📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 90

บทที่ 90 - สัญญาด้วยตำแหน่งราชครู
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เช้าวันรุ่งขึ้น

เมื่อซูอี้ตื่นจากการทำสมาธิ เขาพบว่าเรือโดยสารได้ออกแล่นต่ออีกครั้ง ทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบ

แต่ครั้งเดินออกจากห้องและมาถึงชั้นแรกของศาลา แลเห็นหยวนลั่วซีและคนอื่นรออยู่ก่อนแล้ว

นอกจากนี้ ยังตระเตรียมอาหารเช้ารสเลิศเอาไว้รอท่าอีกด้วย

“คุณชายซู ข้ารอท่านลงมาทานอาหารเช้าร่วมกัน”

หยวนลั่วซีกล่าวออกเชิญชวน

ดวงตาคู่งามเปล่งประกายสดใสราวกับแสงอรุณสะท้อนสายน้ำ ถ้อยคำกันเองดูสนิทสนม

ซูอี้แลเห็นการเปลี่ยนแปลงอันละเอียดอ่อนนี้ในสายตา เผยรอยยิ้มออกมาและนั่งลงตามความประสงค์ กล่าวตอบว่า “มาทานอาหารด้วยกัน”

หยวนลั่วซี เฉิงอู้หย่ง หวงเฉียนจวิน และคนอื่นนั่งลงทีละคน

ขณะรับประทานอาหาร เฉิงอู้หย่งไอออกมากะทันหัน

ซูอี้เลิกคิ้วเอ่ยถาม “เมื่อคืนนี้เจ้าบาดเจ็บหรือ?”

เฉิงอู้หย่งยิ้มตอบ “เรียนคุณชายซู แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ใช่ปัญหาใหญ่”

หวงเฉียนจวินอดไม่ได้ที่จะกล่าวออก “พี่ซู เมื่อคืนผู้อาวุโสเฉิงไล่ตามคนร้ายที่ดูแคลนท่านตลอดทาง กระทั่งได้รับบาดเจ็บหลังพยายามอย่างยิ่งยวด”

ซูอี้ตกตะลึงครู่หนึ่ง ก่อนหวนนึกบางอย่างได้และกล่าวคำว่า “คนที่บอกว่าจะตัดหัวข้าด้วยดาบเดียวนั่นใช่หรือไม่?”

ภาพของชายวัยกลางคนผู้นำกลุ่มคนชุดดำปรากฏขึ้นในใจ

หวงเฉียนจวินยิ้มตอบ “ถูกแล้ว หัวของชายผู้นั้นถูกผู้อาวุโสเฉิงสะบั้นลงเรียบร้อย”

“ช่างมีน้ำใจ” ซูอี้หันมองเฉิงอู้หย่งอย่างอดไม่ได้

เฉิงอู้หย่งรีบพูดขึ้น “คุณชายซูอย่าได้สุภาพ นี่คือสิ่งที่เฉิงสมควรทำ”

ในเวลานี้ เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านนอกศาลา

“ผู้อาวุโสเฉิง คุณชายซูตื่นแล้วหรือ?”

“เป็นจางอี้เหรินที่มา”

เฉิงอู้หย่งกระซิบบอก “คุณชายซู เขารู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้ว หากข้าเดาถูก เขาคงต้องการขอบคุณ”

หลังจากพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นออกไปต้อนรับอีกฝ่าย

ซูอี้ยังคงรับประทานอาหารอยู่กับที่ กล่าวคำเพื่อสั่งหยวนลั่วซี “บอกข้าทีว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้”

ถ้อยคำเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ

หยวนลั่วซีวางถ้วยและตะเกียบลงทันที บอกกล่าวเรื่องราวที่เกิดถัดไปหลังจากซูอี้กลับศาลาเมื่อคืนด้วยเสียงใสกังวาน

รับชมฉากนี้ หวงเฉียนจวินพลันรู้สึกชื่นชมชั่วขณะหนึ่ง

ไข่มุกแห่งตระกูลหยวนผู้งามสง่า คุณหนูผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในมหานครอวิ๋นเหอ ถูกพี่ซูกล่าวคำสั่งราวกับสาวใช้ ใครจะกล้าเชื่อเรื่องนี้?

หยวนลั่วซีผู้ดื้อรั้นและหยิ่งยโส กล้าเมินเฉยและเผยความรำคาญต่อทายาทตระกูลจางอย่างจางเยวี่ยนซิง ทว่าต่อหน้าพี่ซู นางกลับดูเชื่อฟังอย่างยิ่ง

ดูจากสีหน้าของนางขณะนี้ นางดูมีความสุขล้นเหลือ…

ในฐานะคุณชายผู้เที่ยวเสเพลในหอนางโลมมาหลายปี หวงเฉียนจวินจะมองไม่ออกได้อย่างไร หากซูอี้คิดสนใจอีกฝ่ายในเวลานี้ หยวนลั่วซีคงไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือ

ตอนนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะนึกชื่นชมว่าซูอี้น่าทึ่งเพียงใด

หากพี่ซูคิดสนใจดื่มด่ำกับบุปผางาม แม้แต่นางฟ้านางสวรรค์ก็อาจอยู่ในอ้อมแขนเขาใช่หรือไม่?

เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา ขัดจังหวะความคิดอันวุ่นวายของหวงเฉียนจวิน

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง พบเห็นจางอี้เหรินผู้เด็ดเดี่ยวเดินมาพร้อมกับเฉิงอู้หย่ง

“คุณชายซูไม่จำเป็นต้องลุกขึ้น จางผู้นี้มาเพื่อแสดงความขอบคุณเท่านั้น แล้วจะจากไปทันที”

แลเห็นซูอี้กำลังลุกขึ้น จางอี้เหรินรีบประสานมือกล่าวถ้อยทันใด

จากนั้น ด้วยมือที่ทั้งสองที่ยังคงประสานกันระดับหน้าอก เขาโค้งคำนับซูอี้ด้วยท่าทีเคร่งขรึม

ตามดังที่พูด เขากระทำอย่างตรงไปตรงมา พูดคุยทักทายซูอี้อีกเล็กน้อยก่อนขอตัวจากไป

แต่เฉิงอู้หย่งที่รับชมรู้สึกซาบซึ้ง ถ้อยคำกล่าวออกแฝงอารมณ์ “คุณชายซู วิธีการที่จางอี้เหรินคำนับเมื่อครู่ ถือเป็นมารยาทสูงสุดแห่งกองทัพเกราะเขียวภายใต้ท่านโหวยุทธ์วิญญาณ ซึ่งหมายถึง บุญคุณที่ท่านมีต่อเขานั้นยิ่งใหญ่ไม่อาจทดแทน จักสลักไว้ในดวงวิญญาณ คล้องสวมดั่งบ่วงแหวน ติดตรึงชีวิตแม้ยามความตาย!”

ซูอี้ประหลาดใจ ก่อนพยักหน้ารับตอบกลับ “บุรุษเช่นนี้ สมควรแก่การยกย่อง”

ก่อนจางอี้เหรินจากไป เขาได้มอบของขวัญมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นสุราวิญญาณ

ชื่อของมันคือ ‘ทางลมเหมันต์’ ซึ่งบ่มขึ้นโดยโหวยุทธ์วิญญาณเฉินเจิ้ง

ใช้สมุนไพรวิญญาณสิบหกชนิด บ่มรวมกับโลหิตของสัตว์ปีศาจระดับสี่ จากนั้นฝังไว้ใต้ชั้นน้ำแข็งเพื่อดูดซับความหนาวเย็น

พลังวิญญาณและพลังโลหิตอันพลุ่งพล่านในเหล้านี้ เหนือกว่าโอสถวิญญาณระดับสองทั่วไปอย่างมากโข

คุณค่าของเหล้าไหนี้เหลือคณานับ…

‘ทางลมเหมันต์ แม้มีลมแรงและหิมะตกหนัก แต่ยังคงเดินหน้าต่อไป เป็นชื่อที่ไม่เลว’ ซูอี้ลอบกล่าวในใจ

การมอบของขวัญล้ำค่าดังกล่าว ยังแสดงให้เห็นว่าหัวใจจางอี้เหรินรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณมากมายเพียงใด

เขาเปิดจุกไห เทเหล้าลงหนึ่งจอก พบเห็นน้ำสีแดงใสราวกับน้ำอัญมณี ขณะที่กลิ่นของสุรานั้นฉุนรุนแรงตลบอบอวล

“ในเมื่อตัดหัวศัตรูแก่ข้า ดังนั้นจึงขอถือโอกาสนี้มอบหนึ่งจอกเพื่อเป็นการตอบแทน”

ซูอี้หยิบจอกยื่นให้เฉิงอู้หย่งด้านข้างɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ

เฉิงอู้หย่งรีบยกมือขึ้นรับ กล่าวถ้อยคำออกว่า “ขอบคุณคุณชายซูสำหรับจอกนี้!”

“ไม่ต้องมากพิธี อันที่จริง เหล้านี้จะส่งผลดีต่ออาการบาดเจ็บของเจ้าด้วย” ซูอี้พูดอย่างไม่ใส่ใจ

ครั้งเห็นหยวนลั่วซีและหวงเฉียนจวินมองตรงมาด้วยท่าทีตื่นเต้น ซูอี้อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้พลางกล่าวว่า “เหล้านี้มีฤทธิ์แรง หากให้ดื่มตอนนี้ ทั้งวันพวกเจ้าคงไม่ได้ออกไปไหนเพราะต้องย่อยสลายฤทธิ์ของมันและดูดซับพลังที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นเอาไว้ตอนเย็นเราค่อยมาดื่มด้วยกัน”

หยวนลั่วซีและหวงเฉียนจวินยิ้มรับอย่างเห็นด้วย

ไม่นานหลังจากนั้น ชายหนุ่มชุดคลุมม่วง และชิงจินก็มาถึงพร้อมกัน

“คุณชายซู ต้องขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือเมื่อคืนนี้ ในฐานะที่ท่านช่วยข้าแก้ไขวิกฤตครั้งใหญ่ ข้าจึงขอมอบของขวัญเล็กน้อยนี้เป็นการตอบแทนคุณ หวังว่าท่านจะยอมรับมันไว้”

ทันทีที่เข้ามายังประตู ชายหนุ่มชุดคลุมม่วงยื่นของขวัญที่ถืออยู่พร้อมกล่าวทักทายด้วยความเคารพ

เมื่อเห็นว่าซูอี้ไม่ปฏิเสธ หวงเฉียนจวินก็ลุกขึ้นไปรับกล่องของขวัญมาอย่างรู้ความ

เฉิงอู้หย่งยิ้ม ก่อนเชิญชายหนุ่มชุดคลุมม่วงและชิงจินให้นั่งลง

เมื่อเผชิญหน้ากับองค์ชายแห่งต้าโจว แม้แต่ตัวเขาหรือหยวนลั่วซีก็ต้องสงวนท่าที

แต่ดูเหมือนซูอี้จะไม่ได้ใส่ใจ เขานั่งอยู่ที่เดิมด้วยท่าทางสง่างาม ถ้อยคำกล่าวออก “เรื่องราวได้รับการตรวจสอบแล้วหรือยัง?”

“กล่าวตามตรง หลังจากการตรวจสอบเมื่อคืนนี้ พบว่าผู้ลอบสังหารล้วนมาจากกลุ่มชื่อว่า ‘พันธมิตรดาราอสูร’ นั่นเอง”

ชายหนุ่มชุดคลุมม่วงครุ่นคิดและกล่าวออก “พวกมันคือกองกำลังใต้ดินที่ซ่อนตัวอยู่ในอาณาจักรโจวของเรา เหล่ายอดฝีมือในพันธมิตรนี้ล้วนเป็นตัวตนที่ชั่วร้าย”

“เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน พวกเขาได้รับการว่าจ้างจากใครบางคน โดยนายจ้างผู้นั้นสัญญาว่าจะมอบทองคำหนึ่งหมื่นชั่ง สมุนไพรวิญญาณหนึ่งร้อยชนิด คัมภีร์เคล็ดวิชาลับสิบเล่ม และวิธีการบ่มเพาะ…”

เมื่อเห็นว่าเขากำลังพูดนอกประเด็น ซูอี้จึงขัดจังหวะ “ใครเป็นนายจ้าง?”

ชายหนุ่มชุดคลุมม่วงแสดงท่าทีอับอายในทันใด “พวกโจรชั่วเหล่านั้นเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร พวกเขาติดต่อกันอย่างลับ ๆ ผ่านพ่อค้าคนกลาง”

ซูอี้คาดการณ์ไว้แล้ว จึงไม่แปลกใจพลางกล่าวคำว่า “แล้วเจ้าคิดว่าใครคือผู้บงการอยู่เบื้องหลังนายจ้างรายนี้?”

“นี่…”

ชายหนุ่มชุดคลุมม่วงลังเลครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับว่า “ข้าคาดเดาว่า มันน่าจะเกี่ยวข้องกับพี่สามของข้า”

องค์ชายสาม!

หยวนลั่วซีและเฉิงอู้หย่งมองหน้ากันด้วยความตกใจ

“องค์ชายกลายเป็นศัตรูกัน เรื่องราวนี้นับว่าไม่แปลก การแก่งแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์มีให้เห็นทั่วทุกราชวงศ์” ซูอี้ส่ายศีรษะ

ชายหนุ่มชุดคลุมม่วงครุ่นคิดครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ยืนขึ้นและป้องมือกล่าวออก “คุณชายซู ในเวลานี้ข้าคงไม่จำเป็นต้องปกปิดสิ่งใดอีกต่อไป ข้ามีนามว่าโจวจือหลี เป็นองค์ชายลำดับหกแห่งต้าโจว หลังได้รับชมฝีมืออันน่าทึ่งของท่านเมื่อคืนนี้ หัวใจข้า…”

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ ซูอี้หัวเราะขัดจังหวะ “เจ้าต้องการให้ข้าทำบางสิ่งให้ใช่หรือไม่?”

โจวจือหลีเผยท่าทีขึงขัง ถ้อยคำจริงใจถูกกล่าวออก “หากได้รับความช่วยเหลือจากท่าน พลังของข้าจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างมากโข! ข้ารับรองได้ว่า หากคุณชายสนใจในเรื่องบรรดาศักดิ์ ข้าจะช่วยผลักดันให้ท่านได้กลายเป็นจวิ้นอ๋อง หรือหากคุณชายขาดแคลนสมบัติ ข้าจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรวบรวมเคล็ดวิชาล้ำค่าและของหายากในโลกนี้มาให้!”

หลังจากหยุดชั่วครู่ ดวงตาทั้งสองเผยความแน่วแน่ “และถ้าหากวันหนึ่งข้าสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้สำเร็จ ข้าจะแต่งตั้งท่านให้เป็นราชครู!”

รับฟังถ้อยคำเหล่านี้ หยวนลั่วซีและทุกคนต่างก็ต้องสั่นสะท้าน

ราชครู!

ตัวตนเช่นราชครูของต้าโจวเกือบจะเป็นตัวตนที่ดำรงอยู่ภายใต้คนคนเดียวแต่เหนือคนทั้งอาณาจักร ด้วยสถานะและอำนาจอันล้นพ้นที่มีในกำมือ มันเพียงพอแม้แต่ทำให้เหล่าองค์ชายยังต้องให้ความเคารพ

ราชครูของต้าโจวในปัจจุบันคือหงเซินชาง

เขาไม่เพียงเป็นผู้นำตระกูลหงอันเป็นตระกูลชั้นนำของนครหลวงอวี้จิง แต่ยังเป็นผู้นำแห่ง ‘ตำหนักเฟิ่งฉี’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสำนักยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของต้าโจว

และตัวของหงเซินซางนั้นก็เก่งกาจในวิถียุทธ์มาตลอดหลายปี ความแข็งแกร่งของเขานั้นลึกล้ำเกินหยั่งถึง!

“ราชครู?”

ซูอี้เลิกคิ้วเล็กน้อย กล่าวออกเสียงเรียบ “เจ้าคิดว่าคนเช่นข้าผู้แซ่ซูจะหวั่นไหวต่อสิ่งเหล่านั้นที่เจ้าเสนอมางั้นหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าเป็นเพียงองค์ชายลำดับที่หกที่ไม่มีอำนาจแท้จริงใดเลย ดังนั้นจึงสรุปพูดได้ว่าคำกล่าวของเจ้านั้นเกินจริงและเป็นเพียงคำมั่นสัญญาปากเปล่า เป็นคำพูดจาใหญ่โตหาแก่นสารใดไม่ได้”

โจวจือหลีตกตะลึง แก้มขึ้นสีอับอาย ถ้อยคำกล่าวออก “คุณชายซู ข้าหวังเป็นอย่างมากว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากท่าน ข้ากล้าสาบานต่อสวรรค์เลยก็ได้ว่า ทุกถ้อยคำล้วนมาจากก้นบึ้งของหัวใจ หากมีสิ่งใดเป็นเท็จ ข้าขอตกตายทันที!”

ซูอี้ยังคงวางท่าเฉยเมย “ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”

ช่างน่าขัน องค์ชายผู้เยาว์วัยคิดหวังจะให้ข้าซูเสวียนจวินรับใช้?

ไร้สาระสิ้นดี!

โจวจือหลีนิ่งเงียบครู่หนึ่ง ก่อนนั่งลง

เขาค่อนข้างหดหู่อยู่ในใจ หากเปลี่ยนเป็นปรมาจารย์วิถียุทธ์คนอื่นในโลก พวกเขาคงตกปากรับคำสัญญาทันที

อย่างไรก็ตาม ซูอี้กลับไม่มีท่าทียอมก้มหัวให้เลย

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

หลังรับชมทั้งหมดนี้ หยวนลั่วซีและเฉิงอู้หย่งบังเกิดอารมณ์ระเบิดขึ้นในใจ

ในความเห็นของพวกเขา โจวจือหลีทำผิดพลาดครั้งใหญ่โดยไม่รู้ตัวเลย คุณชายซูเปรียบเสมือนตัวตนของเทพเซียน แต่โจวจือหลีกลับเสนอยศถาบรรดาศักดิ์ของปุถุชนและความมั่งคั่งทางโลกเพื่อซื้อตัวอย่างนั้นหรือ?

หากคุณชายซูยอมตกลงด้วยมันคงนับว่าเป็นเรื่องแปลกเหลือคณานับ!

กลับกันหากยอมแก้ไขท่าที ละทิ้งตัวตนในฐานะองค์ชาย และเข้าหาคุณชายซูเยี่ยงสหายที่แท้จริง เขาอาจได้รับความโปรดปรานอยู่บ้าง

ทันใดนั้น ชิงจินเปิดปากกล่าวถ้อยคำดุ “ข้าบอกเจ้ามาโดยตลอดว่า ผู้แข็งแกร่งที่ฝักใฝ่เส้นทางบรรลุเต๋าที่แท้จริง ล้วนดูหมิ่นลาภยศและความมั่งคั่งทางโลก แต่เจ้าไม่เคยรับฟัง!”

โจวจือหลีส่ายศีรษะเผยรอยยิ้มขมขื่น

เขาจะรู้ได้อย่างไรว่า บุรุษผู้แข็งแกร่งตรงหน้าจะไม่แยแสต่ออำนาจและความมั่งคั่งแม้แต่น้อยเช่นนี้?

“ไม่ว่าอะไรก็ตาม ครั้งนี้ที่ได้พบเจอคุณชายซู ข้ามีความสุขมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น คุณชายซูได้ช่วยชีวิตไว้ ข้าขอจดจำบุญคุณอันยิ่งใหญ่นี้และสลักไว้ในดวงวิญญาณตลอดไป” โจวจือหลีสูดหายใจเข้าลึก กล่าวออกคำเบา

หลังจากนั้น เขาลุกขึ้นยืนคล้ายกำลังจากไป

ชิงจินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจได้ ดวงตาคู่งามจับจ้องซูอี้ กล่าวคำออกว่า “สิ่งที่ข้าพูดเมื่อคืนนี้จำเป็นต้องรักษาสัญญา บอกมาว่าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”

น้ำเสียงเด็ดขาด ประหนึ่งนักโทษไม่กลัวตายขณะรอการพิจารณาคดี

คำดังกล่าว ทำให้ท่าทางของทุกคนในห้องพลันแปรเปลี่ยน!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset