📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 580

บทที่ 580 - ขอและให้
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ซูอี้นิ่งเงียบไปชั่วครู่ พลันนึกอะไรขึ้นได้ จากนั้นจึงกล่าวขึ้นมา “ข้าสามารถรับปากเจ้าในเรื่องนี้ได้ แต่เจ้าจะต้องรับปากข้าเรื่องหนึ่ง”

นกกระจอกสีเทาเบิกตากว้าง มอบโอกาสโชคลาภของโลกกว้างให้กับเจ้าเช่นนี้แล้ว ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณไม่ว่า ยัง… ยังจะกล้าตั้งเงื่อนไขอีก?

นกกระจอกสีเทาโกรธจนอยากจะด่าออกมา คน ๆ นี้กิเลศหนาบังตา จะโลภเกินไปแล้ว!

ทว่าอาคังกลับกล่าวเบา ๆ “เชิญสหายเต๋ากล่าวมาได้”

“มอบเลือดของเจ้าให้ข้า ไม่ต้องมาก สามหยดก็พอแล้ว” ซูอี้กล่าว

นกกระจอกสีเทาเปลี่ยนสีในทันใด ไม่อาจทนได้อีกต่อไป แผดเสียงร้อง “เจ้าหนุ่ม จะเกินไปแล้ว!”

อาคังนิ่งตะลึงไปชั่วครู่ ดวงตาสดใสเป็นประกายประดุจดวงดาวส่อแววประหลาดขึ้นมา ก่อนจะกล่าวคำออก “ที่แท้ สหายเต๋ามองที่มาของข้าออกตั้งแต่แรกแล้ว”

ซูอี้ส่ายหน้า กล่าวน้ำเสียงราบเรียบ “หากว่าข้ามีใจหวังจะได้อะไรจากเจ้า จะขอเพียงเลือดสามหยดง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร?”

อาคังครุ่นคิดสักครู่ จึงตอบ “ได้!”

ปลายนิ้วของนางขยับ ฉับพลันเลือดสีทองสามหยดก็ไหลออกมา แต่ละหยดส่องประกายเรืองรองจรัสแสง แพรวพราวไปด้วยโอกาสรอดอันเข้มข้นจนน่าตกใจ

นกกระจอกสีเทาเห็นแล้วทั้งตื่นตระหนกทั้งเจ็บใจ ก่อนจะกล่าวคำ “อาคัง เลือดของเจ้า…”

อาคังส่ายหน้าพลางกล่าว “ข้าตัดสินใจแล้ว”

จากนั้น อาคังก็ผนึกเลือดสามหยดนี้บรรจุลงในขวดหินสีดำ จากนั้นจึงยื่นให้ซูอี้ “สหายเต๋าได้โปรดรับไว้ด้วย”

ถึงแม้จะบีบเลือดออกมาเพียงแค่สามหยดเท่านั้น ทว่าใบหน้างดงามเลือนรางของสาวน้อยกลับขาวซีดขึ้นมา

ซูอี้รับขวดหินสีดำนั้นมา สายตามองไปที่อาคังด้วยความคาดไม่ถึง ก่อนจะกล่าวคำออก

“เอาเถิด ผลต้นและกรรมของเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงนี้ข้ารับมาแล้ว ส่วนเลือดสามหยดนี้คือจุดเริ่มต้นของวาสนาที่ข้ากับเจ้าสร้างร่วมกัน”

อาคังเผยรอยยิ้มออกมา ในสายตาเต็มไปด้วยความปีติยินดี จากนั้นก็โค้งคำนับน้อย ๆ พลางกล่าว “ขอบคุณสหายเต๋ามาก!”

พูดจบ นางก็มอบกล่องหินที่ผนึกเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงใบนั้นให้

นกกระจอกสีเทามองดูภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนี้แล้วได้แต่ถอนใจ

“วันข้างหน้าเมื่อต้นกำเนิดแห่งคังชิงนี้สลายไป หากว่าเจ้าไม่มีที่จะไป สามารถมาหาข้าได้”

ซูอี้เก็บกล่องหินไว้แล้วกล่าว “เชื่อว่าด้วยความสามารถของเจ้า ต้องการจะตามหาตัวข้าไม่ใช่เรื่องยาก”

พูดจบ เขาก็แบกโต้วโค่วขึ้นหลังหมุนตัวเดินจากไป

“หากว่ามีโอกาส ข้าจะไปพบสหายเต๋าอีกครั้ง”

อาคังกล่าวเบา ๆ

ทันใด ซูอี้หยุดยืนอยู่ตรงหน้าซากศพของหยวนหมอเทียนราชันย์ปีศาจพระสุเมรุ คิดสักครู่ เขาจึงตวัดดาบขจีบริสุทธิ์ฟันหลุมฝังศพแห่งนั้น

จากนั้น เขาก็ฝังร่างของหยวนหมอเทียนด้วยตนเอง จัดแจงเสร็จสรรพจึงหยิบเอาก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งมาสลักเป็นแผ่นป้าย ตั้งหน้าหลุมฝังศพ

ฉึบ! ฉึบ!

เศษหินปลิวว่อน ซูอี้ใช้ดาบขจีบริสุทธิ์แทนพู่กัน สลักอักษรปีศาจโบราณบนป้ายว่า

‘สุสานของหยวนหมอเทียน’

ไม่มีคำนำหน้าใด ๆ

ด้วยอดีตอันรุ่งเรืองเมื่อตอนมีชีวิตอยู่ของหยวนหมอเทียน จึงไม่จำเป็นต้องมีคำนำหน้าใด ๆ

ขอเพียงผู้ฝึกตนในโลกมองเห็นชื่อ ๆ นี้แล้ว ก็ต้องรู้ว่าคนที่ถูกฝังอยู่ในหลุมศพแห่งนี้เป็นตัวตนระดับใด

ชิ้ง!

ดาบขจีบริสุทธิ์ส่งเสียงดังเบา ๆ ราวกับซาบซึ้งใจ

เห็นเช่นนี้แล้ว ซูอี้พลันหัวเราะ เขาเอาดาบขจีบริสุทธิ์ติดตัวมา ฝังศพของหยวนหมอเทียนให้เขาได้ไปดี ถือได้ว่าเป็นการ ‘ตอบแทน’ อีกแบบหนึ่งเช่นกัน

“ใช่แล้ว”

ซูอี้ต้องการจะจากไปอยู่แล้ว พลันคิดสักครู่ หยิบแผ่นหยกออกมาแผ่นหนึ่ง สลักหยกชิ้นนั้นด้วยจิตสัมผัส

จากนั้น เขาก็โยนหยกไปให้อาคังที่อยู่ไกลมากพลางกล่าว “ในเมื่อเป็นวาสนา ข้าซูผู้นี้จะไม่แสดงน้ำใจจากข้าไม่ได้ เคล็ดวิชาในหยกชิ้นนี้ บางทีอาจมีประโยชน์สำหรับเจ้า”

พูดจบ เขาไม่อยู่ต่ออีก แล้วก็สาวเท้าก้าวใหญ่ ๆ เดินออกไป

ชุดยาวสีเขียวโบกสะบัด ค่อย ๆ หายลับไปอย่างช้า ๆ

จนกระทั่งมองไม่เห็นร่างของซูอี้อีก อาคังพึมพำขึ้นมาเบา ๆ “สามหมื่นปีแล้ว ในที่สุดข้าก็รอจนพบโอกาสพลิกผันจนได้…”

เสียงของสาวน้อยแฝงไว้ซึ่งความยินดีและตื้นตันอยู่ลึก ๆ ในใจ

นกกระจอกสีเทากล่าวอย่างไม่พอใจ “อาคัง เพียงแค่มองก็รู้ว่าคน ๆ นั้นไม่ใช่คนดีอะไรเลย เขาจะต้องมองภูมิหลังของเจ้าจนทะลุปรุโปร่งแล้ว ถึงได้ขอเลือดสามหยดนั้น แต่เจ้าก็ยังรับปากเขา แม้กระทั่งของพิเศษอย่างเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงเช่นนี้ก็ยังมอบให้แก่เขา ช่าง… ช่างไร้สติเสียจริง!”

สาวน้อยยิ้ม ๆ ชุดกระโปรงสีฟ้าปุยเมฆสะบัดพลิ้ว นางก้าวเดินมาอยู่ตรงหน้านกกระจอกสีเทา พลางกล่าวอ่อนโยน “นี่เป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่ นกกระจอกน้อย ตอนนี้เจ้าอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่วันข้างหน้า…จะต้องเข้าใจได้…”

“วันข้างหน้า?”

นกกระจอกสีเทาหัวเราะ เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจเอามาก จากนั้นจึงกล่าวคำออก “ข้าเพียงแค่อยากจะรู้นักว่า ที่แท้แล้วเพราะเหตุอันใดกันจึงทำให้เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ได้?”

อาคังนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวว่า “เพราะความที่เขาเป็นเพียงแค่คนหนุ่มในขอบเขตรวบรวมดารา แต่กลับสามารถสังเกตเห็นโอกาสลี้ลับมากมายในสถานที่แห่งนี้ ทั้งยังมองพื้นเพของข้าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เพราะความที่เขาสามารถแก้พลังกักขังแห่งยุคมืดอันมาจากนอกดวงดาวอย่างง่ายดาย”

นิ่งเงียบไปสักครู่ นางกล่าวเบา ๆ “ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ จิตใต้สำนึกบอกกับข้าว่า อาศัยพลังลึกลับซึ่งไม่อาจคาดเดาได้ในตัวสหายซู ก็เพียงพอที่จะปกป้องเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงได้ และเพิ่มโอกาสรอดของที่มาแห่งคังชิงไม่ให้สูญหายไปในกาลเวลา!”

นกกระจอกสีเทานิ่งเงียบไปนานจึงกล่าว “ข้ายอมรับว่าเจ้าหนุ่มคนนั้นค่อนข้างพิเศษ ไม่ใช่คนที่ผู้ฝึกตนทั่วไปในโลกนี้จะสามารถเทียบเคียงได้ เพียงแต่ว่า… อาคัง เจ้ามองเขาสูงจนเกินไปหรือไม่?”

นิ่งเงียบไปชั่วครู่ เสียงของเขาก็เคร่งเครียดลง “อย่าลืมว่า ในตอนนั้นลิงน้อยถึงขั้นวิถีจักรพรรดิของขอบเขตรู้แจ้งลึกล้ำแล้ว แต่ภายใต้พายุดวงดาวถาโถมนั้น สุดท้ายก็ยังต้องประสบเคราะห์ร้าย เจ้าคงไม่คิดว่าหนุ่มคนนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าลิงน้อยกระมัง?”

อาคังถอนใจ “ลิงน้อยในตอนนั้นไม่สามารถต้านทานพลังการกักขังแห่งยุคมืดได้”

นกกระจอกสีเทานิ่งเงียบไป ไม่อาจตอบโต้ได้

นิ่งเงียบไปนาน นกกระจอกสีเทาถาม “อาคัง เอาหยกที่หนุ่มคนนั้นมอบให้มาดูสิว่าที่แท้แล้วซ่อนอะไรเอาไว้กันแน่”

อาชังกล่าวหยอกล้อ “เจ้าดูแคลนสหายเต๋าซูมากเลยไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงรู้สึกสนใจในสิ่งที่เขามอบให้?”

นกกระจอกสีเทาร้องฮึ “ข้าไม่สนใจหรอก แต่สงสัยว่าคน ๆ นี้จะคิดไม่ดี หากว่าในแผ่นหยกที่เขาทิ้งไว้ให้นี้เป็นหนังสือสารภาพรักต่อเจ้า จะทำเช่นใด? ข้าไม่อยากให้คนโลกอย่างนั้นมาหลอกผู้หญิงดี ๆ เช่นเจ้า”

อาคัง “…”

สาวน้อยง้างมือขึ้นมาอยากจะตบนกกระจอกสีเทาบ้าที่ไม่เลิกนิสัยปากคอเราะร้ายตัวนี้

นกกระจอกสีเทากระพือปีกหลบในทันใด กล่าว “ร้อนใจอะไร ข้าก็เพียงแค่สงสัยเท่านั้น ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นสักหน่อย เจ้ารีบเอาหยกมาดูเร็ว”

อาคังเบะปาก นางเข้าใจสันดานของนกกระจอกสีเทาเป็นอย่างดี และคร้านจะคิดเอาความด้วย พอพลิกฝ่ามือ หยกชิ้นนั้นก็ปรากฏ

จิตสัมผัสของนางสอดส่องเข้าไป

เพียงแค่ชั่วครู่เดียว สาวน้อยผู้มีใบหน้างดงามเลือนรางนี้ถึงกับตกตะลึง ดวงตาสว่างสดใสดุจดวงดาวค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้นทีละน้อย นิ้วมือเรียวขาวเนียนนุ่มสั่นระริกขึ้นมาราวกับไม่อาจควบคุมไว้ได้โน!วลกูดoทคอม

“นี่…”

สีหน้าของนางตื่นตระหนก บนใบหน้าเต็มไปด้วยอาการตื่นตะลึงไม่อยากจะเชื่อ

นกกระจอกสีเทาเบิกตากว้าง อดกล่าวขึ้นมาไม่ได้ “มีเหตุอันใด เหตุใดเจ้าจึงตกใจถึงเพียงนี้? คงไม่ใช่… เพราะข้าเดาถูกกระมัง? รีบเอามาให้ข้าดูเร็ว”

พูดจบ นกกระจอกสีเทาก็เขยิบเข้ามาใกล้โดยเร็ว จิตสัมผัสสอดส่องเข้าไปในตัวหยก

หลังจากนั้นสักพักใหญ่ ๆ มันก็ทำท่าราวกับถูกฟ้าผ่า ร่างถอยเซไปข้างหลังหลายก้าว ขนลุกชันทั้งตัว ทำท่าราวกับขนระเบิด พูดอึก ๆ อัก ๆ “เขา เขา…”

ตื่นตะลึงจนพูดไม่ได้ศัพท์

อาคังสูดหายใจลึก ๆ กล่าว “ตอนนี้เจ้าคงจะเข้าใจแล้วว่า วาสนานี้… ได้มาไม่ง่ายเลยกระมัง?”

ในแผ่นหยกนั้นคือเคล็ดวิชาที่มีชื่อว่า ‘ไฟหลอมรวมเทพ’

เป็นเคล็ดวิชาโลกกว้างที่ใช้สำหรับฝึกฝนระดับวิถีวิญญาณโดยเฉพาะ

ในความทรงจำและการรับรู้ของอาคัง ด้วยสติโดยกำเนิดเช่นนางนี้ หากว่าต้องการจะฝึกตน แทบจะต้องเริ่มจากสายวิถีการฝึกตนในโลก

ดังหยวนหมอเทียนที่เหมือนกับนาง ต้องศึกษาวิถีพุทธ วิถีเต๋า และวิถีขงจื่อ สุดท้ายจึงรวมเป็นหนึ่งเตาหลอม ย่างก้าวสู่หนทางแห่งขอบเขตจักรพรรดิ

ซึ่งต่างไปจากที่ซูอี้มอบให้ เป็นคัมภีร์เต๋าสูงสุดที่เตรียมไว้สำหรับตัวตนเช่นนาง เป็นหนทางการฝึกตนอย่างสมบูรณ์ที่เหมาะสมต่อพวกนาง!

เช่นนี้พบเห็นได้น้อยมาก!

อย่างน้อย ๆ ในการรับรู้ของอาคัง บนมหาทวีปคังชิงเมื่อสามหมื่นปีก่อน แทบไม่เคยเห็นเคล็ดวิชาเช่นนี้มาก่อน

มิเช่นนั้น หยวนหมอเทียนในตอนนั้นก็คงไม่ถึงกับต้องไปกราบอาจารย์ในแต่ละสายวิถี!

อึก!

นกกระจอกสีเทากลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก กล่าวพึมพำ “อาคัง เจ้าว่าถ้าตอนนี้ข้าจะไปกอดขาเจ้าหนุ่มคนนั้น ยังทันหรือไม่?”

อาคัง “…”

——

นอกประตูจองจำ

วิ้ว~!

เมื่อคลื่นปริศนากระจายตัวออกไปบนประตูสำริดบานนั้น

ฉับพลันร่างของซูอี้ก็เดินออกมาจากประตูจองจำบานนั้น กลับเข้าสู่พื้นที่อันกว้างขวางมืดมิดแห่งนั้น

เขาไม่รีบร้อนที่จะจากไป มาถึงสนามประลองแห่งเดิม แล้วจึงวางตัวโต้วโค่วไว้อีกด้าน ส่วนตัวเองนั่งขัดสมาธิ หยิบยาเม็ดหนึ่งออกมาจากขวดแล้วกินเข้าไป จากนั้นก็นั่งสมาธิเงียบ ๆ

การบุกเข้าสู่ ‘เวิ้งเก้าดารา’ นั้น เพื่อต้านทานการบุกโจมตีของพลังการกักขังแห่งยุคมืดตลอดทาง ซูอี้จำเป็นต้องหยิบยืมพลังดาบเก้าคุมขังอย่างต่อเนื่อง

ทำให้พลังจิตวิญญาณของเขาลดน้อยลงไปมากเช่นกัน

ทว่า การเดินทางในครั้งนี้ยังถือได้ว่าราบรื่น ไม่มีอันตรายใด ๆ อีกทั้งยังได้รับมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้มาก

ทั้งไขข้อสงสัยมากมายที่เกี่ยวกับการกักขังแห่งยุคมืด ต้นกำเนิดแห่งคังชิง กับแสงสว่างแห่งโลกกว้าง และยังได้รับโชคชะตาซึ่งหาพบได้ยากมากถึงสองอย่าง!

ก่อนที่ซูอี้จะมาถึงเกาะเซียนพระสุเมรุ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน

“เมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงเป็นโอกาสรอดของโลกมหาทวีปคังชิงดั้งเดิม ได้มันมา ถึงแม้จะต้องรับผลต้นและกรรมที่ตามมา แต่เมื่อเทียบกันแล้ว มูลค่าของมันมีมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย”

ซูอี้พลางนั่งสมาธิ พลางครุ่นคิด

ผลต้นและกรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุดของเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิง มีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือสักวันหนึ่ง เมื่อพายุดวงดาวจากดาวนอกเขตแดนบุกโจมตีมาอีกครั้ง มันจะต้องทำลายโอกาสรอดอันเป็นสิ่งดั้งเดิมของคังชิงให้หมดสิ้นไป!

และซูอี้ผู้ครอบครองเมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงจะต้องได้รับผลกระทบตามไปด้วย

หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นจริง ถือเป็นภัยอันตรายอันน่ากลัวอย่างไม่ต้องสงสัย!

ในช่วงวันเวลาที่ผ่านมา ไม่รู้ว่ามีขุมกำลังเก่าแก่มากมายเพียงใดที่ต้องล่มสลายไปจากที่ตรงนี้เพื่อรอภัยพิบัติ แม้กระทั่งบุคคลในขอบเขตจักรพรรดิเหล่านั้นก็ยังไม่อาจต้านทานทั้งหมดนี้ไว้ได้

การดับร่วงของหยวนหมอเทียนก็คือตัวอย่างที่ดี!

แต่ทว่าซูอี้ไม่กังวลในสิ่งเหล่านี้มากนัก

เขาผู้มีดาบเก้าคุมขัง ไม่เกรงกลัวว่าจะถูกโจมตีจากการกักขังแห่งยุคมืด

สิ่งเดียวที่ยากสักหน่อยก็คือไม่รู้ว่าเมื่อพลังพายุดวงดาวนั้นระเบิดขึ้นมาจริง ๆ จะน่ากลัวเพียงใด

แน่นอนว่า การกังวลเรื่องเหล่านี้ยังเร็วเกินไปสำหรับตอนนี้

เพราะอย่างไรเสีย ไม่มีใครรู้ว่า ในภายภาคหน้าภัยพิบัติยิ่งใหญ่เช่นนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่

อีกทั้งเมื่อเทียบกับผล ‘ต้นและกรรม’ เหล่านี้แล้ว เมล็ดพันธุ์แห่งคังชิงมีประโยชน์ต่อการฝึกตน สามารถใช้คำว่าเหลือคณามาอธิบายได้

ยิ่งกว่านั้น สามารถเรียกได้ว่าเป็น ‘วาสนา’ ที่บุคคลในขอบเขตจักรพรรดิผู้ใดก็ต้องการอยากจะได้!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset