ณ อาคารสำนักงานใหญ่บริษัทขนมต็อกกระต่ายจันทร์
อ๊กโทยอน – CEO ของขนมต็อกกระต่ายจันทร์ ซึ่งแต่งกายด้วยชุดแข่ง หมวก และผ้าพันคอสไตล์เก่าของ TC ไนท์ส กำลังคุกเข่าอ้อนวอนขอความเห็นใจ
ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยที่ต้องคุกเข่าบนพื้นแข็งๆ เป็นเวลานาน ต่อให้มีเบาะรองก็ตาม
เหนือสิ่งอื่นใด อ๊กโทยอนใกล้สติแตกเต็มที เพราะต้องทนฟังเสียงสวดมนต์พุทธดังๆ ผ่านเฮดโฟนบลูทูธตลอดเวลา
“พี่โทยุน… ข้าผิดไปแล้ว! ข้าต้องทนฟังมันไปเรื่อยๆ ใช่ไหม!”
“สำนึกผิดซะ”
“ข้าสำนึกแล้ว! สำนึกจากก้นบึ้ง!”
“จงขจัดความกังวล เกียจคร้าน และโง่เขลาในตัวเจ้าออกไปให้หมด พร้อมกับตระหนักถึงสัจธรรมแห่งทางสายกลาง”
ท่ามกลางเสียงบทสวด อ๊กโทยอนที่สนทนากับอ๊กโทยุนด้วยการอ่านปาก ก้มหน้าลงอีกครั้งด้วยความท้อแท้สิ้นหวัง
อ๊กโทยุนยืนกอดอกพลางก้มมองอีกฝ่าย
บรรยากาศรอบตัวเธอดูน่าเกรงขาม สมกับที่เป็นยอดนักรบของเผ่ากระต่าย
‘ขนาดว่าหนีเก่งๆ อย่างอ๊กโทยอนยังเกือบตายในวันเอพริลฟูล… ไม่ได้การ เห็นทีเราเองก็ต้องเร่งฝึกให้หนักขึ้น’
ทางด้านอ๊กโทยอนยังคงเอาแต่ก้มหน้าฟังบทสวด
‘โทยอนบอกว่าพบความผิดปกติจากแผนผังวังจันทรา จึงตัดสินใจไปตรวจสอบด้วยตาตัวเอง… แต่อีกใจหนึ่งก็อยากไปดู TC ไนท์สแข่งอยู่แล้ว… ระหว่างนั้นดันเกิดรอยแยกต่างโลกระดับ SR++ ขึ้นโดยไม่มีลางบอกเหตุ’
“พี่โทยุน… ข้าหิว… หาอะไรให้กินหน่อยได้ไหม? ข้าอยากกินขนมต็อกคลุกถั่วดำ… โรยผงถั่วแดงเยอะๆ!”
แม้อ๊กโทยอนจะออดอ้อน แต่อ๊กโทยุนยังคงยืนกอดอกครุ่นคิดโดยแสร้งทำหูทวนลม
‘มีบางสิ่งไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี… จากบรรดาเผ่ากระต่ายทั้งหมด มีแค่โทยอนที่อ่านแผนผังวังจันทราได้… ถ้าเราเป็นศัตรูก็คงหมายหัวเธอเป็นคนแรก’
อ๊กโทยุนสั่นสะท้านแผ่วเบาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันเอพริลฟูล
ถ้าไม่ใช่เพราะเผ่าเสือระดมกำลังช่วยเหลือผ่านคำขอร้องของลูกหลานเสือเงิน ป่านนี้เผ่ากระต่ายคงพินาศสิ้นไปแล้ว
จะเหลือรอดแค่อ๊กโทยอนที่ได้รับพรคุ้มครองอย่างแรงกล้าจากท้าวสักกะ
“ท่านพี่…? พี่โทยุน! ได้ฟังอยู่ไหม!”
โทยุนถอนหายใจแผ่วเบา เนื่องจากไม่รู้จะทำอย่างไรกับผู้นำเผ่ากระต่ายที่ไม่ยอมโตแม้จะผ่านไปหลายพันปี
“…ก็ได้ พักสามสิบนาทีแล้วกลับมาใหม่ เปลี่ยนชุดมาให้เรียบร้อยด้วย”
“หือ…? ให้ข้าพักสามสิบนาทีแล้วต้องกลับมาใหม่? พี่โทยุน…”
“ไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร”
“ป…เปล่า! ข้าจะทำ! ข้าจะกลับมาพร้อมขนมต็อกในส่วนของท่านพี่ด้วย!”
อ๊กโทยอนดีดตัวพรวดขึ้น พร้อมกับถอดเฮดโฟนขว้างทิ้ง แล้วก็อันตรธานหายไปจากห้อง
เป็นความเร็วที่ทำได้เกิดภาพตกค้างได้ชั่วคราว
อ๊กโทยุนหัวเราะในลำคอด้วยรอยยิ้ม พลางคิดว่าถ้าอีกฝ่ายนำความเร็วระดับนี้ไปใช้ทำงานทำการบ้างก็คงจะดี
‘สำหรับสัญญาโง่ๆ ที่ไปทำกับเสือเหลืองในวันก่อน… เธอไม่ใช่เด็กโง่สักหน่อย ทำไมถึงปากพล่อยโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง?’
แม้จะอยู่ระหว่างถูกทำโทษ แต่ก็ยังไม่วายไปทำขนมต็อกกลับให้พี่สาว สิ่งนี้ทำให้อ๊กโทยุนทั้งชื่นชมและสับสนในเวลาเดียวกัน
ปิ๊งป่อง
เสียงข้อความดังขึ้นจากดีไวซ์ของอ๊กโทยุน
ผู้ส่งข้อความคือบุคคลที่ไม่คาดคิด
‘ยงเจกอนแห่งเผ่ามังกร…!’
เกือบลืมไปแล้วว่าเคยแลกเปลี่ยนรหัสติดต่อกันไว้
อ๊กโทยุนอ่านข้อความด้วยสีหน้าประหลาดใจ
[สวัสดีท่านโทยุน ไม่ได้พบกันเสียนาน ข้าอยากพูดคุยเกี่ยวกับแผนผังวังจันทราที่ท่านโทยอนเล่าให้ฟัง พอจะมีเวลาว่างไหม?]
‘…แล้วทำไมถึงติดต่อเราแทนที่จะเป็นโทยอน?’
ขณะอ๊กโทยุนลังเล ประตูห้องเปิดออกด้วยเสียงอึกทึก
ปัง!
“พี่โทยุน ข้าเอาขนมต็อกมาให้แล้ว! ต็อกคลุกถั่วดำกับต็อกผงลูกพลับ รีบกินตอนที่ยังร้อนเถอะ!”
อ๊กโทยอนยื่นจานที่เต็มไปด้วยขนมต็อกนึ่งร้อนๆ ให้อ๊กโทยุน พลางยิ้มอย่างร่าเริงโดยไม่รับรู้ถึงความกังวลของอีกฝ่าย
อ๊กโทยุนนั่งลงฝั่งตรงข้ามผู้นำเผ่ากระต่ายที่ไม่ยอมโต พลางครุ่นคิดว่าตนควรเพิ่มบทลงโทษให้นานขึ้นจากเดิมดีไหม
* * *
มีเรื่องให้ขอร้องตั้งมากมาย แต่ดันขอให้ช่วยจองตั๋ว?
…มันคือนรกที่เราเคยบอบช้ำมากที่สุดนับตั้งแต่ถูกส่งมาที่โลกนี้
ให้ไปจับเอนามีเกรด SR- อีกสักสองสามตัวยังง่ายกว่า
“เธอจะจัดคอนเสิร์ตหนึ่งวันที่หอพยัคฆ์สำแดงของโรงเรียนเรา!”
หอพยัคฆ์สำแดงตั้งอยู่ในเขตส่วนกลาง
เดิมทีเป็นสถานที่สำหรับให้ชมรมหรือกลุ่มย่อยของโรงเรียนได้แสดงฝีมือ มักไม่ถูกใช้จัดงานของบุคคลภายนอก
เพราะความจุที่นั่งน้อยเกินไป ไม่ถึงหนึ่งพันเก้าอี้ด้วยซ้ำ
‘ทำไมถึงใช้หอพยัคฆ์สำแดงเล็กๆ แทนที่จะเป็นหอพยัคฆ์สง่ากว้างๆ …?’
งานแสดงของควอนเจอิน หัวหน้าทีมทะเลสาบนิรันดร์ – หนึ่งในสี่ทีมโจมตีต่างโลกที่โด่งดังที่สุดของสหราชอาณาจักร
นักไวโอลินผู้สร้างชื่อกระฉ่อนไปทั่วโลก จนได้รับเหรียญตราจากพระราชินีแห่งอังกฤษ
คอนเสิร์ตของเธอซึ่งได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก กำลังจะถูกจัดขึ้นในเกาหลีใต้
เมื่อนำปัจจัยทั้งหมดมาประกอบด้วยเข้ากัน ตีความได้ว่าบัตรชมคอนเสิร์ตจะต้องจองยากเป็นเท่าตัว
‘แค่จะจองตั๋วสักใบจากโซนหลักในสนามเบสบอลซึ่งมีกว่า 25,000 ที่นั่ง เรายังทำไม่สำเร็จเลย… นับประสาอะไรกับคอนเสิร์ตดังที่มีตั๋วแค่พันใบ… ไม่สิ ยังเร็วไปที่จะยอมแพ้ ยังมีเวลาซ้อมก่อนจะถึงวันจริง’
การซ้อมผ่านเว็บไซต์จำลองอาจช่วยได้
“…ตกลง เปิดให้จองตั๋ววันไหนล่ะ?”
“ขอบคุณมาก! เริ่มตอนเที่ยงวันนี้!”
อะไรนะ?
เหลืออีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง…!
ดูท่าจะไม่มีเวลาให้ซ้อมมือแล้ว
ถอนตัวตอนนี้ยังทันไหม
‘ทำไมอยู่ๆ ถึงประกาศคอนเสิร์ตกระชั้นชิดแบบนี้…’
การกลับมาเยือนเกาหลีใต้ของหัวหน้าทีมทะเลสาบนิรันดร์ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ แต่ฉันกลับจำไม่ได้ว่ามีในเกม
โดยเฉพาะคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นในโรงเรียนแสงเงิน ไม่มีทางที่จะเล็ดลอดสายตาไปได้
“นี่ โชอึยชิน เมื่อวานนายน่ะ…”
“จีโฮ! ช่วยฉันด้วย!”
“หือ?”
ขณะกำลังใช้ความคิด
วังจีโฮพยายามเรียกฉัน แต่ดันถูกอีเรนาชิงพูดแทรกก่อน
เมื่อเผชิญกับสีหน้าเว้าวอนเจือความร้อนรน วังจีโฮเผลอพยักหน้ารับโดยไม่ได้ตั้งใจ
ลงเอยด้วย ไม่ใช่แค่ฉันกับวังจีโฮ แต่นักเรียนทุกคนในห้องศูนย์จะต้องช่วยอีเรนาจองบัตรคอนเสิร์ต
“ถ้าอย่างงั้น วันนี้ทุกคนมากินข้าวรวมกันที่ห้องแล้วช่วยกันจองตั๋วนะ! ฉันเลี้ยงเอง! ขอให้มีสักคนทำสำเร็จ…”
อีเรนากล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยมพลังงานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ก็เข้าใจได้ นักไวโอลินฝึกหัดอย่างเธอ ย่อมต้องสนใจการแสดงสดของนักดนตรีระดับโลก
แค่ได้ดูควอนเจอินเล่นสด นั่นคงมีความหมายกับอีเรนามากแล้ว
‘เพราะเพลง for LENA ที่ควอนเจอินเป็นคนแต่ง คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอตัดสินใจมาโรงเรียน’
อีเรนาเคยบอกว่า เธอรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ใต้แสงจันทร์อันสดใส
ถ้าพลาดโอกาสนี้ไป ไม่รู้เหมือนกันว่าควอนเจอินจะกลับเกาหลีอีกเมื่อไร
‘ขอให้สำเร็จทีเถอะ’
แต่วงการจองตั๋วคือโลกที่โหดร้าย
แม้ว่าเด็กห้องศูนย์ทุกคนจะร่วมมือกัน แต่ก็ยังไม่พอ
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร! ทำไมหน้าจอถึงไม่มีอะไรเลย? เอ้า! ดับไปแล้ว!”
คนแรกที่ตกรอบคือเม็งเฮียวทง
“หืม… แปลกจัง ทำไมฉันถึงถูกส่งกลับมาหน้าแรกล่ะ? ไปล็อกเอาต์ตอนไหน?”
ซาวอลเซอึมถูกคัดออกตามไปเพราะเออเรอร์ปริศนา
“คอนเสิร์ตมีวันเดียวไม่ใช่รึไง? ทำไมถึงต้องมีหน้าต่างให้เลือกวันที่!”
กระทั่งเด็กอัจฉริยะอย่างคิมยูรี ก็ยังเผชิญความยากลำบากในทางเทคนิค
เธอถูกคัดออกตามๆ กันไป
“ขอโทษที ฉันเข้าเร็วไปหน่อย… ดันเจอป๊อปอัป ‘ยังไม่ถึงเวลาจองบัตร’ ซะได้”
หลังจากนั่งรอโหลดหน้าเว็บอยู่นาน ฮันอีก็ถูกคัดออกตามไปอีกคน
“ฮะฮะฮะ! มันขึ้นว่า ‘คุณอยู่คิวลำดับ 1301’ … บ้าบอสิ้นดี คอนเสิร์ตมีแค่หนึ่งพันที่นั่งไม่ใช่รึไง”
“…คิวที่ 3517”
วังจีโฮทำหน้าผิดหวัง ส่วนอีเรนาทำหน้าราวกับโลกจะแตก
ในทางกลับกัน หน้าจอโฮโลแกรมของฉันกำลังแสดงภาพแผนผังเก้าอี้โนเวลกูดอทคoม
“อึยชินกำลังเลือกที่นั่ง…!”
“รองหัวหน้าห้อง พยายามเข้า!”
เป็นผลจากประสบการณ์เมื่อครั้งจองตั๋วเบสบอลในวันเด็ก
ฉันมาได้ไกลที่สุดในบรรดาพวกเราเจ็ดคน
ทว่า…
[ที่นั่งถูกจองแล้ว]
“บัดซบ!”
“เมื่อหนึ่งวินาทีที่แล้วยังว่างอยู่เลย! ทำไม!”
“จะจัดคิวไปเพื่ออะไร? ในเมื่อมันไม่เหลือที่นั่งให้จองแล้ว!”
เสียงคร่ำครวญของเหล่านักเรียนดังขึ้นทันทีที่เห็นข้อความ
ในท้ายที่สุด ฉันเองก็แตกพ่าย
ด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ ฉันลองกด ‘ตกลง’ เพื่อกลับไปยังหน้าจอเลือกที่นั่งอีกครั้ง แต่เก้าอี้ทั้งหมดถูกจองเกลี้ยงแล้ว
ปี 1/0 พ่ายแพ้ในสงครามจองตั๋วคอนเสิร์ต
“ทุกคน… ขอบคุณนะที่สละเวลามาช่วยฉัน”
“ขอโทษที่ทำไม่สำเร็จ”
“ไม่เลย ทางนี้ต่างหากที่ต้องขอบคุณ ที่ยอมช่วยเหลือคำขอร้องกะทันหันของฉัน”
อีเรนากล่าวขอบคุณทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ขณะนั่งจ้องโปสเตอร์ควอนเจอินในโฮโลแกรม ที่กำลังบรรเลงไวโอลินสีน้ำเงินด้วยท่วงท่าสง่างาม อีเรนาพึมพำกับตัวเอง
“จะมีใคร… ยกเลิกตั๋วไหมนะ”
ผู้พ่ายแพ้ในสงครามการจองตั๋ว จะถูกส่งเข้าขุมนรก ‘รอคนยกเลิกตั๋ว’
เหยื่อที่ตกนรกขุมนี้จะเอาแต่รีเฟรชหน้าจอ พลางสวดวิงวอนให้มีคนคืนตั๋วกลับสู่ระบบ
ตัวละครของฉันกำลังตกนรก!
‘ไม่สิ ยังเร็วไปที่จะด่วนสรุป’
ใครจะไปรู้ ถ้าลองใช้เส้นสายคนรู้จักเหมือนตอนจองตั๋วสนามเบสบอล อาจยังมีโอกาสได้จับจองสักหนึ่งที่นั่ง
ราวกับสัมผัสถึงสายตาของฉัน วังจีโฮมองมาด้วยตาเป็นประกาย
ดูเหมือนหมอนี่จะอ่านความต้องการของฉันออก
ไอ้เวร
* * *
หลังเลิกเรียน
ในช่วงโฮมรูมเช้า ฮัมกึนยองนัดฉันไปเจอที่ห้องพักครูหลังเลิกเรียน วันนี้จึงเลิกชมรมเร็วกว่าปกติ
มุนแซรอนเอาแต่ถามเซ้าซี้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในสนามเบสบอลเมื่อวาน ส่วนวังจีโฮก็คอยถามแทรกเป็นระยะ
แม้การจองตั๋วจะทำให้ลืมไปได้ครู่หนึ่ง แต่ผลข้างเคียงจากการถูกประกาศชื่อเมื่อวานยังไม่หายไปไหน
‘จริงสิ ยังไม่ได้อ่านข้อความเลย…’
เมื่อคืนฉันได้รับข้อความมากมาย เพราะเป็นหนึ่งในชื่อที่ถูกเอ่ยถึงในเหตุการณ์สนามเบสบอลจัมชิล
…ดันผล็อยหลับสนิท
ถือโอกาสระหว่างทางขณะเดินไปห้องพักครู ฉันไล่อ่านข้อความค้างที่เรียงกันเป็นตับ
‘ต้องรีบเคลียร์ให้หมดก่อนจะดินพอกหางหมู’
อันดับแรกเป็นห้องแชตของอูซังฮุนกับจางนัมอุก
อูซังฮุนส่งข้อความมาสั้นๆ
[อูซังฮุน] (ลิงก์บทความ)
[อูซังฮุน] หมายความว่ายังไง?
ถัดมาเป็นข้อความส่วนตัวจากซองซีวาน
[ซองซีวาน] ได้ยินว่านายอยู่หน่วยป้องกันประจำรอยแยก SR++ งั้นเหรอ? เก่งมาก! บาดเจ็บตรงไหนไหม?
ถัดมาเป็นข้อความยืนยันการมีชีวิตอยู่จากพัคซึงยอน
[พัคซึงยอน] โหล?
ถัดมาเป็นข้อความยาวเหยียดของฮงกยูบิน
[ฮงกยูบิน] อึยชิน ฉันได้ยินข่าวแล้วนะ แล้วก็ได้ดูวิดีโอจากดาวเทียมแล้วด้วย โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ… เดี๋ยวทีมบริหารดาวเทียมจะเรียกนายมาให้ปากคำ ทางฉันยุ่งมากจนไม่มีโอกาสติดต่อพวกเขาเลย ฮะฮะ… ไล่ตั้งแต่การนัดพบตัวแทนของทั้งสองสโมสร นัดคุยกับทีมสิงโตแดงและเผ่ามังกรที่เข้าไปพิชิตรอยแยก และนัดคุยกับตัวแทนโรงเรียนแสงเงินเพื่อหารือเกี่ยวกับการปล่อยข่าว… คงต้องทำโอทีไปอีกหลายวัน… ทำไมปีนี้ถึงมีอีเวนต์เยอะจังเลยนะ… ㅠㅠ
ถัดมาเป็นข้อความของวังจีโฮ ซึ่งส่งมาขณะฉันกำลังป้องกันรอยแยก
[วังจีโฮ] เกิดอะไรขึ้น?
[วังจีโฮ] ทำไมนังกระต่ายจันทร์กับเผ่ามังกรถึงอยู่ที่นั่นด้วย? คงไม่คิดจะอ้างว่าเป็นแค่ความบังเอิญใช่ไหม?
[วังจีโฮ] ทำไมไม่อ่านข้อความ!
หลังจากไล่ตอบบางอัน และเพิกเฉยบางอัน ฉันปิดหน้าต่างแชตทั้งหมด
เป็นเวลาที่เดินมาถึงหน้าห้องพักครูพอดี
หลังจากกดกริ่งหน้าห้อง ราวกับจับสัญญาณของฉันได้ล่วงหน้า ครูฮัมกึนยองเปิดประตูห้องพักครูทันที
“เข้ามาสิ ครูเพิ่งคุยกับเฮียวทงเสร็จ”
ดูเหมือนว่าเม็งเฮียวทงที่ไม่ได้เข้าชมรมไหนเลย จะถูกนัดพบก่อนฉัน
“เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังหน่อย”
ฉันเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด
หลังจากได้รับคำชวนจากจูซูย็อก พวกเราสามคนนัดกันไปดูการแข่งเบสบอล
ผ่านเรื่องราวมากมาย จนกระทั่งรอยแยกที่สามปรากฏตัว ยงเจกอนที่เป็นหัวหน้าทีมชั่วคราว สั่งให้พวกเราห้าคนทำหน้าที่หน่วยป้องกัน
เหตุการณ์ที่สอดคล้องกับเนื้อหาในบทความ ถูกบรรจงเล่าอย่างลงล็อก
สิ่งเดียวที่ไม่ได้เล่า คือเรื่องที่ฉันจัดฉากทุกอย่างโดยทำเหมือนเป็นความบังเอิญ
“โชอึยชิน พักหลังเธอเข้าไปพัวพันกับเหตุร้ายอยู่บ่อยๆ นะ”
ฮัมกึนยองพูดออกมาหลังจากนั่งฟังอยู่เงียบๆ
ใบหน้าที่ค่อนข้างเคร่งขรึมของเขา เผยความกังวลชัดเจน
“ในวงการเพลเยอร์ บางคนอาจโชคร้ายต้องพัวพันกับเรื่องยุ่งยากบ่อยกว่าคนอื่น และคงไม่มีใครควบคุมเรื่องแบบนั้นได้… ถ้าเมื่อไรต้องการความช่วยเหลือ เรียกครูได้ทุกเมื่อเลยนะ”
แม้สีหน้าจะบ่งบอกชัดเจนว่ายังมีข้อสงสัย แต่ฮัมกึนยองไม่ถามอะไรต่อ
‘จะหาครูดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีก’
ในวันครูที่จะมาถึง ฉันอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อเขา
แต่เนื่องจากประเทศเกาหลีมีกฎหมายห้ามติดสินบนครู การมอบของขวัญดีๆ จึงเป็นไปได้ยาก
ขณะคิดแบบนั้น ฉันเดินไปตามโถงหน้าห้องพักครู
“หือ…?”
จนกระทั่งเจอบุคคลที่คุ้นหน้า
อันที่จริง จะเรียกว่าคนคุ้นหน้าก็ไม่ถูก เพราะอีกฝ่ายปิดหน้าปิดตาตลอดเวลา
เธอคลุมหัวด้วยฮู้ดแจ็กเกตที่สวมทับเสื้อนักเรียน แถมยังใส่แว่นสายตาเลนส์หนาเตอะ
สำหรับโลกนี้ ฉันเพิ่งเคยเจอเธอแค่ครั้งเดียว
‘มินกือริน’
ในวันสอบกลางภาควันแรก เธอคือเด็กห้อง 1/0 ที่หนีกลับไปก่อน
เด็กที่ไม่เคยมาโรงเรียนเลย และหนีการสอบจนถูกปรับตกและต้องสอบซ่อม
พวกเราบังเอิญเจอกันอย่างคาดไม่ถึง
—
MasterGU.edited = เกมใน->ในเกม, ㅠ�->ㅠㅠ, นังฟัง->นั่งฟัง, วางการ