📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 179

บทที่ 179
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

บนเกาะซอกโมมีรอยแยกอยู่สามแห่ง

หนึ่งแห่งอยู่บนเกาะกีจังทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งดูแลโดยทีมของอูซังฮุน รองหัวหน้าห้อง 1/1

อีกสองแห่งอยู่บนภูเขาซังจูทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งดูแลโดยทีมของจูซูย็อก หัวหน้าห้อง 1/2

เนื่องจากห้องสองมีเด็กผู้ชายมากกว่า จูซูย็อกจึงได้รับมอบหมายให้ดูแลภูเขาซังจู

เมื่อเทียบกับเกาะกีจังที่ง่ายต่อการป้องกันเพราะมีทะเลล้อมรอบ สถานการณ์ทางฝั่งรอยแยกภูเขาซังจูจะยิ่งเสียเปรียบเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากปัญหาด้านภูมิประเทศและจำนวนรอยแยก

“ยุนซบ! ถลำลึกเกินไปแล้ว!”

“คึ่ก!”

ฉัวะ!

ก่อนที่บังยุนซบจะถูกกรงเล็บเอนามีประเภทสัตว์ร้ายเสียบร่าง ดาบคู่เล่มหนึ่งได้ฟันเป็นรอย ‘X’ ทะลุลำตัวมันไป

ต้องขอบคุณผลงานการเข่นฆ่าเอนามีอันน่าทึ่งของจูซูย็อก ปัจจุบันจึงยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนัก แต่อีกไม่นานก็คงถึงขีดจำกัด

หากคำนึกว่าเด็กพวกนี้คือนักเรียนชั้นม.ปลายปีหนึ่ง ซึ่งยังไม่เคยมีประสบการณ์การรบจริงมาก่อน และเพิ่งถูกปลุกมาสู้โดยมิได้ตระเตรียมอุปกรณ์และกลยุทธ์

ถือว่าพวกเขาทำได้ค่อนข้างดีแล้ว แต่ก็เท่านั้น

‘รอยแยกอยู่มานานเกินไป… อีกไม่นานพวกเราคงรับมือเอนามีไม่ไหว…’

จูซูย็อกอาจยังไม่เหนื่อย แต่ความผิดพลาดเริ่มเกิดกับนักเรียนคนอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะบังยุนซบ

‘เอนามีเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ … รอยแยกก็กว้างขึ้น ทางที่ดีควรรีบลงมือจู่โจม… แต่เราหาจังหวะตั้งหน่วยบุกไม่ได้เลย!’

บนภูเขาซังจูมีรอยแยกถึงสองแห่ง

เขาไม่มั่นใจว่าเพื่อนที่เหลือจะรับมือกันเองไหว ระหว่างรอให้จูซูย็อกบุกเข้าไปเคลียร์สองแยกทั้งสองตามลำพัง

“ดีไวซ์เชื่อมต่อได้หรือยัง? ดาวเทียมส่งข้อมูลอะไรมาบ้าง!”

“ตายสนิท! ยังกับดีไวซ์อยู่ในไฟลท์โหมด!” (Flight Mode)

“ถ้าเป็นไฟลท์โหมดก็ควรจะได้รับข้อมูลจากดาวเทียมสมาคมสิ…”

นักเรียนสองคนที่ได้รับมอบหมายให้เป็นพลสื่อสาร ตอบคำถามจูซูย็อกด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย พลางใช้สกิลสนับสนุนผองเพื่อนมือเป็นระวิง

‘ปัญหาไม่ได้มีแค่การสื่อสารถูกตัดขาด… น่าแปลกมากที่ยังไม่มีครูคนไหนตามมาสมทบเรา… ตรงจุดอื่นก็คงเกิดปัญหาขึ้นเหมือนกัน’

จูซูย็อกเชื่อแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป

เขาทราบดี คำพูดบั่นทอนกำลังใจไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น มีแต่จะทำให้เพื่อนร่วมชั้นแตกตื่นโดยใช่เหตุ

ฉัวะ! ฉัวะ!

แม้ในหัวจะคิดหลายเรื่อง แต่มือจูซูย็อกยังคงจับ ‘สองปีกจรัส’ กวัดแกว่งไปทั่วสนามรบบนภูเขาซังจู

สงครามเริ่มขึ้นก่อนที่เขาจะได้มีโอกาสใช้สกิล ‘ตาทิพย์’ เพื่อสำรวจตำแหน่งอื่นบนเกาะ

จูซูย็อกฝืนข่มความกระวนกระวาย

‘ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี… ต้องเชื่อใจพวกพ้องสิ!’

เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ตามลำพัง

จูซูย็อกนึกถึงเม็งเฮียวทงกับโชอึยชิน สองเพื่อนสนิทที่อาสาไปตามครูและอพยพชาวเมือง

ขณะเด็กหนุ่มเริ่มผ่อนคลายความตึงเครียด

ปัง! ปังปังปังปัง! ปัง!

เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วภูเขา

เอนามีทยอยล้มลงตามจำนวนเสียงปืน

ในความมืดแบบนี้ มีพลแม่นปืนเพียงคนเดียวในโรงเรียนแสงเงินที่สามารถเล็งยิงได้อย่างแม่นยำ

“ดาอิน!”

เธออยู่ไกลมากจนไม่มีทางเห็นหน้าได้ชัด แต่เขาจดจำได้ทันที

“กำลังเสริมมาแล้ว! กลุ่มของหัวหน้าห้อง 1/1!”

“อ๊า… นึกว่าถูกทิ้งให้ตายแล้วสิ”

“เฮ้อ… ได้พักหายใจหายคอสักที”

ทุกคนพากันอุทานด้วยสีหน้าโล่งใจ

การมาถึงของอันดาอินกับกลุ่มนักเรียนหญิงห้องหนึ่ง ช่วยให้จูซูย็อกและผองเพื่อนรู้สึกฮึกเหิม

“ทุกคนปลอดภัยใช่ไหม? มีใครบาดเจ็บหรือเปล่า”

“มีคนเจ็บนิดหน่อย ฉันอยากให้พวกเขาได้พักสักครู่”

“ตกลง กลุ่มของฉันจะช่วยเก็บกวาดเอง”

เมื่อจูซูย็อกและอันดาอินเริ่มสั่งการและเข้าร่วมศึกแนวหน้า ไม่นานสนามรบก็อยู่ในการควบคุม

แม้ในคาบเรียนจะมีการซ้อม ‘ทีมเพลย์’ ข้ามห้องอยู่บ้าง แต่ไม่น่าเชื่อว่าทั้งสองจะเข้าขากันขนาดนี้ ราวกับเป็นคู่หูที่ร่วมรบกันมานาน

หลังจากกวาดล้างเอนามีที่เกิดจากรอยแยกจนเหี้ยนเตียน คู่พระนางมองหน้ากันแล้วผงกศีรษะ

“หลังจากนี้พวกเราจะตั้งหน่วยบุก!”

ตามกฎของโรงเรียนแสงเงิน นักเรียนปีหนึ่งเทอมหนึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมหน่วยบุกรอยแยก

แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างปิดภาคเรียนฤดูร้อน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เทอมแรกจบลงไปแล้ว แต่เทอมสองยังไม่เริ่ม จึงค่อนข้างคลุมเครือว่าผิดกฎของโรงเรียนหรือไม่

ยิ่งพอไม่มีตัวอย่างของรุ่นพี่ให้เทียบด้วยแล้ว มันก็ยิ่งยากที่จะหาข้อสรุป

อย่างไรก็ดี

กลุ่มเพลเยอร์ที่เพิ่งเรียนจบปีหนึ่งเทอมหนึ่ง เตรียมตัวจู่โจมรอยแยกในสถานการณ์ที่ไม่เคยมีนักเรียนรุ่นใดพบเจอมาก่อน

* * *

ก่อนค่ายยุวชนจะเริ่ม โชอึยชินเสนอแนะบางสิ่งให้ควอนเจอินกับทักกอซัน—สองครูกิตติมศักดิ์

—วันสุดท้ายของการเข้าค่าย จะมีกิจกรรมการแสดงของแต่ละห้องครับ

—ผมอยากให้ครูทั้งสองมาแสดงเซอไพรส์ ทั้งการโซโล่ไวโอลินและโชว์ศิลปะการต่อสู้

—พวกคุณจะต้องมาถึง ‘ประภาคารเพลเยอร์’ ในคืนที่สองโดยไม่ให้ใครเห็น จะด้วยวิธีใดก็ได้

ตามคำแนะนำดังกล่าว อาศัยการสนับสนุนจากทีมทะเลสาบนิรันดร์ ควอนเจอินกับทักกอซันเคลื่อนย้ายเข้ามาในเกาะด้วยกล่องใบใหญ่

แม้จะไม่ใช่การเดินทางที่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของเพลเยอร์มืออาชีพ

จนกระทั่งตรวจพบความผิดปกติแล้วตัดสินใจออกจากกล่อง ครูกิตติมศักดิ์ทั้งสองได้พบกับคุณคิม—ผู้ดูแลเกาะ ครูฮัมกึนยองที่โชอึยชินขอความร่วมมือไว้ล่วงหน้า และมุนแซรอนที่บังเอิญเจอกับฮัมกึนยองระหว่างทาง

หลังจากนั้น ภายใต้การนำทางของผู้ดูแลคิม พวกเขาได้เห็นฉากที่กลีบดอกแมกโนเลียจำนวนมาก แปรเปลี่ยนทะเลให้คลุ้มคลั่ง

เอนามีที่ขึ้นฝั่งถูกจัดการอย่างราบรื่นโดยทักกอซันกับฮัมกึนยอง แต่ปัญหาคือกำแพงสมุทร

‘ไม่อยากเชื่อว่าเพื่อนของเลนาจะแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่เอาไว้’

เธอฟังคำอธิบายมาผ่านๆ แล้วก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะร้ายแรงถึงเพียงนี้

พลังที่คิมยูรีข่มไว้—มหาสมุทรคลั่งอันเกิดจากแสงประทาน พยายามทำลายทุกสิ่งโดยไม่แยกแยะมิตรหรือศัตรู

หากควอนเจอินไม่คอยสะกดความคลั่ง ปัญหาจะเกิดตามมานับไม่ถ้วนแน่นอน

‘ถ้าได้มาพร้อมจาเร็ดกับคนในทีมก็คงดี… แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะต้องเคลื่อนไหวให้แนบเนียนที่สุด’

แสงประทาน ‘เพลงขับกล่อม’ ของควอนเจอินจะแปรผันตามคุณภาพการแสดง และการแสดงเกิดจากหลายภาคส่วน

เวที นักดนตรีร่วม คนดู เครื่องดนตรี อารมณ์ของเธอ เป็นต้น

หากมีเพื่อนร่วมทีมที่เข้าใจแสงประทานของเธออย่างถ่องแท้คอยสนับสนุน ผลลัพธ์จะออกมาดีกว่านี้หลายเท่า

แม้จะน่าเสียดาย แต่หญิงสาวยังคงจดจ่ออยู่กับการบรรเลงเพลง

[…ควอนเจอิน]

น้ำเสียงอันไพเราะที่ไม่ได้ผ่านเครื่องแปลง ดังกังวานในโสตประสาทบลูไวโอลินิสต์

ระหว่างเหตุการณ์รอยแยกแมนเชสเตอร์อันโด่งดัง มันคือเสียงของผีเสื้อที่ควอนเจอินได้ยินหนแล้วหนเล่าขณะถูกขังอยู่ในมิติกึ่งกลางระหว่างความจริงและความฝัน

[…ควอนเจอิน เจ้ามาทำอะไรที่นี่]

ผีเสื้อตัวหนึ่งร่อนลงมาเกาะไหล่ควอนเจอินแล้วกระซิบกระซาบ

“เธอเป็นคนให้เบาะแสมาเองไม่ใช่หรือ”

[เบาะแสนั่นมีเพื่อหลอกใช้เผ่าเสือ มิได้คาดหวังได้เจ้ามาด้วย]

ผีเสื้อเริ่มกระพือปีกบินไปมา ราวกับพยายามรบกวนสมาธิควอนเจอิน

[พาสายเลือดของเจ้าหนีไปดีกว่า… ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหยุดการอาละวาดของแสงประทานคุณหนูแมกโนเลีย]

“…เธอทำให้ยูรีกลายเป็นแบบนี้?”

[ข้าจะปล่อยให้ ‘เครื่องเซ่น’ ไปอยู่ในมือของท่านผู้นั้นไม่ได้… หากอาศัยการเสียสละของคุณหนูแมกโนเลียเพื่อทำลายเกาะ เราจะถ่วงเวลาท่านผู้นั้นได้มาก]

ควอนเจอินรู้สึกเย็นไปถึงขั้วหัวใจ

ความทรงจำสมัยที่ครอบครัวและผองเพื่อนต้องสละชีวิตเพราะถูกผีเสื้อหลอกใช้ เริ่มย้อนกลับมาหลอกหลอน

[เจ้าอาจยังมีชีวิตรอดแม้จะขัดขวางแสงประทานของคุณหนูแมกโนเลียไม่สำเร็จ แต่สายเลือดของเจ้าล่ะ? เลิกบรรเลงเพลงแล้วหนีไปพร้อมกับหล่อนดีกว่า—]

โผละ!

“แมลงน่ารำคาญ”

เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติ ทักกอซันบดขยี้ผีเสื้อด้วยหมัดเคลือบคลื่นพลังวิเศษโน!วลกูดoทคอม

หลังจากพยักหน้าคำนับให้ทักกอซัน ควอนเจอินพยายามกลับไปตั้งใจสีไวโอลินอีกครั้ง

แต่จังหวะดนตรีที่เสียไปแล้วเพราะผีเสื้อ มิอาจเรียกกลับมาได้ง่ายนัก

เมื่อเริ่มประคองไม่อยู่ คลื่นทะเลก็ยิ่งทวีความดุร้าย

‘ต้องมีสมาธิกับการเล่น…!’

แต่ตรงข้ามกับความตั้งใจ ควอนเจอินเล่นโน้ตพลาดเป็นครั้งแรก

ราวกับเศษเสี้ยวของนาบีรยองที่สลายไป กำลังหัวเราะเยาะอยู่ในโสตประสาทของควอนเจอิน

ทันใดนั้น

เสียงโน้ตที่ขาดการขัดเกลา ดังแว่วข้างหูบลูไวโอลินิสต์

เป็นการบรรเลงดนตรีอย่างระมัดระวัง โดยไม่ให้กระทบกับการแสดงของควอนเจอิน

โดยไม่ต้องหันไปมอง เธอทราบได้ทันทีว่าเสียงนี้มาจากใคร

หลานในไส้ของตนกำลังเล่นไวโอลินคลอไปกับการแสดง

* * *

ทันทีที่ได้ยินเสียงเผ่าแท้ ฉันเปิดหน้าต่างไอเท็ม นำคราดซ่างเป่าซินออกมาพร้อมกับเร่งความเร็วการบิน

แต่วินาทีที่ได้จับด้ามคราดสีดำ ‘คลื่นดาบ’ ถูกยิงมาจากเผ่าแท้ผู้กำลังถือดาบใหญ่

“…!”

น่องซ้ายของฉันปวดแสบปวดร้อนราวกับถูกไฟเผา

เป็นความเจ็บปวดที่ทนไหว แต่มันทำให้ฉันเสียสมดุลจนยากจะรักษาสกิลบิน

ดูเหมือนเผ่าแท้หวังสอยฉันให้ร่วงโดยไม่คิดจะแลกเปลี่ยนบทสนทนา

“ไม่ยอมลงมาง่ายๆ สินะ”

คลื่นดาบจากเผ่าแท้พุ่งมาทางฉันอีกครั้ง

คราวนี้เล็งมาที่คอ

สายลมกระโชกที่มาพร้อมกับคลื่นดาบ ทำเอาเสื้อผ้าและผมเผ้าของฉันพัดกระพืออย่างบ้าคลั่ง

เคร้ง!

ฉันป้องกันการโจมตีที่อัดแน่นด้วยจิตสังหารสำเร็จ แต่แขนขวาที่กำลังถือคราดซ่างเป่าซินจินเริ่มชา

แขนซ้ายคอยพยุงซาวอลเซอึมไว้อยู่ จึงถือคราดด้วยสองมือไม่ได้

“น่าแปลก… ข้าเคยเห็นสมบัติชิ้นนี้มาก่อน”

สายตาของเผ่าแท้จดจ่ออยู่กับคราดซ่างเป่าซินจินที่ถูกย้อมดำ

“ช่างเถอะ ไว้ฆ่าได้ก็รู้เอง”

เผ่าแท้ยกดาบขึ้นอีกครั้งอย่างอำมหิต

ขณะเปลี่ยนท่าจับด้ามคราดให้กระชับขึ้น ฉันเริ่มเห็นใบหน้าอีกฝ่ายชัดเจน

เป็นใบหน้าที่รู้จัก

‘เราเคยเห็นมันในเกม… หมอนี่คือ ‘สิ่ง’ ที่คอยดึงดูดเอนามีขึ้นมาบนเกาะ!’

อีกฝ่ายคือเผ่าแท้ แถมยังเป็นระดับหัวหน้าปฏิบัติการโจมตีค่ายยุวชน

‘แต่เราไม่มีข้อมูลอื่นนอกจากเรื่องที่มันคือเผ่าแท้…’

ฉันไม่รู้เลยว่าตัวละครใดใช้แก้ทางเผ่าแท้ตรงหน้าได้ดีที่สุด

แต่มั่นใจมาก ว่าไม่ใช่ซาวอลเซอึมที่กำลังใช้อยู่แน่นอน…

ฟ้าว!

ยังไม่ทันจะได้สรุปความคิด ร่างที่ถือดาบใหญ่ถีบตัวเองขึ้นจากพื้นพร้อมกับเหวี่ยงอาวุธกลางอากาศ

คั้ง!

คมดาบใหญ่และซี่ของคราดซ่างเป่าซินจินปะทะกันจนเกิดประกายไฟสว่างวาบ

ความเจ็บปวดแสนสาหัสแล่นไปทั่วแขนขวา

…ไอ้เวรนี่แอบยิงคลื่นสุญญากาศในตอนที่เหวี่ยงดาบ?

แขนขวาของฉันถูกเฉือนจนเลือดไหลไม่หยุด

บาดแผลที่น่องและแขน สร้างความปวดแสบราวกับถูกไฟเผา

‘ถึงจะป้องกันได้ แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บ!’

ฉันพยายามรวบรวมสติที่ค่อยๆ บางลงเพราะความเจ็บปวด

‘ไม่มีเวลาคิดแล้ว ต้องใช้แสงประทานที่อเนกประสงค์ที่สุด…!’

ทันใดนั้น คราดซ่างเป่าซินจินที่ชุ่มไปด้วยเลือดฉันพลันส่องแสง

วิ้ง!

ขณะเผ่าแท้ถอยออกไปตั้งหลัก โลกของฉันกลายเป็นสีขาวโพลน

สิ่งเดียวที่มองเห็นหลังจากแสงหายไป คือกระดานหมากรุกขนาดมหึมาและท้องฟ้ายามราตรี

ความเจ็บปวดหายไปแล้ว รวมถึงซาวอลเซอึมที่คอยแบกมาตลอดทาง

[ข้าตัดสินใจแทรกแซงเพราะเห็นว่าเจ้านายใหม่ต้องการเวลา]

ได้ยินคำพูดของคราดซ่างเป่าซินจิน ฉันเข้าใจสถานการณ์ทันที

ที่นี่คือ ‘โลกแห่งจิต’ ของฉัน ซึ่งเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง

ดูเหมือนคราดซ่างเป่าซินจินจะยื่นมือเข้าช่วย โดยการยื้อเวลาให้ไตร่ตรองวางแผน

เหมือนกับการขยายเสี้ยววินาทีให้ยาวนานขึ้น ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วบนเรือคีโมโพลียากับในหอฝึกสีเงิน

[คงยื้อได้ไม่นานนัก จงคิดหาวิธีต่อกรกับ ‘จอมลอกเลียน’ โดยเร็วเถิด]

จอมลอกเลียน?

คราดซ่างเป่าซินจินรู้จักเผ่าแท้รายนี้?

“รู้จักมันด้วยหรือ”

[เจ้านั่นเคยปะทะกันคราดเก้าซี่มาก่อน]

ถือเป็นข้อมูลชิ้นสำคัญ

ถึงจะเป็นข้อมูลที่แจ้งเพียงว่า อีกฝ่ายเคยปะทะกับตือหงอเหนง อดีตเจ้าของคราดซ่างเป่าซินจิน แต่มันก็สำคัญมากสำหรับฉัน

[มันคือมือขวาของผู้นำเผ่าหมี]

…มือขวาของผู้นำเผ่าหมี

ฉันได้ตระหนักว่าตัวเองดวงซวยแค่ไหน แต่ก็มิใช่สถานการณ์ที่เลวร้ายไปทั้งหมด

เสียงของคราดซ่างเป่าซินจินดังก้องอยู่ในหัว

[เหตุใดเจ้าถึงยิ้ม? แม้จะเป็น ‘จอมลอกเลียน’ แต่มันก็ไม่ใช่ศัตรูที่มนุษย์รับมือได้ง่าย จงใช้ซี่คราดทั้งหมดในคราวเดียว เข้าใจไหม]

“ฉันใช้ซี่คราดด้วยมือข้างเดียวไม่ได้ เป้าหมายของศัตรูคือซาวอลเซอึม… ถ้าฉันปล่อยมือ เขาคงไม่รอดแน่ จะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด”

[ถ้าเจ้าตายไป เด็กคนนั้นก็จะยิ่งอันตราย]

คราดซ่างเป่าซินจินพูดตามหลักเหตุและผล ซึ่งฉันมิได้ถือสา

“ส่งกลับไปความจริงได้แล้ว”

คราดซ่างเป่าซินจินยังไม่ตอบสนองในทันที

ฉันสัมผัสได้ว่าด้ามจับและซี่สีดำในมือ กำลังสั่นเบาๆ ราวกับแสดงความไม่พอใจ

[…ยิ้มมีพิรุธชะมัด]

กระทั่งอาวุธของฉันก็ยังแดกดันเจ้านายว่า ‘มีพิรุธ’

คราดซ่างเป่าซินจินไม่พูดพร่ำทำเพลง

การมองเห็นของฉันกลายเป็นสีขาวโพลนอีกครั้ง ความอบอุ่นและน้ำหนักบนแผ่นหลังทยอยกลับคืนมา ร่วมถึงความเจ็บปวดราวกับถูกไฟเผาจากน่องและมือ

ฉันเปิดแสงประทานโดยไม่มัวรีรอ

〈ท่านใช้แสงประทาน ‘เส้นทางเพลเยอร์’ 〉

ไม่มีใครเหมาะแก่การเผชิญหน้ากับเผ่าหมีมากไปกว่าตัวละครนี้

แม้เขาจะได้รับ ‘ดีบัฟ’ ร้ายแรง

แต่ก็ยกเลิกได้หากเผชิญหน้ากับศัตรูบางประเภท

การ์ดที่ฉันเลือกก็คือ

แบคโฮกุน

“ข้าแต่องค์เทพสวรรค์ ได้โปรดอนุญาต…”

ทันทีที่พูดจบ แสงอันเจิดจ้าสว่างขึ้นจากกลางหน้าผากฉัน

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset