📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 42

บทที่ 42 - ทีมเพลย์ (2)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เอนามีที่เป็นบอสดันเจี้ยนปรากฏตัว

‘บรรยากาศหนักอึ้งทันที…!’

เอนามีจำลองเกรด R++ ‘อ็อกติกาเวอร์เพิร์ส’

เอนามีบอสใหญ่ของดันเจี้ยนที่จำลองจากเครื่องแขนง คือแก่นของซิมูเลชั่นในครั้งนี้

มิอาจระบุเผ่าพันธุ์ได้แน่ชัด เพราะเกิดการกลายพันธุ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าภายในถ้ำ

กลายพันธุ์จนมิอาจจำแนกลักษณะทางชีวภาพดั้งเดิม แต่ถ้าจะให้เทียบก็ใกล้เคียงกับปลาหมึกยักษ์

มีหลายหนวดไว้สำหรับโจมตี แถมยังปกปิดจุดอ่อนได้มิดชิด จนกลายเป็นเอนามีที่สามารถรับมือกับกองทัพได้สบาย

“ยืนประจำตำแหน่ง!”

ได้ยินฉันตะโกน ทุกคนกระจายตัวไปตามตำแหน่ง

ตอนนี้มีเพียงวังจีโฮที่มี ‘สกิลแขนง’ จากบรรดาทั้งหกคน

แต่ก็นำออกมาใช้ไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากเปิดเผยสกิลของตน

อาจเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน เพราะในกลุ่มพวกเราไม่มีสกิลที่จะจัดการกับเอนามีเกรด R+++ ได้ในคราวเดียว

‘ดังนั้น วิธีที่เร็วที่สุดคือการเล็งโจมตีจุดตาย’

เอนามีในดันเจี้ยนนี้ล้วนแพ้ทางธาตุสายฟ้า

ฉันจึงเป็นคนเดียวที่สามารถเล่นงานจุดอ่อนของมันได้ถึงพริกถึงขิง

‘แต่เป็นถึงเอนามีระดับบอส มันคงไม่ง่ายเหมือนพวกตัวก่อนหน้า’

คราวนี้ฉันตั้งใจจะเล่นงานจุดอ่อนของมันด้วยเวทมนตร์สายฟ้าขั้นกว่า—ค้อนอสนีบาต

อย่างไรก็ดี มันทำตัวสมกับการเป็นบอสใหญ่ ด้วยการสร้าง ‘เกราะ’ ป้องกันจุดตายที่อยู่ใต้หนวด

‘ดูแล้วเพื่อนเราคงทำลายได้ง่ายๆ …’

มีเกราะห้าจุดที่คอยปกป้องจุดตายของเอนามีนามว่าอ็อกติกาเวอร์เพิร์ส

“ฮะฮะฮะ!”

“…วังจีโฮ ลงมือกันเถอะ”

วังจีโฮไล่ตามความเร็วฮันอีทันได้ไม่ยาก เมื่อสองมวยพยัคฆ์ผนึกกำลังกัน เกราะก็แตกไปสองจุดอย่างง่ายดาย

“เฮียวทง ทางนี้เสร็จแล้ว!”

“ห…หัวหน้าห้อง ทางนี้ก็เสร็จแล้วเหมือนกัน!”

เกราะอีกสองจุดถูกคิมยูรีกับเม็งเฮียวทงทำลายตามลำดับ

การประสานงานของทั้งคู่อาจยังไม่ลงตัว แต่คิมยูรีก็เป็นอีกหนึ่งอัจฉริยะที่เติบโตมาพร้อมกับอันดาอิน

“เสร็จแล้ว!”

เกราะจุดสุดท้ายถูกทำลายโดยซาวอลเซอึมที่คอยสนับสนุนแส้ของอีเรนา

เมื่อเห็นเกราะทั้งหมดถูกทำลาย ซาวอลเซอึมตะโกน

“เกราะแตกหมดแล้ว!”

มหาเวทต้องใช้พลังใจสูงมาก แถมยังมีระยะร่ายมนตร์นาน

ฉันต้องคอยคำนวณสูตรการโคจรมานา พลางรักษาระยะห่างกับเอนามีบอส

โชคดีที่ร่ายเสร็จหลังจากเกราะทั้งหมดถูกทำลายได้ไม่นาน

“ฟูลกูเรียส มาร์คัส!” (Fulgureus Marcus)

ฟ้าว—

ค้อนศึกห้าอันปรากฏขึ้นเหนือไม้เท้าที่ฉันชู

“ใหญ่กว่าคราวก่อนอีก! ทุกคนถอยออกมาอีก!”

สิ้นเสียงซาวอลเซอึม ทุกคนรีบถอยกลับมารวมตัวใกล้ฉัน

ขณะเอนามีบอสพยายามไล่ล่าเด็กที่วิ่งหนีกลับมา

เปรี้ยงเปรี้ยง! เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!

ค้อนอสนีบาตกระแทกใส่จุดตายของอ็อกติกาเวอร์เพิร์สตามการเคลื่อนไหวของไม้เท้าฉัน

แม้จะไม่ตายในทันทีเหมือนมอนฯ กากๆ แต่ผ่านไปไม่นานเอนามีปลาหมึกก็ค่อยๆ สิ้นชีพ

“ล้มแล้ว!”

“พลังชีวิตเหลือศูนย์แล้ว มันกำลังจะหายไป!”

ซู่ว—

ไม่ผิดจากที่อีเรนาพูด เอนามีบอสที่พลังชีวิตกลายเป็นศูนย์ แตกตัวเป็นอนุภาคแสง

ตอนนี้ไม่เหลือเอนามีในระบบซิมูเลเตอร์แล้ว

พวกเราเคลียร์ดันเจี้ยนเสมือนได้อย่างปลอดภัย

“สุดยอด! หน้าจอเคลียร์ด่าน!”

“โผล่ขึ้นมาแบบนี้เลยหรือ”

ทุกคนเดินมาหาโฮโลแกรมตรงหน้าพวกเรา

[ซิมูเลชั่นเคลียร์! ใช้เวลาไป: 7 นาที 45 วินาที]

เสียงเฮดังขึ้น

“ไม่ถึงแปดนาทีด้วยซ้ำ…!”

“สุดยอด!”

“เคลียร์แล้ว!”

“วู้ว! วู้ว! เร็วมาก!”

นักเรียนเจ็ดคนของห้องศูนย์ส่งเสียงเชียร์พร้อมกับทำไฮไฟว์กันและกัน

หลังจากพวกเราแตะมือกันเสร็จ ภาพตกค้างของดันเจี้ยนได้สลายไปอย่างสมบูรณ์

เผยให้เห็นโลหะอเนกประสงค์ที่ใช้เคลือบตามผนังโรงยิมและอุปกรณ์สนับสนุน

พวกเรากลับมายังโรงยิมอย่างปลอดภัย

“ทำดีมาก”

ฮัมกึนยองที่เฝ้ามองผ่านหน้าจอ เปิดปากชื่นชม

“ครูไม่เคยเห็นทีมไหนเคลียร์ดันเจี้ยนนี้ได้ต่ำกว่าสิบนาทีตั้งแต่ทีมเพลย์ครั้งแรก… ไม่เคยเจอเด็กอย่างพวกเธอมาก่อน”

ฉันเคยได้ยินประโยคหลังมาแล้วครั้งหนึ่ง

แต่คราวนี้ผู้พูดกำลังยิ้มแย้ม

‘ดูจากสีหน้าฮัมกึนยอง เราคงเดาถูกสินะ’

เป้าหมายของทีมเพลย์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเคลียร์ดันเจี้ยน

แต่ต้องใช้เวลาให้น้อยที่สุด และสิ้นเปลืองให้น้อยที่สุด

ใช้ไอเท็มสนับสนุนไป 0 ชิ้น

จำนวนคนใช้แสงประทานคือ 0

จำนวนผู้บาดเจ็บคือ 0

ถือว่าบรรลุเป้าหมายทั้งหมด

“ทุกคนทำได้ดีมาก ดูเหมือนจะอ่านเจตนาของครูออก ดันเจี้ยนนี้มีระดับความยากไม่สูงนัก แต่จะเสียเวลาเคลียร์นานถ้ามัวแต่แบ่งปันความดีความชอบให้ทุกคนอย่างเท่าเทียม”

เอนามีเกือบทั้งหมดมีจุดอ่อน

หากต้องการเคลียร์ดันเจี้ยนได้รวดเร็ว จำเป็นต้องสนับสนุนพวกพ้องที่สามารถเฉิดฉายได้มากที่สุด

หากเอนามีแพ้ธาตุลม ซาวอลเซอึมจะกลายเป็นศูนย์กลางทีม หรือถ้าแพ้การชก ศูนย์กลางของทีมก็จะเปลี่ยนเป็นเม็งเฮียวทง ฮันอี และวังจีโฮ

ถ้าแพ้ทางการฟัน คิมยูรีก็จะได้เป็นดาวเด่น

หรือถ้าหากดันเจี้ยนเต็มไปด้วยกับดักซึ่งถือว่าเกิดขึ้นได้ยาก กลยุทธ์จะถูกวางโดยอิงจากอีเรนา

ด้วยสกิลสรรพภัณฑ์ ฉันสามารถเป็นศูนย์กลางได้แทบทุกกรณี ยกเว้นบางครั้งที่จำเป็นต้องเน้นคุณสมบัติของธาตุ

“พวกเธอเลือกใช้แผนเกื้อหนุนจุดแข็งของกันและกัน ในกรณีนี้คือโชอึยชินผู้มีพลังทำลายสูงที่สุดเมื่อเผชิญหน้ากับเอนามีประเภทน้ำ ส่งผลให้ทีมนี้เคลียร์ดันเจี้ยนได้ด้วยเวลาและผลลัพธ์อันยอดเยี่ยม ทีมเพลย์ลักษณะนี้คือสิ่งสำคัญที่สุดในการบุกต่างโลก… จำเรื่องนี้ให้ขึ้นใจล่ะ”

ฮัมกึนยองประเมินภาพรวมเสร็จแล้ว ถัดไปเป็นรายบุคคล

“คนแรก โชอึยชิน ไม่เพียงจะเป็นคนวางแผน แต่ยังร่ายมนตร์อย่างใจเย็นต่อหน้าเอนามีจนกระทั่งได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ทำได้ดีมาก”

ถัดไปเป็นวังจีโฮและฮันอี

“สองผู้ใช้มวยพยัคฆ์ ฮันอีและวังจีโฮที่ทำคอมโบเข้าขากันได้ดี แต่ครูมองว่าวังจีโฮติดเล่นมากไปหน่อย คงเข้าใจที่พูดใช่ไหม? ฮันอีก็เลิกเอาแต่ไล่ตามความเคลื่อนไหวของวังจีโฮแล้วมองไปรอบๆ บ้าง”

ดูเหมือนวังจีโฮจะถูกจับได้ว่าติดเล่น

เพราะเขาสนใจว่ามวยพยัคฆ์ของฮันอีจะไปได้ไกลแค่ไหน มากกว่าการทำเวลาโค่นเอนามี

ถัดไปเป็นคิวของเม็งเฮียวทงและคิมยูรี

“การผนึกกำลังระหว่างเม็งเฮียวทงกับคิมยูรีก็ไม่เลว ทั้งสองคนมีพลังทำลายที่ดี รักษาสิ่งนี้เอาไว้… ในกรณีของคิมยูรี ครูมองว่าเธอยังรู้จักเอนามีไม่ดีพอ พยายามฝึกกับเครื่องซิมูเลเตอร์ให้มากขึ้น ส่วนเม็งเฮียวทง เธอใจเย็นลงกว่านี้หน่อย ลืมไปแล้วหรือว่าร่างกายตัวเองยังไม่สมบูรณ์? แล้วก็มองตาเพื่อนที่ต้องสู้เคียงข้างกันไปอีกอย่างน้อยหนึ่งปีให้มากกว่านี้”

ดูเหมือนว่าเม็งเฮียวทงจะยังเคอะเขินคิมยูรีอยู่

นอกจากนั้น ผลข้างเคียงของการใช้ไอเท็มฟื้นฟูเกินขนาดก็ยังไม่หายไป ควรระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้อีก

“ซาวอลเซอึมกับอีเรนา พวกเธอทำหน้าที่แนวหลังได้ค่อนข้างดีแล้ว แต่ยังขาดพลังในการโจมตีเอนามี ไปฝึกเพิ่มมาทั้งคู่ ซาวอลเซอึมต้องช่วยเพื่อนให้เร็วขึ้นอีกเล็กน้อย ส่วนอีเรนาเน้นฝึกพละกำลังและกล้ามแขน”

การประเมินที่มีต่อนักเรียนทั้งเจ็ดจบลง

แต่ว่า…

‘เราเป็นคนเดียวที่ไม่ถูกตำหนิ’

ฉันยังคงรอ เผื่อว่าเขาจะมีคำแนะนำเพิ่มเติม

“คาบนี้พอแค่นี้ก่อน จงใช้เวลาที่เหลือคุยกันและทบทวนตัวเองดู… แยกย้ายได้ วันนี้ทุกคนทำได้ดีมาก”

คาบเรียนจบเร็วกว่าปกติพอสมควร

โดยที่ฉันไม่ถูกตำหนิอยู่คนเดียว

เมื่อฮัมกึนยองหันหลังแล้วเดินจากไป สายตาหกคู่พลันจับจ้องมาที่ฉันโดยพร้อมเพรียง

“อย่างที่คิด สมกับเป็นซูเปอร์โนว่าไร้นาม! ได้รับแต่คำชม”

“รองหัวหน้าห้อง… เจ๋งชะมัด”

“ใช่…! ในทีมเพลย์ครั้งหน้า ฉันจะพยายามทำให้ดีเหมือนอึยชิน!”

ที่ครูฮัมกึนยองไม่ตำหนิเรามากนัก ส่วนหนึ่งคงเพราะเราเป็นคนวางแผน

และไม่ได้ทำผิดพลาดอะไรด้วย

ฉันค่อนข้างอึดอัดใจที่ต้องเก็บซ่อนสีหน้ากระอักกระอ่วนท่ามกลางสายตาริษยาของเด็กๆ รอบข้าง

ช่วยเลิกมองกันสักทีได้ไหม

“ฮะฮะฮะฮะฮะ!”

วังจีโฮหัวเราะประหนึ่งชอบใจเสียเต็มประดาที่เห็นฉันกระอักกระอ่วน

นายก็เหมือนกัน ช่วยติดเล่นให้น้อยลง แล้วก็หัวเราะให้น้อยลงจะดีมาก

“วันนี้มากินมื้อกลางวันด้วยกันเถอะ! ถือเป็นการทบทวนไปในตัว!”

ทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอของคิมยูรี

นักเรียนปี 1/0 เจ็ดคนเดินไปโรงอาหารสำหรับเด็กปีหนึ่ง และใช้เวลาตลอดมื้อเที่ยงเพื่อทบทวนการต่อสู้ที่ผ่านมา

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคุยกันไม่จบ ต้องมาต่อนอกรอบขณะเดินย่อย

‘รู้สึกเหมือนกำลังเดินชมดอกไม้มากกว่าทบทวนบทเรียน’

เป็นช่วงเวลาที่ดอกซากุระเริ่มบานพอดี ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm

พวกเราคุยกันเรื่อยเปื่อยพลางชมดอกไม้

มีเรื่องให้คุยไม่หยุดปาก อาหารตาก็มีให้มองตลอดทาง

บนทางเดินไม่ได้มีแค่ดอกซากุระ แต่ยังรวมถึงดอกแคนารี ดอกหญ้า ดอกมาร์กาเร็ต ดอกนาซิสซัส ดอกกุหลาบญี่ปุ่น เป็นต้น

ทุกดอกที่ว่ามาผลิบานได้งดงามไม่แพ้ดอกซากุระ

“พอเดาได้แล้วว่าฮัมกึนยองจะแนะนำใคร…”

ขณะเตรียมไปเรียนวิชาเลือกเสรีช่วงบ่าย วังจีโฮข้างๆ ฉันพึมพำตาเป็นประกาย

แนะนำใคร? แนะนำทำไม?

ฉันนึกออกอยู่สองสามเรื่อง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเมิน

ระหว่างนั้น กริ่งคาบเรียนดังขึ้น

“กริ่งคาบบ่ายวันนี้เป็นเพลงที่ชมรมของฉันบรรเลง!”

ยังคงเป็นเพลงรณรงค์เลือกตั้ง

เพลงล่าสุดถูกบรรเลงโดยชมรมเครื่องสาย ประกอบด้วยไวโอลินสองตัว วิโอล่า และเชลโล่

เพลงเลือกตั้งจำเป็นต้องเพราะขนาดนี้เลยไหม?

นักดนตรีที่ดีต้องเล่นเพลงได้ทุกวัตถุประสงค์สินะ

“ฉันก็อยากมีส่วนร่วมในเพลงเปลี่ยนคาบเรียนเหมือนกัน! จะพยายามฝึกให้หนักนะ!”

นักเรียนปี 1/0 ทุกคนต่างสนับสนุนความตั้งใจของอีเรนา

หากเพลเยอร์มีพรสวรรค์ พวกเขาจะเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนปกติหลายเท่า

ในกรณีของอีเรนา ถ้าเธอฝึกหนักโดยไม่ละทิ้งกลางคัน มีโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของเพลงเปลี่ยนคาบในปีถัดไป หรือไม่ก็เทอมถัดไปเลย

หลังจากเดินชมดอกไม้สักพัก พวกเราแยกย้ายกันเมื่อเสียงกริ่งจบลง

* * *

หลังเลิกเรียน

วันนี้ก็มาถึงห้องชมรมพร้อมกับวังจีโฮเหมือนเคย

“สรรเสริญฉันสิ!”

ขี้แพ้มุนแซรอน ผู้พ่ายแพ้ให้กับคนร้ายเปลี่ยนโฉมหอนาฬิกา และพ่ายแพ้ให้กับความกลัวผีจนไม่ได้วิจัยตำนานสยองขวัญ กำลังทำหน้าหยิ่งผยองของผู้ชนะเป็นหนแรก

“ฉันได้สัมภาษณ์ย็อมจุนยอลด้วยล่ะ!”

“โห… เจ๋งอ่ะ”

“โม้เปล่า? ปกติแล้วมังกรแดงน้อยไม่เคยให้สัมภาษณ์กับใคร”

มุนแซรอนใช้โฮโลแกรมอวดบทความที่เธอเขียนขึ้น รวมถึงรูปคู่กับย็อมจุนยอลที่เธอถ่ายด้วยตัวเอง

เด็กปีหนึ่งชมรมหนังสือพิมพ์ต่างพากันอุทานด้วยความชื่นชม

“ถึงจะรู้ว่ามันยาก แต่ฉันอยากลองดู ก็เลยรวบรวมความกล้าเข้าไปขอ สุดท้ายก็ได้ผลเฉยเลย! แต่มีข้อแม้ว่าฉันต้องเล่าเรื่องที่น่าสนใจให้เขาฟัง… ก็เข้าใจได้ รุ่นพี่ย็อมจุนยอลไม่ได้มาโรงเรียนตลอดเดือนมีนาคม คงกลัวจะตกข่าวอะไรไป”

ใช้การสัมภาษณ์เป็นเหยื่อล่อเพื่อตะครุบแหล่งข้อมูลสินะ

ย็อมจุนยอลกำลังตามหาตัวจอมโจรผาแดง

พิจารณาจากการที่มาคุยกับซาวอลเซอึมและอีเรนา เขาคงเชื่อว่าจอมโจรผาแดงเกี่ยวข้องกับโรงเรียนแสงเงิน หรืออาจเกี่ยวข้องกับปี 1/0

ถือว่าเซนส์แรงอยู่ เพราะฉันช่วยสองคนนั้นไว้ในงานประมูลมายาจริงๆ

‘มุนแซรอนมีหูตาอยู่ทั่ว เหมาะที่จะใช้เป็นเครือข่ายข้อมูล ย็อมจุนยอลตาแหลมทีเดียว’

เธอรับหน้าที่สายข่าวแม้กระทั่งในเกม

ถึงจะเป็นพวกขี้กลัวจนไม่กล้าสืบเรื่องผีก็เถอะ

และเมื่อมุนแซรอนเขียนบทความเสร็จ นั่นเท่ากับว่าเด็กปีหนึ่งทุกคนทำการบ้านเสร็จแล้ว

เพื่อให้ประธานชมรมช่วยยืนยัน กลุ่มเด็กปีหนึ่งย้ายไปรวมตัวกันที่ห้องส่วนกลางสำหรับทั้งสามชั้นปี

“วันนี้ครูจูเก่อแจกอลสายแฮะ”

“หัวหน้าฝ่ายธุรการอาจจะงานยุ่ง… หรือว่าปี 2/0 ก่อเรื่องอีกแล้ว?”

“ปกติแล้วถ้าติดปัญหาเขาจะติดต่อมาก่อนนะ…”

ประธานและรองประธานชมรมหนังสือพิมพ์เผยสีหน้ากังวล

ไม่ใช่บรรยากาศที่เด็กปีหนึ่งจะกล้ารายงาน

“สงสัยมีปัญหากับชมรมวารสารอีกแล้วล่ะ”

มุนแซรอนเดินเข้ามาระหว่างฉันกับวังจีโฮแล้วซุบซิบเสียงเบา

“ชมรมวารสาร?”

“วังจีโฮ นายก็สนใจเหมือนกันใช่ไหม?”

“ใช่ เล่ามาสิ”

มุนแซรอนรู้เรื่องนี้ดี

สมแล้วที่เป็นตัวละครควบคุมได้ ผู้ใฝ่ฝันจะได้รับรางวัลพูลิตเซอร์*ในสักวัน (รางวัลออสการ์ในวงการสื่อมวลชน)

“ชมรมวารสารอยากให้ชมรมหนังสือพิมพ์ยุบรวมกับตน หรือไม่ก็ยุบทิ้งไปเลย”

“…ชมรมหนังสือพิมพ์มีมาตั้งแต่โรงเรียนก่อตั้ง แต่ชมรมวารสารเพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อสิบปีก่อนเองนะ”

วังจีโฮคงสืบประวัติชมรมหนังสือพิมพ์อย่างละเอียดก่อนจะเข้าร่วม

“วังจีโฮพูดถูก แต่ถึงอย่างนั้น ชมรมวารสารน่ะ… ได้รับความรักจากพวกรุ่นพี่ที่เรียนจบแล้วเป็นพิเศษ เห็นว่ามีสปอนเซอร์ภายนอกเข้ามาไม่ขาดสายเลย ในทางกลับกัน ชมรมหนังสือพิมพ์ของเราทำได้เพียงหายใจรวยริน เจียนอยู่เจียนไปมาหลายปี หากครูจูเก่อแจกอลไม่ช่วยมาเป็นที่ปรึกษา ป่านนี้คงถูกยุบชมรมไปแล้ว”

ได้ฟังคำพูดมุนแซรอน ดวงตาวังจีโฮเป็นประกายเล็กน้อย

‘บรรดาคุณครูคงยุ่งอยู่กับเรื่องที่ชเวย็อนทึกก่อไว้ ส่งผลให้อีเวนต์เกิดขึ้นช้ากว่าปกติ แต่สุดท้ายก็ยังเกิดอยู่ดี’

อีเวนต์ระหว่างชมรมวารสารกับชมรมหนังสือพิมพ์

อีเวนต์ที่ทำให้จูเก่อแจกอลได้รับคำสาปและต้องออกจากโรงเรียน

วันนี้เขาไม่ปรากฏตัวในคาบชมรม

* * *

วันเสาร์

อุปกรณ์ของฉันเต็มไปด้วยข้อความขาเข้า

ก่อนอื่น ฉันอ่านข้อความในกลุ่มแชตที่มีจูซูย็อกและเม็งเฮียวทง

[จูซูย็อก] อึยชิน บังยุนซบแอบสูบบุหรี่อีกแล้ว! นี่หลักฐาน!

ด้านหลังรูปเซลฟีของจูซูย็อก คือบังยุนซบที่กำลังนั่งยองๆ พิงกำแพง โดยคีบบุหรี่ที่จุดแล้วไว้ระหว่างนิ้ว

บังยุนซบยิ่งดูน่าสมเพชเมื่อมีใบหน้าอันหล่อเหลาของจูซูย็อกปะปนอยู่ในเฟรมเดียวกัน

‘ถ้าจำไม่ผิดคงเป็นวันนี้ ที่บังยุนซบไปหาเรื่องพวกนักเลงเข้า จนจูซูย็อกต้องเข้าไปช่วยไว้’

[จูซูย็อก] ฉันไปเจอบังยุนซบกำลังทะเลาะกับคนแปลกๆ ในตอนที่เข้าไปช่วย ฉับเหลือบเห็นเขากำลังคีบบุหรี่ที่จุดแล้วอยู่พอดี

เจ้าบังยุนซบเบ๊ของฉัน เดี๋ยวนี้มีพัฒนาการ

คราวนี้ไม่ได้ไปหาเรื่องใคร แต่เป็นฝ่ายถูกหาเรื่องแทน!

คงไม่มีใครไปหาเรื่องชาวบ้านตอนที่ตัวเองกำลังแอบสูบบุหรี่แน่

ก็เลยซวยถูกจูซูย็อกจับได้ว่าแอบสูบบุหรี่

โชคดีที่ฉันมีเลขบัญชีของหมอนั่น

[ฉัน] ฉันฝากเงินเข้าบัญชีของเบ๊บังยุนซบแล้ว ช่วยฝากเขาซื้อของหน่อย เอาร้านไกลๆ เลย

[จูซูย็อก] สักสิบกิโลดีไหม?

[ฉัน] ก็ได้ วันนี้เป็นวันหยุด มากกว่านั้นก็ยังได้

[จูซูย็อก] ตกลง!

[เม็งเฮียวทง] เมื่อไรไอ้โง่นี่จะกลับตัวกลับใจสักที? โดนฉันจับได้สองครั้งแล้วนะ

[จูซูย็อก] ของฉันสามครั้ง… แต่เฮียวทง ไม่ว่ามันจะจริงแค่ไหน แต่ไปด่าเขาว่าไอ้โง่ก็แรงไปหน่อยนะ ฮะฮะ!

[เม็งเฮียวทง] นายนี่มันพ่อพระจริงๆ

ไม่สิ ถ้าลองจับใจความให้ดี จูซูย็อกเองก็ยอมรับว่าบังยุนซบเป็นไอ้โง่

ถัดมาเป็นห้องแชตของจางนัมอุกและอูซังฮุน

[จางนัมอุก] อึยชิน นายจะไม่มาจริงหรือ?

[อูซังฮุน] จะมาช้าหน่อยก็ได้นะ

[ฉัน] ฉันยุ่งจริงๆ

[อูซังฮุน] อย่าแกล้งทำเป็นยุ่งเลยน่า จะติดภารกิจอะไรสำคัญนักเชียว?

[จางนัมอุก] นายกำลังแอบทำอะไร? ถึงจะเป็นเพลเยอร์ แต่ก็ช่วยชีวิตตัวเองหน่อยนะ!

หน้าต่างข้อความถูกปิดลงทันทีโดยไม่แยแสคำบ่นของจางนัมอุกและอูซังฮุน

วันนี้มีเด็กปีหนึ่งโรงเรียนแสงเงินและโรงเรียนเตรียมทหารมีนัดรวมตัวกัน

เห็นว่าเช่าสนามบาสฯ ไว้ตลอดทั้งวัน

‘หลังจากวันนี้คงมีแมตช์กระชับมิตรอย่างเป็นทางการ’

แม้แต่คนนอกชมรมบาสก็มีสิทธิ์เข้าร่วม ถ้าได้รับอนุญาตจากอูซังฮุนผู้เข้าสังคมเก่ง และโดซีฮูของฝั่งโรงเรียนเตรียมทหาร

เหมือนกับที่จางนัมอุกถูกลากมาร่วมวงทั้งที่ไม่ได้เป็นคนของชมรม

ลงเอยด้วย มีคนเข้ามารวมตัวกันเพื่อเล่นบาสฯ มากกว่ายี่สิบชีวิต จึงต้องแบ่งเล่นสองสนามพร้อมกัน

หรือจะเป็นแผนทำให้จางนัมอุกเสียสมาธิก่อนสอบกลางภาค?

เขาดูเหมือนเด็กเรียน ไม่น่าจะใช่คนคลั่งบาสฯ สักเท่าไร

ไม่รู้ว่าถูกอูซังฮุนกับโดซีฮูเป่าหูมาด้วยวิธีไหน แต่จางนัมอุกดูจะพยายามชักชวนฉันไปเล่นบาสฯ ด้วยให้ได้

คล้อยตามคนง่ายจริงๆ

‘จะสอบปลายภาคอยู่แล้ว ยังมัวมาเล่นบาสฯ อยู่ได้ หย่อนยานไปหน่อยไหม’

แทนที่จะตั้งใจอ่านหนังสือ

ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเด็กของสองโรงเรียนที่ทรงเกียรติที่สุดในเกาหลีใต้

แต่ฉันที่กำลังอยู่ในคฤหาสน์วังมยองโฮก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าใครเหมือนกัน…

‘วันนี้ต้องหาให้เจอ’

พันธมิตรสิบสองจักรราศีมีนัดประชุมกันในวันนี้

MasterGU.edited = เด็กปีย้าย->เด็กปีหนึ่งย้าย

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset