บนถนนโอลิมปิก เขตซงพา – ศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาประจำกรุงโซล
สนามเหย้าของจูโอดรากอนส์ และ TC ไนท์ส – สนามเบสบอลจัมชิล
“ใหญ่…!”
เม็งเฮียวทงที่เดินทางมาจากหอพักด้วยกัน ถึงกับส่งเสียงอุทานออกมา
เม็งเฮียวทงที่ไม่เคยเข้าสนามเบสบอลมาก่อนในชีวิต ตื่นเต้นตั้งแต่ก่อนจะได้เข้าไป
ยิ่งใกล้สนาม ก็ยิ่งได้เห็นความคาดหวังและความตื่นเต้นบนสีหน้าของฝูงชนในชุดแข่ง
เนื่องจากเป็นวันเด็ก บรรยากาศจึงดูสดใสเพราะแฟนเบสบอลส่วนมากเดินทางมาพร้อมกับครอบครัว
“ทุกคนมาเพื่อดูเบสบอล?”
ภายใต้ท้องฟ้าสีครามที่ราวกับเอาถังสีมาสาด
สนามเบสบอลจัมชิลมีรั้วฝั่งปีกนอกซ้ายและขวายาว 100 เมตร รั้วกลางซ้ายและกลางขวา 120 เมตร และรั้วกลาง 125 เมตร โดยสูง 2.7 เมตร
ความจุ 26,000 ที่นั่ง และมีพื้นที่โฮมรันมากที่สุดในเกาหลีใต้
แมตช์ดาร์บี้ที่จัดขึ้นในวันเด็กของทุกปี ขายตั๋วหมดติดต่อกันมาแล้ว 15 ปี
ถ้าใครเพิ่งเคยเห็นขนาดสนามกับจำนวนคนราวๆ นี้เป็นครั้งแรก ย่อมไม่แปลกที่จะถูกกดทับด้วยบรรยากาศอันยิ่งใหญ่
“เฮียวทง! อึยชิน!”
“มารออยู่แล้วหรือ”
“ฉันต้องมาทักทายผู้หลักผู้ใหญ่ก่อน ก็เลยต้องมาก่อนเวลา ไปหาอะไรกินกันเถอะ! หิวแล้ว”
สถานที่นัดหมายของพวกเรา – ด้านหน้าสำนักงานขายตั๋วที่สอง
จูซูย็อกที่มาถึงก่อน กำลังยืนรอพวกเราอยู่
‘คงมีคนรู้จักอยู่ในทีมจูโอดรากอนส์พอสมควรสินะ’
ในเกมอธิบายไว้ว่า จูซูย็อกมาเยือนสนามเบสบอลจัมชิลหลายครั้งก่อนจะเกิดเหตุในวันนี้
แม้แต่เจ้าของทีมจูโอดรากอนส์ก็ยังทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง
“ไปกันเถอะ ฉันรู้จักร้านอร่อยๆ แถวนี้ดี!”
“มีร้านอร่อยอยู่แถวสนามเบสบอลด้วย?”
“ใช่ มีเพียบ!”
จูซูย็อกเดินนำทางพวกเราไป
รอบๆ สนามเบสบอสมีทั้งร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดัง ร้านกาแฟ และร้านแฟรนไชส์จำนวนมาก
ขณะเดียวกันก็ยังมีร้านท้องถิ่น หรือแม้แต่ร้านแฟรนไชส์บางเจ้าก็ยังมีรสชาติแตกต่างกันไปตามท้องที่
กล่าวคือ ในเขตสนามเบสบอลสามารถมีร้านอร่อยที่รสชาติไม่ซ้ำกับข้างนอก
“ร้านนี้ข้าวปั้นปลาแอนโชวีย่างอร่อยมาก ส่วนร้านนี้ใบงาทอดอร่อย และอีกร้านอาจจะไกลหน่อย แต่ถ้าไปทางเบสที่สาม จะได้เจอกับร้านขายไก่เปรี้ยวหวานที่ใส่กระเทียมกับถั่ว…”
เดินตามไกด์อย่างจูซูย็อก พวกเราได้แวะร้านอร่อยรอบสนามเบสบอลอย่างจุใจ
‘จูซูย็อกกับเม็งเฮียวทงเป็นสายนักชิมทั้งคู่ สมแล้วที่เป็นเพื่อนกันได้’
หลังจากกินแล้วเปลี่ยนร้านไปเรื่อยๆ พวกเราเดินย้อนกลับมายังทางเข้าสนามเบสบอลที่คลาคล่ำไปด้วยฝูงชน
ตลอดทางไม่มีอะไรน่าเบื่อ เพราะรอบสนามเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกอย่างผ้าพันคอโลโก้ทีม รวมถึงโปสเตอร์ของนักกีฬาทีมจูโอดรากอนส์ในชุดแข่ง
“เข้าไปในสนามกัน”
“อื้อ”
หนึ่งชั่วโมงก่อนเกมเริ่ม
พวกเราเดินเข้ามาในโซนอัฒจันทร์
การเล่นวิ่งผลัด แคชบอล และชักเย่อของกลุ่มแฟนเด็กๆ บนพื้นสนามจบลงแล้ว นักกีฬาทยอยออกมาอบอุ่นร่างกาย
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันเด็ก ทั้งสองทีมต่างสวมชุดแข่งและหมวกสไตล์เก่า
บนหน้าจอขนาดใหญ่กำลังแสดงสถิติของทีมเหย้า – จูโอดรากอนส์
‘หาที่นั่งตัวเองไม่เจอรึไงนะ?’
ฉันสัมผัสได้ว่ามีคนกำลังหันซ้ายหันขวาอยู่ด้านหลัง
แต่ก็ตัดสินใจไม่ไปยุ่ง เพราะไม่ใช่ธุระกงการอะไร
ทันใดนั้น
“ว๊าก!”
ใครบางคนตะโกนจากด้านหลังเราสามคน
จูซูย็อกและเม็งเฮียวทงที่รู้สึกผิดสังเกตมาสักระยะเหมือนกับฉัน หันกลับไปมองด้วยสีหน้าค่อนข้างนิ่งเฉย
“หืม… ไม่ตกใจเลยแฮะ”
แฟนบอลที่สวมหมวก TC ไนท์สพูดด้วยเสียงห่อเหี่ยว
ทุกคนระวังตัวอยู่ก่อนแล้ว และไม่มีความจำเป็นต้องแกล้งตกใจ
เราสามคนจึงแทบไม่ตอบสนอง
แต่เมื่อลองจ้องหน้าแฟนบอลคนนั้นชัดๆ ฉันรู้สึกเหมือนเดจาวูทันที
ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้?
‘…โดซีฮู รูมเมทของจางนัมอุก!’
เขาคือคนที่รับสายแทน ในตอนที่ฉันโทรไปหาจางนัมอุกเมื่อคราวก่อน
“ซีฮู… ไม่ได้เจอกันที่สนามเบสบอลนานแล้วสินะ”
จูซูย็อกคงชินกับการมุกตื้นๆ ของโดซีฮูแล้ว จึงไม่เปลี่ยนสีหน้ามากนักขณะทักทายกลับ
…แปลก
‘ถ้าอ้างอิงจากเกม โดซีฮูจะไม่ปรากฏตัวที่สนามเบสบอล… ทำไมเรื่องราวถึงเปลี่ยนไป?’
ไม่นานคำถามของฉันก็ถูกเฉลย
“มากับเพื่อนน่ะ ยังจำตอนที่เล่นบาสคราวก่อนได้ไหม? เขาไม่อยากมาเพราะอ้างติดสอบกลางภาค ฉันเลยต้องล่อซื้อด้วยตั๋ว VIP โซนกลาง… ก็เลยต้องมาดูเป็นเพื่อนน่ะ”
“หรือว่าจะเป็นเด็กจากโรงเรียนเตรียมทหารคนที่ตัวสูงๆ?”
“ใช่”
ที่แท้ก็เป็นเพราะการแข่งบาสฯ ระหว่างโรงเรียนเตรียมทหารกับโรงเรียนแสงเงิน
เป็นบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟกต์จากการที่จางนัมอุกกับอูซังฮุนรอดมาได้
ทันใดนั้น ฉันฉุกคิดบางสิ่งหลังจากไตร่ตรองบทสนทนาระหว่างจูซูย็อกกับโดซีฮูเมื่อครู่
‘หรือว่าคนที่โดซีฮูพามาจะเป็น…’
นักเรียนโรงเรียนเพลเยอร์เตรียมทหาร
เด็กขยันที่อยากอ่านหนังสือสอบกลางภาคมากกว่าเล่นบาสฯ
แต่ก็ยังถูกล่อลวงได้ด้วยตั๋ว VIP โซนกลางของแมตช์เบสบอล
เด็กปีหนึ่งตัวสูงๆ ในการแข่งบาสระหว่างโรงเรียน
‘มีแค่จางนัมอุกเท่านั้น!’
มองตามปลายนิ้วของโดซีฮู ฉันเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนชิดกับรั้วกั้นของโซนกลาง
อีกฝ่ายสวมชุดแข่งและหมวกของจูโอดรากอนส์แบบเก่า สมัยที่เคยได้แชมป์ครั้งแรก
ผ้าพันคอโลโกจูโอดรากอนส์ ถือแท่งไฟสีส้มสำหรับเชียร์
นักเรียนม.ปลายผู้แต่งตัวราวกับเป็นแฟนเดนตายของจูโอดรากอนส์
เป็นใครไปไม่ได้นอกจากจางนัมอุก
“จางนัมอุก! ไปทำอะไรตรงนั้น!”
ได้ยินเสียงเรียก จางนัมอุกที่กำลังดูนักกีฬาทีมจูโอวอร์มร่างกาย รีบหันมามองด้วยสีหน้าตกตะลึง
และแหกปากตะโกนทันทีที่เห็นหน้าฉัน
“อ…อึยชิน! นายก็มาด้วย?”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“เยี่ยมเลย… แต่เดี๋ยวนะ ทำไมอึยชินไม่ใส่หมวกล่ะ? ถ้าจะเชียร์เบสบอลในสนาม จำเป็นต้องใส่ด้วยหมวกนะ แสงแดดน่ะอันตรายมาก และอย่างนายคงไม่ได้ทาครีมกันแดดมาแน่ๆ”
จางนัมอุกในโหมดแฟนเดนตายของจูโอดรากอนส์ ยังคงมีนิสัยขี้บ่นไม่เปลี่ยน
จูซูย็อกที่เห็นภาพนั้น หันไปคุยกับโดซีฮู
“นั่นคือเหตุผลที่นายใส่หมวก?”
“ฮะฮะฮะ! พอดีรูมเมทของฉันเป็นพวกขี้บ่นน่ะ”
ดูเหมือนโดซีฮูเองก็ต้องทนกับคำบ่นของจางนัมอุกไม่ต่างกัน
ยิ่งถ้าเป็นคนนิสัยแบบโดซีฮูด้วยแล้ว คำบ่นน่าจะยิ่งทวีคูณ
ฉัน จูซูย็อก เม็งเฮียวทง โดซีฮู จางนัมอุก
พวกเราห้าคนผลัดกันแนะนำตัว
‘ผิดคาดแฮะ’
สถานการณ์เหนือความคาดหมายยังคงดำเนินต่อไป แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ทิศทางที่แย่
“นั่งตรงนี้เองหรือ? ใกล้กับโต๊ะพวกเราเลย”
“ใช่ แทบจะอยู่ติดกัน”
“แต่น่าเสียดาย โต๊ะนึงนั่งได้แค่สี่คน พวกเราคงนั่งโต๊ะเดียวกันไม่ได้”
“แล้วพวกนายต้องนั่งกับคนแปลกหน้า?”
ฉันนั่งประจำเก้าอี้พลางหยิบอาหารและเครื่องดื่มที่เตรียมไว้ขึ้นมา
โดซีฮูเป็นคนตอบคำถามของเม็งเฮียวทง
“อ้อ… เก้าอี้ที่เหลือเป็นของพี่ 6* ที่อยากมาด้วย” (เป็นลำดับการไล่ญาติทางลูกพี่ลูกน้อง)
“พี่คนนั้นนี่เอง… เขาไม่ค่อยชอบสนามเบสบอลไม่ใช่หรือ”
“ฉันได้ยินเขาฟูมฟายว่าเพิ่งถูกสาวทิ้ง ก็เลยชวนมาดูเบสบอลด้วยกัน”
ญาติของฝั่งโดซีฮูกำลังมา?
คนจาก TC กรุปสินะ пᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ
ฉันครุ่นคิดพลางกระดกเครื่องดื่ม
“พี่วอนอู ทางนี้!”
“ซีฮู ฉันบอกว่าให้นายรอที่หน้าทางเข้าก่อนไง…”
เกือบจะเผลอพ่นเครื่องดื่มแล้ว
ตัวละครนิสัยแย่ของฉันที่คอยตามจีบอูซังฮี
ประธานนักเรียนโรงเรียนแสงเงิน ‘ลิ่มเหล็กกล้า’ โดวอนอู
เขามองมาทางนี้ด้วยใบหน้าแข็งกระด้าง
พี่ 6 ที่ถูกสาวทิ้งจนลูกพี่ลูกน้องต้องปลอบใจคือนายเองสินะ
“พี่วอนอู?”
เมื่อเห็นจูซูย็อกกับโดซีฮูเอียงคอมอง โดวอนอูตอบเสียงตะกุกตะกัก
“ส…สวัสดี”
โดวอนอูยังคงมองมาทางฉันด้วยใบหน้าแข็งกระด้าง
แต่คงเพราะที่นี่มีญาติกับนักข่าวเต็มไปหมด ก็เลยจำใจต้องเก็บอารมณ์
เขานั่งประจำที่พลางฝืนควบคุมตัวเอง
‘ก็รู้อยู่หรอกว่าโดวอนอูเป็นคนของ TC กรุป แต่ไม่คิดว่าจะมาที่นี่ด้วย’
ภายในเกม หลังจากน้องชายตายเพราะเอนามีสัตว์อสูร อูซังฮีได้ละทิ้งงานสภานักเรียนและชีวิตประจำวันของเด็กผู้หญิง เพื่ออุทิศตัวให้กับการโจมตีต่างโลก
ชีวิตของเธอหม่นหมองจนโดวอนอูไม่กล้าชวนออกเดต
นั่นคือสาเหตุที่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างจากในเกม?
‘…เรื่องเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นเรื่อยๆ’
ถึงโดวอนอูจะเอาแต่มองมาด้วยสายตาอาฆาต แต่นั่นก็ไม่ได้แย่อะไร
ถัดมาอีกสักพัก ทางสนามเริ่มจัดงานตามกำหนด
หลังจากเพลงชาติจบลง
ได้เวลาขว้างลูกเปิดสนาม
“วันนี้ใครขว้างลูกเปิด? ไม่เห็นประกาศชื่อเลย หรือว่ายังไม่ได้ตัดสินใจกันนะ”
“ไม่ได้ข่าวเหมือนกัน อาจจะมีเซอไพรส์ก็ได้”
ถ้าแม้แต่จูซูย็อกยังไม่รู้ แปลว่าข้อมูลนี้ค่อนข้างลับสุดยอด
ทั้งที่ใกล้เวลาขว้างแล้ว แต่คนที่อยู่บนสนามกลับมีแค่ตุ๊กตามาสคอตของจูโอดรากอนส์ ‘ยงยง’ (มังกรมังกร)
“หรือว่ายงยงจะเป็นคนขว้างเปิดสนาม?”
“มันก็สมเหตุสมผลอยู่หรอก แต่ว่า…”
“ไม่ใช่ว่าเผ่ามังกรต้องเป็นคนขว้างทุกปีหรือ? ที่อุตส่าห์มาดูก็เพราะลูกๆ ของฉันอยากเห็นเผ่ามังกร”
เสียงบ่นดังระงมไปทั่วอัฒจันทร์
ทันใดนั้น ยงยงที่เดินขึ้นไปบนเนินขว้างลูก ทำการถอดชุดมาสคอตออก
ใต้หมวกครอบตุ๊กตาคือใบหน้าของย็อมจุนยอล – ลูกหลานเผ่ามังกรคนดัง
เฮ~!
ใบหน้าย็อมจุนยอลถูกฉายขึ้นจอภาพกลางสนามทันที ตามมาด้วยคำบรรยายที่ล่าช้าของโฆษก
ผู้ชมต่างส่งเสียงเชียร์
โดยเฉพาะเด็กๆ ที่จำย็อมจุนยอลได้ ต่างแหกปากตะโกนกันสุดเสียง
“รุ่นพี่ย็อมจุนยอล!”
“คนที่เคยมายืนรอหน้าห้องเราใช่ไหม…?”
ทางฝั่งพวกเราก็แตกตื่นไม่ต่างกัน
ระหว่างนั้น กลุ่มคนที่สวมหน้ากากอนามัยและหมวกปิดหน้าปิดตามิดชิด รีบวิ่งลงไปตามบันไดของโซน VIP กลาง
ทุกคนควักกล้องที่มีเลนส์ยาวจนแยกไม่ออกว่านั่นเลนส์หรือปืนใหญ่
จากนั้นก็ติดขาตั้ง
“จุนยอลในชุดแข่งล่ะ!”
“ลูกชายฉันเอง! ลูกชายฉัน!”
“เหลือจะเชื่อ! ชุดแข่งเก่าๆ เชยๆ กลับเปล่งประกายได้ขนาดนี้!”
นึกแล้วว่าถ้าย็อมจุนยอลมา ย็อมบังยอลกับเผ่ามังกรก็ต้องมาด้วย ก็นึกสงสัยอยู่ว่าหายไปไหน
ที่แท้ก็แฝงตัวรอถ่ายรูปนี่เอง
แถมยังไม่ใช้กล้องอุปกรณ์ แต่เป็นกล้องมืออาชีพ
“เอ่อ พวกเขา… ทีมสิงโตแดงกับเผ่ามังกรไม่ใช่หรือ?”
“ถ้ามังกรแดงมา ก็คงไม่แปลกหรอกที่พวกเขาจะมาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ…”
ขณะเดียวกัน ย็อมจุนยอลโบกมือให้ผู้ชมอย่างเป็นกันเอง
จากนั้นก็ยิ้มพลางส่งสัญญาณให้แคชเชอร์
แล้วก็ตั้งท่า
ปึก!
เป็นบอลเร็วที่ราวกับจะพุ่งทะลุไปถึงอัฒจันทร์
ทางแคชเชอร์ที่รับบอลไว้ได้แน่นิ่งก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน
ท่าเตรียมขว้าง ย่างก้าว การง้างมือ จังหวะเร่งแขน ไปจนถึงการปล่อยบอล ทั้งหมดสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ
‘เพื่อขว้างลูกนี้ลูกเดียว… นายฝึกมาหนักแค่ไหน!’
ฉันที่ได้เห็นเต็มตา ทั้งประหลาดใจและทึ่ง
ขณะเดินออกจากเนินขว้าง ย็อมจุนยอลยิ้มอย่างมีความสุขกับผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
“เพอร์เฟกต์! จุนยอล!”
“ตื้นตันจนน้ำตาจะไหล! ทำยังไงดี หยุดร้องไม่ได้เลย!”
“สมแล้วที่เป็นลูกหลานของเผ่ามังกรที่ข้าเป็นผู้นำ! จุนยอลของเรายอดเยี่ยมที่สุด!”
ย็อมบังยอล ทีมสิงโตแดง และเผ่ามังกรผลัดกันตะโกน
‘…ดูจากคำพูด คงมีผู้นำของเผ่ามังกรอยู่ด้วยสินะ’
มังกรครามมาดูด้วยตัวเองเชียวหรือ?
ดูท่าผู้นำเผ่ามังกรที่ทำตัวน่าเกรงขามในการประชุมสิบสองพันธมิตรจักรราศี ก็ยังต้องเสียอาการต่อหน้าย็อมจุนยอล
ได้เห็นความชุลมุนแบบนี้ ฉันถอนหายใจโล่งอก
‘เป็นไปตามแผน’
ทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบรื่น
ดูท่าจะได้รับชมเกมเบสบอลสนุกๆ จนกว่าจะเกิด ‘เหตุการณ์’ นั้นขึ้น
‘เตรียมตัวสมบูรณ์แบบ… ผิดแผนแค่เรื่องที่มีตัวละครมารวมกันมากไปหน่อย แต่หลังจากนี้คงได้ดูเบสบอสอย่างมีความสุขจนกว่าจะถึงเวลา’
จูโอดรากอนส์ ผู้ไม่สามารถหลุดพ้นจากอาถรรพ์อันดับสอง
และ TC ไนท์ส ผู้โด่งดังด้านความห่วย จนต้องจบบ๊วยในฤดูกาลที่แล้ว
แต่กระนั้น หากเป็นซีรีส์วันเด็กในสนามจัมชิล TC ไนท์สจะแสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมราวกับเป็นคนละทีมในลีก
‘ยังกับอยู่ในห้องคาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุดของคาบสมุทรเกาหลี’
เพลงเชียร์ประจำทีมที่แฟนๆ ทั้งสองฝั่งร้องข่มกัน ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนาม
บางครั้งฉันก็แอบร้องตามอย่างงุ่มง่าม พลางดื่มด่ำกับความดุเดือดเลือดพล่านของเกมเบสบอล
* * *
คะแนนอยู่ที่ 3 ต่อ 3
เกมการแข่งที่สูสีจบไปแล้วห้าอินนิ่ง (มีทั้งหมด 9 อินนิ่ง)
ถึงเวลาทำความสะอาดสนาม และจับสลากของขวัญสำหรับเด็กๆ เพื่อคั่นเวลา
บี๊บบี๊บ!
สัญญาณเตือนดังขึ้นจากอุปกรณ์หลายหมื่นเครื่องทั่วสนามกีฬา
—
MasterGU.edited = เฟรนไชส์->แฟรนไชส์