📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 162

บทที่ 162
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ตัวแทนของโรงเรียนเพื่อแข่งขันกับจีนและญี่ปุ่น ซึ่งควรจะเลือกจากนักเรียนปีสองเป็นหลัก

โรงเรียนแสงมีนักเรียนปีสองที่มีผลงานดีในสถิติรอยแยก ผลการเรียน และกิจกรรมชมรมอยู่มากมาย

แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ท้าชิงบางคนกลับถูกเลือกจากปีหนึ่ง ซึ่งตามกฎของโรงเรียนแล้วยังไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมหน่วยบุกรอยแยก

เด็กปีหนึ่งที่ยังปลุกแสงประทานได้ไม่ถึงครึ่งปี

แถมยังมีถึงสามคน

สถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ทำเอาบรรยากาศในห้องประชุมเริ่มคุกรุ่น

“หืม… ฉันเคยได้ยินชื่อจูซูย็อกกับอันดาอินอยู่นะ หัวหน้าห้องหนึ่งกับห้องสอง ที่สอบได้คะแนนเต็มตีคู่กันมาทุกครั้ง”

“เด็กที่ขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการศึกษาไง!”

“โชอึยชิน… เหมือนจะเคยได้ยินชื่ออยู่นะ”

“ซูเปอร์โนว่าไร้นามจากทีมสอบ 13 นั่นไง”

“อ๋อ! รองหัวหน้าห้องจอมพิรุธที่เป็นแชมป์หมากรุก!”

สายตาทุกคู่ของนักเรียนในห้องประชุม จับจ้องมายังเด็กปีหนึ่งทั้งสามที่เป็นผู้ถูกเลือก

“ยินดีด้วยนะ! ลึกๆ แล้วฉันแอบคิดไว้เหมือนกัน ว่าอึยชินก็มีสิทธิ์ถูกเลือก”

คิมยูรีกระซิบกระซาบด้วยเสียงสดใส

“…ขอบใจนะ”

ฉันรู้สึกคันใบหน้าแปลกๆ

เป็นธรรมดาที่พระเอกกับนางเอกจะถูกเลือกให้เป็นตัวแทนโรงเรียน แต่พอมีชื่อตัวเองโผล่ขึ้นมาด้วยแล้วรู้สึกไม่เข้าพวกชอบกล

‘ถ้าลองทบทวนความสำเร็จที่ผ่านมา รวมถึงคะแนนสอบของเรา การถูกเลือกก็ไม่ได้แปลกขนาดนั้น…’

อย่างไรก็ดี ในชั้นปีหนึ่งยังมีเพลเยอร์มากพรสวรรค์อีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเอง

ฉันจึงไม่สบายใจที่ถูกเลือกก่อนหน้าคนเหล่านั้น

“ต่อไปเป็นตัวแทนจากชั้นปีที่สอง…”

หลังจากห้องประชุมเริ่มสงบ อูซังฮีประกาศรายชื่ออีกครั้ง

มีนักเรียนปีสองได้รับเลือกราวยี่สิบคน

เกือบทั้งหมดเป็นตัวละครที่ควบคุมได้หรือไม่ก็ NPC

แต่มีหนึ่งชื่อที่ฉันคาดไม่ถึง

‘คเยอีดัม…’

สมาคมปีกธรณีชั้นปีที่สอง คเยอีดัม ผู้หลงใหลในตำนานสยองขวัญ

ศักยภาพของเขายังเป็นปริศนา แต่การได้รับเลือกโดยไม่ต้องแข่งในรอบคัดเลือก สื่อเป็นนัยว่าเขามีทักษะระดับเดียวกับย็อมจุนยอล ชอนดงฮา และกวักคยุงกูที่ถูกขานชื่อไปก่อนหน้า

‘…ว่าแต่ คเยอีดัมให้คำตอบกับส.ส. ไปว่าอะไร’

ข้อเสนอความร่วมมือที่ส.ส. ซองกุกอุนยื่นให้กับนักเรียนโรงเรียนแสงเงินสามคน

จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าคเยอีดัมตอบตกลงหรือไม่

เนื่องจากแทบไม่พูดเลย จึงไม่รู้ว่ามีนิสัยอย่างไร และนั่นทำให้เดาคำตอบได้ยาก

“…การประชุมตัวแทนนักเรียนประจำไตรมาสที่สอง ถือเป็นอันสิ้นสุดเพียงเท่านี้”

ระหว่างที่ฉันครุ่นคิด การประชุมยุติลงด้วยคำประกาศของโดวอนอู ประธานการประชุมและประธานนักเรียน

“วู้ว~ ฉันจะรีบเขียนข่าวเดี๋ยวนี้แหละ! คุณหัวหน้าห้อง รบกวนเขียนบันทึกการประชุมให้หน่อยนะ!”

“ได้สิ ฉันจะรออ่านข่าวนะ”

“อ๊ะ! หลังจากนี้ฉันขอนัดสัมภาษณ์ด้วยได้ไหม”

“ส่งสคริปต์ล่วงหน้ามาก่อนนะ ฉันจะได้เตรียมคำตอบ”

“อื้อ! ดาอินกับโชอึยชินก็ด้วยนะ! รบกวนด้วย!”

พอพูดจบ มุนแซรอนเนียนดึงตัวอันดาอินไปยืนข้างจูซูย็อก จากนั้นก็หันมาขยิบตาให้ฉัน

‘กำลังจะบอกว่า ‘ที่เหลือฝากด้วย’ สินะ…’

เมื่อทำหน้าที่ตัวเองเสร็จ มุนแซรอนซึ่งดูเหมือนจะคันมือตลอดทั้งการประชุม รีบวิ่งหน้าตั้งไปยังห้องชมรมหนังสือพิมพ์

จูซูย็อกที่รับปากมุนแซรอนเป็นมั่นเป็นเหมาะ รีบปิดปากสนิทเมื่ออันดาอินเดินมายืนใกล้ๆ

“จริงสิ ฉันเองก็ต้องรีบกลับห้องเรียนเหมือนกัน! เลนาอยากไปซื้อ ‘ที่คาดผมควอนเจอิน’ พวกเรามีนัดไปชอปปิ้งกัน”

เธอกำลังพูดถึงที่คาดผมลายลูกไม้ ที่ควอนเจอินสวมตอนถ่ายปกอัลบัม?

ขอแค่ควอนเลนาบอกว่าอยากได้ ไม่ใช่แค่ที่คาดผมอันนั้น แต่เธอยังจะได้แม้กระทั่งของที่ระลึกรุ่นลิมิเต็ด

‘ถ้าควอนเลนาซื้อไม่ทัน แอบขอจากควอนเจอินมาให้ดีไหม…’

คิมยูรีเดินออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมกับหันมาส่งสายตาทำนอง ‘อึยชิน นายเองก็ต้องหาทางปลีกตัวออกมาด้วย เข้าใจไหม!’

อูซังฮุนที่น่าจะแอบฟุบหน้าระหว่างการประชุมจนผมยุ่งเป็นรังนก อยู่ดีๆ ก็โพล่งขึ้นมา

“นี่! ถ้านายว่างก็มา 1v1 กันเถอะ ฉันพกลูกบาสฯ มาด้วย”

ไม่แน่ใจว่าอูซังฮุนตั้งใจหรือไม่ แต่ฉันมองว่านี่คือโอกาสปลีกตัวที่ดี จึงตอบรับคำท้า

“ตกลง ไปกันเถอะ… ไว้เจอกันนะซูย็อก ดาอิน”

เมื่อฉันกับอูซังฮุนหันหลังให้แล้วเดินไปทางสนามกีฬาของปีหนึ่ง จูซูย็อกกับอันดาอินเริ่มสนทนากันด้วยบรรยากาศเคอะเขิน

“…เอ่อ”

“…คือว่า”

ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน

กลิ่นอายความกระอักกระอ่วนแผ่ปกคลุมพวกเขาทันที

หลังจากยึกยักกันอยู่หลายครั้ง อันดาอินเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ

“คือฉันอยากจะคุยกันต่อนะ… เกี่ยวกับหนังสือที่นายแนะนำมา”

“ง…งั้นนั่งที่ไหนกันดี นั่งตรงนี้ต่อไหม?”

“…อื้อ!”

เจ้าทึ่มจูซูย็อกขว้างโอกาสออกเดตทิ้งไปกับมือ

ทั้งสองคงเตรียมเปิดชมรมวิจารณ์วรรณกรรมอันหวานแหววอีกครั้งภายในโรงเรียน

‘ดูจากสภาพแล้ว คงยังไม่เคยไปกินข้าวด้วยกันมาก่อน’

เห็นแค่นี้ก็สามารถอนุมานได้ทันที

…น่าผิดหวังชะมัด

“จริงสิ เหมือนฉันจะได้ยินสภานักเรียนเรียกชื่อนายนะ ไปก่อเรื่องอะไรมาหรือ”

อูซังฮุนพูดจาเหลวไหลหน้านิ่ง ไม่ต้องสืบเลยว่านอนหลับเต็มอิ่มในคาบประชุมแน่นอน

“เปล่า ฉันแค่ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิง เพื่อเป็นตัวแทนการแข่งสานสัมพันธ์เกาหลี จีน ญี่ปุ่น”

“เจ๋ง… แล้วคุณอูซังฮีถูกเลือกด้วยไหม”

“นักเรียนปีสามไม่มีใครถูกเลือก เนื่องจากปีนี้อาจไม่มีการแข่ง และพวกเขาต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือไม่ก็วางแผนอนาคต”

“…อย่างนี้นี่เอง”

อูซังฮุนเปลี่ยนสีหน้าทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘วางแผนอนาคต’

เขาคงเป็นห่วงอูซังฮี

“เฮ้ย! เจ้าเด็กปีหนึ่ง”

“พี่วอนอู ตรงนั้นมีเด็กปีหนึ่งสองคนนะ”

บุคคลที่คาดไม่ถึงกำลังยืนรอฉัน

ไม่ใช่ใครนอกจากโดวอนอู

และที่ยืนอยู่ข้างเขาคือชอนดงฮา

ฉันไม่รู้ว่าท็อปชั้นของปีสองกับปีสามมาทำอะไรที่นี่

“มีอะไรอีก”

อูซังฮุนจ้องโดวอนอูด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

แต่โดวอนอูกล่าวอย่างอ่อนโยนขณะมองหน้าเขา

“น้องเขยนี่เอง สบายดีไหม? พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับนายเยอะเลย แต่ไม่ใช่ตอนนี้ พี่เรียกไอ้เด็กอวดดีข้างๆ ต่างหาก… ค่อก!”

ก่อนที่กำปั้นอูซังฮุนจะบินไปซัดหน้า ชอนดงฮาชิงใช้สันมือสับลูกกระเดือกโดวอนอู

เป็นความเร็วดุจดังอสนีบาต เห็นแล้วอดชื่นชมไม่ได้

อย่างที่คิด ชอนดงฮาไม่ใช่แค่ฉลาด แต่ร่างกายก็ยังยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน สมแล้วที่เป็นตัวละครของฉันโนเวลกูดอทคoม

“พี่วอนอูไม่ได้มีธุระกับน้องชายพี่ซังฮีสักหน่อย อย่าทำให้เรื่องราวซับซ้อนนักสิ ช่วยเข้าประเด็นภายในหนึ่งประโยคได้ไหม”

โดวอนอูทำตัวน่ารังเกียจก็จริง แต่กล้าพูดแบบนี้กับประธานนักเรียนเลยหรือ…

ดูท่าจะสนิทกันมาก

“…เรื่องซีฮูน่ะ”

โดวอนอูยังคงอ้ำอึ้ง

เขากลืนน้ำลาย เว้นวรรค จากนั้นก็รัวยิงคำพูดออกมาเหมือนกระสุน

“ถ้าบอกว่าฉันไม่รู้สึกขอบคุณเลยก็จะเป็นการโกหก!”

ไอ้คำขอบคุณที่ไม่เหมือนคำขอบคุณนี่มันอะไร?

แต่ช่างเถอะ ในเมื่อเขาขอบคุณแล้ว เลเวลความน่ารังเกียจของโดวอนอูลดระดับลงจาก ‘น่ารังเกียจสุดยอด’ เหลือ ‘น่ารังเกียจจัง’

“…แล้วเจอกันใหม่”

ชอนดงฮากับอูซังฮุนมองโดวอนอูด้วยสายตาดูแคลน แต่อีกฝ่ายยังคงหนักแน่น เพียงหันหลังกลับอย่างไร้ยางอายแล้วเดินจากไป

“งั้นทางผมก็ขอตัวเหมือนกัน”

ขณะฉันพูดแบบนั้นแล้วเตรียมเดินไปจากชอนดงฮา ผู้ยังคงมองมา

“สักครู่”

“ครับ?”

ชอนดงฮาก็มีธุระกับเรา?

“ฉันว่าจะท้าหมากรุกนายหลังจากสอบปลายภาคเสร็จ วันนี้ไม่ได้ใช่ไหม”

ขณะพูด ชอนดงฮามองลูกบาสฯ ที่อูซังฮุนกำลังถือ

“ครับ ผมมีนัดแล้ว ไว้เป็นวันหลังได้ไหม”

“จะรอนะ”

ชอนดงฮาไม่ได้มีนิสัยดุดัน ฉันจึงคิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นฝ่ายท้ามาก่อน

‘ตอนแรกนึกว่าถามหยั่งเชิงเล่นๆ … ดูเหมือนจะเอาจริงสินะ’

ฉันไม่แน่ใจว่าเขามีเหตุผลอื่นแอบแฝง หรือว่าแค่อยากเล่นหมากรุกด้วยกันจริงๆ

แลกดีไวซ์กันเสร็จ ชอนดงฮาเดินจากไป ส่วนฉันยังคงครุ่นคิด

“มัวทำอะไรอยู่? ไปกันเถอะ”

เสียงเรียกของอูซังฮุนดึงสติฉันกลับมา พวกเราเดินไปทางสนามกีฬา

เราสองคนดวลบาสฯ กันจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน

ช่องว่างฝีมือระหว่างฉัน กับอูซังฮุนที่ขัดเกลาฝีมือการเล่นบาสฯ ในชมรมทุกวัน กว้างขึ้นจากเดิมมาก

แต่เขาไม่แยแส ยังคงบดขยี้ฉันเหมือนเด็กน้อยอย่างไร้ความปรานี

เนื่องจากแพ้ด้วยคะแนนต่างมากกว่าสิบห้า ฉันจึงท้าดวลใหม่อีกหลายหน แต่ผลก็ไม่ดีขึ้นเลย

อูซังฮุนให้สิทธิ์ฉันเลือกเมนูมื้อเย็น คงเพราะเริ่มรู้สึกผิดที่เอาชนะมือใหม่โดยไม่ออมแรง

* * *

เช้าวันถัดมา

มีข้อความจากลูกศิษย์ของฉัน—ย็อมจุนยอล ถูกส่งมาถึงตั้งแต่เช้า

[ย็อมจุนยอล] สวัสดีครับอาจารย์

[ย็อมจุนยอล] ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ลมมรสุมจะเริ่มพัดพาเมฆขึ้นเหนือ ช่วงเช้าจะมีฝนตกพรำ และยิ่งตกแรงในช่วงกลางคืน

หลังจบการรายงานสภาพอากาศตามปกติ เขาเล่าอะไรเรื่อยเปื่อย

[ย็อมจุนยอล] เมื่อเข้าหน้าฝน จำนวนบอดี้การ์ดรอบตัวผมจะเพิ่มเป็นสองเท่าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน มันค่อนข้างน่าอึดอัดทีเดียว และเวลาไปโรงเรียนก็ต้องไปกับพี่เจกอนตลอด…

ถึงฝนจะไม่ตก ฉันก็เห็นนายมากับยงเจกอนทุกวัน

เรื่องบอดี้การ์ดน่ะใช่ แต่อันหลังดูเหมือนจะเป็นข้ออ้างของยงเจกอนมากกว่า

[ย็อมจุนยอล] ถ้าผมแข็งแกร่งจนไม่ต้องกลัวฝน พวกเขาก็จะยอมให้ออกจากบ้านคนเดียวใช่ไหมครับ?

[ย็อมจุนยอล] อยากเรียนครั้งถัดไปกับอาจารย์เร็วๆ จัง ผมจะได้แข็งแกร่งมากกว่านี้

[ย็อมจุนยอล] (สติกเกอร์)

สติกเกอร์ที่ย็อมจุนยอลส่งมา คือภาพของมังกรแดงกำลังถือร่ม

มังกรแดงที่กำลังมองหยาดฝนไหลลงจากร่ม มีสีหน้าค่อนข้างห่อเหี่ยว

คนออกแบบสติกเกอร์คงอยากสื่อว่า มังกรแพ้ทางน้ำเป็นพิเศษ

‘ถ้าฝนหยุดเมื่อไร หาเวลานัดสอนคาบต่อไปเลยดีกว่า…’

ฉันไม่อยากฝึกเทคนิคการ ‘ฮุบกลืนพลังวิเศษ’ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงในตอนที่ร่างกายย็อมจุนยอลไม่พร้อม

แม้ฝนคือศัตรูตัวฉกาจที่เขาต้องเอาชนะให้ได้ในสักวัน แต่ไม่ใช่กับตอนนี้

จัดระเบียบความคิดอยู่สักพัก บางสิ่งสะกิดใจฉัน

‘ไม่คุยเรื่องผลสอบเลย’

ตอนแรกนึกว่าจะเกริ่นมาบ้าง แต่ฉันเดาผิด

‘ถ้าศิษย์ของเราไม่อยากบอก เราก็ควรแกล้งไม่รู้’

ฉันให้คำมั่นกับตัวเองว่า ต้องคอยระมัดระวังคำพูดในคราวหน้าที่เจอกัน

หลังจากออกแบบหลักสูตรการสอนเสร็จ ฉันสิ้นสุดการฝึกช่วงเช้า แล้วมุ่งหน้าไปยังเขตอาคารเรียนปีหนึ่งเร็วกว่าปกติ

‘นั่นเสียงอะไร…’

เสียงที่ฟังดูเหมือนคนเถียงกัน

เสียงนั้นดังมาจากตึกสำนักงานของครูปีหนึ่ง

ดูแล้วน่าจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งถูกปรับปรุงใหม่เพื่อครูกิตติมศักดิ์โดยเฉพาะ

‘ก็นะ บรรดาครูกิตติมศักดิ์ที่ดูแลปีหนึ่ง ต่างก็เป็นคนใหญ่คนโตในวงการ’

สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉันตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้จนกระทั่งได้ยินเสียงตะโกน

“ปู่ก็เห็นแล้วนี่! ฉันไม่มีพรสวรรค์อะไรเลย! ทั้งแสงประทานกับพรคุ้มครองก็ห่วยจนแทบจะไร้ประโยชน์!”

“เจ้าหนู! ฉันบอกแล้วไงว่าห้ามเรียกปู่!”

“แล้วมันสำคัญหรือไง!”

เสียงของบังยุนซบและทักกอซัน

“ไม่เอาด้วยหรอก! บ้าจริง! ยังไงปู่ก็แค่อยากใช้ฉันเพื่อกล่อมให้ไอ้เด็กนั่นเป็นศิษย์อยู่แล้วนี่! อย่ามาเล่นละครเป็นอาจารย์ใจดีให้ซาบซึ้งหน่อยเลย!”

ได้ยินแบบนั้น ทักกอซันปิดปากเงียบไปครู่ใหญ่

* * *

วันนี้คิมชินรกมาทำงานตั้งแต่เช้า

ในห้องทำงานชั้นบนสุดของตึกครูปีหนึ่ง เขากำลังสะสางเอกสารตามลำพัง

‘ปีที่แล้วก็แบบนี้ ยังหาสถานที่ลำบากเหมือนเดิม’

คิมชินรกที่ไล่ดูเอกสารกระดาษเกี่ยวกับสถานที่จัดค่ายยุวชนของปีหนึ่ง กำลังทำหน้าครุ่นคิด

ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ร่างพ.ร.บ. สถาปัตยกรรมที่ส.ส. ซองกุกอุนเสนอ ได้ถูกโหวตผ่านในรัฐสภา

เป็นพ.ร.บ. สำคัญที่ช่วยผลักดันกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งก่อสร้างของเพลเยอร์

‘หากคำนึงจากความรุนแรงของพลังวิเศษ เราควรกำหนดความแข็งแรงขั้นต่ำของโครงสร้างให้สูงกว่านี้… แต่ในปัจจุบันก็ถือว่าไม่แย่’

เป็นเพราะกฎหมายดังกล่าว อุบัติเหตุเกี่ยวกับเพลเยอร์จึงลดจำนวนลงอย่างมาก แต่ก็แลกมาด้วยภาระงานที่เพิ่มขึ้น

‘ช่วงนี้เขาเป็นยังไงบ้างนะ…’

สมัยที่คิมชินรกสอนด้วยชื่อและใบหน้าอื่น

เด็กหนุ่มนามว่าซองกุกอุน ผู้ชอบเล่นซนไปทั่วโรงเรียน นำพารอยยิ้มมาสู่ใบหน้าเขาได้เสมอ

ซองกุกอุนที่ทุกคนทราบดีว่าไม่ชอบเผ่าแท้และลูกหลาน กลับดูตัวจริงของคิมชินรกไม่ออก และคอยเชื่อฟังคำสอนอย่างเคร่งครัด

กระทั่งในงานศพปลอมๆ ที่จัดขึ้นเพื่อขจัดตัวตนปลอมทิ้ง ซองกุกอุนก็ยังมาร่วมงาน

“ชินรก”

การหวนคะนึงของเขา ถูกรบกวนโดยเสียงของยงเจกอน

คิมชินรกครุ่นคิดหาเหตุผลที่ยงเจกอนมาทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ และไม่นานก็ได้คำตอบ

‘คงมาโรงเรียนพร้อมลูกหลานมังกร’

สอบปลายภาคก็เสร็จแล้ว แถมยังฝนตก ลูกหลานมังกรมาทำอะไรที่โรงเรียนตั้งแต่เช้า?

หรือว่าเจ็บใจที่ได้ที่สอง?

…ดูท่าลูกหลานผู้เป็นที่รักของเผ่ามังกรรายนั้น จะมีทัศนคติต่างไปจากลูกหลานคนอื่น

“หืม… อีกไม่นานเจ้าก็ต้องออกนอกเขตอึนกวางแล้วสินะ แต่ ‘ตา’ นั่นยังไม่หายไปเลย…”

ยงเจกอนมองผ่านไหล่คิมชินรก ปลายสายตาคือเอกสารแผ่นหนึ่ง

มังกรประหลาดใช้นิ้วจิ้มลงบนตำแหน่ง ‘เกาะซอกโม’ ด้วยนิ้วอันเรียวยาว

ท่าทีราวกับเขาไม่อยากให้คิมชินรก ผู้อยู่ในสถานะไม่มั่นคง ย่างกรายออกไปจากแดนศักดิ์สิทธิ์

“ในเมื่อได้เป็นผู้ช่วยครูประจำชั้นแล้ว เจ้าก็ต้องตามไปด้วยไม่ใช่หรือไง ห้องศูนย์ ห้องหนึ่ง และห้องสองอยู่กลุ่มเดียวกัน… มีเจ้ากับท่านเสือเหลืออยู่ทั้งคน จะเกิดเหตุร้ายแรงที่รับมือไม่ไหวเชียวหรือ”

“นอกจากปัญหาเกี่ยวกับ ‘ตา’ นั่น ข้าตงิดใจกับบางสิ่งมาสักพักแล้ว”

ดวงตาสีหยกของยงเจกอนทิ่มแทงร่างกายคิมชินรกอย่างเงียบงัน

“เมื่อไม่นานมานี้ ในเขตอึนกวาง ข้าพบเห็นมนุษย์ที่ราชันอสูรอีกาเอ็นดู… หึ! อย่างที่คิด เจ้าราชันอสูรนั่นมีรสนิยมไม่เหมือนข้าจริงๆ”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset