ้างั้นควรตั้งระบบค่าหัวกันไม่ให้บอสหม่าโดนไล่ฆ่าบ่อยๆ จนเซ็งมั้ย ถ้าโดนฆ่าบ่อยๆ เงินที่ได้จากการฆ่าคนนั้นก็จะลดลง ส่วนถ้าฆ่าคนที่ฆ่าต่อเนื่องได้ก็จะได้เงินเพิ่ม แล้วก็มีระบบช่วยเหลือในกรณีที่เลเวลตามหลังมากๆ
“แต่เราก็ยังต้องให้มีช่องว่างระหว่างผู้เล่นเก่งๆ กับผู้เล่นระดับต้นด้วย ส่วนบอสหม่าเองก็ต้องไปรอด ไม่อย่างนั้นถ้าเราแบกบอสหม่าให้ชนะไม่ได้ เราก็ไม่มีประโยชน์”
“ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ต้องทำเกมให้ง่ายสำหรับบอสหม่า แต่ก็ต้องมีบางจุดที่ต้องใช้ฝีมืออยู่เพื่อคนแบบพวกเรา”
“เกม IOI แบ่งเลนตายตัวเลย ซึ่งก็ดี ตรงนี้เก็บไว้ได้ เราขอให้เขาสร้างฮีโร่มิดเลนกับจังเกิลที่ต้องใช้ฝีมือการเล่นระดับสูงมั้ยจะได้ทำเกมให้แครี่ง่าย”
“ฉันว่าเราควรเพิ่มออปเจ็กต์ในแผนที่ จะดีมากถ้ามีมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆ ที่ให้บัฟกับทีม ถ้าทำได้ ถึงบอสหม่าจะตาย แต่ถ้าเราคุมแผนที่กับเก็บมอนสเตอร์เอาบัฟได้ โอกาสชนะก็น่าจะเพิ่มขึ้น”
“ระบบควบคุมสั่งการด้วย ควรจะทำให้ง่ายกับผู้เล่นระดับต้น จนถึงตอนนี้บอสหม่ายังกดคีย์ลัดบางอย่างไม่เป็นเลย เอาแค่คลิกๆ ลูกเดียว…”
“ต้องมีฮีโร่บางตัวที่เล่นได้หลายตำแหน่ง”
ทุกคนช่วยกันระดมความคิดขณะที่เฮ่อเต๋อเซิ่งคอยจดคำแนะนำต่างๆ
สรุปแล้วคำแนะนำต่างๆ ถูกยกขึ้นมาเพื่อให้มั่นใจว่าเกมจะมีระดับความยากที่ผู้เล่นระดับสูงจะแบกเกมได้ ส่วนผู้เล่นทั่วไปก็มีพื้นที่ให้ได้อวดฝีมือ
ถึงผู้เล่นจะไม่มีทักษะพื้นฐาน การยืนเลน และการรับรู้ที่ดีก็ไม่เป็นไร
ถ้าลาสต์ครีปไม่ได้ เกมก็ยังให้เงินเหมือนเดิม เพื่อที่ผู้เล่นจะไม่ได้จนขนาดที่ผ่านไปสี่สิบห้าสิบนาทีแล้วยังมีแค่รองเท้าข้างเดียว
ถ้ายืนเลนไม่เก่ง ก็มีฮีโร่ที่เก่งขึ้นได้หลังเกมผ่านไปสักพัก
ถ้าการรับรู้ไม่ดีก็ไม่เป็นไร พอขนาดแผนที่ลดลง เพื่อนร่วมทีมก็จะเข้าไปช่วยได้ง่ายขึ้น
พูดง่ายๆ คือ ถ้าปรับตามนี้ได้ ก็จะช่วยบอสหม่าสุดๆ!
เฮ่อเต๋อเซิ่งสรุปความคิดเห็นของทุกคนไปพิมพ์ใส่ไฟล์เวิร์ด จากนั้นก็แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วส่งให้ Finger Games
ทักษะภาษาอังกฤษของเขาไม่ได้แย่อะไร เพราะทำงานในอุตสาหกรรมการลงทุน
พอจัดการทุกอย่างเสร็จก็ถึงเวลาเลิกงานพอดี
คำนวณความแตกต่างของเวลาและวันพรุ่งนี้กับมะรืนเป็นวันหยุดแล้ว อีกฝ่ายน่าจะตอบอีเมลกลับมาวันจันทร์
เฮ่อเต๋อเซิ่งยืดเส้นยืดสายก่อนจะเลิกงานตรงเวลา
…
…
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่า
เปาซวี่สวมหมวกแก๊ป เขาแอบมองผ่านประตูเข้าไปอย่างลับๆ ล่อๆ
โอเค คนไม่เยอะเท่าไหร่
ตอนนี้เวลาประมาณแปดโมงครึ่ง ถึงช่วงเสาร์อาทิตย์จะมีนักศึกษาหลายคนแวะมาเดินเล่นที่หมิงหยุนวิลล่าอันโด่งดัง แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูคนมักจะเต็มช่วงบ่าย
ช่วงเช้าๆ ยังมีที่นั่งเหลือมากมาย
เปาซวี่กดหมวกแก๊ปลงแล้วเดินเข้าไปในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
พอเข้าไปในร้าน เขาก็เจอหลี่หย่าต๋าที่สวมหมวกแก๊ปเหมือนกันนั่งอยู่ในโซนอินเทอร์เน็ต
เปาซวี่มองไปด้านหลังเหมือนกลัวว่าจะมีคนแอบตามมา จากนั้นค่อยนั่งลง
“ลงเกม GOG เวอร์ชันเบต้าแล้วใช่มั้ย” เปาซวี่ถามเสียงเบา
หลี่หย่าต๋าพยักหน้า “หนูคุยกับจางหยวนแล้ว ลงเกมเรียบร้อย เล่นได้ทุกเครื่องในร้าน
“ผู้เล่นจะได้เวลาเล่นเน็ตเพิ่มถ้าเล่น GOG ถึงเวลาที่กำหนดพร้อมเขียนคำแนะนำอย่างน้อยห้าร้อยคำ
“ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้ค่ะ ที่นี่ห่างจากออฟฟิศมาก ไม่น่าจะบังเอิญเจอบอสเผยกับคนอื่นๆ”
เปาซวี่พยักหน้า “ก็ใช่ แต่ระวังตัวไว้หน่อยน่าจะดีกว่า แล้วคนอื่นๆ ล่ะ”
หลี่หย่าต๋าดูนาฬิกา “อีกเดี๋ยวก็น่าจะถึงค่ะ”
เปาซวี่ถาม “แล้วที่ออฟฟิศจัดการยังไง”
หลี่หย่าต๋าตอบ “ให้พวกหลิวดูแลไปก่อนช่วงนี้ แต่…ต้องถึงขั้นนี้เลยเหรอ”
เปาซวี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ต้องระวังตัวไว้
“เดี๋ยวลองมาเล่นเกมกันก่อนแล้วค่อยๆ ปรับไป จดแผนแก้ไว้แล้วคุณค่อยส่งวันจันทร์”
หลี่หย่าต๋าดูกระดากใจเล็กน้อย “พี่เปาแนะนำให้แก้นั่นนี่เยอะมาก หนูรู้สึกไม่ค่อยดีเลย เหมือนหนูได้หน้าแทนพี่…”
เปาซวี่รีบโบกมือ “ผมอยากให้เป็นแบบนั้นแหละ!
“ถ้าอยากขอบคุณผมก็ไม่ต้องอะไรมาก แค่รับหน้าไปแล้วไม่ต้องบอกคนอื่นว่าผมมีส่วนช่วยก็พอ!”
หลี่หย่าต๋าได้แต่ถอนหายใจ “พี่เปาถ่อมตัวเกินไปแล้ว ชักจะเหมือนบอสเผยขึ้นไปทุกทีแล้วนะคะ”
เปาซวี่ส่ายหัวพร้อมถอนหายใจ “ผมจะไปเทียบกับบอสเผยได้ยังไง
“บอสเผยเป็นคนถ่อมตัวจริงๆ ส่วนผมต้องถ่อมตัวเพราะไม่มีทางเลือก…”
ทั้งสองเริ่มเล่นเกม ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
ระหว่างที่เล่นอยู่เปาซวี่ก็พึมพำขึ้นมา “แปลกจัง ทำไมเล่นเกม GOG ที่นี่แล้วเหมือนบั๊กน้อยลง…”
…
“ฮัดชิ่ว!”
เผยเชียนถูจมูกอยู่ในอพาร์ตเม้นต์หลังตื่นนอน ก่อนจะพูดพึมพำ “แปลกจัง ทำไมช่วงนี้จามบ่อย
“เพราะอากาศเย็นหน้าหนาวเหรอ หรือว่ามีใครนินทาฉัน
“รู้สึกเหมือนมีหนามแทงหลังเลย…”
เผยเชียนหยิบมือถือขึ้นมาตรวจรายชื่อคนทำงานล่วงเวลาวันนี้ที่ถังอี้ซู่ส่งมาให้
“ผู้ชายหน้าโหดหน่อยๆ… น่าจะหลิว
“หืม วันนี้หลี่หย่าต๋าไม่ได้เข้าออฟฟิศเหรอ รายชื่อต่างจากของสัปดาห์ก่อนเลย หรือพวกนั้นจะสลับกันทำงานล่วงเวลา
“ทั้งได้พัก ทั้งได้แบ่งเงินค่าล่วงเวลากัน
“ไม่เลวนี่ ดีมากทุกคน”
เผยเชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ยังไม่มีโปรเจ็กต์ไหนส่อแววว่าจะเลยเถิดเกินควบคุม
จริงๆ เขาเป็นห่วงฝั่งเกม IOI มาก แต่นี่ก็ผ่านไปพักใหญ่แล้ว ยังไม่ได้ข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับเกมนั้นเลย
รอบบัญชีนี้น่าจะไปรอดแหละมั้ง
…
…
วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม
โรงแรมถูกจัดเตรียมเป็นสถานที่สอบสัมภาษณ์
อู๋ปินมาถึงก่อนกำหนด เขาไม่คิดว่าผู้สัมภาษณ์เองก็จะมาถึงก่อนกำหนดเหมือนกัน
ทีมผู้สัมภาษณ์กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานและแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่ในห้องสัมภาษณ์
หลี่หย่าต๋า หัวหน้าฝ่ายวางแผนของเถิงต๋า เยว่จือโจว ผู้รับผิดชอบดูแลฉางหยางเกมส์ ลู่หมิงเหลียง ผู้รับผิดชอบดูแลนี่เฟิงโลจิสติกส์ หวงซื่อปั๋ว ผู้รับผิดชอบดูแลเฟยหวงสตูดิโอ จางหยวน ผู้รับผิดชอบดูแลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู หม่าอี้ฉวิน ผู้รับผิดชอบดูแลเว็บไซต์จงเตี่ยนจงเหวิน…
ทุกคนมากันพร้อมหน้า
กระบวนการสัมภาษณ์มีขั้นตอนดังนี้
เมื่อมีผู้สมัครที่จะสัมภาษณ์เพื่อเข้าเถิงต๋า หลี่หย่าต๋าต้องออกจากห้องสัมภาษณ์ชั่วคราวเพื่อให้ผู้ดูแลกิจการคนอื่นๆ เป็นคนสัมภาษณ์
คำถามและเกณฑ์คำตอบมีการกำหนดไว้แล้ว ทุกคนมีเอกสารนี้คนละชุด
การสัมภาษณ์มีเวลาจำกัด เมื่อหมดเวลาแล้วต้องหยุดสัมภาษณ์
ผู้สัมภาษณ์ทุกคนจะเทียบคำตอบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้แล้วให้คะแนน
หลังจากตัดคะแนนสูงสุดกับต่ำสุดออก ก็จะเอาคะแนนที่เหลือมาเฉลี่ยเป็นคะแนนของผู้สมัคร
จากนั้นก็เอาคะแนนสัมภาษณ์ไปรวมกับคะแนนสอบข้อเขียนแล้วเรียงลำดับตามผลคะแนนรวม ผู้สมัครจะได้รับคัดเลือกเข้าฝึกงานตามลำดับบนลงล่าง
หลังจากนั้นหนึ่งเดือนจะเป็นการสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณของเถิงต๋า ถ้าผ่านก็จะได้เป็นพนักงานของเถิงต๋ากรุ๊ปเต็มตัว
การสัมภาษณ์ไม่ใช่งานยากอะไร
หนึ่งปีต้องแบ่งเวลามาสัมภาษณ์แค่วันสองวัน
แต่พวกผู้สัมภาษณ์มาถึงก่อนกำหนดการถึงหนึ่งชั่วโมง…
เพราะประหม่ากันหมด!
ถึงการให้คะแนนมั่วๆ ไปจะไม่ได้มีโทษอะไร แต่เหล่าผู้ดูแลกิจการต่างๆ ของเถิงต๋ากรุ๊ปก็รู้จักกันดี ถ้าให้คะแนนไปมั่วๆ อาจโดนตราหน้าได้
ถ้าไม่ตั้งใจสัมภาษณ์อย่างจริงจังแล้วรับคนใช้การไม่ได้เข้าไปในกิจการที่เพื่อนตัวเองดูแล ก็เท่ากับทำให้พวกเขาและบอสผิดหวัง
พวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบดูแลกิจการ
จะเรียกตัวเองว่าหัวหน้าได้ยังไงถ้าไม่สามารถทำงานเล็กน้อยแค่นี้ได้
ดังนั้นทุกคนจึงมาถึงก่อนกำหนดเพื่อเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์
ตัวอย่างเช่น หลี่หย่าต๋าเป็นคนตั้งคำถามสำหรับกิจการเกม เธอเลยมาอธิบายประเด็นหลักคร่าวๆ ของคำถามและลักษณะคนที่อยากได้
คนอื่นๆ เองก็ทำเหมือนกัน
ตารางให้คะแนนละเอียดมาก นอกจากคะแนนส่วนความรู้แล้ว ยังมีคะแนนส่วนอื่นๆ อย่าง บุคลิกท่าทาง ความคล่องแคล่วชัดเจนด้านการพูด และอื่นๆ
พวกเขามีเกณฑ์การให้คะแนน ทำให้ใส่คะแนนมั่วๆ ได้ยาก
ทุกคนคุยเล่นระหว่างแลกเปลี่ยนเกณฑ์การให้คะแนนกัน
“พี่หวง สตูดิโอเป็นไงบ้าง ถ่ายหนังราบรื่นดีมั้ย”
“ขอลายเซ็นให้แม่ผมหน่อยได้มั้ย แม่ผมเป็นแฟนจางจู่ถิง”
“บอสลู่ ขอบคุณนะครับที่ทางนี่เฟิงโลจิสติกส์ช่วยเรื่องจัดส่งเครื่องคอมพ์ ROF ให้ เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวตอบแทน”
“หย่าต๋า กิจกรรมที่เว็บกับเกมทำร่วมกันรอบก่อนประสบความสำเร็จมากเลย ไว้จัดอีกสักรอบมั้ย ผมคิดแผนกิจกรรมไว้บ้างแล้ว”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวพอเกมใหม่ออก ให้เว็บจงเตี่ยนจงเหวินจัดแข่งเขียนเรียงความในตีม GOG ดีมั้ยคะ”
“ได้เลย เอาเป็นแบบให้แต่งกลอนดีมั้ย”
“เออใช่ เหมือนวันนี้หลินหวานจะไม่ได้มาด้วย เธอน่าจะติดต่อไปหาคุณ ได้คุยกันรึยัง”
“ยังไม่ต้องรีบครับ ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มผลิตเครื่องเลย ไว้ผลิตเครื่องออกมาแล้วค่อยว่ากัน”
ยิ่งได้คุยกัน พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น
หลายคนงงพอได้ยินว่าจะต้องสัมภาษณ์ผู้สมัครของกิจการอื่น
ตัวอย่างเช่น จางหยวน
ฉันดูแลร้านอินเทอร์เน็ต จะให้ไปสัมภาษณ์คนสมัครเข้าทำงานเว็บจงเตี่ยนจงเหวินกับนี่เฟิงโลจิสติกส์ได้ไง
แต่ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้ว
การสัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นเหมือนกิจกรรมแชร์ประสบการณ์ระหว่างผู้รับผิดชอบกิจการต่างๆ!
ให้พวกเขาได้มาคุยกันเรื่องสถานการณ์ปัจจุบันของแต่ละกิจการ ช่วยกันให้คะแนนผู้สมัคร และคุยเรื่องการร่วมงานกันในอนาคตช่วงมื้ออาหารหลังสัมภาษณ์เสร็จ
เยี่ยมไปเลยไม่ใช่เหรอ
กระบวนการสัมภาษณ์ของบอสเผยช่างแฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งจริงๆ!