เกรดของเอนามีสูงกว่าในเหตุการณ์ตอนสอบเข้ามาก
เลเวลที่แตกต่างกัน จะส่งผลอย่างมากต่อความแข็งแกร่ง
แต่ความต่างของเลเวล ก็สามารถชดเชยได้ด้วยกลยุทธ์และความชนะทาง
‘เราทำได้แน่’
ต่างจากในตอนสอบเข้า ตอนนี้ฉันกำลังใช้งานอาวุธที่เหมาะสม มีความเข้าใจโลกมากขึ้น และมีประสบการณ์ต่อสู้เพิ่มขึ้นมากโข
…เหนือสิ่งอื่นใด ตอนนี้เราไม่ได้กำลังสู้ตามลำพัง
ผัวะ—!
ฉัวะ—!
โฮกก…!
“ม…มันหยุดแล้ว!”
“เรียบร้อย”
“สกิลถูกยกเลิกแล้ว!”
เม็งเฮียวทงใช้สนับมือชกใส่แขนขวาของเอนามี
จูซูย็อกขัดจังหวะด้วยการฟันดาบคู่ใส่แขนซ้าย
เอนามีเผ่าวิญญาณรูปร่างคล้ายมังกร ถูกฝากรอยหมัดไว้และรอยฟันกากบาทไว้บนแขนแต่ละข้าง
‘รู้อยู่แล้วว่าสองคนนี้จะต้องช่วย’
ยิ่งคำนึงถึงความต่างของเลเวล การโจมตีทางกายภาพยิ่งแทบจะไร้ผลกับเอนามีตรงหน้า
เป็นเรื่องยากที่จะสร้างความเสียหายจนถึงแก่ความตาย แต่ถ้าหวังผลแค่ขัดขวางให้สกิลชะงัก นั่นยังพอมีโอกาส
ฉันจึงเชื่อว่าถ้ามีสองคนนี้อยู่ด้วย พวกเขาจะช่วยปกป้องได้ทันเวลา
เม็งเฮียวทงทำไปตามสัญชาตญาณ ส่วนจูซูย็อกลงมือหลังจากประเมินสถานการณ์อย่างถี่ถ้วน
“มันกำลังจะใช้สกิลใหม่! ซีฮู นายพร้อมหรือยัง?”
“พร้อมแล้ว เอาล่ะนะ!”
สิ้นเสียงคำถามของจูซูย็อก โดซีฮูลงมือทันที
เมื่อสองคนซึ่งคอยทำหน้าที่คุ้มกันได้ยินคำล่าสุด พวกเขารีบฉากหลบไปด้านหลัง เป็นเวลาเดียวกับที่ประกายสายฟ้าเริ่มก่อตัว
เปรี้ยะ—!
ตอนนี้รีเฟล็กเทเนฟเหลือ HP ไม่ถึงครึ่งแล้ว
ทันทีที่ร่ายมนตร์เสร็จ ฉันยกไม้เท้าขึ้นสูง
“อึยชินร่ายเสร็จแล้ว!”
เมื่อเห็นทุกคนหลบพ้นจากรัศมี ฉันเปล่งคาถาชัดถ้อยชัดคำ
“อิมเบร็ม ลูมินิส!” (Imbrem Luminis)
กลุ่มก้อนแสงสว่างแผ่ขยายโดยมีไม้เท้าเป็นศูนย์กลาง
ตามเจตจำนงของฉัน ลำแสงถูกควบแน่นและสาดเข้าใส่เอนามีประเภทวิญญาณทันที
บึ้ม—!
เมื่อโจมตีเอนามีธาตุมืดด้วยเวทแสงซึ่งชนะทางมากที่สุด HP ที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งพลันอันตรธานหาย
โฮกกกก…!
การเคลื่อนไหวของรีเฟล็กเทเนฟ หยุดนิ่งทันทีที่ถูกลำแสงกักขังไว้
“HP กลายเป็นศูนย์แล้ว! พวกเราจัดการมันได้!”
ถัดจากเสียงตะโกนของจางนัมอุก ข้อความจากเพลเยอร์ SAT-K ถูกส่งมาถึงอุปกรณ์
—เอนามีต่างโลก ‘รีเฟล็กเทเนฟ’ ถูกจัดการแล้ว
—เพลเยอร์ SAT-K สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้
—เพลเยอร์ SAT-K จะวิเคราะห์เหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ
—ผู้ทำผลงานสูงสุดได้แก่ โด■■ (ข้อมูลถูกปิดเป็นความลับตามการตั้งค่าของเพลเยอร์) , ซูเปอร์โนว่าไร้นาม
ดูเหมือนว่าความเสียหายอันดับหนึ่งร่วม จะเป็นของฉันกับโดซีฮู
ต่างคนต่างสร้างความเสียหายได้ราวครึ่งหลอด
แต่ดูเหมือนโดซีฮูจะทำความเสียหายได้มากกว่าเล็กน้อย ถ้าต้องเลือก MVP สักคน มันคงเป็นเขา
“เราคงต้องเฝ้าที่นี่ต่ออีกสักระยะ… กำลังเสริมของทางสมาคมกับทีมสิงโตแดงคงใกล้มาถึงแล้ว”
“ตกลง…!”
จางนัมอุกขานรับคำพูดฉันด้วยน้ำเสียงสดใส
คำบรรยายที่ส่งจากเอียร์ริง ยังคงดำเนินต่อไป
[ข้อความประกาศยืนยันการพิชิตเอนามีถูกส่งมาไม่ขาดสายเลยครับ! ทุกคนเห็นกันไหมเอ่ย!]
[ดูเหมือนจะเป็นผลงานของหน่วยป้องกันรอยแยกที่สามนะครับ! มีหนึ่งฉายาที่เรารู้จักกันดี… ไม่ใช่คนของทีมสิงโตแดงหรือเผ่ามังกร แต่เป็นซูเปอร์ไร้นามจากโรงเรียนแสงเงินครับ!]
[ใช่แล้วครับ เขาโด่งดังจากเหตุการณ์สัตว์อสูรอาละวาดในวันสอบเข้าโรงเรียนแสงเงิน ดูเหมือนว่าวันนี้ก็บังเอิญมาชมเกมการแข่งขัน แล้วตกกระไดพลอยโจนกลายมาเป็นหน่วยป้องกันครับ]
[เป็นโชคไม่ดีของเขา แต่เป็นโชคดีของสนามจัมชิลครับ]
[ใช่แล้วครับ เอาล่ะ ทางเราจะคอยรายงานสถานการณ์ในสนามสลับกับข้อความแจ้งเตือนจากสมาคมเพลเยอร์เรื่อยๆ นะครับ!]
น้ำเสียงของพิธีกรและผู้บรรยายดูสงบลงจากตอนแรกมาก
〈คำเตือน เอนามีกำลังเข้ามาใกล้〉
เสียงแจ้งเตือนจากระบบส่วนตัวของฉัน ดังปะปนมากับเสียงถ่ายทอดสด
ยังเร็วเกินไปที่จะวางใจสินะ
“มันมาอีกแล้ว! เตรียมตัว!”
พวกเราตั้งท่าเตรียมเผชิญหน้ากับเอนามีอีกครั้ง
การโจมตีทางกายภาพใช้ได้ผลกับเอนามีตัวใหม่ แต่ขณะเดียวกันมันก็แพ้ทางธาตุน้ำด้วย หน่วยโจมตีหลักจึงเป็นจูซูย็อก เม็งเฮียวทง และฉัน
การบรรยายจากในสนามยังคงดำเนินต่อไป
[จากกล้องถ่ายทอดสด จะเห็นได้ว่าผู้นำตระกูลรุ่นถัดไปของทั้งสองทีม กำลังปักหลักอยู่ที่เบสแรกและเบสที่สามครับ! ยังไม่มีใครหนีไปไหน]
[ครับ ดูเหมือนพวกเขาจะได้รับรายงานบางอย่าง จึงยังวางใจที่จะปักหลักครับ]
“ล่อเอนามีไปไกลๆ อึยชิน!”
“ตกลง!”
โดยไม่รีรอ เม็งเฮียวทงปรี่เข้าหาศัตรูแล้วถีบมันกระเด็นไปไกลจากฉัน
เปรี้ยง—!
ชักไม่แน่ใจแล้วว่าเป็นการ ‘ล่อลวง’ หรือ ‘ถีบส่ง’
[รายงานจากในโซนนักกีฬาครับ… นักกีฬาและทีมงานของทั้งสองทีมยังคงมีสีหน้ามุ่งมั่น ทุกคนกำไม้เบสบอลไว้แน่นเชียวครับ!]
[ประตูของโซนนักกีฬาถูกปิดสนิทแล้วครับ แถมยังวางตู้แช่เครื่องดื่มซ้อนไว้อีกชั้น… ทีมงานทุกคนเข้าไปหลบในบาเรียสนามแล้ว ซึ่งถือเป็นปราการด่านสุดท้ายครับ]
[ฮะฮะ! ใช่ครับ นักกีฬาบางคนยังซ้อมเหวี่ยงไว้อะลูมิเนียมอยู่เลย]
[แม้จะไม่มีพลังพิเศษ แต่พวกเขาก็ดูมุ่งมั่นและเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้ครับ]
[ตอนนี้ยังไม่มีเอนามีตัวไหนหลุดเข้าไปในสนาม และด้านนอกสนามก็ยังมีบาเรียบางๆ อีกชั้นครับ ถึงจะป้องกันการบุกรุกไม่ได้ แต่จะแจ้งเตือนทันทีที่มีใครผ่านเข้ามา]
ฉัวะ!
“…ชักอยากใช้แสงประทานแล้วสิ”
จูซูย็อกพึมพำขณะกวัดแกว่งดาบคู่ใจ ‘สองปีกจรัส’
สำหรับเขาผู้มีแสงประทานสุดโกง จนทำให้จุดอ่อนและการแพ้ชนะทางไร้ความหมาย สถานการณ์ปัจจุบันคงน่าหงุดหงิดไม่น้อย
“ขยับมือ! ไม่ใช่ปาก!”
“ฮะฮะฮะ! จริงด้วย…”
จูซูย็อกหัวเราะพลางตั้งใจฟาดฟันสองปีกจรัสใส่เอนามีอีกครั้ง
โฮกกกก—!
เอนามีหาจังหวะใช้สกิลไม่ได้เลย เนื่องจากถูกคอมโบอันน่าสะพรึงของเม็งเฮียวทงกับจูซูย็อกเล่นงานอย่างต่อเนื่อง
ต้องขอบคุณพวกเขา ฉันสามารถร่ายมนตร์ได้อย่างสบายใจ
ไม้เท้าเกรด SR – ‘ไม้เท้าอัญเชิญกระแสน้ำแห่งช่องแคบ’ ถูกชูขึ้นฟ้า
“ถอยกลับมา!”
ได้ยินคำเตือนของจางนัมอุก ทั้งสองฉากหลบทันที
ฉันเริ่มร่ายคาถา
“วาดุม มักนี่!” (Vadum Magni)
ซ่า!
คลื่นพลังเวทซัดสาดใส่เอนามีเข้าอย่างจัง จนพลังชีวิตที่ลดไปแล้วกว่าสองในสาม หมดเกลี้ยงในพริบตา
เพลเยอร์ SAT-K แสดงข้อความยืนยันการพิชิตเอนามีอีกครั้ง
“ตัวที่สองแล้ว!”
“ถ้าน่ากลัวแค่นี้… ทั้งวันก็ยังไหว!”
หลังจากนั้น เด็กปีหนึ่งทั้งห้าคนผนึกกำลังกันไล่โค่นเอนามีทีละตัว
จนกระทั่งเอนามีตัวที่ห้าและหกโผล่ออกมาพร้อมกัน
ตัวหนึ่งเป็นประเภทเดินสองขา แต่ปัญหาอยู่ที่อีกตัว
“…โผล่ออกมาพร้อมกัน?”
“ดูเหมือนจะเกรด SR ทั้งคู่… พวกเราซวยแล้วล่ะ ฮะฮะ!”
“ยังหัวเราะได้อีก? อีกตัวเป็นประเภทบินเชียวนะ!”
“ถ้าเห็นท่าไม่ดี ฉันคงต้องใช้แสงประทาน”
แม้สถานการณ์จะย่ำแย่สุดขีด แต่ทุกคนที่เหลือยกเว้นจางนัมอุก ไม่มีใครแสดงความท้อแท้
‘พวกเรายื้อเวลาได้นานโขแล้ว’
ก่อนที่โดซีฮูจะปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าระลอกใหม่ เปลวเพลิงสีแดงลุกท่วมร่างเอนามีประเภทบินตรงหน้าพวกเราโuเวลกูดoทคอม
พรึ่บ!
เอนามีประเภทบินพยายามกระพือปีกต่อต้าน แต่ไม่นานก็ถูกเผาจนกลายเป็นตอตะโก ถึงระดับที่ชวนให้สงสัยว่า ‘หรือมันจะแพ้ทางธาตุไฟ?’
กลุ่มคนในผ้าคลุมสีแดงร่อนลงจากท้องฟ้าขณะเอนามีถูกเผาเป็นจุณ
ตึง!
เหล่าสมาชิกทีมสิงโตแดง ลงจอดบนพื้นอย่างสง่าผ่าเผย
พวกเขาที่ยืนตรงอยู่เบื้องหน้า กำลังให้ความสนใจกับเราห้าคน
“สุดยอด เป็นเด็กม.ปลายเหมือนที่ถ่ายทอดสดบอกจริงด้วย! ดูต่างจากเด็กคนอื่นที่โรงเรียนจุนยอลเลยนะ”
“นอกจากโรงเรียนแสงเงินก็ยังมีโรงเรียนเตรียมทหารด้วยสินะ พวกเธอทำได้ดีมาก”
สมาชิกผู้หญิงของทีมกล่าวพลางฉีกยิ้มกว้าง ดูเหมือนเธอจะคอยฟังถ่ายทอดสดอยู่ตลอดเวลา
แข้งขาจางนัมอุกกำลังสั่นระริก คล้ายกับใกล้หมดแรงเต็มที
เป๊าะ!
เสียงดีดนิ้วดังขึ้น
สิ้นเสียงดังกล่าว เปลวไฟสีแดงที่หลงเหลือบนซากเอนามี พลันดับมอดพร้อมกับการปรากฏตัวของชายวัยกลางคนร่างกายกำยำ
บุคคลที่เพิ่งยกเลิกสกิล – ย็อมบังยอล – กล่าวกับสมาชิกทีมสิงโตแดง
“ในเมื่อยงเจกอนเข้าไปด้วยตัวเอง นั่นคงไม่มีปัญหา… แต่ถ้าเราเข้าไปช่วยก็จะจบเร็วขึ้น”
“ให้เผ่ามังกรของเราเข้าไปดีกว่า เด็กๆ บางคนยังไม่หนำใจ”
เผ่ามังกรโผล่มาด้านหลังโดยไม่ให้สุ้มเสียง
ทุกคนยืนประจำการอยู่หน้ารอยแยก ‘หอคอย’ เรียบร้อย
“ถ้าอย่างนั้นก็ฝากด้วย ท่านมังกรคราม”
“ทางนี้ก็ระวังตัวด้วย”
เมื่อมังกรครามและเผ่ามังกรทยอยเข้าไปในรอยแยก ย็อมบังยอลหันมาคุยกับเรา
“เอาล่ะ พวกเราจะจัดการที่นี่ต่อเอง ขอบคุณสำหรับการทำงานหนัก”
ได้ยินประโยคดังกล่าว ฉันมั่นใจทันที
‘สำเร็จ… ขัดขวางแผนการของผู้ชักใยในเงามืดได้แล้ว!’
ไม่นานหลังจากนั้น ข้อความถูกส่งมาถึงอุปกรณ์ของทุกคน เนื้อหาประกาศว่ารอยแยกทั้งหมดรอบสนามจัมชิลถูกพิชิตเรียบร้อยแล้ว
หน่วยบุกแต่ละทีมทยอยกลับมาจากรอยแยกต่างโลกอย่างปลอดภัย
อ๊กโทยอนรีบมองไปรอบๆ เพื่อค้นหาบางสิ่ง และทำหน้าโล่งใจเมื่อได้เห็นฉัน แต่ตีเนียนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
‘เป็นคนที่อ่านง่ายชะมัด’
ยงเจกอนแสร้งทำเป็นไม่เห็น แต่เขาน่าจะสังเกตได้
และคงกำลังเดาว่า ฉันกับอ๊กโทยอนมีความสัมพันธ์กันบางอย่าง
“เอาล่ะ กลับไปที่สนามเบสบอลกันเถอะ!”
“ยังมีแข่งต่อหรือ?”
“เกมแค่หยุดไป ไม่ได้ยกเลิกแข่ง อีกไม่ถึงชั่วโมงก็คงกลับมาแข่งใหม่”
ได้ยินคำพูดจูซูย็อก ทุกคนรีบกลับเข้าสนามด้วยความตื่นเต้น
ยงเจกอนดูไม่เหน็ดเหนื่อยเลย ทั้งที่เพิ่งพิชิตรอยแยกต่างโลกสำเร็จ
ต้องขอบคุณสกิลศาสตร์แห่งมิติและการบินของเขา พวกเราทุกคนถูกส่งกลับเข้าสนามโดยไม่ต้องเสียเวลาเดิน
หลังจากนั่งประจำที่ได้สักพัก เบสบอลกลับมาเริ่มแข่งอีกครั้งตามที่จูซูย็อกทำนายไว้
“ได้ดูต่อจริงด้วยแฮะ”
“ทีมของฉันเป็นเจ้าบ้านวันนี้ แถมยังมีเผ่ามังกรคอยให้กำลังใจ… จูโอดรากอนส์ชนะแน่”
“ฮะฮะฮะ… อย่าลืมว่า TC ไนท์สมีสถิติดีกว่าในวันเด็ก ผลออกได้ทั้งสองหน้านั่นแหละ”
ท่ามกลางการข่มกันพอเป็นพิธีระหว่างจูซูย็อกกับโดซีฮู พวกเราทุกคนชมเกมการแข่งจนจบ
ทางฝั่งผู้บรรยายในห้องพากย์ คอยกล่าวขอบคุณทีมสิงโตแดงและเผ่ามังกรเป็นระยะ
แต่แน่นอน บุคคลที่ปรากฏภาพบนเฟรมมากที่สุด ไม่ใช่ใครนอกจากสตาร์เพลเยอร์อย่าง ‘มังกรแดงน้อย’ ย็อมจุนยอล
และส่วนใหญ่เป็นภาพที่เขากำลังชมเกมร่วมกับทีมสิงโตแดงด้วยใบหน้าอิ่มเอมใจเป็นพิเศษ
ดูเหมือนว่าจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับจอมโจรผาแดงเป็นอย่างดี
‘ภายในเกม การแข่งถูกยกเลิกจนไม่รู้ผลแพ้ชนะ’
แต่ในโลกนี้ เกมจบลงด้วยชัยชนะของจูโอดรากอนส์ ต้องขอบคุณการตีอันยอดเยี่ยมของมือตีอันดับหนึ่งของทีม
และฉันยังดีใจที่เห็นได้จางนัมอุก ผู้เคยอ่อนเพลียเพราะการต่อสู้หน้ารอยแยก กำลังร้องเพลงเชียร์จูโอดรากอนส์อย่างมีความสุข
* * *
ย้อนกลับไปก่อนที่รอยแยกทั้งหมดจะถูกพิชิต
[จากข้อมูลของเพลเยอร์ SAT-K ดูเหมือนว่าทีมที่รับมือกับรอยแยกที่สาม จะเป็นการรวมของนักเรียนมัธยมปลายนะครับ น่าทึ่งมากจริงๆ]
[มีนักเรียนสองคนที่สร้างชื่อเสียงจนได้รับฉายามาก่อนแล้วครับ คนแรกคือ ‘ลิ่มเหล็กกล้า’ โดวอนอู ส่วนอีกคนคือซูเปอร์โนว่าไร้นาม]
[นักเรียนม.ปลายของทั้งโรงเรียนแสงเงินและโรงเรียนเตรียมทหาร ฝีมือยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือจริงๆ นะครับ อนาคตของเกาหลีใต้สดใสเหลือเกิน]
[ข่าวด่วนครับ! เป็นข่าวดี! การโจมตีของแยกของทีมสิงโตแดง เผ่ามังกร และเพลเยอร์ที่เป็นผู้ชมบางส่วนจบลงแล้วครับ! นี่คือภาพจากฮ.ครับ! คุณผู้ชมเห็นเหมือนกับผมใช่ไหมครับ? รอยแยกต่างโลกกำลังหายไป!]
[รอยแยกทั้งหมดอยู่ในระดับ SR++ แต่กลับถูกพิชิตได้โดยไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า… น่าทึ่งจริงๆ ครับ]
[การแข่งที่หยุดพักไปนาน คงใกล้กลับมาแข่งต่อในเร็วๆ นี้ครับ]
[ใช่ครับ ทางสนามเริ่มประกาศแล้ว]
—เฮ้!
[เสียงเชียร์จากผู้ชมกระหึ่มมากครับ! พวกเขาที่คอยปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดได้จนถึงตอนนี้ คืออีกหนึ่งฮีโร่ในวันนี้ครับ!]
[น่าตกใจจริงๆ นะครับที่วันนี้ไม่มีผู้บาดเจ็บเลย ผมมั่นใจว่าเหตุการณ์ ณ สนามจัมชิลจะกลายเป็นตำนานของวงการเบสบอลและวงการเพลเยอร์แน่นอนครับ]
[มีข้อความให้กำลังใจถูกส่งมาถึงห้องส่งไม่ขาดสายเลยครับ เรียกได้ว่าน้องๆ การแข่งระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่นเลยครับ ต้องขอขอบคุณแฟนเบสบอลที่คอยมอบความรักและความห่วงใยจากทั่วทั้งประเทศครับ]
[การแข่งจะเริ่มขึ้นหลังจากเบรกโฆษณาจบลงครับ… ตอนนี้เรากลับมาอยู่ที่สนามจัมชิลกันแล้ว]
เปรี้ยง! กร็อบ!
ยังไม่ทันได้ตัดเข้าโฆษณา หน้าจออุปกรณ์ถูกทุบจนแหลกพร้อมกับส่งเสียงดัง
“นำความโกรธไปลงกับสิ่งของให้มันได้อะไรขึ้นมา? มีแต่จะเจ็บตัวเปล่าๆ …”
บรรยากาศในห้องพลันมืดสนิทหลังจากแหล่งกำเนิดแสงแห่งเดียวถูกทำลาย
น้ำเสียงอ่อนหวานดังขึ้นท่ามกลางความมืด
อย่างเงียบเชียบ เจ้าของเสียงเดินเข้ามาใกล้เจ้าของห้อง
“เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอกน่า! เผ่าของเรากำลังตกที่นั่งลำบากเพราะเจ้าพวกมังกรเวรนั่น…!”
“เจ้าพวกนั้นไม่ชอบออกมาข้างนอกแท้ๆ … น่าแปลกจังเลยนะ”
“บังเอิญว่าคนขว้างเปิดงานเป็นลูกหลานพวกมัน… บัดซบ! พลังอันยิ่งใหญ่ของท่านผู้นั้นต้องสูญเปล่าเพราะความบังเอิญงี่เง่า!”
เธอตบบ่าเจ้าของห้องที่มิอาจข่มอารมณ์
ขณะโทสะของเขาบรรเทาลงหลายส่วน หญิงสาวเริ่มตั้งข้อสังเกต
‘จะเป็นแค่ความบังเอิญจริงหรือ’
ความมืดช่วยอำพรางรอยยิ้มที่ปรากฏบนมุมปาก
ขณะนึกขอบคุณที่เขาไม่อาละวาดจนห้องพังพินาศ หญิงสาวโน้มตัวลงมากระซิบข้างไหล่
“พักหลังมานี้ ความบังเอิญที่ไม่เข้าข้างพวกเราเกิดขึ้นบ่อยเหลือเกินนะ… หรือความจริงแล้วท่านผู้นั้นจะมิได้ไร้เทียมทานอย่างที่เข้าใจ?”
“…นี่เจ้ากำลังกังขาพระองค์?”
“ข้าก็แค่โง่เขลาเกินกว่าจะตีความเจตนาแฝงของท่านผู้นั้น ได้โปรดเข้าใจกันด้วย”
“ชิ! ไสหัวไป… ข้าอยากอยู่คนเดียว”
เธอลุกขึ้นยืนโดยไม่ลังเล
หญิงสาวยังคงอาศัยความมืดอำพรางรอยยิ้ม พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเจือความเศร้า
“ก็ได้… ถ้ามีอะไรก็เรียกข้าได้ทุกเมื่อ”
พูดจบ เธออันตรธานหายไปท่ามกลางความมืด
ในจุดที่ผีเสื้อบินออกไปมีเกล็ดตกอยู่หนึ่งแผ่น