📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 344

บทที่ 344 - แข็งกร้าว
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“หึ ข้าอยากจะดูนัก ว่าเจ้าเพียงแค่พูดจาโอ้อวดหรือว่าเก่งกาจไร้คู่ต่อสู้จริง ๆ!”

เมื่อได้ยินวาจาของซูอี้แล้ว โจวฉางอี้จึงอดส่ายหน้าหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

ชิ้ง!

โจวฉางอี้ชักดาบที่สะพายข้างหลังออกจากฝัก สายฟ้าสีม่วงบาดตารายล้อมรอบตัวดาบ กลิ่นอายแห่งการทำลายล้างน่าหวั่นเกรงนัก

“ฟัน!”

เขาร้องตะคอกเสียงดังและเป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน ดาบยาวในมือราวกับแสงสายฟ้าสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ฟาดฟันลงมาในทันใด

ท้องฟ้าในแถบนั้นถูกสายฟ้าพิฆาตจนสั่นสะเทือน!

อานุภาพการรุกโจมตีนี้รุนแรงมาก ซูหงหลี่ที่บรรลุขอบเขตก็ไม่อาจเทียบเคียงได้ กระทั่งเทพเซียนเดินดินที่อยู่รอบ ๆ ก็ยังต้องสูดปาก

“ตัวตนขอบเขตเปิดทวารน่ากลัวจริง ๆ เสียด้วย!”

มีคนตะลึงงัน

“นั่นคือดาบสายฟ้าอินทนิล ว่ากันว่าเป็นอาวุธเทพที่ได้มาจากหุบเขามารหลุมสวรรค์ สามารถชักนำเมฆาสีม่วงชาดและสายฟ้าฟาดพิฆาตศัตรูได้ อานุภาพน่ายำเกรงยิ่งนัก”

คนบางส่วนกวาดตาดูดาบยาวในมือโจวฉางอี้เล่มนั้นแล้วต่างก็แสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมา

โจวฉางอี้ใช้ผลการฝึกตนขอบเขตเปิดทวารบงการดาบสายฟ้าอินทนิล ไม่เสียแรงเลยที่เป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งภูเขามังกรเร้น ขอบเขตเท่านี้ย่อมเพียงพอที่จะปกป้องราชวงศ์โจวและสร้างความยำเกรงไปทั่วแผ่นดินได้

“ดุจดังมดตะนอย”

เผชิญหน้ากับดาบเล่มนี้แล้ว ซูอี้เย้ยหยัน แววพิฆาตผุดขึ้นในสายตา

สวบ!

ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าเผยออกมาราวกับสายรุ้งยาวทะลุผ่านฟ้าดิน ราวกับพาดผ่านดวงเดือนดวงตะวัน แฝงไว้ซึ่งภาวะดาบอันคมกริบไร้เทียมทาน พุ่งตรงไปยังดาบสายฟ้าอินทนิลของโจวฉางอี้

ครืน!

พลังดาบทั้งสองปะทะกัน พลันระเบิดเสียงราวกับสายฟ้าฟาดออกมา อากาศในบริเวณนั้นได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ฝนสะเก็ดไฟแห่งการทำลายล้างของดาบแตกกระเซ็นราวกับถูกพายุโหมกระหน่ำ

ภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คน พลังดาบที่โจวฉางอี้ฟันออกไปถูกโจมตีจนแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!

“ทลาย!”

ซูอี้ไม่ลังเลชักช้า ถือดาบพุ่งแทงโจวฉางอี้ ลักษณะท่าทางของเขาประดุจสายรุ้ง มองร่องรอยความเหนื่อยล้าไม่ออกแม้แต่น้อย

“ไป!”

ใบหน้าของโจวฉางอี้ตึงเครียด แขนเสื้อกว้างโบกสะบัด รีบชักดาบออกมารับ

ดาบยาวทรงโบราณสีม่วงเปล่งแสงสายฟ้าฟาดที่เฉิดฉายบาดตาเข้าปะทะกับดาบนิลกาฬกลืนฟ้าอย่างดุเดือดรุนแรง

ทว่าเพียงแค่ชั่วครู่เดียวก็ได้ยินแต่เสียง ‘เพล้ง’ ดาบสายฟ้าอินทนิลสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงดังแทบร่วงหลุดจากมือ

ถึงแม้สมบัติชิ้นนี้จะมีอานุภาพมากมายนับไม่สิ้น ทว่าอาวุธพิเศษทั่วไปก็ใช่ว่าจะสามารถเทียบเคียงกับดาบนิลกาฬกลืนฟ้าของซูอี้ได้ ดังนั้นเมื่อดาบพิเศษสองเล่มปะทะกันล้วนต้องดูที่ผลการฝึกตนและระดับวิถีดาบ

โจวฉางอี้ส่งเสียงร้องฮึ ร่างสั่นสะเทือน

ผู้ฝึกตนขอบเขตเปิดทวารอย่างเขาเกือบจะรับการบุกโจมตีของซูอี้ไม่อยู่!

“ขึ้น!”

โจวชิงเซวียนที่อยู่ไกลออกไปมองเห็นภาพเหตุการณ์นี้ รีบยื่นมือเข้าช่วยอย่างไม่รอช้า

ฟิ้ว!

มือของนางประดุจดอกบัวเบ่งบาน นิ้วมือเรียวยาวประดุจหยกทั้งสิบนิ้วเบ่งบานออก วาดลวดลายสัญลักษณ์อันลึกลับ รูปร่างคล้ายเสือสิงห์ มีความรวดเร็วว่องไว ปรากฏเป็นจังหวะวิถีอันมีอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ สติปัญญาที่เป็นเลิศ และพร้อมสรรพสมบูรณ์

นางฟาดตราประทับไปที่ซูอี้

ตราประทับเสือสิงห์ฐานดอกบัว!

วิชาพุทธโบราณวิชาหนึ่ง

จากจุดนี้สามารถมองออกว่า กลุ่มมังกรเร้นเหล่านี้ไม่ใช่บุคคลที่เทพเซียนเดินดินคนอื่น ๆ ในโลกสามัญจะเทียบเคียงได้ แต่ละคนล้วนช่ำชองในเคล็ดวิชาโบราณหรือถือครองสมบัติลับโบราณ!

โครม!!

ซูอี้ไม่แม้แต่จะมอง ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าในมือพุ่งแทงออกไป ตราประทับลึกลับประดุจเสือสิงห์นั้นแตกระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างง่ายดาย

ใบหน้างามของโจวชิงเซวียนขาวซีด ฉับพลันร่นถอยหลังไปหลายก้าว นางตื่นตระหนกอย่างแรง คน ๆ นี้เพิ่งผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมา เหตุใดจึงยังคงมีพลังอันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อีก?

ถึงแม้นางจะมีผลการฝึกอยู่ในขั้นไร้เบญจธัญ ทว่าฝึกบำเพ็ญมานานถึงสามสิบปี อีกทั้งยังสืบทอดพลังลึกลับจากผู้ฝึกพุทธโบราณ แม้กระทั่งโหยวเทียนหงผู้ซึ่งอยู่ในขอบเขตไร้เบญจธัญขั้นสมบูรณ์แบบก็ยังไม่อยู่ในสายตาของนาง

ทว่าเวลานี้ ตราประทับซึ่งสร้างชื่อเสียงให้แก่นางกลับไม่อาจต้านทานแรงดาบของซูอี้ได้ เช่นนั้นจะให้นางไม่ตื่นตระหนกตกใจได้อย่างไร?

เวลานี้ คนอื่น ๆ เริ่มมองความผิดปกติแล้ว ซูอี้แสดงพลังออกมาได้โดยไม่มีท่าทีเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย

เรื่องนี้ราวกับเกินความคาดหมายของพวกเขา

“คน ๆ นี้กำลังพยายามฝืน ทุกท่านอย่าได้ร้อนใจ เมื่อเวลาผ่านไปจะต้องจัดการเขาได้อย่างแน่นอน!”

ผู้อาวุโสอันดับสองแห่งภูเขามังกรเร้นโจวอวิ๋นไห่ร้องตะโกนเสียงดัง

พอเขาพลิกฝ่ามือ หลาวสีเขียวด้ามหนึ่งก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับพายุอันร้อนแรง พลันแหวกอากาศพุ่งออกไปกระทบกับดาบนิลกาฬกลืนฟ้าของซูอี้อย่างแรงถึงกับทำให้ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าสั่นสะเทือน

ส่วนโจวถูหงร่างผอมบางผู้มีพลังลมปราณดุร้ายเฉียบขาดที่อยู่ข้างกายก็ก้าวเหยียบอากาศ สองมือชักดาบ พุ่งเข้าหาอย่างแรง

ฉึบ!

กลางอากาศราวกับมีสายฟ้าสีทองโฉบผ่าน

คมดาบสีทองเรืองอร่ามพาดผ่านท้องฟ้าสูงนับร้อยจั้งราวกับแม่น้ำสายยาวสีทองไหลร่วงลงมาจากสวรรค์ชั้นเก้า ฟ้าดินราวกับถูกฟันขาดสะบั้นในดาบเดียว

พลังดาบยังมาไม่ถึง ทว่าภาวะดาบรุนแรงกลับมาถึงก่อน

ดาบพิฆาตแหวกนภา

นี่เป็นวิชาที่โจวถูหงฝึกฝนมานานเป็นเวลาห้าสิบปี ถึงจะฝึกได้สำเร็จ

เมื่อหลายปีก่อน เขาก็อยู่ในขอบเขตไร้เบญจธัญแล้ว ทว่าวิชาดาบที่ฝึกฝนนั้นได้รับการถ่ายทอดจากสำนักวิถีดาบโบราณ กำลังการต่อสู้อันเปี่ยมล้มทั้งตัวไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถเปรียบเทียบได้

“น่ากลัวมาก!”

เสียงร้องตื่นตระหนกตกใจดังขึ้นไกล ๆ

ผู้ที่คอยดูการต่อสู้ต่างก็มีสีหน้าตื่นตระหนก หากไม่ใช่เพราะอยู่ไกล ลำพังเพียงแค่ภาวะดาบก็เพียงพอจะทำให้วิญญาณของผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปแหลกสลายกลายเป็นผุยผง!

ถึงแม้จะอยู่ไกลเพียงนี้แล้ว ทว่าเมื่อพบเห็นกับการโจมตีอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ และแม้จะไม่ได้เผชิญหน้าเอง แต่มันก็ยังคงทำให้ทุก ๆ คนอดรู้สึกหายใจไม่ออกอยู่ดี

“ฮึ!”

ซูอี้แสดงสีหน้าดูแคลน ยกมือซ้ายขึ้น นิ้วมือเรียวยาวเนียนใสประดุจหยกเกิดประกายแสงสีเขียว จากนั้นซัดฝ่ามือออกไป

ครืน!

อากาศสั่นสะเทือนโนเวลกูดอทคoม

ฝ่ามือสีเขียวสว่างเรืองรอง เรียบง่ายเป็นธรรมชาติ แต่แข็งแกร่งดุดัน โฉบไกลถึงหลายสิบจั้ง กระแทกโดนพลังดาบสีทองร้อยจั้งนั้น

ปัง!

พละกำลังร้อยจั้ง ระเบิดกระจุยในพริบตา

พลังหมัดยังคงไม่ถดถอย ถึงแม้สุดท้ายโจวถูหงจะต้านทานไว้ได้ ทว่ายังคงสั่นสะเทือนจนร่างของเขากระเด็นออกไป ดาบเกือบจะหลุดร่วงออกจากมือ

“เหตุใดเขาจึงแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้?” โจวถูหงตื่นตระหนก

เพียงดาบเดียวก็สามารถตัดสินแพ้ชนะ!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่ยังเป็นวิชาดาบที่โจวถูหงใช้เวลาฝึกฝนสั่งสมมาเป็นเวลาห้าสิบปี ทว่าซูอี้เพียงแค่ชกมาหมัดเดียวเท่านั้น ขณะเดียวกันเขายังบงการดาบนิฬกาลกลืนฟ้าฆ่าคนอีกด้วย

คนเดียวสู้คนมาก ยังแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ น่ากลัวยิ่งนัก

โจวฉางอี้กับคนอื่น ๆ มองตากัน ในสายตาฉายประกายอำมหิตโหดเหี้ยม

ทันใดนั้น…

โจวฉางอี้เคลื่อนดาบสายฟ้าอินทนิล ชักนำสายฟ้าพิฆาตสีม่วงจำนวนนับพันนับหมื่น ราวกับองค์เทพอัสนีผู้มีกำลังทำลายล้างอย่างพลิกฟ้าเหนือแผ่นดิน

โจวถูหงเหยียบฟ้าควงดาบ ใช้วิชาสุดยอดอย่างแท้จริงนำพาประกายดาบสีทองอันเรืองอร่ามไร้เทียมทานบุกตะลุยผ่านอากาศ

โจวอวิ๋นไห่ควบคุมหลาวสีเขียวให้พุ่งแทงออกไปดังลมพายุที่เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว

สิบนิ้วของโจวชิงเซวียนประสานเป็นตราประทับ ดอกบัวเบ่งบานดอกแล้วดอกเล่าจนเต็มท้องฟ้า ล้วนมีตราประทับลึกลับเกินคาดเดารวมตัวกัน ประดุจดังฝนดาวตก แผดเสียงคำรามรุนแรงออกมา

“ยังไม่พอ” ซูอี้ส่ายหน้า

ธาตุแท้ที่ถาโถมอยู่ในร่าง เวลานี้ล้วนปรากฏออกมา แม้กระทั่งเนื้อหนังภายนอกก็ยังปรากฏประกายแสงสว่างวาววับ

จากนั้น หลังจากที่เขาชักดาบฟันออกไป…

พลังดาบสีใสอันยิ่งใหญ่ร่วงลงจากฟากฟ้าราวกับภูเขาดาบโบราณห้าลูก

เขตแดนมหาดาบเบญจธาตุ!

อานุภาพดาบเช่นนั้นราวกับสามารถกดทับภูเขาแผ่นน้ำดวงเดือนดวงตะวัน

ปัง! ปัง! ปัง!

ตราประทับลึกลับทั้งหมดถูกบดขยี้ทำลายในพริบตา

โจวชิงเซวียนเซถอยหลัง สั่นสะเทือนจนถอยร่นไปไกลหลายสิบจั้ง ใบหน้างดงามขาวซีดยิ่งกว่าเดิม

ถัดมา เกิดมีเสียงดัง หลาวสีเขียวยิงย้อนออกไป ส่งเสียงดังสนั่นฟ้า ผิวนอกของหลาวปรากฏรอยร้าวเล็ก ๆ มากมายหลายรอย

โจวอวิ๋นไห่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บใจ

มีแต่เพียงโจวฉางอี้กับโจวถูหงเท่านั้นที่ไม่ได้รับความกระทบกระเทือน ทว่าดาบของซูอี้ที่ฟันลงมานั้นยังทำให้ร่างของพวกเขาสั่นคลอน น่าสมเพชยิ่งนัก

อานุภาพดาบเล่มเดียว แข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้!

ทั้งในและนอกสนามประลอง ไม่มีใครไม่ตื่นตระหนก

“ซี้ด”

โจวซานเจี่ย โจวเป่ยหลิน จี้เหอ และอวิ๋นจงฉีที่อยู่ไกลออกไป ยังไม่ทันได้ลงมือก็ถึงกับสูดปากอย่างพร้อมเพรียงกัน

ตามที่ทราบกันว่าโจวฉางอี้ โจวถูหง โจวอวิ๋นไห่ กับโจวชิงเซวียนล้วนมีระดับการฝึกที่เหนือกว่าตัวตนอย่างโหยวเทียนหงมาก แม้กระทั่งโจวชิงเซวียนผู้อ่อนหัดที่สุดก็ไม่ได้ด้อยเลยแม้แต่น้อย

สี่คนนี้ร่วมมือกันย่อมสามารถต่อสู้กับซูหงหลี่ตอนที่ถูกมารปีศาจครอบงำได้

ทว่าซูอี้คนเดียวต่อสู้กับคนสี่คนนี้ กลับยังเป็นฝ่ายได้เปรียบ!

“ข้าลองดู!” โจวซานเจี่ยลงมือ

เขาย่างออกมาก้าวหนึ่ง ดันฝ่ามือข้างหนึ่งออกมา

ฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่มหึมาปรากฏขึ้นกลางอากาศ แสงพุทธรังสียิ่งใหญ่ครอบคลุมฟ้าดิน ดุจดังพระพุทธพันจั้งใช้มือใหญ่ขนาดเท่าฟ้ากดแผ่นดินให้ยุบลง

ครืน!

ก่อนที่ฝ่ามือพระพุทธสีทองจะมาถึง บรรยากาศรอบตัวซูอี้ก็ถล่มทลาย ความวินาศปั่นป่วนที่เกิดขึ้นราวกับกำลังร่ำร้องคร่ำครวญอย่างเวทนา

“น่าสนุก วิชานี้ไม่ธรรมดาเลย”

สายตาของซูอี้ผุดประกายสนใจเล็กน้อย

โจวซานเจี่ยคนนี้ พละกำลังในกายแข็งแกร่งมาก เลือดลมในตัวผสานทั้งในและนอก ชักนำพลังแห่งฟ้าดิน ฝ่ามือเดียวกลับมีอานุภาพยิ่งใหญ่น่าตื่นตะลึง เห็นได้ว่าวิชาที่ฝึกนั้นคงจะเป็นเคล็ดวิชาฝึกกายแห่งสำนักพุทธ

“แต่น่าเสียดาย ยังคงไม่พอเหมือนเดิม”

ซูอี้ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ใช้กำลังร่างกายในแบบเดียวกันกดนิ้วออก

ดาบแห่งดวงดาว!

ดวงดาวปรากฏดวงแล้วดวงเล่า ส่องแสงสีใสสว่าง ประกอบกันเป็นเกลียวคลื่นหมู่ดาว ชักพาอากาศโดยรอบให้แปรผันอย่างรุนแรง

เพล้ง!!!

เมื่อฝ่ามือพุทธะสีทองปะทะกับเกลียวคลื่นหมู่ดาว อากาศในบริเวณนั้นราวกับแตกระเบิด ฝนแสงอันเฉิดฉายดุจดังสายน้ำเชี่ยวกรากกลบทับทุกสิ่ง

เพียงแค่ชั่วพริบตา ร่างของโจวซานเจี่ยก็สั่นสะเทือนราวกับถูกพายุมรสุมซัดกระหน่ำ ราวกับว่าวที่เชือกขาด กระเด็นออกไปไกลหลายสิบจั้งจึงสามารถหยุดยั้งตัวเองได้

โจวซานเจี่ยตื่นตะลึง

หนึ่งหมัดกับหนึ่งเท้าของเขามีพลังช้างสารและมังกร สามารถบั่นแม่น้ำตัดภูเขา ทว่าพละกำลังของซูอี้เปรียบได้กับเทพอสูรซึ่งมีพลังไร้ขอบเขตดังที่กล่าวขานในตำนาน แข็งแกร่งยิ่งนัก!

“ทุกท่าน ลงมือพร้อมกันเถอะ ซูอี้คนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจไม่เคยพบมาก่อน” โจวฉางอี้กล่าวเสียงเคร่งขรึม

คนอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้า

ครืน! ครืน! ครืน!

แรงพิฆาตอันยิ่งใหญ่สะท้านฟ้าแต่ละสายพุ่งทะลุขึ้นชั้นเมฆ ครอบคลุมไปทั่วสี่ทิศแปดทิศทาง กดทับจนอากาศโดยรอบแตกร้าว

เพียงแค่ชั่วพริบตา กลุ่มมังกรเร้นทั้งหกก็ลงมือพร้อมกัน

สายฟ้าอินทนิลประดุจน้ำตก ประกายดาบเจิดจรัสทั่วท้องฟ้า หลาวเขียวร่ายรำ ตราประทับนับไม่ถ้วน…

พละกำลังหกแบบที่แตกต่างกันแฝงไว้ซึ่งพละกำลังอันยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน ดุจดังแม่น้ำใหญ่หกสายร่วงหล่นจากสวรรค์ พุ่งตรงไปหาซูอี้ในฉับพลัน

ชั่วขณะนี้ ดวงตาลุ่มลึกของซูอี้คู่นั้นส่องสว่าง เขารอคอยมานานมากแล้ว

ตัดขาดสัมพันธ์กับตระกูลซูแล้ว ทำให้เขาหมดแล้วซึ่งความคับข้องใจ ไม่มีพันธะผูกพันอันใดอีก จิตใจและร่างกายมีความสมบูรณ์เพียบพร้อม

ตอนนี้ เขาต้องการยืมการต่อสู้ในครั้งนี้เพื่อย่างก้าวเข้าสู่ขอบเขตแห่งบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์!

จิตต่อสู้ทั่วร่างคล้ายกับภูเขาไฟที่สงบนิ่งมานานถูกจุดระเบิดขึ้นมา

ซ่า!!!

เลือดโลหิตในร่างของเขาถาโถมซัดกระหน่ำราวกับคลื่นในแม่น้ำกว้าง อวัยวะทั้งห้าส่งเสียงดังราวกับสายฟ้าฟาด ร่างสูงโปร่งของเขารายล้อมด้วยแสงสีเขียวใสอำพัน ล้ำลึกจนยากนักจะคาดเดา

“ฟัน!”

ประกายในสายตาของซูอี้ขยายตัว จิตต่อสู้เดือดพล่าน ดาบนิลกาฬกลืนฟ้าในมือส่งเสียงดังสะท้านฟ้า ฟาดฟันออกไป!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset