📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย Heavenly Star สวรรค์มวลดาว – เล่ม 6 ตอนที่ 331

บทที่ 331 - ติดตาย
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ทงซินลอยร่างค้างอยู่กลางอากาศสูงลิบ สองมือผลักลงเบื้องล่างด้วยพลังทมิฬน่าหวาดหวั่น รัศมีแสงดำกับรัศมีแสงฟ้าพัลวันติดตาย ตรงจุดที่แสงดำปะทะแสงฟ้า ผืนนภาค่อยๆถูกความมืดเคลื่อนคลุมเหนือพื้นที่ไพศาล ท้องฟ้ามีส่วนสว่างและมืดดำ ทว่าบริเวณที่มืดดำนั้น กล่าวได้ว่าคือความมืดมิดเหนือธรรมดา มันดำมืดเกินทุกสิ่งที่ผู้คนรู้จัก

พลังทมิฬและพลังหยกวารี ประสานพัวพันในบริเวณความมืดอย่างบ้าคลั่ง มีแสงสว่างวาบแล้วมืดกัดกลืนสลับกัน ไหววับดุจแสงมายา ในการปะทะของสี่ยอดฝีมือเทวะกับสตรีเทพพิโรธด้วยพลังสูงสุด ห้วงอากาศไม่อาจทานทนได้อีกต่อไป อากาศทลายลงเกิดรอยแตกดำมิดดุจหลุมดำน่าสะพรึง

สองพลังประสานติดตายอยู่กลางอากาศ แสงทมิฬและแสงฟ้าราวสองมังกรเกี่ยวกระวัดกัดกันในอากาศ ไม่มีผู้ใดได้เปรียบหรือผู้ใดที่แสดงท่าทีพ่ายแพ้ อาวุโสเทียมฟ้า อาวุโสปฐพี ฉุ่ยเสวียนฟงและบุตรชาย ทั้งหมดล้วนสีหน้าเปลี่ยนทันที ตอนนี้ความสะพรึงในใจเหนือล้ำกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

“นาง….คิดไม่ถึงว่านาง….จะต้านรับไว้ได้….” ฉุ่ยหยุนหลันผลักฝ่ามือสีฟ้าขึ้นเบื้องบน ฝ่ามือสะท้านสั่นไหว ทั้งแขนและทั่วกายกลายเป็นหยกวารีสีฟ้า นี่คือสภาวะที่เขาใช้พลังสูงสุด ไม่อดยั้งพลังใดๆ เพื่อทุ่มพลังสังหารสตรีเทพพิโรธด้วยความเร็วสูงสุด เพื่อไม่ให้นางกลายเป็นหายนะในวันหน้า เขาไม่ยั้งแม้เศษเสี้ยวพลัง ตลอดครึ่งเดือนได้สงบสติระงับหัวใจ ยามนี้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม เดิมทีเขาคิดว่าเมื่อสี่สุดยอดแห่งสำนักจักรพรรดิใต้ประสานพลังปล่อยมังกรหยกวารีออกเต็มกำลัง พุ่งขึ้นฟ้าทะลวงสู่อากาศ สตรีเทพพิโรธย่อมไม่อาจหลีกหนีและถูกทำลายในสภาพทารุณ หากพวกเขาไม่คิดเลยว่า พลังที่ประสานระหว่างผู้ที่แข็งแกร่งสุดอย่าง อาวุโสเทียมฟ้า ฉุ่ยเสวียนฟง อาวุโสปฐพี และตัวเขาที่ใช้พลังทั้งหมดออกมา กลับถูกนางต้านรับไว้ได้อย่างคาดไม่ถึง!!

“พวกเรา….ประเมินนางต่ำเกินไป….” ฉุ่ยเสวียนฟงใบหน้าเป็นสีคล้ำม่วง ลมหายใจอ่อนแอจนไม่อาจสัมผัส เวลานี้เป็นการวัดประชันพลังโดยตรง อันตรายยิ่งกว่าการต่อสู้ ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ติดตาย หากพลังที่ประสานกันอยู่ทลายลง อีกฝ่ายย่อมถูกพลังตรงข้ามกลืนกินทันที และร่วงหล่นสู่หายนะ

กล่าวโดยสรุปก็คือ ในเวลานี้ หากไม่ใช่สตรีเทพพิโรธตกตาย ก็เป็นพวกเขาที่ดับดิ้น หากสตรีเทพพิโรธไม่อาจต้านรับได้ก่อน เช่นนั้นนางจะถูกพลังสูงสุดจาก ‘โทสะแห่งมังกรหยกวารี’ เข้าทำลาย แต่หากพวกเขาทั้งสี่คนเป็นฝ่ายแรกที่ไม่อาจต้านทาน เช่นนั้น พวกเขาจะกลายเป็นเถ้าธุลีปลิวว่อนใต้พลังทมิฬของสตรีเทพพิโรธอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

“สตรีเทพพิโรธ….เป็นตัวตนศักดิ์สิทธิ์มาจากไหนกัน!!” อาวุโสปฐพีขบฟันกรอด น้ำเสียงที่กล่าวอ่อนแอไร้ที่เปรียบ

“คนผู้เดียวสามารถหยุดยั้งพวกเราทั้งสี่…. กลายเป็นว่าเมื่อครู่นางเก็บยั้งพลังไว้” อาวุโสเทียมฟ้าคือผู้เดียวที่สามารถกล่าวคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หากน้ำเสียงยังสั่นเครือเล็กน้อยแสดงให้เห็นว่าหัวใจเขาสั่นไหวเพียงใด เขาย่อมเคยได้ยินตำนานสตรีเทพพิโรธ ทว่าหากไม่มีวันนี้ เขาย่อมไม่อาจเชื่อลงว่าจะมีคนถึงปานนี้ได้ เพียงพลังของนางผู้เดียวกลับต้านยันตัวเขาและยอดฝีมือเทวะขั้นกลางอีกสามคนที่ร่วมมือกันได้

ดรุณีน้อยนางนี้ คือมนุษย์จริงๆหรือ?

“อย่าเสียสมาธิ….พวกเรา….ไหนเลยจะพ่ายแพ้!” สัมผัสทั้งห้าของฉุ่ยหยุนหลันถูกรีดเร้นในคราเดียว ยามนี้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างยิ่ง พลังแกร่งกล้าถูกใช้ออกเต็มกำลัง พวกเขาจะแพ้ไม่ได้….ทั้งสี่คนต่างเป็นยอดฝีมือเทวะ หากอยู่นอกสำนักจักรพรรดิใต้ย่อมยืนทรนงอยู่บนจุดสูงสุดของทวีปเทียนเฉิน เป็นที่เคารพของผู้ฝึกยุทธทุกคน ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงล้ำแม้กระทั่งจักรพรรดิแห่งแผ่นดิน กองทัพเกรียงไกรใดๆก็ไม่กล้าเฉียดใกล้ ตอนนี้หากไม่นับฉุ่ยหยุนหลัน นี่คือครั้งแรกของทุกคนที่ร่วมมือต่อสู้กับศัตรู ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นการประสานของสี่เทวะผู้แข็งแกร่งสุดในสำนักจักรพรรดิใต้ร่วมมือกันต่อสู้กับคนเพียงลำพัง ไหนเลยพวกเขาจะยอมแพ้ได้!!

ท้องนภายังคงมืดหม่น การปะทะของพลังยังคงดุดัน นอกจากมิติจะแตกร้าวแล้ว คลื่นพลังที่ไหลรั่วออกมายังหนักหน่วงดุจขุนเขาท่วมทับปฐพี ในที่ห่างไกล คนของสำนักจักรพรรดิใต้ต่างนิ่งค้าง หัวใจสิ้นหวังและเต้นรัว ในสำนักจักรพรรดิใต้ไร้คนธรรมดา พวกเขารู้ดีว่าการประชันนี้หมายถึงสิ่งใด หากสตรีเทพพิโรธเป็นเป็นฝ่ายชนะ นั่นหมายถึงสี่สุดยอดแห่งสำนักจักรพรรดิใต้ซึ่งรวมถึงประมุขสำนักจะตกตายด้วยมือนาง และหลังจากนั้น พวกตนคงเป็นได้เพียงสิ่งของให้สตรีเทพพิโรธเชือดเล่น

ราวกับสวรรค์กำลังใกล้ถล่ม กดทับบนศีรษะของพวกเขา บีบคั้นให้จมลงสู่หุบเหวไร้ก้นที่ไม่มีวันกลับคืน

หนึ่งนาที…. สองนาที…. สามนาที….

เวลาเคลื่อนผ่านผสานเสียงเต้นหัวใจจนเป็นหนึ่ง สายลมแห่งโลกเงียบงันไร้ที่เปรียบ ทุกวินาทีเชื่องช้าอย่างชัดเจน เหนือหน้าผากของฉุ่ยหยุนหลันและฉุ่ยเสวียนฟงปกคลุมด้วยเม็ดเหงื่อ ไม่ต่างจากอาวุโสปฐพีที่เหงื่อไหลกราว สีหน้าม่วงแข็งราวศิลา มีเพียงแสงฟ้าในฝ่ามือและพลังหยกวารีที่ไม่อ่อนล้าลงเพราะถูกขับออกอย่างบ้าคลั่ง พลังขอบเขตเทวะย่อมไม่เหือดแห้งลงโดยง่าย ทว่าภายใต้การปลดปล่อยพลังขั้นสูงสุดโดยไม่อดยั้งไว้ พวกเขาไม่รู้ว่าจะทนต่อต้านได้อีกนานแค่ไหน

ดังนั้น หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นย่อมทำลายสมดุลพลังนี้ลงทันที….

เหนือท้องฟ้า สีหน้าของทงซินแตกต่างจากคนทั้งสี่สิ้นเชิง แม้จะอยู่ในสถานการณ์ยามนี้ ใบหน้านางก็ยังเย็นชาไม่เปลี่ยนแปลง ไร้ความตึงเครียดหรือความเจ็บปวด มีเพียงความสงบเยือกเย็น ราวตุ๊กตาดินปั้นที่ไร้อารมณ์ ในดวงตาคู่นั้น วาบประกายลึกล้ำที่ดำมืดยิ่งกว่าราตรี

หากในยามนี้บังเกิดความผันเปลี่ยน ในความเงียบงันที่ไม่อาจเงียบได้อีก มีประกายแสงแดงพุ่งจากร่างทงซิน พุ่งโค้งลงฟ้าผ่านสองอสูรมังกรทมิฬและมังกรหยกวารี แสงแดงแฝงพลังสังหารเย็นเยียบ เป้าหมายกำลังพุ่งตรงไปที่ฉุ่ยหยุนหลัน

ราคาที่ต้องจ่ายจากการไขว้เขวคือพลังที่ลดลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ทงซินกระจายพลังเคลื่อนกริชเทพพิโรธ ทำให้มังกรหยกวารีพุ่งขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ราวปรารถนาทะยานสู่สรวงสวรรค์ ทงซินดึงพลังทมิฬคืนกลับมา และจากนี้สถานการณ์กำลังจะเหวี่ยงกลับอย่างรุนแรง

“ระวัง!!” อาวุโสปฐพีและฉุ่ยเสวียนฟงตะโกนเสียงต่ำ กริชเทพพิโรธที่บินลงมาไม่ได้รวดเร็วนัก พลังที่ประจุก็ค่อนข้างน้อย ทว่าพวกเขาที่ใช้พลังออกเต็มที่จึงไม่เหลือพลังใดๆไว้ป้องกัน กริชเทพพิโรธย่อมทำร้ายได้โดยง่าย พวกเขามองกริชเทพพิโรธใกล้เข้ามาอย่างสิ้นหวังโดยไม่อาจต่อต้านมัน ทงซินแบ่งพลังออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทว่ากลับทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หากหนึ่งในพวกเขาถอนพลังหยกวารีกลับ พวกเขาย่อมตกสู่วิกฤตพลังมืด เมื่อถูกพลังท่วมทับเมื่อใด คิดหวังหยัดยืนหลังจากล้มอีกครั้ง ย่อมยากดุจปีนป่ายขึ้นสวรรค์

ฉุ่ยหยุนหลันม่านตาหดลีบอย่างรุนแรง ในแววตามีจุดสีแดงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สตรีเทพพิโรธสามารถควบคุมกริชเทพพิโรธได้ตามใจ และใช่ว่าเพียงพลังเล็กน้อยจะช่วยฉุ่ยหยุนหลันป้องกันกริชเทพพิโรธในช่วงวิกฤตนี้ได้ เขากัดฟันแน่น สองมือยังคงส่งพลังหยกวารีขึ้นนภา ร่างกายซีกขวากำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ซู่ว!

กริชเทพพิโรธพุ่งผ่าน ตัดแขนเสื้อของเขาออก ทว่าไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บ การเคลื่อนพลังของเขาทำให้หยกวารีอ่อนกำลังลงชั่วขณะ ทันใดนั้นพลังทมิฬที่ถูกต้านไว้ก็ราวกับสัตว์ป่ากระหายเหยื่อ มันคำรามพุ่งลงมาฉับพลัน แสงฟ้าถูกดันจนติดผืนดิน สี่สุดยอดแห่งสำนักจักรพรรดิใต้ฉับพลันถูกกดดันหนักหน่วง เบื้องหน้าพวกเขาเป็นแสงทมิฬ ในอกตกตะลึงอย่างยิ่ง เท้าจมลงพื้นลึกด้วยแรงกดดันมหาศาล

“กรอด!!”

เสียงเล็ดออกจากไรฟันในปาก เคลื่อนพลังขึ้นฟ้าเพื่อสร้างสมดุลอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาขบฟันจนแทบแตก ร่างกายท่วมด้วยเหงื่อเย็น ไม่สงสัยเลยว่าเวลานี้หัวใจของพวกเขากำลังตึงเครียดเพียงใด

ขณะที่ใช้ออกเต็มกำลัง กลับสามารถแบ่งความสนใจควบคุมอาวุธได้อย่างคาดไม่ถึง….ความสามารถนี้ไม่มี ‘มนุษย์’ คนใดจะทำได้ ควบคุมศาตราไม่เพียงใช้ ‘พลัง’ และ ‘ลมปราณ’ แต่ยังต้องใช้จิตใจบังคับโดยตรง ทว่าภายใต้สถานการณ์ยามนี้ การแบ่งพลังและลมปราณมีแต่จะเพิ่มอันตรายให้มากขึ้น ทว่าการแบ่งจิตสมาธินั้นไม่ต่างจากหาที่ตาย เพราะเมื่อจิตใจแบ่งเป็นสอง พลังย่อมกระจาย ทว่าสตรีเทพพิโรธที่กำลังต้านยันกลับแบ่งจิตสมาธิควบคุมกริชเทพพิโรธโจมตีใส่พวกเขา และชั่วพริบตาที่ฉุ่ยหยุนหลันแบ่งสมาธิก็ถูกบีบคั้นกลับมาหลายเท่าทวี

ในใจเหมือนถูกกดไว้ด้วยแผ่นเหล็กหนัก จนยากที่จะหายใจ กริชเทพพิโรธพุ่งผ่านฉุ่ยหยุนหลันและปักลงพื้นสามารถกลับมาโจมตีต่อได้ในทุกเวลา หรือว่าวันนี้ สี่สุดยอดแห่งสำนักจักรพรรดิใต้จะพ่ายแพ้ตกตายด้วยน้ำมือของเด็กหญิงตัวเล็กๆผู้นี้จริงๆ

สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเพราะกริชเทพพิโรธ ผู้คนในสำนักจักรพรรดิใต้ต่างแตกตื่น อยากตะโกนกล่าวคำก็กลัวมีผลต่อประมุขและอีกสามคนที่ฝืนแข็งใจ ผู้คนใบหน้าซีดขาว กำหมัดทั้งสองแน่น ต่างมีเหงื่อเย็นผุดขึ้นบนแผ่นหลัง

ฉุ่ยหยุนพ๋อที่ยืนอยู่กลางฝูงคนพลันนึกบางสิ่งออก เขาชะงันชั่วขณะแล้วตบหน้าตัวเองฉาดหนึ่ง จากนั้นเร่งเท้าไปยังบริเวณที่พวกเขาต่อสู้

“หยุดนะ อย่าเข้าไป!” ชายชราใบหน้าเคร่งขรึมผู้หนึ่งยื่นมือออกคว้าฉุ่ยหยุนพ๋อไว้มั่น

ฉุ่ยหยุนพ๋อหันกลับมาและตะโกนเสียงดัง “พวกเราบ้าไปแล้วหรือไง! เหตุใดยังยืนอยู่ตรงนี้ รีบไปช่วยท่านประมุขเร็วเข้า!”

เสียงตะโกนนี้ทำให้พวกเขาตกใจ ทว่าทันใดราวกับตื่นขึ้นจากฝัน พวกเขาก้าวเท้าวิ่งไปเบื้องหน้า ยามสี่สุดยอดต่อสู้กับสตรีเทพพิโรธพลังของพวกเขาเหนือล้ำจนไม่อาจนับเป็นมนุษย์ ในการต่อสู้ระดับนั้นพวกตนไม่อาจเข้าไปยุ่งได้ เพราะหากสอดมือก็มีแต่ตายอย่างเปล่าประโยชน์ ดังนั้นความคิดนี้จึงครอบงำตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้โดยไม่รู้ตัว…. ทว่าหากเป็นสภาพที่ต่างฝ่ายต่างติดตายอยู่เช่นนี้ เพียงพลังขอบเขตสวรรค์ก็สามารถพลิกกลับสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย

Facebook Twitter Telegram Pinterest
Heavenly Star สวรรค์มวลดาว (จบ)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เด็กหนุ่มลึกลับผู้ลืมเลือนอดีต ตื่นขึ้นมาในทวีปเทียนเฉิน ถูกเข้าใจว่าเป็นบุตรชายตระกูลเย่ เขาจึงใช้สถานะนี้เฝ้าสังเกตโลกอันยุ่งเหยิง รวมทั้งสืบหาอดีตของตน หากแต่โชคชะตาที่ต้องประสบกลับมีเพียงความน่าหวั่นสะพรึง เขาจึงหัวเราะเยาะโชคชะตา และเผยพลังสะท้านแดนดินใต้ผืนสวรรค์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset