📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน – ตอนที่ 470

บทที่ 470 - เทพธิดาทั้งโลกกำลังรอเจ้าอยู่
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เรียกได้ว่าทำให้เสิ่นเทียนตั้งตัวไม่ทัน

เขาไม่นึกเลยว่าจะจู่ๆ ก็มีบุตรสาวเพิ่มมา

แต่ความรู้สึกเชื่อมต่อทางสายเลือดนั้น กำลังเตือนเขาอยู่ตลอดเวลา

เสิ่นเอ๋าเสวี่ยนี่คือบุตรสาวแท้ๆ ของเขา!

และไม่ใช่แค่นั้น

เสิ่นเอ๋าเสวี่ยไม่ใช่แค่สืบทอดพลังสายเลือดของเขา แต่ยังสืบทอดพลังแห่งมังกรหงส์ในกายเขา

ตอนนั้นที่ฝึกคู่ประสานกันเอ๋าปิง พลังแห่งเทพหงส์ในกายเสิ่นเทียนหลอมรวมกับพลังแห่งมังกรเทพ จนเกิดเป็นกายมังกรหงส์อมตะที่หาได้ยากในยุคโบราณ

ในนั้นมีพลังแห่งมังกรหงส์ส่วนหนึ่งไหลเข้าไปในกายเอ๋าปิง

เสิ่นเอ๋าเสวี่ยเกิดมาจากท้องเอ๋าปิง สืบทอดพลังส่วนหนึ่งของมารดารวมถึงพลังแห่งมังกรหงส์ส่วนหนึ่ง

ดังนั้นคุณสมบัติกายนางจึงเป็นกายมังกรหงส์อมตะเช่นกัน

แม้คุณสมบัติกายของเสิ่นเอ๋าเสวี่ยจะไม่แกร่งเท่าเสิ่นเทียน แต่ก็เป็นที่สุดในประวัติการณ์ เป็นกายเทพสูงสุดเช่นกัน

เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เชื่อมต่อทางสายเลือดในกายเสิ่นเอ๋าเสวี่ยแล้ว เสิ่นเทียนเผยรอยยิ้ม

พูดเช่นนี้ แสดงว่าแซ่เสิ่นก็มีบุตรสาวเช่นกันแล้ว!

….

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนตั้งสติกลับมาได้ เสิ่นเอ๋าเสวี่ยก็ทำเสียงขึ้นจมูก ท่าทีเฉยชาเล็กน้อย

หลักๆ เป็นเพราะตอนนางกำเนิด บิดาไม่เอาไหนคนนี้ไม่ปกป้องอยู่ข้างกายมารดา

นี่ยังไม่เท่าไร ปรากฏว่าเขาไม่ปรากฏตัวมาเลยร้อยแปดสิบปี

เสิ่นเอ๋าเสวี่ยรู้สึกว่าตนเหมือนเด็กกำพร้า ไม่เคยได้รับความรักจากบิดาเลย

หากไม่ใช่เพราะเอ๋าปิงบอกกับนางตลอดว่า ‘เสิ่นเทียนเจอกับเรื่องเหนือความคาดหมายกลับมาไม่ได้ เขาจะต้องปรากฏตัวแน่’

บางทีเสิ่นเอ๋าเสวี่ยอาจจะคิดว่าบิดาไม่เอาไหนของตนตายไปแล้ว

แม้ตอนนี้เสิ่นเอ๋าเสวี่ยจะพบเสิ่นเทียน มั่นใจว่าบิดาไม่เอาไหนยังไม่ตาย ทั้งยังถอนหายใจโล่งอกในใจเบาๆ แต่เสิ่นเอ๋าเสวี่ยก็ไม่ได้รู้สึกกับบิดาไม่เอาไหนคนนี้มากนัก

ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่เคยพบกัน ไม่มีความสนิทสนมกันเลย

โดยเฉพาะเสิ่นเอ๋าเสวี่ยพบว่าเสิ่นเทียนปรากฏตัวในนครศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ แต่ไม่ได้ไปหาเอ๋าปิงในทันที

นี่ยิ่งทำให้เสิ่นเอ๋าเสวี่ยไม่พอใจไปใหญ่!

ดังนั้น ท่าทีของนางถึงเฉยเช่นนี้ ไม่คิดจะทำหน้าดีใส่เสิ่นเทียน

…..

เสิ่นเทียนย่อมรู้สึกถึงความคับแค้นใจของเสิ่นเอ๋าเสวี่ย จึงรู้สึกกระดากอายนิดๆ

หลักๆ เป็นเพราะเขาไม่รู้เรื่องนี้เลย ไม่อย่างนั้นคงไปหาในทันทีแล้ว เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นบุตรสาวแท้ๆ ของเขา จะไม่ไยดีได้อย่างไร

ต่อให้เสิ่นเทียนจะผ่านเรื่องราวมามากมาย แต่พอเจอเรื่องเช่นนี้ก็ยังทำอะไรไม่ถูกนิดๆ

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน “พบหน้ากันครั้งแรก พ่อ…ข้าย่อมต้องมอบของขวัญพบหน้าให้กับเจ้า”

เสิ่นเทียนรู้ว่าเสิ่นเอ๋าเสวี่ยไม่คิดจะเปิดเผยความสัมพันธ์นี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งกระแสจิตมาหาเขา แต่คงพูดตรงๆ แล้ว

แต่นางกลับไม่พูด เห็นทีคงจะไม่พอใจในตัวเขานิดๆ

จุดนี้เสิ่นเทียนย่อมเข้าใจ แต่ก็ไม่ใส่ใจ

เพราะเขาเพิ่งเป็นพ่อคนครั้งแรก ไม่รู้จริงๆ ว่าจะจัดการมนุษย์สัมพันธ์เช่นนี้อย่างไร

โดยเฉพาะตอนนี้มหาเคราะห์ภัยมาเยือน ด้วยชื่อเสียงของเขาจะต้องเป็นที่จับตามองของผู้แข็งแกร่งเผ่าวิญญาณร้ายมากมายแน่นอน

แม้เสิ่นเทียนจะไม่กลัว แต่ก็เป็นกังวลว่าเผ่าวิญญาณร้ายจะหาทางลงมือกับญาติพี่น้องเขา ใช้ตรงนี้มาข่มขู่เขา

ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็คงปกป้องญาติพี่น้องทุกคนตลอดเวลาไม่ได้ การไม่เผยความสัมพันธ์ไปก่อน ถือว่าเป็นการปกป้องเสิ่นเอ๋าเสวี่ย

เสิ่นเอ๋าเสวี่ยมีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา กำลังรบเทียบเท่าโอรสสวรรค์รุ่นอาวุโสก็จริง แต่ก็ยังห่างชั้นจากผู้แข็งแกร่งสุดยอดมากเกินไป

มหาเคราะห์ภัยครั้งนี้ ไม่ใช่สิ่งที่โอรสสวรรค์รุ่นเยาว์พวกนี้จะควบคุมได้ สุดท้ายก็ต้องดูที่ผู้แข็งแกร่งสุดยอดของสองฝ่าย!

ตอนนี้โลกเซียนไม่ได้ส่งผู้แข็งแกร่งมาช่วย ขุมอำนาจห้าดินแดนเปราะบาง

ดังนั้นทุกอย่างต้องพึ่งตนเอง มีเพียงยกระดับศักยภาพให้เร็วที่สุด เสริมความแกร่งของผู้บำเพ็ญเท่านั้นถึงจะรับมือกับมหาเคราะห์ภัยครั้งนี้ได้

…….

ส่วนความไม่พอใจของบุตรสาว ก็คงต้องหาทางเอาใจเช่นกัน!

ใครให้นางเป็นบุตรสาวแท้ๆ ของตนกัน ย่อมต้องเอาใจให้ดี!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนโบกมือกว้าง พลันมีแสงเทพสว่างพร่างพราวส่องสว่าง สะท้อนท้องนภา คลื่นพลังน่ากลัวหมุนม้วนออกมา สั่นสะเทือนท้องฟ้า แม้แต่ห้วงอากาศยังรับอำนาจคุกคามนี้ไม่ไหว พังทลายลงทั้งหมด

กระบี่ยาวสีโลหิตเล่มหนึ่งลอยอยู่ตรงหน้าเสิ่นเทียน ด้านบนมีกฎเกณฑ์ไม่มีสิ้นสุดเวียนวน คลื่นพลังแหลมคมสุดขีด มีการโจมตีสูงสุด

ปราณกระบี่โดยรอบถาโถมมาไม่ขาดสาย เย็นเยียบอย่างยิ่ง แค่แสงกระบี่ที่แผ่ออกมาก็มากพอจะทำลายห้วงอากาศ

เมื่อกระบี่นี้ปรากฏ หมื่นกระบี่ส่งเสียงกู่ก้อง

ชั่วอึดใจเดียว กระบี่ในมือโอรสสวรรค์มากมายต่างส่งเสียงร้องและสั่นไหว เหมือนเจอราชาในหมู่กระบี่ ต้องก้มหน้าคารวะ

ทุกคนมีสีหน้าตื่นตกใจ เกิดความยำเกรงแรงกล้าขึ้นในใจ

หากปลุกพลังของอาวุธเทพสูงสุดนี้ทั้งหมด จะเหมือนทำลายล้างฟ้าดิน ตัดท้องนภาจักรวาล

…..

กระบี่นี้คือกระบี่ฟ้าสังหาร

กระบี่นี้อยู่ในกลีบปอดเขามาร้อยปี ผ่านการชะล้างด้วยพลังแห่งเบิกฟ้า

ระดับก็เปลี่ยนจากอาวุธเตรียมเซียนในตอนแรกเป็นอาวุธเซียนระดับสูง

กระบี่ฟ้าสังหารเสริมพลังเสิ่นเทียนไม่น้อย หากใช้มันกระตุ้นปราณกระบี่เซียนเหินฟ้าก็จะสังหารเตรียมเซียนได้ง่ายดาย

แต่เขาก็ยังเลือกจะมอบให้เสิ่นเอ๋าเสวี่ย

เพราะเสิ่นเทียนใช้เคล็ดหลอมสร้างคบเพลิงเบิกฟ้าหลอมอาวุธมรรคชีวิต…กระบี่ดาราเบิกฟ้าขึ้นมาแล้ว

แม้กระบี่ฟ้าสังหารจะแกร่ง แต่ก็ยังด้อยกว่ากระบี่ดาราเบิกฟ้าไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นเทียนหลอมกระบี่ดาราเบิกฟ้าด้วยตนเอง จึงเข้ามือกว่า

ดังนั้น ต่อให้มอบกระบี่ฟ้าสังหารให้เสิ่นเอ๋าเสวี่ย ก็ไม่ได้ส่งผลกับกำลังรบของเสิ่นเทียนเลย

…..

อีกทั้งกระบี่ฟ้าสังหารยังมีความจริงใจอยู่ ตอนแรกที่เสิ่นเทียนเจอเอ๋าปิงและลงนามสัญญาเทพมังกร ก็เพราะกระบี่ฟ้าสังหารนี้

พูดได้ว่ากระบี่ฟ้าสังหารเหมือนของพิสูจน์รัก มัดเขากับเอ๋าปิงไว้ด้วยกันอย่างแนบแน่น

ตอนนี้มอบกระบี่ฟ้าสังหารให้เสิ่นเอ๋าเสวี่ย ไม่ใช่แค่เพิ่มศักยภาพของนาง แต่ยังเพิ่มทักษะการเอาตัวรอด

ถือว่าเป็นการชดเชยส่วนหนึ่งที่เสิ่นเทียนไม่ได้ปรากฏตัวมาหลายปีให้กับเสิ่นเอ๋าเสวี่ย!

แต่ยังไม่จบเท่านี้

เสิ่นเทียนโบกมืออีกครั้ง นำสมบัติสุดยอดออกมาอีกชิ้น

ทันใดนั้นเกิดแสงทองสว่างพร่างพราว แสงเทพหมื่นสาย สว่างแสบตาเหมือนดวงตะวันใหญ่ บดบังฟ้าบังดวงตะวัน

ดวงจันทร์กลมสีทองดวงหนึ่งลอยขึ้น กลิ่นอายพลังมหาศาลยากจะคาดเดา

สิ่งนี้ก็คือกงล้อทองตะวัน อาวุธเซียนระดับสูงสุด

นี่คืออาวุธเซียนสายป้องกันสูงสุด เมื่อกระตุ้นถึงขีดสุด ถึงขั้นรับการโจมตีสุดกำลังของเซียนแท้จริงได้ครั้งหนึ่ง

อาวุธเซียนสูงสุดนี้มากพอจะทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนแท้จริงสนใจได้ แต่เสิ่นเทียนก็ยังมอบให้เสิ่นเอ๋าเสวี่ยอย่างไม่ลังเล

ถึงอย่างไรก็เป็นบุตรสาวแท้ๆ ของเขา ย่อมต้องปกป้องดูแลให้ดี จะให้เกิดเหตุไม่คาดคิดไม่ได้

…..

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนมอบกระบี่ฟ้าสังหารและกงล้อทองตะวันให้ตนแล้ว เสิ่นเอ๋าเสวี่ยตัวสั่น

ใบหน้าเย็นชาดั่งหิมะของนางเกิดความว้าวุ่นใจเสี้ยวหนึ่ง เหมือนไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี

แต่จากนั้นเสิ่นเอ๋าเสวี่ยก็ยิ้มน่ารัก เหมือนดอกไม้เบ่งบาน งดงามและเหนือธรรมดา

นางส่งกระแสจิตมา “ขอบคุณท่านพ่อมาก!”

เสิ่นเอ๋าเสวี่ยรับอาวุธเซียนสองชิ้นไป ความคิดที่มีต่อเสิ่นเทียนในใจก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเช่นกัน

บิดาไม่เอาไหนคนนี้ก็ยังเป็นห่วงข้ามากเหมือนกัน

แม้แต่อาวุธเซียนระดับสูงสุดล้ำค่าเช่นนี้ยังมอบให้ข้า ข้าผิดเองที่โทษเขา!

….

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนต่างมึนงง ตกใจจนขนหัวลุก

หญิงมังกรหงส์ ขู่กรรโชกสมบัติจากเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้จริงๆ รึ

ทั้งยังเป็นอาวุธเซียนระดับสูงสุดสองชิ้นอีก

ไม่กระมัง ไม่กระมัง ไม่กระมัง!

คงไม่ง่ายขนาดนี้จริงๆ หรอกนะ!

ทำเอาคนสนใจกันเลยทีเดียว!

เวลานี้คนมากมายความคิดเอ่อล้น อยากจะเข้าไปลองดู แต่พวกเขาก็แค่คิดเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปลองจริงๆ

พวกเขาไม่รู้ความสัมพันธ์แท้จริงระหว่างหญิงมังกรหงส์กับเสิ่นเทียน เพียงแค่คิดว่าเป็นเพราะเกาะมังกรดำ

เอ๋าเสวี่ยเป็นธิดาสวรรค์ที่สุดแห่งยุคของเกาะมังกรดำ และเสิ่นเทียนเป็นพันธมิตรมนุษย์ของเกาะมังกรดำ

สองฝ่ายมีสัมพันธ์แน่นแฟ้น มอบสมบัติให้รุ่นเยาว์ก็เป็นเรื่องปกติมาก

พวกเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเสิ่นเทียนเลย หากกล้าเข้าไปขูดรีด เกรงว่าคงถูกตบตาย

คิดว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นนี้รังแกกันได้ง่ายๆ หรือ

…..

ทว่าก็ยังมีคนอดใจไม่ไหว เดินออกมา

เขาคือคุนเผิงจื่อแห่งเผ่าคุนสุญตาทะเลอุดร

เขาเดินตรงเข้ามา จ้องเสิ่นเทียน “ท่านลุง ท่านจะลำเอียงไม่ได้นะ ข้าก็อยากได้ของขวัญเหมือนกัน!”

ตอนนี้เสิ่นเทียนก็งงเหมือนกัน!

เขาไปเป็นลุงเจ้าเด็กนี่ตั้งแต่เมื่อไร

เหตุใดถึงออกไพ่ความสัมพันธ์ อยากจะขอสมบัติอีกแล้ว

หรือคิดว่าข้าจะเป็นคนอารมณ์ดีจริงๆ อย่างนั้นรึ

เหมือนเห็นว่าเสิ่นเทียนจะโกรธแล้ว คุนเผิงจื่อก็รีบพูด “ท่านลุง ท่านป้าของข้าคือองค์หญิงขั้นหนึ่งแห่งเผ่าคุนสุญตาคุนอวี้!

ร้อยปีมานี้ นางโวยวายมาตลอดว่าจะไม่ยอมออกเรือนกับใครหากไม่ใช่ท่านลุง แม้แต่ท่านปู่ก็ยังจนปัญญา ท่านลุง ข้าว่าท่านรับท่านป้าข้าไว้เถอะ!”

คุนเผิงจื่อยิ้มมีความสุข เห็นเสิ่นเทียนกลับมา ก็ถือว่าผูกเรื่องในใจพวกเขาแล้วกันโuเวลกูดoทคoมฺ

ไม่อย่างนั้นคุนอวี้โวยวายต่อไป ได้กลายเป็นหญิงคุนแก่ไม่มีใครเอาจริงๆ แน่

เสิ่นเทียนได้ยินดังนั้นพลันลำบากใจขึ้นมา

พระเจ้า อย่างนี้ก็ผูกความสัมพันธ์กันได้รึ

…….

ทว่าคำพูดของคุนเผิงจื่อกลับดึงโอรสสวรรค์ทุกคน

บุรุษคนหนึ่งก้าวออกมา ชุดคลุมขาวดั่งหิมะ ข้างหลังแบกกระบี่ยาวสีคราม

ดวงตาเขาเฉียบคมอย่างยิ่ง เจตจำนงกระบี่พุ่งขึ้นนภา เป็นผู้บำเพ็ญกระบี่

แต่กลิ่นอายพลังในตัวคนนี้อิสระและสง่างาม ในมือยังถือน้ำเต้าสุราอันหนึ่ง

เมื่อเห็นภาพนี้ เสิ่นเทียนก็เดาฐานะของคนนี้ได้คร่าวๆ จะต้องเป็นศิษย์แดนเทวาดาวประกายพรึกแน่นอน

เพราะคนนี้มีกลิ่นอายพลังคล้ายกับเจ้ากระบี่บัวครามหลี่ฉางเกอมาก

ไม่ผิด เจ้าหนูนี่คือบุตรชายของหลี่ฉางเกอ หลี่วั่งเยวี่ย

ก่อนจะเห็นหลี่วั่งเยวี่ยพูดด้วยใบหน้าเลื่อมใส “ท่านน้า ท่านน้าหญิงเหลียนเอ๋อร์ของข้าก็กำลังรอท่านอยู่เหมือนกัน”

เสิ่นเทียนพูดไม่ออก

ได้ มาอีกคนแล้ว!

ทว่ายังไม่จบ มีธิดาสวรรค์ก้าวออกมาอีก คนนั้นมีกลิ่นอายพลังอบอุ่น เหมือนบัวครามต้นหนึ่ง

นางขยับแสงสว่างขมุกขมัวทั้งตัว พลังวนเวียนหนาทึบ คุณสมบัติเหนือธรรมดา สง่างามกระตุกใจคน

หญิงคนนี้คือสตรีศักดิ์สิทธิ์ธารหยกรุ่นปัจจุบัน เหยาซี

ก่อนจะเห็นเหยาซีเอ่ย “คือว่า อาจารย์เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ชิงเยวี่ยกับอาจารย์อาผู้สูงศักดิ์สวรรค์เซียวหลิงก็กำลังรอท่านอยู่เหมือนกัน!”

เสิ่นเทียนเงียบ

เยี่ยม ครั้งนี้มาทีเดียวสองคนเลย!

……

เทพธิดาชิงเยวี่ยข้างหลังเสิ่นเทียนตัวสั่นเบาๆ ใบหน้างามแดงเหมือนแสงสว่าง

เทพธิดาชิงเยวี่ยไม่นึกเลยว่าเหยาซีจะหยิบยกนางออกมา

หลายปีมานี้ก็มีโอรสสวรรค์สุดยอดมากมายมาขอตบแต่งนางที่แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก

ถึงอย่างไรเทพธิดาชิงเยวี่ยก็เป็นเทพธิดาแห่งจี้เซี่ย เป็นที่เคารพรักของคนมากมาย มีโอรสสวรรค์ที่คุยโวว่ามีพรสวรรค์สุดยอดมากมายอยากได้ความชื่นชอบจากเทพธิดาชิงเยวี่ย แต่กลับถูกปฏิเสธไปทั้งหมด

เพราะว่าทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกรู้ว่าเทพธิดาชิงเยวี่ยมีใจผูกกับเสิ่นเทียน

แม้แต่เซียวหลิงเอ๋อร์ยังไม่คัดค้าน นางมองว่าเทพธิดาชิงเยวี่ยเหมาะสมกับเสิ่นเทียนจริงๆ

พอได้ฟังคำพูดของเหยาซี เทพธิดาชิงเยวี่ยไม่ได้อธิบายอะไร แต่เลือกยอมรับโดยนัย

กระทั่งในใจนางยังเฝ้ารอลับๆ รอดูว่าเสิ่นเทียนจะเลือกอย่างไร

…..

ทว่าเสิ่นเทียนยังไม่ทันพูดก็มีโอรสสวรรค์ก้าวออกมาอีก

นั่นเป็นธิดาสวรรค์สวมชุดคลุมเทพห้าสี เปล่งแสงเทพห้าสีทั้งตัวก้าวออกมา

นางมีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งที่สุดเช่นกัน ไม่ด้อยไปกว่าโอรสสวรรค์สุดยอดจากแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น และที่สำคัญที่สุดคือนางเป็นนกยูงห้าสี

หญิงคนนี้คือข่งเซวียนเซวียน เทพธิดารุ่นนี้ของเผ่าเทพนกยูง

ข่งเซวียนเซวียนมองเสิ่นเทียนด้วยความเลื่อมใส “ท่านน้า ท่านน้าหญิงข้าก็กำลังรอท่านอยู่เหมือนกัน!”

ท่านน้าของนางก็คือเทพธิดารุ่นก่อนข่งเมิ่ง

ตอนนั้นข่งเมิ่งเคยพบเสิ่นเทียนที่สนามรบบรรพกาล ทั้งยังผจญภัยไปด้วยกัน

ดังนั้นจิตใจของข่งเมิ่งจึงจมอยู่กับเสิ่นเทียน ยากจะถอนตัวได้

ตลอดหลายปีมานี้ ข่งเมิ่งไม่ได้ตามหาคู่ครอง แต่รอเสิ่นเทียนกลับมา

ข้างกายยังมีบุรุษหน้าตาหล่อเหลา สง่างามดั่งหยก แผ่พลังของผู้เป็นราชันทั้งตัว

เขาก้าวออกมาเช่นกัน ก่อนพูดอย่างจำใจ “ท่านน้า ท่านน้าหญิงหลิงหลงของข้าก็กำลังรอท่านอยู่เหมือนกัน…”

เจ้าเด็กนี่คือองค์ชายหลางเสียแห่งราชวงศ์เซียนต้าฮวง เป็นชนรุ่นหลังขององค์หญิงหลิงหลง

เมื่อเห็นคนก้าวออกมามากมายขนาดนี้ องค์ชายหลางเสียก็คิดว่าต้องสู้เพื่อท่านน้าของตนบ้าง

……

เสิ่นเทียนได้ยินแล้วพลันขนหัวลุก นี่มีคนเท่าไรกัน

ตอนข้ายังหนุ่ม ยังไม่ได้ทำอะไรพวกนางเลย ไม่ได้ถกพวกนางเลย!

เหตุใดถึงมีคนออกมามากขนาดนี้…

อะไรกัน นี่จะคลุมถุงชนกันรึ

เสิ่นเทียนพลันรู้สึกถึงสายตาคับแค้นใจส่งมาจากข้างหลัง นั่นคือเสิ่นเอ๋าเสวี่ย

เสิ่นเอ๋าเสวี่ยกัดริมฝีปากเบาๆ โกรธอยู่ในใจ

บิดาไม่เอาไหนของตนสร้างเรื่องมากมายขนาดนี้เชียว สมัยหนุ่มๆ ทำร้ายเด็กสาวไปเท่าไรกัน!

ขณะเดียวกันก็มีสายตาคับแค้นใจส่งมาจากข้างหลังจางอวิ๋นถิงเช่นกัน

สายตานั้นคือจางอวิ๋นซี

นางเห็นไม่มีใครช่วยพูดให้ตน เลยถลึงตามองจางอวิ๋นถิงโหดๆ ทีหนึ่ง

เหตุใดเจ้านี่ถึงไม่มีบุตรกัน จะได้ช่วยพูดให้น้าหญิงเขาบ้าง

จางอวิ๋นถิงรู้ใจทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความเก้อเขิน “ศิษย์น้อง! ความจริงแล้วอวิ๋นซีก็กำลังรอเจ้าอยู่เหมือนกัน เจ้าตรึกตรองดูหน่อยดีหรือไม่”

เสิ่นเทียนอยากจะร้องไห้

…….

เสิ่นโย่วเทียนมองเสิ่นเทียนด้วยความเคารพ ปลงอนิจจังในใจอย่างยิ่ง

ท่านพ่อพูดไว้ไม่ผิดจริงๆ อาสิบสามของตนสร้างผลงานสุดยอดไว้ทั้งโลกหล้าจริงๆ!

ลองถามดูสิ มีใครเป็นที่ชอบของคนมากมายขนาดนี้บ้าง

และยังเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เทพธิดาจากขุมอำนาจสุดยอดทั้งนั้น

กระทั่งพวกนางยินดีรอร้อยปี จะรอเสิ่นเทียนกลับมา

อาสิบสาม สมกับเป็นแบบอย่างของข้า!

…….

เสิ่นเทียนรีบตะโกนห้ามปราม “เอาละๆ! ในเมื่อพบหน้ากันก็มีวาสนาต่อกัน! วันนี้ข้าจะถ่ายทอดความเข้าใจในคัมภีร์จักรพรรดิให้กับพวกเจ้า ตระหนักรู้ได้เท่าไรก็อยู่ที่ทักษะการตระหนักรู้ของพวกเจ้าแล้ว!”

เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็โบกมือกว้าง

แสงเทพหลายสายพุ่งมาจากในกายเขา แบ่งกันเข้าไปในความคิดของโอรสสวรรค์พวกนี้

พวกนี้คือความเข้าใจในคัมภีร์จักรพรรดิเช่นวิชาคุนเผิง เคล็ดกระบี่ม่วงคราม คัมภีร์จักรพรรดิสุริยะ แสงเทพห้าสีเป็นต้น

เขาใช้พลังจิตถ่ายทอดให้โอรสสวรรค์มากมาย ถือว่าเป็นของขวัญพบหน้ากัน

ขณะเดียวกันยังเป็นการอุดปากพวกเขาด้วย

ขืนพูดต่อไป บางทีโอรสสวรรค์ทั้งแท่นวิหคทองแดงได้เดินออกมากันหมดแน่

เพราะอย่างไรก็มีคนที่ชอบเขาเยอะมาก คงจะรับไว้ไม่ได้ทั้งหมดกระมัง!

ใครจะไปต้านไหว!

ต่อให้มีกายเบิกฟ้าก็ต้านไม่ไหวหรอก!

……

เสิ่นเทียนถอนหายใจอยู่ข้างใน

ใครว่าหน้าตาดีเป็นเรื่องดีกัน

เฮ้อ!

ร่างกายจะไปรับไหวได้อย่างไรกัน!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน (จบ)

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน (จบ)

I Am Really Not The Son of Providence, I am Really not a Child of Luck(mtl), ข้าไม่ใช่บุตรแห่งโชคชะตาจริงๆนะ(ก่อนlc), 我真的不是气运之子
Score 9
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 510 Chapters (จบแล้ว)
หลังจากข้ามมิติมาอยู่ในร่างของเสิ่นเทียน องค์ชายสิบสามแห่งราชวงศ์ผู้หล่อเหลาที่สุด แต่เขากลับอับโชคราวกับเป็นเทพหายนะ เสิ่นเทียน (คนใหม่) พบว่าเขามองเห็นวงรัศมีสีต่างๆ เหนือศีรษะของตนเองและผู้อื่น นั่นคือ ‘ตัวบอกระดับโชควาสนา’ และวงรัศมีเหนือศีรษะของเขาก็เป็นสีดำทะมึน สื่อถึงความซวยขั้นสุด! โชคยังดี เขาสามารถเห็นภาพ ‘โชคลิขิตและวาสนา’ ผ่านวงรัศมีพวกนั้นเช่นกัน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset