📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 37

บทที่ 37 - อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าเริ่มกระจ่าง (1)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

หนึ่งวันถัดจากเอพริลฟูล

ตลอดทางไปโรงเรียนเต็มไปด้วยบรรยากาศพูดคุยเกี่ยวกับวันเอพริลฟูล

“จับตัวการที่เปลี่ยนหอนาฬิกาได้หรือยัง?”

“ถ้าจำไม่ผิด เห็นว่าเด็กปีหนึ่งชมรมหนังสือพิมพ์ที่ชื่อมุนแซรอนคอยซุ่มอยู่หน้าทางเข้าตลอดทั้งคืน แต่สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว”

“เห็นคลิปวิดีโอบนกระดานข่าวแล้วล่ะ หอนาฬิกากลับเป็นเหมือนเดิมในพริบตาเลย”

“ฉันยังไม่เห็น… เรื่องจริงหรือเนี่ย? น่ากลัวชะมัด”

หอนาฬิกาสีขาวหน้าทางเข้าหลักถูกเปลี่ยนเป็นหอนาฬิกาไฟนีออน

กล่าวกันว่าหอนาฬิกากลับสู่สภาพเดิมภายในไม่กี่วินาที และวิดีโอถ่ายไม่ติดผู้ลงมือ

‘…ใช้พลังพิเศษแบบไหนเปลี่ยนหอนาฬิกากันนะ’

นอกจากนั้นยังมีอีกหลายเหตุการณ์กลายเป็นประเด็นร้อน

เงาของไดโนเสาร์ปรากฏขึ้นจากอีกฟากหนึ่งของทะเลสาบสีคราม

เอนามีเผ่าผีบุกหอพัก

ต้นไม้ยักษ์สองขาเดินออกจากเรือนกระจกหมายเลขหกในเขตวิจัย โดยมุ่งหน้าไปทางภูเขาปีกสวรรค์

เขาวงกตปรากฏขึ้นบนชั้นสิบสามของอาคารทุกหลังในเขตเรียนปีสาม

สวนประหลาดลอยอยู่เหนือเขตส่วนกลางประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้วหายไป

และอีกมากมายที่กลายเป็นประเด็นถกเถียง

“แต่ก็ไม่มีใครบ้าบิ่นเท่าปีสองห้องศูนย์”

“ชมรมกระจายเสียงก็สุดยอดเหมือนกัน แต่ยังสู้ปีสองห้องศูนย์ไม่ได้”

เหตุการณ์ใหญ่อันดับหนึ่งของเมื่อวาน คือการเผชิญหน้ากันระหว่างชมรมกระจายเสียงกับนักเรียนปีสองห้องศูนย์

‘เคยเห็นแต่คำบรรยายในเกม อยากเห็นของจริงเหมือนกันแฮะ’

ในวันเอพริลฟูลของปีก่อน รุ่นพี่ห้องศูนย์ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ปีหนึ่ง ได้แอบเข้าไปในห้องชมรมกระจายเสียงแล้วเปลี่ยนกริ่งคาบเรียนตอนเช้าให้กลายเป็นเสียงของ ‘วอเตอร์โฟน’ (Waterphone) และนั่นกระตุ้นให้เกิดการเผชิญหน้าในปีนี้

‘เครื่องดนตรีทำสารทุกข์สุกดิบประกอบหนังสยองขวัญสินะ… ราคาชิ้นละสามล้านวอน ลงทุนซื้อมาใช้แกล้งทั้งโรงเรียนแค่หนึ่งนาที?’

เมื่อกริ่งคาบเช้ากลายเป็นเสียงของวอเตอร์โฟนตลอดหนึ่งนาที ชมรมกระจายเสียงถูกบรรดานักเรียนสาปแช่งให้อายุยืนยาวอย่างล้นหลาม

เพื่อแทนคำขอโทษ ปีหนึ่งห้องศูนย์ของปีที่แล้วได้ส่ง ‘ดาควอส*’ รสแบล็กเบอร์รีเกาหลีรุ่นลิมิเต็ดของโรงแรมลอยฟ้า ‘อีคารัส’ จำนวนยี่สิบชิ้นให้ชมรมกระจายเสียง

(*ดาควอส – คุกกี้ฝรั่งเศส ทำจากเมอร์แรงก์ ไข่ขาว และแป้งอัลมอนด์)

อย่างไรก็ดี ครึ่งหนึ่งของดาควอสแอบสอดไส้สมุนไพรจีนซึ่งดีต่อร่างกายแต่รสชาติทำลายลิ้น

ชมรมกระจายเสียงเล่าว่าพวกตนต้องเล่นเกมเสี่ยงโชคเพื่อกินคุกกี้รสชาติยาจีน… ไม่สิ ดาควอสเคลือบยาพิษ

เมื่อถูกเล่นงานถึงสองรอบ ชมรมกระจายเสียงตัดสินใจแก้แค้น

‘และผลลัพธ์ก็คือ…’

ในปีนี้ ห้องเรียนของปีสองห้องศูนย์ถูกถล่มอย่างหนัก

ทั้งเสียงกระจกแตก เสียงเด็กร้อง เสียงความถี่ต่ำ เสียงไซต์ก่อสร้าง เพลงวงกตของฮวังบยองกี* เพลง ‘Passenger of Shit’ และเพลง ‘This is Terror’ เป็นต้น

(*วงกตของฮวังบยองกี, Passenger of Shit และ This is Terror เป็นเพลงที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อความหลอนหู)

ลิสต์ของเสียงอันโหดร้ายซึ่งไม่สามารถกดข้าม ดังขึ้นตลอดทั้งวันเอพริลฟูลที่ผ่านมา

ปีสองห้องศูนย์ตอบโต้ด้วยการยึดห้องชมรมกระจายเสียงช่วงหลังเลิกเรียน และกางบาเรียป้องกันขึ้นเพื่อสร้างสนามรบ

ได้ยินว่ามีนักข่าวบ้าสงครามรายหนึ่งคอยไลฟ์ถ่ายทอดขึ้นเว็บไซต์ของโรงเรียน

‘ครูจูเก่อแจกอลคงปวดหัวน่าดู’

ในประวัติศาสตร์เด็กห้องศูนย์ ปีสองห้องศูนย์ของปีนี้ถูกกล่าวขานว่าแข็งแกร่งและเลวร้ายที่สุด

คำนึงจากเรื่องที่ต้องรอให้ถึงเวลาเลิกเรียนก่อนจึงจะไปเอาคืนชมรมกระจายเสียง แปลว่าก่อนหน้านั้นทั้งวันคงยุ่งอยู่กับการกลั่นแกล้งชาวบ้าน

เดาได้ไม่ยากเลยว่าจูเก่อแจกอลงานชุกแค่ไหน

‘ส่วนห้องเราก็เงียบเกิ๊น’

ปีหนึ่งห้องศูนย์ปีนี้ถูกยกให้เป็นรุ่นที่สงบเสงี่ยมที่สุด

แค่มาเรียนยังไม่มากันเลย

อย่างไรก็ดี ชั้นเรียนปีหนึ่งห้องศูนย์วันนี้มีอัตราเข้าร่วมสูงสุดนับตั้งแต่เปิดภาคเรียน

“ตอนนี้มีเจ็ดคนแล้ว… เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าภายในเวลาไม่กี่วัน!”

คิมยูรีพูดขณะมองไปรอบห้องศูนย์ซึ่งมีสมาชิกเจ็ดคนด้วยสีหน้าตื้นตันใจ

ชายสี่ – ฉัน วังจีโฮ เม็งเฮียวทง ซาวอลเซอึม

หญิงสาม – คิมยูรี ฮันอี อีเรนา

รวมเป็นเจ็ด

‘เจ็ดจากสิบหก… แล้วอีกเก้าคนทำอะไรอยู่นะ’

กินอิ่มนอนหลับไหม?

ฉันเกิดอยากรู้สารทุกข์สุกดิบของเพื่อนที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน

แม้จะเป็นรองหัวหน้าห้อง แต่ฉันไม่มีสิทธิ์อ่านรายชื่อทั้งหมด จึงไม่รู้ว่าอีกเก้าคนเป็นใคร

เกมในก็แทบไม่พูดถึงปีหนึ่งห้องศูนย์เลย

“ฉันซาวอลเซอึม ยินดีที่ได้รู้จักนะ… เมื่อวานเราเคยเจอกันแล้วใช่ไหม? เอ่อ ฉันขอโทษที่ต้องฝากให้นายจัดการแทนนะ… อ…อึยชิน”

ซาวอลเซอึมที่เพิ่งทักทายวังจีโฮผู้มาถึงเร็วกว่าฉันจบ หันมาแนะนำตัวกับฉัน

ก่อนจะจบประโยค มีการแอบชำเลืองป้ายชื่อเล็กน้อย

ดูเหมือนจะยังเกร็งกับการพูดแบบเป็นกันเอง

ถ้าได้อยู่ห้องเดียวกันทั้งปีเดี๋ยวก็คงชิน

“ตกลง ฝากตัวด้วยนะ ฉันโชอึยชิน เป็นรองหัวหน้าห้อง… ได้ยินว่าจะอยู่หอในด้วยใช่ไหม ฉันกับเม็งเฮียวทงก็อยู่หอในเหมือนกัน ถ้าอยากรู้เรื่องไหนก็ปรึกษาได้”

“อ…อื้อ!”

เขาตอบด้วยรอยยิ้มสดใส

คิมยูรีและอีเรนาพูดขณะมองมาทางซาวอลเซอึม

“ซาวอล… นามสกุลแปลกดีนะ ฉันไม่เคยได้ยินนามสกุลนี้มาก่อน”

“มีนามสกุลใหม่เกิดขึ้นมากมายหลังจากโลกขัดแข้งกับต่างโลก ดูจากสถิติที่ศาลเปิดเผย บางนามสกุลก็แปลกมาก”

“จริงสิ ฮันอีก็แปลกเหมือนกัน นามสกุลฮัน ชื่ออี ถ้าอ่านเร็วๆ จะกลายเป็น ‘ฮันนี่’ น่ารักชะมัด~”

“ข…ขอบคุณมาก คิมยูรี”

คิมยูรี อีเรนา ฮันอี ทั้งสามคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติราวกับสนิทกันมากขึ้น

รู้ตัวอีกที บทสนทนาเปลี่ยนไปเป็นการชื่นชมชื่อของกันและกัน

“นายอยู่ชั้นไหน ฉันกับรองหัวหน้าห้องอยู่ชั้นสิบเจ็ด”

“ชั้นเดียวกัน… น่าเสียดายที่เมื่อวานคลาดกัน”

“ถ้ามีเวลาก็นัดกินข้าวที่หอในกันเถอะ!”

“ได้เลยเฮียวทง! เมื่อวานฉันเพิ่งได้กินข้าวที่หอในเป็นครั้งแรก ร้านอาหารก็ดี กับข้าวก็…”

ดูเหมือนเม็งเฮียวทงจะชวนซาวอลเซอึมคุยเพราะไม่อยากให้ประหม่ากับโรงเรียน

เพราะเม็งเฮียวทงซึ่งเคยมีประสบการณ์สมัยม.ต้น เข้าใจดีว่าการเข้ากับเพื่อนไม่ได้มันน่าอึดอัดแค่ไหน

ซาวอลเซอึมเจื้อยแจ้วเป็นนกกระจิบ ส่วนเม็งเฮียวทงก็ตั้งใจฟังพลางพยักหน้ารับ

‘ดูเป็นห้องเรียนขึ้นมาบ้างแล้ว’

ทว่า วันนี้มีบางคนไม่เข้าพวก

“วังจีโฮ”

“…มาแล้วหรือ โชอึยชิน”

วังจีโฮยังคงมีสีหน้าแววตาที่ยากจะอ่านความคิดเช่นเคย แต่วันนี้ดูห่อเหี่ยวผิดปกติ

คงกังวลกังวลใจกับเรื่องลูกหลานเสือเงิน

‘อยากรู้หลายเรื่องเลยแฮะ’

ผลการสอบปากคำเผ่าหมีเป็นยังไงบ้าง?

เกิดอะไรขึ้นกับเผ่ากระต่ายที่ช่วยปกป้องลูกหลานเสือเงิน?

ตอนนี้ลูกหลานเสือเงินทั้งสามคนกำลังทำอะไร?

‘แต่ได้เห็นวังจีโฮห่อเหี่ยวแบบนี้ เราไม่อยากรบกวนเท่าไร’

ฉันนั่งลงข้างวังจีโฮแล้วพูด

“นี่! ปีหน้ามาทำกันเถอะ”

“หือ?”

ดูท่าวังจีโฮจะลืมไปแล้ว

“การกลั่นแกล้งในวันเอพริลฟูลไง! สัญญาแล้วนี่ถ้าช่วยฉัน ฉันก็จะช่วยแกล้งคน”

เมื่อวานวังจีโฮช่วยฉันได้มาก

แต่ด้วยเหตุไม่คาดฝัน แผนแกล้งคนจึงไม่เกิดขึ้น

เขากะพริบตาเหม่อลอยสักพักก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะ

“ฮะฮะฮะ! ได้สิ! ปีหน้ามาทำให้โรงเรียนปั่นป่วนกันเถอะ!”

โรงเรียนเอ็ง แล้วแต่เอ็งเลย

คิดจะทำให้ปั่นป่วนด้วยวิธีไหนกัน?

ฉันเดาไม่ออกว่า ‘ท่านประธาน’ จะทำให้วันเอพริลฟูลปีหน้าออกมาอลังการแค่ไหน

วังจีโฮทำท่าเหมือนกำลังคิดแผนชั่วอยู่ในหัว

จากนั้น ประเด็นการสนทนาเปลี่ยนเป็นกิจกรรมชมรม

“อ่านข้อความจากชมรมหนังสือพิมพ์หรือยัง”

“อันไหน”

“ของเมื่อเช้า ยังไม่ได้อ่านสินะ เห็นว่าพักหลังมีเรื่องหลอนๆ เกิดในโรงเรียนมากขึ้น”

ตำนานสยองขวัญในโรงเรียนแสงเงิน?

“ทั้งสายฟ้าสีแดงที่ผ่าลงมาใกล้กับเขตหอพัก และนักเรียนสองคนที่ถูกผีสิงถูกพบใกล้กับอาคารเรียนเก่า อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่กำลังถูกพูดถึงในคอมมูนิตี้ของโรงเรียน”

วังจีโฮมองฉันด้วยสายตาทำนอง ‘ฝีมือนายใช่ไหม’

อย่างหลังน่ะใช่

แต่อย่างแรกเป็นฝีมือสหายเผ่าเสือของนายต่างหาก

“ประธานชมรมก็เลยให้เด็กปีหนึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับตำนานผีในโรงเรียนแสงเงิน… โชอึยชินผู้ทำงานของตนเสร็จแล้วด้วยการเขียนบทความศึกเดิมพันเบ๊ ฉันอาจจะต้องขอรบกวนนายสักหน่อย”

วังจีโฮคืนชีวิตชีวาด้วยดวงตาเป็นประกาย

ได้ยินแบบนั้น ฉันเข้าใจทันที

‘หลังจากนี้เขาคงงานยุ่งมาก’

กริ่งหมดคาบวันนี้เป็นเพลง ‘I Got Rhythm’ ของจอร์จ·เกิร์ชวิน

มันถูกเรียบเรียงใหม่ให้เร็วกว่าต้นฉบับเล็กน้อยผ่านชมรมแจ๊ซ ชมรมเปียโน และชมรมเครื่องสาย

ท่ามกลางเสียงอันไพเราะของไวบราโฟน* หนึ่งนาทีจบลงอย่างรวดเร็ว

(Vibraphone – เครื่องเคาะคล้ายระนาด)

* * *

วันเสาร์ ณ คฤหาสน์ของประธานวังมยองโฮ

เผ่าเสือสามคน ลูกหลานหนึ่ง และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์หนึ่ง

สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ยังคงจดจำตัวเองไม่ได้ จึงเอาแต่นั่งทำตัวน่ารักในอ้อมแขนเสือขาว ส่วนเสือแดงกับลูกหลานมองไปทางเสือเหลืองด้วยสีหน้าละอายใจ

“เสือแดง ผลการสอบปากคำเผ่าหมีเป็นยังไงบ้าง”

“ข้าขอโทษ เสือเหลือง ลูกหลานของข้าชำนาญด้านนี้ก็จริง แต่ดูเหมือนว่าพวกเผ่าหมีจะอดทนกันเก่ง”

“ท่านเสือเหลือง ข้ามีแผนจะเปลี่ยนวิธี อีกไม่นานต้องได้ผลลัพธ์แน่”

“อาฮะ”

เสือเหลืองไม่ได้คาดหวังตั้งแต่ต้น จึงไม่ผิดหวัง

“กับกระต่ายจันทร์เวรนั่น… ข้าคุยเสร็จแล้ว”

เสือเหลืองพูดพลางกวาดสายตามองเผ่าเสือและลูกหลาน

“เร็วที่สุดคือช่วงสุดสัปดาห์หน้า ช้าที่สุดไม่เกินสัปดาห์ถัดจากสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมพันธมิตรสิบสองจักรราศี ไม่ว่ายังไงก็ต้องเข้าร่วมให้ได้ จงทำตัวให้ว่างในวันหยุดไว้เสมอ เสือแดง เสือขาว คิมชินรก”

เสือเหลืองเสริมอีกหนึ่งคำ

“อย่าลืมบอกโชอึยชินด้วย”

* * *

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ฉันนัดกับอูซังฮุนไว้

เรานัดเจอกันตอนกลางวันเพื่อกินต็อกบกกีหม้อไฟชีส ไข่ และเส้นรามยอนในร้านอาหารใกล้กับโรงเรียน ตบท้ายด้วยข้าวผัดกิมจิจนอิ่มหนำ

อูซังฮุนเสนอให้เล่นบาสฯ เพื่อย่อยอาหาร พวกเราจึงเดินมายังสนามกีฬาของเขตปีหนึ่ง

‘แม้จะเป็นวันเสาร์ แต่คนค่อนข้างน้อย คงเพราะเด็กหอในมักจะเล่นที่โรงยิมของสมาคมปีกธรณีมากกว่า เด็กที่มาใช้สนามกีฬาคงเป็นพวกบ้านใกล้’

ก็ตามชื่อสนามกีฬา ที่นี่คือสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา ซึ่งสามารถจำลองสนามกีฬาประเภทใดก็ได้

ส่วนใหญ่จะใช้เป็นสนามฟุตบอล บาสเกตบอล เบสบอล แบตมินตัน และเทนนิส

และเพื่อให้สมฐานะของเพลเยอร์โรงเรียนแสงเงินอันทรงเกียรติ ทุกคนเล่นท่าระดับสูงได้เหมือนกับนักกีฬาอาชีพโดยไม่เคอะเขิน

ไม่ว่าจะเป็นการกระดกบอลข้ามหัว เลี้ยงไขว้หลัง ดังก์จากเส้นจุดโทษ ลูกบอลและลูกขนไก่ที่พุ่งข้ามเน็ตไปมาราวกับกระสุนปืน

เป็นเครื่องยืนยันว่าสมรรถภาพร่างกายของเพลเยอร์สูงกว่าคนทั่วไปมากแค่ไหน

“โชอึยชิน ฉันตั้งค่าเสร็จแล้ว”

อูซังฮุนพูดพลางกดปุ่มบนเครื่องจำลองสนามกีฬาโนiวลกูดอทคอม

เมื่อเครื่องซิมูเลเตอร์ส่งเสียง ‘วู’ พื้นเริ่มเปลี่ยนเป็นยูรีเทน ไม่นานก็วาดเส้นสนามและสร้างแป้นกับห่วง

“จะเล่นแค่แป้นเดียวแบบครึ่งสนาม ชูตลงหรือดังก์จะได้หนึ่งแต้ม ถ้ายิงจากนอกเส้นสามแต้มจะได้สองแต้ม ใครยี่สิบเอ็ดแต้มก่อนชนะ”

“ตกลง”

เนื่องจากเป็นการดวลหนึ่งต่อหนึ่ง จึงใช้กฎเดียวกับ 3×3

ราวสิบนาทีถัดมา

ถ้าไม่นับเรื่องที่ฉันตัวสูงกว่าอูซังฮุนนิดหน่อย ในแง่อื่นแทบไม่มีอะไรสู้ได้เลย ผลลัพธ์จึงลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ยับเยิน

เด็กชมรมบาสเก่งเกินไป

อาจฟังดูเหมือนข้อแก้ตัว แต่เขาเก่งมากจริงๆ

“นายไม่ออมมือให้ฉันเลยนะ”

ทำแต้มให้แตะสองหลักยังไม่ได้เลย

ฉันหายใจหอบขณะนั่งบนม้านั่งจำลอง

“นี่อ่อนให้แล้วนะ”

“หา? เพ้อเจ้อ”

ฉันโมโหนิดหน่อย ก็เลยขว้างลูกบาสออกไปค่อนข้างแรง แต่อูซังฮุนยังคงรับสบายๆ ด้วยมือข้างเดียว

ถึงจะดูได้ยากเพราะเป็นการดวลตัวต่อตัว แต่ฉันเดาว่าเขามีเทคนิคการจ่ายบอลที่ดีไม่แพ้กัน

‘แถมยังตามประกบติดทันทีที่เราเข้าระยะยิง’

ไม่ใช่ทักษะที่จะฝึกได้ในวันสองวัน

น่าจะเคยเล่นบาสมานานแล้ว

“นายเล่นบาสตั้งแต่เด็ก?”

“…หืม ก็ไม่เชิง”

ไม่เชิงคืออะไร?

สรุปว่าเคยเล่นหรือไม่เคย?

“ก่อนจะได้รับพลังมา ร่างกายฉันค่อนข้างอ่อนแอ จึงออกไปเล่นข้างนอกไม่ได้… แต่พอมีพลัง แถวบ้านก็ไม่ค่อยมีเพลเยอร์ให้เล่นด้วย ก็เลยซ้อมคนเดียวตลอด ไม่ได้เล่นบาสจริงๆ จังๆ สักเท่าไร”

อย่างนี้นี่เอง

ไม่มีโอกาสได้ตั้งทีมเล่นกับใคร

“โรงเรียนแสงเงินมีแต่คนเล่นบาสเก่งๆ ฉันก็เลยชอบมาก”

อูซังฮุนหมุนลูกบาสด้วยนิ้วพลางยิ้มอย่างสดใส

เขานั่งลงบนม้านั่งข้างๆ ฉันแล้วเริ่มเล่าเรื่องในชมรมให้ฟัง

การฝึกซ้อมอันน่าเบื่อในช่วงเช้า

การแข่งระหว่างปีหนึ่ง สอง และสาม

ความพ่ายแพ้อย่างหวุดหวิดในเกมระหว่างปีหนึ่งและปีสอง

ครูที่ปรึกษาชมรมผู้กระตือรือร้นเกินเหตุ และคำแนะนำจากโค้ชทีมบาสมืออาชีพ

อูซังฮุนเล่าทุกสิ่งเกี่ยวกับชมรมบาสโดยไม่ปิดบัง

‘เขาพูดเยอะกว่าปกติ’

รวมถึงสีหน้าที่สดใสกว่าเดิม

“มาเล่นกันอีกรอบ”

“คราวนี้จะออมมือให้ก็แล้วกัน”

อูซังฮุนพูดขณะเลี้ยงบอล

ไอ้เวร

แปลว่ารอบก่อนไม่ได้ออมมือสินะ

หลังจากดวลกันอย่างดุเดือด ฉันพ่ายแพ้เขาเหมือนเดิม

แต่ก็ลดช่องว่างคะแนนได้มากขึ้น

ฉันขอเล่นอีกสามเกมด้วยความหวัง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ทุกครั้ง

เราเล่นบาสกันจนบ่ายแก่ๆ แล้วกลับหอ

* * *

ณ ห้องพักของฉัน บนชั้นสิบเจ็ดของตึกปีหนึ่ง

“กว้างชะมัด ถึงจะอยู่สองคนก็ยังกว้างเลย แต่นายได้อยู่คนเดียว ดีจังเลยนะ”

อูซังฮุนแสดงความประทับใจขณะกวาดสายตาไปรอบๆ

หลังจากพาทัวร์ห้องเสร็จ อาหารเดลิเวอรี่ที่มาส่งถึงหน้าห้อง ถูกนำมาเข้าวางในห้องนั่งเล่น

เมนูเดลิเวอรี่คราวนี้เป็นอาหารจีนดั้งเดิมที่เหมาะสำหรับการขึ้นบ้านใหม่

ฉันสั่งหมูผัดเปรี้ยวหวานจานกลาง จัมปง จาจัง และข้าวผัด

เป็นปริมาณที่กินได้สี่ห้าคนสบายๆ แต่กลับไม่พอรองท้องวัยรุ่นหิวโหยสองคน

ข้างๆ จึงมีถุงมันฝรั่งทอดวางอยู่ ทั้งรสดั้งเดิม รสหัวหอม รสเบคอน และรสคอนซอมเม่ไว้เป็นของว่าง

“ถึงเวลาแกล้งจางนัมอุกแล้ว”

“ตกลง”

พวกเราจัดมุมกล้องให้มองเห็นภาพกว้างของหอพัก จากนั้นก็โทรหาจางนัมอุก

เสียงรอสายดังนานห้าวินาที หกวิ เจ็ดวิ

“แปลก ทำไมเขารับช้า”

จางนัมอุกรับสายช้าผิดปกติ

ถ้าไม่ได้ติดธุระอะไร เขาแทบจะรับสายฉันในทันที

จนกระทั่งอุปกรณ์เชื่อมต่อกัน

“จางนัมอุก นายดูอยู่ไหม? หอพักของโรงเรียนแสงเงินเจ๋งมาก…”

อูซังฮุนมองหน้าจอสักพักแล้วก็ปิดปากสนิท

เพราะบนจอมีใบหน้าของบุคคลไม่คุ้นเคย

หมอนี่ใคร?

ถึงจะไม่รู้ว่าใคร แต่อีกฝ่ายกำลังสวมแว่นตาของจางนัมอุก

“พวกนายนั่งใกล้หน้าจอเกินไปแล้ว การมองโฮโลแกรมในระยะใกล้อาจทำให้สายตาแย่ลง แล้วก็ท่านั่งหลังค่อมนั่นด้วย เหยียดหลังให้ตรงซะ”

เป็นการเลียนเสียงจางนัมอุกอย่างครึ่งๆ กลางๆ

ถึงวิธีการพูดจะเหมือนกันเปี๊ยบก็เถอะ

‘นี่มัน… นักเรียนอันดับหนึ่งของโรงเรียนเตรียมทหาร!’

เมื่อตั้งใจมอง ฉันจำได้ว่าเขาคือคนที่เคยให้สัมภาษณ์ร่วมกับจางนัมอุกในวันประกาศผลสอบ

ชายแปลกหน้ายังคงบ่นพวกเราโดยการเลียนเสียงจางนัมอุกต่อไปอีกสักพัก

ระหว่างนั้น ฉันและอูซังฮุนนั่งมองด้วยสายตาว่างเปล่า

“หือ… ไม่ขำเลยแฮะ”

นักเรียนอันดับหนึ่งทำหน้าหดหู่เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของเรา

อิหยังวะ?

อูซังฮุนข้างๆ ก็คงคิดแบบเดียวกัน

“ถ้าอย่างนั้น เห็นทีต้องงัดมุกตลกไม้ตายออกมาใช้แล้ว”

แน่นอนว่าฉันไม่ได้คาดหวังอะไร

“ถ้าพูดว่า ‘คุณจางนัมอุก’ (จางนัมอุก กุน) เร็วๆ …”

ชักไม่อยากได้ยินครึ่งท่อนหลังแล้วสิ

ขณะกำลังลังเลว่าจะตัดสายดีไหม

ฉันตอบสนองช้าเกินไป

“ก็จะเป็นจางนามุกุน (คนต้นไม้) ยังไงล่ะ! ฮะฮะฮะ! คนตัดไม้!”

อูซังฮุนกับฉันจ้องจอโฮโลแกรมด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เมื่อเด็กเตรียมทหารอันดับหนึ่งเห็นปฏิกิริยาของพวกเรา เขาทำหน้าเศร้าสลดอีกครั้ง

ท่ามกลางความเงียบงันอันน่าอึดอัด เสียงของจางนัมอุกดังขึ้นจากนอกจอภาพ

“เฮ้ย! โดซีฮู! แสงประทานมันมีไว้ใช้แกล้งคนอื่นรึไงวะ!”

ตัวจริงของชายคนนี้คือนักเรียนที่สอบเข้าได้คะแนนอันดับหนึ่งของโรงเรียนเพลเยอร์เตรียมทหาร—โดซีฮู

จางนัมอุกที่เป็นรูมเมทเคยเล่าให้ฟังว่า เขาเป็นพวก ‘ไม่ธรรมดา’

จนกระทั่ง จางนัมอุกที่เสื้อผ้าขาดวิ่นปรากฏตัวในจอภาพแล้วแย่งแว่นตาไปจากโดซีฮู

‘…ทางนั้นก็คงมีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนกันสินะ’

ในโรงเรียนแสงเงินมักมีเด็กที่ชอบใช้แสงประทานแกล้งเพื่อน

ฝั่งเตรียมทหารก็คงไม่ต่างกัน

“ฉันแค่อยากคุยกับเพื่อนจากโรงเรียนแสงเงินของนาย”

ดูจากวิธีการพูด เขาน่าจะแกล้งจางนัมอุกเป็นประจำ

คงถูกใจความเถรตรงและจริงใจของจางนัมอุกเป็นพิเศษ

“นายคือโชอึยชิน ซูเปอร์โนว่าไร้นาม ส่วนคนที่ถือลูกบาสอยู่ข้างๆ คงเป็นอูซังฮุน”

น่าจะได้ยินมาจากจางนัมอุก

“อูซังฮุน นายอยู่ชมรมบาสสินะ ฉันเองก็อยู่ชมรมบาส หาวันนัดแข่งกันไหม?”

“เอาสิ!”

อูซังฮุนผู้ทำหน้าเฉยเมยตลอดเวลารีบตอบสนอง

ทั้งสองใช้เวลาคุยกันเรื่องบาสอยู่สักพัก

เท่าที่ฟังดู พวกเขาแนะนำกัปตันชมรมของตัวเองเพื่อหาวันเวลานัดแข่ง

หลังจากประเด็นเกี่ยวกับชมรมบาสสองโรงเรียนจบ หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปทันที

“พวกนายรู้จักจูซูย็อกไหม เขาเป็นยังไงบ้าง”

เป็นชื่อที่คาดไม่ถึง

คำพูดของโดซีฮูทำเอาฉันรู้สึกถึงลางไม่ดี

ในเกมได้บรรยายไว้ว่า จูซูย็อกมีเพื่อนสนิทเรียนอยู่โรงเรียนเตรียมทหาร

เพื่อนคนนั้นแอบทำงานให้จูซูย็อกอย่างลับๆ แต่สุดท้ายก็ถูกลอบสังหารโดยไม่มีข่าวคราวเพิ่มเติม

“โดซีฮู นายมีญาติอยู่ใน TC กรุปใช่ไหม”

เขากะพริบตาให้คำถามของฉันแล้วตอบ

“ใช่… TC คือบริษัทของปู่ใหญ่*” (*ปู่ที่เป็นพี่ชายคนโต)

มีปู่ใหญ่เป็นเจ้าของหนึ่งในสี่แชโบลสินะ

ชัดเจนแล้ว

‘ห่วงแต่ช่วยคนอื่น สุดท้ายก็ถูกลอบสังหารเสียเอง’

จากเรื่องราวภายในเกม สี่กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ต่อสู้กับเบื้องหลังตลอดเวลา

เพื่อช่วยชีวิตจูซูย็อก โดซีฮูแอบส่งข้อความเข้ารหัสผ่านอุปกรณ์คอยรายงานเขา

ไม่เคยมีชื่อปรากฏในเกม ตัวตนเพียงหนึ่งเดียวคือชื่อเล่นในห้องแชต

‘มีคนแบบนี้อยู่จริงๆ สินะ…’

เมื่อจางนัมอุกเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เราสี่คนผลัดกันแนะนำตัวแล้วแลกรหัสอุปกรณ์

โดซีฮูเป็นคนไม่ธรรมดาเหมือนกับที่จางนัมอุกว่า

แต่ทำความรู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลัก

หวังว่าล่ะนะ

MasterGU.edited = เขาวงกฎ->เขาวงกต, สุกดิบด์, สามารถลอง->สามารถจำลอง

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset