📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 548

บทที่ 548 - ล่าสมบัติ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ร่างของโม่ซิงเจ๋อหายลับไปจากสายตา

เก๋อเฉียนอดพึมพำไม่ได้ “หากเป็นข้าคงไม่มีทางยั่วยุเช่นนี้แน่ ไม่ว่ากำลังจะแกร่งกล้ามากเพียงใด ย่อมต้องมีช่วงเวลาเรือพลิกคว่ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน”

ซูอี้ยิ้มบาง ๆ “หลายชีวิตหลากอารมณ์ ถ้าทุกคนบนโลกคอยพะวงเหมือนกับเจ้า เช่นนั้นก็น่าเบื่อเกินไปพอดี”

เวิงจิ่วที่อยู่ไม่ไกลกันนักเดินเข้ามาเตือน “สหายเต๋าซู ในความคิดของชายชราคนนี้ โม่ซิงเจ๋อไม่ได้แกว่งเท้าหาเสี้ยน กลับกันแล้วหลังจากที่เขารู้ว่าเจ้าจัดการหวนเฉ่าโหยวได้อย่างง่ายดาย เขายังกล้าเผชิญหน้าเพื่อยั่วยุด้วย แสดงว่าต้องมีไพ่ตายทรงพลังอยู่ในมือเขาแน่”

ซูอี้พยักหน้า “เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”

เวิงจิ่วกล่าวต่อ “ไม่ใช่แค่โม่ซิงเจ๋อเท่านั้น แต่ผู้แข็งแกร่งที่ไปเกาะเซียนพระสุเมรุครั้งนี้ แต่ละคนต่างก็เตรียมของล้ำค่าช่วยชีวิตไว้ก่อนแล้ว ในท้ายที่สุดหากพวกเขาล้มตายบนเกาะเซียนพระสุเมรุ จะต้องเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาแน่นอน”

เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนไปอย่างเคร่งขรึม “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่เป็นตัวตนขอบเขตรวบรวมดาราขั้นสมบูรณ์กันทั้งนั้น อย่างเยี่ยนจิงอวิ๋น โม่ซิงเจ๋อ และจิงหลิงเจิน คนพวกนี้ต่างก็มีจุดประสงค์ที่จะบุกเข้าไปในเกาะเซียนพระสุเมรุ หวนเฉ่าโหยวเองก็เช่นกัน”

“คาดการณ์ได้ว่าทันทีที่พวกเขามาถึงเกาะเซียนพระสุเมรุ สิ่งแรกที่จะทำคือการทะลวงขอบเขต!”

“ด้วยภูมิหลังและความสามารถแล้ว หากพวกเขาได้กลายเป็นผู้ฝึกตนตัวตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ ความแข็งแกร่งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากแน่นอน และถ้าร่วมมือกับไพ่ตายของพวกเขาด้วยแล้ว จะต้องเป็นภัยคุกคามอันยิ่งใหญ่แน่”

“ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สหายเต๋าซูต้องระวังให้มาก”

คำพูดของเวิงจิ่วเรียกได้ว่าเกลี้ยกล่อมด้วยความหวังดี

เพราะในมุมมองของเขา ท้ายที่สุดแล้วซูอี้ก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนตัวตนขอบเขตเปิดทวารขั้นปลายเท่านั้น และยามที่ผู้ร้ายกาจจากยุคโบราณก้าวเข้าสู่ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณแล้ว แค่ความต่างชั้นของขอบเขตก็ทำให้กังวลได้

เก๋อเฉียนพยักหน้าอยู่หลายครั้ง “คำพูดของผู้อาวุโสจริงที่สุด หากระวังย่อมแล่นเรือได้หมื่นปี การไปเกาะเซียนพระสุเมรุในคราวนี้ จะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่เผชิญหน้ากับศัตรูเหล่านั้นโดยตรง”

เห็นซูอี้ขบคิดอย่างจริงจังแต่ดันพูดว่า “ข้าคิดว่าฝ่ายตรงข้ามต่างหากที่ควรระวังตัวเอาไว้”

เวิงจิ่ว “…”

เก๋อเฉียน “…”

เหวินซินจ้าวและเยว่ซือฉานมองหน้ากันและอดยิ้มไม่ได้

นี่ถึงจะเป็นซูอี้ที่พวกนางรู้จัก ท่าทางที่ดูเหมือนสบาย ๆ แต่ความจริงยังคงหยิ่งผยองและมั่นใจในตนเอง

เมื่อเห็นคนอื่น ๆ เดินเข้าสู่ทางเข้าของเกาะเซียนพระสุเมรุ เวิงจิ่วก็หยิบกล่องหยกจากแขนเสื้อของเขา ก่อนจะส่งให้ซูอี้

เขาเอ่ยขึ้น “สหายเต๋าซู นี่เป็นสิ่งของที่นายท่านของข้าเตรียมไว้สำหรับเจ้า หากเจ้าเจอกับภัยบนเกาะเซียนพระสุเมรุ สามารถใช้สิ่งนี้แก้ไขได้”

ว่าจบก็เปิดกล่องหยกออก

ข้างในนั้นคือยันต์หยกรูปผีเสื้อสีดำขนาดเท่าฝ่ามือ ดวงตาของผีเสื้อคู่นั้นเป็นสีขาวใสโปร่งแสง มีชีวิตชีวาราวกับของจริง

“ยันต์ลับระดับจักรพรรดิ?”

ซูอี้อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

เวิงจิ่วกล่าวเสียงต่ำ “ยันต์ลับนี้เรียกว่า ‘ผีเสื้อแปรสวรรค์’ แม้พลังส่วนใหญ่จะสูญเสียไปหลังจากการเสื่อมสภาพเมื่อสามหมื่นปีก่อน แต่พลังของมันก็ไม่สามารถมองข้ามได้และยังเป็นของชั้นยอดในคลังสมบัติของราชวงศ์เซี่ยด้วย นายท่านของข้าเองก็กังวลถึงความปลอดภัยของสหายเต๋าซูเช่นกัน จึงได้มอบของชิ้นนี้ให้เป็นพิเศษ และหวังว่าสหายเต๋าจะยอมรับมันไว้”

เก๋อเฉียน เหวินซินจ้าว และเยว่ซือฉานนึกประหลาดใจ

สิ่งของจากจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยองค์ปัจจุบัน!

“ขอบคุณท่านมาก”

ซูอี้หยิบกล่องหยกมาก่อนยื่นให้เก๋อเฉียนข้างกาย “เจ้าดูแลนะ”

เก๋อเฉียนตกตะลึงงัน

เขาไม่ได้คาดหวังว่าซูอี้จะมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้ตัวเองดูแล จึงอดตกใจไม่ได้ “นี่คือ…”

ซูอี้กล่าว “เจ้าเป็นคนที่ระมัดระวังและรอบคอบที่สุด หากมีอะไรเกิดขึ้นขณะข้าไม่สามารถดูแลได้ เจ้าก็ใช้มันได้เลย”

“นายท่านซูอย่ากังวลไปเลย วางใจข้าได้”

เก๋อเฉียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหยิบกล่องหยกด้วยมือทั้งสอง

จากนั้นซูอี้และพรรคพวกของเขาก็ไม่รอช้า ทะยานสู่ฟ้าไปยังทางเข้าของเกาะเซียนพระสุเมรุใต้ผืนฟ้าทันที

ทันทีที่ร่างของพวกเขาลับตาสาย เวิงจิ่วก็ยิ้มอย่างขมขื่น “ถ้าองค์จักรพรรดิรู้ว่ายันต์ผีเสื้อแปรสวรรค์จะถูกซูอี้ส่งไปให้คนอื่นดูแล ก็ไม่อยากจะคิดอีกแล้ว…”

เกาะเซียนพระสุเมรุ

นี่คือโลกเร้นลับที่แยกออกจากโลกปกติ

ภูเขากว้างใหญ่สลับซับซ้อน โลกแสดงบรรยากาศรกร้างอันเก่าแก่ออกมา

“ปราณวิญญาณฟ้าดินเข้มข้นมาก!”

เก๋อเฉียนตะโกนออกมาท่ามกลางในหุบเขาลึก

“ปราณวิญญาณที่นี่ดีกว่าแดนลับของวังเทพสวรรค์เมฆาเสียอีก”

แววตาอันงดงามของเหวินซินจ้าวเป็นประกาย

เยว่ซือฉานดื่มด่ำเงียบ ๆ นางรู้สึกได้ว่าปราณวิญญาณอันเข้มข้นในบริเวณนี้อัดแน่นเต็มทุกชุ่น เมื่อหายใจเข้าและออกก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แม้แต่ร่างกายของนางก็มีชีวิตชีวามากกว่าปกติ

กวาดตามองดูพื้นที่ใกล้เคียงก็จะเห็นพืชพรรณที่มองเห็นได้ทั่วไปมีสีเขียว ดูมีชีวิตชีวา

ซูอี้ที่อยู่ไม่ไกลนักหยิบดินขึ้นมาจากพื้น แล้วใช้ปลายนิ้วถูเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเผยสีหน้าแปลก ๆ

โลกเร้นลับแห่งนี้เปรียบเสมือนดินแดนบริสุทธิ์ มีปราณวิญญาณอุดมสมบูรณ์น่าอัศจรรย์

หากอยู่ในเก้ามหาแดนดิน ก็นับว่าเป็นแดนประทานพรของผู้ฝึกตนอีกหนึ่งแห่ง

“นายท่านซู ในความคิดของข้านั้น การที่พวกเรามาฝึกฝนใกล้ ๆ สถานที่แห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน ข้าเชื่อว่าการฝึกฝนของทุกคนจะมีความก้าวหน้าอย่างมากแน่นอน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะสามารถหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้พวกนั้นได้ และไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นด้วย”

เก๋อเฉียนกล่าวอย่างกระตือรือร้น

ที่พูดมาทั้งหมด ใจความสำคัญมีแค่คำเดียวเท่านั้น ‘ขลาดเขลา!’

เหวินซินจ้าวและเยว่ซือฉานพูดไม่ออกครู่หนึ่ง ระมัดระวังและรอบคอบเช่นนี้คงนับว่าเป็น… ผู้ชายใช่หรือไม่?

ซูอี้เมินเฉยคำพูดของเก๋อเฉียน

“ไปกันเถิด ไปสำรวจโลกใบนี้ก่อน”

ซูอี้กวาดตามอง แล้วเดินไปยังสถานที่ที่อยู่ห่างไกล

ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้ หากไม่มีใครเข้ามาเป็นเวลาหลายหมื่นปี จะมีโอสถวิญญาณอันล้ำค่าและวัตถุวิญญาณมากมายที่เรียกได้ว่าหายากเป็นอย่างยิ่ง!

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือที่ว่าเกาะเซียนพระสุเมรุมีสำนักเก่าแก่นาม ‘หอศักดิ์สิทธิ์พระสุเมรุ’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสำนักผู้ฝึกปีศาจเมื่อสามหมื่นปีที่แล้วตั้งอยู่ เช่นนั้นแล้วโอกาสที่ซ่อนอยู่ในนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน!

แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญกว่าคือ สถานที่แห่งนี้อาจจะซ่อนความลับและเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับ ‘การจองจำแห่งยุคมืด’ เอาไว้!

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ซูอี้จะเลือกทำการขลาดเขลาได้อย่างไร?

เขามาที่เกาะเซียนพระสุเมรุแห่งนี้ก็เพื่อจุดประสงค์สองประการ

หนึ่งคือเพื่อฝึกฝน

ตอนนี้เขาอยู่ขอบเขตเปิดทวารขั้นปลาย และอีกไม่นานก็จะเข้าสู่ขอบเขตรวบรวมดารา ดังนั้นการเข้ามาในเกาะเซียนพระสุเมรุได้ ก็นับว่าดีที่สุดแล้วโนiวลกูดอทคอม

นอกจากนี้ในการหยั่งรู้มหาวิถี แม้ว่าเขาจะเข้าใจจังหวะวิถีเบญจธาตุ จังหวะวิถีแห่งลม และจังหวะวิถีแห่งหยินในระดับที่สมบูรณ์แบบแล้ว

แต่ในวิถีต้นกำเนิดนี้ เขายังขาดจังหวะวิถีแห่งหยางและจังหวะวิถีแห่งสายฟ้า ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถรวมจังหวะวิถี ‘หยินหยาง’ และ ‘ลมและสายฟ้า’ ได้

แม้ซูอี้จะมีประสบการณ์จากชีวิตโลกก่อนแต่ก็ยังไม่พอ ทว่าคล้ายว่าโลกเร้นลับของเกาะเซียนพระสุเมรุแห่งนี้ เป็นไปได้มากว่าพลังมหาวิถีที่ยังคงอยู่จะมีความเกี่ยวข้องกับจังหวะวิถีแห่งหยางและจังหวะวิถีแห่งสายฟ้า!

พูดอย่างจริงจังคือ จังหวะวิถีแห่งหยางและจังหวะวิถีแห่งสายฟ้าไม่ใช่พลังมหาวิถีที่หายากในที่แห่งนี้

ตามแผนของซูอี้คือ ภายในเดือนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือบรรลุขอบเขตรวบรวมดารา และในขณะเดียวกันเขาก็ต้องการจะบรรลุความเข้าใจจังหวะวิถีแห่งหยางและจังหวะวิถีแห่งสายฟ้าด้วย!

อีกวัตถุประสงค์หนึ่งก็คือเกี่ยวข้องกับการตามหาเบาะแสของ ‘การจองจำแห่งยุคมืด’

ในซากปรักหักพังของหอเซียนดาบแห่งทะเลวิญญาณโกลาหล ซูอี้ได้รู้ความลับมากมายที่เกี่ยวข้องกับการจองจำแห่งยุคมืดที่ปะทุขึ้น

และที่เรียกว่า ‘แหล่งกำเนิดคังชิง’

ตามข่าวลือ แหล่งกำเนิดคังชิงอยู่ในสถานที่ต้องห้ามที่เรียกว่า ‘บ่อโบราณโกลาหล’

เมื่อนานมาแล้วมีจักรพรรดิผู้หนึ่งบุกเข้าไปในสถานที่แห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจและเปิดผนึกลึกลับออก พลังของการจองจำแห่งยุคมืดได้ปะทุออกมาจากบ่อโบราณโกลาหลและกวาดล้างมหาทวีปคังชิงทั้งหมด มันกินเวลานานถึงสามหมื่นปี

แต่จนถึงขณะนี้ น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ‘บ่อโบราณโกลาหล’ ตั้งอยู่ที่ใด

ซูอี้สนใจเรื่องนี้มาก เขามาที่นี่เพื่อดูว่าสามารถหาเบาะแสที่คล้ายกันในเกาะเซียนพระสุเมรุได้หรือไม่

ไม่มีใครชักช้า ทุกคนเริ่มลงมือทันที

สำหรับซูอี้แล้ว การที่จะสำรวจโลกเร้นลับที่ไม่รู้จักนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต่อให้มีประสบการณ์มากมายก็ตาม

จากประสบการณ์ชีวิตก่อนหน้านี้ ซูอี้สังเกตสถานการณ์ของโลก ระบุตำแหน่งของฮวงจุ้ย และคอยนำคนอื่น ๆ เดินทางข้ามน้ำข้ามภูเขาเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ปราณวิญญาณแข็งแกร่ง

บางครั้งเขาก็จะหยุดฝีเท้าและใช้วิธีลับบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับ ‘แสวงวิญญาณหาสิ่งของ’ แล้วใช้จิตสัมผัสเพื่อจับวัตถุวิญญาณที่กระจายไปในโลกแห่งนี้

ระหว่างทางโอสถวิญญาณและวัตถุวิญญาณจำนวนมากก็จะถูกเขาเก็บมา และทั้งหมดนั้นล้วนอยู่เหนือระดับหก มีบางครั้งที่พบวัตถุวิญญาณระดับเจ็ด

อย่างที่ซูอี้คาดไว้ ในเกาะเซียนพระสุเมรุแห่งนี้ไม่มีใครเข้ามานับหมื่นปีแล้ว ผนวกกับปราณวิญญาณที่แข็งแกร่งและพลังมหาวิถีที่น่าอัศจรรย์ ณ ที่แห่งนี้ มันก็ได้ทำให้โลกนี้ถือกำเนิดวัตถุวิญญาณที่หายากมากมายขึ้น!

จากการสำรวจอย่างตั้งใจของซูอี้โดยอาศัยประสบการณ์ชีวิตก่อนหน้านี้และวิธีลับบางอย่างเพื่อค้นหาวัตถุวิญญาณ เขาก็สามารถเก็บโอสถวิญญาณและวัตถุวิญญาณหลายร้อยอย่างได้ในเวลาไม่ถึงสองก้านธูป!

“ศิษย์พี่ซู ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเอง ข้าคงสงสัยไปแล้วว่าพี่เคยมาที่เกาะเซียนพระสุเมรุมาก่อน”

เหวินซินจ้าวอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ ใบหน้างดงามและสะอาดสะอ้านของนางแสดงความชื่นชม

เยว่ซือฉานและเก๋อเฉียนต่างก็พยักหน้าเช่นกัน

ยามเผชิญกับโลกที่ไม่คุ้นเคยและไม่รู้จัก ซูอี้กลับเหมือนเดินเล่นอยู่ในสวนผักของตน เดิน ๆ แล้วก็หยุด เจอสิ่งของล้ำค่าอันลึกลับที่ซ่อนอยู่ทุกประเภทอย่างง่ายดาย

ในบางครั้งจากระยะทางกว่าสิบจั้ง ซูอี้แค่มองจากที่ไกล ๆ เพื่อระบุว่าจะมีวัตถุวิญญาณเกิดขึ้นในสถานที่นั้น และไปสำรวจตามที่คาดไว้

วิธีการมหัศจรรย์เหล่านี้ทำให้คนอื่น ๆ ตื่นตาตื่นใจนัก

หากว่าถ้าเป็นพวกเขาเอง ก็อาจเจอวัตถุวิญญาณเป็นบางอย่างเท่านั้น ทว่ามันก็คงทั้งเสียเวลา และยังใช้ความพยายามอย่างมากแน่นอน ซึ่งจะไม่ง่ายเช่นซูอี้ด้วย

“แค่ทักษะเล็กน้อย”

ซูอี้ไม่ได้ปฏิเสธก่อนพูดอย่างเป็นกันเอง “รอหลังจากพวกเจ้ามีประสบการณ์พอแล้ว หากไปสำรวจโลกเร้นลับเช่นนี้ เจ้าจะคุ้นเคยกับมันเหมือนข้า”

ตอนที่เขาพูดก็อ้าปากหาวเล็กน้อย ก่อนดวงตาจะหรี่ลง ทันใดนั้นเขาก็มองไปยังสถานที่ที่ไกลออกไป!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset