📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยาย Heavenly Star สวรรค์มวลดาว – เล่ม 2 ตอนที่ 113

บทที่ 113 - ทงซิน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เขาเชื่อคำพูดของหนานเอ๋อร์ สตรีเทพพิโรธผู้นี้สมควรไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นผู้ที่มาจากทวีปเทวะ จากตำนานที่กล่าวไว้ นางปรากฎตัวออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทุกแห่งหนที่นางผ่านอาบชะโลมไปด้วยเลือด นางสังหารผู้คนโดยไร้ความเมตตา พลังน่าหวาดหวั่นของนางผสานระหว่างธาตุมรณะและธาตุทมิฬ นางมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่กินหรือดื่มตลอดเวลา 20 ปี และพลังของนางไม่ลดน้อยเสื่อมถอยลงเลย สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนพิสูจน์ว่านางไม่ใช่มนุษย์

จากที่หนานเอ๋อร์กล่าว หากสิ่งมีชีวิตจากทวีปเทวะมายังทวีปเทียนเฉิน พวกเขาจะต้องทุกข์ทรมานเพราะคำสาปที่โหดเหี้ยม หากนางคือเทพจริงๆ ความกระหายเลือดและความอำมหิตของนางคือคำสาปอย่างหนึ่งที่นางต้องเผชิญใช่หรือไม่?

เป็นไปได้อย่างยิ่ง!

แท้จริงแล้วเหล่าทวยเทพแห่งโลกใบนี้มีหน้าตาเป็นเช่นไร? พวกเขาจะมีลักษณะเช่นเดียวกับมนุษย์แห่งทวีปเทียนเฉินหรือไม่? หรือพวกเขาจะมีลักษณะแบบที่ฉู่จิงเทียนเคยบรรยาย “ดุร้ายปากกว้าง” แววตาของเย่หวูเฉินเต็มไปด้วยความคาดหวัง มีชาวทวีปเทียนเฉินจำนวนน้อยที่ไม่เคยได้ยินตำนานสตรีเทพพิโรธ นอกจากเทพทั้งสี่ที่เป็นผู้ผนึกนาง ก็ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางมีลักษณะอย่างไร ทุกคนที่เคยเห็นนางต่างก็สิ้นชีวิตไปจนหมด ถูกนางสังหารด้วยดวงตา “สตรีเทพพิโรธ” เป็นนามที่เทพทั้งสี่ตั้งให้ เนื่องจากอาวุธที่นางใช้มีชื่อว่า “เทพพิโรธ” เทพทั้งสี่ต่างตกลงเห็นพ้องกัน และพวกเขาไม่เปิดเผยว่าสตรีเทพพิโรธนั้นมีลักษณะอย่างไร

เฟี้ยว!

เศษโซ่ตรวนปีศาจปลิวกระจายลอยหวือในคราเดียว เงาร่างสีดำปราณีตค่อยๆลอยขึ้นไปกลางอากาศ

สายตาของเย่หวูเฉินตามติดการเคลื่อนไหว มองขึ้นไปข้างบน สิ่งที่เห็นทำให้เขาต้องสั่นสะท้านรุนแรงอย่างแทบไม่เชื่อสายตา

สตรีเทพพิโรธแท้จริงแล้วกลับเป็น….

สาวน้อยที่งดงามอย่างสุดขีด อายุไม่เกิน 12-13 ปี!

นางงดงามอย่างยิ่ง , ทรงเสน่ห์อย่างยิ่ง , กระชากวิญญาณอย่างยิ่ง จนคนไม่กล้ามองนางโดยตรง เพียงเมื่อพบนางจึงเชื่อปักใจว่าสาวน้อยผู้นี้สามารถปลดปล่อยเสน่ห์กระชากวิญญาณได้อย่างคาดไม่ถึง

ผมยาวดำขลับของนางราวกับม่านรัตติกาล พริ้วไหวไร้สายลมยามที่นางลอยอยู่กลางอากาศ เส้นผมสัมผัสไล้ใบหน้าหยกขาวที่งามเหนือล้ำ ทุกอย่างผสานกันจนทำให้ความงามยิ่งเหนือจินตนาการ กระทั่งเย่หวูเฉินยัง
ตะลึงกับความงามพรากวิญญาณ ดวงตาของนางดำขลับผิดธรรมดา ทอประกายแสงดำบางเบา ดวงตาที่จับจ้องมายังเขา เป็นแววตาที่มีความสุข , รักใคร่ และตื่นเต้น มุมปากของนางยกขึ้น เผยรอยยิ้มแสนเสน่ห์จริงใจ ราวกับสาวน้อยเจอสิ่งที่รอคอยมานาน ของเล่นที่ชื่นชอบมากที่สุด

ร่างของนางอยู่ในชุดสีดำขลับ พริ้วไหวไร้สายลมขณะที่นางค่อยๆลอยลงมา ชุดพริ้วเผยให้เห็นขาขาวหิมะบอบบาง ไร้ตำหนิมลทิน เท้าคู่นั้นราวกับบัวน้ำแข็งชี้ลงพื้น แต่ละนิ้วเป็นประกายวาววับราวกับหยกสลัก

โหดเหี้ยม , ไร้หัวใจ และกระหายเลือด สตรีเทพพิโรธที่สร้างพิรุณฝนเลือดบนทวีปเทียนเฉิน? เย่หวูเฉินทบทวนถ้อยคำเหล่านี้ซ้ำๆอยู่ข้างใน แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างหนักเพียงไหน เขาก็ไม่สามารถข้ามผ่านความรู้สึกขัดแย้งในจิตใจ

ในที่สุดเขาก็เข้าใจ ว่าเหตุใดยอดฝีมือขอบเขตเทวะสี่คนนั้นถึงต้องปกปิดลักษณะหน้าตาของสตรีเทพพิโรธ… ใครเล่าจะเชื่อว่าสาวน้อยที่งามล้ำเลิศขนาดนี้จะเป็นปีศาจ

ไม่สิ… นางถูกผนึกอยู่ในที่แห่งนี้มานานกว่า 20 ปี แม้ว่านางจะดูคล้ายอายุราว 12-13ปี แต่อายุที่แท้จริงย่อมไม่ใช่เพียงเท่านี้

นี่ยิ่งแสดงให้เห็นว่านางไม่ใช่มนุษย์!

เท้าบัวน้ำแข็งในที่สุดก็สัมผัสพื้น จากนั้นนางเดินเคลื่อนร่างตรงมาหาเย่หวูเฉิน ดูคล้ายกับนางอายุมากกว่าหนิงเสวี่ยเพียงไม่กี่ปี ร่างกายนางคล้ายกับหนิงเสวี่ยอย่างมาก บอบบางปราณีต นางสูงกว่าเล็กน้อย ถูกผนึกไว้นานกว่า 20 ปี แต่ร่างกายนางไร้ซึ่งเศษฝุ่นละออง ทั้งยังสะอาดหมดจด

นางเดินมาอยู่เบื้องหน้าของเย่หวูเฉิน จากนั้นพิงชิดกับร่างของเขา ศีรษะของนางถูไถบนอกของเขา อ่อนโยนราวกับแมวขี้เซา นางดมกลิ่นฟุดฟิดบนอกของเย่หวูเฉิน จากนั้นใช้มือขาวค่อยๆเปิดชุดออก แล้วใช้ลิ้นเลียรอยเลือดตรงจุดที่เคยเป็นแผลจนสะอาดเอี่ยม

ความรู้สึกวาบหวามผ่านบนอก สติของเย่หวูเฉินกระเจิดกระเจิง เขายังคงไม่อาจยอมรับได้ว่านางคือสตรีเทพพิโรธผู้น่าหวาดหวั่นในตำนาน

“เจ้าชื่ออะไร?” เย่หวูเฉินโน้มลงและเชยใบหน้านางให้มองขึ้นมา ขนตาไหวสั่นเล็กน้อย ดวงตาแก้วหมอกฉายแววเสน่หา

“เจ้าชื่ออะไร?” เย่หวูเฉินถามอีกครั้ง

สาวน้อยกระพริบตาปริบ หลังจากสับสนชั่วครู่นางจึงเข้าใจว่าเขาถามอะไร

นางยกมือขวาขึ้นช้าๆ ในมือนั้นถือกริชเล่มสั้น ความยาวของกริชน้อยกว่า 10 เซนฯ แต่ก็ยาวพอให้นางจับในมือ ครึ่งหนึ่งของกริชเป็นสีแดงราวกับเลือด เย่หวูเฉินสามารถได้กลิ่นคาวเลือดรุนแรงจากพื้นผิวของมัน

บนกริชเล่มนั้นสลักอักษรขนาดเล็กแต่สะดุดตาไว้ว่า ‘เทพพิโรธ’

“เทพพิโรธ… เป็นชื่อของเจ้าหรือ?” เย่หวูเฉินถาม

สาวน้อยพยักหน้า สายตายังคงมองเขาราวกำลังเมามาย จนถึงตอนนี้นางยังไม่เอ่ยสักคำ กระทั่งยังไม่ส่งสุ้มเสียงใดๆ

เย่หวูเฉินส่ายศีรษะ ขณะที่ลูบนิ้วมือบนใบหน้าไร้ตำหนิของนางอย่างอ่อนโยน “ข้าไม่ชอบชื่อนี้ มันไม่เหมาะกับเจ้า…”

มองดวงตาที่เปล่งประกาย , ดำขลับ , บริสุทธิ์ และกระจ่างชัด เย่หวูเฉินค่อยๆกล่าว “ต่อไปนี้ชื่อของเจ้าคือ….”

“ทงซิน”

สาวน้อยนางนี้สูญเสียความเป็นตัวตนเพราะคำสาป เทพธิดาผู้ไม่อาจกล่าววาจา ตอนนี้นางมีชื่อใหม่ เส้นทางชีวิตใหม่ ทุกๆอย่างจะเปลี่ยนไปนับจากเวลานี้

ด้านนอกหอคอยปีศาจ

เถาไปไปกำลังต่อสู้ดุเดือดกับสตรีทั้งสี่ ฟงและเยว่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่พวกนางเมินเฉยต่อเลือดที่พรั่งพรูออกจากบาดแผล และต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต ขอบเขตวิญญาณของพวกนางต่างกันเพียงหนึ่งช่วงชั้นกับเถาไปไป แต่หนึ่งระดับนั้นนับว่าต่างกันอย่างสุดกู่ รับมือกับผู้มีพลังขอบเขตสวรรค์ชั้นกลาง ผู้ที่ผ่านเส้นความเป็นตายมานับครั้งไม่ถ้วน จู่โจมเป็นขบวนใส่มือสังหารอันดับหนึ่งผู้มีประสบการณ์โชกโชน หากพวกนางไม่ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่หลายปีจนเข้าใจกัน พวกนางคงพ่ายแพ้ลงไปนานแล้ว และหากหนึ่งในพวกนางพ่ายลง คนที่เหลือย่อมไม่อาจรักษารูปขบวน

ในหมู่คนทั้งห้า ไม่มีผู้ใดคิดหลบหนี เถาไปไปจำต้องสังหารพวกนาง ในขณะที่สี่สตรีต้องการฟาดฟันจนกว่าเขาจะตกตาย

ในเวลานี้เอง พวกเขาได้ยินเสียงประตูศิลาถูกพลักออก เสียงไม่ได้ดังมากแต่สำหรับพวกเขาทั้งห้าคน มันราวกับเสียงสายฟ้าฟาด พวกเขาต่างหยุดมือราวกับนัดกันมา สายตาตกตะลึงจ้องมองที่ประตูหอคอยปีศาจ

เมื่อเย่หวูเฉินพาทงซินออกจากหอคอยปีศาจ เขารู้สึกว่าท้องฟ้ามืดครึ้มลง มองขึ้นไปจึงพบว่าเวลานี้มีกลุ่มเมฆบดบังดวงตะวัน

ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเงามืด

เถาไปไปและสตรีทั้งสี่เห็นเย่หวูเฉินปลอดภัยไร้กังวล ทั้งยังเห็นทงซินที่อยู่ข้างๆ ต่างจากเย่หวูเฉินที่เห็นเฉพาะเพียงความงามของนาง พวกเขาสัมผัสถึงอันตรายพุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งจิตใจ… ความรู้สึกถึงวิกฤตการร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดมา

พวกเขาเห็นดรุณีน้อยในชุดสีดำกำลังแย้มยิ้ม นางเผยฟันขาวไร้ตำหนิแต่ขณะเดียวกัน บรรยากาศกดดันจนพวกเขายากจะหายใจ พวกเขากระทั่งสามารถได้กลิ่นคาวเลือด

นักฆ่าผู้ยิ่งใหญ่ เถาไปไปตกตะลึงอย่างสุดขีด นี่เป็นจิตสังหารกระหายเลือดที่รุนแรงกว่าเขานับร้อยนับพันเท่า เขาเชื่อหมดใจว่าผู้ที่ปลดปล่อยจิตสังหารขนาดนี้ได้ ย่อมสามารถสังหารผู้คนได้โดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม

ดวงตาของทงซินฉายแววตื่นเต้นแปลกประหลาด มุมปากของนางยกขึ้นเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอำมหิต

นางปีศาจต้องอดทนต่อความอยากกระหายเลือดมาจนถึงวันนี้ วันที่นางเป็นอิสระจากพันธนาการ

นางเคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่คนธรรมดาไม่อาจเข้าใจ เย่หวูเฉินเห็นเพียงประกายดำไหววับที่ยากจะเห็นด้วยสายตา

กลิ่นคาวเลือดและเงามรณะเข้ามาใกล้ เถาไปไปใช้ความเร็วสูงสุดล่าถอย ขณะเดียวกันเขาเกร็งกำลังเผชิญหน้ากับเงาทมิฬแล้วฟาดฟันด้วยกระบี่อย่างรุนแรง

ฉับ!

เงาดำพุ่งผ่านไป และลำคอของเถาไปไปมีเลือดพุ่งกระจาย ศีรษะของเขาขาดออกจากลำตัวและปลิวขึ้นท้องฟ้า สิ่งสุดท้ายที่เถาไปไปเห็นในชีวิต คือร่างไร้ศีรษะของตนที่ล้มลงพื้น

จุดจบของมือสังหารอันดับหนึ่งเถาไปไป เขายังไม่ทันได้เผชิญหน้า ‘ตาต่อตา’ กับสตรีเทพพิโรธ แววตาของเขาเต็มด้วยความหวาดกลัว นาทีสุดท้ายของชีวิตคือชั่วขณะที่หวาดกลัวที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา

ศีรษะของเถาไปไปร่วงลงแทบเท้าของทงซิน โลหิตทำให้ดวงตานางทอประกายสีเลือด นางเหยียบลงบนศีรษะ แล้วย่ำลงด้วยเท้าเปล่า

ศีรษะแตกกระจายขณะที่นางแย้มยิ้ม เป็นรอยยิ้มบริสุทธิ์อันไร้ที่เปรียบ แต่ในสายตาของสี่สตรี ฟง , ฮั่ว , เสวี่ย และเยว่ นั่นคือรอยยิ้มปีศาจอย่างไม่ต้องสงสัย

เย่หวูเฉินเบือนศีรษะหนี ใบหน้าซีดขาว ท้องไส้ปั่นป่วน เกิดความรู้สึกคลื่นไส้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่เคยสังหารผู้คน ไม่เคยเห็นแม้กระทั่งการฆ่าฟัน เขาจะรับมือกับฉากเลือดสาดแบบนี้ได้อย่างไร?

“สตรี….สตรีเทพพิโรธ……” ฟงก้าวถอยหลัง ตัวสั่นด้วยความกลัว เสียงของนางสั่นพร่าและยากที่จะได้ยิน

เมื่อสิ่งที่ถูกผนึกอยู่ในหอคอยปีศาจก้าวออกมา ความเหี้ยมโหดกระหายเลือดและความแข็งแกร่งนั้น ทำให้เถาไปไปไร้พลังต้านทาน… แม้นางอยากจะปฏิเสธแต่ในใจยืนยันแล้วว่า นั่นคือตำนาน สตรีเทพพิโรธผู้น่ากลัวยิ่งกว่าเทพมาร

ตอบสนองต่อคำพูดของนาง เงาทมิฬวาบผ่านเกิดเส้นแสงสีแดง

ในชั่วพริบตา เสียงของฟงขาดหาย ร่างของนางปรากฎรอยเส้นแดง เริ่มจากศีรษะเบื้องบน เส้นสีแดงแยกร่างของนางออกเป็นสองซีก

Facebook Twitter Telegram Pinterest
Heavenly Star สวรรค์มวลดาว (จบ)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Completed ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เด็กหนุ่มลึกลับผู้ลืมเลือนอดีต ตื่นขึ้นมาในทวีปเทียนเฉิน ถูกเข้าใจว่าเป็นบุตรชายตระกูลเย่ เขาจึงใช้สถานะนี้เฝ้าสังเกตโลกอันยุ่งเหยิง รวมทั้งสืบหาอดีตของตน หากแต่โชคชะตาที่ต้องประสบกลับมีเพียงความน่าหวั่นสะพรึง เขาจึงหัวเราะเยาะโชคชะตา และเผยพลังสะท้านแดนดินใต้ผืนสวรรค์.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset