พอเขียนบทหนังคร่าวๆ เสร็จ เผยเชียนก็รู้สึกพอใจ ดูแล้วแค่เพิ่มรายละเอียดต่ออีกหน่อยพรุ่งนี้ก็น่าจะส่งให้พวกหวงซื่อปั๋วได้
“โอเค งานวันนี้ใกล้เสร็จแล้ว พักสักหน่อยดีกว่า!”
เผยเชียนเปิดเว็บอ้ายลี่เต่าขึ้นมาดูซีรีส์ตามความเคยชิน
ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เผยเชียนเงยหน้ามองแล้วเห็นว่าเป็นเลขาซิน
“บอสเผยคะ กล่องอีเมลของบริษัทเราเกือบเต็มแล้วค่ะ ฝ่ายบุคคลกำลังวุ่นวายไล่อ่านและจัดหมวดหมู่กันใหญ่ มีคนส่งเรซูเม่เข้ามาเยอะแยะเลยค่ะ เราต้องรีบวางเกณฑ์การคัดกรองคนให้เร็วที่สุด”
เลขาซินจ้องเผยเชียนด้วยแววตาคาดหวัง เธอหมายความชัดเจนว่าต้องการให้เผยเชียนตั้งเกณฑ์สำหรับคัดกรองผู้สมัคร
เผยเชียน “???”
บอสเผยที่กำลังจะเปิดดูซีรีส์อย่างสบายใจผงะไป
กล่องอีเมลเกือบเต็มเหรอ
เป็นไปได้ยังไง!
เผยเชียนสัมผัสได้ถึงสัญญาณภัยอันตรายร้ายแรง
เขารีบเปิดกล่องอีเมลบริษัทในคอมพิวเตอร์ของตัวเองแล้วพบว่ามีอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านจำนวนมาก ตัวเลขสีแดง 999+ โชว์หราอยู่ข้างกล่องอีเมล!
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!” เผยเชียนลมจับ
เลขาซินยิ้มอ่อน “ดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นเพราะบทสัมภาษณ์พิเศษกับทางแพลตฟอร์มเกมทางการและจดหมายภายในของบอสค่ะ
“บอสลองดูคำค้นหายอดนิยมบนเว่ยป๋อก็น่าจะเข้าใจ
“แต่เรื่องนี้เร่งด่วนมากค่ะ รบกวนบอสช่วยวางเกณฑ์คัดกรองผู้สมัครก่อน เพราะตอนนี้มีเรซูเม่ส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก ถ้าจัดสัมภาษณ์ทุกคนคงจะมีกำลังคนไม่พอ”
เผยเชียนนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยกมือโบก “โอเค คุณกลับไปทำงานก่อน เสร็จแล้วเดี๋ยวผมบอก”
เลขาซินพยักหน้าแล้วเดินกลับออกไป
เผยเชียนรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรมากกว่านั้น แค่ตั้งเกณฑ์ขึ้นมาไม่น่าจะแก้ปัญหาได้ เขารีบเปิดเว่ยป๋อขึ้นมาดู
สุดท้ายก็พบว่า ‘จดหมายภายในของเถิงต๋า’ เป็นคำค้นหายอดนิยมอันดับเจ็ด!
“อะไรเนี่ย!
“ฉันโพสต์จดหมายในกระทู้พูดคุยภายในบริษัทนี่ ทำไมถึงมาขึ้นคำค้นหายอดนิยมในเว่ยป๋อได้!”
เผยเชียนแทบจะลืมไปแล้วว่าเคยโพสต์จดหมายนี้
ความตั้งใจเดิมที่โพสต์จดหมายนี้คือเพื่อส่งเสริมให้พนักงานอู้งานมากขึ้น จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระการทำให้บริษัทขาดทุน
แต่ผลลัพธ์ที่ได้หลังโพสต์กลับไม่ดีเท่าที่ควร แถมยังมีพนักงานแห่มาเลียแข้งเลียขาในช่องคอมเมนต์เต็มไปหมด ทำให้เผยเชียนผิดหวังมาก
ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่สนใจเรื่องนี้อีก
เขาไม่คิดว่าจะได้มาเห็นจดหมายนี้อีกครั้งในช่องคำค้นหายอดนิยมบนเว่ยป๋อ!
เผยเชียนรีบกดเข้าไปดูแล้วพบว่ามีคนถ่ายภาพหน้าจอเอามาลง และมีการแชร์ออกไปอย่างแพร่หลาย
หลังจากได้อ่านความคิดเห็นของชาวเน็ต เผยเชียนก็รู้สึกเย็นเฉียบไปจนถึงขั้วหัวใจ
“ไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย นี่จดหมายภายในที่บอสของบริษัทโพสต์จริงๆ เหรอ”
“อย่าไปเชื่อสิ่งที่นายทุนพูด… เอ๊ะ ทำไมถึงต่างจากที่คิดไว้ล่ะ”
“ซึ้งใจจนน้ำตาไหล จะไปหาบอสดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหน ขอบอสแบบนี้อีกสักสิบคน!”
“นี่จดหมายภายในของเถิงต๋าเหรอ ยังรับคนเพิ่มมั้ย ฉันอยากทำงานด้วย ให้ลดเงินเดือนลงก็ยอม!”
“อย่าไปหลงเชื่อกัน ต้องเป็นพวกต้มตุ๋นแน่ๆ! ถึงจดหมายภายในจะเป็นของจริง แต่ก็น่าจะเป็นการจัดฉาก!”
“แต่เพื่อนฉันทำงานที่เถิงต๋า เงินเดือนกับสวัสดิการของเถิงต๋าดีมากจนฉันยังอิจฉาเลย การันตีว่าเรื่องจริง!”
“ใครมันบอกว่าจัดฉาก งั้นก็ให้บอสที่อื่นทำเหมือนกันสิ! เอาให้เหมือนกันเลย กล้าโพสต์จดหมายภายในแบบนี้มั้ยล่ะ”
“มีใครสังเกตมั้ยว่าจดหมายนี่ลอกจดหมายภายในอีกอันนึงมา อันที่ชื่อ ‘คุณต้องทำงานหนักเพื่อชีวิตที่ดีกว่า’!”
“จริงด้วย แต่พูดตรงกันข้ามหมดเลยนะ ตั้งใจจะล้อเลียนรึเปล่า”
“โห โคตรเจ๋งเลย บอสคนนี้เอาใจฉันไปเลย!”
“เชี่ย ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว จะไปส่งเรซูเม่ให้เถิงต๋าเดี๋ยวนี้แหละ!”
กระแสตอบรับของชาวเน็ตบนเว่ยป๋อต่อจดหมายภายในเป็นไปในแง่บวกมากแบบที่เผยเชียนเองก็คาดไม่ถึง
ตอนที่เขาโพสต์จดหมายลงกระทู้สนทนาภายใน ถึงผลลัพธ์จะเป็นไปในทางตรงข้ามกับที่คิดไว้ แต่มันก็ไม่ได้ดังขนาดนี้
จดหมายยังคงขึ้นปักหมุดไว้ในกระทู้สนทนาภายใน มีคนมาตอบกลับเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่พนักงานส่วนใหญ่ก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาแค่ตอนอ่านจบ จากนั้นก็ลืมไป
นั่นก็เพราะคนที่เข้าใช้งานกระทู้สนทนาภายในได้มีแค่พนักงานของเถิงต๋า พนักงานอย่างห่าวฉยงเองก็เคยชินกับสวัสดิการอันยอดเยี่ยมของเถิงต๋าอยู่แล้ว
ดังนั้นถึงจดหมายภายในฉบับนี้จะเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าบอสเผยเป็นบอสที่ดีขนาดไหน
แต่สถานการณ์ในเว่ยป๋อนั้นไม่เหมือนกัน!
เป็นเรื่องปกติที่ชาวเน็ตจะไม่เคยเห็นบอสและบริษัทดีๆ แบบนี้มาก่อน
แพลตฟอร์มเกมทางการชมเถิงต๋ายกใหญ่ในบทสัมภาษณ์ เรียกกระแสจากชาวเน็ตได้เพิ่มขึ้น ภาพจดหมายภายในจึงทำให้เถิงต๋าติดตรึงอยู่ในหัวใจของใครหลายคน!
จนถึงตอนนี้ ภาพเถิงต๋าในหัวของชาวเกมเมอร์ส่วนใหญ่คือ
บอสของเถิงต๋าเป็นเหมือนโป๋เล่อผู้เก่งกาจเรื่องการคัดสรรคนเก่งๆ
พนักงานมีแต่คนมากความสามารถ บรรยากาศในบริษัทคึกคักและเป็นอิสระ ไม่มีการแบ่งลำดับชั้นเหมือนบริษัทใหญ่อื่นๆ
สวัสดิการก็ให้ชนิดไม่มีกั๊ก ไม่มีการเอาเปรียบพนักงาน
ตอนนี้เถิงต๋าก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมหลายรูปแบบและกำลังไปได้ดี
จุดสำคัญอีกอย่างคือเถิงต๋าตั้งอยู่ในเมืองระดับสองอย่างจิงโจว นอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างแล้ว ความกดดันก็ไม่มากเท่าเมืองระดับหนึ่ง
องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เถิงต๋าเป็นตัวเลือกที่ดีมากในสายตาของใครหลายคนที่กำลังหางานอยู่!
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า คุณค่าที่แท้จริงวัดได้จากการเปรียบเทียบ
บอสบริษัทอื่นๆ จะผลักดันให้พนักงานสู้งาน นำวัฒนธรรมหมาป่ามาใช้ และทำงานกันแบบ 996 แต่บอสเถิงต๋ากลับทำตรงกันข้ามด้วยการโพสต์จดหมายภายในบอกให้พนักงานพักผ่อนเยอะๆ และดูแลร่างกายตัวเองให้มากขึ้น
ความห่วงใยเพื่อนมนุษย์จากใจจริงทำให้แรงงานทาสของหลายบริษัทซึ้งใจจนน้ำตาไหล!
ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงยกย่องชมเชยเถิงต๋าบนเว่ยป๋อ ทำให้กลายเป็นกระแสไปทั่วอินเทอร์เน็ต บางคนถึงขั้นส่งเรซูเม่ไปสมัครงาน!
ผ่านไปสองสามวัน กล่องอีเมลของเถิงต๋าก็ล้นทะลัก มีแจ้งเตือนอีเมล 999+ ที่ส่งมาพร้อมเรซูเม่ขอสมัครงานหลายตำแหน่ง
เผยเชียนรู้ว่าการให้สัมภาษณ์กับแพลตฟอร์มเกมทางการจะมีผลแย่ตามมา แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะร้ายแรงขนาดนี้
พอเห็นแจ้งเตือนอีเมล 999+ เผยเชียนก็รู้สึกปวดหัวไม่ต่างจากพนักงานฝ่ายบุคคลของเถิงต๋า
แต่ต้นเหตุที่ทำให้พวกเขาปวดหัวนั้นมาจากคนละสาเหตุกัน
สำหรับพนักงานฝ่ายบุคคลแล้วถือเป็นเรื่องดี ถ้ามีหลายคนอยากสมัครเข้าเถิงต๋า พวกเขาก็จะหาคนเก่งๆ ได้ง่ายขึ้น
กลับกันสำหรับเผยเชียนแล้วถือเป็นหายนะ
เขาไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะจ้างพนักงานเพิ่ม แต่ถ้ามีคนเก่งๆ ส่งเรซูเม่มาแล้วได้รับเลือกเข้าทำงาน พนักงานพวกนี้ก็จะทำให้โปรเจ็กต์ที่ขาดทุนอยู่พลิกมาทำกำไรได้ง่ายๆ แบบนั้นเผยเชียนได้กระอักเลือดตายพอดี
แต่จะให้ปฏิเสธไม่รับสักคนก็ไม่ได้
เถิงต๋าไม่ใช่บริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครสนใจอีกแล้ว ตอนนี้มีหลายคนคอยจับจ้องอยู่
ถ้าคนรู้ข่าวว่าเถิงต๋าจ้างแต่คนไม่เก่ง ปัดคนเก่งทิ้งหมด ก็อาจสงสัยจุดประสงค์ของเถิงต๋าและบอสเผยได้
เผยเชียนจะปล่อยให้คนสงสัยจุดประสงค์ของเขาหรือการมีอยู่ของระบบไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหา
“ฉันต้องคิดหาทางจัดการปัญหาเรื่องการรับคนเข้าให้เหมาะสม ไม่งั้นจะเป็นปัญหาใหญ่ได้”
เผยเชียนคิดว่าตอนนี้เถิงต๋าเป็นบริษัทใหญ่แล้ว
พอธุรกิจเติบโต เขาก็ต้องจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เผยเชียนไม่สามารถจัดการทุกอย่างและเลือกจ้างคนเองได้เหมือนเมื่อก่อน
พูดอีกอย่างคือ พนักงานฝ่ายบุคคลต้องมองหาคนเก่งๆ เป็นหลักอยู่แล้ว
แบบนั้นก็หมายความว่าจะมีคนถือมีดมาแทงหลังบอสเผยเพิ่มขึ้นสิ
ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้!
“ต้องหาทางจ้างพวกความสามารถจำกัดให้ได้
“คนเก่งๆ ไปอยู่ที่ไหนก็โดดเด่น แต่ถ้าฉันจ้างมาต้องโดนแทงข้างหลังแน่ แถมไม่น่าจะห้ามได้ด้วย ต้องไม่จ้างแล้วปล่อยให้ไปเฉิดฉายที่บริษัทอื่น ทรัพยากรสังคมจะได้ไม่เสียของ
“แต่จ้างพวกโหลยโท่ยก็จะเป็นประเด็นให้คนอื่นสนใจ ยิ่งถ้าจ้างพวกหัวทึบก็จะยิ่งเป็นข่าวใหญ่ ไม่เหมาะกับเถิงต๋าที่พยายามทำตัวไม่โดดเด่น คนกลุ่มนี้ก็จ้างไม่ได้เหมือนกัน
“เพราะงั้นต้องหาวิธีจ้างคนที่ความสามารถกลางๆ เหมือนไอ้หม่า พวกคนประเภทที่เจ้านายบอกให้ทำอะไรก็ทำ ขอแค่ชี้ทางผิดๆ ให้ พวกเขาก็น่าจะพาขาดทุนได้
“ใช่ แบบนี้แหละ ฉันต้องจ้างพวกความสามารถจำกัด!”
เผยเชียนรีบคิดแผนการ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็เรียกเลขาซินให้เข้ามาหา
“ออกประกาศออฟฟิเชียลแจ้งทุกคนว่าตอนนี้เถิงต๋ายังไม่มีแผนรับพนักงานจำนวนมาก บอกฝ่ายบุคคลให้แยกเรซูเม่คนเก่งๆ ไว้ เดี๋ยวเราค่อยมาดูกันอีกที
“เถิงต๋าจะคัดเลือกคนที่เหมาะสมในอนาคต ตอนนี้ผมจะให้ฝ่ายบุคคลวางเกณฑ์การคัดเลือกคร่าวๆ แล้วให้เถิงต๋าจ้างคนตามมาตรฐานนี้ไปก่อน”
เลขาซินจดตามที่เผยเชียนสั่ง
“บอสเผยคะ ฝ่ายบุคคลเลือกพนักงานที่เหมาะสมได้สองสามคนแล้วค่ะ เรซูเม่ดูดีมาก ถือว่าเก่งรอบด้านเลยทีเดียว ให้จัดสัมภาษณ์คนที่ผ่านการคัดเลือกก่อนเลยไหมคะ”
เผยเชียนปฏิเสธทันควัน “ไม่!
“เรซูเม่ของพวกเขาอาจจะดูดี แต่อาจขาดประสบการณ์จริง เถิงต๋าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ สำหรับหลายคนที่กำลังหางานอยู่ กลุ่มที่ฝ่ายบุคคลเลือกมาอาจจะเป็นการจับปลาในน้ำขุ่น[1]ก็ได้
“เราไม่เคยเลือกคนจากเรซูเม่ เราจะไม่มีวันทำแบบนั้น! สิ่งสำคัญที่สุดคือทักษะการทำงานจริง”
เลขาซินพยักหน้า “ดิฉันเห็นด้วยค่ะ หลายคนมักจะใส่ข้อมูลปลอมๆ ในเรซูเม่ บอสเผยมีวิธีกรองผู้สมัครที่ดีกว่าอยู่แล้ว ดังนั้นเราควรทำตามแผนของบอสค่ะ!”
ซินไห่ลู่รู้ดีว่าบอสเผยมีวิธีคัดเลือกพนักงานที่ไม่เหมือนใคร อย่างหวงซื่อปั๋วกับลู่หมิงเหลียงก็ปั้นมาจากศูนย์ แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทั้งคู่ต่างเป็นเพชรในตม
ดังนั้นถึงบอสเผยไม่ชอบคนที่เรซูเม่ดูดีก็ไม่เป็นไร
เผยเชียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เรียกได้ว่ารอดจากการโดนแทงข้างหลังอย่างหวุดหวิด
เลขาซินพูดต่อ “แต่บอสเผยคะ หลายกิจการมีแผนจะขยายขนาดเพิ่ม เราต้องจ้างคนจำนวนมากมาให้เต็มตำแหน่ง”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อืม กิจการไหนที่ขาดคนจริงๆ ก็ให้จ้างเพิ่มได้ตามดุลยพินิจของตัวเอง แต่กิจการที่ไม่ได้ขาดคนขนาดนั้นไม่ควรใช้โอกาสนี้จ้าง ‘คนเก่งตัวสำรอง’ ไว้”
เลขาซินพยักหน้า “ได้ค่ะ”
เผยเชียนถาม “ตอนนี้ใครเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล”
เลขาซิน “น้องหาวค่ะ”
เผยเชียนกะพริบตา “น้องหาวนี่ใคร”
เลขาซิน “…ห่าวหยุนค่ะ”
“อ๋อ ห่าวหยุนน่ะเอง” เผยเชียนทำเหมือนว่าจำอีกฝ่ายได้ แต่จริงๆ แล้วไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
จะโทษบอสเผยว่าไม่ใส่ใจพนักงานก็ไม่ได้ เพราะเขามีพนักงานมากมายให้ต้องดูแล!
ฝ่ายบุคคลไม่ได้สำคัญเลยในสายตาของเผยเชียน จึงไม่แปลกที่เขาจะจำพนักงานแผนกนี้ไม่ได้
—
[1] เป็นสำนวนจีน แปลว่าการฉวยโอกาสในช่วงที่ชุลมุน