📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 327

บทที่ 327 - ใครบ้างในโลกหล้าที่สามารถชนะเขาได้?
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

จากระยะไกล เยว่ซือฉาน สตรีผู้ซึ่งมีรูปลักษณ์อยู่ในวัยสิบหกหรือสิบเจ็ดปีอย่างน่าประหลาดเพราะจากประวัติของนางนั้นย่อมมีอายุมากกว่านี้มากกำลังแสดงสีหน้าตกตะลึง

ตัวตนที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะในตำนานมาหลายปีอย่างนางยังไม่สามารถที่จะสงบใจได้เมื่อเห็นความแข็งแกร่งของซูอี้

ตัวตนที่ทรงพลังเช่นโหยวเทียนหงถูกซูอี้สังหารด้วยดาบเดียวนั้นเป็นสิ่งที่นางไม่คาดคิด

“อมิตาพุทธ สรรพสิ่งล้วนไม่มีสิ่งใดจีรังแน่นอน…”

จี้เหอ หัวหน้าผู้อาวุโสอารามหลานฮั่นวัดซ่างหลินพนมมือก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าซับซ้อน

โหยวเทียนหงมาจากต้าฉินเช่นเดียวกับเขา และเขารู้ดีที่สุดว่าความยิ่งใหญ่ของโหยวเทียนหงในต้าฉินนั้นมากมายเพียงใด

ไม่เกินจริงไปเลยหากจะบอกว่าด้วยความแข็งแกร่งของโหยวเทียนหง สามารถติดอันดับหนึ่งในห้าสุดยอดผู้บ่มเพาะของต้าฉิน

แต่ตอนนี้ โหยวเทียนหงกลับพ่ายแพ้แก่ซูอี้ซึ่งอยู่ในขอบเขตปรมาจารย์ขั้นสี่เท่านั้น!

ฉือเฟิงหลิวตัวเย็นเฉียบ คิ้วขมวดแน่นอย่างไม่อาจควบคุม

การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เขาต้องหลั่งเหงื่อเย็น โดยเฉพาะเมื่อนึกย้อนไปถึงครั้งนั้นที่แม่น้ำชิงหลาง หากเขาไม่ได้ล่าถอยทันเวลา ชีวิตของเขาคงจบลงเช่นโหยวเทียนหง!

อวิ๋นจงฉีกำดาบในมือแน่นก่อนจะลอบถอนหายใจ

ก่อนหน้านี้เขาได้วางแผนว่าจะฉวยโอกาสจู่โจมซูอี้ แต่ขณะนี้สัญชาตญาณได้บอกกับเขาว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดที่จะฉวยโอกาส

ซูอี้แข็งแกร่งเกินไป!

การต่อสู้ตั้งแต่ต้นจนจบ ซูอี้ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย และดาบที่สังหารโหยวเทียนหงนั้นก็น่าสะพรึงกลัวพอที่จะทำให้อวิ๋นจงฉีรู้สึกหนาวสั่น

หงเซินชางเงียบงัน คิ้วของเขาขมวดราวกับว่าเขาประสบปัญหาใหญ่

ไกลออกไปมาก ชายชราในชุดพรตเต๋าซึ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชนมาโดยตลอด คลายมือของเขาซึ่งถูกปกปิดอยู่ในแขนเสื้อยาว เขาส่ายหัวอย่างลับ ๆ และหันหลังกลับอย่างเงียบ ๆ

ณ เวลานี้ ทุกอย่างเงียบเชียบราวกับโลกหยุดลง

ผู้ชมทั้งหมดตกตะลึงจนไม่อาจกล่าวสิ่งใด

พวกเขามองดูคนหนุ่มที่ลอยอยู่บนอากาศในระยะไกลออกไป หัวใจของพวกเขาพลันเต้นระทึก อารมณ์ของพวกเขาหลากหลายมีทั้งความตกใจ ความริษยา และความกลัวอย่างสุดจะพรรณนา

“มนุษย์ธรรมดามีพลังพอที่จะสังหารเทพเซียนเดินดินได้อย่างไร?”

ชายชราผู้หนึ่งตัวสั่น พึมพำด้วยสีหน้าทั้งประหลาดใจ ตกตะลึง และหวาดเกรงอย่างสุดแสน

ก่อนการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะประเมินซูอี้แข็งแกร่งมากเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่าซูอี้จะไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยเช่นนี้หากโหยวเทียนหงงัดไม้ตายก้นหีบออกมาใช้

ต้องรู้ว่าการโจมตีครั้งสุดท้ายของโหยวเทียนหงนั้นสามารถคุกคามได้แม้กระทั่งเทพเซียนเดินดินขอบเขตเปิดทวาร!

แต่ในท้ายที่สุดโหยวเทียนหงก็ยังแพ้…

หากซูอี้เป็นผู้บ่มเพาะวิถีต้นกำเนิดเช่นกัน พวกเขาคงทำใจได้ง่าย

แต่ขณะนี้ซูอี้เป็นเพียงผู้บ่มเพาะขอบเขตหลอมกำเนิดขั้นสี่ หรือเรียกอีกอย่างก็คือปรมาจารย์ขั้นสี่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการสังหาร เพราะไม่เคยมีบันทึกใดที่เคยบันทึกเอาไว้ด้วยซ้ำว่าผู้ที่อยู่ในขอบเขตปรมาจารย์จะสามารถต่อกรกับเทพเซียนเดินดินได้เกินหนึ่งกระบวนท่า ดังนั้นการที่ซูอี้สามารถสังหารเทพเซียนเดินดินขอบเขตไร้เบญจธัญขั้นสมบูรณ์แบบได้ด้วยดาบเดียวเช่นนี้มันจึงน่ากลัวจนเกินไป!

“พี่ซูชนะ!”

มู่ซีในที่สุดก็สามารถยิ้มได้

ผูอี้ เจียงถานอวิ๋น หลูฉางเฟิง และคนอื่น ๆ รอบตัวเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

การต่อสู้ที่พวกเขาเพิ่งรับชมนั้นรุนแรงและระทึกใจมากจนจิตใจของพวกเขาจดจ่อและตึงเครียด ตอนนี้เมื่อพวกเขาผ่อนคลายลง พวกเขาก็พบว่าแผ่นหลังของพวกเขาต่างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ ในดินแดนต้าโจวทั้งหมด ใครกันที่ยังสามารถเป็นคู่มือของซูอี้ได้อีก?”

ผู้ยิ่งใหญ่บางคนเริ่มคิดถึงผลลัพธ์หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้

ซูอี้สังหารโหยวเทียนหงด้วยดาบเดียว ความแข็งแกร่งที่ซูอี้แสดงออกมาในครั้งนี้หากนับเพียงในต้าโจวก็คงพูดได้ว่าอยู่ในห้าอันดับต้นแน่นอน!

และปีนี้เขาอายุเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น หากเขาเติบใหญ่ขึ้นกว่านี้ อนาคตเขาจะกลายเป็นปีศาจแบบไหนกัน?

เคร้ง!

ซูอี้เก็บดาบนิลกาฬกลืนฟ้าของตนเอง จากนั้นเขาก็คว้าดาบสีเงินที่โหยวเทียนหงทิ้งไว้

เขาเพ่งพินิจมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกวาดสายตามองทุกคนในระยะไกล

“ก่อนหน้านี้ ข้าซูอี้ได้ยินมาว่ามีหลายคนต้องการชีวิตของข้าก่อนที่ข้าจะไปถึงนครหลวงอวี้จิง ข้าเชื่อว่าเวลานี้คือฤกษ์งามยามดีที่พวกเจ้าทั้งหลายซึ่งมีความคิดอ่านเช่นนั้นจะยืนขึ้นและดาหน้าเข้ามาหาข้าพร้อม ๆ กัน”

สีหน้าของซูอี้ยังคงเฉยเมย แต่คำพูดทุกคำของเขาดังชัดเจนเต็มสองรูหูของคนทุกหมู่เหล่า

หลังจากได้ยินประโยคนี้ของซูอี้ บรรยากาศอันเงียบงันก็ถูกทำลายในทันที เหล่าตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งหลายเกือบจะสำลักลมหายใจของตนเอง

สังหารโหยวเทียนหงไปแล้วยังไม่พออีกหรือ?

เทพเซียนเดินดินเช่น จี้เหอ อวิ๋นจงฉี และ ฉือเฟิงหลิวต่างเงียบงัน

ในเวลานี้ แม้ซูอี้จะเพิ่งฆ่าโหยวเทียนหงไปหมาด ๆ ทว่าพลังของซูอี้ยังดูเปี่ยมล้น ใครเล่าจะโง่ขนาดที่จะกระโดดออกไปเผชิญหน้ากับซูอี้ในเวลานี้?

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครกล้าตอบ

เมื่อเห็นเช่นนี้ ซูอี้ส่ายหัวครู่หนึ่งก่อนจะร่อนลงไปที่พื้น

“สหายเต๋าซู ก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้นท่านได้พูดคำว่า ‘น่าเสียดายนัก’ หากท่านไม่ถือสาโปรดบอกพวกเราสักหน่อยจะได้หรือไม่ว่ามันหมายความว่าอย่างไร?”

ชายชราผู้หนึ่งอดไม่ได้ที่จะถาม

ทันทีที่คำพูดนี้ดังออกไป มันดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากในทันที และพวกเขาทั้งหมดต่างก็จำได้ว่าซูอี้เคยพูดคำ ๆ นี้ที่ฟังแล้วเป็นปริศนาจริง ๆ ก่อนที่จะเริ่มต่อสู้กับโหยวเทียนหง

“เรื่องเล็กน้อยแค่นั้น ข้าสามารถบอกเจ้าได้”

ซูอี้พูดอย่างเฉยเมย “ข้าเพียงรู้สึกว่าโหยวเทียนหงได้รับโชควาสนาช้าเกินไป หากเขาได้สืบทอดวิถีปราชญ์ตั้งแต่ตอนที่เขายังอยู่ในขั้นวิถียุทธ์ มรดกที่เขาได้รับการสืบทอดมามันคงช่วยให้รากฐานของเขาแข็งแกร่งเกินกว่าที่ผู้ใดจะจินตนาการได้ ซึ่งหากเป็นในกรณีนั้น หากข้าต้องการจะฆ่าเขา ข้าก็คงต้องอาศัยความพยายามมากกว่านี้”

“แต่ทว่าน่าเสียดายที่เขาสืบทอดมรดกนั้นหลังจากที่เขาก้าวเข้าสู่วิถีต้นกำเนิดไปแล้ว ดังนั้นข้อบกพร่องของเขาที่มีอยู่ในยามที่เขาบ่มเพาะสี่ขอบเขตแรกแห่งวิถียุทธ์จึงไม่ได้รับการแก้ไขเป็นผลให้เขาไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควรจะเป็น”

หลังจากฟังสิ่งนี้ ทุกคนต่างตกตะลึง จิตใจของทุกคนปั่นป่วนอีกครั้ง

ปรากฏว่าก่อนจะเริ่ม ซูอี้รู้อยู่แล้วว่าตนเองมีชัยชนะที่แน่นอน!

“ความแข็งแกร่งของสหายเต๋าซูที่สำแดงออกให้เราเห็นในวันนี้ทำให้ข้าและคนอื่น ๆ ต่างประทับใจ แต่เราทุกคนต่างก็สงสัย ในวันที่สี่เดือนที่ห้า สหายเต๋าซูอยากจะห้ำหั่นกับซูหงหลี่บิดาของท่านจริง ๆ หรือ?”

ในตอนนี้อวิ๋นจงฉีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงก้องกังวานnovelgu.com

ซูหงหลี่!

ผู้นำตระกูลซูแห่งนครหลวงอวี้จิง ชายผู้ลึกลับที่แสนจะน่ากลัวและไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวทางโลกมามากกว่าสิบปี ข่าวที่เกี่ยวกับเขาแทบทั้งหมดถูกปิดกั้น ไม่มีใครรู้ว่าซูหงหลี่แข็งแกร่งเพียงใดในวันนี้

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนมั่นใจว่าเมื่อสิบปีที่แล้ว ซูหงหลี่เป็นตำนานที่โดดเด่นมากในต้าโจว!

อิทธิพลและความโด่งดังของซูหงหลี่นั้นไม่ได้เป็นรองราชครูหงเซินชางแม้แต่น้อย!

ในฐานะที่เป็นบุตรชายของซูหงหลี่ ความขัดแย้งระหว่างซูอี้และตระกูลซูแห่งนครหลวงอวี้จิงจึงเป็นที่ล่วงรู้กันมานานแล้วสำหรับทุกคน

ใครบ้างจะไม่สงสัยว่าพ่อลูกคู่นี้จะมีการต่อสู้แบบไหน?

“ธุระของข้าเกี่ยวอะไรกับเจ้า?”

ซูอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยและเหลือบมองที่อวิ๋นจงฉี

ใบหน้าของอวิ๋นจงฉีแข็งค้างก่อนจะเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว เขารู้สึกเสียหน้าอย่างรุนแรงที่ถูกปฏิเสธในที่สาธารณะเช่นนี้

ซูอี้เพิกเฉยต่อเขาและหันหลังกลับ

จนกระทั่งร่างของซูอี้หายไป… ไม่มีใครกล้าหยุดเขาตั้งแต่ต้นจนจบ!

ในวันเดียวกันนั้น

หลังจากที่เหล่าผู้ชมรีบแยกย้ายกันไป ข่าวการต่อสู้ครั้งนี้ขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศและแน่นอนว่าไปถึงนครหลวงอวี้จิงรวดเร็วราวกับสายฟ้า

กลุ่มมากอิทธิพลทั้งหมดที่ให้ความสนใจกับข่าวการต่อสู้ครั้งนี้สั่นสะท้านและไม่อาจเอ่ยถ้อยคำใดไปชั่วขณะ

ซูอี้ชนะ!

อีกทั้งยังสามารถสังหารโหยวเทียนหงแห่งต้าฉิน!

กระทั่งโหยวเทียนหงใช้พลังที่มากพอจะคุกคามขอบเขตเปิดทวารในช่วงสุดท้าย แต่เขาก็ยังถูกซูอี้สังหาร อีกทั้งซูอี้ยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ความหมายเบื้องหลังของสิ่งนี้มันหมายความว่าซูอี้น่าสะพรึงกลัวเหนือกว่าที่ใคร ๆ คิดฝัน

“ซูอี้ผู้นี้ไร้พ่ายจริงหรือ?”

คำอุทานนี้ถูกเอ่ยขึ้นโดยผู้คนมากมาย

ทว่าคำอุทานนี้ดูไม่ห่างไกลจากความเป็นจริงเลย เพราะที่ผ่านมา… ซูอี้ไม่เคยพ่ายแพ้ให้ผู้ใดสักคน!

บนยอดเขาประจิมในมหานครกุ่นโจว ซูอี้สังหารผู้คนฝั่งตรงข้ามองค์ชายหกจนสิ้นซาก

ในเหตุการณ์สังหารหมู่หน้าจวนเจ้าแคว้นกุ่น ตัวตนผู้โด่งดังเช่นราชาปราการเพลิงเซี่ยโหวหลิน และราชาคิ้วขาวไฉ่จิงไห่ต่างก็ถูกซูอี้สังหารทั้งหมด

จนกระทั่งเขาออกจากมหานครกุ่นโจว ระหว่างทางไปนครหลวงอวี้จิง ซูอี้ได้ต่อสู้กับเหล่าผู้บ่มเพาะอันสุดแสนจะแข็งแกร่งอีกหลายครั้ง

ตลอดทางเขาได้ฆ่าบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์หลายคนที่มีชื่อเสียงไปนักต่อนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้กับหลี่ฉางหนิง เทพเซียนเดินดินแห่งต้าฉิน ตอนนั้นซูอี้เป็นเพียงปรมาจารย์ขั้นสามแต่กลับสามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้

การต่อสู้ครั้งนั้นทำให้ทั้งโลกเดือดพล่าน เกิดความปั่นป่วนมากมาย และทำให้ชื่อของซูอี้โด่งดังเป็นพลุแตก!

แต่อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในอดีตเหล่านั้นมันคงยังไม่สามารถทำให้เหล่าเทพเซียนเดินดินทั้งหลายหวาดกลัวได้มากนัก

แต่หลังจากการต่อสู้ของวันนี้ที่ยอดผาชมเมฆาสมุทร เหล่าตัวตนเทพเซียนเดินดินผู้ใดบ้างที่ยังกล้าดูแคลนซูอี้อีก?

และสิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าก็คือทุกครั้งที่ทุกคนคิดว่าคู่ต่อสู้ของซูอี้สามารถเอาชนะเขาได้ ท้ายที่สุดซูอี้กลับสามารถสำแดงพลังอันเหนือล้ำจนน่าสะพรึงกลัวอย่างไม่คาดคิดและบรรลุชัยชนะได้อย่างเด็ดขาดเสมอ!

เมื่อเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นเช่นนี้ มันจึงไม่ต่างอะไรกับซูอี้ที่ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง

“ในโลกนี้มีใครบ้างที่ยังสามารถสะกดข่มซูอี้ได้? ผู้ที่อยู่ในขอบเขตปรมาจารย์มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร?”

กลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ มากมายต่างคาดเดาความเป็นไปได้ต่าง ๆ นานาจนหัวหมุน

“ว่ากันว่าในการต่อสู้กับโหยวเทียนหง ในตอนท้ายโหยวเทียนหงสามารถบังคับให้ซูอี้ใช้ดาบจริงได้ ซึ่งสิ่งนี้มันแสดงให้เห็นว่าการฆ่าเทพเซียนเดินดินอย่างโหยวเทียนหงก็ไม่ได้ใช่เรื่องที่ง่ายดายนักสำหรับซูอี้!”

มีบางคนวิเคราะห์เรื่องนี้

“เช่นนั้นมันก็หมายความว่าหากต้องการจะเอาชนะซูอี้ให้ได้อย่างสมบูรณ์ อีกฝ่ายจะต้องเป็นผู้ที่มีพลังอยู่ในขั้นวิถีต้นกำเนิดขอบเขตรวบรวมดาราเป็นอย่างต่ำ!”

นี่เป็นการวิเคราะห์ที่สมเหตุสมผล

ทว่ามีคนโต้แย้งกลับ “อาจไม่ถูกต้องเสมอไป ขณะที่ซูอี้สังหารโหยวเทียนหง เขาอาจจะยังไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดก็เป็นได้ อีกทั้งซูอี้ยังอาจมีไพ่ลับที่ยังไม่ได้ใช้ออกมา ดังนั้นแล้วการจะจัดการกับซูอี้ ใช้เพียงแค่เทพเซียนเดินดินขอบเขตรวบรวมดาราคงจะไม่เพียงพอ”

โลกกำลังโต้เถียงกันเป็นพัลวัน

แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าในโลกใบใหญ่นี้ ซูอี้ไม่ใช่ตัวตนที่เทพเซียนเดินดินผู้ใดจะมองข้ามได้อีกต่อไป!

และในท้ายที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าซูอี้มีพลังต่อสู้ในระดับที่สามารถท้าทายสวรรค์เช่นนี้ทั้ง ๆ ที่อยู่เพียงแค่ขอบเขตปรมาจารย์ได้อย่างไร

นี่เป็นเหมือนความลึกลับที่หลอกหลอนผู้บ่มเพาะในโลกนี้

ส่วนตัวตนโด่งดังอย่างเยว่ซือฉาน หงเซินชาง และฉือเฟิงหลิว พวกเขาต่างคาดเดาเบาะแสบางอย่างได้แต่ยังไม่ชัดเจน พวกเขาคาดเดาได้แค่เพียงผิวเผินจึงไม่อาจเข้าใจได้ทุกอย่าง

ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ภาพลักษณ์ของซูอี้ในหัวใจของผู้คนยิ่งลึกลับมากขึ้นหลายเท่าตัว

และเมื่อข่าวการต่อสู้บนยอดผาชมเมฆาสมุทรมาถึงตระกูลซูแห่งนครหลวงอวี้จิง

สีหน้าของโหยวชิงจือเปลี่ยนเป็นมืดหม่นยิ่งกว่าถ่านไม้ นางแทบจะเป็นลมจากข่าวนี้ที่น่าตกตะลึงสุดขีด!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset