น้ำท่วมใหญ่ในปี 1925 ได้เปลี่ยนทิศทางการไหลของแม่น้ำฮันไปโดยสิ้นเชิง ส่งผลให้แม่น้ำซงพาถูกกลืนจนกลายเป็นลำธารสายย่อยของแม่น้ำฮัน
ทะเลสาบซอกชน คือทะเลสาบเทียมซึ่งเกิดจากความพยายามในการทวงคืนแม่น้ำซอกชน
ทะเลสาบซอกชนแบ่งออกเป็นฝั่งบูรพากับฝั่งประจิม โดยมีสะพานข้ามจัมชิลคั่นกลาง
ทะเลสาบฝั่งบูรพาจะอยู่ใกล้กับซอยอาหารบังกีดง ส่วนฝั่งประจิมจะมีเกาะเทียมซึ่งเป็นที่ตั้งสวนสนุกของตระกูลดัง ทำให้ผู้คนค่อนข้างเนืองแน่น
ทะเลสาบซอกชนถือเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวกรุงโซลมาช้านาน
‘แต่ถ้าอ้างอิงจากโลกในเกม โศกนาฏกรรมเมื่อไม่กี่ปีก่อนทำให้มันกลายเป็นดินแดนรกร้าง…’
ย้อนกลับไปในตอนนั้น
รอยแยกใต้บาดาลปรากฏขึ้นทางฝั่งประจิมของทะเลสาบ ใกล้กับเกาะเทียมและสวนสนุก
เป็นแค่วงกตหนึ่งแห่ง มีการประเมินว่าอยู่ในเกรด SR–
ด้วยความยากเพียงเท่านี้ ลำพังทีมโปรเพลเยอร์ระดับกลางค่อนไปทางล่างก็เคลียร์ได้สบาย
‘…แต่ปัญหาคือ มาตรการความปลอดภัยของสวนสนุกหย่อนยานเกินไป’
เจ้าของสวนสนุกคือบริษัทนัมกุงรีสอร์ต ซึ่งเป็นบริษัทลูกของนัมกุงกรุป
หลังจากเกิดรอยแยกต่างโลก พวกเขาปิดทางเข้าด้านนอกทั้งหมดของเกาะเทียม ไล่ลูกค้าใหม่กลับไป และปิดทางเดินเข้าสู่สวนสนุกด้านใน
ทว่า สวนสนุกยังไม่หยุดให้บริการลูกค้าเก่าซึ่งชำระเงินไปแล้ว
‘ทีมโปรเพลเยอร์ระดับแถวหน้ามาถึงอย่างรวดเร็วก็จริง แต่ก็ควรอพยพลูกค้าทั้งหมดออกจากสวนสนุกเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน’
และแล้ว เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจริงๆ
หน่วยบุกและหน่วยป้องกันของทีมโปรซึ่งได้รับมอบหมายให้เคลียร์รอยแรก ถูกกวาดล้างอย่างราบคาบ ฝูงเอนามีทะลักออกจากรอยแยกเข้ามาในสวนสนุก
ในหมู่ลูกค้ามีเพลเยอร์อยู่หลายคน พวกเขาพยายามยับยั้งสถานการณ์อย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ก็จนปัญญาจะปกป้องพลเมืองซึ่งกระจายอยู่เต็มสวนสนุกอันซับซ้อน
ลงเอยด้วย กว่ากำลังเสริมจากสมาคมเพลเยอร์จะมาถึง จำนวนผู้เคราะห์ร้ายก็เพิ่มสูงถึงหลักร้อยแล้ว
ฉากซึ่งเปรียบดังนรกบนดินภายในสวนสนุก ถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลกผ่านดีไวซ์ของสตรีมเมอร์ชื่อดัง ผู้กำลังเล่นรถไฟเหาะในเวลานั้น
ผู้ชมทางบ้านนับไม่ถ้วนจึงต้องเผชิญฝันร้ายอันยากจะลบเลือน
‘สตรีมเมอร์บาดเจ็บสาหัสและหมดสติไป การถ่ายทอดสดจึงหยุดไม่ได้ และกว่าทีมงานหลังบ้านของแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดจะได้รับแจ้งเรื่องก็ไม่ทันการแล้ว’
โศกนาฏกรรมดังกล่าวทำให้หัวเรือใหญ่ของบริษัทนัมกุงสวนสนุก – ประธานใหญ่แห่งนัมกุงกรุป กระเด็นจากตำแหน่งไปพร้อมกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องอีกกว่าสิบซึ่งออกคำสั่งให้เปิดบริการสวนสนุกต่อในเวลานั้น
ประธานใหญ่ของนัมกุงกรุปก้มศีรษะขอโทษต่อหน้าคนทั้งประเทศ อีกทั้งยังสร้างอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงผู้เสียชีวิตไว้ ณ ทะเลสาบซอกชน
ไม่เพียงเท่านั้น ทางสวนสนุกยังเปิดให้เข้าเล่นฟรีตลอดหนึ่งเดือนเต็ม
แต่ก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีใครกล้าเที่ยวสวนสนุกนัมกุงอีกแล้ว
‘คำบรรยายในเกมระบุว่า เหลือแค่ลูกค้าขาจรส่วนน้อยที่แวะมาทดสอบความกล้าเป็นพักๆ’
เหตุใดทีมโปรเพลเยอร์ระดับแนวหน้า ถึงถูกรอยแยกแค่เกรด SR– กวาดล้างจนเกลี้ยง?
เอนามีจากรอยแยกใต้บาดาล ถูกหน่วยบุกของสมาคมจัดการได้ง่ายดาย
และเมื่อลองเคลียร์รอยแยกดู พวกเขาก็ไม่พบความผิดปกติในการกำหนดเกรดของดาวเทียมเพลเยอร์ SAT-K
ทุกฝ่ายจึงลงความเห็นว่า โศกนาฏกรรมเกิดจากความสะเพร่าของทีมโปร
‘ต้นตอที่แท้จริงจะถูกเปิดเผยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผ่านเควสต์ที่จูซูย็อกและอันดาอินทำร่วมกัน’
เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงเทอมสองของปีแรก
สำหรับนักเรียนปีหนึ่ง เมื่อย่างเข้าสู่เทอมสอง ทางโรงเรียนจะส่งไปโจมตีรอยแยกต่างโลกของจริงครั้งแรก ณ สวนโอลิมปิก
แต่ยังไม่ทันจะเริ่ม พวกเขาได้รับแจ้งขอกำลังเสริมจากทะเลสาบซอกชนซึ่งอยู่ไม่ไกล นั่นคือจุดเริ่มต้นของเควสต์ในเกม
‘เหตุการณ์นี้ทำให้ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับทะเลสาบซอกชนถูกเปิดเผย และเผ่าอสูรเริ่มหันมาสนใจจูซูย็อกซึ่งเป็นผู้ทำผลงานสูงสุด’
พิกัดบนทะเลสาบซอกชนที่นาบีรยองให้มา จะต้องเกี่ยวข้องกับเควสต์นี้แน่
‘ถึงเราจะรู้ว่าทะเลสาบซอกชนคือต้นตอของปัญหา แต่ก็ใช่ว่าจะลงมือแก้ไขได้ง่ายๆ …’
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวรอบทะเลสาบซอกชนและสวนสนุกนัมกุงจะลดลงมาก แต่บริเวณรอบๆ สถานีรถไฟใต้ดินจัมชิลยังคงเป็นย่านประชากรหนาแน่น จะลงมือทำอะไรก็ไม่ง่าย เพราะนั่นอาจดึงดูดความสนใจจากจอมบงการ
ในเทอมสอง ฉันมีแผนจะรวมทีมกับตัวละครหลักเพื่อเข้าไปสะสางปัญหาด้วยตัวเอง แต่ถ้าได้เผ่าแท้กับทีมทะเลสาบนิรันดร์ช่วยกันแก้ไขปัญหาได้ก่อนหน้านั้น เส้นเรื่องก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่นขึ้นมาก
‘ในเมื่อแผนเปลี่ยน เราก็ต้องเตรียมตัวเพิ่มเติม’
ข้อความจากนาบีรยอง
ทะเลสาบซอกชน
ความช่วยเหลือจากเผ่าแท้
ทีมทะเลสาบนิรันดร์
ขั้นตอนระหว่างการเคลียร์รอยแยกภายในเกม
ฉันนำข้อมูลทั้งหมดมาปะติดปะต่อ แล้วส่งข้อความไปหาวังจีโฮ
[ฉัน] ฉันจะไปด้วย แต่ก่อนหน้านั้นมีบางอย่างต้องรบกวนนาย
[วังจีโฮ] จะให้ทำอะไร?
[ฉัน] พรุ่งนี้จะมีเอกสารจากฉันส่งไปถึงมือท่านประธาน ช่วยอนุมัติด้วย
[วังจีโฮ] เข้าใจแล้ว แค่นี้ใช่ไหม?
จะไม่ถามหน่อยหรือว่าเป็นเอกสารอะไร?
ข้อเรียกร้องแรกไม่ยากอย่างที่คิด
แต่ปัญหาคือข้อเรียกร้องถัดไป
[ฉัน] ผู้นำเผ่ากระต่ายมีแผนผังวังจันทราใช่ไหม? เรียกเธอมาที่ทะเลสาบซอกชนด้วย
[วังจีโฮ] ขอปฏิเสธ
คำตอบถูกส่งมาแทบจะในวินาทีเดียวกับข้อความของฉัน
ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ คราวหลังขอดีไวซ์โค้ดของอ๊กโทยอนเผื่อไว้ก็ดี
‘…คราวหน้าไม่พลาดแน่’
ขณะทำใจได้แล้ว วังจีโฮส่งข้อความกลับมา
[วังจีโฮ] จะให้พานังนั่นไปด้วยก็ได้ แต่ฉันมีเงื่อนไข
เงื่อนไข?
อ๊กโทยอนจะมาหรือไม่มา ก็มิได้สำคัญกับแผนสักเท่าไร ฉันจึงตัดสินใจสร้างกำแพงเหล็ก
[ฉัน] ฉันไม่ต้องการพรคุ้มครอง
[วังจีโฮ] -.- ไม่ใช่อันนั้น
วังจีโฮใช้อีโมจิเป็นครั้งแรก…!
[วังจีโฮ] สุดสัปดาห์นี้มานอนค้างบ้านฉัน พักหลังลูกหลานเสือเงินกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์บ่นว่าไม่ค่อยได้เล่นกับนายเลย
ทุกครั้งที่ฉันออกจากคฤหาสน์และเดินกลับหอพัก ทั้งลูกหลานเสือเงินและเจ้าบ่วงมักทำหน้าเศร้าๆ
ที่แท้พวกเขาก็แอบบ่นกับวังจีโฮลับหลัง!
ถ้าแค่นี้ล่ะก็สบายมาก
ฉันตอบกลับทันที
[ฉัน] ตกลง
[วังจีโฮ] เข้าใจแล้ว ฉันไปบอกลูกหลานเสือเงินกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ให้
สุดสัปดาห์นี้คิวเต็มแล้วสินะ
คงต้องเตรียมตัวเพิ่มอีกสักหน่อย เพื่อให้เสาร์อาทิตย์ผ่านไปอย่างสมบูรณ์แบบ
[ฉัน] หัวหน้าทีมฮงกยูบิน ตอนนี้ยุ่งอยู่ไหม?
ถัดมา ฉันส่งข้อความไปหาฮงกยูบิน – หัวหน้าทีมสื่อที่ 1 ของสมาคมเพลเยอร์เกาหลี
[ฮงกยูบิน] ไม่เลย ฉันว่างอยู่ ถึงวันนี้จะทำโอที แต่ก็เลิกเร็วกว่ากำหนด ตอนนี้ถึงบ้านแล้ว
…ทำโอที เพิ่งเข้ากะดึกมาสินะ
‘แต่ถ้าเลิกเร็วกว่ากำหนด สื่อได้ว่าคดีของชเวย็อนทึกเริ่มเข้ารูปเข้ารอยแล้ว’
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ฉันสามารถใช้งานฮงกยูบินได้โดยไม่รู้สึกผิดมากนัก
[ฉัน] พอดีมีเรื่องอยากจะรบกวน
ฮงกยูบินผู้ตอบข้อความได้รวดเร็วฉับไวเสมอ คราวนี้ช้าไปหนึ่งจังหวะ
[ฮงกยูบิน] อึยชิน… วันนี้ฉันต้องกลับไปทำโอทีอีกหรือ?
เซนส์แรงชะมัด
หรือว่าสกิลนิมิตทำงาน?
หลังจากฉันชะงักไปเล็กน้อย
[ฉัน] เปล่า
[ฮงกยูบิน] ขอบคุณมาก ^^; พรุ่งนี้เริ่มกลับมาเลิกงานตรงเวลาแล้วล่ะ ในที่สุดก็จะได้นอนเกินหกชั่วโมงสักที! มีความสุขชะมัด! แล้วเธออยากให้ฉันช่วยอะไร? เลี้ยงข้าวไหม? หรืออยากได้ไอเท็มชิ้นไหน?
ฮงกยูบินพยายามเลี่ยงงานสุดชีวิต
เซนส์ของเขาคงบอกได้ว่า ฉันกำลังจะไหว้วานให้ทำงานใหม่
ขอโทษด้วยนะ ฮงกยูบิน แต่ฉันไม่มีทางเลือก
[ฉัน] ไม่ใช่วันนี้ แต่อีกไม่กี่วันคุณต้องทำโอที
[ฮงกยูบิน] อา…
[ฮงกยูบิน] รับทราบ… ㅠㅠ
การดิ้นรนเพื่อหลีกหนีความจริงของเขา จบลงแค่ตรงนี้
ความสิ้นหวังของฮงกยูบินแฝงมากับข้อความอย่างเต็มเปี่ยม แต่ฉันรีบปิดหน้าต่างแชตโดยแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้
* * *
เช้าวันถัดมา
บรรดานักเรียนกำลังตื่นเต้นกับการเตรียมงานวันครูที่กำลังจะมาถึงโนเวลกูดอทคoม
ปี 1/0 ก็ไม่ต่างกัน
“ของขวัญสำหรับงานวันครูคราวนี้… พวกเราจะใช้เงินห้องซื้อ! เห็นว่าถ้าใช้เงินห้องซื้อดอกคาร์เนชั่นกับของกินมาให้ครู จะไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายล่ะ!”
ตามการนัดหมายของหัวหน้าห้องคิมยูรี นักเรียนทั้งเจ็ดคนของปี 1/0 มาถึงห้องเช้ากว่าปกติ
เพื่อประชุมในหัวข้อ ‘การเตรียมตัวในวันครู’
“มาแบ่งทีมซื้อดอกไม้กับทีมซื้ออาหารกันเถอะ!”
คิมยูรีแบ่งทีมด้วยแอปฯ สุ่มรายชื่อของเธอเช่นเคย
ทีมดอกไม้: คิมยูรี, อีเรนา, เม็งเฮียวทง
ทีมอาหาร: ฉัน, วังจีโฮ, ฮันอี, ซาวอลเซอึม
“โธ่… ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดอกไม้เลย!”
“ไม่เป็นไร พวกเราจะช่วยเลือกเอง!”
“นี่! ตอนเช้าๆ ฉันอยากไปเดินตลาดดอกไม้แถวยังแจดง… ไปด้วยกันไหม?”
“อื้อ! พวกเรานั่งรถบัสด่วนกังนัมไปตลาดดอกไม้กันเถอะ!”
เม็งเฮียวทงทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่สุดท้ายก็ไหลไปตามกระแสความฮึกเหิมของคิมยูรีกับอีเรนา
“เห็นว่าร้านเบเกอรีแฮนด์เมดหน้าประตูฝั่งตะวันตกรับออร์เดอร์ตามสั่งด้วย สั่งเค้กหน้าดอกคาร์เนชั่นดีไหม?”
“ถ้าเงินห้องยังเหลือ ฉันอยากซื้อขนมรุ่นลิมิเต็ดจากโรงแรมลอยฟ้า ‘สโนว์แอนด์แอร์’ หรือไม่ก็ ‘อีคารัส’ ด้วย!”
ซาวอลเซอึมแน่วแน่บนเส้นทางขนมตะวันตก โดยไม่คิดจะเหลียวแลขนมต็อกกระต่ายจันทร์
กับฮันอีคนรักของหวาน
สำหรับทีมอาหารของฉัน การตัดสินใจถูกยกให้สองคนนั้นดูแล
“ซื้อเตรียมไว้สำหรับกี่คนดี… แปดคนรวมครูด้วย?”
“…คงไม่มีใครมาเพิ่มแล้วมั้ง แปดคนก็น่าจะพอ”
ฉันผู้คอยพยักหน้าหงึกหงักมาตลอด ยกมือแสดงความเห็นเป็นครั้งแรก
“เรายังไม่รู้ว่าจะมีใครมาบ้าง เตรียมไว้สำหรับเก้าคนก็ได้นะ”
ขณะพูด ฉันนึกถึงความเป็นไปได้ที่มินกือรินอาจจะมา
วังจีโฮผู้ปิดปากเงียบมาตลอดเช่นกัน พลันทำตาเป็นประกาย แต่ฉันแกล้งเมิน
“ก็ได้… เตรียมไว้สำหรับเก้าคน ถ้าไม่มีใครมาเพิ่ม เราก็นำส่วนเกินมาแบ่งกันเอง”
“ตกลง ฉันจะจองผ่านแอปฯ เดี๋ยวนี้แหละ!”
เสียงกริ่งเปลี่ยนคาบดังขึ้นขณะพวกเราวางแผนใกล้เสร็จ
กริ่งรอบนี้เป็นเพลง ‘เนสซูน ดอร์มา’ (Nessun dorma) จากละครโอเปราสามองก์ ‘ตูรันโดต์’ (Turandot) ซึ่งประพันธ์โดยจาโคโม·ปุชชีนี (Giacomo Puccini)
บันทึกเสียงโดยชมรมขับร้อง ชมรมประสานเสียง และชมรมออร์เครสตรา
อ้างอิงจากละครโอเปรา ท่อนร้องหลักจะถูกขับขานโดยเจ้าชายคาลาฟ – ผู้ประกาศชัยชนะภายในวังแสงจันทร์ – และประสานเสียงโดยเหล่านางรับใช้ข้างกายเจ้าหญิงตูรันโดต์ซึ่งกำลังใกล้ตาย
พวกเรานั่งฟังท่อนร้องอันทรงพลังจนกระทั่งครูฮัมกึนยองเดินเข้ามา
* * *
หลังจากจบคาบโฮมรูมเช้า
บนทางเดินหน้าห้องศูนย์ซึ่งปลอดคน
ฉันเดินตามครูฮัมกึนยองแล้วยื่นเอกสารให้
“ครูฮัมกึนยอง ช่วยส่งเอกสารฉบับนี้ให้ท่านประธานได้ไหมครับ”
มันคือเอกสาร ‘ขอเข้าร่วมรอยแยกต่างโลก’ สำหรับนักเรียนชั้นปีหนึ่งเทอมหนึ่ง
ตามกฎของโรงเรียนแสงเงิน นักเรียนปีหนึ่งเทอมหนึ่งไม่สามารถเข้าจู่โจมรอยแยกต่างโลกได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นในกรณีที่ครูประจำชั้นและคณะกรรมการอนุญาต
ปกติแล้วคณะกรรมการจะไม่ค่อยอนุมัติ แต่ก็ไม่มีปัญหาถ้าเอกสารฉบับนี้ถูกส่งถึงมือวังมยองโฮ
“…เข้าใจแล้ว”
ฮัมกึนยองชะงักไปเล็กน้อยหลังจากเห็นเนื้อหา แต่ไม่นานก็พยักหน้ารับ
จะไม่ถามอะไรหน่อยหรือ?
ตรงกันข้าม เขาเสนอในสิ่งที่คาดไม่ถึง
“ครูไปด้วยได้ไหม”
ถ้าฮัมกึนยองมาด้วย การเคลียร์รอยแยกอาจง่ายขึ้น แต่เรื่องราวก็จะยุ่งเหยิงขึ้นด้วยเช่นกัน
ถึงจะน่าเสียดาย แต่ฉันตอบปฏิเสธ
“ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไร…”
ฮัมกึนยองรับกระดาษไปโดยไม่ถามอะไรอีก
ขณะฉันยืนมอง เขาพึมพำกับตัวเอง
“เมื่อสิบห้าปีก่อน นักเรียนที่เหมือนกับเธอ ได้ยื่นเอกสารแบบเดียวกับเธอเปี๊ยบเลย”
นักเรียนที่เหมือนกับฉัน
สิบห้าปีก่อน
คงเป็นคนที่เขาเคยเล่าให้ฟัง ก่อนเราจะบุกเข้าไปช่วยเม็งเฮียวทง
‘ประธานนักเรียนผู้ก่อตั้งสมาคมปีกธรณีเมื่อสิบห้าปีก่อน…’
ตีความจากคำพูดของฮัมกึนยอง ประธานนักเรียนคนนั้นเคยยื่นเอกสารขอเข้าร่วมทีมโจมตีรอยแยกตั้งแต่ปีหนึ่งเทอมหนึ่ง
“ตอนนั้นครู่ไม่อนุมัติ และยืนกรานว่าต้องพาครูไปด้วยถึงจะยอม… แต่เขาไม่ยอม… สุดท้าย เด็กคนนั้นได้รับบาดเจ็บกลับมา”
ประธานนักเรียนเมื่อสิบห้าปีก่อนคิดจะทำอะไรกันแน่?
ฉันอยากฟังรายละเอียด แต่ฮัมกึนยองไม่มีทีท่าว่าจะเล่า
“อย่าบาดเจ็บกลับมาล่ะ”
ฮัมกึนยองทิ้งท้ายแล้วหันหลังกลับ
ฉันเห็นเขานำปากกาหมึกซึมออกจากกระเป๋าเสื้อและเซ็นอนุมัติให้
* * *
หลังเลิกเรียน
ในเดือนพฤษภาคม ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินจะอยู่ราวๆ หนึ่งทุ่มครึ่ง
ณ ทะเลสาบอันมืดมิดที่ฉาบด้วยแสงอัสดง
ฉันมาถึงพิกัดที่นาบีรยองทิ้งไว้ให้ – ฝังบูรพาของทะเลสาบซอกชน