📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 488

บทที่ 488 - ตัดจนกลายเป็นคนพิการ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

สีหน้าของกู่ชางหนิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ซือคงเป้า

ตัวตนโบราณ เมล็ดพันธ์ุฝึกฝนชั้นดีจาก ‘สำนักอสูรเทียนเยียน’ สำนักอสูรที่ทรงพลังที่สุดแห่งมหาทวีปคังชิงเมื่อสามหมื่นปีก่อน เขามีการฝึกฝนอยู่ในขอบเขตรวบรวมดาราขั้นกลาง

คนผู้นี้คือสายเลือดหนึ่งเดียวของเฮยเหยียน และยังฝึกฝน ‘เคล็ดวิชาเพลิงเทพเทียนเยียน’!

ในบรรดาตัวตนเก่าแก่โบราณที่ตื่นขึ้นในช่วงสิบปีที่ผ่านมา คนผู้นี้เรียกได้ว่าเป็นคนโหดเหี้ยมดุร้ายคนหนึ่ง

กู่ชางหนิงคิดกับตัวเอง แม้จะสับเปลี่ยนเป็นตัวเขา ก็ต้องปลดผนึกพลังภายในกาย ถึงจะสามารถงัดข้อกับซือคงเป้าได้

และยามนี้ ซือคงเป้าได้โกรธเกรี้ยวถึงขีดสุดแล้ว!

ไอร้ายบนตัวเขาล้นทะลักออก ก่อนเปลวเพลิงสีดำจะลอยขึ้นเป็นเกลียว ทำให้สัญลักษณ์เปลวไฟสีดำที่อยู่บนหัวโล้นยิ่งดูแปลกประหลาดขึ้น

เพียงแค่อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวเขาเท่านั้น ก็ทำให้โต๊ะ เก้าอี้ จานรองแก้วและอื่น ๆ ที่จัดวางไว้บริเวณใกล้ ๆ กลายเป็นเถ้าถ่านกระจัดกระจาย และค่อย ๆ หายไปในเสี้ยวอึดใจ

ครั้นเห็นภาพนี้ เซี่ยจิ้งอวี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดทันที “ซูอี้ ข้าคือเซี่ยจิ้งอวี่ เป็นเชื้อพระวงศ์ ขอเตือนไว้ หากเจ้าไม่อยากตาย ทางที่ดียามนี้เจ้าจงหยุดเสีย!”

ที่นี่คือนครหลวงจิ๋วติ่ง คือเมืองของจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย และเป็นอาณาเขตของราชวงศ์เซี่ย!

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่มีผู้ฝึกตนคนไหนกล้าไม่ให้เกียรติพวกเขาที่เป็นถึงราชวงศ์แห่งต้าเซี่ย!

นี่คือความกล้าที่ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดของเซี่ยจิ้งอวี่

แต่เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ซูอี้กลับแสร้งทำเป็นเมินเฉย พลันยกมือขึ้นตวัดปราณดาบออกไปอย่างไม่รีรอ

นักพรตหญิงเฟิงที่อารักขาอยู่ด้านหน้าเซี่ยจิ้งอวี่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ลมปราณทั่วร่างคำราม พลันชักดาบออกมาขวางเอาไว้

เคร้ง!!!

เสียงปะทะแสบแก้วหูดังขึ้น

ดาบวิญญาณที่อยู่ในมือของนักพรตหญิงเฟิงส่งเสียงขึ้น ก่อนจะปรากฏรอยร้าวแตกระแหงออกมา จากนั้นตัวนางพลันถูกปราณดาบนี้ตวัดจนกระเด็นลอยออกไป และแม้แต่ร่างแยกของนางที่อารักขาอยู่ด้านหลังเซี่ยจิ้งอวี่ก็ยังถูกส่งไปกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรงพร้อมกัน!

ตุบ! ตุบ!

กำแพงขนาดใหญ่สั่นไหว คล้ายกับเซี่ยจิ้งอวี่เห็นดวงดาวหมุนลอยอยู่ตรงหน้าจริง ๆ เขาแทบจะเป็นลมล้มลงไป

นักพรตหญิงเฟิงกระอักเลือดออกมาทันที

ผู้แก่กล้าที่ถีบตัวเองไปอยู่ลำดับห้าจากสิบผู้มีฝีมือขอบเขตรวบรวมดาราในนครหลวงจิ๋วติ่งผู้นี้ สามารถเทียบเคียงกับตัวตนโบราณเหล่านั้นได้

ทว่ายามนี้ กลับถูกดาบของซูอี้โจมตีจนบาดเจ็บสาหัส!

ส่วนเซี่ยจิ้งอวี่… อ่อนแอจนทนการโจมตีนี้ไม่ได้ และไม่คุ้มที่จะเอ่ยถึง

ทว่าซูอี้กลับแปลกใจเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่านักพรตหญิงเฟิงจะต้านทานดาบของตัวเองเอาไว้ได้และไม่ตาย

“ตายซะ!”

ในยามนี้เอง ซือคงเป้าโจมตีอย่างโหดเหี้ยมออกมาทันที

เสื้อสีแดงปลิวไสว ร่างสูงใหญ่อาบไปด้วยเปลวเพลิงสีดำมหาศาล พลางเหวี่ยงหมัดไปทางซูอี้

ตูม!

หมัดนี้รุนแรงอย่างมาก เต็มไปด้วยกลิ่นอายจังหวะวิถีที่ดุร้ายและรุนแรง ราวกับสามารถกวาดล้างและบดขยี้อากาศได้

เคล็ดวิชาเพลิงเทพเทียนเยียน!

ด้วย ‘จังหวะวิถีเปลวเพลิง’ อันทรงพลัง เมื่อมันถูกใช้ออกมา เปลวเพลิงทำลายล้างจะทะลวงเข้าไปในร่างกายของคู่ต่อสู้ เผาอวัยวะทั้งหมด และทำให้จิตวิญญาณคู่ต่อสู้ถูกหลอมแปรสภาพ นับได้ว่ามีอานุภาพร้ายแรงมาก!

และความสามารถที่ซือคงเป้าแสดงออกมา ก็มิใช่สิ่งที่ตัวตนขอบเขตรวบรวมดาราในโลกนี้เทียบเคียงได้ แค่หมัดเดียว ก็เหนือกว่าผู้อาวุโสสำนักใหญ่อย่างจางอวิ๋นเทาแล้ว!

“ชายผู้นี้ เหมือนว่า ‘สายเลือดเฮยเหยียน’ ของเขาจะตื่นขึ้นอีกขั้นแล้ว!”

กู่ชางหนิงรู้สึกสั่นเทา แววตาของเขาสั่นไหว

พลันแววตาของซูอี้เผยความเหยียดหยามออกมาเล็กน้อย สองมือออกท่า และตบลงไปเบา ๆ

ตูม!

เปลวเพลิงสีดำแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และกระจายไปทั่วสารทิศ

หมัดที่รุนแรงทำลายล้างของซือคงเป้าถูกจัดการไปอย่างง่ายดาย ควันหลงแผ่กระจายไปทั่ว ทำให้ตำหนักงดงามพลันสั่นไหวรุนแรงขึ้นมาทันที

เวลานี้ กู่ชางหนิงสะบัดแขนเสื้อ แสงเจิดจ้าสีเงินพลันเคลื่อนไหวไปสลายควันหลงจากการต่อสู้ทันที จากนั้นก็อุ้มร่างของเยว่ซือฉานหลบเลี่ยงออกไป

ครืน!

ตำหนักสั่นไหว บนพื้นกับกำแพงต่างปรากฏคลื่นพลังต้องห้ามออกมา

ถ้ำฟ้าชุ่ยอวิ๋นคือสถานที่ลึกลับของฮ่วนซีชาที่เอาไว้บริการเฉพาะแขกพิเศษ จึงไม่แปลกที่ตำหนักแห่งนี้จะติดตั้งค่ายกลป้องกันเอาไว้

ไม่เช่นนั้น เกรงว่าคงจะถูกคลื่นพลังการต่อสู้นี้ทำลายจนกลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว

“ได้!”

ดวงตาของซือคงเป้าเย็นชาดั่งคมมีด เขาตะโกนออกมา และเหวี่ยงหมัดออกไปอีกครั้ง

พลังของเขาครานี้ยิ่งพุ่งสูงขึ้น เปลวเพลิงน่าสะพรึงกลัวราวกับเทพที่ดุร้าย ทุกการเคลื่อนไหวแฝงไปด้วยพลังจังหวะวิถีที่ทำให้คนสะพรึงกลัว

ซูอี้จำต้องยอมรับเลยว่า ซือคงเป้าคือตัวตนเก่าแก่โบราณที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยเจอมาจนถึงวันนี้ และแข็งแกร่งกว่าบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงหลายเท่านัก

หากสับเปลี่ยนไปในตอนก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตเปิดทวาร ซูอี้คงจะสนใจต่อสู้เพื่อดูความสามารถที่แท้จริงของอีกฝ่าย

ทว่ายามนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเยว่ซือฉาน ทำให้เขาสลัดความคิดนี้ทิ้งไป

“ดาบนี้ ตัดมือขวาของเจ้า!”

ท่ามกลางน้ำเสียงเย็นชา ดัชนีคู่ของซูอี้ที่เหมือนกับดาบ วาดลงไปในอากาศ

ตูม!

เปลวเพลิงที่ปกคลุมไปทั่วดั่งผ้าใบพลันถูกผ่าออก หมัดแข็งแกร่งที่ซือคงเป้าเหวี่ยงออกไปนั้นถูกทำให้แยกออกเป็นสองส่วน

ฟึบ!

แสงโลหิตปรากฏออกมา

มือขวาของซือคงเป้ากระเด็นขึ้นไปในอากาศ บริเวณบาดแผลที่ขาดราบเรียบเป็นระเบียบยิ่ง

เพียงดาบเดียว ก็ตัดมือขวาของเขาขาด!

ภาพการเข่นฆ่าที่โหดร้ายนั้น ทำให้กู่ชางหนิงตกใจ

บอกจะตัดมือขวาก็ตัดแล้ว เช่นนั้นหากอยากฆ่าซือคงเป้า คงมิใช่เป็นเรื่องยากอะไร?

นักพรตหญิงเฟิงกับเซี่ยจิ้งอวี่ที่อยู่ไกล ๆ ต่างอ้าปากตาค้าง ตกใจจนหวาดกลัวและมือเท้าเย็บเฉียบ

ความแข็งแกร่งของซือคงเป้า พวกเขาย่อมรู้ดี ทั่วใต้หล้านี้ ไม่ต้องเอ่ยถึงผู้ฝึกตนในโลก แม้แต่ผู้มีพรสวรรค์ในยุคนี้กับตัวตนโบราณบางส่วน ก็ยังล้วนมิใช่คู่ต่อสู้ของเขา!

แต่ยามนี้ ซือคงเป้ากลับตกอยู่ในสภาพย่ำแย่!

“สมควรตายนัก!!”

ซือคงเป้าแผดเสียงออกมา บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เบิกตากว้างจนแทบจะถลนออกมา คล้ายกับไม่อยากจะเชื่อ

อานุภาพของดาบนี้ ทำให้เขาตกใจ มันรวดเร็วและรุนแรงเกินไปแล้ว!

โดยไม่รอให้ซือคงเป้าได้สติกลับมา ซูอี้พลันกวัดแกว่งดาบออกไปอีกครั้งด้วยท่าทางเย็นชาเช่นเดิม

“ดาบนี้ ตัดแขนข้างขวาของเจ้า”

ฉัวะ!

ปราณดาบดุจแสงจันทร์ที่เกิดบนน่านน้ำ แผ่กระจายขึ้นมาอย่างฉับพลัน จากนั้นก็ตวัดลงไปทันที

“เปิด!”

ซือคงเป้าตะโกนขึ้น ง้าวขนาดใหญ่ที่เปื้อนไปด้วยคราบเลือดหลายเล่มพุ่งไปในอากาศ ลมปราณมหาศาลเปล่งประกาย ก่อนคมง้าวสีเสือดที่ดุร้ายและน่ากลัวจะพุ่งทะยานออกไป!

ง้าวโลหิตมาร!

อาวุธมารโบราณแท้จริง กลั่นจากวิชาลับ ไอชั่วร้ายน่าสะพรึงกลัวมาก

ซือคงเป้ากวัดแกว่งง้าวขนาดใหญ่ในมืออย่างเดือดดาล พร้อมกับนำพาแสงโลหิตเจิดจ้ามหาศาลมาด้วย ทำให้แสบตาอย่างยิ่งโนเวลกูดอทคoม

แต่น่าเสียดาย ซูอี้ในยามนี้มีความสามารถในขอบเขตเปิดทวารแล้ว ในยามบรรลุเขาได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ‘วังเซียนปรากฏ’ ที่แปลกประหลาดยอดเยี่ยมขึ้น และความสามารถของเขาก็แก่กล้าจนถึงขั้นที่ไม่เกรงกลัวต่อมหาปราชญ์สวรรค์ในขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณแล้ว!

ดังนั้นดาบที่ตวัดออกมาด้วยความเดือดดาลในเวลานี้ของชายหนุ่ม จะมีผู้ใดต้านทานได้กัน?

ทันใดนั้น…

ปราณดาบที่ดูเหมือนเรียบง่ายดั่งหั่นเต้าหู้นั้น ก็สะบั้นคมง้าวแหลมคมสีเลือดมากมายมหาศาลพวกนั้นทันที

พรึบ!!

ง้าวโลหิตมารหลุดกระเด็นลอยออกไปจากมือของซือคงเป้า

และปราณดาบที่มีพลังไม่ลดลงเลยนั้น ก็ตัดแขนขวาของซือคงเป้า เลือดแดงฉานสาดกระเด็นออกมาดั่งน้ำตกทันที

พลันร่างของซือคงเป้ากระเด็นถอยหลัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง เขารู้สึกหนาวเหน็บ และตระหนักได้ว่าสถานการณ์ท่าจะไม่ดีแล้ว

ทว่าดาบครั้งที่สามของซูอี้ได้ตวัดลงมาแล้ว!

“ดาบนี้ ตัดมือซ้ายของเจ้า”

ทันทีที่น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้น ซือคงเป้าที่โกรธเกรี้ยวจนดวงตาแทบถลนแผดเสียงคำรามออก “ลุก!”

เขาสะบัดแขนข้างซ้าย พลันตะเกียงสำริดสีดำก็ทะยานขึ้นสู่อากาศ

ไส้ตะเกียงมีรูปร่างคล้ายงู และตะเกียงก็ทำให้เกิดระลอกคลื่นที่บิดเบี้ยวหมุนวน มีสีแปลกประหลาดมืดครึ้มน่ากลัวแผ่ออก ก่อนที่ตัวตะเกียงจะกลายเป็นสีขาวซีดในทันใด!

ทันทีที่ปรากฏ ตะเกียงสำริดสีดำก็กางม่านแสงสีเลือดขึ้นมาขวางกั้นด้านหน้าเอาไว้

ตะเกียงโคจรโลหิตมารอสรพิษ!

สมบัติล้ำค่าด้านการป้องกันที่หลอมกลั่นโดยมหาปราชญ์สวรรค์แห่งวิถีวิญญาณ ตะเกียงปกคลุมด้วยค่ายกลยันต์ลับหกสิบสี่ชั้น และไส้ตะเกียงก็กลั่นมาจากจิตวิญญาณของ ‘มารอสรพิษดาวขาว’

อานุภาพของตะเกียงนี้มีความล้ำเลิศแปลกประหลาดคล้ายกับยันต์โคมตะวันที่ซูเย่สร้างขึ้น

ที่แตกต่างคือ เมื่อแสดงตะเกียงโคจรโลหิตมารอสรพิษออกมา ม่านแสงที่แปรสภาพมาจากมัน มากพอที่จะขัดขวางและคลี่คลายการโจมตีที่มาจากผู้ฝึกตนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณได้ และเรียกได้ว่าเป็นอาวุธที่เอาไว้ปกป้องชีวิตอย่างหนึ่ง

แต่ไม่รอให้ซือคงเป้าได้โล่งใจ

ตูม!!

เสียงระเบิดดังสนั่นแสบแก้วหู ดาบนั่นของซูอี้ ราวกับค้อนขนาดใหญ่ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า ทุบอย่างรุนแรงจนม่านแสงสีเลือดนั้นยุบเป็นหลุมทันที

จากนั้นก็ระเบิดแตกออก

พรึบ!

ท่ามกลางสายตาที่ตกใจของทุกคน มือที่เต็มไปด้วยเลือดแดงฉานขาดกระเด็นออกไป

มือข้างซ้ายของซือคงเป้าถูกตัดขาด!

ทั้งตัวเขาถูกปราณดาบนี้บีบอัดจนกระเด็นถอยออกไปและตกลงบนพื้นอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดมหาศาลทำให้ใบหน้าเขาบิดเบี้ยวขึ้นมา

มือขวากับแขนขวาของเขาถูกตัด และในยามนี้แม้แต่มือซ้ายก็ขาดไปแล้ว!

พลังทั้งหมดของซือคงเป้า ตัวตนโบราณผู้นี้ได้สูญเสียไปเพราะเหตุนี้ และเขาก็ตกอยู่ในสภาพจนตรอกจนถึงขั้นน่าเวทนามาก

“นี่เป็นไปได้อย่างไร…”

ร่างของนักพรตหญิงเฟิงกับเซี่ยจิ้งอวี่สั่นสะท้าน ราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง

ซูอี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

เขามีพลังในการบดขยี้อย่างสมบูรณ์ และภายใต้น้ำมือเขา ซือคงเป้าที่เก่งกาจดุร้าย ก็เป็นเหมือนลูกแกะที่รอเชือด ต่อให้ใช้สมบัติล้ำค่า ก็มิอาจหยุดการสังหารของซูอี้ได้!

“แข็งแกร่งมาก!”

กู่ชางหนิงรู้สึกสั่นเทา

เขาต้องปลดผนึกพลังในร่าง ถึงจะสามารถต่อกรกับซือคงเป้าได้ ทว่าภายใต้น้ำมือของซูอี้ ซือคงเป้าล้วนมิอาจทนการโจมตีได้

เมื่อเทียบกันแล้ว จึงทำให้กู่ชางหนิงตระหนักได้ถึงความห่างชั้นระหว่างตัวเองกับซูอี้!

“ดาบนี้ ตัดแขนซ้ายของเจ้า”

ซูอี้ไม่คิดที่จะยั้งมือเลยแม้แต่น้อย เขายกมือขึ้นและตวัดดาบลงมา

ซือคงเป้าที่บาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว จะต้านทานการโจมตีนี้ได้อย่างไร?

เมื่อดาบนี้ตัดแขนซ้ายของเขาไปอย่างง่ายดาย สีหน้าซือคงเป้าก็พลันเผยความหวาดกลัวออกมาทันใด

ความจริงเขาตกใจกลัวซูอี้แล้ว และความกล้าหาญกำลังจะสลายไป

และในสายตากู่ชางหนิง เหตุการณ์นี้ไม่ถือว่าเป็นการต่อสู้ที่ดุดันแม้แต่น้อย แต่เป็นบทลงโทษกับการเหยียบย่ำของอีกฝ่าย!

ตั้งแต่ต้นจนจบท่าทางที่สงบนิ่งเย็นชาของซูอี้ ทำให้กู่ชางหนิงรู้สึกเสียวสันหลัง

“เจ้าแซ่ซู เจ้าคิดหรือว่าจะจัดการข้าได้จริง ๆ?”

ครั้นเห็นซูอี้จะลงมืออีกครั้ง ซือคงเป้าก็แผดเสียงดังลั่นออกมา

เสี้ยวอึดใจเดียว สัญลักษณ์เปลวเพลิงสีดำที่เผยอยู่บนหัวล้านของเขาก็ได้กลายเป็นแสงสีดำพุ่งขึ้นไปในอากาศทันที

“ขอความช่วยเหลือ?”

มุมปากซูอี้แสยะขึ้นอย่างเย็นชา “วันนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดมา ก็ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้ไม่ได้”

เยว่ซือฉานคือเมล็ดพันธุ์ชั้นเยี่ยมในสายตาซูอี้ แต่เกือบจะถูกซือคงเป้าผู้นี้ทำร้าย แล้วซูอี้จะให้อภัยได้อย่างไร?

เขากำลังจะลงมือ พลันมีบางอย่างเกิดขึ้นทันใด

“นายน้อย!”

น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวดังขึ้นจากนอกตำหนัก สั่นสะเทือนจนทุกคนแสบแก้วหู เลือดลมปราณพลันปั่นป่วน

น้ำเสียงยังคงดังก้องอยู่ จากนั้นก็มีร่างผอมแห้งดุจไม้ไผ่ พุ่งเข้ามาภายในตำหนัก คล้ายกับสายฟ้าสีดำกะพริบ

ตูม!

ร่างนี้แผ่ไอสังหารน่าสะพรึงกลัวออกมา พลางทำลายทุกสรรพสิ่งภายในตำหนัก ราวกับพายุโหมกระหน่ำ ทุกคนต่างหายใจลำบาก และมีสีหน้าเปลี่ยนไปตาม ๆ กัน

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นผู้มาใหม่คือชายวัยกลางคนสวมชุดเขียว ผิวซีดขาว เบ้าตาเว้าลึก ริมฝีปากบางดั่งใบมีด

บนร่างนั้นแผ่กระจายอานุภาพของขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณออกมาและขยายไปทั่วตำหนักราวกับทะเลเดือดพล่าน ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่ง

เฒ่าปีศาจฮว่าถู!

ม่านตาของกู่ชางหนิงหดลง เขารู้จักผู้ที่มาใหม่นี้ อีกฝ่ายคือหนึ่งในองครักษ์ที่อยู่ข้างกายซือคงเป้า

คือเฒ่าปีศาจขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณขั้นกลาง!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset