“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปบุกต่างโลกกันไหม?
“หา? ข้าต้องไปด้วย?”
“ใช่ ท่านก็ต้องไป ท่านโทยอน แม้เผ่ากระต่ายจะอ่อนแอกว่าเผ่ามังกร แต่ก็ยังดีกว่ามนุษย์มาก… ได้พกการ์ดอาวุธติดตัวมาด้วยไหม?”
“ข้าไม่อยากไป… ถ้า CEO ขนมต็อกกระต่ายจันทร์บุกต่างโลก เรื่องนี้ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่! และพี่โทยุนก็จะจับได้… แต่ว่า… ที่นี่ไม่เหลือเผ่ามังกรกับมนุษย์ที่แข็งแกร่งแล้ว…”
อ๊กโทยอนลังเลสักพัก ก่อนจะหันมาทางฉันพร้อมกับทำแก้มป่อง
แล้วก็หันกลับไปพยักหน้าให้ยงเจกอน
‘เหมือนจะตั้งสติได้เพราะเราเลยแฮะ’
เธอคงซาบซึ้งใจกับการช่วยเหลือลูกหลานเสือเงินในวันนั้นมากทีเดียว
“ถ้าอย่างนั้นก็มาจัดทีมกันเถอะ… หน่วยบุกมีวอนวู ข้า และท่านโทยอน รวมเป็นสามคน”
“ครับ ครูยงเจกอน”
โดวอนอูพยักหน้ารับ
ในที่สุดตัวละครของฉันก็ทำตัวเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาสักที
“ถ้าอย่างนั้นพวกเธอทั้งห้าคน ฉันขอฝากหน้าที่หน่วยป้องกัน”
“หา? นั่นผู้มีพระค… พวกเขายังเป็นเด็ก แถมยังเป็นแค่มนุษย์! ทำไมถึงต้องให้พวกเขารับมือกับรอยแยกระดับ SR+++ ด้วย! แถวนี้ก็มีบอดี้การ์ดจาก TC กับจูโอไม่ใช่รึไง!”
อ๊กโทยอนคัดค้านคำสั่งยงเจกอน
ยงเจกอนเจมองหน้าพวกเราด้วยรอยยิ้มที่ยากจะตีความ
“ถ้าจะให้ทีมบอดี้การ์ดลงมือ นั่นต้องเสียเวลาเจรจานานเกินไป หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดจะรับคำสั่งจากผู้นำตระกูลรุ่นถัดไปเท่านั้น จึงขอความช่วยเหลือได้ลำบาก และอาจต้องเสียเวลาแบ่งทีมนาน”
“ก็แค่ขี้เกียจไม่รึไง…”
“นักเรียนสองคนนั้นคืออันดับหนึ่งและสองของโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นล่าสุด… อีกสามคนที่เหลือล้วนเป็นสุดยอดหัวกะทิของโรงเรียนแสงเงิน สองคนเป็นเด็กอัจฉริยะที่กวาดรางวัลนับไม่ถ้วนมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ส่วนอีกคนคือซูเปอร์โนว่าไร้นาม… ไม่ต้องกังวลไปนักหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขายังอยู่แค่ปีหนึ่ง ข้าคงแบ่งมาหน่วยบุกสักคนแล้ว”
“ฮึ่ม… นั่นก็จริง แต่…”
ยงเจกอนรู้ละเอียดขนาดนี้เชียว?
อันดับหนึ่งกับสองของโรงเรียนเตรียมทหารอาจเคยเห็นผ่านๆ ตาจากบทสัมภาษณ์ ส่วนจูซูย็อกนั้นโด่งดังอยู่แล้ว แต่รู้จักแม้กระทั่งเม็งเฮียวทง?
ข้อมูลแน่นจริงๆ … สมแล้วที่เป็นตัวละครของฉัน
ฉันได้ยินเม็งเฮียวทงกับจูซูย็อกกระซิบกระซาบ
“เขาเป็นใคร? ครูห้องนาย?”
“เขาไม่ใช่คน แต่เป็นเผ่ามังกร และเป็นครูของโรงเรียนเราด้วย”
“เผ่ามังกรมาเป็นครูทำไม? เผ่าแท้เนี่ยนะ?”
“ฮะฮะ! ไม่รู้เหมือนกัน”
ไม่ได้มีแค่ครูที่เป็นเผ่าแท้
ในห้อง 1/0 ก็มีผู้นำเผ่าเสือสวมรอยเป็นนักเรียนอยู่ด้วยเหมือนกัน
“นัมอุก เตรียมสู้กันเถอะ… ไหวนะ?”
“สบายมาก ฉันพร้อมเสมอ ขอแค่ได้สูดลมหายใจลึกๆ”
ขณะทุกคนรวมถึงจางนัมอุกทยอยลุกจากเก้าอี้
〈คำเตือน เอนามีกำลังใกล้เข้ามา〉
เสียงเตือนจากระบบดังขึ้น และในไม่ช้า เสียงกรีดร้องของฝูงชนและเสียงคำรามของเอนามีดังตามมา
กึก!
“เอนามี! เอนามีประเภทบิน!”
“ร…เร็ว!”
รอยแยกต่างโลกประเภทหอคอยระดับ SR+++ ถูกสร้างขึ้นด้านหน้าประตูกลางของสนามเบสบอสจัมชิล
เอนามีจากหอคอยดังกล่าวบินมาถึงตรงนี้แล้ว
มันถูกสร้างเร็วกว่าเอนามีทั่วไปมาก เพราะเกิดจากฝีมือผู้ชักใยในเงามืดโดยตรง
‘ภายในเกม รอยแยกที่สามจะผลิตเอนามีด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน จนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างก่อนที่ความช่วยเหลือจากสมาคมจะมาถึง…!’
เอนามีประเภทบินลอยผ่านที่นั่งโซนกลาง
“น่าแปลก ปกติเอนามีไม่เกิดเร็วขนาดนี้…”
เอนามีประเภทที่เกรดสูงกว่า SR กำลังกระพือปีกเพื่อเตรียมใช้สกิล
ยงเจกอนมองเอนามีตัวนั้นด้วยสายตาไม่พอใจ
“กล้าดียังไงมาทำลายงานรื่นเริงของมนุษย์… ต่ำช้าจริงๆ”
เมื่อยงเจกอนยกมือ ห้วงมิติโดยรอบเอนามีประเภทบิน พลันส่องแสงพร้อมกับห่อหุ้มมันไว้
ซู่ว!
“นี่มิใช่ภาพที่เด็กๆ ควรได้เห็น”
ชิ้ง!
เมื่อยงเจกอนดีดนิ้ว มิติดังกล่าวกลายเป็นสีน้ำเงินทึบกลมกลืนไปกับท้องฟ้า
มองไม่เห็นด้านในอีกต่อไป
“จงหายไปเสีย”
เมื่อยงเจกอนกำหมัด รอบตัวเขาแผ่พลังงานออกมา
ฟ้าว!
ทันทีที่พลังงานสลายไป มิติสีน้ำเงินรอบตัวเอนามี พลันอันตรธานหายอย่างไร้ร่องรอย
ผู้ชมต่างพากันงงงวย แต่บรรดาเพลเยอร์ที่เข้าใจเหตุการณ์กำลังแสดงสีหน้าตกตะลึง
‘ไม่ได้ยินเสียงเอนามีถูกทำลายหรือกรีดร้องเลย ควบคุมมิติได้สมบูรณ์แบบจนเสียงไม่เล็ดลอดสินะ’
ที่นี่อยู่นอกเขตโรงเรียน
เมื่อไม่ติดพันธสัญญาที่ทำไว้กับวังจีโฮ ดูเหมือนว่ายงเจกอนจะใช้พลังได้เต็มที่
“พวกเราไปกันเถอะ จะพูดอีกรอบนะ หน่วยบุกมีข้า ท่านโทยอน และวอนอู… หน่วยป้องกันมีซีฮู นัมอุก ซูย็อก เฮียวทง และอึยชิน… เดี๋ยวข้าจะเคลื่อนย้ายพวกเจ้าออกไปอยู่หน้ารอยแยกให้เอง บาเรียระดับนี้ขวางข้าไม่ได้หรอก”
“ท่านยงเจกอนยังแข็งแกร่งเหมือนเคย ข้าไม่เข้าใจเลยว่า เหตุใดท่านถึงยอมผนึกพลังและไปรับใช้เจ้าเสือเหลืองนั่น!”
ยงเจกอนได้แต่หัวเราะให้กับคำถามของอ๊กโทยอน ก่อนจะส่งตัวเองลอยขึ้นไปด้านบน
เมื่อยงเจกอนขยับมือ มิติรอบตัวพวกเราทุกคนเริ่มเปล่งแสง
“เพิ่งเคยรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก”
“ศาสตร์แห่งมิติและการบิน…! นำมาใช้แบบนี้ได้ด้วยสินะ”
เม็งเฮียวทงและจูซูย็อกดูไม่ตื่นเต้นสักเท่าไร
“ทำไมทุกคนดูผ่อนคลายกันจัง…! ฉันเป็นคนเดียวที่ตื่นเต้นรึไง? ตามปกติแล้วรอยแยกต่างโลกระดับ SR+++ จะสร้างเอนามีเกรด SR- ไปจนถึง SR+ เชียวนะ!”
“ฮะฮะ! นัมอุก สงบสติเถอะน่า ให้คิดซะว่าเป็นการแข่งบาส”
“ใครมันจะไปคิดแบบนั้น!”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
ขณะกำลังเผชิญหน้ากับเอนามีที่เหนือความคาดหมาย ดูเหมือนจะมีแค่นัมอุกคนเดียวที่แตกตื่น
อย่างไรก็ดี ใบหน้าของโดซีฮูที่อยู่ข้างๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
ต้องบอกว่าท่าทีของจางนัมอุกนั้นถือว่าปกติ ฝั่งเด็กปีหนึ่งคนอื่นต่างหากที่แปลก ปกติแล้วใครจะมัวใจเย็นต่อหน้าเอนามีเกรด SR++ ได้?
“ข้าติดต่อเผ่ามังกรกับสิงโตแดงแล้ว ทางนั้นจะกลับมาช่วยทันทีที่โจมตีเสร็จ ระหว่างนั้นก็ช่วยยื้อเวลาให้หน่อยนะ… เล่นกันให้สนุกล่ะ”
“ระวังตัวด้วยล่ะ เจ้าพวกปีหนึ่ง!”
“อ…อย่าบาดเจ็บนะ! ฮ…เฮ้! พวกเราก็รีบไปกันเถอะ จะได้รีบโจมตีแล้วรีบกลับมาช่วยหน่วยป้องกัน!”
“ครับ ครูยงเจกอน พี่วานอู แล้วก็คุณ CEO ขนมต็อกกระต่ายจันทร์”
“พี่วอนอู สู้เค้านะ!”
สามคนที่อยู่หน่วยบุก เดินเข้าไปในรอยแยกของต่างโลก
จูซูย็อกและโดซีฮู กล่าวคำอำลาในฐานะตัวแทน พลางก้มหัวคำนับอย่างนอบน้อม
“งั้นเรามาบอกสกิลกับแสงประทานของกันและกันก่อนไหม? เอาเท่าที่เปิดเผยได้”
“ถึงจะไม่ใช้แสงประทาน พวกเราก็น่าจะยื้อได้จนกว่าหน่วยบุกของทีมสิงโตแดงกับเผ่ามังกรจะกลับมา… ถ้าออมแรงได้ก็ทำดีกว่านะ”
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งใช้แสงประทาน ออมแรงไว้เผื่อว่ามีรอยแยกที่สี่… แต่ยังไงก็ต้องขอให้ช่วยบอกสกิลกับประเภทของแสงประทานคร่าวๆ มาก่อน”
จูซูย็อกกับฉันช่วยกันวางแผน
คนอื่นๆ ที่เอาแต่ฟัง พยักหน้ารับเป็นนัยเห็นด้วย
ผลก็คือ
จูซูย็อก, ดาบคู่, แสงประทานสายโจมตี
เม็งเฮียวทง, ต่อสู้, แสงประทานสายโจมตีและจับ
จางนัมอุก, หอก, แสงประทานสายสนับสนุน
โดซีฮู, ศาสตร์แห่งไฟฟ้า, แสงประทานสายโจมตีหรือไม่ก็จับ
ฉัน, สรรพภัณฑ์, แสงประทานสายโจมตี
‘แสงประทานของฉัน ถ้าเอาตามจริงคือสายสมดุล แต่ตอนนี้บอกแบบนี้ไปก่อนก็แล้วกัน’
คำอธิบายแสงประทานของโดซีฮูค่อนข้างคลุมเครือ แต่ในเมื่อจางนัมอุกไม่ได้พูดอะไร นั่นเท่ากับว่าแสงประทานของอีกฝ่ายซับซ้อนจริงๆ
หลังจากจัดแผนอย่างคร่าว พวกเรานำการ์ดอาวุธที่โรงเรียนจัดหาให้ หรือไม่ก็อาวุธส่วนตัวออกมาเตรียมพร้อม
‘เพื่อความไม่ประมาท ลองตรวจสอบสถานการณ์ด้านในสนามดูก่อนดีกว่า’
…ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้น เราอาจต้องฝ่าเข้าไปช่วยเหลือ
ฉันเชื่อมต่อเอียร์ริงกับลำโพงสนาม เพื่อฟังบรรยายถ่ายทอดสดในโหมดเสียง
ตอนนี้รายการสดกำลังโกลาหลสุดขีด novelgu.com
[รอยแยกต่างโลกที่สามปรากฏตัวแล้วครับ! คราวนี้ก็ระดับ SR++ เหมือนเดิม… ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงครับคุณผู้ชม!]
[เพลเยอร์ SAT-K ตรวจจับรอยแยก SR พลาดสามครั้งติดๆ กันเลยหรือ? ไม่อยากจะเชื่อ นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุการณ์รอยแยกแมนเชสเตอร์]
[โลกนี้ยังมีเรื่องประหลาดอีกมากครับ แต่ผมไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นในวันนี้… วันที่มีผู้ชมจำนวนมาก รวมถึงเด็กๆ เข้าเยี่ยมชมสนามเบสบอลจัมชิล]
น้ำเสียงของผู้บรรยายและพิธีกรสั่นเครือเล็กๆ
[เราคือช่องที่สามารถรายงานสถานการณ์ภายในสนามกีฬาได้แม่นยำที่สุดแล้วครับ และจะยังคงออกอากาศจะต่อไปเรื่อยๆ]
[ถูกต้องครับ ผู้ชมสามารถดูโฮโลแกรมถ่ายทอดสดนี้เพื่อเกาะติดสถานการณ์ไปพร้อมกันได้]
[ทางเราจะถ่ายทอดสถานการณ์ภายในสนามกีฬาให้ได้รับชมกันอย่างต่อเนื่องครับ]
[ขณะนี้ทางออกทั้งหมดถูกปิดตายแล้วครับ บรรดาผู้ประกอบการและพนักงานของร้านค้าด้านนอก ต่างทยอยหลบเข้าไปในสนามซึ่งถือเป็นปราการด่านสุดท้ายร่วมกับคนดูอีกกว่าสองหมื่นชีวิตครับ]
[ใช่ครับ ยกเว้นผู้ประกาศข่าวภาคสนามและทีมงานขั้นต่ำสำหรับดำเนินการถ่ายทอดสด ตอนนี้ทุกคนเข้าไปกระจุกตัวกันบนอัฒจันทร์ทั้งหมดแล้วครับ]
ทุกคนปลอดภัยแล้วสินะ
แม้แต่บุคลากรภายนอกสนามก็ยังถูกการฝึกอพยพมาอย่างดี บานเลื่อนนิรภัยทั้งหมดถูกเปิดใช้งานทันที
‘แต่เจ้าหน้าที่ถ่ายทอดสดยังอยู่นอกบาเรีย…’
ภายในเกม พวกเขาคือกลุ่มคนที่ไม่ยอมอพยพเข้าไปในบาเรีย เพื่อแลกกับการถ่ายทอดสดสถานการณ์ในมุมกว้างออกไปทั่วประเทศ
แต่สุดท้ายก็ต้องตายอย่างน่าเศร้าไปพร้อมกับการพลังทลายของแนวป้องกันสุดท้าย
[ขอเตือนอีกครั้งนะครับ ห้ามฝ่าบาเรียออกมาเองเด็ดขาด ทุกคนคงได้รับสัญญาณเตือนกันแล้วนะครับ ตอนนี้ยังมีเอนามีที่ไม่ถูกกำจัดหลงเหลืออยู่]
[ใช่ครับ ถึงแม้จะมีไอเท็มสำหรับการบิน แต่ก็ไม่แนะนำให้หนีนะครับ ถ้าคิดจะหนีก็ต้องทำลายบาเรียระดับ R+++ ให้ได้ครับ]
[ถูกต้องครับ และถ้าคุณถูกเอนามีสายยิงไกลหรือประเภทบินพบตัวเข้า รับรองได้เลยว่าถูกสอยแน่ครับ เมื่อครู่เพิ่งมีเอนามีประเภทบินโผล่ออกมาหนึ่งตัว และอย่าลืมว่าพวกมันตีเกรด SR- ขึ้นไปทั้งสิ้นครับ]
[การจะหลบหนีด้วยไอเท็มประเภทบิน ควรเก็บไว้เป็นไพ่ตายสุดท้ายในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเท่านั้นครับ]
〈คำเตือน เอนามีกำลังเข้ามาใกล้〉
“มาแล้ว”
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ ฉันบอกให้คนรอบข้างทราบทันที
“ฉันจะคอยตรวจจับเอนามีให้ หากสามารถเล่นงานได้ด้วยธาตุ ฉันกับโดซีฮูจะลงมือเอง”
“ตกลง!”
“อื้อ”
พวกเราเปลี่ยนการ์ดเป็นวัตถุแล้วเข้าร่วมสงครามเต็มตัว
เอนามีโผล่ออกจากรอยแยกต่างโลกที่เพิ่งเปิดออก
ซู่ว!
ฉันพบเอนามีตัวดังกล่าวรายล้อมไปด้วยความมืด รูปร่างของมันยังดูคลุมเครือ
แต่จะว่าไปก็คล้ายมังกรอยู่
ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า มันคือเอนามีประเภทวิญญาณ ที่จะสะท้อนความคิดของผู้คนรอบตัวและเลียนแบบ
สำหรับตอนนี้ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสนามเบสบอลกำลังคิดถึงก็คือเผ่ามังกร เอนามีจึงเลียนแบบและปรากฏตัวในรูปร่างนั้น
〈เรียกดูข้อมูลเอนามี ‘รีเฟล็กเทเนฟ’ 〉 (Reflectenev)
[ชื่อเอนามี] รีเฟล็กเทเนฟ
[เกรด] SR-
[สมญา] เผ่าวิญญาณกึ่งสะท้อน
[พรคุ้มครอง] ไม่มี
[สถานะ] ปกติ
[ค่าสถานะโดยรวม] Lv.35
[สกิล]
สะท้อนตัวเอง Lv.1
กวักมือเรียกในเงามืด Lv.4
[คำอธิบาย]
เอนามีธาตุมืดที่เกิดจากรอยแยกต่างโลกบนสนามเบสบอลจัมชิล ที่สร้างโดยสิ่งมีชีวิตต่างโลกในวันที่ 5 พฤษภาคม
——
ค่าสถานะโดยรวมค่อนข้างต่ำหากเทียบกับไลโนเซรอนหมายเลข 13 บางทีอาจเป็นเพราะมันไม่มีพรคุ้มครองและธาตุพิเศษ
‘ถึงค่าสถานะโดยรวมสูงจะกว่าสัตว์อสูรในตอนสอบเข้า แต่สถานการณ์ต่างออกไปแล้ว ตอนนี้เราถืออาวุธเกรดสูงและสามารถโจมตีเป็นธาตุเพื่อโค่นมันในพริบตา…!’
หลังจากตรวจสอบข้อมูลของเอนามี ฉันตะโกน
“รีเฟล็กเทเนฟ! เกรด SR- เผ่าวิญญาณกึ่งสะท้อน เลเวลค่าสถานะโดยรวมคือ 35… อาจดูน้อยเมื่อเทียบกับเกรด แต่การโจมตีกายภาพแทบไม่มีผลกับมัน!”
“รีเฟล็กเทเนฟเป็นธาตุมืด อาจไม่ได้ผลเท่าธาตุแสง แต่อย่างน้อยก็ใช้สายฟ้าเล่นงานมันได้… ฉันเอง”
โดซีฮูเริ่มเปิดฉากโจมตี
ในมือของเขากำลังถือไอเท็มเกรด SSR ที่ช่วยเสริมศาสตร์แห่งไฟฟ้า ทั้งในแง่ความเร็วการร่ายและพลังทำลาย
ตามปกติแล้ว เพลเยอร์ทั่วไปมักไม่นิยมไอเท็มประเภทเสริมแกร่งสกิลกัน แต่ถ้าเป็นเกรด SSR ก็อีกเรื่อง
สมฐานะทายาทตระกูลแชโบลจริงๆ …
เปรี้ยะ!
โดซีฮูคำนวณขอบเขตการเคลื่อนไหวของเอนามีประเภทวิญญาณ จากนั้นก็ควบแน่นศาสตร์แห่งไฟฟ้าแล้วยิงใส่ใส่ตำแหน่งที่น่าจะเป็นจุดอ่อนของเอนามี
การโจมตีได้ผลจนต้องเอนามีส่งเสียงกรีดร้อง
โฮกกกก!
“โดนเข้าไปขนาดนั้น ยังไม่ตายอีก… เฮ้อ!”
“งั้นฉันเอาด้วย… จางนัมอุก หลังจากนี้นายรับหน้าที่เฝ้าระวัง”
“ตกลง!”
ฉันมอบหมายหน้าที่เฝ้าระวังให้คนที่ไว้ใจได้มากที่สุดในกลุ่ม – จางนัมอุก – จากนั้นก็เปลี่ยนการ์ดของตัวเองให้เป็นไอเท็ม
แม้จูซูย็อกจะมีสกิลวิสัยทัศน์เหมือนกัน แต่ที่ตัดสินใจวางจางนัมอุกไว้ในตำแหน่งด้านหลังสุด ก็เพราะกังวลว่าเขาอาจได้รับบาดเจ็บหากมอบหมายให้โจมตีหรือป้องกัน
‘เหมือนกับตอนที่สอบเข้า ฉันไม่อยากให้เขาได้รับบทบาทสำคัญ ไม่อย่างนั้นอาจจะเครียดเกินไป’
แต่นั่นอาจทำให้จางนัมอุกเสียกำลังใจ เพราะคิดว่าตัวเองไม่สามารถทำประโยชน์ให้เพื่อนได้
〈สกิล ‘สรรพภัณฑ์’ ถูกกระตุ้น〉
ที่ฉันดึงเชิงยังไม่เสกไอเท็มเสียที ก็เพราะรอตรวจสอบธาตุของศัตรูก่อน
ไอเท็มที่ฉันเลือกคือไม้เท้าเกรด SR ‘ไม้เท้าแห่งแสงของผู้หยั่งรู้’
‘คงต้องใช้คาถาที่ทรงพลังที่สุด ในบรรดาเวทมนตร์ที่ร่ายจบภายในสามนาที’
ขณะรอให้กระแสมานาไหลเวียน ฉันขยับไม้เท้าโคจร
〈คำเตือน เอนามี ‘รีเฟล็กเทเนฟ’ เตรียมใช้สกิล ‘กวักมือเรียกในเงามืด’ 〉
เมื่อหันไปมอง ฉันพบว่ารีเฟล็กเทเนฟกำลังจ้องมาทางเรา
โดซีฮูเตรียมใช้ศาสตร์แห่งไฟฟ้าซ้ำใส่รีเฟล็กเทเนฟ แต่เนื่องจากเพิ่งยิงออกไป จึงต้องรอเวลาชาร์จพลังไปอีกสักพัก
“อึยชิน! เอนามีกำลังเล็งนาย!”
เสียงของจางนัมอุกดังขึ้น
รู้ตัวอีกที รีเฟล็กเทเนฟมาโผล่ตรงหน้าฉันแล้ว
แต่ฉันยังคงไม่หยุดร่ายคาถา
—
MasterGU.edited = แสงประธาน->แสงประทาน
