📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 152

บทที่ 152
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“เอาล่ะ ได้เวลาพักแล้ว!”

ได้ยินคิมยูรีพูดแบบนั้น เด็กๆ ต่างพากันยืดเส้นยืดสายหรือไม่ก็ฟุบลงไปบนโต๊ะ

“นี่มันวันศุกร์แน่หรือ… หัวจะระเบิดอยู่แล้ว…”

“วันศุกร์แน่นอน แต่เป็นศุกร์ในช่วงเตรียมสอบยังไงล่ะ”

กินมื้อเย็นเสร็จแล้วก็เริ่มอ่านหนังสือสอบทันที

มันเป็นไปตามปรัชญาของคิมยูรีที่กำหนดไว้ว่า วันศุกร์ในช่วงก่อนเทศกาลสอบยิ่งต้องอ่านหนังสือให้หนักขึ้นกว่าปกติ

“ทำไมพวกนายถึงได้เรียนเก่งกันนัก…”

ขณะเม็งเฮียวทงถามพลางตรวจสอบคะแนน ‘ควิซ’ (Quiz) บนโฮโลแกรม เด็กบางคนเปิดปากพูด

“ถ้ามีเนื้อหาที่ต้องสอบเยอะ อย่าไปใส่ใจรายละเอียดมากนัก การอ่านกว้างๆ จะทำให้มีกำลังใจมากกว่าการอ่านเก็บรายละเอียด”

“ลองดูโน้ตที่จดไว้แล้วนึกถึงเนื้อหาในห้องเรียนสิ”

“โรงเรียนเราอัปโหลดวิดีโอการสอบแบบออนไลน์ไว้ด้วย นายสามารถทบทวนไปดูไปได้นะ…”

“อันดับแรกก็ต้องมีความตั้งใจก่อน”

คิมยูรี ฮันอี มินกือริน และซงแดซอกซึ่งอยู่ในกลุ่มเด็กเรียนดี ช่วยกันมอบคำแนะนำ

เม็งเฮียวทงทำหน้าเหมือนกำลังจ้องสิ่งมีชีวิตแปลกหน้าที่ตัวเองไม่รู้จัก

“…ไม่เห็นจะเข้าใจเลย”

“…”

ในทางกลับกัน ควอนเลนาที่กำลังมีปัญหากับบทเรียน เอาแต่นั่งนิ่งตัวเกร็งเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าสายตา

‘ควอนเลนาเตรียมตัวเร็วกว่าเพื่อนก็จริง แต่เธอคงเหนื่อยเพราะต้องเรียนไวโอลินควบคู่ไปด้วย’

เม็งเฮียวทง ควอนเลนา และวังจีโฮอยู่ในกลุ่มที่มีคะแนนต่ำ

เม็งเฮียวทงกับควอนเลนาดูจะมีความเห็นอกเห็นใจระหว่างกันอยู่ แต่ไม่ใช่กับวังจีโฮ

“นายสอบได้สี่สิบคะแนนตลอด… ถ้าพลาดนิดเดียวก็สอบตกเลยนะ ทำไมถึงดูไม่กังวลเลย?”

“ฮะฮะฮะฮะ! ก็ฉันไม่มีทางทำพลาดอยู่แล้ว”

“ไม่มีทางทำพลาด… คือมั่นใจว่ายังไงก็ได้สี่สิบคะแนนพอดี? ฉันควรอิจฉาดีไหมเนี่ย”

ก็อย่างที่วังจีโฮบอก คำว่า ‘ไม่มีทางพลาด’ ของเขาคือการทำได้สี่สิบคะแนนคาบเส้น

เม็งเฮียวทงที่คะแนนเฉียดไปเฉียดมาระหว่างเส้นสี่สิบ ดูจะสับสนกับคำพูดอีกฝ่าย

“ถึงจะไม่สอบตก แต่ถ้าตั้งใจให้มากกว่านี้ คะแนนเฉลี่ยของห้องก็จะดีขึ้นตามไปด้วยนะ!”

ซาวอลเซอึมช่วยเสริม

“คะแนนเฉลี่ยของห้อง… ยิ่งสูงสิ่งดีหรือ?”

“ก็ใช่น่ะสิ! ถ้าคะแนนเฉลี่ยห้องเพิ่มขึ้น ครูฮัมกึนยองต้องดีใจมากแน่!”

“ขอคิดดูก่อนนะ”

…ถ้าหมอนั่นอยากให้คะแนนเฉลี่ยห้องเพิ่มขึ้น ไม่แน่ว่าสอบปลายภาควังจีโฮอาจได้คะแนนเต็ม

และถ้าผลออกมาเป็นแบบนั้น วังจีโฮก็จะกลายเป็นท็อปรุ่นร่วมกับจูซูย็อกและอันดาอิน

ไม่อยากเห็นเลยแฮะ

“ทำเหมือนเดิมดีแล้ว”

“ฮะฮะฮะฮะ!”

วังจีโฮหัวเราะร่วนเมื่อได้ยินฉันยืนกรานว่า ให้ทำสี่สิบคะแนนคาบเส้นตามเดิม

“จริงสิ ของว่างรอบดึกยังไม่ได้เตรียมเลย… วันนี้เป็นเวรของจีโฮกับฉัน”

“นั่นสิ เริ่มกันเลยดีกว่า”

เด็กๆ ในห้องมองวังจีโฮกับคิมยูรีเดินเข้าครัวด้วยสายตาคาดหวังเจือกังวล

กังวลว่าหมอนั่นอาจเล่นพิเรนทร์อีก แต่ก็คาดหวังในฝีมือทำอาหาร

‘ไล่อ่านข้อความดีกว่า’

ระหว่างรออาหารมื้อดึก ฉันเปิดดีไวซ์แล้วเห็นข้อความใหม่จำนวนหนึ่ง

[กึมชานซอล] ดีใจไหมคุณจอมพิรุธ?

[วังชานซอล] วันนี้ก็ทำตัวมีพิรุธนะ! มีพิรุธสุดๆ ไปเลย!

…คงหัวเสียที่ยอนการัมแพ้ฉันสินะ

คู่หูนรกส่งข้อความกวนๆ มาหาโดยไม่มีบริบท

[ฉัน] ขอบคุณที่มาดูแข่งนะครับ ไว้คราวหน้ามาอีกนะ

[วังชานซอล] แล้วถ้าไม่ล่ะ?

[กึมชานซอล] ฉันไม่ได้ไปดูนายแข่ง! ไปดูการัมต่างหาก!

…แต่ถ้าเราแข่งกับยอมการัม พวกเขาก็ต้องมาดูอยู่ดีไม่ใช่หรือไง

พอตอบว่า ‘ได้ครับ ไว้เจอกันใหม่นะ’ ทั้งสองรีบสแปมสติกเกอร์รูประเบิดใส่ทันที แต่ฉันไม่ได้สนใจ

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายข้อความ แต่ที่สะดุดตาเป็นพิเศษคือข้อความจากอีกหนึ่งรุ่นพี่ห้องศูนย์

[อูกีฮวัน] เป็นฝีมือนายหรือ?

…อะไรอีกล่ะนั่น

ครุ่นคิดสักพัก ฉันเริ่มพบคำตอบ

‘หลังจากเกิดเรื่องกับวิญญาณภูเขาและต้นอารามสวรรค์ วังจีโฮบอกว่าจะเก็บกวาดร่องรอยของนักเรียนห้อง 3/0 ให้หมด… หรือว่าอูกีฮวันกำลังหาตัวการที่ทำลายกับดักใกล้ต้นอารามสวรรค์?’

ถ้าฉันตอบว่าไม่ใช่ เขาคงถามกลับมาว่า ‘รู้ด้วยหรือว่าฉันหมายถึงคืออะไร’ และเรียกร้องให้อธิบาย

จึงตัดสินใจแสร้งทำไก๋

[ฉัน] ครับ?

ข้อความสั้นๆ ถูกอ่านทันที แต่ยังไม่มีคำตอบกลับมา

ดูเหมือนจะเป็นการสุ่มถามหยั่งเชิงจริงๆ

คำตอบถูกส่งกลับมาในอีกหลายสิบวินาที

[อูกีฮวัน] เราจับคนร้ายได้แล้ว ไม่ใช่ใครนอกจากครูประจำชั้นสุดแกร่งของห้องฉันเอง!

[ฉัน] ครับ?

อะไรอีกเนี่ย

[อูกีฮวัน] ข้อความที่ฉันหว่านส่งไปเมื่อครู่ เธอตอบกลับมาว่า ‘ใช่ ฉันทำเอง’ … หนอย… ต้องแก้แค้นให้ได้!

…ครูอิมยอนวาคงแค่อยากหยอกล้อลูกศิษย์ตัวเองเล่นด้วยความเอ็นดู

ฉันพิมพ์ส่งกำลังใจไปให้รุ่นพี่แล้วปิดห้องแชตทิ้ง

ถัดมา หลังจากไล่อ่านข้อความอีกสักพัก ฉันเห็นชื่อ ‘ย็อมจุนยอล’ ปรากฏอย่างโดดเด่น

‘ไม่ได้ส่งหาอาจารย์ แต่เป็นรุ่นน้องโชอึยชิน’

ข้อความเริ่มด้วยคำขอโทษอย่างสุภาพ

[ย็อมจุนยอล] สอบปลายภาคเสร็จแล้วมาแข่งกันใหม่ได้ไหม

เป็นคำขอร้องจากลูกศิษย์ทั้งที ยังไงฉันก็ต้องตามใจ

จึงตอบกลับไปด้วยความยินดี

[ฉัน] ได้ครับ ไว้แข่งกันใหม่นะ

[ย็อมจุนยอล] งั้นเจอกันหลังสอบปลายภาคนะ

ดูเหมือนย็อมจุนยอลจะอยู่หน้าจอพอดี จึงตอบกลับมาทันควัน

‘ว่าแต่… ทำไมไม่ส่งข้อความหาอาจารย์เลยล่ะ’

คำนึงจากคำพูดยงเจกอน ย็อมจุนยอลลังเลอยู่นานแล้ว ว่าจะส่งข้อความมาทักทายดีไหม

เห็นทีฉันคงต้องเป็นฝ่ายส่งไปก่อน จึงพิมพ์คำทักทายสั้นๆ แล้วกดส่งไป

[ฉัน] สวัสดี

[ย็อมจุนยอล] ท่านอาจารย์

ข้อความถูกส่งสวนกันภายในเสี้ยววินาที

ข้อความของฉันส่งสำเร็จก่อน แต่ความต่างด้านเวลาแทบไม่ถึงหนึ่งในร้อยวินาที

[ย็อมจุนยอล] เชิญอาจารย์พูดก่อนเลยครับ!

ศิษย์แสนดีของฉันเป็นฝ่ายเสียสละ

[ฉัน] ลองส่งดูน่ะ ถือโอกาสถามไถ่สารทุกข์สุกดิบไปด้วย อ่านหนังสือสอบเหนื่อยไหม?

[ย็อมจุนยอล] ไม่เหนื่อยครับ ขอบคุณอาจารย์ที่เป็นห่วง! ผมจะทำเกรดดีๆ เพื่อให้อาจารย์ภาคภูมิใจ!

ถึงจะเกรดไม่ดี แต่ย็อมจุนยอลก็เป็นศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจของฉันเสมอ

เมื่อได้อ่านตัวหนังสือที่เปี่ยมด้วยความกระตือรือร้น ฉันจินตนาการใบหน้าย็อมจุนยอลกำลังยิ้มจนคิ้วเปลี่ยนเป็นเส้นตรง

[ฉัน] แล้วเธอมีอะไรจะพูดหรือ

[ย็อมจุนยอล] แค่อยากทักทายอาจารย์เท่านั้นครับ!

ใช้เวลาพิมพ์คำทักทายนานขนาดนั้นเชียว?

คำพูดย็อมจุนยอลยังดำเนินต่อ

[ย็อมจุนยอล] อันที่จริง ผมอยากส่งมาทักทายตั้งแต่วันที่ได้รับรหัสแล้ว แต่นึกขึ้นได้ ผมเคยสัญญาว่าจะไม่รบกวนท่านอาจารย์

[ย็อมจุนยอล] …ถึงจะไม่มีเรื่องสำคัญ แต่ผมส่งมาทักทายได้ใช่ไหมครับ

ระยะห่างระหว่างข้อความค่อนข้างนาน

ฉันสัมผัสถึงความกังวลของลูกศิษย์ จึงตัดสินใจอนุญาตทันที

[ฉัน] ได้สิ นั่นไม่ถือว่าเป็นการรบกวน

[ย็อมจุนยอล] งั้นผมขอติดต่อไปหาบ่อยๆ ได้ไหมครับ

[ฉัน] ไม่มีปัญหา

[ย็อมจุนยอล] ขอบคุณครับ!

ถึงจะรู้สึกไม่ดีกับคำว่า ‘บ่อยๆ’ แต่ถ้าย็อมจุนยอลมีความสุข ฉันก็คงต้องยอม

“ได้เวลากินมื้อค่ำแล้ว!”

ดูเหมือนของว่างจะถูกเตรียมเสร็จแล้ว บนโต๊ะเริ่มมีการนำตะเกียบมาเรียง

เมนูวันนี้คือเกี๊ยวซ่า โดยเฉพาะเกี๊ยวซ่าอุนทันที่บางเฉียบเป็นพิเศษจนเห็นไส้

“เหมือนกลืนก้อนเมฆเลย!”

“รสปลาหมึก กุ้ง… อร่อยทุกอย่างเลย!”

“แน่นอนอยู่แล้ว ฝีมือฉันคนนี้ทั้งที ฮะฮะฮะ!”

“…น่าเจ็บใจชะมัด”

ขณะพวกเราพูดคุยในบรรยากาศเป็นกันเอง มินกือรินที่รับโทรศัพท์แล้วเดินไปยังมุมหนึ่งของห้อง เดินกลับมาที่โต๊ะโดยยังไม่วางสายโน!วลกูดoทคอม

“ค่ะ อาจารย์… ตอนนี้ฉันอยู่กับเพื่อนร่วมชั้นแล้ว สักครู่นะคะ”

“ท่านจิตรกรโทรมา?”

“ใช่ ท่านบอกให้นั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนแล้วเปิดลำโพงไว้ ถ้านั่งข้างแดซอกได้ยิ่งดี”

เมื่อเธอพูดจบ ซงแดซอกชี้ไปยังเบาะฝั่งขวามือตัวเองแล้วรีบวางจานกับตะเกียบ

“กือริน นั่งนี่สิ!”

ซงแดซอกที่ไม่ได้นั่งข้างมินกือรินมานาน ฉีกยิ้มกว้างขณะกล่าวกับหญิงสาวสวมฮู้ดคลุมหัว ใบหน้ามิอาจเก็บซ่อนความสุข

“ยังกับมีน้ำผึ้งไหลออกจากตา”

“เดี๋ยวฉันเปลี่ยนที่นั่งให้… ไม่อยากเป็นก้างขวางคอ”

หลังจากเด็กๆ ช่วยกันจัดระเบียบเบาะนั่ง มินกือรินเปลี่ยนโหมดการโทรเป็นลำโพง

เสียงของฮงคยุงบ๊กดังมาจากโฮโลแกรมที่มีอักษรเขียนว่า ‘ท่านอาจารย์’

[กือริน ใจเย็นๆ แล้วตั้งใจฟังให้ดีนะ]

“ค่ะ…”

ขณะบทสนทนาเริ่มขึ้น เด็กบางคนแอบใช้ตะเกียบคีบเกี๊ยวซ่าอุนทันใส่ปากแล้วเคี้ยวแบบกลบเสียง

[‘อีมูกีสู่สวรรค์’ ถูกขโมยไป ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าหายไปเมื่อไร และคนร้ายทำได้ยังไง]

ตุ้บ!

เมื่อฮงคยุงบ๊กพูดจบ มินกือรินช็อกจนหงายหลัง

“กือริน!”

ซงแดซอกข้างๆ รีบยื่นมือขวาออกไปโอบไหล่

…คงเพราะคาดเดาสถานการณ์แบบนี้เอาไว้ ถึงบอกให้นั่งข้างซงแดซอก

มินกือรินค่อยๆ จับแขนซงแดซอกแล้วตั้งใจฟัง

[หลังจากได้ทราบข่าว ทางตำรวจเตรียมดำเนินการสืบสวนอย่างเปิดเผย เพื่อไม่ให้มีการแอบซื้อขายภาพกันลับหลัง พรุ่งนี้ฉันจะออกข่าวป่าวประกาศไปทั่วประเทศ และจะคอยขัดขวางไม่ให้มีใครมาสัมภาษณ์เธอได้ ไม่ต้องกังวล]

“ค่ะ…”

[ฉันสัญญาว่าจะตามหาให้เจอ…]

จิตรกรฮงคยุงบ๊กจบสายด้วยการปลอบประโลมมินกือริน

จากเท่าที่ฟัง รอบตัวเขาคงเป็นกลุ่มตำรวจที่กำลังสืบสวน

“ภาพแรกที่ฉันวาดกับอาจารย์…”

มินกือรินพึมพำอย่างอ่อนแรง เพื่อนร่วมชั้นต่างพยายามปลอบ

“ถ้าอยากได้อะไรก็บอกนะ ฉันจะช่วยเต็มที่เลย!”

“ใช่ เรียกฉันได้ทุกเมื่อ!”

“อื้อ! ติดต่อพวกเราได้ตลอดเลยนะ!”

“ขอบคุณนะ…”

ยิ่งได้คุยกับเพื่อนร่วมชั้น สีหน้ามินกือรินยิ่งผ่อนคลาย

ซงแดซอกที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดขณะคอยกอดมินกือรินไว้ เผยสีหน้าสับสนเล็กๆ

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมินกือรินถึงเอาชนะอาการตกใจได้เร็วขนาดนี้ หลังจากรู้ว่าผลงานชิ้นแรกของตนถูกขโมยไป

เมื่อเห็นเธอกลับมามีสติอีกครั้ง ฉันครุ่นคิดอย่างใจเย็น

‘หายไปเมื่อไร และได้ยังไง…’

สิ่งแรกที่นึกถึงคือจอมบงการ แต่ไม่นานก็ส่ายหน้า

จอมบงการมิได้ตื้นเขินแบบนี้

คำนึงจากพฤติกรรมของจอมบงการในเกม หากมันรู้ว่าภาพนี้คือเบาะแสที่อดีตประธานสมาคมเพลเยอร์สาขาเกาหลีเหลือทิ้งไว้ อีมูกีสู่สวรรค์คงไม่จบลงแค่การถูกขโมย

‘ถ้าเป็นจอมบงการที่เรารู้จัก หลังจากนำของปลอมมาสับเปลี่ยน มันต้องลอบฆ่าฮงคยุงบ๊กกับมินกือรินเพื่อไม่ให้มีใครในโลกรู้ว่าเป็นของปลอม และเพื่อไม่ให้ภาพนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ได้อีก’

หรือสรุปก็คือ ใครบางคนขโมยภาพนี้ไปเพราะคิดว่ามันมีมูลค่าสูงเฉยๆ

ท่ามกลางบรรยากาศขมุกขมัว ฉันหันไปพูดกับวังจีโฮ

“ฉันจะหาภาพนั้นให้เจอ”

“ไม่ใช่ ‘ช่วยหา’ แต่ ‘จะหาให้เจอ’ ? ต้องทำเพื่อเพื่อนร่วมชั้นขนาดนี้เลยหรือ”

“ใช่”

“…นี่คือเหตุผลที่อยู่ๆ ก็ถ่อไปถึงฮงชอนสินะ”

ขณะยืนส่งมินกือรินกับซงแดซอกกลับไป วังจีโฮหันมามองหน้าฉัน

ระหว่างกำลังไตร่ตรองว่าควรอธิบาย ‘อีมูกีสู่สวรรค์’ ถึงขั้นไหนดี

“ตกลง ฉันก็จะช่วยหาอีกแรง”

วังจีโฮพูดพลางผงกศีรษะโดยไม่ถามอะไรต่อ

* * *

วันจันทร์

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวคราวการถูกขโมย ‘อีมูกีสู่สวรรค์’ เป็นที่ฮือฮาไปทั่วเกาหลี แต่นักเรียนโรงเรียนแสงเงินกำลังตกตะลึงกับข่าวที่ใหญ่กว่านั้น

ควอนเจอิน ‘บลูไวโอลินิสต์’ รับตำแหน่งครูที่โรงเรียนแสงเงิน

เป็นคนดังในวงการรายที่สามถัดจากจิตรกรฮงคยุงบ๊ก และปรมาจารย์ทักกอซัน

“มนุษย์เพียงไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับเผ่าแท้ได้ กำลังมารวมตัวในโรงเรียนแสงเงิน!”

“ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่ค่อยตื่นเต้นกับท่านจิตรกรและปรมาจารย์ทักสักเท่าไร เพราะพวกเราอยู่ต่างยุคกัน แต่กับรุ่นพี่ควอนเจอิน…”

ระหว่างทางไปโรงเรียนมีแต่หัวข้อสนทนาเกี่ยวกับควอนเจอิน

แม้จะสอนแค่ไม่กี่วิชา แต่การที่มาสอนก็นับว่าน่าทึ่งมากแล้ว

แถมยังมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นสืบเนื่องจากข้อเท็จจริงดังกล่าว

หนึ่งในนั้นคือฉากที่ครูคนหนึ่งในชุดพละ กำลังคลานเข่าพลางร้องห่มร้องไห้

“สู้เค้านะครู! เหลืออีกแค่ห้ากิโลเมตรเท่านั้น!”

“ทำไมฉันถึงเขียนอะไรแบบนั้นลงไป…”

“เอาน้ำตาเทียมมาอีก!”

ดูเหมือนคนที่พิมพ์ข้อความในบอร์ดว่า ‘ถ้ารุ่นพี่ควอนเจอินมาเป็นครู ฉันจะร้องไห้คลานเข่าจากประตูหน้าไปถึงตึกชมรมเลย’ จะทำตามที่เคยลั่นวาจาไว้

‘ครูที่ปรึกษาชมรมเครื่องสายนี่เอง…’

บนเว็บบอร์ดมีแค่การอธิบายว่าเขา ‘อยู่ชมรมเครื่องสาย’ แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นนักเรียน

ครูที่ปรึกษาชมรมเครื่องสายยังคงก้มหน้าคลานต่อไป โดยมีนักเรียนคอยหยดน้ำตาเทียมให้เรื่อยๆ

เมื่อควอนเจอินได้ยินว่ามีไอ้บ้าคนหนึ่งรับผิดชอบกับคำพูดเพี้ยนๆ ของตัวเอง เธอออกมายืนรออยู่หน้าตึกชมรมเพื่อบรรเลงเพลงให้กำลังใจ

ครูที่ปรึกษาได้เห็นฉากนั้นจึงร้องไห้ออกมาโดยไม่ต้องพึ่งน้ำตาเทียม

“เมื่อวันเสาร์ ฉันไปที่ตึกทีมทะเลสาบนิรันดร์มา… มันยอดเยี่ยมมากๆ …”

ในขณะเดียวกัน ควอนเลนาผู้แวะไปเรียนไวโอลินในช่วงสุดสัปดาห์ พึมพำด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม

“พอได้สติ ฉันรู้สึกว่าตัวเองกลับเป็นปกติแล้ว… หรือควรต้องพูดว่า พอตัวเองกลับเป็นปกติ ฉันถึงได้สติ?”

“เธอกำลังสวดอะไรอยู่น่ะ”

“คงกำลังประทับใจที่รุ่นพี่ควอนเจอินมาเป็นครูมั้ง”

“…ไม่น่าจะใช่แค่ประทับใจนะ”

จากเท่าที่ฟัง ดูเหมือนพิธีขจัดคำสาปคำสาบานให้เงียบของควอนเลนาจะผ่านไปได้ด้วยดี

แม้จะเป็นพิธีที่เล่นใหญ่เกินพอดีไปมาก แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาคุ้มค่า

‘หนึ่งในปัญหาของควอนเลนาถูกแก้ไขแล้ว หวังว่าปัญหาอื่นๆ จะถูกแก้ไขตามมา’

อย่างไรก็ดี แม้จิตรกรฮงคยุงบ๊ก ส.ส. ซองกุกอุน และเผ่าเสือออกหน้าสืบสวนอย่างแข็งขัน แต่เวลากลับล่วงเลยไปโดยไม่มีความคืบหน้า

ไม่นานก็เข้าสู่เดือนกรกฎาคม ตลอดช่วงที่ผ่านมา ฉันจับกลุ่มติวกับเพื่อนแทบทุกวัน แข่งหมากรุกเป็นครั้งคราว และหมั่นสู้กับแบคโฮกุนที่แข็งแกร่งกว่ามากแม้จะใช้แค่มือเดียว

ลงเอยด้วย เทศกาลสอบกลางภาคเริ่มขึ้นโดยยังไม่มีความคืบหน้าของภาพอีมูกีสู่สวรรค์

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset