📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 277

บทที่ 277 - ของขวัญ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

แสงจันทร์ที่เจิดจ้า ได้เผยให้เห็นเทือกเขาซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยโลหิต สามารถเห็นร่องรอยของการต่อสู้ได้ทุกหนแห่ง

ในเวลานี้ ยกเว้นเขา อีกสี่บรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ที่เหลือล้วนไม่รอด

สิ่งนี้ทำให้ในใจของซือถูกงรู้สึกเศร้าอย่างสุดจะพรรณนา

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ซือถูกงก็กล่าวว่า “พวกข้าแต่ละคนล้วนจ่ายด้วยโอสถวิญญาณระดับห้า เพื่อแลกกับข้อมูลของคุณชายจากหอสิบทิศ”

“พวกเจ้าไปได้แล้ว”

ซูอี้เก็บดาบนิลกาฬกลืนฟ้า และกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

หลังได้ยิน ซือถูกงพลันเอ่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อ “ทำไมคุณชายซูถึงไม่สังหารข้า?”

ซูอี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดว่า “เจ้ามาเพื่อแสวงหาโชคลาภ ไม่มีเจตนาจะเอาชีวิตข้า ดังนั้นนี่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการลงโทษ”

ซือถูกงตกตะลึง กล่าวด้วยท่าทางที่สับสน “เป็นเช่นนั้นเอง… ขอบคุณคุณชายที่ไม่สังหารข้า”

สิ้นคำพูดเหล่านี้

เขาหันหลังไป ร่างนั้นดูโดดเดี่ยว

“จำไว้ว่าเจ้าเป็นหนี้ชีวิตข้า”

ในระยะไกล ซือกงถูได้ยินเสียงของซูอี้

เขาหยุดอยู่กับที่ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วกล่าวคำออก “ข้าจะไม่ลืม!”

ในไม่ช้าร่างของซือถูกงก็เดินหายไปในความมืดอันกว้างใหญ่

“ชิงหว่าน ไปเก็บของที่ริบมาได้”

ซูอี้ตบที่เอวของเขา

ในกลุ่มควัน ชิงหว่านโผล่ออกมาเป็นควันบาง ๆ และลอยออกไป

ซูอี้หยิบเก้าอี้หวายออกมา นอนลงอย่างผ่อนคลาย

“ข้าเกรงว่าการต่อสู้ครั้งนี้ เหล่าสัตว์ตัวน้อยจะได้เห็นมันอีกครั้ง”

ชายหนุ่มมองสูงขึ้นไปบนท้องนภา มั่นใจว่าจะต้องมีปักษาเวคินที่ถูกหอสิบทิศเลี้ยงอยู่เป็นแน่

ในค่ำคืนอันมืดมิด

อารามอวิ๋นเทาได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปนานแล้ว

เหวินฉงหยวนและคนอื่น ๆ มองดูชายหนุ่มในชุดคลุมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หวายจากระยะไกล ทุกคนต่างสูญเสียจิตวิญญาณไป

ศึกครั้งนี้ราวกับการต่อสู้ของทวยเทพ!

ห้าบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ตายที่นี่ และคนที่สังหารพวกเขาคือชายหนุ่มผู้นั้น!

ถ้าไม่ได้เห็นกับตาก็คงไม่เชื่อ

ไม่นานหลังจากนั้น ชิงหว่านก็กลับมาหลังจากเก็บสินสงครามจนครบ

นอกจากศาสตราวุธวิญญาณของบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ทั้งสี่ และเม็ดยาที่จำเป็นสำหรับการรักษาหรือการฝึกฝนแล้ว สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของซูอี้มากที่สุดคือหินวิญญาณระดับสี่ทั้งสิบก้อน

หินวิญญาณเหล่านี้แสดงสีสันต่างกัน และมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันไปตามสีเหล่านั้น เช่นปราณวิญญาณธาตุไม้มีสีมรกต ปราณวิญญาณธาตุไฟมีสีแดง ปราณวิญญาณธาตุทองมีสี…

นี่คือสิ่งล้ำค่าหายาก

หินวิญญาณระดับหนึ่งถึงสามมีเพียงปราณวิญญาณธรรมดา และไม่มีอะไรมากไปกว่าความแตกต่างในความบริสุทธิ์ของปราณวิญญาณ

ทว่าจากหินวิญญาณระดับสี่เป็นต้นไป ปราณวิญญาณที่บรรจุอยู่ในนั้นจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับตัวตนในวิถีต้นกำเนิด

ในดินแดนต้าโจวแห่งนี้ คุณค่าของหินวิญญาณระดับสี่เปรียบเสมือนสมบัติ แม้แต่บรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ก็ไม่เต็มใจที่จะใช้มันในการฝึกฝน

เมื่ออาณาจักรอยู่ในการณ์คับขันเท่านั้นจึงจะถูกนำมาใช้

อาจกล่าวได้ว่าหินวิญญาณระดับสี่จำนวนสิบก้อนที่เขาได้รับในขณะนี้ ถือเป็นโชคลาภสำหรับซูอี้แล้ว!

หลังเก็บของเหล่านี้เสร็จ ซูอี้จึงลุกขึ้นและตัดสินใจเดินทางต่อไป

เมื่อกวาดตามองเหวินฉงหยวนและคนอื่น ๆ ในระยะไกล เขาก็จำบางอย่างได้ จึงหยิบดาบยาวสีเงินสว่างออกมา

นี่คือสมบัติของชายชุดขาวผอมสูง อาวุธวิญญาณที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณและมีรูปลักษณ์ที่ไม่ธรรมดา

รับชมสิ่งนี้ทำให้เหวินฉงหยวนและคนอื่น ๆ ตกใจ ทุกคนตัวสั่นเทาคิดว่าซูอี้จะทำอะไรบางอย่างกับพวกเขา

โดยเฉพาะเหวินฉงหยวนที่โค้งคำนับทันที เหงื่อไหลท่วมตัว “ก่อนหน้านี้ข้าเป็นดั่งคนตาบอด หากทำให้คุณชายขุ่นเคือง ได้โปรดให้อภัยข้าด้วย!”

หลี่กุ้ยชายหนุ่มชุดน้ำเงินและคนอื่น ๆ ก็ตื่นตระหนก พวกเขาตัวสั่นเทา ร่างกายเกือบจะทรุดลงกองกับพื้น

ซูอี้เพิกเฉยเหวินฉงหยวน สายตาของเขาจับจ้องไปที่แม่นางเสี่ยวเหอที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ประหม่าอย่างยิ่ง ราวกับกวางน้อยที่กำลังหวาดกลัว

“ดาบเล่มนี้ข้ายกให้เจ้า”

ซูอี้ยิ้ม โยนดาบสีเงินสว่างตกลงต่อหน้าแม่นางเสี่ยวเหอจากระยะไกล

หญิงสาวไร้เดียงสาคนนี้จับดาบโดยไม่รู้ตัว นางผงะเมื่อได้สติ ก่อนพูดตะกุกตะกัก “ให้… ให้ข้าหรือ?”

“ในอนาคตจงยึดมั่นในตนเองและฝึกฝนให้ดี”

เมื่อพูดจบ ซูอี้เอามือไพล่หลัง เดินออกไปพร้อมกับชิงหว่านที่ลอยตามไปภายใต้แสงจันทร์

จนกระทั่งร่างของเขาหายลับไป แม่นางเสี่ยวเหอจึงหายตกตะลึง ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางเต็มไปด้วยความสับสน ชายผู้นั้น… ทำไมเขาถึงมอบดาบให้กับตน?

นอกจากนี้ ยึดมั่นในตนเองหมายความว่าอย่างไร?nᴏveʟɢu.ᴄᴏᴍ

“โชคดีที่นายน้อยซูผู้นี้มีจิตใจเอื้อเฟื้อ และไม่คิดเอาความกับเรา ไม่เช่นนั้นเราคงถูกฆ่าตายจากการกระทำที่หยาบคายในคืนนี้” เหวินจงหยวนถอนหายใจยาว

เป็นเวลานี้เองที่ผู้อาวุโสจากตำหนักฉางหนิงตระหนักว่าเสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

หลี่กุ้ยและคนอื่น ๆ พากันเช็ดเหงื่อตามตัว ในใจก็นึกยินดีที่ยังมีชีวิตรอดออกไปอีกวัน

“อาจารย์ลุง ข้าควรทำอย่างไรกับดาบเล่มนี้ดีเจ้าคะ?”

แม่นางเสี่ยวเหออดไม่ได้ที่จะถาม

ทันใดนั้น ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ดาบสีเงินสว่างสดใสในมือของนาง

“ถ้าจำไม่ผิด เมื่อสักครู่ชายชุดขาวที่แท้ก็คือ ‘เจ้าดาบฝ่าวายุ’ ซือฉ่วง เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เขาโด่งดังไปทั่วดินแดนจาก ‘ดาบปีศาจลม’ ของเขา วิชาดาบของคนผู้นี้นับว่ายอดเยี่ยม จึงได้รับความเคารพนับถือและชื่นชมจากผู้ยิ่งใหญ่มากมาย”

เหวินฉงหยวนกล่าวด้วยอารมณ์ “ใครจะไปคิดว่ายอดฝีมืออย่างเขาจะต้องตายด้วยดาบของคุณชายซูผู้นั้น มัน… น่าเหลือเชื่อจริง ๆ”

อารมณ์ของทุกคนสับสนอีกครั้ง

อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นซือฉ่วง เล่ยหยาง โม่ฉิงชาง และคนอื่น ๆ แต่ละคนต่างก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่พอที่ผู้อื่นไม่สามารถเทียบได้

เป็นเพราะเหตุนี้เองที่เมื่อพวกเขาเห็นผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ถูกซูอี้กดทับทีละคน พวกเขาก็ตื่นตกใจเป็นอย่างมาก

หลังจากหยุดคิดชั่วคราวเหวินฉงหยวนก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “ดาบเล่มนี้มีคุณสมบัติพิเศษ เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ และคมเจาะกระดูก เนื่องจากคุณชายซูเป็นผู้มอบให้ เช่นนั้นเจ้าจงเก็บไว้เถิด”

ดวงตาของหลี่กุ้ยและคนอื่น ๆ ต่างร้อนผ่าว และเมื่อพวกเขามองไปที่เสี่ยวเหอ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความอิจฉาออกมา

แม้แต่พวกเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าก่อนที่ซูอี้จะจากไป คนผู้นี้จะมอบดาบให้เสี่ยวเหอ

แม่นางเสี่ยวเหอกล่าวด้วยความงุนงง “อาจารย์ลุง ข้า… ข้าไม่สามารถใช้ดาบประเภทนี้ได้ อาจารย์ลุงรับไว้เถิดเจ้าค่ะ”

เหวินฉงหยวนตกใจพลางปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ไม่ นี่เป็นของขวัญจากคุณชายซู ข้าจะรับไว้เองได้อย่างไร?”

ขณะที่พูด สายตาของเขาเหลือบมองหลี่กุ้ยและคนอื่น ๆ กล่าวว่า “ข้าแนะนำให้เจ้าเลิกคิดถึงดาบเล่มนี้เสีย มิฉะนั้นถ้าคุณชายซูรู้ อย่าว่าแต่ข้าเลย แม้แต่พวกเราทุกคนในตำหนักฉางหนิงร่วมมือกัน ก็ยังไม่พอที่จะให้คุณชายซูฆ่า!”

คำพูดแฝงไว้ด้วยคำเตือน

ใบหน้าของหลี่กุ้ยและคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขารีบกล่าวอย่างรวดเร็วว่าจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน

“เสี่ยวเหอ แม้ว่าเจ้าจะไม่มีประสบการณ์ ทว่าเจ้าก็มีจิตใจดีงาม นี่คือสิ่งที่คุณชายซูชื่นชมเจ้า”

เมื่อเผชิญหน้ากับแม่นางเสี่ยวเหอ ดวงตาของเหวินฉงหยวนพลันกลายเป็นอ่อนโยน ดูใจกว้าง “ด้วยของขวัญชิ้นนี้ หากคิดอยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายซู เจ้าควรทะนุถนอมดูแลมันให้ดี ทำตามความคาดหวังของคุณชายซูผู้นั้น”

แม่นางเสี่ยวเหอพยักหน้าอย่างหนักแน่น “อื้ม!”

……

“แน่นอนว่าในอาณาจักรต้าโจว แม้จะเป็นบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ก็ตามที ทว่าคงมีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้น… ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของซูอี้ได้อีก!”

ในคืนเดียวกัน บนยอดหน้าผา ชายชราผอมเพรียวจากหอสิบทิศเผยดวงตาที่ซับซ้อน คิ้วของเขาขมวดคิดหนัก

ในตอนนี้ปักษาเวคินนำภาพฉากที่เกิดขึ้นกลับมา มันก็ได้เผยให้เห็นศึกใหญ่แห่งทวยเทพนั่น!

พวกเขาได้พบเห็นฉากที่ซูอี้ตวัดฟันดาบ ฆ่าฟันสังหารกลุ่มบรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์!

“กระบวนท่าของเขาลึกลับยากคาดเดา ใช้ออกด้วยพลังแห่งฟ้าดิน สิ่งนี้คือพลังที่สามารถครอบครองโดยเทพเซียนเดินดินเท่านั้น ทว่าตัวตนของผู้ใช้กลับเป็นเพียงปรมาจารย์ขั้นสองเท่านั้น…”

ใบหน้าของหนุ่มน้อยชุดขาวเต็มไปด้วยความสงสัย “ในโลกนี้จะมีปีศาจเช่นนี้ได้อย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ว่ามี ‘โชค’ ล้ำค่ายากจินตนาการใดอยู่ภายใต้การครอบครองของเขา?”

หลวงจีนอ้วนและชายชุดคลุมดำที่อยู่ข้าง ๆ เงียบไปครู่หนึ่ง

แม้จะมีข้อสงสัยมากมาย แต่ทั้งหมดนี้ทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าซูอี้นั้นมีความลับที่ยิ่งใหญ่เก็บซ่อนไว้!

“ต่อไป ถ้าเราขายข้อมูลของซูอี้อีก ก็เท่ากับว่าเรากำลังรอดูคนพวกนั้นไปตายเฉย ๆ เลยหรือ?”

ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายชราผอมแห้งก็พูดแปลก ๆ ออกมา

คนอื่น ๆ มองหน้ากันด้วยสีหน้าแปลกใจ

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ บรรพจารย์ยุทธ์ปฐมสวรรค์ที่ไปตามหาซูอี้ ก็ไม่ต่างจากการก้าวเท้าเหยียบย่างสู่ประตูมรณะ!

“สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับหอสิบทิศของเรา”

หลวงจีนอ้วนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ยิ่งกว่านั้น พวกเราทุกคนสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยรายละเอียดของการต่อสู้ที่เกี่ยวข้องกับซูอี้ เจ้าจะไม่กลับคำใช่หรือไม่?”

ชายชุดคลุมดำถามว่า “ใครเป็นคนจ่ายเงินมัดจำเพื่อซื้อข้อมูลเหล่านี้?”

“หลี่ตงหลิวผู้อาวุโสแห่งสำนักดาบมังกรเร้น โหยวชิงจืออนุภรรยาคนที่สี่ของตระกูลซูในนครหลวงอวี้จิง ราชครูหงเซินชาง องค์ชายรองโจวจื่อคุน และองค์ชายหกโจวจือหลี…”

ชายชราร่างผอมพูดอย่างรวดเร็ว เรียกชื่อต่าง ๆ ที่จะทำให้ผู้ฝึกตนบำเพ็ญทั่วหล้าสั่นสะท้าน

หลังจากหยุดสักพัก เขาก็พูดต่อ “ในหมู่พวกเขา ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับซูอี้คือหลี่ตงหลิวจากสำนักดาบมังกรเร้นอย่างไม่ต้องสงสัย”

“อย่างไรก็ตาม หลี่ตงหลิวระมัดระวังอย่างยิ่ง จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้วางแผนที่จะดำเนินการใด ๆ แต่แน่นอนว่าเมื่อลงมือ มันย่อมรวดเร็วและดุดันหมายเอาชีวิตในคราเดียว!”

หลังจากฟังสิ่งนี้ เด็กหนุ่มชุดขาวก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสังหารซูอี้ คราวนี้สำนักดาบมังกรเร้นอาจจะมีปัญหาได้”

ชายชราร่างผอมครุ่นคิด “มันยากที่จะพูด หลี่ตงหลิวและพวกย่อมมีไพ่ตายลับในมือ หากพวกเขาใช้ถูกจังหวะ อาจทำให้ซูอี้ถึงตายได้”

“คิดจะทำอันใด?”

หลวงจีนอ้วนรีบกล่าวต่ออย่างหมดความอดทน “ในความคิดของข้า รีบส่งส่วนแบ่งทรัพย์สมบัติที่ควรแจกจ่ายให้ซูอี้ไปเสีย เพื่อไม่ให้คนผู้นี้เข้าใจผิด”

คนอื่น ๆ มองหน้ากันแล้วถอนหายใจ

สำหรับผู้อาวุโสของหอสิบทิศ การคุกคามของผู้อื่นไม่คุ้มที่จะสนใจเลย

แต่คำขู่จากซูอี้ พวกเขาจำได้ขึ้นใจ!

ตัวอย่างเช่น พวกเขากล้าดีอย่างไรที่ไม่ให้ส่วนแบ่งเก้าส่วนแก่ซูอี้?

“เจ้านายบอกว่าให้ทำตามที่ซูอี้ต้องการ เราแค่ทำในสิ่งที่เราได้รับคำสั่งก็พอ”

ชายชุดคลุมดำตัดสินใจขั้นสุดท้าย

คนอื่นย่อมไม่มีความเห็นต่าง

ดังนั้นในคืนนั้น ปักษาเวคินแบกสัมภาระหนักอึ้ง บินขึ้นไปบนท้องฟ้า มุ่งหน้าไปยังที่ที่ซูอี้อยู่

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset