📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย Heavenly Star สวรรค์มวลดาว – เล่ม 4 ตอนที่ 238

บทที่ 238 - เอ้อหยาเลือกสามี
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ยามค่ำคืนที่สว่างไสว

ต่างจากวันเก่าก่อนที่เงียบสงบ ยามนี้มีเสียงหัวเราะจอแจดังมาจากข้างนอกไม่หยุดหย่อน มีเสียงแตกปะทุของกองไฟ เย่หวูเฉินที่หลับตาพักผ่อนอยู่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น เขาจับมือหนิงเสวี่ยและกล่าว “วันนี้มีอะไรกัน? พวกเราออกไปดูกันเถอะ”

ออกจากประตูห้อง แล้วออกจากประตูบ้าน ห่างออกไปไม่ไกลเป็นลานกว้างที่เต็มไปด้วยผู้คน ทั้งคนหนุ่มคนชราร่วม 300 ชีวิตมารวมตัวกัน ต่างพูดคุยสรวลเสเฮฮา พวกเขานั่งล้อมวงเป็นกลุ่มๆอย่างเป็นระเบียบ มีกองไฟกระจายอยู่ทั่วทุกแห่ง แต่ละแห่งมีเนื้อย่างหลากหลาย มีผลไม้มากมายในถาดไม้บนพื้น

ชุมนุมกองไฟ?

เมื่อเห็นเย่หวูเฉินเดินออกมา กงลั่วที่อยู่ในกลุ่มเด็กหนุ่มสิบกว่าคนก็ยิ้มกล่าว “น้องหวูเฉิน ในที่สุดเจ้าก็ตื่น นี่ถ้าเจ้าไม่ตื่นก่อน ข้าว่าจะเข้าไปปลุกเจ้า”

“นั่นคือ?” เย่หวูเฉินส่งสายตาถาม

“ฮ่า ฮ่า พวกเราเรียกว่า ‘งานเลือกคู่’ และนานๆครั้งถึงจะจัดขึ้นทีหนึ่ง แต่วันนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะว่าวันนี้พี่เอ้อหยาผู้งดงามที่สุดจะเลือกคู่ พี่หวูเฉิน ท่านจะไปดูไหม?” ผู้ที่กล่าวคำเป็นเด็กหนุ่มใบหน้าหยาบกระด้าง ร่างกายแข็งแรงกำยำ ชื่อของเขาคือ เฮยเซียง (หมีดำ) เช่นเดียวกับเหล่า “สัตว์ประหลาด” ทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ เขาดูขี้อายและไร้พิษภัยต่อมนุษย์และเหล่าสัตว์ ทว่าเขาแข็งแรงไร้ที่เปรียบ เขาสามารถดึงต้นไม้อายุร้อยปีได้ง่ายดายราวดึงหัวกระหล่ำปลี เพราะเขาเกิดมาพร้อมร่างกายที่แข็งแกร่งการฝึกทักษะไร้ชื่อนั้นยิ่งทำให้เขาแกร่งกล้า

“พี่หญิงเอ้อหยาเลือกคู่? ข้าจะพลาดชมได้อย่างไร ไปดูกันเถอะ” เย่หวูเฉินจูงหนิงเสวี่ยเดินตรงไปที่กลุ่มคนด้วยการประคองของเฮยเซียง เขาทักทายทุกคนด้วยความอบอุ่นตลอดเส้นทาง

ผู้คนเลือกนั่งตามอัธยาศัย ไม่มีการกำหนดตำแหน่งที่ตายตัว เฮยเซียงพาเย่หวูเฉินมานั่งในวงที่เขานั่งก่อนหน้า ส่วนกงลั่วกลับไปที่พ่อแม่ของตน เขาพบว่าในวงที่เขานั่งอยู่ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่า 30 ปี และกำลังตื่นเต้นกังวลอยู่เล็กน้อย

“เอ้านี่! อุ้งตีนหมีสุดพิเศษที่เก็บไว้ให้ท่าน และน้องหญิง นี่คือส่วนของเจ้า” เฮยเซียงยื่นเนื้อย่างสองชิ้นใหญ่มาให้เย่หวูเฉินกับหนิงเสวี่ย จากนั้นคว้ากระดูกชิ้นโตมาแทะต่อ มารยาทบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างงุ่มง่าม เย่หวูเฉินมองไปรอบๆและถาม “พี่หญิงเอ้อหยาเลือกสามีไม่ใช่หรือ? นางอยู่ที่ไหนล่ะ?”

เฮยเซียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านมาได้เวลาพอดี เดี๋ยวพี่เอ้อหยาก็ออกมาแล้ว”

เย่หวูเฉินพยักหน้าและค่อยๆดมกลิ่นอุ้งตีนหมีของจริงด้วยกันกับหนิงเสวี่ย ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เขากับหนิงเสวี่ยไม่เคยหิวโหยอีกเลย

“เอ้อหยา เอ้อหยาออกมาแล้ว”

หลังสิ้นเสียงตะโกน ผู้คนคึกคักขึ้นมาทันที ต่างส่งเสียงมีชีวิตชีวา เอ้อหยายืนอยู่หน้าประตูบ้านของตัวเอง นางเดินมาด้วยความกังวล ศีรษะน้อยๆก้มต่ำ มือสองข้างประสานกันแน่นอยู่ด้านหน้า ทันทีที่นางปรากฎตัว นางทำให้ผู้คนต้องตะลึงและส่งเสียงดังยิ่งขึ้น

หญิงสาวที่งามล้ำเลิศ ทุกสิ่งต้องสยบลงต่อหน้า นางสวมใส่ชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อน มีลายปักหงส์ ประดับด้วยเกล็ดหยกเล็กๆมากมาย รองเท้าตกแต่งด้วยหินล้ำค่าดูราวปทุมทอง นางสวมสร้อยไข่มุกที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ มันคือวัตถุหรูหราสิ่งเดียวที่มีอยู่ในโลกแห่งนี้ นางเผยผิวกายออกมาเพียงน้อยนิด ทว่าผิวทุกส่วนที่เผยออกมาล้วนขาวเนียนดุจน้ำนม กระจ่างใสราวกับจะเห็นถึงกระดูก ด้วยทรวงอกที่สั่นกระเพื่อม , เอวเพรียวบาง , ขาเรียวยาว และเรือนร่างที่งดงาม เพียงปราดตามองจากอกอิ่มถึงสะโพกกลมกลึง แล้วไล่สายตามองตามเอวอ้อนแอ้น แสงสว่างแทบจะวาบออกจากดวงตา

เอ้อหยาปรากฎกายราวตะวันฉายแสง นางยิ่งงามงดภายใต้ชุดสวย ไม่ว่าบุรุษหรือสตรีล้วนตกตะลึงในความงาม ต่างอุทานตามกันเป็นระลอกคลื่น

เอ้อหยาเคยชินกับการเป็นหญิงสาวที่อยู่ตามลำพัง เพียงสนใจแต่เรื่องของตัวเอง เป็นครั้งแรกที่นางกลายเป็นเป้าสายตาของผู้คน นางรู้สึกอับอายในใจ ทว่าความอายของนางกลับยิ่งเพิ่มเสน่ห์ นางเยื้องย่างแช่มช้าเหมือนนางฟ้าเคลื่อนกายบนคลื่นสมุทร แต่ละก้าวสั่นคลอนหัวใจของเหล่าชายหนุ่มให้คลั่งไคล้

ท่ามกลางเสียงเรียก ในที่สุดนางก็หยุดลง วันนี้นางได้รับบทเด่น ในโลกเล็กๆแห่งนี้นางคือสิ่งสวยงามที่สุด นางหยุดอยู่กลางเสียงอุทานชื่นชม เมื่อมองเห็นเย่หวูเฉินที่อยู่ตรงนั้น ดวงตาฉายแววยินดีระคนแปลกใจ นางหลับตาลง ขยับปากเอื้อนเสียง ลำคอเปล่งสำเนียง เป็นบทเพลงอันน่าอัศจรรย์

(………เสียงบทเพลง………)

ในชั่วขณะที่เสียงเพลงดังกังวาล เสียงอึกทึกโดยรอบพลันสงบ น้ำเสียงสดใสราวกับนกไนติงเกล เหมือนสายน้ำไหลเซาะเพราะพริ้ง ส่งเสนาะเป็นท่วงทำนอง บริสุทธิ์ผุดผ่องดุจสายรุ้งในละออง ล่องลอยลุ่มลึกด้วยความเสน่หา

เสียงร้องอ่อนหวาน ลมหายใจนุ่มอ่อน บทเพลงขับขานเป็นกวียิ่งใหญ่ ผู้คนได้ฟังประดุจอยู่ในวิมานแดนเทพ นางร้องบทเพลง ร่างกายร่ายรำ ชุดกระโปรงงามขยับพริ้วเล็กน้อย หยกระยับสะท้อนแสงวับไหว งดงามแทบหยุดลมหายใจ สองมือโบกเคลื่อนดั่งหยกสลัก ผิวกระจ่างนางฟ้าดูราวกับโปร่งแสง ร่ายขยับคล้ายคลื่นผืนแหน อ่อนแอเหมือนกิ่งหลิวต้องลม แต่งแต้มด้วยนิ้วมือหยกเรียว ปรากฎดั่งภาพหมอกฝัน ประดุจนางฟ้าที่ร่ายรำ เป็นแม่เหล็กดูดสายตาทุกผู้คนให้มองตรึง

สุ้มเสียงแห่งธรรมชาติเอื้อนทำนองออกจากปาก ไพเราะคลุมเครือเหมือนมวลเมฆ ล่องลอยเหมือนสายน้ำ เต้นย้ายเคลื่อนร่างสง่างาม ไม่ว่าจะเป็นผู้ชราหรือเยาว์วัย ต้องจ้องมองอย่างงมงาย ในที่สุดวันนี้ สตรีผู้งามล้ำเลิศก็เผยความงามแท้จริงต่อหน้าผู้คน ความงามของนางมีไว้เพียงเพื่อพิชิตผู้คน

เมื่อบทเพลงอัศจรรย์และการร่ายรำยอดเยี่ยมจบลง ผู้คนยังคงจ่อมจมและลุ่มหลง ยังไม่อาจตื่นขึ้นจากฝันภวังค์ เอ้อหยาใบหน้าเรื่อแดง ดวงตางดงามลอบมองเย่หวูเฉิน ปราดตามองรวดเร็วจนไม่มีผู้ใดสังเกตทัน ในความสงบเงียบยาวนาน เสียงตะโกนกึกก้องได้ทำลายความเงียบลง เสียงชื่นชมสนั่นหวั่นไหวปานแผ่นดินจะถล่ม ผู้คนทุ่มเทเรี่ยวแรงเปล่งเสียงยกย่อง กงลั่วและซื่อหยาต่างส่งเสียงอึกทึกครึกโครม ใบหน้าประหลาดใจ นั่นคือพี่สาวของทั้งสอง แต่วันนี้พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“เอ้อหยา รับไว้” พ่อของเอ้อหยาหัวเราะ เขาหยิบพวกมาลัยดอกไม้สีแดงขึ้น แล้วโยนลอยโค้งอยู่กลางอากาศ เมื่อมันตกลงมา มันสวมลงบนคอขาวกระจ่างของเอ้อหยาพอดิบพอดี เวลานี้เสียงยิ่งดังเร่าร้อน ทุกสายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของเอ้อหยา

“ท่านพี่ วันนี้พี่หญิงเอ้อหยาสวยจริงๆ” หนิงเสวี่ยอยู่ข้างกายของเย่หวูเฉิน นางกล่าวขณะตื่นเต้น แววตาคู่นั้นเปล่งประกายดุจดารา วันนี้ เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินเสียงร้องที่ไพเราะอัศจรรย์ รวมทั้งเป็นครั้งแรกที่ได้ดูการร่ายรำอัศจรรย์เพียงนี้

เย่หวูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย มองไปที่เอ้อหยาด้วยรอยยิ้ม รอคอยกับตัวเลือกของนาง เมื่อเอ้อหยามองมา เขาก็พอคาดการณ์ได้ว่า ผู้ที่นางจะเลือกย่อมนั่งอยู่ในวงนี้อย่างแน่นอน

ทุกกลุ่มล้วนนั่งล้อมวงได้ตามอัธยาศัย แต่ละวงมีจำนวนเท่าๆกัน มีเพียงวงที่เขานั่งอยู่ซึ่งมีจำนวนคนมากกว่าทุกวง ยิ่งกว่านั้นทั้งหมดยังเป็นชายหนุ่ม ดูเหมือนจะเป็นประเพณีในโลกเล็กๆแห่งนี้ เมื่อสตรีถึงคราวเลือกสามี บุรุษที่ชมชอบนางจะมานั่งล้อมวง รอคอยให้นางเลือก และนางจะเลือกได้เฉพาะบุรุษที่นั่งอยู่ในวงนี้เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นบุรุษที่นางชอบพอ และบุรุษนั้นย่อมไม่ปฏิเสธการเลือกของสตรี ด้วยวิธีนี้จึงสามารถหลีกเลี่ยงความอึดอัดได้สมบูรณ์

เย่หวูเฉินนั่งอยู่ มองดูด้วยใจรื่นรมณ์ ทว่าเมื่อสบตาเข้ากับเอ้อหยา เขาพลันรู้สึกใจอยู่ไม่สุข ด้วยการกระทำเอาแต่ใจชั่ววูบมาตลอดหลายวัน ความรู้สึกพลันแผ่ขยายออก ทำให้เขาไม่อาจสงบใจลงอยู่ชั่วขณะ

“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?” ความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของเย่หวูเฉินทำให้หนิงเสวี่ยรู้สึกได้ในทันที นางหันมามองและถามอย่างงุนงง

“ท่าไม่ดีแล้ว….” เย่หวูเฉินกล่าวเสียงต่ำน่ากลัว

ทิศทางที่เอ้อหยาเดินมา คือทิศที่เขานั่งอยู่ เหล่าชายหนุ่มสายตาจดจ้องที่ร่างของนาง ส่งความรักผ่านทางแววตา รอคอยอย่างตื่นเต้นและกดดัน ทว่าเย่หวูเฉินจะถอนตัวตอนนี้ล้วนไม่ทันแล้ว มิเช่นนั้นด้วยสายตาประชาชีที่มองมา ย่อมทำลายหน้าตาของเอ้อหยาย่อยยับ เป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ ยิ่งเอ้อหยาเข้ามาใกล้ ฝีเท้านางยิ่งหนักหน่วง ทว่าคนที่กระวนกระวายยิ่งกว่านาง คือซื่อหยาที่นั่งอยู่กับมารดา หัวใจนางแทบเต้นกระโดดออกมา

ในที่สุด เอ้อหยาก็หยุดอยู่ตรงหน้าของเย่หวูเฉิน ขัดขืนต่อความอาย คล้องมาลัยลงบนคอของเขา ไม่กล้ามองท่าทีตอบสนอง นางหันกายแล้ววิ่งจากไป วิ่งหนีรวดเร็วยิ่งจนเงาลับไป นางคงกลับเข้าบ้านและซ่อนอยู่ในห้องของนาง

เสียงดังสุดกู่ระเบิดขึ้นทันที ทุกสายตามองมาที่ร่างเขา เย่หวูเฉินหัวเราะอย่างสิ้นหนทาง ความรู้สึกผสมปนเปอยู่ในใจ บางสิ่งที่เขาควรรู้อยู่แล้วแต่กลับปฏิเสธมัน ก่อนที่เอ้อหยาจะออกมา เย่หวูเฉินไม่คิดว่านางจะเลือกเขา เอ้อหยาอายุ 25 ปี ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาตลอด 25 ปี เพื่อนพ้องในวัยเด็กต่างมีมากมาย ย่อมมีคนที่นางชมชอบ ทั้งเขาเพียงมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน ทั้งร่างกายยังอ่อนแอ จะเดินเองก็ยังทำไม่ได้ กล่าวได้ว่าที่แห่งนี้เขาคือคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุด ไหนเลยนางจะเลือกเขา….

ความคิดของสตรี ยากแท้หยั่งถึง

ทว่าสิ่งต่างๆย่อมไม่เกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล

เฮยเซียงปรบมือและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่หวูเฉินยอดเยี่ยมยิ่งนัก มาถึงที่นี่ได้เพียงไม่กี่วัน ก็คว้าหัวใจพี่เอ้อหยาของพวกเราได้แล้ว”

ทว่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในวงนี้ กลับเข้ามากล่าวคำอบอุ่นว่า “ยินดีด้วย” หรือ “ดูแลเอ้อหยาให้ดี” หรืออื่นๆ ชายหนุ่มเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่ชมชอบเอ้อหยา เมื่อเอ้อหยาเลือกแล้วพวกเขาไร้ความโกรธเคืองเหมือนเช่นผู้คนในโลกภายนอก ไม่มีความเกลียดชังหรือคิดแย่งชิง มีแต่การอวยพรด้วยความเสียใจ และไม่มีใครเอ่ยปากว่าเป็นการเลือกที่ไม่เหมาะสม ต่างล้วนเคารพความปรารถนาของกันและกัน

Facebook Twitter Telegram Pinterest
Heavenly Star สวรรค์มวลดาว (จบ)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เด็กหนุ่มลึกลับผู้ลืมเลือนอดีต ตื่นขึ้นมาในทวีปเทียนเฉิน ถูกเข้าใจว่าเป็นบุตรชายตระกูลเย่ เขาจึงใช้สถานะนี้เฝ้าสังเกตโลกอันยุ่งเหยิง รวมทั้งสืบหาอดีตของตน หากแต่โชคชะตาที่ต้องประสบกลับมีเพียงความน่าหวั่นสะพรึง เขาจึงหัวเราะเยาะโชคชะตา และเผยพลังสะท้านแดนดินใต้ผืนสวรรค์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset