📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 334

บทที่ 334 - ผู้คนต่างจับจ้อง แต่เขายังคงสงบนิ่ง
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ในกลางดึกที่วังหลวง

จักรพรรดิโจวรู้สึกไม่สบายใจ กล่าวว่า “ตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน นักพรตเต๋านั่นปรากฏตัวขึ้นในอากาศพร้อมกับซูหงหลี่ จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ชื่อและที่มาของเขา ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเคลื่อนไหวในคืนนี้”

ในพริบตาคนผู้นี้ถึงกับบังคับให้ราชาสะกดขุนเขาและคนอื่น ๆ คุกเข่าลงได้อย่างง่ายดาย …ความแข็งแกร่งเช่นนี้น่ากลัวเกินไป!

ในท้องพระโรง หงเซินชางกล่าวว่า “ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้ข้าบอกท่านแล้วว่าบุคคลผู้นี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เหตุการณ์ในคืนนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันที่ดี”

หลังจากหยุดชั่วคราวเขาก็กล่าวต่อ “ฝูอวิ๋นหลางผู้อาวุโสสูงสุดจากสำนักดาบจรัสฟ้าจบแดนเป็นหนึ่งในสามนักดาบที่มีอำนาจมากที่สุดในต้าฉิน แต่ถึงแม้เขาจะปรากฏตัวในคืนนี้ เขาก็ไม่ได้กระทำการอันใดโดยพลการ นี่แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของชายชราผู้นั้นช่างน่าสะพรึงกลัวเพียงใด”

จักรพรรดิโจวขมวดคิ้ว พูดว่า “นี่อาจเป็นไพ่ตายของซูหงหลี่ใช่หรือไม่?”

หงเซินชางส่ายหัว “ถ้าเป็นไพ่ตาย ในคืนนี้มันจะถูกเปิดเผยได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงที่นักพรตนั่นเชื่อฟังซูหงหลี่อีก ด้วยมันหมายความว่าคนที่น่ากลัวจริง ๆ คือซูหงหลี่!”

จักรพรรดิโจวสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วกล่าวว่า “เมื่อสิบปีที่แล้ว เมื่อซูหงหลี่เริ่มใช้ชีวิตอย่างสันโดษ หลังจากผ่านมานานขนาดนั้น ผลการฝึกของซูหงหลี่จะแข็งแกร่งถึงเพียงใด?”

น้ำเสียงนั้นเคร่งขรึม

หงเซินชางเงียบไปครู่หนึ่ง และคราวนี้เขากล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ฝ่าบาท คำตอบจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า”

……

“นักพรตนั่นแท้ที่จริงแล้วมาจากที่ใด?”

คืนนี้ ณ นครหลวงอวี้จิง ไม่รู้ว่ามีคนคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้สักกี่คน

อีกทั้งในเวลานี้ ผู้คนยังค้นพบว่ามีผู้ที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ข้าง ๆ ซูหงหลี่!

“ก่อนหน้านี้ ข้าไม่ได้จับตามองซูหงหลี่ แต่ท้ายที่สุดซูอี้สามารถสังหารโหยวเทียนหงที่อยู่ในขอบเขตไร้เบญจธัญขั้นสมบูรณ์แบบได้ เขาจะไม่สามารถกำจัดซูหงหลี่ได้อย่างไร?”

“แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินซูหงหลี่ต่ำไป!”

ผู้อาวุโสบางคนถอนหายใจ

“ถ้าคู่พ่อลูกคู่นี้เผชิญหน้ากันจริง ๆ ใครแข็งแกร่งกว่ากัน?”

“แน่นอนว่าต้องเป็นซูอี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้สังหารเทพเซียนเดินดินโหยวเทียนหงและหลี่ฉางหนิง แม้แต่ฉือเฟิงหลิวก็ตื่นตกใจและหนีไปด้วยความอับอาย มองดูทั่วต้าโจวนี้สิ ใครจะอยากเป็นศัตรูกับเขากัน?”

“ไม่จำเป็น! ซูหงหลี่อยู่อย่างสันโดษมาสิบปีแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาแข็งแกร่งเพียงใด ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขายังไม่แข็งแกร่งพอ เขาจะมีนักพรตลึกลับผู้นั้นอยู่ข้างเขาได้อย่างไร?”

คืนนี้ เนื่องจากการปรากฏตัวของชายชราในชุดเสื้อคลุม ผู้คนจึงค้นพบ ว่าไม่ว่าจะเป็นซูหงหลี่หรือซูอี้ พ่อและลูกชาย ก็เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าเป็นผู้ใดที่ลึกลับและแข็งแกร่งกว่ากัน!

นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

“ในวันที่สี่เดือนห้า ความจริงทั้งหมดจะถูกเปิดเผย!”

ในคืนนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ในนครหลวงอวี้จิงต่างตั้งตารอคอยสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันที่สี่เดือนห้า

……

วันที่สามเดือนห้า

องครักษ์เงามังกรถูกส่งไปดูแลพื้นที่สิบลี้รอบตระกูลซู ผู้คนซึ่งตั้งรกรากอยู่บริเวณนั้นทยอยจากไป

ตำหนักเทียนหยวน แคว้นกุ่น

หนิงซือฮวายืนอยู่คนเดียวริมทะเลเมฆบนยอดเขา นางเอ่ยเบา ๆ “พรุ่งนี้แล้วสินะ… ทว่าช่างน่าเสียดายนักที่ข้าไม่สามารถไปดูการต่อสู้ด้วยตนเองได้ … ”

มีความเสียใจบนใบหน้าที่อ่อนเยาว์และสวยงามเหมือนเด็กสาวของนาง

จากนั้นหนิงซือฮวาก็หันไปมองฉาจิ่นที่มีเสน่ห์สวยงามซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกล ดวงตางามงดของอีกฝ่ายมองจ้องไปยังที่แสนไกลราวกับตกอยู่ในภวังค์ ท่าทางของฉาจิ่นดูวิตกกังวลเป็นอย่างมาก

หนิงซือฮวาเดินไป ก่อนจะยิ้มและให้ความมั่นใจ “ไม่ต้องกังวลไป ไม่มีผู้ใดในโลกสามัญนี้ที่สามารถฆ่านายน้อยของเจ้าได้”

ฉาจิ่นพ่นลมหายใจ ตื่นจากภวังค์และพูดอย่างเขินอาย “ข้ารู้ ทว่าก็อดกังวลไม่ได้”

คนทั้งสองต่างไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม

…ที่กังวลก็เพราะใส่ใจและห่วงใย

ในส่วนลึกของหัวใจ พวกนางจะสงบได้อย่างไร?

ภายในอาคารไม้ไผ่

เหวินหลิงเสวี่ยนั่งริมหน้าหน้าต่าง ใช้มือหยกเท้าคาง ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและงดงามนิ่งไป ก่อนพูดกับตัวเองว่า “ซูอี้ ท่านจะต้องไม่เป็นไร…”

ในอีกด้านหนึ่ง เหวินหลิงเจากำลังชงชา ซึ่งแม้ว่าท่าทีของนางจะเย็นเยียบราวกับหิมะ โดดเดี่ยวราวกับน้ำแข็ง แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย

ยังจำได้ดี… ตอนที่คนผู้นั้นบอกว่าตัวเองจะไปยังตระกลูซูเพื่อยุติการแต่งงาน ตอนนั้นนางมองว่ามันไร้สาระและยากจะเชื่อ จึงนำไปสู่การโต้เถียงกับเขาอย่างรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้

แต่ใครจะคิดว่าในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เขาจะทำให้ดินแดนแห่งนี้วุ่นวาย และกลายเป็นคนหนุ่มที่เปล่งประกายซึ่งถูกกล่าวถึงที่สุดในต้าโจว!

เมื่อเหวินหลิงเจานึกเรื่องทั้งหมดนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะตัวเอง …หรือควรโทษตัวเองที่มีตาหามีแววไม่?

“ท่านพี่ ท่านพี่ซูจะไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

เฝิงเสี่ยวหรานเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไปยังพี่ของนางเฝิงเสี่ยวเฟิงด้วยดวงตาที่ลึกล้ำและงดงาม

“แน่นอน!”

เฝิงเสี่ยวเฟิงตอบโดยไม่ลังเล

……

วันที่สี่เดือนห้า

ก่อนรุ่งสาง ผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากจากทั่วทั้งดินแดนออกเดินทางก่อนกำหนด โดยรีบไปยังพื้นที่ซึ่งตระกูลซูตั้งอยู่ในนครหลวงอวี้จิง

ในหมู่พวกเขามีผู้ฝึกตนหลายคนมาจากต้าโจว ต้าเว่ย และต้าฉิน

พวกเขากังวลว่าจะไปสายเกินและจะไม่สามารถคว้าจุดที่ดีที่สุดในการชมการประลองได้

“การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะดึงดูดผู้ยิ่งใหญ่มาได้มากน้อยเพียงใด เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่ที่ดึงดูดความสนใจจากทั่วทั้งดินแดนและไม่ได้เกิดขึ้นมาเกือบร้อยปีแล้ว”

ชิงจินกระซิบ

นางมาพร้อมกับเซียนฮัวซง

เมื่อเร็ว ๆ นี้นางได้รับรู้ข่าวสารมากมาย จึงพอจะทราบบ้างว่าการประลองที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ดึงดูดความสนใจจากผู้ฝึกตนของต้าโจว ต้าเว่ย และต้าฉินมากเพียงใด

เพียงแต่นางยังทำใจได้ยากไม่น้อย เมื่อทราบว่าหนึ่งในตัวเอกของการต่อสู้ครั้งนี้คือซูอี้!

ยังจำได้เมื่อสองหรือสามเดือนก่อน ณ มหานครอวิ๋นเหอ ชายหนุ่มยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์

แต่ตอนนี้เขากลับมีชื่อเสียงเขย่าโลก!โน เวล กู ดoท คoม

“ข้าแค่หวังว่าคุณชายซูจะชนะ…”

“ฮึ!”

เซียนฮัวซงที่อยู่ด้านข้างแสดงความไม่พอใจ “ข้ารู้ว่าซูอี้เคยช่วยชีวิตเจ้า แต่อย่าลืมว่าซูอี้ผู้นี้เป็นศัตรูของสำนักดาบมังกรเร้นเราด้วย!”

……

“ท่านอาจารย์ ท่านคิดว่านายน้อยซูจะสามารถชนะการประลองครั้งนี้ได้หรือไม่?”

ระหว่างทางไปบ้านของตระกูลซู หลานซัวก็อดที่จะถามไม่ได้

“ยากที่จะพูด”

อาจารย์อวิ๋นหลางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “การต่อสู้ครั้งนี้มีตัวแปรมากมาย ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครคาดเดาได้ว่าใครจะแพ้หรือชนะ”

หลานซัวตกตะลึงพลางกระซิบ “แต่ข้าอยู่ข้างเดียวกับคุณชายซู”

อาจารย์อวิ๋นหลางยิ้มและกล่าวว่า “เขาช่วยชีวิตเจ้า ดังนั้นเจ้าจึงอยู่ข้างเขาเช่นนั้น แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นจริง ๆ จงอย่าหุนหันพลันแล่น ตอนนี้นครหลวงอวี้จิงแห่งนี้เต็มไปด้วยเสือหมอบมังกรซ่อน ผู้คนที่แข็งแกร่งต่างมารวมกัน ณ ที่แห่งนี้ ก่อนที่ซูอี้และตระกูลซูจะตัดสินรู้ผลแพ้ชนะจริง ๆ อย่าลืมว่าอย่าออกหน้าเกินไป มิฉะนั้นเกรงว่าจะตกเป็นเป้าของศัตรูที่มุ่งหมายเอาชีวิตซูอี้! และหากมีศัตรูที่หมายชีวิตซูอี้จริง ๆ เราก็ค่อยช่วยสนับสนุนเขาอย่างลับ ๆ เป็นพอ”

หลานซัวฮัมเพลง ปากกล่าวอย่างมีความสุข “อาจารย์ ข้ารู้ว่าท่านจะไม่เปลี่ยนใจ!”

……

หากมองจากฟากฟ้า

จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในพื้นที่โดยรอบซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ตระกูลซู มีผู้คนจำนวนมากกำลังเดินทางจากทุกทิศทุกทาง

อัดแน่นราวกับคลื่นซัด

อย่างไรก็ตามผู้ที่กล้าเข้าใกล้พื้นที่บริเวณนี้ต่างล้วนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของดินแดน

“ดูนั่น ผู้อาวุโสจี้เหอจากวัดซ่างหลินอยู่ที่นี่แล้ว!”

มีเสียงตะโกนดังขึ้น

ก่อนจะเผยให้เห็นหลวงจีนชรานุ่งห่มจีวรที่ดูมีเมตตา เป็นผู้นำขบวนบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนจากต้าฉินเดินตรงเข้าไป

ภาพตรงหน้าดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก

หลังจากการปรากฏตัวของจี้เหอและคนอื่น ๆ เพียงไม่นานอวิ๋นจงฉีผู้อาวุโสแห่งสำนักวงเดือน ซึ่งมีเคราและผมเป็นสีขาวก็มาถึงพร้อมกับคณะทูตจากต้าเว่ย

อวิ๋นจงฉีถือตราลัทธิเต๋าไว้ในมือข้างหนึ่ง ขณะที่มืออีกข้างถือแส้ปัด การปรากฏตัวของคนกลุ่มนี้ทำให้เกิดความโกลาหลในสถานที่แห่งนั้น

ไม่ว่าจี้เหอหรืออวิ๋นจงฉีจะไปที่ใด พวกเขาก็เป็นจุดสนใจของผู้คนเสมอ

ในบริเวณใกล้เคียงตระกูลซู ณ ปัจจุบัน เนื่องจากมีผู้คนมากมาย ดังนั้นพวกเขาจึงกลมกลืนไปกับผู้คนที่อยู่ที่นั่น

ในเวลาต่อมา ฉือเฟิงหลิวและเซียนฮัวซงแห่งสำนักดาบมังกรเร้นก็มาถึงทีละคน

เก๋อฉางหลิง ราชากลืนสมุทรที่ผู้คนไม่ได้พบเห็นในโลกมาหลายปีก็มาเช่นกัน!

เมื่อหญิงสาวสวมชุดขาวถือดาบเยว่ซือฉานราชาขนนกที่งดงามราวภาพวาดมาถึง ก็ยังคงเหมือนกับตอนที่อยู่บนยอดเขาจิ่วจี้ ที่มีหลายสายตาจ้องมองนางอย่างตกตะลึง

การมาถึงของอวิ๋นหลางผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักดาบจรัสฟ้าจบแดนก็ทำให้เกิดความโกลาหลในสถานที่แห่งนั้นเช่นกัน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ต่างตกตะลึง

ราวกับอยู่ในตำนาน เทพเซียนเดินดินที่ราวกับเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหางต่างหลั่งไหลกันเข้ามาเรื่อย ๆ!

นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย

แสงแรกของอรุณรุ่งตัดผ่านความมืดเหนือนครหลวงอวี้จิง และใกล้กับจวนตระกูลซู ขณะนี้มันก็ได้เนืองแน่นไปด้วยผู้แข็งแกร่งมากมาย!

ภายในตระกูลซู

โหยวชิงจือและซูป๋ออิ๋นรออย่างใจจดใจจ่อที่ด้านนอกลานชิงอู๋ พวกเขาทั้งกังวลและตื่นเต้น

ไม่ไกลจากพวกเขา ผู้มีอำนาจของตระกูลซูก็รออยู่ที่นั่นแต่เนิ่น ๆ และอารมณ์ของทุกคนก็ล้วนซับซ้อนเป็นอย่างมาก

วันนี้ตระกูลซูของพวกเขาเป็นจุดสนใจของทั่วทั้งดินแดน

และในเวลาเดียวกัน การต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ก็เกี่ยวข้องกับชีวิตและความตายของตระกูลซูของพวกเขาเช่นกัน!

ภายในลานชิงอู๋

ซูหงหลี่เปลี่ยนมาสวมเสื้อคลุมสีดำ ผมยาวของเขาถูกมัดเป็นมวย ร่างสูงใหญ่ของเขาอาบแสงยามเช้า ดูราวกับภูเขาโดดเดี่ยวที่ตั้งตระหง่านระหว่างฟ้าดิน ให้ความรู้สึกมั่นคงไม่สั่นคลอน

เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วกล่าวว่า “สิบปีที่ผ่านมา ข้ารอคอยให้โลกอันวิจิตรนั้นมาถึง และข้ารู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะแสดงความแข็งแกร่งในโลกนี้ แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะต้องแสดงพลังของข้าล่วงหน้าเพราะคนผู้นั้น!”

ทันทีที่เขาถอนสายตา “เอาล่ะ วันนี้จะให้ผู้คนได้เห็นวิธีการของข้าซูหงหลี่”

ซูหงหลี่เอามือไพล่หลัง เดินไปทางลานชิงอู๋

ชายชราในชุดคลุมเดินตาม

เมื่อรุ่งอรุณมาถึง

ซูอี้ยังคงเป็นเช่นเดิม ล้างหน้าแปรงฟัน ฝึกฝน และกิน

ทำทุกอย่างเหมือนเดิม และการที่เขากำลังจะเผชิญหน้ากับตระกูลซูในวันนี้ก็ไม่มีผลกระทบต่อการบ่มเพาะของเขาอย่างแน่นอน

ประสบการณ์ที่ผ่านมามากมาย เหมือนลมเย็นที่พัดผ่านใบหน้า

ศึกใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในความสงบ

เมื่อซูอี้เดินออกจากลานซงเฟิงเปี๋ย ฟางหยวนที่ขับรถม้าก็รออยู่ที่นั่นแล้ว

ซูอี้เข้าไปในรถม้าและออกคำสั่งอย่างเป็นกันเองว่า “หลังจากที่พาข้าไปที่ตระกูลซูแล้ว กลับมาอุ่นเหล้าไว้หนึ่งเหยือก และอย่าลืมซื้อปลาจาระเม็ดย่างให้ข้าด้วย”

ฟางหยวนตกตะลึง

เป็นเพียงคำพูดธรรมดา ๆ เท่านั้น ทว่าเพราะเป็นเช่นนั้น มันจึงทำให้จิตใจของเขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก!

…ราวกับในที่เงียบสงัดมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset