📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 404

บทที่ 404 - ยันต์คุ้มครองห้าขุนเขา
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ร่างนั้นสวมชุดคลุมดูกำยำล่ำสัน ผิวสีทองแดงภายใต้แสงสีทองราวกับปกคลุมด้วยชั้นทองคำศักดิ์สิทธิ์

เป็นหยวนเหิงนั่นเอง

ในสายตาของเด็กชายและเด็กหญิงตัวน้อยที่เพิ่งรอดพ้นจากความตาย หยวนเหิงในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากเทพเซียน

ฮึ่ม!

หยวนเหิงกางมือออก ก่อนแสงสีทองจะตกลงมาบนฝ่ามือของเขา เมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ พบว่ามันคือมีดสั้นสีทอง

เขาอ้าปากออก ก่อนที่มีดสั้นจะกลายเป็นแสงสีทองลอยเข้ามาในร่างของเขา

ในเวลานี้ ซูอี้ก้าวออกมาจากความมืดมิดยามค่ำคืน โดยมือกำลังเล่นกับลูกปัดสีเทาขาวที่มีร่องรอยเสียหาย

นี่คือลูกปัดจิตวิญญาณหยินระดับต่ำ

เมื่อครู่ซูอี้เห็นผีร้ายที่บิดตัวไปมาเหมือนเถาวัลย์จึงลงมือกำจัดมัน ลูกปัดจิตวิญญาณหยินนี้ตกลงมาจากผีตนนั้น

ไม่ต้องพูดถึงความหายาก เพราะมันไม่ปกติแม้แต่น้อย

โดยทั่วไปแล้ว มีเพียงผีร้ายที่รู้เกี่ยวกับการฝึกฝนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่สามารถปลูกฝังจิตวิญญาณดังกล่าวได้

ในเนินเขาที่แห้งแล้งนี้กลับมีผีร้ายที่สามารถสัมผัสถึงวิถีการฝึกตนได้ …ซึ่งผิดปกติมาก!

“นายท่าน”

หยวนเหิงก้าวไปข้างหน้าเพื่อคารวะเขา

นายท่าน?

เด็กชายกับเด็กหญิงตกตะลึง การดำรงอยู่ดุจเทพเซียนเช่นนี้กลับเป็นเพียงคนรับใช้?

ซูอี้พยักหน้าให้หยวนเหิง มองไปที่เด็กชายและเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก่อนกล่าวว่า “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกังวลไป”

“ขอบคุณท่านเทพเซียนทั้งสองที่ช่วยชีวิตข้ากับพี่ชายไว้!”

เด็กหญิงตัวเล็กลุกขึ้นและพูด ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางเต็มไปด้วยความกตัญญู

เทพเซียน?

หยวนเหิงหัวเราะและพูดว่า “เจ้านายของข้ากับข้าหาใช่เทพเซียน พวกเราเป็นเพียงผู้ฝึกตนที่ผ่านมา”

“ผู้ฝึกตน?”

เด็กหญิงตัวน้อยงุนงง

เด็กชายรีบก้าวไปข้างหน้า ก่อนโค้งคำนับพลางเอ่ย “ขอบคุณใต้เท้าทั้งสองที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้”

“ไม่ต้องสุภาพไป”

ซูอี้กล่าว เขาเดินไปหาเด็กหญิงตัวน้อยแล้วชี้ไปที่คอของนาง ซึ่งมีเชือกสีแดงห้อยหยกดำอยู่ “สาวน้อย ใครเป็นผู้มอบสิ่งนี้ให้แก่เจ้า”

เด็กหญิงตัวน้อยพูดอย่างเขินอาย “เป็นพี่ชายที่ให้มา”

ซูอี้ตกใจ เขามองดูเด็กชายก่อนถาม “เจ้าได้สิ่งนี้มาจากที่ใด?”

เด็กชายพูดอย่างรวดเร็ว “รายงานใต้เท้า ข้าได้เครื่องรางนี้มาจาก ‘วัดเทพเจ้าเขา’ บนภูเขาฝูเซียนเมื่อไม่นานมานี้ขอรับ ปู่เมี่ยวจู้กล่าวว่าเมื่อสวมให้กับเด็ก ๆ จะสามารถหลีกเลี่ยงความชั่วร้าย อวยพรให้ปลอดภัยได้ และให้ข้านำกลับมาที่บ้านแล้วสวมให้กับน้องสาว”

เมี่ยวจู้ ผู้ดูแลธูปของวัด

ซูอี้แสดงท่าทางครุ่นคิด

หยวนเหิงเองก็สังเกตเห็นบางอย่างแปลก ๆ เขาจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย

เด็กชายเอ่ยถาม “ท่านเทพเซียน เครื่องรางนี้มีอะไรผิดปกติงั้นหรือขอรับ?”

“ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”

ซูอี้พูดอย่างสบาย ๆ “มันดึกแล้ว เจ้าจะรังเกียจหรือไม่หากพวกเราจะไปพักผ่อนที่บ้านของเจ้า”

เด็กชายตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “ไม่รังเกียจแน่นอน ใต้เท้าทั้งสองโปรดมากับข้า”

เขาคว้ามือเด็กหญิงตัวน้อยแล้วเดินนำทางไป

หมู่บ้านที่เด็กชายและเด็กหญิงอาศัยอยู่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเชิงเขาฝูเซียน มันถูกเรียกว่าหมู่บ้านเฉาซี

ระหว่างทาง ซูอี้ได้เรียนรู้ว่าเด็กชายชื่อเฉาผิง และน้องสาวชื่อเฉาอัน ซึ่งเมื่อนำตัวอักษรของทั้งสองรวมจะได้เป็นคำว่า ‘สงบสุข’

พี่ชายน้องสาวคู่นี้สูญเสียบิดามารดาไปตั้งแต่ยังเด็ก ในช่วงต้นปีพวกเขาได้รับการช่วยเหลือและเลี้ยงดูจากชาวบ้านในหมู่บ้านเฉาซี เรียกได้ว่าเติบโตมาพร้อมด้วยอาหารจากหลายครอบครัว

แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เฉาผิงเริ่มมีความสามารถในการพึ่งพาตนเอง เขาจึงเริ่มดูแลเฉาอัน น้องสาวของเขาด้วยตัวเอง

หมู่บ้านเฉาซีไม่ใหญ่โตนัก สองพี่น้องอาศัยอยู่ในบ้านบิดามารดาของพวกเขาที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของหมู่บ้าน มันเป็นลานบ้านที่เรียบง่ายมาก มีแค่สามอย่าง กระท่อมมุงจาก คอกวัว และแปลงผักในลาน

มันเป็นช่วงดึกและเนื่องจากเป็นเทศกาลลอยโคม ชาวบ้านจึงพากันกลับบ้านหลังจากลอยโคมลงในแม่น้ำ ทำให้หมู่บ้านตกอยู่ในความเงียบสงัด ไม่มีแม้แต่เสียงไก่กับสุนัข

เมื่อเดินเข้าไปในกระท่อมมุงจาก เฉาผิงก็จุดตะเกียงน้ำมันและไปต้มน้ำเพื่อชงชา

เฉาอัน เด็กหญิงตัวน้อยนั่งลงบนม้านั่งเล็ก ๆ อย่างเขินอาย ก่อนกะพริบตามองไปที่ซูอี้กับหยวนเหิงอย่างสงสัย

ตัวกระท่อมเรียบง่ายมากและมีกลิ่นอายความยากจนอยู่ทุกหนทุกแห่ง แสดงว่าชีวิตของพี่น้องคู่นี้ไม่ค่อยดีนัก

ซูอี้นั่งบนเก้าอี้เพียงตัวเดียวในห้องแล้วพูดกับหยวนเหิงว่า “เจ้าไปคุ้มกันอยู่ที่บริเวณลานบ้านเสีย เพราะถ้าข้าเดาถูก เกรงว่าคืนนี้คงจะไม่เงียบสงบนัก”

“ขอรับ”

หยวนเหิงรีบออกไป

ซูอี้มองไปที่เฉาอันและพูดอย่างอบอุ่นว่า “สาวน้อย เจ้ายินดีแสดงเครื่องรางของเจ้าให้ข้าดูหรือไม่?”

“หากพี่ชายเทพเซียนอยากเห็นก็ย่อมได้”

เด็กหญิงตัวเล็กตอบตกลงด้วยน้ำเสียงสดใส

พูดจบนางก็ลุกขึ้น ถอดจี้หยกดำออกมายื่นให้ซูอี้

“พี่ชายเทพเซียน?”

ซูอี้ตะลึงงัน เขาลูบหัวของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ด้วยคำเรียกนี้ ข้าจะต้องดูแลพวกเจ้าพี่น้องให้ปลอดภัยให้ได้”

ขณะที่พูด ดวงตาของเขาก็เลื่อนลงไปยังหยกดำในมือ

วัตถุชิ้นนี้มีขนาดเท่าเม็ดลำไยเท่านั้น ลักษณะกลมและโปร่งแสง กุมไว้ในมือจะรู้สึกอุ่น ๆ เย็น ๆ หากมองใกล้ ๆ จะเห็นว่ามีลวดลายเมฆตามธรรมชาติบนพื้นผิวหยกที่ดูคล้ายกับเถาวัลย์

“มันคือหยกรวบรวมหยินจริง ๆ”

ซูอี้จดจำได้

นี่คือหยกจิตวิญญาณชนิดหนึ่งที่เกิดจากเส้นชีพจรหยิน หากอยู่ในมือของผู้ฝึกตน พวกเขาสามารถใช้มันขัดเกลาสมบัติบางอย่าง เช่นยันต์หยก

แต่ถ้าสวมใส่กับเด็กหญิงธรรมดา ปราณหยินในหยกจิตวิญญาณจะแทรกซึมเข้าไปในร่างกายทีละน้อย ทำให้ปราณหยินของนางเข้าไปพัวพัน

“ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาแฝงไว้ในเครื่องรางของวัดเทพเจ้าเขา ผีร้ายในค่ำคืนนี้น่าจะอยู่ภายใต้คำสั่งของเขาทั้งหมด!”

ซูอี้ลอบกล่าวในใจ

ไม่นานหลังจากนั้น เฉาผิงก็เดินเข้ามาในกระท่อมมุงจากพร้อมกาต้มน้ำและชามที่ทำจากเครื่องปั้นดินเผาหยาบ ๆ สองใบ และกำลังจะชงชาให้ซูอี้

ซูอี้หยิบกาน้ำชาแล้วพูดว่า “ให้ข้าจัดการ”

หลังจากพูด เขาก็หยิบโสมหยกหิมะออกจากแขนเสื้อ ดึงรากโสมออกมาแช่ในกาน้ำชา แล้วเทใสชามใหญ่สองใบ

“เจ้ากับน้องสาวจงดื่มกันคนละชาม”

ซูอี้วางกาน้ำชาลงแล้วกล่าว

เพราะชาถูกแช่ด้วยรากโสม จึงเกิดกลิ่นหอมซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขแพร่กระจายออกมา

เฉาผิงกับเฉาอันทำตามคำบอกแต่โดยดี พวกเขาดื่มชาโสมลงไปในคราวเดียว

ในเวลาเพียงครู่เดียว ใบหน้าที่ซีดเซียวของเด็กหญิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อและอุ่นร้อน

เฉาผิงรู้สึกสดชื่น ความอ่อนล้าหายไป ผิวกายของเขารู้สึกอบอุ่นและสบายนัก

“พี่ชายเทพเซียน นี่คือชาอะไรหรือ? อร่อยจัง”

เฉาอันจ้องไปที่กาน้ำชาด้วยดวงตาที่สดใส ราวกับว่านางต้องการจะดื่มอีกครั้ง

ซูอี้ยิ้มและกล่าวว่า “ชาโสมในกาน้ำชานี้สามารถดื่มได้วันละครั้งเท่านั้น เจ้าจำได้ชัดเจนหรือไม่?”

“เจ้าค่ะ!”

เฉาอันพยักหน้าอย่างจริงจัง

ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เฉาอันจะรู้สึกง่วง ถึงอย่างไรนางก็เป็นเด็กอายุห้าหกขวบ นางปีนขึ้นไปบนเตียงก่อนจะผล็อยหลับไป

“ร่างกายของน้องสาวเจ้ามีกลิ่นอายหยินหนาแน่นมาก อย่าลืมให้นางดื่มชาโสมหนึ่งถ้วยทุกวัน ด้วยวิธีนี้ ภายในเจ็ดวัน กลิ่นอายหยินในร่างกายของนางจะถูกกำจัดไปอย่างสมบูรณ์”

ซูอี้มองไปที่เฉาผิงและเอ่ยเตือน

เฉาผิงตกตะลึงในใจ เขาโค้งคำนับและกล่าวอย่างขอบคุณ “ขอบคุณใต้เท้า! เฉาผิงผู้นี้จะไม่ลืมความกรุณาของท่านเทพเซียนในวันนี้ ในอนาคตข้ายินดีทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุณคุณนี้!”

ซูอี้ยิ้มและกล่าวว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องตอบแทนอะไร ในอนาคตแค่ดูแลน้องสาวของเจ้าให้ดีก็พอ”

เมื่อเห็นพี่น้องคู่นี้เป็นครั้งแรก ซูอี้จึงอดที่จะนึกถึงเฝิงเสี่ยวเฟิงและเฝิงเสี่ยวหรานซึ่งไร้บิดามารดาเช่นกันไม่ได้ ความรักของสองพี่น้องที่พึ่งพาอาศัยกันเช่นนั้นทำให้เขารู้สึกประทับใจ

ทันใดนั้น เสียงคำรามรุนแรงดังมาจากนอกลานบ้านผสานกับเสียงของมีดดาบ

แต่เพียงครู่หนึ่งก็เงียบไป

ในหมู่บ้านเฉาซี ประตูของทุกครัวเรือนถูกปิดสนิทและไม่มีใครออกมาดู

วันนี้เป็นเทศกาลลอยโคม จึงมักจะมีผีร้ายออกหลอกหลอน ชาวบ้านจำคำสั่งหัวหน้าหมู่บ้านได้ เลยไม่มีใครกล้าเปิดประตูออกไปดู

“ใต้เท้า ข้างนอก…”

เฉาผิงตื่นตระหนก ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไร หยวนเหิงก็ได้เดินเข้ามาในกระท่อม

ในมือของเขาถือศีรษะเน่า ๆ เอาไว้ ฉากนี้ทำให้หนังศีรษะของเฉาผิงชา

“นายท่าน ก่อนหน้าผีร้ายตัวนี้ได้แอบเข้ามาที่นี่ มันพยายามเข้าใกล้แต่โดนข้าจับได้ ที่คาดไม่ถึงก็คือสหายผู้นี้มีฝีมืออยู่บ้าง แม้ว่าจะไม่ร้ายกาจเท่าผู้ฝึกผีขอบเขตไร้เบญธัญ ทว่าความแข็งแกร่งของนางดีกว่าเหล่าบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ในโลกสามัญนี้มาก”

หยวนเหิงรายงาน

“ดูเหมือนว่าคืนนี้พวกเราจะต้องไปเดินเล่นที่ภูเขาฝูเซียนสักหน่อยแล้ว”

ซูอี้กล่าวขณะมองไปที่เฉาผิงซึ่งดูประหม่ากระวนกระวาย และเฉาอันซึ่งนอนหลับสบายอยู่บนเตียงไม่ไกล

หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง เขาสั่งว่า “หยวนเหิง เตรียมพู่กัน หมึก กระดาษ และแท่งหมึก”

แม้ว่าหยวนเหิงจะสงสัยว่าซูอี้คิดทำสิ่งใด แต่เขาก็ไม่ได้ชักช้า มือเท้าเร่งหยิบพู่กัน กระดาษ และหมึกออกมาอย่างรวดเร็ว

“มีกระดาษสีแดงหรือไม่?” ซูอี้ถาม

“มีขอรับ”

หยวนเหิงหยิบกระดาษแผ่นใหญ่สีแดงออกมาแล้วกางลงบนโต๊ะพร้อมกับพู่กันและหมึก

ซูอี้ก้าวไปข้างหน้า ภายใต้สายตาที่อยากรู้อยากเห็นของหยวนเหิงและเฉาผิง เขาจุ่มแปรงลงในหมึก ตวัดวาดบนกระดาษสีแดง และเขียนอักษรสี่คำ

‘สงบสุขปลอดภัย’

ทุกคำล้วนเก่าแก่ทรงพลัง เปี่ยมด้วยอำนาจแห่งประกาศิต

เมื่อเฉาผิงเห็นตัวอักษรทั้งสี่นี้ เขาพลันรู้สึกสงบ และยิ่งมองมันมากเท่าไร เขาก็ยิ่งสบายใจขึ้นเท่านั้น

แต่ในสายตาของหยวนเหิง ตัวอักษรทั้งสี่นี้มีพลังอันยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจวัดได้ เต็มไปด้วยมนต์ขลังลึกลับและสงบสุข ซึ่งทำให้จิตใจของเขาสั่นเทาโดยไม่มีเหตุผล ราวกับว่าที่เผชิญหน้าไม่ใช่อักษรหนึ่งตัว แต่เป็นโลกอันกว้างใหญ่!

ทว่าเมื่อสังเกตดูอย่างระมัดระวังกลับพบว่าความรู้สึกนั้นได้หายไปแล้ว และเขาก็สัมผัสไม่ได้ถึงมนต์ขลังอันยิ่งใหญ่อีกต่อไป

ทว่าเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าตัวอักษรสี่ตัวนี้มีปริศนาอะไรซ่อนอยู่กัน?

ฟู่~

ซูอี้วางพูกันลงก่อนถอนหายใจยาว

ตัวอักษรสี่ตัวนี้ดูธรรมดายิ่ง ทว่าสิ่งที่ผนึกอยู่ในตัวอักษรทั้งสี่นั้นเป็นประกาศิตคุ้มครองที่เรียกว่า ‘ยันต์คุ้มครองห้าขุนเขา’

นี่เป็นประกาศิตคุ้มครองโชคแห่งฟ้าดินประเภทหนึ่ง ซึ่งยอดเยี่ยมมาก มันสามารถสื่อสารกับพลังแห่งสวรรค์ได้

และตอนนี้… ประกาศิตดังกล่าวก็ได้ถูกเขียนโดยซูอี้เป็นคำว่า ‘สงบสุขปลอดภัย’

ถึงแม้พลังของมันจะน้อยกว่าหนึ่งในหมื่นของ ‘ยันต์คุ้มครองห้าขุนเขา’ ของแท้

แต่ใช้ในบ้านของคนทั่วไปในดินแดนสามัญ ก็นับว่าเกินพอแล้วที่จะช่วยให้ชีวิตปลอดภัยและดึงดูรัศมีความสุขเข้ามา!

และเพียงแค่เขียนสี่คำนี้ก็ผลาญพลังปราณของซูอี้ไปแล้วเกือบสามส่วน!

หากเป็น ‘ยันต์คุ้มครองห้าขุนเขา’ ที่สมบูรณ์ ด้วยฐานการฝึกฝนในปัจจุบันของซูอี้ เขายังไม่สามารถเขียนออกมาได้

“เฉาผิง พรุ่งนี้เจ้าจงติดยันต์นี้ที่ขื่อประตู ถือเป็นของขวัญจากข้าถึงพวกเจ้าสองพี่น้อง นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเราเองก็ต้องไปเช่นกัน ลาก่อน”

ซูอี้พูดแล้วหมุนตัวออกจากกระท่อมไป…

หยวนเหิงรีบติดตามไปอย่างใกล้ชิด

“ใต้เท้า ข้าน้อยขอทราบนามอันทรงเกียรติของท่านได้หรือไม่?”

เฉาผิงรีบไล่ตามไป แต่เมื่อเขามองออกไป… รอบ ๆ กายนอกจากความมืดมิดยามค่ำคืนแล้ว เด็กชายก็ไม่อาจเห็นเงาของซูอี้และหยวนเหิงอีกเลย!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset