📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 394

บทที่ 394 - ข้าก้าวสู่ขอบเขตไร้เบญจธัญ สามพันคราดอกไม้ผลิบาน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เมล็ดพันธุ์ปฐมญาณในตอนนี้ ราวกับความยุ่งเหยิงที่มิอาจบรรยายได้ และเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

บางครั้งก็แปลงเป็นปรากฏการณ์ภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ นก สัตว์ แมลง ปลา บางครั้งก็ก่อตัวเป็นสัญลักษณ์สุริยัน จันทรา ดวงดาว และความเป็นจริงตามธรรมชาติอื่น ๆ

บางครั้งก็แปรเป็นลม สายฟ้า ดิน ไฟ…

ภาพปรากฏการณ์นั้น ต่างก็กะพริบและหายไป จากนั้นก็กลับมายุ่งเหยิงอีกครั้ง

และนับจากดาบเก้าคุมขังดูดซับเอาพลังต้องห้ามที่ลึกลับบริสุทธิ์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมล็ดพันธุ์ปฐมญาณก็ยิ่งหลอมรวมและหนาขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่มหัศจรรย์เช่นนี้ ทำให้ซูอี้ตะลึงและรู้สึกคาดหวังเป็นอย่างมาก

ในตอนที่ ‘เมล็ดพันธุ์เต๋าสุดขั้ว’ ของตัวเองขึ้นเป็นรูปเป็นร่างจริง ๆ จะปรากฏออกมาเป็นเช่นใดนะ?

ในชาติก่อน ซูอี้ก็เคยคิด เมื่อตอนก้าวเข้าสู่ขอบเขตไร้เบญจธัญ และทำให้เกิดภัยพิบัติต้องห้ามแปลกประหลาดขึ้นมา ควรจะรับมือกับมันอย่างไรดี

ตามสิ่งที่ได้ฟังได้เห็นมาในชาติก่อนของเขา ย่อมรู้ดีว่าบุคคลยอดเยี่ยมมากมายในอดีต ล้วนเคยประสบกับภัยพิบัติเช่นนี้ โดยไม่มีข้อยกเว้น สุดท้ายต่างก็ถูกกวาดล้างและดับสูญไป

ไม่มีผู้ใดทำสำเร็จสักคน!

นี่จึงทำให้ซูอี้ไม่สนใจเรื่องนี้ไม่ได้ และเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้

ทว่าเขาไม่นึกเลยว่า ในตอนที่ภัยพิบัติแปลกประหลาดนี้มาถึงจริง ๆ กลับรู้สึกสบายเช่นนี้

แค่ใช้ดาบเก้าคุมขังเท่านั้น ก็สามารถปรับแต่งแสงภัยพิบัตินั้นอย่างง่ายดาย!

ตู้ม!

น่านฟ้าปั่นป่วน ความมืดเข้าปกคลุม มีแสงภัยพิบัติกำลังถูกสะสมและเพิ่มพูนขึ้นในส่วนลึกชั้นเมฆที่คล้ายกับระลอกคลื่น

กลิ่นอายภัยพิบัติทำลายล้างเกลื่อนไปทั่วน่านฟ้า กระตุ้นให้การมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวที่อยู่ไกล ๆ เหล่านั้นอกสั่นขวัญหาย

นอกจากเรือเก็บดาวที่อยู่ในพื้นที่แล้ว เกาะไร้หวน ภูเขาฝังศพ และเจดีย์กระดูกขาวต่างก็หลบเลี่ยงออกไป

“ภัยพิบัติเช่นนี้ ยังน่าสะพรึงกลัวกว่าข้าที่ทำให้เกิด ‘มหาภัยพิบัติแปรเปลี่ยนวิญญาณ’ ในตอนที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตแปรเปลี่ยนวิญญาณ ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายต้องห้ามแปลกประหลาดเสียอีก…”

หญิงสาวที่อยู่บนไหล่วานรยักษ์ขาวมีสายตาเลื่อนลอย เนื้อตัวสั่นเทา

พรึบ!

ทันใดนั้น แสงภัยพิบัติที่หนากว้างดั่งน้ำตก พลันพุ่งออกมาจากเมฆดำในส่วนลึกระลอกคลื่นอย่างรุนแรง ฟาดลงสู่เบื้องล่าง

ภาพน่าสะพรึงกลัวบ้าคลั่งเช่นนี้ ทำให้การมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวเหล่านั้นต่างตกใจ สิ่งนี้มีอานุภาพแข็งแกร่งกว่าแสงภัยพิบัติเมื่อครู่ไม่รู้ตั้งเท่าใด!

แต่ที่ทำให้ไม่อยากจะเชื่อคือ หลังจากที่แสงภัยพิบัตินี้ระเบิดใส่ซูอี้ เพียงแค่ทำให้ร่างของเขาตกลงสู่เบื้องล่างจากหลายจั้ง จากนั้นก็ยืนทรงตัวได้อย่างมั่นคง

และแสงภัยพิบัติอันบ้าคลั่งนั่น คล้ายกับมารวมตัวกัน สุดท้ายก็ทะลักเข้าไปในร่างของซูอี้ทีละน้อยจนไม่หลงเหลือใด ๆ และค่อย ๆ หายไป

ทุกคนต่างนิ่งอึ้ง

นี่… นี่นับว่าเป็นการกลืนทัณฑ์สวรรค์หรือไม่!?

ฟู่ว!

ซูอี้ถอนหายใจยาวออกมา คล้ายกับยังไม่พอใจ พลันมองไปทางภัยพิบัตในส่วนลึกเมฆนั้น

ดาบเก้าคุมขังกำลังคำราม เมล็ดพันธุ์ปฐมญาณภายในตันเถียนก็ได้รับการแปรสภาพและหลอมรวมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เขารู้สึกได้ว่า การฝึกตนบำเพ็ญ จิตวิญญาณและร่างกายของตัวเอง รวมถึงสามหัวใจหลักต่างได้รับการรวบรัดและยกระดับอย่างลึกลับมหัศจรรย์

ความรู้สึกนั้นทำให้เขาล่องลอย ราวกับสำเร็จเป็นเซียนอย่างรวดเร็วก็ไม่ปาน

นี่คือการแปรสภาพการบรรลุอย่างแท้จริง

คือเหตุการณ์บรรลุที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงในชาติก่อนเมื่อตอนอยู่ระดับขอบเขตเดียวกัน!

และในมหาทวีปคังชิงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดสามารถทำมาถึงขั้นนี้ได้

ทว่ายามนี้ เรื่องมหัศจรรย์ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ กำลังแสดงออกมาโดยเขา!

ตูม!

น่านฟ้ามืดครึ้ม คมก็ยิ่งปล่อยความกดดันมากขึ้น และภัยพิบัติในส่วนลึกเมฆนั้น มีแสงภัยพิบัติที่ผสมผสานรวมตัวกันอย่างอธิบายไม่ได้

สุดท้าย กลายเป็นแสงภัยพิบัติที่มีรูปร่างคล้ายกับหอกรบพุ่งออกมาอย่างรุนแรง

ในขณะนั้น ราวกับหอกแห่งการพิพากษาจากทวยเทพมาเยือนโลก กลิ่นอายแห่งความหายนะอันน่าสะพรึงกลัวไร้ขอบเขตได้แผ่ซ่านไปทั่วสิบทิศ เกิดเสียงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั่วน่านฟ้าราวกับเสียงคำราม

เรือเก็บดาวที่ไม่เคยเคลื่อนไหวมาตลอด ในเวลานี้ก็หลบเลี่ยงทันที ราวกับสัมผัสได้ว่ามิอาจต้านทานกลิ่นอายการทำลายล้างนี้ได้

“น่าหวาดกลัวมาก!”

สัตว์ประหลาดอย่างมารเฒ่าหลีฮั่ว ปีศาจเฒ่าสือกู่ ราชาจี้เหยียนเหลย ต่างพากันหน้าถอดสี

วานรยักษ์ขาวส่งเสียงเจ็บปวดออกมาอย่างไม่สบายใจ

หญิงสาวจึงจำต้องกระตุ้นการบำเพ็ญ เพื่อช่วยต้านทานการจู่โจมของกลิ่นอายแห่งหายนะนั้นให้แก่นางกับวานรยักษ์ขาว

ฮวาซิ่นเฟิงที่หลบอยู่ภายในซากหอเซียนดาบ แสบตาไปหมด และมองไม่เห็นเหตุการณ์ใด ๆ อีก

ซูอี้รู้สึกถึงกลิ่นอายหายนะของหอกรบนั้น และต้องยอมรับว่า หากเขาไม่มีดาบเก้าคุมขัง ด้วยระดับฝึกฝนของเขาในยามนี้ แม้จะแสดงไพ่ตายทั้งหมดออกมา สุดท้ายถึงอาจจะสลายภัยพิบัตินี้ได้ ทว่าตัวเขาเองก็จะต้องถูกทุบเป็นชิ้น ๆ จิตวิญญาณได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงและดับสูญไปอย่างน่าเวทนา

“ก็ไม่แปลกใจเลยที่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่มีผู้ใดรอดจากหายนะนี้ได้เลย ต่อให้เปลี่ยนผู้ฝึกตนวิถีวิญญาณมาเอง ก็คงมิอาจต้านทานได้…”

ซูอี้แอบถอนหายใจกับตัวเอง

ภัยพิบัติเช่นนี้ ทำให้เขาตระหนักได้เรื่องหนึ่ง ภัยพิบัตินี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผู้ฝึกตนธรรมดาในโลกนี้เลย

มีเพียงบุคคลที่พยายามสร้าง ‘เมล็ดพันธุ์เต๋าสุดขั้ว’ เหมือนกับเขาเท่านั้น ถึงจะประสบกับการกวาดล้างของภัยพิบัตินี้

นี่ไม่ใช่การทดสอบ

แต่คือบทลงโทษ!

เพื่อกวาดล้างพื้นฐานแห่งมหาวิถีอย่าง ‘เมล็ดพันธุ์เต๋าสุดขั้ว’ ทิ้ง และไม่อนุญาตให้พลังเช่นนี้มีอยู่บนโลกอีก!

ในขณะครุ่นคิดอยู่นั้น แสงภัยพิบัติหอกรบก็พุ่งลงมาอย่างรวดเร็วราวกับอุกกาบาต

การโจมตีนี้ นับว่าน่าสะพรึงกลัวมาก ทว่าภายใต้การปราบปรามของพลังดาบเก้าคุมขัง มันก็ถูกกลืนหายไป และยังคงมิอาจทำอะไรซูอี้ได้

ในเวลานี้เอง ซูอี้สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเมล็ดพันธุ์ปฐมญาณภายในตันเถียนของตัวเขา ปลดปล่อยแสงมากมายออกมา ราวกับความยุ่งเหยิงแรกเริ่ม

ตูม!

จากนั้น การฝึกฝนบำเพ็ญ ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาสั่นไหวทันที เกิดแสงเจิดจ้ารอบร่าง คล้ายกับพระอาทิตย์ขนาดใหญ่ ส่องสว่างน่านฟ้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด

ไม่รู้นานเท่าใด เมฆครึ้มสีดำที่ก่อตัวอย่างหนาแน่นบนน่านฟ้านั้น พลันหายไปอย่างเงียบ ๆ และท้องนภาก็กลับไปสงบเช่นเดิม

ท่ามกลางสายตาของทุกคน ซูอี้ที่ยืนอยู่ในอากาศมีแสงหมุนรอบไปทั่วร่าง ราวกับหงส์ที่เกิดใหม่จากเปลวไฟ

ในอากาศบริเวณใกล้เคียง โดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง ได้ปรากฏเงาดอกไม้นับไม่ถ้วนแกว่งไกวไปมา คล้ายกับดอกไม้แห่งมหาวิถีปกคลุมไปทั่ว และในระหว่างความเลือนรางนั้น ยังมีเสียงคล้ายกับเสียงของธรรมชาติดังขึ้น น่านฟ้าเงียบสงัดดูศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์มาก

นั่นคือปรากฏการณ์ประหลาดยอดเยี่ยมอย่างหนึ่ง!

ประหนึ่ง ‘บุปผาสวรรค์ร่วงหล่นลงมา ปทุมมาศโผล่เหนือปฐพี’ อย่างในข่าวลือ

ภาพนี้ ส่งเสริมให้ซูอี้ดูมีกลิ่นอายลึกลับดุจเทพเซียนไปโดยปริยาย

ทุกคนล้วนตกตะลึง

ใครจะดูไม่ออกกันว่าซูอี้ได้ผ่านพ้นภัยพิบัติ และก้าวเข้าสู่ขอบเขตไร้เบญจธัญแล้ว?

ความจริงแล้ว ขอบเขตนี้ไม่อยู่ในสายตาสัตว์ประหลาดเหล่านั้นเลย ทว่าซูอี้กลับต่างออกไป

ในฐานะที่เขาเป็นบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ กลับทำให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงที่คาดเดาไม่ได้ออกมา ซึ่งเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และในอดีตก็ไม่เคยเกิดขึ้น

และในตอนที่เขาผ่านพ้นภัยพิบัติ จนก้าวเข้าสู่ขอบเขตไร้เบญจธัญสำเร็จ รากฐานหลักที่ถูกสร้างขึ้นมาก็ยังทำให้เกิดปรากฏการณ์ยอดเยี่ยมขึ้น!

ทั้งหมดนี้ ต่อให้พลิกหาทั้งตำราโบราณและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ก็คงหาที่ไหนไม่ได้!

“หรือชายผู้นี้คือเซียนบนสวรรค์ที่ลงมาจุติจริง ๆ? ไม่เช่นนั้น เหตุใดแค่ก้าวสู่ขอบเขตไร้เบญจธัญ ก็สามารถทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้?”

ฮวาซิ่นเฟิงเหม่อลอย วิงเวียนมึนงง

“เหลือเชื่อมาก เหลือเชื่อจริง ๆ ที่บอกว่าก่อนแสงสว่างแห่งโลกกว้างจะมาถึง เรื่องที่ผิดปกติทั้งหมด จะเป็นลางบอกเหตุ ทว่าความผิดปกติที่อยู่บนตัวชายหนุ่มผู้นี้ มีมากเกินไปจริง ๆ…”

หญิงสาวที่อยู่บนไหล่วานรยักษ์ขาวนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น และตกใจอยู่นาน

“เมื่อสามหมื่นปีก่อน ในบรรดาตัวตนเก่งกาจยอดเยี่ยมทั่วใต้หล้า… ไม่มีผู้ใดเคยทำมาถึงขั้นนี้ได้!”

“คนผู้นี้ เป็นใครกันแน่? เหตุใดถึงได้น่าเหลือเชื่อเช่นนี้?”

สัตว์ประหลาดอย่างมารเฒ่าหลีฮั่ว ปีศาจสือกู่ ราชาจี้เหยียนเหลย ต่างมิอาจสงบลงได้ และตกใจกับภาพเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก

ทั้งหมดนี้อยู่เหนือจินตนาการและการรับรู้ของพวกเขา

ไม่นาน เงาดอกไม้ที่เต็มท้องนภา ก็ค่อย ๆ หายไป

ท่ามกลางอากาศ ซูอี้มีจิตใจสงบนิ่ง ราวกับได้ชะล้างสิ่งปนเปื้อนให้หมดสิ้น และกลับคืนสู่พื้นฐานเดิม แม้แต่ลมปราณบนร่างกาย ก็ยังนิ่งราวกับน้ำ และเผยเสน่ห์อันยอดเยี่ยมออกมา

ตันเถียนที่อยู่ภายในตัวเขา มีเมล็ดพันธุ์ปฐมญาณลอยหมุนอย่างช้า ๆ และพรั่งพรูพลังชีวิตอันบริสุทธิ์และน่าเกรงขามออกมา เส้นลมปราณ จุดชีพจร และอวัยวะภายในบนตัวเขาเกิดการเชื่อมประสานราวกับกระแสน้ำขึ้นลง

เมล็ดพันธุ์ปฐมญาณที่สร้างโดยขอบเขตไร้เบญจธัญ เรียกว่า ‘เมล็ดพันธุ์เต๋า’

ผู้ที่ไร้ความสามารถ ก็มิอาจหลอมรวม ‘เมล็ดพันธุ์เต๋า’ ได้

และเมล็ดพันธุ์เต๋าก็มีหลากหลายระดับ มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล เมล็ดพันธุ์เต๋าที่แข็งแกร่งมากจะสามารถแปรสภาพเป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้ เช่น ภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบ พระอาทิตย์ พระจันทร์ ดวงดาว นก สัตว์ แมลง ปลา ลม สายฟ้า ดิน ไฟ เป็นต้น

แต่ละอย่างมีความลึกลับมหัศจรรย์ ราวกับพลังแห่งพรสวรรค์ที่รวมตัวกันหลังกำเนิดมา และสามารถทำให้พื้นฐานและพลังของผู้ฝึกตนอยู่เหนือกว่าบุคคลรุ่นเดียวกันได้

และเมล็ดพันธุ์สุดขั้วของซูอี้ ปรากฏรูปร่างที่ไม่ธรรมดาออกมา เมื่อเพ่งมองอย่างละเอียด รูปร่างมันดูคล้ายกับดาบเก้าคุมขังขนาดเล็ก!

เพียงแต่ ซูอี้ยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจความเร้นลับในนั้น ก็ได้ยินเสียงตะโกนดังขึ้นมา

“ก็แค่ขอบเขตไร้เบญจธัญเท่านั้น ต่อให้เก่งกาจเหนือสวรรค์แล้วอย่างไร? หากไม่ทิ้งโชคชะตานั่นให้ข้า ก็ต้องตาย!”

น้ำเสียงเคร่งขรึมของมารเฒ่าหลีฮั่วที่อยู่บนเกาะไร้หวนดังขึ้น ลมปราณปั่นป่วนสาดซัด และพร้อมที่จะเคลื่อนไหว

ผืนปฐพีสนั่นสั่นไหว ไอสังหารเยือกเย็นแผ่กระจายไปทั่วอีกครั้ง

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ สายตาของเหล่าการมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวเหล่านั้นที่มองไปทางซูอี้ มีกลิ่นอายหลากหลายที่มิอาจอธิบายได้

เฉกเช่นจ้องมองเหยื่อที่ทั่วร่างซ่อนความลึกลับเอาไว้ มีความอยากรู้อยากเห็น มีจิตสังหาร และมีความโลภ

“โชคชะตานี้ ชายแก่อย่างข้าไม่เอาก็ได้ เพียงแค่พวกท่านต้องนำชายหนุ่มผู้นี้มาให้ข้า”

น้ำเสียงน่าสะพรึงกลัวของปีศาจเฒ่าสือกูดังขึ้น

“เหอะ ฝันไปเถอะ!”

ราชาจี้เหยียนเหลยยิ้มเยาะ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร ความลับบนตัวซูอี้ไม่ต่างอะไรกับโชคชะตาที่ว่านั่นมากนัก

ทั่วใต้หล้าเย็นยะเยือก ราวกับไอสังหารดุจกระแสน้ำแผ่ขยายไปทั่ว สถานการณ์พลันหนักอึ้งขึ้นทันใด

ในอากาศ ซูอี้ยืดเส้นยืดสายครู่หนึ่ง ก่อนเหลือบมองการมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“พูดตามตรง หากพวกเจ้าไม่ถูกกักขังจากการจองจำแห่งยุคมืด บางทีอาจทำให้ข้าซูผู้นี้หวาดกลัวก็ได้ ทว่ายามนี้ พวกเจ้าในความคิดข้า ก็เป็นเหมือนเนื้อที่อยู่บนเขียง ที่สามารถปล้นชิงไปได้!”

เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ ซูอี้สะบัดดาบนิลกาฬกลืนฟ้าในมือ พลางเอ่ย “ไม่ต้องพูดไร้สาระให้มากความ หากผู้ใดไม่พอใจ ข้าซูผู้นี้จะมอบความตาย และช่วยให้หลุดพ้นจากโลกนี้เอง”

ทั่วทั้งสนามเงียบสงัด ก่อนมีเสียงหัวเราะดังขึ้น

ไม่แปลกใจเลยที่การมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวเหล่านั้นจะมองคำพูดของซูอี้เป็นเรื่องตลก

หญิงสาวบนวานรยักษ์ขาวอึ้งไปชั่วครู่หนึ่ง เจ้าหมอนี่เพิ่งจะบรรลุไปเอง แม้จะผ่านพ้นภัยพิบัติ และทำให้เกิดปรากฏการณ์ยอดเยี่ยมได้ ทว่าก็มีระดับการฝึกฝนเพียงแค่ขอบเขตไร้เบญจธัญเท่านั้น แต่เมื่อฟังน้ำเสียงเขา… มันไม่ดูเย่อหยิ่งเกินไปหน่อยรึ?

ฮวาซิ่นเฟิงไร้รอยยิ้ม

นางรู้ ซูอี้จะไม่ล้อเล่นกับเรื่องเช่นนี้

ตูม!

ปีศาจเฒ่าทนไม่ไหว ลงมือโดยทันที!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset