เขตห้วงห้าม, อาคารเรียนเก่า
ย็อมจุนยอลปรากฏตัวในสภาพรีบร้อนสุดขีด ผมเผ้าเสียทรงเล็กน้อย
“ผมเรียกคุณว่าอาจารย์ได้หรือยัง?”
“แน่นอน… ขว้างได้ดีมาก”
“ขอบคุณครับอาจารย์! ดูเหมือนการขว้างจะเป็นแค่กุศโลบายสินะครับ ถ้าอาจารย์บอกล่วงหน้า ผมคงเตรียมตัวบุกโจมตีรอยแยกต่างโลก และพยายามทำผลงานเป็นอันดับหนึ่งให้ได้”
สำหรับหน่วยบุกรอยแยกต่างโลก ณ สนามเบสบอลจัมชิล ผู้ทำผลงานสูงสุดของแต่ละรอยแยกประกอบด้วยย็อมบังยอล มังกรคราม และยงเจกอน
ในทางทฤษฎี เป็นเรื่องยากมากที่จะทำผลงานได้ดีกว่าสามคนนี้
แต่ความมุ่งมั่นของย็อมจุนยอลคือสิ่งที่น่าชื่นชม
“ผมลองตกผลึกดูแล้ว ถึงเหตุผลที่อาจารย์มอบเงื่อนไขเหล่านี้… ช่วยรับฟังได้ไหมครับ”
จะว่าไป เรายังไม่เคยสอนอะไรเลยสินะ
ถึงจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ฉันก็พยักหน้ารับโดยดีเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกว่าอาจารย์
“เงื่อนไขมีทั้งหมดสามข้อ… ข้อแรก ขอให้ผมเป็นคนขว้างเปิดงาน… ก็เพื่อให้ทีมสิงโตแดงของพ่อและเผ่ามังกรมาร่วมงานด้วย เพราะไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่ตามมาดู”
“ถูกต้อง”
เห็นฉันพยักหน้ารับ ย็อมจุนยอลเล่าต่อด้วยรอยยิ้ม
“ข้อที่สอง… ให้ผมนั่งดูจนจบเกม เพราะถึงเผ่ามังกรจะมาด้วย แต่พวกเขามีนิสัยเบื่อง่ายและมักจะกลับไปก่อนอินนิ่งที่ห้า… รอยแยกต่างโลกโผล่ขึ้นหลังจากอินนิ่งที่ห้า คุณต้องการให้ผมอยู่จนถึงตอนนั้น”
ย็อมจุนยอลยังคงพูดต่อไป
“ข้อที่สาม… เก็บความลับไว้จนกว่าจะถึงวันแข่ง ข้อนี้น่าจะสำคัญที่สุด…”
ฉันไม่ตอบ รอให้ย็อมจุนยอลเล่าความคิดตัวเองออกมา
เมื่อเห็นสายตาฉัน เขาเล่าต่อทันทีราวกับอ่านเจตนาออก
“ในสถานการณ์ปกติ อาจารย์ซึ่งรู้ว่าจะเกิดรอยแยกต่างโลกล่วงหน้า ควรส่งจดหมายไปเตือนสมาคมเพลเยอร์ เพราะไม่มีทางที่สมาคมเพลเยอร์จะไม่เคลื่อนไหวถ้าได้เห็นชื่อจอมโจรผาแดง… แต่คุณก็ไม่ได้ทำ”
ถ้าคิดจะทำ ฉันคงอ้างบุญคุณเก่ากับฮงกยูบิน มากกว่าใช้ชื่อที่น่าอับอายอย่างจอมโจรผาแดง
ขณะรำพันในใจ ย็อมจุนยอลฉายโฮโลแกรมเพื่อแสดงสถิติข้อมูล
เป็นสถิติเปรียบเทียบจำนวนรอยแยกในกรุงโซลประจำวันที่ 5 เมษายนของห้าปีย้อนหลัง เทียบกับปีปัจจุบัน
“ในวันเด็กที่ผ่านมา จำนวนรอยแยกต่างโลกปรากฏขึ้นในกรุงโซลเพิ่มจากปกติถึงห้าเท่า… ไม่ใช่แค่นั้น ดาวเทียมเพลเยอร์ SAT-K ที่มีประสิทธิภาพสูงระดับแถวหน้าของโลก ซึ่งในพักหลังยังถูกตรวจสอบอย่างละเอียดหลายครั้ง แต่กลับพลาดการแจ้งเตือนรอยแยกระดับ SR++ ถึงสามแห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน… มันแปลกเกินกว่าจะมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญ”
โฮโลแกรมเลื่อนเปลี่ยนหน้า
เป็นข้อความสรุปเนื้อหาของบทความ ที่เกี่ยวกับเหตุร้าย ณ สนามเบสบอลจัมชิลทั้งหมด
พร้อมด้วยภาพแผนผังที่นั่งในสนามของทั้งฝั่งจูโอกรุปและ TC กรุป
“ถึงจะเชื่อได้ยาก แต่คนร้ายลงมือด้วยความมั่นใจว่าดาวเทียมเพลเยอร์ SAT-K จะตรวจไม่พบรอยแยกระดับ SR… และเพื่อขัดขวางการทำงานของสมาคมเพลเยอร์ รอยแยกต่างโลกในกรุงโซลมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติภายในวันนั้น… เมื่อนำปัจจัยทั้งหมดมารวมกัน หมายความว่าเป้าหมายของคนร้าย คือชีวิตของผู้ชมทั้ง 26,000 คนในสนามจัมชิล ซึ่งรวมถึงคนของจูโอกรุปและ TC กรุปด้วย”
ย็อมจุนยอลปิดโฮโลแกรม พลางจ้องหน้าฉันที่สวมหน้ากากอีกา และกล่าวอย่างมั่นใจ
“เหตุผลที่คุณบอกให้เก็บเป็นความลับจนกว่าจะถึงวันนั้น… มีเป็นไปได้ว่า หากคนร้ายคิดจะสร้างรอยแยกต่างโลกที่สามารถระบุตำแหน่งและเล็ดลอดจากสายตาดาวเทียม จะต้องใช้เวลาเตรียมการนานกว่าหนึ่งวัน… อาจารย์จึงวางแผนตลบหลังโดยไม่ให้คนร้ายรู้ตัว… ส่วนเหตุผลที่ไม่ไปจัดการกับคนร้ายโดยตรง เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคนร้ายเป็นใคร”
โฮ่…
ถูกต้องทั้งหมด
แตกต่างจากเราที่มีข้อมูลจากในเกม ย็อมจุนยอลสามารถอนุมานเรื่องราวได้ด้วยข้อมูลที่มีอยู่น้อยนิด
‘น่าทึ่งมากที่เขาสามารถจินตนาการถึงพลังอัญเชิญรอยแยกต่างโลก เพราะสิ่งนี้อยู่นอกเหนือการรับรู้ของคนในยุคปัจจุบัน’
ถึงจะเป็นโลกที่มีพลังพิเศษ แต่สกิล ‘อัญเชิญรอยแยกต่างโลก’ ก็ยังเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม
หากเทียบกับโลกเก่าของเรา มันเหลวไหลพอๆ กับการที่มีคนบอกว่า ใครสักคนสามารถสั่งให้อุกกาบาตพุ่งชนโลกได้
ถ้าย็อมบังยอลหรือเผ่ามังกรอยู่ที่นี่ด้วย พวกเขาคงมิอาจต้านทานสง่างามของย็อมจุนยอลในเวลานี้ได้
“สมแล้วที่เป็นศิษย์ของฉัน ถูกต้องทั้งหมด”
“ขอบคุณครับ…!”
ตอนนี้ฉันถือว่าเป็นอาจารย์ของย็อมจุนยอลแล้ว คงต้องรักษามาดกันหน่อย
ย็อมจุนยอลฉีกยิ้มกว้างทุกครั้งที่ได้ยินฉันเรียกว่าศิษย์
“ใช่แล้วล่ะ… ฉันรู้ว่ามันคิดจะทำอะไร แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร… มาร่วมมือกันเถอะ”
“ครับอาจารย์! ถ้าอาจารย์อนุญาต ผมสามารถนำเรื่องนี้ไปขอความช่วยเหลือจากท่านพ่อและท่านลุงมังกรคราม!”
อย่าหาทำเชียว
ถ้าย็อมบังยอลกับมังกรครามทราบเรื่อง พวกเขาคงให้ย็อมจุนยอลถอนตัวเพราะเป็นห่วงความปลอดภัย
แถมยังอาจเชือดคนที่แสร้งทำตัวเป็นอาจารย์ทิ้ง
“…ไว้ค่อยบอกทีหลัง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”
“ครับ! ผมเชื่อในตัวอาจารย์ คุณคือฮีโร่ที่ช่วยเหลือเด็กๆ และพลเมืองจากเหตุร้าย ณ สนามเบสบอลจัมชิล แถมยังเคยทำลายงานประมูลมายาอันโสมม”
ทั้งที่ไม่ได้เอ่ยคำว่าจอมโจรผาแดงออกมา แต่เรากลับกระอักกระอ่วนแปลกๆ
คงเพราะฉันรู้ดีว่า ย็อมจุนยอลไม่ใช่พวกประจบประแจง ทุกคำที่พูดล้วนออกมาจากใจจริง
เปลี่ยนเรื่องกันดีกว่า
“ไม่สงสัยบ้างหรือว่าฉันเป็นใคร? มีคนมากมายพยายามหลอกใช้เธอ ฉันอาจเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้”
“ศิษย์จะกังขาในตัวอาจารย์ได้อย่างไร อาจารย์คือฮีโร่ที่ช่วยชีวิตผู้คนมากมาย!”
ย็อมจุนยอลเผชิญหน้ากับคำถามด้วยแววตาหนักแน่น
ถึงฉันจะยังไม่ได้สอนอะไรเลย แต่ดูเหมือนผลงานที่ผ่านมาจะช่วยสร้างเครดิตให้พอสมควร
ย็อมจุนยอลมองหน้าฉันด้วยสายตาคาดหวัง ตามด้วยกล่าว
“ผมเชื่อว่าอาจารย์จะต้องบอกผมในสักวัน… หากผมแข็งแกร่งพอที่จะแบกรับตัวจริงของอาจารย์ได้เมื่อไร วันนั้นจะมาถึงเอง”
“…ดี”
ใจจริงก็คงอยากรู้แหละ
ไม่มีทางที่จะไม่อยากรู้ว่าบุคคลน่าสงสัยอย่างฉันเป็นใคร
“เอาล่ะ มาเริ่มคาบแรกกันเลย”
“ครับ!”
หนึ่งชั่วโมงถัดมา
รูม่านตาแนวตั้งที่กำลังอัดแน่นด้วยความร้อน ยังคงจดจ่ออยู่กับเปลวไฟที่ฉันสร้าง
ในร่างที่ใกล้เคียงกับเผ่ามังกรมากกว่ามนุษย์ เรือนผมและดวงเนตรของย็อมจุนยอลกลายเป็นสีแดงเพลิง
ดูเหมือนสมาธิใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว
“ลุยละนะ!”
ซู่ว—!
สิ้นเสียงย็อมจุนยอล บอลเพลิงจำนวนมากโหมกระหน่ำใส่ฉัน
เขาทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อเล็งโจมตีใส่เปลวไฟบนฝ่ามือฉัน แต่ผลลัพธ์กลับไม่ใกล้เคียงความสำเร็จ
การโจมตีทั้งหมดของย็อมจุนยอล ถูกบาเรียรอบเปลวไฟของฉันดูดซับจนเกลี้ยง
“อึก…!”
ใช้พลังมากไปรึเปล่านะ?
มังกรแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของย็อมจุนยอลค่อยๆ กลายเป็นสีใส
“วันนี้พอก่อนไหม?”
“ยังไหวครับ!”
มังกรแดงกลับคืนสีเดิมในพริบตา
ย็อมจุนยอลสูดลมหายใจยาว คราวนี้เขาเตรียมเปลี่ยนไปใช้คลื่นพลังจิต
‘คงกินเวลานานกว่าที่คิด’
บทเรียนของฉันคือ ‘ฮุบกลืนพลังพิเศษ’
ในกรณีของพลังพิเศษธาตุพื้นฐานอย่างไฟ น้ำ สายฟ้า ลม และดิน เจ้าของสกิลธาตุเดียวกันสามารถ ‘ยึด’ พลังพิเศษที่อีกฝ่ายเรียกออกมา ให้เป็นของตัวเองได้
‘แต่จะยึดได้เฉพาะพลังที่ปล่อยออกมาจากร่างกายแล้วเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมดของอีกฝ่าย’
ยกตัวอย่างเช่น สมมติให้ย็อมจุนยอลสร้างบอลเพลิงด้วยศาสตร์แห่งเพลิงแล้วโจมตีใส่ฉัน
สำหรับฉันที่ใช้เส้นทางเพลเยอร์และมีสกิลศาสตร์แห่งเพลิงเหมือนกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่จะช่วงชิงเปลวไฟของย็อมจุนยอลมาใช้งาน
‘การฮุบกลืนพลังพิเศษมีสองวิธี… วิธีแรกคือการกระตุ้นสกิลพร้อมกับเพ่งจิตเพื่อยึดครองสกิลของเป้าหมาย… วิธีที่สอง เรียกสกิลของตัวเองออกมาโจมตีสกิลของเป้าหมายโดยตรง… แต่ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ล้วนสิ้นเปลืองพลังใจมหาศาล’
ถ้าฮุบกลืนสำเร็จ ฝ่ายผู้ช่วงชิงสามารถควบคุมสกิลของเป้าหมายได้ตามใจชอบ
ตามปกติแล้ว ถึงจะฮุบกลืนพลังพิเศษล้มเหลว แต่ผู้ช่วงชิงจะไม่ได้รับผลเสียใด ยกเว้นแต่ในกรณีพิเศษ ที่กระแสพลังจิตไหลย้อนกลับจนทำให้ผู้ช่วงชิงเกิดปัญหาทางจิต
‘สำหรับเด็กอัจฉริยะและประสบการณ์สูงอย่างย็อมจุนยอล ถึงจะเสี่ยงไปหน่อย แต่การฝึกแบบนี้เห็นผลเร็วที่สุด’
บทเรียนของฉันก็คือ ให้ย็อมจุนยอลพยายามฮุบกลืน ‘บอลไฟ’ บนฝ่ามือที่ฉันสร้างขึ้นจากศาสตร์แห่งเพลิง
แน่นอน ผลลัพธ์คือความล้มเหลวตลอดหนึ่งชั่วโมงเต็ม пᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ
‘จริงอยู่ที่เลเวลและพลังจิตของฉันสูงกว่ามาก แต่เปลวไฟมีขนาดเท่าฝ่ามือเองนะ… นานขนาดนี้แล้วยังฮุบกลืนไม่ได้อีก? ที่ผ่านมาย็อมบังยอลมัวทำอะไรอยู่?’
วิธีฝึกของฉันไม่ใช่เทคนิคลับอะไร ทางย็อมบังยอลกับเผ่ามังกรที่มีศาสตร์แห่งเพลิง ย่อมรู้จักกันดีอยู่แล้ว
‘หรือกลัวว่าย็อมจุนยอลจะล้มเหลวจนส่งผลถึงสภาพจิตใจ?’
ร่างกายย็อมจุนยอลจะไม่ถูกแผดเผาเพราะได้รับพรคุ้มครองจากราชันเทพมังกร แต่กับจิตใจนั้นต่างออกไป
การไหลย้อนกลับของคลื่นพลังจิตที่เกิดจากศาสตร์แห่งเพลิง สามารถสร้างความเสียหายแก่จิตใจย็อมจุนยอลได้
ย็อมบังยอลกับเผ่ามังกรที่รู้เรื่องนี้ คงไม่กล้าสอนให้ย็อมจุนยอลฮุบกลืนพลังพิเศษ
และนอกเนื่องจากเทคนิคฮุบกลืน พวกเขาคงห้ามไม่ให้ย็อมจุนยอลฝึกเสี่ยงๆ ทุกรูปแบบ
‘เพราะแบบนี้ ย็อมจุนยอลจึงไม่พอใจและอยากหาอาจารย์คนใหม่’
แม้จะกำลังทุกข์ทรมานเพราะการฝึก แต่รอยยิ้มยังคงฉาบอยู่ทั่วริมฝีปากของเขา
คลื่นพลังจิตของเขาซึ่งดูคล้ายดวงตามังกร ควบแน่นและพุ่งตรงมายังเปลวไฟบนมือฉัน
ซ่า!
เปลวไฟบนฝ่ามือที่เริ่มถูกพลังจิตของย็อมจุนยอลแทรกแซง เปลี่ยนเป็นสีดำและพยายามย้อนกลับไปหาย็อมจุนยอล
นี่คือสัญญาณของ ‘กระแสคลื่นพลังจิตย้อนกลับ’
“หยุด!”
ฉันรีบกำหมัดเพื่อสลายเปลวไฟ จากนั้นก็วิ่งไปหาย็อมจุนยอล
หลังจากยกเลิกพลังของตัวเอง ย็อมจุนยอลทรุดตัวนั่งลงบนพื้นห้องเรียนที่ถูกนำโต๊ะออกไป
มังกรแดงที่คอยลอยวนเวียนรอบตัวเขา ค่อยๆ โปร่งใสและเลือนหาย
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน… พลังจิตของเธอทื่อลงจากช่วงแรกมาก”
มองเข้าไปในตาย็อมจุนยอล ฉันโล่งใจที่เขาไม่ได้รับผลข้างเคียงทางจิตมากนัก มีแค่เลือดไหลซึมจากมุมปาก
เป็นพวกฝืนตัวเองกว่าที่คิด
‘…ถ้าย็อมบังยอลกับเผ่ามังกรรู้เข้า คงพยายามฆ่าเราแน่’
ย็อมจุนยอลทำหน้าไม่พอใจเมื่อตระหนักว่าร่างกายของตนถึงขีดจำกัด
“ผมอวดดีเกินไป… ตอนแรกคิดว่าคงทำให้อาจารย์เรียก ‘มังกร’ ออกมาได้ไม่ยาก… แต่กลับจอดแค่เปลวไฟเล็กๆ เท่าฝ่ามือ”
ย็อมจุนยอลคงคาดหวังกับกำแพงไฟรอบงานประมูลมายา และมังกรแดงในวันนั้นเป็นพิเศษ
‘ถ้าขืนนำมังกรแดงออกมาตอนนี้ เขาอาจจะท้อจนหมดกำลังใจจะฝึก’
ฉันนำการ์ดไอเท็มฟื้นฟูออกมา
ย็อมจุนยอลคงพกติดตัวมาด้วย แต่ถ้าเห็นว่าจำนวนการ์ดไอเท็มฟื้นฟูลดลง ย็อมบังยอลกับเผ่ามังกรคงสติแตกกันแน่
“ตอนนี้ไปพักก่อน พยายามอย่าใช้ไอเท็มฟื้นฟูอื่นๆ ภายในสามวัน… การพักก็ถือเป็นบทเรียนเช่นกัน พยายามทำสมาธิแล้วจินตนาการถึงการกลืนกินเปลวไฟของฉัน”
“…อาจารย์จะไม่ทอดทิ้งลูกศิษย์ไม่ได้ความคนนี้ใช่ไหมครับ”
ย็อมจุนยอลทำหน้าผิดหวัง
ฉันไม่เคยเห็นเขาทำหน้าแบบนี้เลยสักครั้งในเกม
คงจะผิดหวังน่าดูที่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยตลอดทั้งวัน
ไม่มีทางที่ฉันจะทอดทิ้งตัวละครของตัวเองอยู่แล้ว
“เธอเป็นศิษย์ของฉันนับตั้งแต่บรรลุเงื่อนไขได้ครบทุกข้อแล้ว… ไว้พบกันใหม่”
“ด…เดี๋ยวครับ!”
ถ้ายื้อไว้นานกว่านี้ ยงเจกอนอาจออกตามหาย็อมจุนยอลที่หายตัวไป
〈ท่านใช้สกิล ‘ห้วงเวลาไร้เงา’ ของเป้าหมาย〉
เพื่อจะผ่านเข้าออกเขตหวงห้าม ฉันต้องพึ่งพาสกิลของ ‘ผู้ไร้สี’ จอนมูยอง
ย็อมจุนยอลเผยสีหน้าตกตะลึงเมื่อเห็นร่างฉันค่อยๆ เลือนหาย
ขณะเตรียมจะก้าวเท้าออกจากห้องเรียน เด็กหนุ่มในร่างครึ่งมังกรส่งเสียงตะโกน
“ยอดเยี่ยมสมกับเป็นท่านอาจารย์…! หายตัวได้อย่างไร้ที่ติ… รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นศิษย์ของจอมโจรผาแดง!”
ยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตู มือของฉันพลันสั่นระริกเพราะคำพูดที่รุนแรงจนสามารถบิดเบือนมิติเวลา
…เขาพูดในตอนที่ไม่เห็นเราแล้ว จะถือว่าไม่ได้เรียกชื่อนั้นต่อหน้าก็แล้วกัน
* * *
ยามวิกาล ณ หอพักนักเรียนชาย
วันนี้ฉันกลับห้องค่อนข้างดึก เพราะต้องฝึกส่วนตัวเพิ่มอีกเล็กน้อย
และเช่นเคย เมื่อเปิดดีไวซ์ ข้อความมากมายพลันถาโถม
จากบรรดาทั้งหมด ข้อความที่โดดเด่นที่สุดเป็นของอูซังฮุนและวังจีโฮ
‘ไล่อ่านดูหน่อยก็แล้วกัน’
ข้อความจากห้องแชตสามคนที่มีฉัน จางนัมอุก และอูซังฮุน
จางนัมอุกพยายามอธิบายว่าพวกเราบังเอิญเจอกันที่สนามเบสบอลในวันเด็กได้อย่างไร รวมถึงบรรยายเกี่ยวกับเหตุการณ์รอยแยก
แน่นอนว่าอูซังฮุนดูไม่พอใจ
เขาอาจไม่ได้พิมพ์เยอะ แต่ฉันสัมผัสถึงความรู้สึกได้จากข้อความสั้นๆ
[อูซังฮุน] งั้นหรือ?
[อูซังฮุน] คราวหน้าอย่าลืมชวนก็แล้วกัน
[อูซังฮุน] สุดสัปดาห์นี้ยุ่งไหม?
‘เราสามคนไม่ได้อยู่พร้อมหน้านานแล้วสินะ… นัดเจอสักหน่อยก็ดี’
ถึงจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฉันกับจางนัมอุกได้ชมเกมเบสบอลด้วยกันโดยไม่มีเขา แถมยังได้ร่วมสู้กับเอนามีเกรด SR เป็นธรรมดาที่อูซังฮุนจะรู้สึกน้อยใจ
ฉันพิมพ์ตอบกลับไปว่า ‘ว่าง’
เท่านี้ก็พอแล้ว หลังจากนี้จางนัมอุกคงวางแผนเที่ยวสุดสัปดาห์ให้เสร็จสรรพ
‘ถัดไปก็วังจีโฮ… ข้อความช่วงกลางๆ เหมือนจะไม่มีสาระ อ่านแค่ท้ายๆ ก็คงพอ’
[วังจีโฮ] พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนมาที่บ้านฉันด้วย
พรุ่งนี้ไม่มีกิจกรรมชมรม ดังนั้นไม่มีปัญหา
ฉันก็อยากฟังรายละเอียดเพิ่มเติมของแผนผังวังจันทราเหมือนกัน
เหนือสิ่งอื่นใด ที่บ้านหลังนั้นมีเจ้าบ่วง
[วังจีโฮ] ทางคิมชินรกเริ่มได้เบาะแสแล้ว
เบาะแส?
[วังจีโฮ] นายรู้จัก ‘พวกชั้นต่ำ’ ไหม?
…คิดไม่ถึงว่าตัวตนดังกล่าวจะโผล่ออกมาเร็วขนาดนี้