📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 660

บทที่ 660 - ราวกับเทพเซียน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เมื่อก่อนหน้านี้ สะเก็ดแสงมหาวิถีสาดส่อง สว่างเจิดจ้าราวกับกลางวัน

ทว่าเวลานี้ ผืนแผ่นฟ้าถูกเมฆามหาภัยพิบัติลูกใหญ่บดทับ มืดมิดอึมครึม

บนทะเลวิญญาณโกลาหลคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายมหาภัยพิบัติล้างผลาญที่สร้างแรงกดดันยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังเพิ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่ว่าใครก็รู้ว่าเมื่อมหาภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้อุบัติขึ้น จะต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่!

“ตอนที่ข้าย่างสู่ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ มหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่พบเจอไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่คุณชายซูพบเจอเช่นนี้”

ภายในหอเซียนดาบ อิงเชวียสูดปากด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

“แตกต่างกันมากเลยหรือ?”

หยวนเหิงอดถามขึ้นมาไม่ได้

อิงเชวียนิ่งเงียบไปชั่วครู่จึงตอบน้ำเสียงจริงจัง “ตอนนี้มหาภัยพิบัติฟ้ายังไม่อุบัติ แต่พูดถึงเพียงแค่กลิ่นอาย มหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่คุณชายซูพบเจอรุนแรงยิ่งกว่ามหาภัยพิบัติที่ข้าพบเจอในตอนนั้นร้อยเท่าพันเท่า!”

ทุกคนต่างก็ตะลึง

อิงเชวียมาจากสายเลือดมังกรเกล็ดดำ พื้นฐานและพรสวรรค์นั้นแกร่งไร้ผู้ใดเทียม เหนือกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปในโลกหล้า

เช่นเดียวกัน ในฐานะที่เขาเป็นมังกรเทียม มหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่ประสบพบเจอนั้นจึงน่ากลัวเกินกว่าจะคาดเดา

ทว่าเวลานี้ อิงเชวียกลับบอกว่าเพียงแค่กลิ่นอายของมหาภัยพิบัติใหญ่ มหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่ซูอี้ประสบพบเจอกับรุนแรงยิ่งกว่าที่เขาพบเจอถึงร้อยเท่าพันเท่า!

ได้ยินเช่นนี้แล้วจะไม่ให้ตระหนกได้อย่างไร?

“พี่ซูอี้จะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน”

เหวินหลิงเสวี่ยเม้มริมฝีปาก กล่าวด้วยสีหน้าหนักแน่น

“เรื่องนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ในโลกนี้ยังไม่เคยมีพลังอันใดสามารถยับยั้งฝีเท้าของนายท่านได้!”

หยวนเหิงกล่าวแบบไม่ต้องคิดมาก

ทุกคนต่างก็มองหน้ากัน เชื่อมันว่าต้องเป็นเช่นนั้น

“นี่เป็นมหาภัยพิบัติใหญ่อันใดกัน?”

บนผิวทะเลที่ไกลโพ้น นักพรตเฒ่าเนื้อตัวสกปรกมอมแมมผ่านมา เมื่อมองเห็นเมฆามหาภัยพิบัติที่รวมตัวกันอยู่บนท้องฟ้าทางนั้นแล้ว ถึงกับส่งเสียงร้องอุทานออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

โดยจิตใต้สำนึก นักพรตเฒ่าเนื้อตัวสกปรกมอมแมมเร่งหลีกห่างน่านน้ำทะเลที่ถูกเมฆามหาภัยพิบัติครอบคลุมทันที

กลางอากาศ ซูอี้สังเกตเห็นนักพรตเฒ่าเนื้อตัวสกปรกมอมแมม เพียงแค่แวบเดียวก็จำได้ว่า เขาคือนักพรตเฒ่าที่เคยคิดจะเที่ยวสำราญไม่จ่ายเงินที่หอโคมเขียว ณ นครหลวงจิ๋วติ่งแห่งอาณาจักรต้าเซี่ย

เฒ่าบอดเคยกล่าวไว้ว่า ประวัติความเป็นมาของนักพรตมอมแมมคนนี้มีพิรุธ บนตัวแฝงไว้ซึ่งกลิ่นอายทะเลทุกข์ สงสัยว่าคงจะเคยบุกเข้าไปใน ‘ทะเลทุกข์’ ซึ่งเป็นดินแดนชั่วร้ายอันมืดมิด

อีกทั้ง เฒ่าตาบอดยังเคยบอกอีกว่า นักพรตเฒ่ามอมแมมคนนี้ยังเคยใช้สมบัติล้ำค่าพยากรณ์ชะตาชีวิตของซูอี้ แต่ผลปรากฏว่าไม่เพียงแต่พยากรณ์ไม่ออกเท่านั้น สมบัติล้ำค่าในมือพรตเฒ่ามอมแมมยังถูกทำลายไปด้วย

เพียงแต่ว่า เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าขณะที่ตัวเองใกล้จะเจอมหาภัยพิบัติใหญ่ นักพรตเฒ่ามอมแมมที่มีประวัติความเป็นมามีพิรุธคนนี้จะปรากฏตัวขึ้น

“เป็นมิตรหรือศัตรู?”

ซูอี้ถามออกมาตรง ๆ

บนผิวทะเลที่ไกลโพ้น นักพรตเฒ่ามอมแมมรีบโบกมือ “สหายเต๋าจงตั้งใจผ่านเคราะห์มหาภัยพิบัติ ข้าไม่ใช่ศัตรูอย่างแน่นอน!”

ซูอี้ร้องอ้อ แล้วไม่สนใจอีก

นักพรตเฒ่ามอมแมมแอบโล่งอก จากนั้นเบนสายตามองไปที่ร่างสูงโปร่งที่ลอยอยู่กลางอากาศของซูอี้ด้วยสีหน้านิ่งตะลึงราวกับกำลังย้อนความทรงจำอะไรบางอย่าง

ครืน!!!

ฉับพลัน เสียงฟ้าร้องที่สั่งสมกำลังเสียงมานานมากแล้วก็ดังขึ้น สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วแผ่นฟ้าในรอบระยะพันลี้

ด้านบนของตัวซูอี้ เมฆามหาภัยพิบัติหนาแน่นที่รวมตัวกันอย่างไร้สุ้มไร้เสียงพลันเกิดความผันผวนขึ้น แสงสายฟ้าบาดตาน่ากลัวปรากฏขึ้นเลือนราง

ซูอี้มีสีหน้าราบเรียบ จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายมหาภัยพิบัติเคราะห์ที่รุนแรงถึงขั้นทำลายล้างนั้นด้วยจิตใจที่เงียบสงบ

“ครั้งนั้น ตอนที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์เยี่ยนซู่นีแห่ง ‘แดนลี้ลับขั้นเก้า’ ของมหาแดนดินแสวงวิถีสู่ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ ความรุนแรงของมหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่ประสบพบเจอนั้นเกินกว่าที่เคยเจอะเจอในใต้หล้า ว่ากันว่าเป็นมหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่มีความรุนแรงมากที่สุดในช่วงสามหมื่นปี สร้างความตื่นตระหนกให้ผู้คนมากมายไม่รู้เท่าใดต่อเท่าใด”

“แต่เมื่อเทียบกับมหาภัยพิบัติใหญ่ตรงหน้าในครั้งนี้แล้ว อย่างไรเสียก็ยังด้อยกว่ามาก”

“หากพูดถึงความรุนแรงของพลังอานุภาพ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของเก้ามหาแดนดิน ไม่มีมหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณครั้งไหนสามารถเทียบเคียงกับตอนนี้ได้”

รอยยิ้มผุดขึ้นบนริมฝีปากของซูอี้

รอยยิ้มนั้นช่างเบิกบานถึงเพียงนี้ ยินดีถึงเพียงนี้ ภูมิใจถึงเพียงนี้

มีแต่มหาภัยพิบัติยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสมกับที่เขากลับชาติมาฝึกตนอีกครั้ง!

บนท้องฟ้า ฟ้าแลบฟ้าร้อง สุดท้ายเมฆามหาภัยพิบัติอันน่ากลัวที่ครอบคลุมไปทั่วบริเวณพันลี้ก็อุบัติขึ้น

ชั่วขณะนั้นเอง

บนทะเลแปรเปลี่ยนวิญญาณอันไร้ขอบเขต สิ่งมีชีวิตและสัตว์อสูรทั้งหมดต่างพากันคืบคลานด้วยความหวาดกลัว ตัวสั่นระริก ไม่กล้าส่งเสียงออกมาแม้แต่แอะเดียว

แม้กระทั่งพวกของหนิงซือฮวาที่ซ่อนตัวอยู่ในหอเซียนดาบก็ยังรู้สึกกดดัน สั่นระริกตั้งแต่วิญญาณจนถึงร่างกาย

พวกเขารู้สึกเพียงแต่ว่าวันสุดท้ายของโลกกำลังจะมาถึงแล้ว!

ครืน!

เสียงฟ้าผ่าดังก้องไปถึงสวรรค์ชั้นเก้า สายฟ้าแลบส่องสว่างไปทั่วปฐพี

เมฆามหาภัยพิบัติสีดำหนาแน่นถูกแยกตัวออกจนมองเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าส่วนลึกของมหาภัยพิบัติเมฆมีเมฆาที่เดือดพล่านกำลังฟาดลงมาอย่างไม่ยั้ง

เคราะห์มหาภัยพิบัติหายากในโลกกว้างหลายสิบประเภท เช่น เทพอัสนีพิฆาตวิญญาณ เทพอัสนีท่วมฟ้า เทพอัสนีแปดวายุ เทพอัสนีกำราบ เทพอัสนีดูดต้นกำเนิด และอื่น ๆ กำลังส่องแสงสว่างวาบท่ามกลางก้อนเมฆ

เทพอัสนีแต่ละประเภทเป็นตัวแทนของพลังในแบบฉบับทำลายล้างฟ้าดิน เมื่อฟาดลงมาก็สามารถทำให้ทุกสิ่งในระยะร้อยลี้ระเบิดแหลกเป็นผุยผง

“เช่นนี้… ใช่มหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่ไหนกัน แม้แต่มหาภัยพิบัติใหญ่ขอบเขตสยายวิญญาณก็ยังไม่น่ากลัวเท่านี้เลย!!”

บนน่านทะเลที่ไกลออกไป นักพรตเฒ่ามอมแมมตกใจจนตัวสั่น หน้าถอดสี

มีแต่เพียงซูอี้คนเดียวเท่านั้นที่ยืนมือไพล่หลัง แหงนมองท้องฟ้า

ครืน!

ตามเสียงระเบิดที่เกิดขึ้น กลางอากาศที่ไกลออกไปหมื่นจั้ง สายฟ้าฟาดขนาดใหญ่เท่าเสาส่งเสียงคำรามลงมาจากท้องฟ้า

โดยทั่วไปแล้ว เมฆามหาภัยพิบัติขั้นที่หนึ่งของมหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณมักจะอ่อนแรงที่สุด

ทว่าแสงสายฟ้าตรงหน้าซูอี้ลำนี้ มีขนาดใหญ่ถึงขั้นต้องใช้คนหลายคนโอบกอด ประกายแสงสีม่วงระยิบระยับนั้นส่องสว่างไปทั่วทะเลวิญญาณโกลาหลโนเวลกูดอทคoม

อานุภาพรุนแรงมาก!

“สวรรค์”

อิงเชวียตกใจจนร้องอุทานเสียงหลงออกมา

เพียงแค่เมฆามหาภัยพิบัติแรก พลังอานุภาพก็เหนือกว่ามหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่เขาประสบพบเจอในตอนนั้นแล้ว รุนแรงถึงขั้นให้เขาในตอนนี้ซึ่งมีระดับการฝึกในขอบเขตสยายวิญญาณแล้วก็ยังอาจจะต้านทานไม่อยู่

หากตอนนั้นเขาต้องเจอกับมหาภัยพิบัติเคราะห์เช่นนี้ โดนสายฟ้าลำแรกไปก็คงจะกลายเป็นเถ้าถ่านไปนานแล้ว!

“มาได้จังหวะ!”

ซูอี้ไม่ลังเลชักช้าอีกต่อไป จากนั้นจึงพุ่งตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยไม่มีสิ่งใดบดบัง ใช้ร่างกายรับอัสนีมหาภัยพิบัติโดยตรง

ชุดยาวสีเขียวของเขาโบกสะบัด ผมสยาย ปลดปล่อยพลังในตัวเต็มที่ แสดงให้เห็นความระห่ำ แตกต่างไปจากซูอี้ผู้ราบเรียบคนเดิม

ดุจดาบเล่มงามที่ถูกปิดผนึกนานนับหมื่นปี เวลานี้ได้ออกจากฝักแล้ว!

ปัง! ปัง! ปัง!

แสงสายฟ้าสีม่วงที่น่ากลัวฟาดลงบนตัวของซูอี้ สายฟ้าเส้นเล็ก ๆ เส้นแล้วเส้นเล่าฟาดทั่วทุกอณูผิวของซูอี้ เอ็นกระดูกกล้ามเนื้อแต่ละชิ้นขยับเขยื้อน จากภายในถึงภายนอก ปลดปล่อยกลิ่นอายทำลายล้างที่น่ากลัวอย่างที่สุดออกมา

ซูอี้ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วสักครั้ง ถือโอกาสนี้ผลักดันระดับการฝึกตนในตัวอย่างเต็มที่

มหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณ มีทั้งอันตรายและโอกาส

ซึ่งสามารถใช้หล่อเลี้ยงหลักวิถีฟ้าดิน อีกทั้งยังนำไปใช้ในการฝึกฝนร่างกายและขัดเกลาระดับวิถี

สาเหตุที่ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนั้น ก็เพราะว่าเคยถูกมหาภัยพิบัติเมฆาชะล้างฝึกฝน หากไม่ผ่านมหาภัยพิบัติเมฆา ระดับวิถีในตัวก็จะไม่อาจก้าวสู่ขั้นวิถีวิญญาณได้อย่างแท้จริง

ครืน!

รอบตัวซูอี้ แสงวิถีเบญจธาตุส่องสว่าง หยินกับหยางประสานสอดคล้อง กลายเป็นวงล้อแสงมหาวิถีอันเรืองรอง ภายในมีพลังแห่งอัสนีวายุหมุนวนราวกับเกลียวคลื่น

ตามการขับเคลื่อนของวงล้อแสงมหาวิถี มหาภัยพิบัติเมฆาสีม่วงที่ฟาดใส่ตัวเหล่านั้นราวกับโดนครกบดขยี้ทับ บ้างถูกต้านทานจนสลายไป

บ้างถูกเกลียวคลื่นอัสนีวายุภายในวงล้อมหาวิถีดูดซับ

จนท้ายสุด…

เอื๊อก! เอื๊อก!

ก็เห็นควันสีดำเป็นเส้น ๆ ผุดออกมาจากร่างของซูอี้ ราวกับมังกร นี่คือปราณขุ่นที่หลงเหลืออยู่ในร่างผู้ฝึกตนที่ฝึกตนอยู่ในโลกมานาน เวลานี้ได้รับการขัดหลอมจากพลังเมฆามหาภัยพิบัติแล้วจึงถูกระบายออกมาจนหมด

ร่างของซูอี้นิ่งส่องประกายระยิบระยับพร่างพราวมากขึ้น เปรียบดังเพชรใสเม็ดงาม

“เพียงเท่านี้ก็ต้านทานได้แล้ว!?” นักพรตเฒ่ามอมแมมอ้าปากตาค้าง

ไม่ได้รับบาดเจ็บจนเนื้อฉีกเลือดสาด ไม่มีอาการคลุ้มคลั่งในการต้านทาน ตั้งแต่ต้นจนจบ ซูอี้แลดูสบายตัวสบายใจ สลายมหาภัยพิบัติอัสนีแรกได้อย่างง่ายดาย!

นักพรตเฒ่ามอมแมมไหนเลยจะรู้ว่า หลายเดือนก่อนซูอี้ได้ฝึกฝนระดับวิถีในตัวกับขอบเขตใหม่จนถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว

ด้วยพลังแห่ง ‘เมล็ดพันธุ์เต๋าสุดขั้ว’ ที่เขาสกัดได้จากหนทางวิถีต้นกำเนิด ขอบเขตในตอนนี้ก็สามารถฆ่าผู้ฝึกตนขอบเขตสยายวิญญาณได้แล้ว นับประสาอะไรกับผ่านพ้นวิถีแห่งแปรเปลี่ยนวิญญาณระดับแรกเช่นนี้?

ครืน! ครืน!

สายฟ้าอัสนีเก้าวิถีลงมาจากฟ้าอย่างรวดเร็ว

นี่คือมหาภัยพิบัติอัสนีลำดับสอง สายฟ้าใหญ่และรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

จนสุดท้าย แทบจะกลายเป็นเสาแสงสีเงินสว่างทั้งเสา น่ากลัวยิ่งนัก น่ากลัวยิ่งกว่ามหาภัยพิบัติอัสนีแรกมาก

ซูอี้ไม่ถอยหลบ เขายืนสง่าอยู่กลางอากาศ ใช้ร่างกายรับโดยตรง!

แสงอัสนีเฉิดฉายเป็นประกาย เสียงดังครืน ๆ กึกก้องไปทั่วฟ้า

วงล้อแสงมหาวิถีรอบตัวซูอี้ขับเคลื่อน ทำลายเทพอัสนีสีเงินทั้งเก้าจนสิ้น

ทว่าตัวเขากลับไม่มีร่อยรอยบุบสลายแต่อย่างใด!

ทุกอย่างเงียบสงัด

“ให้ตายสิ… น่ากลัวเกินไปแล้วกระมัง?”

นักพรตเฒ่ามอมแมมถึงกับตาค้างจนแทบกระโดด

ผู้ฝึกตนแต่ละคนเจอมหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่ไม่เหมือนกัน

มหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่ร้ายกาจ เพียงพอจะฆ่าผู้เก่งกาจเหล่านั้นให้ตายได้ ทำให้วิญญาณของเขาเหล่านั้นแตกซ่าน วิถีในร่างแตกสลาย

มหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณที่น่ากลัวยิ่งกว่า ต่อให้ตระเตรียมทุกอย่างก่อนจะทำการผ่านพ้นมหาภัยพิบัติจนพร้อมสรรพ ยืมพลังจากค่ายกลปกป้อง หรือยืมพลังจากสมบัติล้ำค่า สุดท้ายโอกาสรอดก็มีเพียงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น

นับแต่โบราณกาลจนถึงตอนนี้ มีผู้เก่งกล้าจำนวนไม่น้อยที่ต้องดับอนาถอยู่ในมหาภัยพิบัติใหญ่เช่นนี้ ผู้ที่สามารถผ่านพ้นมาได้มีน้อยยิ่งนัก พันคนยังไม่เจอสักคน

ทว่ามหาภัยพิบัติใหญ่ของซูอี้นั้นแตกต่างออกไป น่ากลัวจนถึงขั้นไม่อาจคาดคิดได้!

ให้มหาปราชญ์สวรรค์ขอบเขตสยายวิญญาณมาเห็นเข้า ก็ยังกลัวจนจิตผวา

ทว่าเวลาที่เขาผ่านพ้นมหาภัยพิบัติ กลับง่ายดายราวกับดื่มน้ำกินข้าว เป็นเรื่องที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน!

ครืน!

มหาภัยพิบัติอัสนียังคงไม่หยุดยั้ง กลับรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

ไม่นานนัก มหาภัยพิบัติอัสนีลำดับสามก็มาถึง มังกรสายฟ้าสายแล้วสายเล่าร้องคำราม ไหลร่วงลงมาจากเมฆามหาภัยพิบัติที่ห่างไกลออกไป มังกรสายฟ้าแต่ละตัวมีความยาวนับร้อยจั้ง ลำตัวส่งประกายแสงสีเขียวประดุจหยก

จนท้ายที่สุด มังกรสายฟ้าเก้าตัวก็รวมตัวเข้าด้วยกัน กลายเป็นแดนอัสนีสีเขียวราวกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์กระแทกตัวลงมาจากสวรรค์

พลังอานุภาพของการโจมตีนี้ รุนแรงยิ่งกว่ามหาภัยพิบัติอัสนีลำดับสองไม่รู้กี่เท่า!

และในเวลานี้เอง ซูอี้จึงแสดงสีหน้าลังเลสงสัยออกมา

แต่เขายังคงไม่ถอยหนี และใช้ตัวเข้ารับเช่นเดิม

ปัง!!!

ชั่วขณะที่ถูกเสาอัสนีสีเขียวกระแทกใส่ ร่างของเขาก็ถูกแสงอัสนีสีเขียวไร้ขอบเขตกลบกลืน

ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ พวกของหนิงซือฮวาเห็นแล้วหัวใจของพวกเขาแทบหลุดกระเด็น หน้าถอดสีกันหมด

ทว่าไม่นานนัก พวกเขาก็เห็น จู่ ๆ แสงอัสนีสีเขียวที่คล้ายกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์สั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างแรง ฉับพลันเริ่มปรากฏรอยร้าวเป็นแนวยาวขนาดใหญ่ขึ้น…

จนท้ายที่สุด อัสนีมหาภัยพิบัติสีเขียวราวกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์ที่กดทับลงมานี้ก็ระเบิดและพังทลายลง

ร่างสูงโปร่งและสง่าร่างหนึ่งปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงอัสนีอันเจิดจ้า

วงล้อแสงมหาวิถีขับเคลื่อน ดูดซับและสกัดสะเก็ดแสงสายฟ้าที่สาดกระเซ็น ส่องสว่างจนท้องฟ้าในแถบนั้นเกิดเป็นสีสันสวยงาม

รับกับร่างของซูอี้ที่เปล่งประกายราวกับเทพเซียน!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset