📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 470

บทที่ 470 - ทางใครทางมัน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ภายในอีกห้องของเรือล่องล้อเมฆา

เริ่นโหยวโหย่วนั่งกระสับกระส่าย สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เดิมนางคาดหวังว่าได้ผู้ฝึกตนวิถีวิญญาณอย่างลี่เมี่ยวหงออกโรง ย่อมเพียงพอให้ปลิดชีพซูอี้อย่างง่ายดาย

ใครเล่าจะคิด ซูอี้ไม่แม้แต่จะลงมือ ลี่เมี่ยวหงก็โดนสังหารเสียตรงนั้น!

หวนนึกถึงภาพนองเลือดที่ผ่านมา เริ่นโหยวโหย่วก็กลัวจนขวัญกระเจิง กลายเป็นปมในใจ

“โหยวโหย่ว หากเจ้าไม่อยากพัวพันเข้ากับเรื่องนี้ อย่าได้แพร่งพรายสิ่งที่เกิดขึ้นในผามังกรด้วนออกไป”

จางอวิ๋นเทาเอ่ยเสียงเข้ม สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง

เริ่นโหยวโหย่วเอ่ยด้วยสติเลื่อนลอย “ผู้อาวุโสจาง กระทั่งผู้อาวุโสในสำนักก็บอกไม่ได้หรือ?”

จางอวิ๋นเทาพยักหน้า พูดกึ่งถอนหายใจ “ลี่เมี่ยวหงผู้นั้นคือหนึ่งในสามผู้อาวุโสฝ่ายในแห่งสำนักเต๋าชิงอี่ มหาปราชญ์สวรรค์ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณเลื่องชื่อ การตายของเขา ย่อมสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเราทำเป็นไม่รู้สิ่งใดจะดีกว่า จะปล่อยให้ตัวเองเข้าไปเอี่ยวไม่ได้เด็ดขาด”

ร่างบางของเริ่นโหยวโหย่วสะท้าน นางรีบพยักหน้าพลางกล่าว “ผู้อาวุโสจาง ข้าเข้าใจความหนักหนาของเรื่องนี้ ไม่มีทางแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด!”

เจ้าเข้าใจที่ไหนกัน!

จางอวิ๋นเทาถอนหายใจกับตัวเอง ต่อหน้าเขาทำเป็นตักเตือนเริ่นโหยวโหย่ว ห้ามมิให้แพร่งพรายเรื่องที่ลี่เมี่ยวหงโดนฆ่า แท้จริงแล้วเพื่อปิดบังเรื่องที่เกี่ยวข้องกับซูอี้และอิงเชวีย

ช่วยไม่ได้ เจ้ามังกรเกล็ดดำอิงเชวียอันธพาลเกินไป ไม่ยอมให้เปิดเผยเรื่องใดทั้งสิ้น

ในสถานการณ์เช่นนี้ จางอวิ๋นเทาได้แต่อ้างเรื่องของลี่เมี่ยวหงในการตักเตือนเริ่นโหยวโหย่ว

“ถ้าอย่างนั้น… กลับสำนักครานี้ เราจะรายงานพฤติกรรมเลวทรามของซูอี้หรือไม่?”

เริ่นโหยวโหย่วถามเสียงเบา

จางอวิ๋นเทาได้ตัดสินใจไปแล้ว จึงตอบทันที “นอกจากเรื่องที่เกิดขึ้นบนผามังกรด้วน เรื่องอื่น ๆ รายงานต่อสำนักได้ทั้งสิ้น”

เริ่นโหยวโหย่วถอนหายใจยาว และพยักหน้า

……

“ชิงหยา หลังจากเจ้ากลับสำนักกับข้าไปครานี้ ห้ามพูดเรื่องสหายเต๋าซูกับผู้อื่นเด็ดขาด มิฉะนั้น ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอีกมากมายเท่าไร เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

อีกห้องหนึ่ง เหวินซินจ้าวกำชับชิงหยาเสียงนุ่ม

ชิงหยายิ้มหวาน ตอบเสียงใส “อาจารย์อาวางใจได้ ข้ารับรองว่าจะทำทีเป็นไม่รู้จักพี่ชายซูอี้”

เหวินซินจ้าวยิ้มเช่นกัน บีบแก้มน่ารักน่าเอ็นดูของชิงหยาพลางกล่าว “หนนี้หลังกลับสำนักไปแล้ว ข้าจะขออนุญาตท่านอาจารย์ ให้เขารับเจ้าเป็นศิษย์ เชื่อว่าด้วยพรสวรรค์และศักยภาพของเจ้า หลังจากนี้ย่อมต้องเปล่งแสนยานุภาพได้แน่”

ชิงหยาเอ่ยยิ้มแย้ม “อาจารย์อา เช่นนั้นเราสองคนก็มีสัมพันธ์เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกันน่ะสิ?”

เหวินซินจ้าวอดตลกไม่ได้ “ลำดับอาวุโสในสำนักเท่านั้น หาใช่เรื่องใหญ่ อีกอย่าง ระหว่างเจ้ากับข้า เดิมก็มีอายุห่างกันไม่กี่ปีอยู่แล้ว”

ชิงหยาอืมออกมาคำหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วและเอ่ย “เฮ้อ ถ้าได้ไปวังเทพสวรรค์เมฆา วันหน้าไม่รู้ว่าจะได้พบกับพี่ชายซูอี้อีกเมื่อไร”

เมื่อพูดถึงซูอี้ นัยน์ตาคู่ใสของเหวินซินจ้าวก็เลื่อนลอยไปแวบหนึ่ง

หลังจากนั้นสามสี่วันก็ต้องแยกย้ายกับซูอี้ชั่วคราว ในใจมารดาบน้อยโฉมสะคราญผู้นี้อดเกิดอารมณ์อาลัยอาวรณ์ไม่ได้

……

วันที่พวกซูอี้ขึ้นเรือล่องล้อเมฆาเพื่อไปจากผามังกรด้วน

สำนักเต๋าชิงอี่

เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังขึ้น

“แย่แล้ว แย่แล้ว โคมชะตาวิญญาณปราชญ์เมี่ยวหงดับลงแล้ว!”

วันนั้น ทั้งสำนักเต๋าชิงอี่สะเทือนกันหมด

มหาปราชญ์สวรรค์ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณสิ้นชีวิตลง ใช่เรื่องเล็กที่ไหน?

ในช่วงเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา สำนักเต๋าชิงอี่ในฐานะหนึ่งในกลุ่มอำนาจวิถีปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสี่แห่งต้าเซี่ย เพิ่งเคยเกิดเหตุการณ์คนขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณเสียชีวิตเป็นครั้งแรก!

‘เซียนโม่หยาง’ เจ้าสำนักเต๋าชิงอี่ซึ่งกำลังเก็บตัวฝึกฝน ต้องออกจากการฝึกในวันนี้ เพื่อสอบสวนเรื่องราวนี้ด้วยตนเอง

ไม่นานนัก เซียนโม่หยางก็ทราบว่าช่วงนี้ ลี่เมี่ยวหงได้ใช้กำลังของสำนักสืบเสาะคนหนุ่มที่ชื่อซูอี้

และหลายวันก่อน เป็นช่วงที่ทราบข่าวว่าซูอี้ปรากฏตัวในต้าเซี่ย ปราชญ์เมี่ยวหงถึงออกจากสำนักไป

เซียนโม่หยางจึงสรุปได้ว่า การตายของปราชญ์เมี่ยวหง ต้องเกี่ยวข้องกับคนหนุ่มที่ชื่อซูอี้แน่นอน!

และในวันนั้นเอง เซียนโม่หยางได้ออกคำสั่งในฐานะเจ้าสำนัก ส่งยอดฝีมือในสำนักระดมกำลังสอบสวนเรื่องนี้ รอจนความจริงปรากฏ ต้องไปขอคำอธิบายให้ได้!

ส่วนข่าวการตายของปราชญ์เมี่ยวหง ก็แพร่งพรายออกจากสำนักเต๋าชิงอี่อย่างรวดเร็ว

มหาปราชญ์สวรรค์ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณตายตก เป็นเรื่องพอจะทำให้ทั่วหล้าสั่นสะเทือน และไม่มีทางปิดบังไว้ได้

ความโกลาหลบังเกิด ไม่รู้ว่าในช่วงเวลาหลังจากนี้จะเกิดความวุ่นวายใดอีก

แต่สำหรับซูอี้ การตายของปราชญ์เมี่ยวหงเป็นเรื่องเล็กที่เขาลืมไปหมดแล้ว

……

เจ็ดวันให้หลัง

ไม่ผิดกับที่คาดไว้ ซูอี้ฝึกฝนจนบรรลุขอบเขตไร้เบญจธัญขั้นสมบูรณ์

และวันนั้นเอง พวกเขามาถึงเมืองนาม ‘จินหลิว’ ที่อยู่ภายในแคว้นฝูเฟิง

“ศิษย์พี่ซู เราต้องจากลากันแล้ว ข้าขอดื่มให้ท่าน”

ภายในหอสุราแห่งหนึ่ง เหวินซินจ้าวยกจอกสุราขึ้น ดื่มให้ซูอี้

ซูอี้ยกจอกพลางยิ้มแย้มบาง และร่วมดื่มกับนาง

‘ภูเขาศักดิ์สิทธิ์อวิ๋นเทียน’ ที่วังเทพสวรรค์เมฆาตั้งอยู่ อยู่ภายใน ‘แคว้นเทียนหยาง’ แห่งต้าเซี่ย

เดินทางจากเมืองจินหลิว มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ก็จะไปถึงนครหลวงจิ๋วติ่งอันเป็นเมืองหลวงของต้าเซี่ย

มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ก็จะไปทางแคว้นเทียนหยางที่วังเทพสวรรค์เมฆาตั้งอยู่

นั่นก็หมายความว่า พวกเขาต้องทางใครทางมันกันตรงนี้

“พี่ชายซูอี้ ข้าก็ขอดื่มให้ท่าน”

ชิงหยายกจอกสุราขึ้นเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยเสียงใส

ความอาลัยอาวรณ์ของหญิงสาวเปิดเผยอยู่บนใบหน้า

ซูอี้ชนจอกกับนางแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “หลังจากนี้หากมีใครที่วังเทพสวรรค์เมฆากล้ารังแกเจ้า ก็บอกอาจารย์อาของเจ้าเสีย ถ้าอาจารย์อาของเจ้าจัดการไม่ได้ ให้มาหาข้า”

ชิงหยายิ้มกว้างพลางกล่าว “พี่ชายซูอี้พูดเช่นนี้ ข้าล่ะหวังเหลือเกินว่าวันหน้าจะมีคนมารังแกข้า หากเป็นเช่นนี้ ก็สามารถพบกับพี่ชายซูอี้ได้อีก”

ทุกคนหัวเราะกันหมด

“ศิษย์พี่ซู ข้ากับชิงหยาต้องออกเดินทางกันแล้ว จะปล่อยให้ผู้อาวุโสจางและศิษย์น้องเริ่นรอนานคงมิได้”

เหวินซินจ้าวเอ่ยเสียงอ่อนโยน

ซูอี้พยักหน้า

งานเลี้ยงส่งในครานี้ จางอวิ๋นเทากับเริ่นโหยวโหย่วมิเข้าร่วม

ซูอี้ย่อมรู้ดีกว่าทั้งคู่ไม่ต้องการข้องแวะกับตนเองอีก

“นี่เป็นเคล็ดฝึกฝนภาวะดาบวิถีต้นกำเนิดที่ข้าได้มา เจ้าเอาไปเถิด”

ซูอี้หยิบม้วนหยกออกมาม้วนหนึ่ง พร้อมกับยื่นให้เหวินซินจ้าว

พรสวรรค์และความสามารถในการเรียนรู้วิถีดาบของเหวินซินจ้าวเรียกได้ว่าน่าทึ่ง แม้ว่านางจะเป็นตัวตนยอดเยี่ยมในหมู่รุ่นเยาว์แห่งวังเทพสวรรค์เมฆา และเป็นมารดาบน้อยผู้เลื่องชื่อไปทั่วต้าเซี่ยอยู่ก่อนแล้ว

แต่ในสายตาซูอี้ ศักยภาพด้านวิถีดาบของเหวินซินจ้าวถูกขุดออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

และสิ่งที่ซูอี้ทำอยู่ในตอนนี้คือ ค่อย ๆ ขัดเกลาหยกดิบชิ้นนี้จนกระทั่งมันได้เฉิดฉายเจิดจรัสในแบบของตัวเอง!

“ขอบคุณศิษย์พี่ซูมาก!”

เหวินซินจ้าวใจสั่น ความอบอุ่นแล่นไปทั่วร่าง

“พี่ชายซูอี้ มีของข้าด้วยหรือไม่?”

ชิงหยากะพริบตากลมโต

ซูอี้คลี่ยิ้ม “ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไรกัน?”

พูดไป เขาหยิบม้วนหยกออกมาอีกม้วน “หยิบไปสิ”

นี่เป็นสิ่งที่เขาเตรียมไว้ให้ชิงหยาอยู่แล้วnᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ

เด็กสาวผู้งดงามน่ารักคนนี้ มี ‘กระดูกวิญญาณกายาซ่อนเร้น’ ที่เรียกได้ว่าสะท้านโลกา หากตัดสินตามมาตรฐานของเก้ามหาดินแดน กระดูกระดับนี้นับว่าเป็นขั้นสูง หมื่นคนจะพบสักครา

มิหนำซ้ำ พรสวรรค์การตื่นรู้ของนางก็ยอดเยี่ยมนัก ใกล้ชิดพลังของวิถีในฟ้าดินได้ตรง ๆ ดุจปีศาจ ถึงได้โดนกลุ่มเต๋าโบราณทั้งหลายช่วงชิงตัวเข้าสำนัก

ซูอี้ไม่ยอมให้พรสวรรค์และรากฐานของชิงหยาโดนละเลย

ม้วนหยกที่เขาเตรียมเอาไว้หาใช่วิชาลับสืบสานแต่อย่างใด แต่เป็นวิชาลับที่ปลุกพรสวรรค์และศักยภาพของกระดูก

“ขอบคุณพี่ชายซูอี้มาก”

ชิงหยายิ้มอย่างดีใจ ตาคู่นั้นยิ้มจนเป็นรูปพระจันทร์

รอยยิ้มของเด็กสาวแจ่มใสดุจแสงอาทิตย์กระทบขอบฟ้า ซูอี้จึงนึกถึงชิงถัง ลูกศิษย์ตัวน้อยเมื่อชาติก่อนขึ้นมาอีกครั้งอย่างไร้สาเหตุ แล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้

วันนั้น

เหวินซินจ้าวและชิงหยาบอกลากับพวกซูอี้ นั่งเรือล่องล้อเมฆาจากไป

ก่อนจากกัน เหวินซินจ้าวเอ่ยบอกว่าก่อน ‘ชุมนุมมวลพฤกษา’ จะเปิดฉาก พวกนางจะเดินทางไปที่นครหลวงจิ๋วติ่ง หวังว่าถึงเวลานั้นสามารถพบหน้าซูอี้อีกครา

กับเรื่องนี้ ซูเย่เพียงแต่ยิ้ม ไม่รับปากอย่างใด

เขายังไม่ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมชุมนุมมวลพฤกษาหรือไม่

“นายท่าน พวกเราจะเดินทางไปยังนครจิ๋วติ่งหรือไม่?”

หยวนเหิงถาม

บัดนี้ เหลือแค่เขาและไป๋เวิ่นฉิงที่อยู่ข้างกายซูอี้

“ไม่ต้องรีบร้อน”

ซูอี้ขบคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ข้าใกล้จะทะลุขอบเขตเต็มที พวกเราหยุดพักที่เมืองจินหลิวก่อนเถิด”

วันนี้คือวันที่สองเดือนเก้า ยังเหลือเวลาอีกเดือนกว่า กว่าชุมนุมมวลพฤกษาจะเปิดฉาก

เมื่อครั้งซูอี้ออกเดินทางจากต้าโจว เป็นวันที่สองเดือนเจ็ด บัดนี้ผ่านไปสองเดือนกว่าแล้ว

ช่วงเวลานี้ พวกเขานายบ่าวสองคนไม่รู้เดินทางข้ามมาแล้วกี่อาณาจักร ผ่านพ้นสายน้ำภูผาไปตั้งเท่าไรต่อเท่าไร

ครั้งหนึ่ง ในวันสารทจีน ได้ช่วยเหลือสองพี่น้องเฉาผิง เฉาอัน ที่เขาฝูเซียน ต้าเหลียง ฆ่านักพรตผู้ฝึกผี บังเอิญพบ ‘เพื่อนเก่า’ ท่านเทพแห่งความกรุณา

และได้รู้จักกับสองอาจารย์ศิษย์ หลิงอวิ๋นเหอและชิงหยาในตอนนั้นเอง

ครั้งหนึ่ง เคยสังหารพวกผู้ฝึกตนแห่งต้าฉู่อย่างฮูหยินเมี่ยวหัวและคนอื่น ๆ เมื่อครั้งแล่นเรือบนแม่น้ำเทียนหลางในต้าฉู่ ช่วยให้ชิงหว่านผ่านคราวเคราะห์ที่เรียกได้ว่าพิศวงบันลือโลกได้อย่างราบรื่น ก้าวกระโดดกลายเป็นผู้ฝึกผีที่แท้จริง

และได้รู้จักกับไป๋เวิ่นฉิงภายในหุบเขาหานกู่ จนได้รับชีพจรหยินสัมบูรณ์

จนกระทั่งเข้ามาในดินแดนของอาณาจักรต้าเซี่ย

เคยบังเอิญเจอกับเฒ่าบอด ผู้สืบทอดสายเลือดโคมไฟผีเก็บโลงศพในเมืองผีเสี่ยวเฟิงตู…

เคยได้รับครรภ์อสูรจากงานชุมนุมหลิงชวี…

เคยสร้างความโกลาหลให้กับตระกูลจั่วแห่งชิงเถียนที่แคว้นอวี้ผิง สังหารคนพายเรือ นักฆ่าชั้นยอดของทะเลทุกข์ จนได้รับเมล็ดพันธุ์โดยกำเนิด

และเคยทำความรู้จักกับมังกรเกล็ดดำอิงเชวีย ที่ผามังกรด้วน…

จนบัดนี้ ได้มาถึงเมืองจินหลิวในแคว้นฝูเฟิง หวนนึกถึงประสบกาณ์ในสองเดือนที่ผ่านมา ซูอี้ก็อดสะท้อนใจไม่ได้ การเดินทางนี้ไม่เสียเปล่าจริง ๆ!

นี่แหละ ความหมายของการออกท่องโลก ขัดเกลาหัวใจแห่งเต๋าในโลกสามัญ ชะล้างตนเองท่ามกลางความขัดแย้งทางโลกครั้งแล้วครั้งเล่า!

ก่อนออกจากต้าโจว ซูอี้เพิ่งบรรลุขอบเขตไร้เบญจัญได้ไม่นาน

แต่ตอนนี้ เขากำลังจะบรรลุขอบเขตเปิดทวารแล้ว!

ก่อนบรรลุ สิ่งที่ซูอี้ต้องทำคือจัดระเบียบ และตกผลึกประสบการณ์ต่าง ๆ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา

เช่นนี้ จึงจะบรรลุด้วยหัวใจสมบูรณ์ไร้ด่างพร้อย!

วันนั้น พวกซูอี้พักในเรือนห่างไกลผู้คนเงียบสงบแห่งหนึ่งในเมืองจินหลิว

ผ่านไปวันแล้ววันเล่า

ซูอี้ไม่ก้าวออกจากตัวเรือน นั่งสมาธิ นิ่งไม่ไหวติงประหนึ่งรูปปั้น

จนกระทั่งเจ็ดวันให้หลัง

เวลาพลบค่ำ หยวนเหิงและไป๋เวิ่นฉิงคล้ายสังหรณ์ใจ พร้อมใจกันมองไปที่ห้องซึ่งซูอี้อยู่

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset