📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 32

บทที่ 32 - หลังฝนหยุด (4)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

สำหรับห้องซิมูเลเตอร์ภายในสมาคมปีกธรณี ด้านนอกสร้างจากกระจกเสริมแกร่งพิเศษ ส่วนด้านในสร้างจากโลหะของต่างโลก

ถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกระดับท็อปที่สร้างขึ้นภายใต้คำสั่งของประธานวังมยองโฮ เพื่อให้นักเรียนหอในได้ศึกษาการฝึกของนักเรียนคนอื่น

จุดเด่นของห้องฝึกประเภทนี้คือการสร้างบรรยากาศแข่งขันในหมู่นักเรียน

แต่ในความเป็นจริง วังมยองโฮสร้างมันขึ้นมาด้วยเหตุผลแค่ว่า ‘ถ้าไม่มีกระจกก็มองเข้าไปไม่เห็นน่ะสิ’

“สุดยอด… เห็นสกิลเมื่อกี้ไหม?”

“ใช่ น่าทึ่งจัด”

นักเรียนหอพักจะทยอยเข้าฝึกกับเอนามีเสมือนในห้องซิมูเลเตอร์ตั้งแต่ช่วงเช้า

เพลเยอร์ประเภทที่ใช้สกิลได้อลังการอย่างดิน น้ำ ลม ไฟ จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ดี นักเรียนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดของวันนี้คือ ‘ซูเปอร์โนว่าไร้นาม’ โชอึยชิน

“อาวุธบางชนิดฉันไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ… อ๊า นั่นอูรูมี! ดาบแส้โบราณของอินเดีย”

“เมื่อกี้ฉันเห็นเขายิงจรวดบุปผาสวรรค์ด้วยปืนใหญ่โบราณ… โรงเรียนหาของแบบนั้นมาได้ยังไง?”

“ดูยังไงก็ไม่เหมือนสกิลเลเวลหนึ่งเลย”

“เพิ่งเข้าเรียนได้ไม่ถึงเดือน แต่เลเวลสกิลอัปแล้ว? บ้าบอมาก”

เด็กหอในที่ยืนดูโชอึยชินฝึกผ่านกระจกหนา สนทนากันอย่างออกรส

โชอึยชินจะใช้งานอาวุธชนิดละสองวินาทีเพื่อปราบเอนามี จากนั้นก็เปลี่ยนไอเท็มการ์ดทันที

“อ๊า เปลี่ยนซะแล้ว… ฉันอยากเห็นเขาใช้มีดคารัมบิตมากกว่านี้”

“ฉันอยากเห็นเขาซัดหอกอีกครั้งมากกว่า”

โชอึยชินยังคงสลับอาวุธต่อไปโดยไม่สนใจเกาหลีมุงด้านนอก

ไอเท็มการ์ดโผล่ขึ้นจากปลายนิ้วอย่างน่าอัศจรรย์

ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการแปลงการ์ด ความเร็วสลับอาวุธ และท่วงท่าเพื่อเปิดใช้งานล้วนว่องไวและเฉียบคม

“โชอึยชินได้รับไอเท็มการ์ดมาแค่สามร้อยใบไม่ใช่หรือ ดูเหมือนเขาจะใช้เกินแล้วนะ”

“ก็คงมีอาวุธส่วนตัวด้วยแหละ”

ใช่แล้ว อาวุธเหล่านั้นได้จากการปล้นบยอนซุนโฮและชเวย็อนทึก

“ว่าแต่… ไอเท็มการ์ดโผล่มาจากไหนล่ะนั่น?”

“แสงประทานรึเปล่านะ”

“ได้เห็นแสงประทานของคนอื่นตั้งแต่เช้าเลยสินะ”

“เห็นว่ามีเพลเยอร์นักมายากลชาวอังกฤษก็ทำแบบนี้กับการ์ดเหมือนกัน อาจจะเป็นสกิลมายากลก็ได้”

“ได้ยินว่าสกิลชื่อ ‘พาร์ม’ (Palm) นะ ใช้สำหรับซ่อนไพ่และการ์ด ว่าแต่จะซ่อนไว้ตรงไหน? หลังมือ? หลังมืออีกข้าง?”

“เขาใช้ไปสี่ร้อยกว่าใบแล้วนะ สกิลมายากลจะซ่อนได้หมดเชียวรึ”

ในความเป็นจริง โชอึยชินแค่เลือกไอเท็มการ์ดจากสกิลเมนูเฉพาะตัวออกมาใช้

สำหรับนักเรียนที่ไม่รู้ถึงการมีอยู่ของสกิลเมนู เป็นธรรมชาติที่คาดเดากันไปต่างๆ นานา

เด็กหอในยังคงถกเถียงกันอย่างไร้คำตอบ

ระหว่างนั้น โชอึยชินจบการฝึกด้วยการยิง ‘อาร์บาเรสต์’ (Arbalest)

“ดูเหมือนจะจบแล้วล่ะ”

“อาวุธชิ้นที่ห้าร้อยพอดี”

“นายนับด้วยหรือ…? เอ๋… ครูยง! สวัสดีครับ!”

“ครูยง!”

นักเรียนหอพักที่มัวแต่สนใจการฝึกของโชอึยชิน เพิ่งได้สติและเริ่มตระหนัก

นักเรียนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนมุงและกล่าวทักทายครูยงเจกอน

ครูพิสดาร ผู้ไม่ปิดบังว่าตนคือเผ่ามังกรแท้ เป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนมาก

“ครูยง! ครูยง! ผมได้ยินว่าครูเพิ่งกลับจากตึกของทีมสิงโตแดงใกล้กับสถานีจงจัก”

“ครูยงจะย้ายเข้าหอในแล้วหรือ?”

“เปล่า วันนี้ครูแค่มาคุยกับครูคิมชินรก”

นักเรียนหอพักไม่เก็บซ่อนสีหน้าผิดหวังเมื่อได้ยินคำตอบจากยงเจกอน

“อา…”

“ครูยง! ย้ายมาอยู่หอในเถอะ!”

“จะลองเก็บไปคิดดูนะ”

ยงเจกอนตอบคำถามนักเรียนอย่างอบอุ่นพลางมองเข้าไปในห้องซิมูเลเตอร์

“นักเรียนคนนั้น… ซูเปอร์โนว่าไร้นาม โชอึยชิน…”

ซูเปอร์โนว่าไร้นาม โชอึยชินที่เพิ่งใช้งานอาวุธครบห้าร้อยชนิด ไม่ได้สนใจสถานการณ์ภายนอกห้องฝึกเลย

เขามัวแต่ทึ่งกับเสียงแจ้งเตือนของระบบที่ตัวเองได้ยินคนเดียว

〈เลเวลของสกิล ‘สรรพภัณฑ์’ เพิ่มจาก 2 เป็น 3〉

* * *

การฝึกของเช้าวันนี้ช่วยยกระดับสกิลสรรพภัณฑ์

ถ้าเลเวลสกิลสามารถเพิ่มได้ด้วยการครอบครองอาวุธ การใช้งานพวกมันอย่างทั่วถึงก็น่าจะช่วยเพิ่มได้เช่นกัน

‘ครูฮัมกึนยองเคยพูดไว้ในตอนที่เราสู้กับบังยุนซบ’

ตอนนี้ค่าสถานะโดยรวมของฉันอยู่ที่ Lv.15

เหนือกว่าก่อนเข้าเรียนที่มี Lv.13 อยู่สองระดับ

นอกจากนั้น สรรพภัณฑ์ยังเพิ่มเป็นเลเวลสาม

เรียกได้ว่าตัว ‘โชอึยชิน’ เริ่มมีประโยชน์ขึ้นมาบ้างแล้ว

ต่อให้ไม่ได้ใช้เส้นทางเพลเยอร์ แต่ฉันคงรับมือกับนักเรียนได้เกือบทั้งโรงเรียน

‘การฝึกคุ้มค่าก็จริง แต่ทุกครั้งที่ออกจากห้องซิมูเลเตอร์มักมีคนมาช่วยคุยให้ลำบากใจ’

ฉันต้องคอยพูดกลบเกลื่อนสกิลเมนูพิเศษอย่างแนบเนียน

แต่ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะพวกเขาคาดเดากันไปเองว่า ถ้าไม่ใช่แสงประทานก็คงเป็นสกิลมายากล

“นี่! รองหัวหน้าห้อง”

เม็งเฮียวทงที่ถูกจัดให้อยู่ชั้นสิบเจ็ดเหมือนกัน ตะโกนเรียนฉัน

คงกำลังจะไปโรงเรียนพอดี ไหนๆ แล้วก็ไปพร้อมกันเลย

“เม็งเฮียวทง กินมื้อเช้าหรือยัง”

“กินแล้ว ครัวซองต์เนยนมกับมอสซาเรลล่าชีส อร่อยมาก”

ดูจากภายนอก เขาเหมือนคนชอบกินซุปมิโสะกับข้าวสวยในตอนเช้ามากกว่า แต่ดันชอบเมนูตะวันตก

โรงอาหารของหอในมีให้บริการทั้งอาหารเกาหลีและต่างชาติ จึงเลือกได้ว่าจะกินอะไร

“อาหารเกาหลีกินเคียงกับผักสามสีแล้วอร่อยอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะรากดอกบอลลูนราดน้ำมันงา”

อ้อ กินทั้งสองสินะ

ดูเหมือนเม็งเฮียวทงจะไม่สนใจว่าเป็นอาหารสัญชาติใด

“ในบรรดาเมนูที่กินมาตั้งแต่เมื่อวาน โจ๊กฟักทองมันแกวที่เป็นของหวานอร่อยที่สุด”

“ฉันกินไปสองถ้วยเหมือนกัน”

“ฉันกินสาม แล้วก็ยังกินซูเฟล่ไข่… แบบไม่ราดน้ำตาลทรายจะอร่อยกว่า”

เม็งเฮียวทงพรรณนารสชาติอาหารที่เขากินตั้งแต่วันหยุดจนถึงเช้าวันนี้

ตอนแรกคิดว่าเป็นคนที่กินไปงั้นๆ แต่ดูเหมือนว่าจะพิถีพิถันและจดจำรายละเอียดทุกเมนูได้แม่นยำ

‘แค่จำชื่อทุกเมนูได้ก็น่าทึ่งมากแล้ว’

เม็งเฮียวทงเหมาะจะไปออกรายการทำอาหารจริงๆ

พวกเราเดินไปตึกเรียนพลางคุยเรื่องอาหารอย่างออกรส

“เฮียวทง!”

ฉันได้ยินเสียงของจูซูย็อก พระเอกของโลกใบนี้

เมื่อหันไปมอง จูซูย็อกกำลังวิ่งมาหาเม็งเฮียวทง

ตามปกติแล้ว หากวิ่งด้วยความเร็วระดับนี้ ใบหน้าต้องยับยู่ยี่จนดูตลกขบขัน แต่จูซูย็อกกลับยังหล่อเหลาเหมือนกับพระเอกในหนังวัยรุ่น

“เข้าเรียนที่นี่เหมือนกันหรือ?”

“…ใช่ ไม่เจอกันนานเลยนะ จูซูย็อก”

จูซูย็อกหยุดอยู่หน้าเม็งเฮียวทงพร้อมกับยื่นมือมาขอจับ

ทั้งสองเคยเผชิญหน้ากันหลายครั้งในรอบชิงของการแข่งกีฬานักเรียนเตรียมเพลเยอร์สมัยม.ต้น

เรียกได้ว่าจำนวนครั้งที่จับมือกัน มากกว่าการกล่าวคำทักทาย

“ตอนแรกฉันหานายไม่เจอ นึกว่าไปเรียนที่อื่นแล้ว… นายอยู่ห้องไหน? ฉันปีหนึ่งห้องสอง”

“ห้องศูนย์”

“ห้องเดียวกับอึยชินนี่”

จูซูย็อกคุยกับฉันและเม็งเฮียวทงอย่างสนุกสนาน

ด้วยพรสวรรค์ในการชวนคุยของพระเอก ไม่นานพวกเราสามคนก็แลกรหัสอุปกรณ์กันและสร้างกลุ่มแชตขึ้นมา

‘พรสวรรค์ในการเข้าสังคมของจูซูย็อก… อยู่ระดับเดียวกับคิมยูรี’

เม็งเฮียวทงที่ไม่ถนัดอุปกรณ์ ใช้เวลาสักพักกว่าจะลงทะเบียนรายชื่อติดต่อเสร็จ

พ่อของเม็งเฮียวทงไม่เคยหาอาหาร เสื้อผ้า และที่พักให้เขาเลยสักครั้ง

จึงไม่เคยมีแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือที่ถูกมองเป็นขยะของโลกนี้ ส่งผลให้เป็นพวกไม่ชำนาญเทคโนโลยี

“ในตอนที่เจอกันทัวร์นาเมนต์สุดท้าย ฉันรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ขอรหัสติดต่อไว้ เพราะถ้ากลายเป็นเพลเยอร์แล้ว พวกเราจะลงแข่งกีฬาไม่ได้อีก ฉันกลัวว่าจะไม่ได้เจอกัน… โชคดีที่มาเรียนต่อโรงเรียนเดียวกัน”

เพลเยอร์อย่างเป็นทางการไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งกีฬาได้

ดังนั้นเพลเยอร์ที่อายุยังไม่ถึงสิบเจ็ด ยังสามารถแข่งได้ในกีฬานักเรียนเตรียมเพลเยอร์

“มาสนิทกันไว้เถอะ เฮียวทง!”

แม้เม็งเฮียวทงจะเอาแต่บ่นว่าอุปกรณ์พวกนี้ใช้งานยาก แต่สายตายังคงจดจ่อไปที่ห้องแชตอย่างเหม่อลอย

ในตอนเรียนม.ต้น เพื่อนคนเดียวที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างเป็นมิตรคือจูซูย็อกซึ่งได้เจอกันในงานแข่ง มิตรภาพของพวกเขามีคุณค่ามาก

‘เขาอาจไม่รู้ตัว แต่จูซูย็อกช่วยเหลือผู้คนไว้มากมายตั้งแต่ก่อนเกมจะเริ่มเสียอีก’

ขณะจูซูย็อกและฉันช่วยกันสอนเม็งเฮียวทงใช้อุปกรณ์พลางเดินไปยังตึกเรียน อยู่ดีๆ ความสงบสุขก็ถูกทำลาย

“โชอึยชิน มาสู้กับฉัน!”

เบ๊บังยุนซบขอท้าสู้ล่ะ

ด้วยสีหน้ามั่นใจเสียเต็มประดานั่น ฉันพนันได้เลยว่าเขาเตรียมลูกไม้โง่ๆ มาสู้แน่นอน

“ฉันเพิ่มเลเวลค่าสถานะโดยรวมมาแล้ว! เพิ่มค่าต้านทานเวทมนตร์มาแล้วด้วย! มาเจอกันหน่อย! ไอ้เวรโชอึยชิน!”

บังยุนซบเป็นพวกโง่ซ้ำซาก

‘ทำไมถึงป่าวประกาศจุดแข็งของตัวเองให้คู่ต่อสู้ฟังล่ะ ไอ้เบื๊อกเอ๊ย’

เขาคงละทิ้งจิตวิญญาณของการดวลอย่างยุติธรรมไปแล้ว เพราะเล่นจู่โจมเข้ามาโดยไม่แม้แต่จะประกาศสัญญาณเริ่ม

กระบองสองท่อนถูกเหวี่ยงพร้อมกับวิ่งปรี่อย่างบุ่มบ่าม

ฉันนำการ์ดเกรด SR สองใบที่ปล้นจากชเวย็อนทึกมาใช้

“เฮ้ย! ซูเปอร์โนว่ากำลังจะดวลกับเบ๊!”

“ศึกเดิมพันเบ๊ยกที่สอง? รีบเปิดโต๊ะแทงเร็วเข้า!”

“ไม่ทันแล้ว! เริ่มไปแล้ว!”

“ไกลฉิบ! รู้งี้น่าจะดัดแปลงแอร์บอร์ดให้ควบคุมเองได้…”

รู้ตัวอีกที นักเรียนปีหนึ่งที่กำลังเดินเข้าตึกเรียน ทยอยมามุงดูเป็นวงกว้าง

บางคนแอบส่องจากระยะไกล บางคนใช้อุปกรณ์เพื่อถ่ายภาพและฉายเป็นโฮโลแกรมให้คนข้างหลังดู

ศึกเดิมพันเบ๊ระหว่างบังยุนซบกับซูเปอร์โนว่าไร้นามโด่งดังถึงเพียงนั้น

‘คนดูเยอะแบบนี้ เห็นทีต้องอวดฝีไม้ลายมือหน่อยแล้ว’

วันนี้อากาศดีและมีลมแรง

ฉันเปลี่ยนไอเท็มเกรด SR ‘ไม้เท้าเรียกลมจรัส’ ให้เป็นของจริง

〈สกิล ‘สรรพภัณฑ์’ ทำงาน〉

เวทมนตร์และคุณสมบัติของมัน หลั่งไหลเข้ามาในสมองฉันพร้อมกับเสียงข้อความระบบ

เมื่อเลเวลเพิ่มขึ้น ความหลากหลายและพลังทำลายที่คาดหวังย่อมเพิ่มขึ้นตาม

ฉันไม่รู้ว่าบังยุนซบใช้ไอเท็มต้านทานเวทมนตร์ระดับไหน จึงตัดสินใจงัดเวทมนตร์ที่รุนแรงที่สุดซึ่งร่ายเสร็จภายในห้าวินาทีออกมาใช้

‘ถ้าเขารับไว้ได้ แค่โจมตีซ้ำด้วยอาวุธประชิดก็พอ’

‘การร่ายเวท’ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญของเวทมนตร์ มีทั้งสิ้นสามขั้นตอน

ทำความเข้าใจสูตรการโคจรมานา

ขยับไม้เท้าตามความเข้าใจนั้น

เปลี่ยนทิศทางการไหลของมานาตามความเข้าใจนั้น

เมื่อร่ายเสร็จ เวทมนตร์จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อตะโกนคาถาในภาษาที่เฉพาะเจาะจง

“เอสเคนซี่ เวนติ!” (Escensii Venti)

กระแสลมเปลี่ยนทิศทันทีที่ฉันออกคำสั่ง

ฟ้าว!

“คึฮะฮ่าฮ่าฮ่า! เวทมนตร์น่ะใช้ไม่ได้กับ… เฮ…เฮ้ย! ด…ได้ยังไง!”

ลมเอื่อยๆ ของฤดูใบไม้ผลิแปรเปลี่ยนเป็นลมกระโชก

พายุทอร์นาโดที่ลอยสูงเสียดท้องฟ้า พุ่งเข้าหาบังยุนซบ

ฟ้าว! novelgu.com

บรรดาเด็กปีหนึ่งต่างส่งเสียงเชียร์เมื่อเห็นพายุก่อตัวขึ้นจากปลายไม้เท้าฉัน

บังยุนซบที่ถูกพายุเล่นงาน ทำได้เพียงแหกปากกรีดร้อง

“อ๊าาาาา!”

ไอเท็มต้านทานเวทมนตร์ที่บังยุนซบงัดออกมาใช้ มิอาจทนรับความเสียหายได้ทั้งหมด ไม่นานก็ส่งเสียงปริแตก

เพล้ง!

จากอีกฟากหนึ่งของพายุ ฉันมองเห็นเอฟเฟคของบางสิ่งถูกทำลาย

เมื่อแสงเล็กๆ เลือนหายไป บังยุนซบตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของทอร์นาโดอย่างสมบูรณ์ จนถูกส่งลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า

ร่างของเขาเล็กลงเรื่อยๆ

และไกลออกไปเรื่อยๆ

‘โอ๊ะ รุนแรงเกินไปไหมนะ’

ถ้าปล่อยเอาไว้ บังยุนซบได้ตายจริงแน่

ฉันคลายเวทมนตร์ทันที

จากนั้น บังยุนซบตกกระแทกพื้นในท่ากบหงายท้อง

เป็นเพราะฉันเสกลมขึ้นมาแทนเบาะรอง เขาจึงไม่บาดเจ็บมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูน่าสมเพชอยู่ดี

‘ไม่ต้องใช้อาวุธประชิดที่เตรียมไว้สินะ’

คราวหน้าลองใช้อาวุธประชิดเปิดก่อนดีไหม?

ฉันเปลี่ยนการ์ดไอเท็มเกรด SRที่เตรียมไว้อีกใบ ‘กระบองสองท่อนเหล็กสำหรับผู้เชี่ยวชาญ’ ให้เป็นของจริง พลางควงเล่นขณะเดินเข้าหาบังยุนซบ

ตอนนี้ฉันมีสกิลเทียบเท่าสกิลกระบองเลเวลสาม

บังยุนซบที่ดูออก เผยสีหน้าตกตะลึง

“ให้มันน้อยๆ หน่อย บังยุนซบ”

“บ้าบอสิ้นดี! สกิลของแกเลเวลแค่หนึ่งไม่ใช่รึไง!”

“มันเลเวลอัปแล้วน่ะ”

ใบหน้าบังยุนซบแดงก่ำด้วยความสิ้นหวัง

“แต่เท่าที่ดู ถึงฉันจะใช้กระบองสองท่อน แกก็คงสู้ไม่ได้อยู่ดี”

“ชิ…!”

บังยุนซบที่หมดกำลังใจจะสู้ นอนก้มหน้าแผ่ราบไปกับพื้น

“เป็นบุญตาชะมัด!”

“เวทมนตร์นี่โคตรเจ๋งเลยว่ะ ฉันอยากเรียนบ้างจัง”

“หลังจากได้ดูศึกเดิมพันเบ๊รอบแรกไป ฉันพยายามฟังบทเรียนออนไลน์เกี่ยวกับการใช้มานาขั้นพื้นฐาน แต่มันยากเกินไป ก็เลยเอาเวลาไปตั้งใจกับอย่างอื่นดีกว่า”

“เจ๋งมาก ซูเปอร์โนว่าไร้นาม!”

“พ่อเบ๊ซื้อของ! คราวหน้าไปฝึกมาใหม่นะ”

เมื่อการต่อสู้ที่สั้นกระชับแต่เข้มข้นจบลง นักเรียนทยอยพูดทิ้งท้ายแล้วเดินไปยังห้องเรียน

เม็งเฮียวทงกับจูซูย็อกที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ตลอด วิเคราะห์จุดอ่อนของบังยุนซบอย่างใจเย็น

“ยุนซบต้องฝึกกล้ามเนื้อลำตัวให้มากกว่านี้”

“การเคลื่อนย้ายจุดศูนย์ถ่วงร่างกายดูค่อนข้างงุ่มง่ามนะ”

การวิเคราะห์ที่ตรงไปตรงมาแต่ทำร้ายจิตใจดำเนินต่อไปอีกสักพัก

บังยุนซบที่นอนก้มหน้าฟัง เงยใบหน้ารื้นน้ำตาขึ้น

เขาคงไม่กล้าเหิมเกริมกับจูซูย็อก จึงชี้นิ้วไปหาเม็งเฮียวทงแทน

“แล้วแกเป็นใครวะ? ไอ้เตี้ยหมาตื่น! เด็กม.ต้นรึไง!”

จุดอ่อนของเม็งเฮียวทงคือส่วนสูง

แต่แลกมาด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง จากการฝึกหนักเพื่อเข้าร่วมการแข่งกีฬาสมัยม.ต้น และการขึ้นสังเวียนมือเปล่ากับเอนามี

เม็งเฮียวทงคืออัจฉริยะแห่งการต่อสู้ตัวจริง จนจูซูย็อกยอมรับในฝีมือแม้จะเตี้ยกว่าค่าเฉลี่ย

‘มีพ่อจัญไรแบบนี้ คงแทบไม่เคยได้กินอาหารดีๆ’

ฮัมกึนยองแจ้งว่า ผลการตรวจร่างกายเม็งเฮียวทงมีจุดที่น่าเป็นห่วงก็คือ – ขาดวิตามิน ขาดสารอาหาร และใช้ไอเท็มฟื้นฟูเกินขนาด

ถ้าไม่ใช่เพลเยอร์ เขาต้องนอนโรงพยาบาลนานนับเดือนเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้

‘แต่เม็งเฮียวทงยังเป็นวัยรุ่น ร่างกายมีความยืดหยุ่นสูง ขอแค่เปลี่ยนนิสัยการกิน งดใช้ไอเท็มฟื้นฟู และหมั่นเข้ารับการบำบัด ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล’

ขณะฉันใช้ความคิด ทั้งเม็งเฮียวทงและจูซูย็อกตอบสนองต่อคำพูดบังยุนซบด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“นี่แกคิดจะหาเรื่องฉัน?”

“ยุนซบ ทำไมถึงพูดแบบนั้นกับเฮียวทง”

เมื่อถูกจูซูย็อกตำหนิ บังยุนซบเริ่มผงะ

เบ๊ของฉันเพ่งอ่านป้ายชื่อเม็งเฮียวทงสักพัก ก่อนจะละล่ำละลักอย่างตะกุกตะกัก

“ฮ…เฮียวทง…? ก…แกคือเม็งเฮียวทง?”

ตามเนื้อเรื่องในเกม ทั้งสองไม่เคยเจอกันที่โรงเรียนแสงเงิน

บังยุนซบตายด้วยน้ำมือจูซูย็อกช่วงปลายปีหนึ่ง เพราะถูกเผ่าอสูรสิงร่างจนกลายเป็นเอนามี ส่วนเม็งเฮียวทงหลุดพ้นจากการเป็นนักสู้ทาสและเริ่มกลับมาเรียนตอนปีสอง

“จำได้แล้ว ฉันเคยเห็นหน้าแกในการแข่งเทควอนกระบองสองท่อน… เด็กเนิร์ดที่เคยถูกฉันบดขยี้คนนั้นนี่เอง”

ดูเหมือนจะเคยเจอกันตอนม.ต้นสินะ

ใบหน้าบังยุนซบพลันขาวซีดราวกับกระดาษ

ในทุกการแข่งขันสมัยม.ต้น บังยุนซบคือเหยื่อของเม็งเฮียวทง

เบ๊ของฉันแข็งแกร่งพอที่จะสอบเข้าโรงเรียนแสงเงินก็จริง แต่ดูเหมือนว่าจะคนละชั้นกับเม็งเฮียวทง

“ถ้าอยากสู้ก็เข้ามาเลย”

เม็งเฮียวทงย่างกรายเข้าหาบังยุนซบที่กำลังนอนคว่ำหน้า

บังยุนซบเอาแต่ก้มศีรษะโดยไม่กล้าสบตา

“หือ…? สูบบุหรี่มารึไง? เหม็นฉิบ ไอ้เวรเอ้ย”

เม็งเฮียวทงหยุดยืนตรงหน้าบังยุนซบพร้อมกับขมวดคิ้ว

บุหรี่?

ฉันหยิบธนบัตรห้าหมื่นวอนออกจากกระเป๋าสตางค์ทันทีแล้วยื่นให้คุณเบ๊

เขาเงยหน้ามองธนบัตรใบนั้นราวกับมันคือยันต์ต้องสาป

“ไปซื้อของให้ฉัน”

“ชิ…!”

“ซื้อเค้กจากร้านเบเกอรี่แฮนด์เมดหน้าประตูทิศตะวันตก… ฟรอมาจ·บลังค์·มูสเค้ก ขอส้อมเจ็ดคัน”

หน้าทางเข้าโรงเรียนแสงเงินจะมีร้านเค้กแฮนด์เมดชื่อดังที่บริหารโดยเพลเยอร์เชฟทำขนม

ฉันอยากให้ ‘นักชิม’ เม็งเฮียวทงได้กินของอร่อยๆ จากภายนอกบ้าง

ตอนนี้เขายังถูกกักบริเวณจนกว่าความสนใจจากสื่อจะซาลง

“บัดซบ! นั่นมันไกลกว่าเขตปีสามอีกนะ!”

“จะไม่ไป?”

“ไอ้เวรโชอึยชิน! แกมันเลวยิ่งกว่าเอนามี!”

“คราวนี้ถ้าเล่นตุกติกกับอาหารอีก ฉันจะถอนเล็บทุกนิ้วของแก”

ในเวลาเดียวกัน จูซูย็อกข้างๆ ช่วยอธิบายให้เม็งเฮียวทงเข้าใจเกี่ยวกับ ‘ศึกเดิมพันเบ๊’

“กลับมาก่อนคาบเรียนเริ่มนะ บังยุนซบ!”

ฉันยืนดูเขาปั่นจักรยานสุดแรงเกิดจนกระทั่งลับสายตาไป

ดูเหมือนเม็งเฮียวทงจะจมูกไว

ถ้ามีเขาอยู่ข้างๆ เราคงดัดนิสัยบังยุนซบได้ง่ายขึ้นมาก

“นี่เม็งเฮียวทง ทุกครั้งที่นายได้กลิ่นบุหรี่จากบังยุนซบ ฉันจะเลี้ยงของกินเอง”

“หือ? จริงอะ? เอาสิ”

“โชอึยชิน ฉันเอาด้วย!”

“ตกลง ฝากด้วยนะ”

ยิ่งได้จูซูย็อกที่เรียนห้องเดียวกับบังยุนซบมาช่วยก็ยิ่งสะดวก

ห้องแชตของเราสามคนที่เพิ่งสร้าง กลายเป็นสถานที่แบ่งปันข้อมูลชั้นดี

หลังจากนี้บังยุนซบจะถูกจับตามองโดยเม็งเฮียวทงและจูซูย็อก สองตัวละครสู้ประชิดระดับท็อปของเกม

‘ยินดีด้วยบังยุนซบ นายกำลังจะเลิกบุหรี่ได้เร็วๆ นี้’

เค้กที่ให้บังยุนซบซื้อมา ฉันแบ่งกันกินกับทุกคนในห้องศูนย์และจูซูย็อก

ส่วนผสมอันกลมกล่อมของมูสครีมชีสและบลูเบอร์รีกงฟีต์ ช่วยรังสรรค์ให้เกิดรสชาติที่ยอดเยี่ยม

เค้กก้อนนี้ได้รับคำชมอย่างมากจาก ‘นักชิม’ เฮียวทงและ ‘คนรักขนมหวาน’ ฮันอี

* * *

ถึงเวลากิจกรรมชมรมแล้ว

จากบรรดาหลายๆ ห้องของชมรมหนังสือพิมพ์ มีหนึ่งห้องเป็นของเด็กปีหนึ่งโดยเฉพาะ

น้องใหม่ชมรมหนังสือพิมพ์จำนวนแปดคน รวมถึงฉันและวังจีโฮ กำลังก้มหน้ามองโฮโลแกรมจากอุปกรณ์ของตัวเอง

งานแรกของเราคือการเขียนบทความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียน

“ของนายง่ายจังนะ น่าอิจฉาชะมัด”

วังจีโฮข้างๆ รำพันด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ใช่ ง่ายชะมัด”

ฉันเลือกเขียนบทความเกี่ยวกับศึกเดิมพันเบ๊ครั้งที่สอง

ต้องขอบคุณบังยุนซบ ชีวิตชมรมของฉันง่ายขึ้นมาก

วังจีโฮและอีกหกคนกำลังเดือดร้อนเพราะไม่รู้จะเขียนอะไร

“ศึกเดิมพันเบ๊ยกที่สอง… ฉันอยากเห็นกับตาจังเลย!”

หนึ่งในตัวละครที่ควบคุมได้ นักเรียนชั้นปีหนึ่งห้องสอง มุนแซรอน เธอไม่เก็บซ่อนความเสียดาย

มุนแซรอนคือตัวละครชมรมหนังสือพิมพ์ที่โผล่หน้าในเกมบ่อย

แถมยังเป็นตัวละครที่รอดไปจนถึงปีสามและได้เป็นประธานชมรมหนังสือพิมพ์

“จะได้เปิดโต๊ะรับแทงอีก? แต่ว่านะ เธอเลือกเพลงได้เจ๋งมาก”

“วังจีโฮก็คิดเหมือนกันใช่ไหม? ศึกใหญ่กับ BGM มันส์ๆ คือของคู่กันเสมอ!”

“ใช่ ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะจุดพลุ”

“รสนิยมดีไม่เบานี่ วังจีโฮ”

มุนแซรอนคือโต๊ะพนันที่เปิดแอปฯ เดิมพันในศึกเดิมพันเบ๊ยกแรก

‘เข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว’

หลังจากคุยเรื่องศึกเดิมพันเบ๊สักพัก หัวข้อสนทนากลับมาเป็นงานเขียนบทความตรงหน้า

บรรดาเด็กใหม่ของชมรมหนังสือพิมพ์ใช้เวลาที่คิดอะไรไม่ออก แนะนำตัวเองกันอีกครั้ง มีหลายคนพยายามตีสนิทวังจีโฮด้วยมุกตลก

“ใกล้จะถึงวันเมษาหน้าโง่ (April Fool) แล้วสินะ รุ่นพี่ห้องศูนย์บอกว่าจะก่อเรื่องอะไรสักอย่างในปีนี้”

“พวกนายสองคนก็อยู่ห้องศูนย์ไม่ใช่หรือ ปีหนึ่งห้องศูนย์มีแผนจะแกล้งอะไรล่ะ? บอกมานะ”

“ได้ยินว่าห้องศูนย์ปีนี้สงบเสงี่ยมเป็นประวัติการณ์ คงไม่ได้เล่นอะไรแผลงๆ หรอกมั้ง”

ไอ้ที่สงบเสงี่ยมเป็นประวัติศาสตร์ ก็เพราะคนเข้าเรียนมันมีแค่หกไง

ตลอดเดือนมีนาคมจนถึงเมษายน มีเด็กเข้าเรียนแค่หกจากสิบหกคน

‘วันเอพริลฟูลสินะ…’

หากเป็นในเกม วันเอพริลฟูลจะมีอีเวนต์ใหญ่

“ได้ยินว่าเป็นธรรมเนียมที่ห้องศูนย์จะต้องสร้างความวุ่นวายนะ พวกเราก็ควรทำบ้างดีไหม โชอึยชิน?”

“ไม่”

“ทำไมล่ะ?”

ฉันตอบคำถามวังจีโฮห้วนๆ

“ฉันติดธุระ”

วังจีโฮที่กำลังจ้องหน้าฉัน เผยแววตาเป็นประกายทันที แต่ฉันแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

ในวันเอพริลฟูลอันวุ่นวายที่กำลังจะมาถึง ฉันวางแผนจะกอบโกยให้อิ่มหนำ

‘ได้ทั้งช่วยชีวิตคนและเก็บกวาดขยะที่ชเวย็อนทึกเหลือทิ้งไว้ในคราวเดียว… ใครไม่เอาก็บ้าแล้ว’

ถึงจะน่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้แผลงฤทธิ์ของห้องศูนย์ได้เหมือนรุ่นพี่ปีก่อนๆ

แต่มันคือเอพริลฟูลที่คุ้มค่าสำหรับฉัน

MasterGU.edited = ช่วงเข้า->ช่วงเช้า, ไทยมุง->เกาหลีมุง, คืนส่วนสูง->คือส่วนสูง, อะไรไม่->อะไรไม่ออก

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset