📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 309

บทที่ 309 - วาจากลับกลอกเอาแน่ไม่ได้
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เว่ยเสียนพึงพอใจเป็นอย่างมาก

ราวกับว่าเพียงแค่ได้มองซูอี้สู้รบอยู่ไกล ๆ ก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว ควรค่าแก่ความภาคภูมิใจ

จากหัวข้อพูดของเว่ยเสียน ทุกคนในที่นั้นต่างก็เริ่มพากันพูดถึงเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับซูอี้ขึ้นมา

อย่างเช่นการต่อสู้ที่จวนเจ้าแคว้นกุ่น การต่อสู้ที่จุดพักม้าหลงเฉียว การต่อสู้ที่อารามอวิ๋นเทา เป็นต้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงการต่อสู้ระหว่างซูอี้กับเทพเซียนเดินดินหลี่ฉางหนิงที่ค่ายทหารดั้นเมฆา บรรยากาศในการพูดคุยไปถึงขีดสุด

เสียงร้องตกใจ ตื่นตระหนก หวาดเสียว ดังขึ้นไม่ขาด

สุดท้าย เว่ยเสียนนับนิ้วแล้วกล่าวสรุป “ในช่วงเวลาตั้งแต่งานเลี้ยงน้ำชาเขาประจิมจนถึงตอนนี้ ราชาต่างสกุลที่ตายด้วยฝีมือของซูอี้มีด้วยกันสามท่าน ได้แก่ ราชาคิ้วขาว ราชาปราการเพลิง ราชาดั้นเมฆา”

“จวิ้นอ๋องนอกสกุลที่ตายก็มีด้วยกันสามท่านเช่นกัน ได้แก่ จวิ้นอ๋องไฮว่หยาง จวิ้นอ๋องอวี้ซาน จวิ้นอ๋องเทียนหย่ง”

“นอกจากนี้ ยังมีผู้อาวุโสสำนักดาบมังกรเร้นหลี่ตงหลิว หลีชาง เลี่ยวอวิ้นหลิว มีเจ้าตำหนักจี้เซี่ยกับจ้าวตำหนักสุ่ยเยว่อีกสองท่าน…”

เขาประกาศรายชื่อบุคคลผู้ยิ่งใหญ่คนแล้วคนเล่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำท่าราวกับกำลังนับเพชรพลอยอัญมณี

ทว่าไม่รอให้เขาได้พูดจบก็ถูกตัดบทเสียก่อน “พอแล้ว!”

เวินอวี้ชงซึ่งนั่งอยู่ตำแหน่งประธานเอ่ยพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ “ตามที่ข้ารู้มา อีกไม่นานเท่าไรซูอี้คนนี้ก็คงจะต้องเจอเคราะห์ใหญ่ ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงผลงานการสู้รบในอดีตของเขาอีก”

ทุกคนต่างก็นิ่งเงียบเห็นด้วย

ในช่วงเวลานี้ ทั่วทุกหัวระแหงในแผ่นดินอาณาจักรต้าโจวล้วนลือกันว่า เมื่อซูอี้มาถึงนครหลวงอวี้จิงแล้ว จะต้องเจอกับภัยพิบัติร้ายแรง

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลซู หรือว่าราชวงศ์โจว หรือแม้กระทั่งสำนักดาบมังกรเร้น ก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปเป็นแน่!

“พี่เวินกล่าวมาไม่ผิด”

เว่ยเสียนผู้ที่ก่อนหน้านี้ชื่นชมซูอี้ไม่หยุด เวลานี้กลับเปลี่ยนท่าที แล้วกล่าว “และจากที่ข้าดู การจัดการกับซูอี้ถือเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเราเช่นกัน”

นิ่งเงียบไปชั่วครู่ เว่ยเสียนเผชิญกับสายตาแห่งความสงสัยของคนทั้งหลายแล้วเขากล่าวอย่างมีหลักการ “ทุกท่านลองคิดดู ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาฆ่าบุคคลยิ่งใหญ่ในอาณาจักรต้าโจวไปมากมายเท่าใด ทำลายความสงบ สร้างความสั่นสะเทือนให้แก่แผ่นดิน ขืนปล่อยให้เขาก่อกวนต่อไปอีก จะไม่สร้างความเสียหายที่มากขึ้นหรอกหรือ?”

พูดจบ เขาก็ลุกขึ้น กล่าวใส่อารมณ์ “ตามความเห็นของข้า กล่าวได้ว่าซูอี้คนนี้เป็นตัวสร้างความเดือดร้อน ไม่ทำงานให้อาณาจักรต้าโจว กลับยังกระทำการอุกอาจติดต่อกันหลายครั้ง สร้างเหตุการณ์สะเทือนขวัญเรื่องแล้วเรื่องเล่า การกระทำของเขาไม่แตกต่างอะไรไปจากปีศาจอสูร ใคร ๆ ล้วนฆ่าเขาได้!”

พูดอย่างมีเหตุมีผล ทำให้คนจำนวนไม่น้อยในตำหนักฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิม ต่างพากันปรบมือเห็นดีเห็นงาม

มีแต่กูไฉ่หนิงคนเดียวที่ขมวดคิ้วแน่น ผู้ชายคนนี้เกิดปีสุนัขหรืออย่างไร เปลี่ยนท่าทีเร็วเกินไปแล้ว!

“ใคร ๆ ล้วนฆ่าได้? หึ อาศัยเจ้า เว่ยเสียน เช่นนั้นหรือ?” ฟู่ชิงเหยี่ยนหัวเราะเย็นชาออกมา

สีหน้าของเว่ยเสียนแข็งทื่อไป กล่าวด้วยความไม่พอใจ “ฟู่ชิงเหยี่ยน ที่ข้าพูดนี้กำลังแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำที่โหดร้ายรุนแรงของซูอี้ แน่นอน ข้าสู้เขาไม่ได้ แต่ข้าไม่สามารถมองว่าเขาเป็นคนเลวที่ทำลายแผ่นดินได้เช่นนั้นหรือ?”

ฟู่ชิงเหยี่ยนกล่าวเสียงเคร่งขรึม “ซูอี้กับคู่ต่อสู้เหล่านั้นมีบุญคุณความแค้นต่อกัน พวกเราไม่ได้รู้เรื่องด้วย เจ้ามีสิทธิ์อย่างไรจึงบอกว่าซูอี้เป็นตัวสร้างความเดือดร้อน?”

ท่าทีของเว่ยเสียนเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป ทำให้คนอื่นดูแคลน กระทั่งฟู่ชิงเหยี่ยนก็ยังทนดูต่อไปไม่ได้

“ข้า…”

เว่ยเสียนกำลังจะพูดอะไรอีก เวินอวี้ชงก็ยกมือห้ามพลางพูดตัดบท “เอาล่ะ อย่าได้ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้อีกเลย ซูอี้กับพวกเราไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน เกรงว่าชั่วชีวิตนี้หรือทั้งชาตินี้ก็คงไม่มีเรื่องอันใดที่ต้องข้องเกี่ยวต่อกัน ไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องของเขา”

กูไฉ่หนิงสูดลมหายใจลึก ๆ ทีหนึ่ง กล่าว “แต่ความเห็นของข้า ผู้แข็งแกร่งต้องการความเคารพ หากมองดูการต่อสู้ในอดีตของคุณชายซู แต่ละครั้งล้วนเป็นฝ่ายศัตรูที่ไปหาเขาถึงที่ เขาไม่เคยทำร้ายใครก่อน สำหรับผู้ที่สามารถฆ่าเทพเซียนเดินดินได้ในดาบเดียวเช่นนี้ ไม่ควรที่จะได้รับความเคารพยกย่องจากพวกเราหรอกหรือ?”

คนทั้งหลายต่างพากันนิ่งเงียบด้วยความตะลึง

คำกล่าวนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจโต้แย้งได้

ซูอี้คอยมองดูอยู่ห่าง ๆ มาโดยตลอด เห็นเช่นนี้แล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ดื่มสุราไปจอกหนึ่งแล้วครุ่นคิด สิ่งที่ซูเสวียนจวินกระทำมาตลอดทั้งชีวิต เคยสนใจต่อคำตัดสินของคนอื่น ๆ เมื่อใดกัน?

ทว่าเขายอมรับในความคิดและคุณธรรมที่กูไฉ่หนิงกับฟู่ชิงเหยี่ยนแสดงออกมา

“แม่นางไฉ่หนิง ซูอี้สมควรจะได้รับความเคารพยกย่องหรือไม่ ในใจของแต่ละคนล้วนมีมาตรฐาน ไม่อาจบังคับจิตใจคนอื่นได้”

เวินอวี้ชงโบกมือด้วยความใจกว้าง “เรื่องนี้ขอให้หยุดเพียงเท่านี้ พวกเราดื่มสุรากันต่อ”

“เรื่องนี้ ไม่อาจหยุดเพียงเท่านี้ได้!”

ทันใด เสียงทุ้มหนักราวกับเสียงฟ้าผ่าลงมากลางแม่น้ำชิงหลางก็ดังขึ้น สร้างความสั่นสะเทือนจนแก้วหูเจ็บระบม มีดาวสีทองผุดขึ้นตรงหน้า

จานชามจอกสุราที่วางบนโต๊ะตรงหน้าต่างพากันส่งเสียงดังเพล้งพล้าง เรือสำราญทั้งลำโยกคลอนตามแรงสั่นสะเทือน

คนทั้งหลายมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก ใครกัน!?

แทบจะขณะเดียวกัน ซูอี้เบนสายตามองไปยังนอกตำหนัก เห็นว่าบนแม่น้ำชิงหลางที่กว้างใหญ่ กระแสน้ำปั่นป่วน เกิดเป็นคลื่นสีขาวสะอาดสูงหลายสิบจั้ง

มีเงาเลือนรางสีดำขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ใต้แม่น้ำ ราวกับเงากลับหัวของเทือกเขาขนาดใหญ่มหึมา

ชั่วขณะที่ซูอี้เบนสายตามองไป…

ครืน!

จู่ ๆ ผิวน้ำก็พุ่งสูงขึ้น น้ำแตกกระเซ็น ร่างสัตว์อสูรขนาดใหญ่ใต้แม่น้ำชิงหลางโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำอย่างช้า ๆ

ลักษณะของสัตว์อสูรตนนี้คล้ายกับเต่าขนาดใหญ่เท่าภูเขา กระดองสีดำขลับหนาและหนักประดุจก้อนหินใหญ่ ผิวลายเต็มตัว แขนขาใหญ่ราวกับเสาหิน

เมื่อโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำแล้ว ส่วนหัวของมันมีขนาดเท่ากับบ้าน ลูกนัยน์ตาใสราวกับน้ำ ส่องประกายลึกลับเย็นวาบของอสรู

ครืน!ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm

กระแสน้ำปั่นป่วน กลิ่นอายบนตัวสัตว์อสูรตนนี้แผ่กระจายไปถึงชั้นเมฆ ทำให้เมฆเปลี่ยนสี และทำให้เรือสำราญขนาดใหญ่ลำนั้นโอนเอนอย่างแรงจนแทบล่ม

“สวรรค์ นี่คือตัวประหลาดอันใด!?”

“หรือว่าจะเป็นใต้เท้าเทพน้ำที่ลือกันว่าซ่อนตัวอยู่ใต้แม่น้ำชิงหลางแห่งนี้?”

“อย่าตื่นตกใจ! อย่าตื่นตกใจ!”

เสียงหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนกบนเรือดังไม่หยุด ทุกคนล้วนขวัญหนีดีฝ่อ

คนหนุ่มทั้งหลายในตำหนักพากันวิ่งออกมาโดยมีเวินอวี้ชงเป็นผู้นำ เมื่อมองเห็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่มหึมาในแม่น้ำแล้ว แต่ละคนต่างก็สูดปาก สีหน้าเปลี่ยนไป

สัตว์อสูรตนนี้คงจะเกินกว่าระดับที่เก้าแล้ว อาจจะถึงขั้นเบิกปัญญาแล้ว!

เบิกปัญญาคือการที่สัตว์อสูรมีสติปัญญา

เบิกปัญญาโดยทั่วไปเทียบเท่าได้กับบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์

ที่แข็งแกร่งมากสักหน่อย อาจถึงขั้นกล้าท้าทายเทพเซียนเดินดิน!

“นี่… นี่เป็นไปได้อย่างไร…”

ใบหน้างามของกูไฉ่หนิงขาวซีด ตื่นตระหนกในกลิ่นอายน่ากลัวที่สัตว์อสูรตนนั้นปล่อยออกมา

“ไม่ต้องกลัว มันไม่ได้มีประสงค์ร้าย”

ซูอี้ยืนอยู่อีกด้าน โพล่งออกมา

เขามองออกได้ในทันทีว่านี่คือเต่าธรรมดาที่ไม่ถึงกับหาได้ยากมากนัก มีสติปัญญาคล้ายกับวิถีแห่งการฝึกตน

“เช่นนั้นหรือ…”

กูไฉ่หนิงนิ่งอึ้ง ไม่อยากจะเชื่อเอาเสียเลย

“ใต้เท้าเทพน้ำอย่าได้โกรธเคือง พวกข้าจะจัดเตรียมสุราอย่างดีให้ท่าน!”

เวลานี้เอง หัวหน้าเรือสำราญวิ่งออกมา โค้งคำนับต่อเต่าที่โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำอยู่ไกล ๆ ด้วยความหวาดกลัว

“วันนี้ข้าไม่ได้มาเพื่อดื่มสุรา เพียงแต่มาขอความยุติธรรม!”

ไกลออกไป เสียงเต่าทุ้มหนักราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางผิวน้ำ

ลูกนัยน์ตาสวยใสคู่นั้นของมันจ้องมองเวินอวี้ชง กล่าวเสียงเย็นชา “ก่อนหน้านี้ ข้าอยู่ใต้ท้องเรือสำราญมาตลอดทาง ต้องการฟังว่าผู้ฝึกตนหนุ่มสาวอย่างพวกเจ้ามีความเข้าใจอันใดในการฝึกตน ไม่นึกเลยว่า สิ่งที่ข้าได้ยินกลับเป็นเสียงสนทนาพูดคุยของคนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังอย่างแรง”

เวินอวี้ชงกับคนอื่น ๆ สีหน้าเปลี่ยนอย่างพร้อมเพรียงกัน ตัวหนาววาบ คำสนทนาที่พวกเขาพูดคุยกันตลอดทางกลับถูกดักฟังโดย ‘ใต้เท้าเทพน้ำ’ ผู้น่ากลัวเช่นนั้นหรือ?

จากนั้นเต่าเฒ่าก็กล่าวต่อ “หากว่าเพียงเท่านี้ ด้วยฐานะของข้า ไม่อยากจะถือสาเอาความกับคนหนุ่มสาวอย่างพวกเจ้าหรอก แต่พวกเจ้ากลับบังอาจถึงขั้นดูถูกและทำลายชื่อเสียงของใต้เท้าซูอี้ สมควรตาย!!”

พูดถึงสุดท้าย เสียงประดุจฟ้าผ่า เผยถึงความโกรธเกรี้ยว

เวินอวี้ชงกับคนอื่น ๆ ต่างก็สีหน้าเปลี่ยน ถึงตอนนี้จึงเข้าใจ ที่แท้ก็เป็นเพราะถกกันถึงเรื่องของซูอี้ ทำให้ ‘ใต้เท้าเทพน้ำ’ บังเกิดความโกรธ!

โดยเฉพาะเว่ยเสียน เขาตกใจจนสองขาสั่นสะท้าน ขาแทบอ่อนพับ สีหน้าขาวซีดด้วยความหวาดกลัว

ซูอี้กลับนิ่งตะลึง

เจ้าเต่าน้อยตนนี้ มาเพื่อขอความยุติธรรมให้เขา?

ชักน่าสนใจเสียแล้ว!

“ใต้เท้าเทพน้ำ พวกข้าปากไม่มีหูรูด หากว่าล่วงละเมิดอันใด ได้โปรดให้อภัยด้วย!”

เวินอวี้ชงสูดลมหายใจลึก ๆ ทีหนึ่งเพื่อตั้งสติ

“เดิมทีข้าไม่ใช่คนที่ฆ่าคนไม่เว้น ไม่เช่นนั้น คงเขมือบเรือสำราญลำนี้ไปตั้งนานแล้ว“

เต่าเฒ่าเอ่ยพูดน้ำเสียงเย็นกระด้าง “แต่ว่า ดังคำกล่าวที่ว่าเคราะห์ร้ายมาจากปาก บางคนกล่าววาจากลับกลอกเอาแน่ไม่ได้ จะต้องได้รับการลงโทษ!”

ฉับพลัน คนทั้งหมดก็โล่งใจไป ต่างก็เบนสายตามองไปที่เว่ยเสียนอย่างพร้อมเพรียงกัน ต่างก็แสดงสีหน้าเวทนาสงสารออกมา

ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะคน ๆ นี้ชื่นชมไม่ขาดว่าซูอี้ร้ายกาจมากมายเพียงใด และก็เป็นเพราะเขาอีกที่ด่าว่าโจมตีซูอี้โดยไม่หวั่นเกรง จึงกล่าวได้ว่าเอาแน่ไม่ได้

กูไฉ่หนิงแอบสาแก่ใจเงียบ ๆ สวรรค์มีความยุติธรรม ไม่มีบิดเบือน คนที่พลิกหน้าเร็วอย่างกับพลิกหน้าหนังสือเช่นนี้ต้องเจอกรรมตามสนองเสียบ้าง!

ชั่วขณะนี้ เว่ยเสียนตกใจจนจิตใจเตลิดเปิดเปิงแทบจะหลุดจากตัว ร่วงไปกองกับพื้น ส่งเสียงร้องสั่นสะท้าน “ใต้เท้าเทพน้ำโปรดให้อภัย ใต้เท้าเทพน้ำโปรดให้อภัย วันข้างหน้าผู้น้อยไม่กล้าอีกแล้ว!”

เห็นเขาตกใจจนอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว คนจำนวนไม่น้อยแอบส่ายหน้าด้วยความดูแคลน

และก็มีบางคนทำใจไม่ได้ เวินอวี้ชงจึงเอ่ยคำ “ใต้เท้าเทพน้ำ พวกข้าต่างก็มาจากตำหนักที่ต่างกันไปในใต้หล้า พอจะเห็นแก่หน้าของอาจารย์ผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังของพวกข้า ให้อภัยเว่ยเสียนสักครั้งได้หรือไม่?”

“ฮึ!”

ประกายเย็นวาบผุดขึ้นในสายตาของเต่าเฒ่า “หากว่าเจ้ากล้ารับโทษแทนเขา ข้าจะไว้ชีวิตเขาสักครั้ง เป็นอย่างไร?”

เวินอวี้ชงสีหน้าเปลี่ยน เกิดความลังเลขึ้นมา

“จอมปลอม!” เต่าเฒ่าดูถูก

หน้าของเวินอวี้ชงกระด้าง ทั้งอึกอักทั้งขายหน้า ไม่กล้าโต้แย้ง

เต่าเฒ่าเบนสายตามองไปที่เว่ยเสียน แล้วกล่าวคำออก “เว่ยเสียน ข้าไม่รังแกเจ้า เพียงแต่เจ้ากระโดดลงแม่น้ำชิงหลางในตอนนี้ สามารถอยู่ในน้ำได้นานสามลมหายใจ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”

เว่ยเสียนส่ายหน้าติด ๆ กันหลายที กล่าวขอร้องด้วยความหวาดกลัว “ใต้เท้าเทพน้ำ อย่าว่าแต่สามลมหายใจเลย เพียงแค่พริบตาเดียว ข้าก็ไม่สามารถทนไหว ท่านได้โปรดเมตตา ไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าสัญญาว่าวันข้างหน้าไม่กล้าทำเช่นนี้อีกแล้ว”

“ดูท่าแล้ว เจ้าต้องการให้ข้าลงมือใช่หรือไม่? มานี่!”

เต่าเฒ่าร้องตะคอก อ้าปากดูด

ครืน!

พลังดูดกลืนอันน่ากลัวถาโถมเข้ามาราวกับลมมรสุม ครอบคลุมตัวเว่ยเสียนอยู่ตรงกลาง

เห็นว่าเว่ยเสียนใกล้จะถูกม้วนตัวไป เวลานี้เอง…

เสียงดังชิ้ง ๆ ราวกับเสียงโลหะปะทะกันก็ดังขึ้นจากฟากฟ้าที่ห่างไกลออกไป

“สัตว์เดรัจฉาน บังอาจนัก กล้าทำร้ายคนกลางวันแสก ๆ หาที่ตายชัด ๆ!”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset