📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 41

บทที่ 41 - ทีมเพลย์ (1)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

โรงยิมหมายเลขห้าของเขตปีหนึ่งถูกออกแบบเพื่อการซิมูเลเตอร์โดยเฉพาะ

มีไว้สำหรับจำลองมิติเสมือนจริงของต่างโลกเพื่อฝึกการต่อสู้

ตามผนัง พื้น และอุปกรณ์ต่างๆ จะถูกหุ้มด้วยโลหะของต่างโลก เพิ่มประสิทธิภาพในการจำลองให้สมจริง

“นี่มันโรงยิมประสาอะไร? ดูไม่เหมือนไว้เล่นกีฬาเลยแฮะ”

“ยังกับโรงหนัง VR แน่ะ!”

“ใช่ เหมือนโรงหนัง VR มากกว่าโรงยิมอีก คงเพราะถูกออกแบบมาให้จำลองประสาทสัมผัสทั้งห้า”

“เจ๋งชะมัด”

นักเรียนปี 1/0 กวาดสายตาด้วยอาการตื่นเต้น ไม่นานกริ่งเริ่มคาบก็ดังขึ้น

ยังคงเป็นเพลงรณรงค์เลือกตั้งเหมือนเดิม

ทันทีที่กริ่งจบลง ฮัมกึนยองเดินเข้ามาในชุดพละที่ปักตราโรงเรียนไว้กลางหลัง

“คาบเรียนเริ่มแล้ว ครูจะส่งโครงสร้างของดันเจี้ยนเกรด R+ ที่พวกเธอต้องฝึกเข้าไปในอุปกรณ์… มีเวลาให้เตรียมตัวครึ่งชั่วโมง”

“หา? มาถึงก็เอาเลยหรือ? แถมยังแค่พวกเรา? แล้วครูล่ะ?”

“ถูกต้อง และอนุญาตให้ใช้แค่อุปกรณ์เกรด R ที่โรงเรียนเตรียมให้เท่านั้น ไอเท็มสนับสนุนก็จัดหาให้ตามมาตรฐานของดันเจี้ยนเกรด R… ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนถามได้”

ฮัมกึนยองที่ตอบคำถามของคิมยูรี ตั้งเวลานับถอยหลังสามสิบนาทีบนโฮโลแกรม

เด็กๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์เริ่มออกอาการตื่นตระหนก

‘นี่คือทีมเพลย์ครั้งแรก… หรือว่าครูอยากจะมอบบทเรียนพิเศษ เหมือนในตอนที่ดวลกันคาบแรก?’

ฮัมกึนยองพูดจบได้ไม่นาน รอยแยกต่างโลกโผล่ขึ้นจากความว่างเปล่า

ตามปกติแล้ว รอยแยกเกรด SR ขึ้นไปจะ ‘มีลางบอกเหตุล่วงหน้า’ ซึ่งดาวเทียมเพลเยอร์ SAT-K สามารถตรวจจับได้

แต่รอยแยกเกรดต่ำจะโผล่ขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

เป็นการดีที่จะฝึกซ้อมเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ไม่คาดฝัน

“นึกถึงตอนสอบเข้าเลยแฮะ พวกเราต้องจับกลุ่มสี่คนสู้กับเอนามีเกรด N… นั่นน่ะไม่ยากเท่าไร… แต่นี่มัน”

“เอนามีจะปรากฏตัวในดันเจี้ยนไม่ต่ำกว่าสิบตัว แถมยังมีโอกาสเจอตัวที่มีเกรด R…”

ซาวอลเซอึมกับอีเรนายืนทำหน้าหมองคล้ำขณะอ่านโครงสร้างดันเจี้ยนที่ถูกส่งเข้ามาในอุปกรณ์

เม็งเฮียวทงที่เคยดวลกับเอนามีเกรด R+ ตัวต่อตัวแบบมือเปล่าเป็นประจำ เอียงคอสงสัยด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

นี่เรียกว่ายากแล้ว? ยากตรงไหนกัน?

“พวกนายอย่าได้กังวล”

วังจีโฮมองฉันตาเป็นประกาย

รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ…

“พวกเรามีซูเปอร์โนว่าไร้นาม โชอึยชินอยู่ทั้งคน”

ได้ยินคำพูดวังจีโฮ ทุกสายตาจับจองมาที่ฉัน

“จริงด้วย! อึยชินเป็นคนนำทีมในอุบัติเหตุครั้งนั้นสินะ!”

“ใช่แล้ว ซูเปอร์โนว่าไร้นาม!”

“มีเรื่องแบบนั้นด้วยหรือ…”

คิมยูรี อีเรนา และซาวอลเซอึมมองฉันตาเป็นประกาย

ฉันไม่สามารถปฏิบัติต่อพวกเขาแบบที่ทำกับวังจีโฮ จึงได้แค่ยืนอ้ำอึ้ง

“ขอให้โชคดีนะ พ่อซูเปอร์โนว่าไร้นาม”

ขอสักหมัดได้ไหม… ไม่สนแล้วว่าจะอายุห้าพันปีหรือเท่าไร

ตอนนี้ผู้นำเผ่าเสือคือวังจีโฮ แถมเมื่อไม่กี่วันก่อนยังเป็นคนนำทีมเผ่าเสือบุกไปช่วยเผ่ากระต่าย

ถ้าเขาต้องการ ก็คงไม่ยากที่จะนำทีมเด็กปีหนึ่งลุยดันเจี้ยนเกรด R+

‘วังจีโฮต้องมีประสบการณ์โชกโชนแน่’

แต่ช่างเถอะ… เราเปลี่ยนใจหมอนี่ไม่ได้อยู่แล้ว

คำนึงจากบรรยากาศ ฉันจำใจต้องเป็นคนนำทีมอย่างไม่มีทางเลือก

“ทุกคนอธิบายสกิลของตัวเองมา… แล้วบอกด้วยว่าจะใช้แสงประทานหรือไม่”

ถ้าไม่นับฉัน ตอนนี้ในห้องศูนย์มีนักเรียนทั้งสิ้นหกคน

วังจีโฮกับฮันอีเป็นตัวละครที่ควบคุมไม่ได้ในเกม (NPC)

คิมยูรี อีเรนา เม็งเฮียวทง และซาวอลเซอึมเป็นตัวละครที่ควบคุมได้

นอกจากวังจีโฮ ฉันเข้าใจสกิลและแสงประทานของคนที่เหลือเกือบหมดแล้ว แต่ต้องแสร้งไม่รู้เพราะไม่มีทางที่โชอึยชินในโลกนี้จะรู้

‘เพลเยอร์บางคนไม่อยากเปิดเผยแสงประทานของตัวเอง และบางคนก็ไม่กล้าใช้มันไปตลอดชีวิต’

โดยเฉพาะสกิล ‘ส่งสาร’ ของซาวอลเซอึมที่ถือว่าหายากระดับสุดยอด

เพราะมันเกี่ยวข้องกับความลับทางชาติกำเนิดของเขาโดยตรง

ผลลัพธ์ก็คือ ทุกคนแจ้งข้อมูลมาดังนี้:

วังจีโฮ: แสงประทาน X, สกิล ‘วิชาไม้พลอง’ , ‘มวยพยัคฆ์’

เม็งเฮียวทง: แสงประทาน O, สกิล ‘ต่อสู้’

ซาวอลเซอึม: แสงประทาน X, สกิล ‘บิน’ , ‘ศาสตร์แห่งลม’

คิมยูรี: แสงประทาน X, สกิล ‘ฟันดาบ’ , ‘ตรวจจับอันตราย’ , ‘สปรินเตอร์’

ฮันอี: แสงประทาน X, สกิล ‘มวยพยัคฆ์’ , ‘ตรวจจับสัญญาณ’ , ‘กระโจน’

อีเรนา: แสงประทาน O, สกิล ‘เฆี่ยน’ , ‘ตรวจจับเอนามี’ , ‘ปลดกับดัก’

โชอึยชิน: แสงประทาน X, สกิล ‘สรรพภัณฑ์’ , ‘ตรวจจับเอนามี’

ฉันกุเรื่องสกิลตรวจจับเอนามีขึ้นมาเอง เพื่อกลบเกลื่อนเสียงแจ้งเตือนของสกิล ‘เมนูพิเศษ’

เม็งเฮียวทงแสดงความฉงนโดยไม่ปิดบัง

“ทำไมถึงไม่ใช้แสงประทานกัน?”

“ร่างกายฉันจะเจ็บปวดมากเวลาใช้แสงประทาน”

“แสงประทานของฉันไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้ แถมเงื่อนไขการใช้ก็ยุ่งยาก”

เป็นคำตอบของฮันอีและซาวอลเซอึม

เป็นเหตุผลที่ไม่เคยเห็นฮันอีใช้แสงประทานในเกม?

ส่วนของซาวอลเซอึมก็ตามที่เจ้าตัวพูด ไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้และเงื่อนไขซับซ้อน

“ฮะฮะ… ส่วนฉันยังไม่ชินกับแสงประทานตัวเองน่ะ”

คิมยูรีที่หวาดกลัวแสงประทานของตน ตอบพลางเบือนหน้าหนี

วังจีโฮแค่ยิ้มโดยไม่พูด

การที่เผ่าเสืออย่างวังจีโฮไม่ยอมใช้แสงประทานนับว่าเป็นเรื่องดีแล้ว ไม่อย่างนั้นสถานการณ์คงวุ่นวาย

“โปรเพลเยอร์หลายคนก็ไม่ได้ใช้แสงประทานนะ อย่างคนของทีมสิงโตแดงกับกลิ่นไฮเดรนเยีย หรือต่างประเทศก็ทีม ‘สัจจะสามอัศวิน’”

“จริงหรือ?”

แม้จะรู้สึกทึ่ง แต่เม็งเฮียวทงก็คล้อยตามคำพูดฉัน

“พวกเราจะลุยกันแบบไม่ใช้แสงประทานไหมล่ะ?”

“เหตุผล?”

“แสงประทานส่วนใหญ่จะจำกัดการใช้งานต่อวัน ถ้าไม่สำคัญจริงๆ ก็เก็บไว้ดีกว่า”

สำหรับฉัน เส้นทางเพลเยอร์จะสิ้นเปลืองพลังงานตามการ์ดที่เลือกใช้

คิมยูรีกับอีเรนาช่วยอธิบายเสริมกับเม็งเฮียวทงที่ยังไม่เข้าใจ

“เท่าที่ได้ยินมา ถ้ารอยแยกต่างโลกเพิ่งเปิดออก แสงประทานก็ไม่จำเป็นขนาดนั้น”

“ใช่แล้ว นี่เป็นแค่ดันเจี้ยนเกรด R+ ถ้าสามารถเคลียร์ได้ในหนึ่งชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องใช้แสงประทานก็ได้ เพราะระหว่างนั้นจะยังไม่มีเอนามีเกิดด้านนอก”

เมื่อรอยแยกต่างโลกเปิดออก ดันเจี้ยน หอคอย หรือวงกต จะปรากฏขึ้น

เอนามีจะถูกสร้างขึ้นรอบๆ รอยแยกด้วยเช่นกัน หรืออีกนัยหนึ่ง—โลกความจริง

ดังนั้นตามปกติแล้ว ทีมรับมือรอยแยกจะแบ่งออกเป็นสองหน่วย หน่วยบุกกับหน่วยป้องกัน

หน่วยบุกจะมีหน้าที่เข้าไปเคลียร์รอยแยก ส่วนหน่วยป้องกันจะมีหน้าที่รับมือเอนามีด้านนอก

‘ทีมรับมือรอยแยกจึงควรมีห้าคน สามคนเป็นหน่วยบุก และอีกสองคนหน่วยป้องกัน’

แน่นอน ขุมกำลังที่แข็งแกร่งกว่าควรถูกจัดให้อยู่หน่วยบุก

เพราะตราบใดที่เคลียร์รอยแยกไม่ได้ รอยแยกจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และสร้างเอนามีต่อชั่วโมงมากขึ้น

‘แต่ดันเจี้ยนจำลองในคราวนี้มีเกรดแค่ R+ ไม่จำเป็นต้องแบ่งหน่วยป้องกัน ทั้งห้าคนสามารถทุ่มเทให้กับการบุกได้เลย’

เพลเยอร์ห้องศูนย์จำนวนเจ็ดคน

ดันเจี้ยนจำลองระดับพื้นฐาน

เอนามีเกรด R

ถ้าคำนึงจากเกรด ดันเจี้ยนในคราวนี้ไม่ยากเท่าไร

แถมยังมีอุปกรณ์แจกเกรด R ที่โรงเรียนจัดหามาให้

สำหรับฉัน เม็งเฮียวทง และวังจีโฮถือเป็นของกล้วยๆ หรือแม้แต่คิมยูรีและฮันอี ก็คงสามารถโซโล่ดันเจี้ยนนี้ได้ทันภายในหนึ่งชั่วโมง

‘ครูฮัมกึนยองตั้งค่าดันเจี้ยนง่ายเกินไปเพราะยังไม่รู้ศักยภาพที่แท้จริงของพวกเรา? ไม่มีทาง’

คงมีเจตนาแอบแฝง และพอจะเดาได้ไม่ยาก

ฉันสรุปแผนการได้ในทันที

ถึงจะเป็นกลยุทธ์ที่มีฉันเป็นศูนย์กลาง แต่นี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการเคลียร์ดันเจี้ยนด้วยเงื่อนไขปัจจุบัน

“ฉันจะอธิบายแผนให้ฟัง”

ตามปกติแล้ว เพลเยอร์หลักในแผนจะเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมของต่างโลกที่เข้าไปบุก

สำหรับดันเจี้ยนในคราวนี้ ฉันเหมาะสมที่สุด

ถึงจะเขินตัวเองนิดหน่อยขณะอธิบายแผนการ แต่เด็กห้องศูนย์ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับและทำตาม

เจ้าพวกนี้ซื่อตรงจนเกือบจะซื่อบื้อ

ยกเว้นวังจีโฮไว้หนึ่งคน

—สาม สอง หนึ่ง

ศูนย์

การนับถอยหลังบนโฮโลแกรมจบลง

ฮัมกึนยองเดินมายืนต่อหน้าพวกเรา

“คงพร้อมกันแล้วสินะ”

“ครับ/ค่ะ!”

นักเรียนห้องศูนย์ตอบเป็นเสียงเดียว

ฮัมกึนยองเดินเครื่องซิมูเลเตอร์

วู—

โลหะต่างโลกสีดำเปลี่ยนเป็นหลากสีสันตามการขยับนิ้วของฮัมกึนยอง

“สุดยอด!”

“เจ๋งชะมัด…”

ขณะซาวอลเซอึมกับคิมยูรีอุทานด้วยความชื่นชม หน้าจอปรากฏขึ้นด้านหน้าพวกเราทั้งเจ็ด

[เริ่มการจำลองบุกต่างโลก พร้อมหรือยัง (Y/N) ]

หลังจากกดปุ่ม Y ทุกคนทยอยถูกปกคลุมด้วยละอองแสง

เมื่อกดปุ่ม Y ฉันได้ยินเสียงฮัมกึนยองดังท่ามกลางทิวทัศน์อันพร่ามัว

“ขอให้โชคดี”

ทันทีที่แสงหายไป

พวกเรากำลังอยู่ในดันเจี้ยน

‘ยังกับของจริง…!’

ตามคำอธิบายของโครงสร้างดันเจี้ยน เบื้องหน้าคือถ้ำหินแกรนิต

ถึงจะไม่มีแสงสว่างเทียม แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแสงจากภายนอก เพราะสินแร่ที่มีอยู่มากมายในถ้ำช่วยมอบความสว่างได้มากพอแล้วโนlวลกูดอทคoม

กะเกณฑ์จากตำแหน่งปัจจุบัน ความสูงของถ้ำคือสิบเมตร ส่วนความกว้างในบริเวณนี้คือห้าเมตร

ถือเป็นดันเจี้ยนที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว

“สุดยอด… สมจริงชะมัด!”

คิมยูรีกล่าวชื่นชม พลางเปลี่ยนการ์ดไลท์เซเบอร์ (Lightsaber) เกรด R ‘ไลท์เซเบอร์ของนักดาบฝึกหัด’ ให้กลายเป็นของจริง

ทักษะประเภทโจมตีของคิมยูรีคือ ‘ฟันดาบ’

สำหรับโลกนี้ การฟันดาบไลท์เซเบอร์กลายเป็นกีฬาสากลหลังจากถูกผลักดันโดยสมาคมฟันดาบประเทศฝรั่งเศส—ต้นตำรับกีฬาฟันดาบ

‘ไม่ว่าเชื่อว่าดาบในสตาร์วอร์จะถูกนำมาใช้จริงจัง…’

ไลท์เซเบอร์ที่นิยมใช้ในการแข่งฟันดาบ จะผลิตจากโพลีคาร์บอเนตและอะลูมิเนียม

แต่ไลท์เซเบอร์ที่คิมยูรีกำลังถือ ผลิตจากโลหะของต่างโลก

เมื่อผนวกเข้ากับพลังพิเศษ ไลท์เซเบอร์ชนิดนี้จะมีพลังทำลายล้างสูงกว่าที่ใช้ในการแข่งมาก

“ความสูงระดับนี้… ฉันสามารถใช้สกิลบิน”

ซาวอลเซอึมกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนจะลอยขึ้น

แม้จะไม่มีสกิลตรวจจับ แต่ตัวเขาที่บินขึ้นไปด้านบน สามารถสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพด้วยศาสตร์แห่งลม

‘ว่าแต่ เอฟเฟคนั่นมันอะไร’

รอบตัวซาวอลเซอึมที่กำลังบิน มีขนนกโปร่งแสงลอยวนเวียน

พรคุ้มครองจากเผ่าระกา?

มันไม่เคยมีในเกม ฉันจึงไม่รู้ประโยชน์

“เครื่องป้องกันพวกนี้เจ๋งชะมัด! ยังกับร่างกายเบาขึ้นเลย”

“เพิ่งเคยสวมเครื่องป้องกัน? นายสู้มือเปล่ามาตลอดเลยหรือ”

“อื้อ…”

เม็งเฮียวทง วังจีโฮ และฮันอีได้สวมเครื่องป้องกันที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีและป้องกัน ขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมกล้ามเนื้อขณะเคลื่อนไหว

เม็งเฮียวทงชกลมอย่างตื่นเต้นหลังจากสวมสนับมือ

วังจีโฮยืนมองตาเป็นประกาย ส่วนฮันอีเผยสีหน้าซับซ้อน

เธอคงกำลังไม่สบอารมณ์ที่ตนเคยดวลมวยพยัคฆ์แพ้วังจีโฮ ‘มือเปล่า’ ในคาบแรก

“ห้องเรามีนักสู้เยอะจังนะ”

อีเรนาพูดขณะสะบัดแส้

แม้วังจีโฮจะมีวิชาไม้พลอง แต่เขารู้สึกสนุกกับการใช้มวยพยัคฆ์มากกว่า

ทางฉันเองก็เปลี่ยนการ์ดไม้เท้าให้เป็นของจริง

นักเรียนปี 1/0 พร้อมรบแล้ว

‘กลายเป็นทีมที่สมดุลอย่างไม่น่าเชื่อ’

แนวหน้า

วังจีโฮ คิมยูรี เม็งเฮียวทง ฮันอี

แนวหลัง

ฉัน ซาวอลเซอึม อีเรนา

‘ฉันกับวังจีโฮเป็นสายสมดุล สามารถสลับตำแหน่งกันได้’

แต่ที่ให้วังจีโฮเป็นแนวหน้าเพราะเขาไม่คิดจะเปิดเผยสกิลอื่นๆ

ทั้งแนวหน้าและแนวหลังต่างมีสกิลตรวจจับฝั่งละสองคน

ไม่มีทางถูกเล่นงานทีเผลอแน่

〈คำเตือน เอนามีกำลังเข้าใกล้〉

ฉันได้ยินเสียงจากระบบ

‘แม้แต่ในซิมูเลเตอร์ก็แจ้งเตือนด้วยแฮะ’

สกิลเมนูพิเศษของฉัน ดูแล้วคงตรวจจับได้ดีกว่าของเด็กๆ พวกนี้

เพราะสองสามวินาทีหลังจากเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น คิมยูรีและฮันอีเพิ่งเริ่มสัมผัสถึงเอนามีและเตรียมตั้งท่าสู้

‘ดูเหมือนว่าสกิลตรวจจับทั้งของฮันอีและคิมยูรี จะทำได้แค่รับรู้ว่ามีบางสิ่งเข้ามาใกล้’

ของคิมยูรีเป็นสกิล ‘ตรวจจับอันตราย’ ซึ่งค่อนข้างนามธรรม

ส่วนสกิล ‘ตรวจจับสัญญาณ’ ของฮันอีจะรับรู้ได้แค่ว่า มีวัตถุทางกายภาพกำลังเข้ามาใกล้

เนื่องจากไม่มีใครในพวกเธอสามารถระบุรายละเอียดเอนามี อีเรนาที่มีสกิล ‘ตรวจจับเอนามี’ โดยตรงจึงตะโกนขึ้น

“เอนามีเสมือนประเภทสัตว์ร้ายกำลังพุ่งมาจากทางเดินฝั่งซ้ายและขวาพร้อมกัน! ทั้งสองตัวเป็นเกรด R ที่ใช้สกิลธาตุน้ำ!”

“ทางซ้ายจะมาถึงในอีกสิบวินาที ทางขวาจะมาถึงในอีกสิบห้าวินาที!”

ได้ยินรายงานของซาวอลเซอึมที่ลอยอยู่บนฟ้า วังจีโฮยกมือขึ้น

“พวกเราจะจัดการทางซ้ายเอง”

“ตกลง”

ถัดจากวังจีโฮ ฮันอีพุ่งเข้าไปต่อยเอนามี

ทั้งสองปรี่เข้าประชิดศัตรูอย่างลื่นไหลราวกับสายน้ำ พลางปัดป้องการโจมตีแล้วชกสวนด้วยสนับมือ

โฮกกก!

เมื่อวังจีโฮและฮันอีทำคอมโบกัน เอนามีถึงกับส่งเสียงกรีดร้อง

หากฮันอีเปิดก่อน วังจีโฮจะขยับตัวเข้าไปบล็อกการเคลื่อนไหวถัดไปของเอนามี

มวยพยัคฆ์ของฮันอีและวังจีโฮเข้าขากันมากกว่าที่คิด

“…ฉันเข้าก่อนนะ หัวหน้าห้อง!”

เปรี้ยง!

ทางเดินฝั่งซ้าย เม็งเฮียวทงที่มีค่าความว่องไวสูงกว่าพุ่งเข้าไปอัปเปอร์คัตเอนามี

ฟังจากสำเนียงการพูด เขายังเคอะเขินที่จะคุยกับคิมยูรีอยู่สินะ

‘ขนาดว่าเสียอาการ ยังตอบสนองต่อเอนามีได้ยอดเยี่ยมทีเดียว’

เม็งเฮียวทงมีสกิลโจมตีสุดโกงที่ชื่อว่า ‘ต่อสู้’

เขาสามารถใช้สกิลมือเปล่าได้ทุกชนิดบนโลก ขอแค่อยู่ในขอบเขตของคำว่า ‘ต่อสู้’

ไม่เพียงเท่านั้น ค่าสถานะส่วนใหญ่ยังเน้นหนักไปที่พละกำลังและความว่องไว

เม็งเฮียวทงถือเป็นตัวละครในฝันของเหล่านักสู้ มากล้นไปด้วยพลังทำลายจากมือเปล่า แต่ก็แทบไม่มีพลังเวท พลังป้องกัน และค่าต้านทานเลย

‘ถ้าจะให้เปรียบก็คงเหมือนสกิลสรรพภัณฑ์เวอร์ชันนักสู้มือเปล่า’

เม็งเฮียวทงรัวหมัดอย่างต่อเนื่องด้วยสกิลมวยพยัคฆ์ ราวกับผลงานของฮันอีและวังจีโฮช่วยกระตุ้นไฟในการต่อสู้

แม้ความชำนาญจะดูด้อยกว่าวังจีโฮและฮันอี แต่ทุกครั้งที่ประเคนหมัด เอนามีแทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่

ถึงจะมีข้อเสียเปรียบด้านรูปร่าง แถมยังต้องคอยระวังตัวไม่ให้บาดเจ็บ เพราะยังติดผลข้างเคียงการใช้ไอเท็มฟื้นฟูเกินขนาด แต่เม็งเฮียวทงก็ยังแสดงฝีมือได้คู่ควรกับการเป็น ‘ตัวละครประชิดสุดโกง’

“ฉันกำลังไปช่วย เฮียวทง!”

คิมยูรีตามไปช่วยเม็งเฮียวทงในพริบตาด้วยสกิล ‘สปรินเตอร์’ ซึ่งช่วยให้เธอเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงในช่วงเวลาสั้นๆ

จากนั้น หญิงสาวฟันไลท์เซเบอร์ใส่กลางหลังเอนามี

โฮกกกก!

เนื่องจากถูกเม็งเฮียวทงอัดจนน่วมไปแล้ว เอนามีแทบไม่มีสิทธิ์ป้องกันไลท์เซเบอร์ของคิมยูรี

〈คำเตือน เอนามีกำลังเข้าใกล้〉

“มีตัวมาจากด้านหลัง! ฉันจัดการเอง!”

หมับ!

อีเรนาเหวี่ยงแส้ออกไปรัดเอนามี

เป็นการโจมตีง่ายๆ

น่าเสียดายที่พละกำลังและเกรดของไอเท็มไม่สูงพอจะสร้างความเสียหายให้เอนามีได้มากนัก อย่างดีก็ตรึงความเคลื่อนไหวเอาไว้

“อึก…”

ขณะอีเรนาเริ่มพ่ายแพ้ด้านพละกำลังจนเอนามีขยับใกล้เข้ามา

“เรนา ฉันเอง!”

ซาวอลเซอึมบนฟ้าใช้สกิลศาสตร์แห่งลม

ฟ้าว—!

ใบมีดลมโหมกระหน่ำใส่เอนามีตามการขยับมือของซาวอลเซอึม

เมื่อได้รับการสนับสนุนจากศาสตร์แห่งลม เอนามีเริ่มขัดขืนแส้ของอีเรนาไม่ไหว

หลังจากนั้น

‘ร่ายเสร็จแล้ว’

ด้วยสกิลสรรพภัณฑ์เลเวลสามและไม้เท้าเกรด R ฉันเลือกร่ายมนตราที่จบได้ในหนึ่งนาที

เมื่อยกอาวุธเวทมนตร์ธาตุสายฟ้า ‘ไม้เท้าอสนีของจอมเวทฝึกหัด’ ขึ้น ซาวอลเซอึมส่งเสียงตะโกน

“ทุกคนถอย! อึยชินร่ายมนตร์เสร็จแล้ว!”

ได้ยินคำเตือนจากซาวอลเซอึม ทุกคนรีบปลีกตัวจากเอนามี

และเมื่อไม่ถูกก่อกวน เอนามีเตรียมใช้สกิลตอบโต้

〈คำเตือน เอนามี ‘คาร์เวตัส’ เตรียมใช้สกิล ‘พ่นน้ำจืด’ 〉

เสียงเตือนแบบเดียวกันดังสามครั้งซ้อน

เอนามีทั้งสามตัวพร้อมใช้สกิลแล้ว แต่ก็ไม่มีทางเร็วไปกว่าเวทมนตร์ที่ร่ายเสร็จสิ้น

“ฟูลกูเรียส เวรู!” (Fulgureus Veru)

สิ้นเสียงคาถา พายุลูกใหญ่ก่อตัวขึ้นเหนือไม้เท้าที่ชูขึ้นฟ้า

ฉันแกว่งไม้เท้าเพื่อยิงหอกอสนีใส่คาร์เวตัสทั้งสาม

เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!

หอกอสนีที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวคาร์เวตัส แผดเผาพวกมันจนไหม้เกรียมในพริบตา

ฉันลดไม้เท้าลงเมื่อเห็นว่าเอนามีกลายเป็นละอองแสงเพราะได้รับความเสียหายเกินกว่าค่าที่ตั้งไว้

“นี่น่ะหรือเวทมนตร์… กลไกการใช้แตกต่างจากศาสตร์แห่งลมโดยสิ้นเชิง!”

“แข็งแกร่ง… ฉันไม่เคยเห็นเวทมนตร์มาก่อน”

ซาวอลเซอึมกับอีเรนาที่เพิ่งเคยเห็นเวทมนตร์ ต่างอุทานอย่างตื่นเต้น

สายตาลุกวาวของพวกเขาสร้างความอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย

เห็นฉันปิดปากสนิท วังจีโฮฝืนกลั้นขำจนมุมปากสั่น

เห็นทีต้องรีบเปลี่ยนประเด็น

“เอาล่ะ ลุยกันต่อ!”

ทุกคนพยักหน้ารับคำพูดฉัน

หลังจากนั้น พวกเราได้เจอเอนามีอีกสามครั้ง แต่ก็ถูกแนวหน้าจัดการในพริบตาเพราะพวกมันมีเกรดต่ำกว่า N

เจอกับดักสองครั้ง แต่สกิลตรวจจับกับดักของคิมยูรี และสกิลปลดกับดักของอีเรนา ช่วยให้ทีมของเราเดินหน้าอย่างราบรื่น

จนกระทั่งมาถึงด้านในสุดของดันเจี้ยน

ห้องบอส

MasterGU.edited = ใช้สกิล->ใช้สกิล

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset