[มินกือริน] (ลิงก์)
[มินกือริน] นี่เป็นเว็บแอปฯ ที่แดซอกพัฒนาขึ้น พอคุณปู่ซงเอาไปให้เพื่อนที่สมาคมดู มันก็ถูกปิดกั้นการเข้าถึงทันที
ปิดกั้นการเข้าถึง?
เมื่อกดลิงก์ที่มินกือรินส่งมา ฉันเห็นโลโก้ของสมาคมเพลเยอร์พร้อมกับข้อความ ‘หน้าเว็บนี้ถูกปิดกั้นการเข้าถึง’
เป็นข้อความที่จะปรากฏก็ต่อเมื่อสมาคมใช้อำนาจปิดกั้นหน้าเว็บบางแห่ง
‘แปลว่าในหน้าเว็บมีข้อมูลที่สมาคมอยากควบคุม…’
ฉันเดาไม่ออก เพราะในเกมไม่เคยเกิดเรื่องทำนองนี้
[มินกือริน] คุณปู่ซงได้รับโทรศัพท์และออกเดินทางไปที่สมาคมแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย
[มินกือริน] ฉันติดต่อพ่อแม่ของแดซอกที่ตามไปทีหลังไม่ได้เหมือนกัน
[มินกือริน] จากนั้นไม่นานก็มีสัญญาณแจ้งเตือนรอยแยกในตำแหน่งของพวกนาย และแดซอกก็ไม่อ่านข้อความอีกเลยนับตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น…!
เท่าที่ฟังดู มินกือรินคงไม่ได้นอนสักงีบนับตั้งแต่สายวิดีโอคอลกับควอนเลนาขาดไปกะทันหัน
แม้ฉันจะสนใจเว็บแอปฯ ของซงแดซอก แต่อันดับแรกต้องปลอบมินกือรินให้ได้ก่อน
‘สถานการณ์ของแดซอกไม่สู้ดีก็จริง แต่ถ้าปิดเอาไว้ก็จะยิ่งสร้างความกังวล’
ฉันตัดสินใจเลือกบอกเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น เพื่อปลอบประโลมมินกือรินโดยไม่โกหก
ด้วยความคิดแบบนั้น ข้อความค่อยๆ ถูกเขียน
[ฉัน] ได้ยินว่าเขากับคิมยูรีต้องตรวจร่างกายกันอีกนาน น่าจะช้ากว่าพวกฉันมาก
[มินกือริน] ยูรีด้วยหรือ
[มินกือริน] ถึงว่าทำไมยูรีก็ไม่ตอบเหมือนกัน… ตอนแรกคิดว่ายุ่งเพราะเป็นหัวหน้าห้อง อาการของพวกเขาไม่ค่อยดีหรือไง
[ฉัน] ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน บ้าน?
[มินกือริน] ใช่ อยู่กับอาจารย์
โล่งอกไปที
ถ้าอยู่กับฮงคยุงบ๊ก เขาจะปลอบเธอได้ดีโดยไม่ปล่อยให้มินกือรินทำอะไรเกินตัว
การที่เธอไม่รีบร้อนไปโรงพยาบาลและยังอยู่บ้านส่งข้อความอย่างใจเย็น คงเป็นคำแนะนำของฮงคยุงบ๊กเช่นกัน
“นี่”
“ว่าไง”
“มินกือรินติดต่อมา ถามว่าจะเยี่ยมซงแดซอกได้เมื่อไร”
“มินกือริน? อ๋อ เธอคงกังวลที่ติดต่อซงแดซอกไม่ได้ แต่วันนี้ยังไม่อนุญาตให้เยี่ยมไข้ แม้แต่ครอบครัวก็ห้าม”
“ทำไมล่ะ อาการแย่ขนาดนั้นเชียว”
“ส่วนหนึ่งเพราะเขายังหมดสติ อีกส่วนคือผู้นำเผ่ากวางอยากเข้าไปเก็บตัวอย่าง ทางเราอนุญาตให้เขาลอบเข้าไปในวอร์ดได้ตอนกลางคืน… ถ้าเจ้านั่นได้ศึกษาตัวอย่างจากมนุษย์ที่ได้รับพิษโดยตรง การวิจัยยาถอนพิเศษวิเศษอาจมีความคืบหน้า”
ผู้นำเผ่ากวาง
…พวกผู้นำเผ่าแท้ชอบลงมือด้วยตัวเองกันหรือไง
“อูซังฮีถูกนัดให้มารักษาในตอนเช้า ดังนั้นควรรอให้คนไข้อาการดีขึ้นก่อนค่อยเข้าเยี่ยมจะดีกว่า… เอาเป็นช่วงเที่ยงวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน นัดเพื่อนในห้องมาพร้อมหน้าเลยก็ได้”
ตามปกติแล้ว เพื่อนร่วมชั้นที่ไม่ใช่ครอบครัว จะแทบไม่มีสิทธิ์ได้เยี่ยมคนป่วยอาการหนัก
แม้นบทสรุปเช่นนี้จะไม่ช่วยขจัดความกังวลของมินกือริน แต่ถือว่าวังจีโฮช่วยเหลือเท่าที่ทำได้แล้ว
[ฉัน] พรุ่งนี้ไปเยี่ยมเขาด้วยกันเถอะ วังจีโฮช่วยนัดเยี่ยมกับโรงพยาบาลให้แล้ว
[มินกือริน] วังจีโฮ?
[มินกือริน] อ้อ… ญาติของท่านประธานมูลนิธิวังมยอง
มินกือรินคงลืมไปชั่วขณะว่านักเรียนสุดเพี้ยนในห้องมีภูมิหลังยิ่งใหญ่แบบนั้น
เมื่อรู้ว่าจะได้เจอซงแดซอกพรุ่งนี้ เธอดูสงบลงทันที
[ฉัน] ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ
[มินกือริน] เจอกันพรุ่งนี้
[ฉัน] ถ้ามีเรื่องอะไรอีกก็ติดต่อมาได้
หลังจากส่งข้อความ พวกเราเริ่มเตรียมมื้อเย็นระหว่างรอให้เสือแดงกับคิมชินรกคุยกันเสร็จ
แบคโฮกุนกับยงเจกอนเดินไปเลือกเครื่องดื่มจากคลังเหล้าด้วยตัวเอง ส่วนวังจีโฮรับหน้าที่เตรียมอาหาร
“เผ่ามังกรคนนั้นเป็นเพื่อนของชินรกอปป้าหรือคะ? แถมยังเป็นผู้ช่วยครูประจำชั้นของอึยชินอปป้ากับท่านเสือเหลืองด้วย เขาเป็นใครหรือ”
“ข้าถ่ายรูปได้ไหม”
“วันนี้มีแขกเยอะแยะเลย! เราไปช่วยท่านเสือเหลืองเตรียมอาหารดีไหม”
“ไม่ได้เจอกันนาน ฉันมีเรื่องอยากคุยกับพวกเธอเพียบเลย… จริงสิ เกี่ยวกับเกมที่พวกเธอเล่นกับวิญญาณภูเขาเมื่อวันก่อนน่ะ…”
งานของฉันในการเตรียมมื้อเย็น คือการทำให้สามพี่น้องเสือเงินอยู่นิ่งๆ
—เจ้ามังกรรักสนุกจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่ฉันไม่อยากสร้างภาระให้ท้องไส้ของเสือแดงที่บาดเจ็บ และโชอึยชินที่สูญเสียพลังวิเศษไปมาก
—จงอยู่ในห้องนั่งเล่นแล้วชวนลูกหลานเสือเงินคุย
ถึงวังจีโฮจะไม่ได้พูดตรงๆ แต่ก็เข้าใจความหมายได้ไม่ยาก
…ทักษะการทำอาหารของพวกเด็กๆ ยังพังพินาศเช่นเคยสินะ
ระหว่างกอดเจ้าบ่วงในอ้อมแขน พลางพูดคุยกับลูกหลานเสือเงินทั้งสามโดยมีวิญญาณภูเขาลอยเป็นฉากหลัง ไม่นานท้องฟ้าก็มืดสนิท
ขณะท้องเริ่มหิว
บ๊อก!
“ท่านเสือแดง! พี่ชินรก!”
ในทิศทางของเสียงหมาเท่า สองพ่อลูกกำลังเดินตรงเข้ามา
เสือแดงทำหน้ามีความสุข
เป็นสีหน้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อนทั้งในเกมหรือโลกนี้
‘…เสือแดงทำหน้าแบบนี้ก็เป็นแฮะ’
ในทางกลับกัน ใบหน้าคิมชินรกเผยความอ่อนเพลีย ศีรษะก้มต่ำเล็กน้อย
“ชินรก ได้คุยกันดีๆ หรือยัง”
“…”
คิมชินรกเมินเฉยรอยยิ้มของยงเจกอน
เป็นเสือแดงที่หันมาพูดกับยงเจกอน
“ข้ากับลูกชายติดหนี้บุญคุณท่านหลายเรื่อง ขออภัยที่เพิ่งทักทายเอาป่านนี้”
“พวกเราอยู่ด้วยกันตั้งแต่ค่ายยุวชนเริ่ม ก็ถือว่าทักทายช้าจริงๆ นั่นแหละ… ชินรก รู้อะไรไหม ท่านเสือแดงเป็นห่วงเจ้ามากจนไม่ได้คุยกับข้าเลยสักคำเดียว”
เสือแดงไม่ปฏิเสธคำพูดยงเจกอน
สองเผ่าแท้ต่างนึกถึงช่วงเวลาอันน่ากระอักกระอ่วนจนแทบหายใจไม่ออกขณะคอยคุ้มกันคิมชินรก
เมื่อตระหนักว่าทั้งคู่อึดอัดแค่ไหนในยามเฝ้าคุ้มกันตน ใบหน้าคิมชินรกเริ่มกลับมาแดงอีกครั้ง
“มื้อเย็นเสร็จแล้ว เชิญ”
วังจีโฮที่สวมผ้าเปื้อนทับ ปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้ม
ถอดผ้ากันเปื้อนออก เขาเดินไปนั่งในตำแหน่งหัวโต๊ะหลังจากคนอื่นทยอยนั่ง
“ข้าทำเองกับมือ กินกันเยอะๆ ล่ะ”
อาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดที่สาวใช้อัตโนมัติยกเข้ามา ล้วนเป็นโทนสีแดง
ประหนึ่งเมนูเฉลิมฉลองการกลับมาคืนดีของสองพ่อลูกก็มิปาน
ปูอลาสก้าแดงท็อปด้วยคาเวียร์
ไข่ปลาสีแดงและสีทอง
หอยเป๋าฮื้อตุ๋นน้ำปลา
แต่ละคอร์สเสิร์ฟมาพร้อมสาโทแดง ผลซันซูยู และผลโอมีจาบดแห้ง
เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างลูกหลานเสือเงินได้กินชาเย็น ส่วนผู้ใหญ่ได้ดื่มแอลกอฮอล์
‘คุยกันได้สักที…’
ระหว่างมื้ออาหาร เสือแดงกับคิมชินรกแลกเปลี่ยนบทสนทนาด้วยอาการเคอะเขิน
ลูกหลานเสือเงินที่ไม่รู้ประสา ชวนเสือแดงกับคิมชินรกคุยเป็นระยะ รวมถึงแขกหน้าใหม่อย่างยงเจกอน
บรรยากาศอันชื่นมื่นช่วยยกระดับการพูดคุยระหว่างสองพ่อลูก
มองดูฉากดังกล่าว วังจีโฮจิบเครื่องดื่มพลางพึมพำ
“เยอะดี”
“อะไรเยอะ?”
“…”
วังจีโฮไม่ตอบคำถาม เพียงกวาดสายตาไปทั่วห้อง
แบคโฮกุน เสือแดง คิมชินรก ยงเจกอน อึนซอโฮ อึนอีโฮ อึนแจโฮ หรือแม้กระทั่งเจ้าบ่วงที่นั่งบนเก้าอี้เด็กติดถาดอาหารโนเวลกูดoทคฺอม
ก็เยอะจริงๆ นั่นแหละ
‘ถ้าเป็นในเกม วังจีโฮคงอยู่คนเดียว’
ผิดไปจากวิสัยปกติ วังจีโฮไม่ได้พูดอะไรมากนักระหว่างมื้อ
เพียงเขย่าแก้วพลางกวาดสายตาไปรอบโต๊ะ
ไม่นานช่วงเวลาอันแสนมีความสุขก็จบลง
ระหว่างพูดคุยไปพร้อมกับกินของว่าง นาฬิกาขยับเข้าใกล้เที่ยงคืน
ขณะลูกหลานเสือเงินเริ่มออกอาการง่วงเหงาหาวนอน ยงเจกอนลุกจากที่นั่ง
“ข้ามีมื้ออาหารที่ดี แถมยังได้เห็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อย… ถึงจะน่าเสียดายที่พลาดโอกาสนั่งเรือกับเด็กๆ ในห้อง แต่ก็ถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า”
…เขายังเสียดายที่ไม่ได้ขึ้นเรือพร้อมนักเรียนอยู่อีกหรือ
คิมชินรกขมวดคิ้วให้กับยงเจกอนที่แสดงความรู้สึก
“…รีบกลับไปได้แล้ว”
“ก็ได้ ก็ได้… ชินรก พูดจาดีๆ กับพ่อด้วยล่ะ”
“กลับไป!”
หลังจากหยอกเย้าคิมชินรก ยงเจกอนแสยะยิ้มซาบซ่านอันเป็นเครื่องหมายการค้า จากนั้นก็หันหลังกลับ
ด้วยใบหน้าที่สื่อเป็นนัยว่า ยงเจกอนเล็งเห็นบางอย่าง
คิมชินรกผู้มักอ้างเหตุผลร้อยแปดเพื่อไม่ค้างคืน แสดงเจตจำนงที่จะค้างคืนมากกว่ากลับหอ
“ถ้างั้น… ผมขอตัวกลับหอก่อน”
“อึยชินอปป้า… จะกลับหอหรือคะ”
“พี่อึยชิน… ทำไมไม่ค้างที่นี่ล่ะ”
ฉันคิดจะกลับตามยงเจกอน แต่ถูกลูกหลานเสือเงินรั้งไว้
เจ้าบ่วงรีบวิ่งเข้าไปในห้องของมัน แล้วคาบบางสิ่งออกมา
ตอนแรกนึกว่าสายจูง แต่ความจริงแล้วเป็นอย่างอื่น
บ๊อกบ๊อก!
“มันคงอยากให้เจ้าอยู่ดูตอนกินยาวิเศษของเผ่ากวาง”
หัวใจของฉันสั่นสะท้านหลังจากได้ยินคำอธิบายของแบคโฮกุน
‘ในกระเป๋าเดินทางน่าจะยังมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนอยู่… ค้างสักคืนคงไม่เป็นไร’
เจ้าบ่วงนอนหมอบตรงวงกบประตู โดยมีลูกหลานเสือเงินยืนขวางทางออกไว้
ฉันใช้เวลาไม่นานสำหรับการตัดสินใจว่าจะอยู่ค้างคืน
* * *
เครือข่ายโรงพยาบาลของวังมยองกรุปมีชื่อว่า ศูนย์การแพทย์วังมยอง
จากบรรดาทั้งหมด โรงพยาบาลวังมยองในเขตอึนกวาง มีโซนรองรับเพลเยอร์ที่ชั้นบนสุด
แต่ตอนนี้ถูกใช้เป็นที่พักฟื้นสำหรับครูและนักเรียนของโรงเรียนแสงเงินที่ได้รับอุบัติจากค่ายยุวชน
ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ผู้นำเผ่าแท้สองคนกำลังยืนคุยกันบนทางเดินวอร์ดคนไข้
“เสร็จหรือยัง”
“ขอบใจมาก! ขอบใจ! มีแม้กระทั่งข้อมูลจากผู้นำเผ่าเสือโดยตรง! ยอดเยี่ยมที่สุด!”
หัวหน้าเผ่ากวางที่อยู่ในรูปลักษณ์ของเด็ก กอดภาชนะที่เต็มไปด้วยของเหลวแช่แข็งอย่างมีความสุข
มือข้างหนึ่งยังถือเครื่องบันทึกสัญญาณชีพ ที่ใช้ขณะเสือเหลืองดื่มยาถอนพิษรุ่นทดสอบในร่างวังจีโฮ
“ถ้านำไปใช้ในจุดประสงค์อื่นนอกจากพัฒนายาถอนพิษ ข้าจะยกเลิกการค้าขายทันที”
“ไม่ต้องห่วง! ข้าจะนำไปทำอะไรได้อีก? ความสนใจในตอนนี้มีแค่เจ้าพิษนี่! รับปากได้เลย!”
ผู้นำเผ่ากวางที่เตรียมเก็บภาชนะบรรจุตัวอย่างใส่กระเป๋าเดินทาง ออกท่าทางลังเลเล็กน้อย
แหงนมองหน้าเสือเหลืองในร่างอายุหกสิบกว่า เขาไม่ต่างจากหลานชายที่กำลังอ้อนวอนขอขนม
“เสือเหลือง ข้าอยากทดสอบกับมนุษย์ด้วย… แต่เผ่ากวางไม่มีสายสัมพันธ์กับพวกเขาเลย… ครั้นจะไปจับมามั่วๆ ก็กระไรอยู่”
“ข้าจับมนุษย์มาได้สองสามคน ไว้สอบปากคำเสร็จแล้วจะส่งให้”
“จริงหรือ? ขอบใจมาก! คราวหน้าที่ซื้อยาถอนพิษ ข้าจะลดราคาให้เป็นพิเศษ!”
ได้ฟังคำตอบของวังจีโฮ ผู้นำเผ่ากวางกระโดดลิงโลด
วังจีโฮยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อพบว่าพวกครูฝึกที่พยายามวางระเบิดหลุมหลบภัย ยังมีประโยชน์ให้ใช้สอยในภายหลัง
ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา หลังจากเลขาฯ ที่มีใบหน้าคล้ายสวมหน้ากาก พาผู้นำเผ่ากวางออกจากวอร์ดคนไข้
พระอาทิตย์เริ่มสาดแสงจากเส้นขอบฟ้า
ประตูลิฟต์ที่ไม่เคยเปิดมาก่อน เปิดออกเป็นครั้งแรก
“มาเร็วจังเลยนะ”
บุคคลที่เสือเหลืองกำลังรออยู่ เผยตัวด้านหลังประตูลิฟต์
“สวัสดีค่ะ ท่านประธานวังมยองโฮ”
“อา”
บุคคลที่ขึ้นลิฟต์มาพร้อมกับเลขา ไม่ใช่ใครนอกจากมือรักษาอันดับหนึ่งของโรงเรียนแสงเงิน
ลมสลาตันรักษา อูซังฮี
“นักเรียนซังฮี เหมือนกับทุกครั้ง คราวนี้คงต้องรบกวนอีกแล้ว”
“ครูโนยองมีกับรุ่นน้องต้องบาดเจ็บเพราะกิจกรรมที่สภานักเรียนวางแผน เป็นธรรมดาที่ต้องรับผิดชอบค่ะ”
อูซังฮีตามเสือเหลืองไปบนทางเดินวอร์ดคนไข้ด้วยท่าทีนอบน้อม
“จะตอบแทนให้แน่นอน รวมถึงครั้งนี้ด้วย”
“ตอบแทน? แค่กิฟต์เซตจากจีโฮคราวก่อนก็ใช้ไม่หมดแล้วค่ะ”
เสือเหลืองอมยิ้มมุมปากด้วยใบหน้าอ่อนโยน
นี่คือบุคลิกของท่านประธานผู้เป็นห่วงเป็นใยนักเรียน
ด้วยสีหน้าดังกล่าว เสือเหลืองพูดอย่างมีเลศนัย
“กำลังเจอทางแยกในเส้นทางอาชีพสินะ… ข้อเสนอจาก TC คงยากที่จะปฏิเสธ”
“…รู้ด้วยหรือคะ”
อูซังฮีหยุดยืนทันที
สีหน้าของเธอฉาบด้วยส่วนผสมระหว่างความเหน็ดเหนื่อยและสับสน
เสือเหลืองหยุดเดินแล้วหันไปพูด
“หากปรารถนาสิ่งใดจากวังมยองกรุป อย่าได้ลังเลที่จะเอ่ยปาก… บุญคุณของเธอมีค่ามากถึงเพียงนั้น”
* * *
เมื่อตื่นจากการหลับลึกที่ไม่ฝัน ฉันพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่ปกติ
เพ่งมองทิวทัศน์ที่ไม่ใช่ทั้งหอพักรูหนู หรือหอในอันกว้างขวางด้วยความสับสนอยู่หลายวินาที ไม่นานก็เริ่มได้สติ
‘อ้อ… เมื่อคืนไม่ได้กลับหอ’
ขณะเปลือกตายังคงหนักจากการนอน
บ๊อก!
เสียงเรียกจากนางฟ้าเทวดาหรือไงนะ
พอหันไปมอง ฉันพบเจ้าบ่วงกำลังทำตัวดุกดิก
และสิ่งที่กำลังอุ้มเจ้าบ่วงอยู่…
“หลับสบายดีไหม”
แบคโฮกุน
ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแบคโฮกุนถึงเข้ามาในห้องนอนแขก รวมถึงเรื่องที่ต้องอุ้มเจ้าบ่วง
แต่ในเมื่อตัวละครของฉันถามทั้งที
“อา…”
“ร่างกายเป็นยังไงบ้าง”
“นอนหลับสนิท สดชื่นดีมากเลย”
แบคโฮกุนวางเจ้าบ่วงลงบนเตียงหลังจากได้ฟังคำตอบ
ก้อนสำลีรีบวิ่งผ่านผ้าห่มเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนฉัน
ถึงจะไม่รู้ว่าแบคโฮกุนมาทำอะไร แต่เจ้าบ่วงที่กำลังเล่นซุกซนช่วยให้ฉันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก
“มันพยายามขัดขวางไม่ให้เจ้านอน ข้าจึงต้องจับไว้”
“เจ้าบ่วง?”
…บ๊อก!
ก้อนสำลีเห่าสั้นๆ แล้วรีบเอาหน้าซุกแขนฉัน
เจ้าบ่วงพยายามขัดขวางไม่ใช่เรานอน?
มันเหงาตอนกลางดึก?
อาจเพราะฉันยังง่วง ประกอบกับการมีก้อนลำสีอยู่ในอ้อมแขน
เป็นเรื่องยากที่จะไตร่ตรองอย่างมีเหตุมีผล
“ได้ยินคำตอบจากโชอึยชินแล้วใช่ไหม… ต่อไปก็อย่ารบกวนการนอนของโชอึยชินอีก”
กล่าวจบ แบคโฮกุนหันหลังแล้วเดินออกไป
…พายุเข้าตั้งแต่เช้าเลยแฮะ