📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 191

บทที่ 191
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ระบบพรคุ้มครองของโลกนี้ค่อนข้างพิเศษ

พรคุ้มครองหมายถึงการฝัง ‘ตัวตน’ ของเบื้องบน หรือเผ่าแท้ในเทพนิยาย หรือเผ่าแท้ในตำนานให้กับเป้าหมายภายใต้ความยินยอมของทั้งสองฝ่าย

ส่งผลให้สิ่งที่มีชีวิตระดับสูงที่มิอาจแทรกแซงโลกโดยตรง สามารถเปลี่ยน ‘ตัวตน’ นามธรรมให้กลายเป็นรูปธรรม แล้วสำแดงพลังผ่านพรคุ้มครอง

มีเบื้องบนและเผ่าแท้จำนวนมากยินดีที่จะแจกจ่ายพรคุ้มครอง เนื่องจากพลังของพวกตนมิได้ลดลง อีกทั้งยังสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ฝ่ายเดียวได้เรื่อยๆ

แต่แน่นอนว่ามีความเสี่ยง

หากมอบพรคุ้มครองที่ใหญ่เกินกว่าภาชนะจะรับไหว ร่างกายและจิตใจของทั้งผู้รับและผู้ให้อาจพังทลาย

เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ฝ่ายให้และฝ่ายรับจึงต้องยินยอมพร้อมใจก่อนมอบพรคุ้มครอง

“พอได้ยินว่าเซอึมจะกลับไปเรียน ฉันอยากช่วยเหลือเขา ก็เลยแนะนำเผ่าแท้ที่รู้จักให้”

ภายในเกม ซาวอลเซอึมไม่มีพรคุ้มครอง

แต่ในตอนที่ได้เจอกันอีกครั้งในวันเอพริลฟูล ฉันพบว่าซาวอลเซอึมมีพรคุ้มครองของเผ่าระกา

เป็นพรคุ้มครองที่ทรงพลังจนแม้แต่วังจีโฮยังแอบเป็นกังวล

‘ไหนลองดูอีกที’

ตอนนี้ซาวอลเซอึมกำลังเม้มปากแน่น ดูเหมือนจะไม่พอใจที่ถูกซาวอลเซมินห้ามเรียกโอเยจองว่าอาสะใภ้

ขณะมองอีกยืนฟังเทศนาแบบขอไปที ฉันเปิดหน้าต่างเมนูพิเศษ

〈เรียกดูข้อมูลตัวละคร ‘ซาวอลเซอึม’ 〉

[ชื่อ] ซาวอลเซอึม

[สมญา] ทายาทของผู้ส่งสารแห่งปัจฉิมราชวงศ์, ปีหนึ่งโรงเรียนมัธยมปลายแสงเงิน

[พรคุ้มครอง] คำแนะนำจากเผ่าระกา ‘เรียกหาข้าเมื่อเจ้าต้องการบิน’

ไม่ผิดจากที่เคยเห็น เขามีพรคุ้มครองที่ไม่มีในเกม

‘เผ่าระกามีส่วนร่วมกับเส้นเรื่องก็จริง แต่เบาะแสน้อยเกินกว่าจะนำมาตัดสิน’

แม้จะลองนึกทบทวนเหตุการณ์ในเกม และลองเช็กรายละเอียดด้วยตาตัวเองแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่พบคำตอบ

จึงหันไปถามโอเยจองโดยตรง

“เป็นเผ่าไหน เชื่อใจได้ไหม”

“ไก่ขาวแห่งเผ่าระกา… ต้นตระกูลเผ่าระกาผู้ป่าวประกาศการถือกำเนิดของคิมอัลจี—ต้นตระกูลของราชวงศ์กเยริม… ตำนานกล่าวไว้ว่า ไก่ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้คือผู้แจ้งให้พระเจ้าทัลแฮทราบถึงตำแหน่งของหีบทองคำที่บรรจุทารกคิมอัลจีไว้… เมื่อย่างเข้าสู่รัชสมัยของราชวงศ์กเยริม ไก่ขาวได้กลายเป็นเผ่าแท้และดำรงชีวิตเรื่อยมา”

(เกร็ดเสริม – คิมอัลจีถือเป็นต้นตระกูล ‘คิม’ ของชาวเกาหลี ถูกพระเจ้าทัลแฮเก็บมาเลี้ยงในวังตั้งแต่ยังเป็นทารก พระองค์ชอบใจทารกคนนี้มาก จึงมอบนามสกุล ‘คิม’ ที่แปลว่าทองเนื่องจากถูกพบในหีบทองคำ; ในภายหลังลูกหลานของคิมอัลจีนามว่า ‘คิมมีชู’ ได้ขึ้นครองราชย์ในฐานะ ‘พระเจ้ามีชู’ และถือเป็นทายาทสกุลคิมคนแรกที่ได้ครองบัลลังก์; พระเจ้ามีชูได้ประกาศเปลี่ยนชื่ออาณาจักรและชื่อราชวงศ์เป็น ‘กเยริม’ ตามชื่อของป่าที่พบหีบทองคำบรรจุทารกคิมอัลจี)

กเยริมคืออีกชื่อหนึ่งของชิลลา และสัตว์นำโชคของอาณาจักรชิลลาก็คือไก่

เผ่าระกาที่มอบพรคุ้มครองให้ซาวอลเซอึมมิได้มีจุดเริ่มต้นหวือหวาเหมือนกับเผ่าเสือ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในเทพนิยายสร้างชาติ จึงถูกยกย่องในระดับเทพนิยายเผ่าระกา

พอได้ยินคำว่าไก่ศักดิ์สิทธิ์ ฉันพยักหน้ารับอย่างเป็นธรรมชาติ

“ถ้าเป็นไก่ขาวที่อยู่มาตั้งแต่ยุคกเยริม ก็คงไว้ใจให้ดูแลซาวอลเซอึมได้”

“หืม… เปลี่ยนสีหน้าทันทีเลยนะ เมื่อสักครู่ยังกังขาอยู่เลยไม่ใช่หรือ”

“ไก่ศักดิ์สิทธิ์ถูกยกย่องว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอันทรงเกียรติอย่างยาวนานจนถึงปัจฉิมราชวงศ์ เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถทำนายการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ได้แม่นยำ”

“ข้อมูลแน่นปึ๊ก…”

“ปัจฉิมราชวงศ์ยังใช้ไหทองเหลืองที่สลักลวดลายไก่ บรรจุน้ำอัมฤทธิ์สำหรับใช้ในพิธีเซ่นไหว้บรรพชน”

เผ่าระกาอาจมีบทบาทน้อยในเกม แต่ตามตำนานแล้วเป็นเผ่าแท้ที่คอยปกป้องมนุษย์มาเนิ่นนาน อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับปัจฉิมราชวงศ์

อย่างน้อยก็ในกรณีของซาวอลเซอึม

“ถูกต้อง เผ่าแท้ที่ฉันแนะนำอาจไม่แข็งแกร่งเท่าเผ่ามังกร แต่ก็ซื่อสัตย์ต่อปัจฉิมราชวงศ์มาก… อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะมีชีวิตอยู่มานาน นิสัยในบางแง่มุมจึงค่อนข้างพิสดาร เป็นพวกชอบหลับตาพุ่งชนเป้าหมายเวลาสติแตก นั่นคือประเด็นที่ฉันยังกังวล”

คิมอัลจี—ต้นตระกูลของราชวงศ์กเยริม ลืมตาดูโลกครั้งแรกเมื่อราวสองพันปีก่อน สมัยที่พระเจ้าทัลแฮเพิ่งครองบัลลังก์ได้ไม่นาน

…อายุแค่สองพันปีนี่เรียกว่า ‘อยู่มานาน’ ได้แล้วหรือ

ฉันอยากเห็นสีหน้าของโอเยจองในตอนที่ทราบอายุจริงของนักเรียนห้อง 1/0

“คุณกังวลว่าเผ่าระกาจะแทรกแซงโลกมากเกินไป?”

“ใช่ แม้ว่าน้องสามีจะแข็งแกร่ง แต่พรคุ้มครองที่เขาได้รับมันยิ่งใหญ่เกินไปจนน่ากังวล… หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เกรงว่าเผ่าระกาคงกุลีกุจอไปถึงเขตอึนกวางแล้วก่อความวุ่นวาย… แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว”

ถ้าพูดถึงขนาดนั้น เราสามารถอนุมานได้ว่าไก่ขาวแห่งเผ่าระกา เป็นพวกหัวรุนแรงยิ่งกว่าโอเยจองเสียอีก

…ชักเป็นห่วงความปลอดภัยซาวอลเซอึมแล้วแฮะ

“จะช่วยดูให้นะครับ”

“ฝากด้วยนะ ฉันคงออกไปไหนไม่ได้ถ้ายังไม่ได้แต่งงานกับคุณเซมิน… ตาแก่นั่นอาจสร้างเรื่องปวดหัวเป็นพักๆ”

ขณะพูด โอเยจองมองหน้าซาวอลเซมินอย่างมีความสุข

คงสัมผัสถึงสายตาได้ ฝ่ายหลังมองกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ

สองคนนี้ชอบพอกันแน่นอน และตัวละครของฉันอย่างซาวอลเซอึมกับโอเยจี ก็คงอยากเห็นโอเยจองมีความสุข ดังนั้นฉันจะเอาใจช่วยเธออีกแรง

ผ่านไปไม่กี่นาทีหลังจากเดินตามซาวอลเซมินที่เริ่มใจเย็นลง ซาวอลเซอึมกล่าวอย่างร่าเริง

“ห้องของฉันอยู่ทางนั้น เดี๋ยวจะไปเปิดประตูให้นะ!”

ผนังและประตูห้องของซาวอลเซอึมทำจากกระดาษในกรอบไม้ มองผิวเผินอาจดูเหมือนความปลอดภัยต่ำ แต่อักขระบาเรียที่สลักอยู่ตรงห่วงประตูช่วยให้ดูอุ่นใจขึ้นมาก

วาบ!

คลื่นพลังวิเศษของซาวอลเซอึมตอบสนองกับบาเรียที่ห่วงประตู จนมีแสงสว่างแผ่ออกมา

เมื่อแสงหายไป ประตูห้องเปิดออกด้วยตัวเองราวกับกำลังทักทายผู้มาเยือน

ได้เห็นภายในห้องที่คล้ายกับหลุดมาจากฉากในละครย้อนยุค ฉันผงะทันที

เนื่องจากมี ‘คำนั้น’ ถูกแปะอยู่เต็มผนัง

[จอมโจรผาแดงผู้ทำลายมายาเกต ได้ส่งทรัพย์สินทางวัฒนธรรมคืนให้กับรัฐบาล!]

[ตัวแทนองค์กรอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมกล่าวว่า ‘ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง’ เพื่อเชิดชูวีรกรรมอันน่าชื่นชมของจอมโจรผาแดงผู้เปิดโปงงานประมูลมายา!]

[จอมโจรผาแดงคือใครกัน?]

ได้เห็นพาดหัวข่าวที่ตัดมาจากหนังสือพิมพ์ สมองของฉันเริ่มปั่นป่วนอีกครั้ง

ซาวอลเซอึมกล่าวอย่างไร้เดียงสาโดยไม่สังเกตเห็นความทุกข์ทรมานในตัวฉัน

“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเคยพาเพื่อนมาที่บ้าน… ต้องทำยังต่อหรือครับ”

“เตรียมชากับผลไม้มาเสิร์ฟ”

“จริงด้วย!”

ซาวอลเซอึมรีบบินออกไปเตรียมชา

ชาตังกุยที่ชงจากผงรากสนบดและน้ำผึ้ง ชาตังกุยขาวจะเสิร์ฟเย็น ส่วนตังกุยแดงเสิร์ฟร้อน

ผลไม้ที่ถูกเสิร์ฟคู่กับชา คือลูกพลัมตามฤดูกาลที่ดูเหมือนจะหวานเป็นพิเศษเนื่องจากมีน้ำตาลขาวโรยหน้า

เมื่อน้ำชาและผลไม้ถูกยกเข้ามา ฉันเริ่มแนะนำตัวเองแม้จะสายไปสักนิด

“ขอแนะนำตัวนะครับ ชื่อของผมคือ…”

ฉันกล่าวแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการในฐานะโชอึยชิน

แนะนำตัวเสร็จ โอเยจองเริ่มเล่าเรื่องราวของตนให้ฟัง

เธอเล่าอย่างกระชับ เริ่มจากเรื่องที่เคยพังงานหมั้นของตัวเองซึ่งเธอนิยามมันว่า ‘พิธีประสาทแดก’ และชีวิตหลังจากนั้นจนกระทั่งได้เจอกับพวกเรา

หลังจากกล่าวขอบคุณฉันอีกครั้ง โอเยจองเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“รู้จักน้องสาวฉันไหม โอเยจี อยู่ปีสามโรงเรียนแสงเงิน”

“เคยเจอกันตอนแข่งทัวร์นาเมนต์มากรุก แล้วก็เคยเป็นหนี้บุญคุณในเหตุการณ์บนเรือคีโมโพลียาครับ”

“เล่าเรื่องของเยจีให้ฟังหน่อยสิ น้องสามีแทบไม่มีโอกาสได้คุยกับเธอเลย”

ฉันเริ่มเล่าความเกี่ยวข้องทั้งหมดระหว่างตัวเองกับโอเยจี

พอเล่ามาถึงคีโมโพลียา โอเยจองเปิดปากอีกครั้งหลังจากเงียบฟังมานาน

“…ไอ้พวกตาแก่วิปริตนั่นคิดจะจับคู่ซูย็อกกับเยจี?”

เธออนุมานเอาเองจากคำบรรยายเพียงไม่กี่คำ ขณะฉันเล่าถึงสถานการณ์ขณะขึ้นเรือคีโมโพลียาพร้อมกับจูซูย็อก

ลางสังหรณ์ดียังกับผี

โดยไม่รอให้ฉันตอบ โอเยจองที่มั่นใจ ทำหน้าบูดพร้อมกับเดาะลิ้น

“ชิ! พวกตาแก่เวรนั่นไม่ได้รับบทเรียนเลยหรือไง… ถ้าเกิดอะไรขึ้นต้องรีบบอกฉันทันทีเลยนะ!”

“เอ่อ… ฉันก็อยากมีช่องทางติดต่อกับเธอด้วยเหมือนกัน”

หลังจากแลกเปลี่ยนรหัสดีไวซ์ เรายังคงสนทนากันต่อ

เมื่อฉันเล่าว่าจูซูกย็อมบาดเจ็บจากการปกป้องโอเยจีในรอยแยกต่างมิติ โอเยจองเผยสีหน้าซับซ้อนพร้อมกับรัวยิงคำถามโuเวลฺกูดoทคoม

“…จูซูกย็อมทำเรื่องแบบนั้นจริงหรือ หมอนั่นเป็นมนุษย์ตั้งแต่เมื่อไร… ไม่ได้จำผิดแน่นะ?”

“ครับ ผมเห็นแพทย์ประจำเรือรีบรักษาเขาทันทีที่ออกจากรอยแยก รุ่นพี่โอเยจีก็ทำหน้าเป็นกังวลมากเลย”

ขณะโอเยจองขมวดคิ้ว

กริ๊ง!

เสียงกระดิ่งกระจ่างใสดังมาจากที่ใดสักแห่ง

หันไปตามต้นเสียง ฉันเห็นเงาของนกคาบกระดิ่ง ปรากฏอยู่บนประตูกระดาษ

“คงจะเตรียมอาหารเสร็จแล้ว ไปกันเถอะ!”

เมื่อซาวอลเซอึมเปิดประตูกระดาษ เราสี่คนเห็นนกตัวหนึ่งกำลังกระพือปีกโดยคาบกระดิ่งไว้ในจะงอยปาก

นกบินวนรอบเด็กหนุ่มแล้วเริ่มกระพือปีกนำทาง

“ทางนั้นมัน… ป่าสนลึกสินะ… แปลกมากเลย ปกติพวกผู้ใหญ่ไม่ค่อยเชิญใครไปแถวนั้น!”

“ดูเหมือนท่านอาวุโสจะให้เกียรติแขกกิตติมศักดิ์ของเรามากทีเดียว”

ขณะเคอะเขินกับคำว่าแขกกิตติมศักดิ์ ฉันมองเข้าไปในป่าสนสองข้างทางโดยไม่พูดไม่จา

มองผิวเผินอาจดูเหมือนกับป่าที่ไม่มีทางเดิน แต่ยิ่งก้าวไปตามเส้นทางที่นกบินนำ ทิวทัศน์ของทางเดินอันงดงามก็ยิ่งเผยตัวออกมา

หลังจากเดินผ่านป่าสนอยู่สักพัก หลังคาศาลาเริ่มมองเห็นอยู่รำไร

กริ๊ง กริ๊ง

ราวกับเป็นการอำลา นกนำทางสั่นกระดิ่งสองหนแล้วบินหายไปในทิศทางที่เจ้าถิ่นยืนรอต้อนรับอยู่

ภายในศาลาโอ่โถง สี่บุคคลแต่งกายด้วยชุดฮันบกกำลังมองมาทางพวกเรา

บนใบหน้าสงบนิ่งของสี่อาวุโส ล้วนมีเค้าโครงของซาวอลเซอึมปรากฏอย่างเลือนราง

อาวุโสสี่คนแบ่งออกเป็นสองคู่

หนึ่งคู่รักวัยชรา และหนึ่งคู่รักวัยกลางคน

“นี่คือคุณพ่อคุณแม่ และคุณปู่คุณย่าของฉันเอง”

ไม่นานหลังจากซาวอลเซอึมกระซิบ ทั้งสี่ก้มศีรษะคำนับฉันอย่างนอบน้อม

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับผู้มีพระคุณของตระกูลเรา”

แม้จะอึดอัดที่ถูกคนแก่คำนับให้ แต่ฉันรีบตั้งสติแล้วทักทายกลับไปด้วยความนอบน้อมสูงสุด

“ขอบคุณที่ให้เกียรติผมขนาดนี้นะครับ ผมแค่ทำในสิ่งที่ต้องทำ ได้โปรดเงยหน้าขึ้นด้วย”

“ในฐานะเจ้าบ้านและอดีตเจ้าบ้านของตระกูลเซอึม เป็นธรรมดาที่เราจะทักทายผู้มีพระคุณอย่างสมเกียรติ”

แม้จะไม่มี ‘คำนั้น’ หลุดออกมา แต่ฉันรู้สึกจั๊กจี้เพราะคำเยินยอจากพ่อแม่และปู่ย่าของซาวอลเซอึม

“ผมเป็นเพียงเพื่อนร่วมชั้นของซาวอลเซอึม ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยมองผมแบบนั้นด้วยนะครับ”

“อึยชิน…”

ซาวอลเซอึมมองหน้าฉันอย่างซาบซึ้ง

อาวุโสทั้งสี่เงยหน้ามองด้วยความพึงพอใจ

“ผู้มีพระคุณของเรา… ไม่สิ เพื่อนร่วมชั้นของเซอึมเป็นเด็กดีจริงๆ”

“ถึงจะได้ยินจากมาเซอึมแล้ว แต่พอได้เห็นด้วยตาก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นเด็กดีมีคุณธรรม”

ขณะฉันนั่งลงท่ามกลางคำสรรเสริญจากพวกเขา

เหล่าอาวุโสหันไปพูดกับโอเยจองที่ตัวติดกับซาวอลเซมิน

“ว่าที่ลูกสะใภ้ก็มาด้วยสินะ”

“น้องสะใภ้มาด้วยหรือ”

โครม!

ซาวอลเซมินเผลอใช้เข่ากระแทกโต๊ะตอนกำลังจะนั่ง

“เซมิน เป็นอะไรไหม”

“ผ…ผมไม่เป็นไรครับ คุณพ่อ… พี่… ทำไมถึงเรียกคุณเยจองแบบนั้นกันล่ะ”

ได้ยินคำถามซาวอลเซมิน บรรดาอาวุโสทำหน้าไม่เข้าใจ

“หืม… คงอยากให้เรียกลูกสาวไปเลยสินะ”

“ถ้าไม่อยากให้เรียกว่าน้องสะใภ้… งั้นฉันเรียกว่าน้องสาวก็แล้วกัน”

ในบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่ข้างซาวอลเซมินเลยสินะ

* * *

ชั้นบนสุดของโรงพยาบาลวังมยอง, วอร์ดสำหรับเพลเยอร์

นักเรียนโรงเรียนแสงเงินออกจากโรงพยาบาลไปหมดแล้ว เหลือเพียงคิมยูรีบนเตียงคนไข้

“วันนี้เป็นยังไงบ้าง”

“ก็เหมือนทุกที… ขอโทษที่ต้องรบกวนทุกวันเลยนะ…”

“ที่จริงไม่ต้องมาทุกวันก็ได้ แต่อีกเดี๋ยวฉันจะไม่ว่างแล้ว เลยอยากตรวจสอบความเรียบร้อยให้ถี่ถ้วนด้วยตัวเอง”

…แล้วมันต่างกันตรงไหน

คิมยูรีที่คิดแบบนั้น มองวังจีโฮซ่อมบาเรียด้วยใบหน้ารู้สึกผิด

‘จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้… ถ้าเรายังเอาแต่ฝืนยับยั้ง สักวันต้องทำให้คนอื่นบาดเจ็บแน่’

คิมยูรีตัดสินใจยอมรับการมีอยู่ของแสงประทาน

แต่แค่นั้นยังไม่พอ

‘เราต้องควบคุมมันให้ได้’

เธอระลึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งถูกเผ่าผีเสื้อถอนพรคุ้มครอง

…หล่อนเข้าหาเราโดยมีผลประโยชน์แอบแฝง

คิมยูรีไม่รู้ว่าเผ่าผีเสื้อเล็งอะไรไว้ แต่แค่นึกถึงเหตุการณ์บนเกาะซอกโมก็ทำให้เธอขนลุก

เธออยากแข็งแกร่งกว่านี้ ก่อนที่จะถูกความกลัวอันคลุมเครือบดขยี้จนคนรอบข้างได้รับอันตราย

‘เราต้องตั้งใจศึกษาเกี่ยวกับเบื้องบนและแสงประทาน…’

บุคคลที่คิมยูรีอยากขอคำแนะนำ คือครูฮัมกึนยองและรุ่นพี่อูซังฮี

แต่อูซังฮีกำลังวุ่นวายอยู่กับการวางแผนอนาคต และฮัมกึนยองก็มีงานล้นมือไม่ต่างกัน

ในกรณีของฮัมกึนยอง ภาระงานของเขาเยอะขึ้นเนื่องจากต้องช่วยปกปิดคดีให้คิมยูรีด้วย

…ถ้าสองคนนั้นไม่ว่าง ก็เหลือแค่ทางเลือกเดียว

คนที่รู้เรื่องแสงประทานของคิมยูรี และสามารถสร้างบาเรียที่แข็งแกร่งพอจะยับยั้งอำนาจดังกล่าว

เสือเหลือง

“จีโฮ… ฉัน… อยากทำอะไรสักอย่างกับแสงประทานของตัวเอง…”

เสือเหลืองตอบขณะซ่อมบาเรีย

“คงไม่ได้คิดที่จะรับพรคุ้มครองอันใหม่ใช่ไหม… ไม่ว่าพวกนั้นจะหว่านล้อมด้วยคำพูดสวยหรูแค่ไหน แต่ผลลัพธ์อาจไม่งดงามตามที่พูด”

สิ้นคำดังกล่าว เบื้องบนรอบตัวคิมยูรีต่างพากันส่งเสียง

ส่วนใหญ่เป็นการบอกให้รับพรคุ้มครองไปจากตน

ตอนนี้ไม่มีตราผนึกแสงประทานเหมือนกับเมื่อครั้งที่ได้รับพรคุ้มครองจากเผ่าผีเสื้อ และเนื่องจากใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาสักระยะแล้ว เสียงของพวกเขาจึงชัดถ้อยชัดคำขึ้นมาก

“ฉันว่าจะอยู่ห่างจากพรคุ้มครองไปอีกสักพัก”

เพราะเธอได้เห็นเต็มสองตาแล้วว่า เผ่าแท้ผู้งดงามที่คอยให้กำลังใจตนด้วยเสียงอ่อนหวาน แท้จริงแล้วมีพฤติกรรมเลวทรามเช่นไร

“ฉันอยากควบคุมพลังนี้ ไม่ใช่สะกดมันไว้”

“ไม่ง่ายหรอกนะ”

“แต่ถ้ามันพอจะมีวิธี ฉันก็อยากทำด้วยตัวเอง”

เสือเหลืองยังไม่ตอบ เพียงก้มหน้าครุ่นคิด

ในห้องคนไข้อันมืดมิด บาเรียที่เสือเหลืองกางย้อมสีดวงตาของเขาจนกลายเป็นทองอร่าม

“เข้าใจแล้ว ฉันจะแนะนำหัวหน้าคนทรงของเราให้”

“ขอบคุณนะ!”

“ครั้งถัดไป หัวหน้าคนทรงจะมาที่นี่แทนฉัน”

“อื้อ!”

หลังจากขอบคุณอีกฝ่ายหลายหน คิมยูรีถามเสียงเบา

“ขอถามอีกสักเรื่องได้ไหม”

“ลองว่ามา”

เสือเหลืองผงกศีรษะรับ

สื่อเป็นนัยว่าขึ้นอยู่กับคำถาม

“…อึยชินกับจีโฮเป็นมนุษย์หรือเปล่า”

ความซุกซนเลือนหายไปจากใบหน้าเสือเหลืองชั่วขณะ

คิมยูรีกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เนื่องจากตอนนี้เธอไม่สามารถบอกอายุของเพื่อนร่วมห้องที่เห็นหน้ากันเป็นประจำ

“โชอึยชินเป็นมนุษย์”

วังจีโฮตอบแค่นั้นแล้วก็หายตัวไปจากห้องคนไข้

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset