📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 151

บทที่ 151
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เช้าวันศุกร์

ขณะออกจากหอพักเร็วกว่าปกติ ฉันเห็นข้อความจากซองกุกอุน

[ซองกุกอุน] (ลิงก์บทความ)

ส่งบทความอะไรมาตั้งแต่เช้าเลย?

ฉันนึกสงสัย จึงกดเข้าไปดู

[“ภาษีเลือดรั่วไหล” โรงเรียนมัธยมต้นของรัฐบาลกว่าห้าสิบแห่งในจังหวัดคยองกี ถูกตรวจพบว่าตกแต่งบัญชีเพื่อยักยอกเงินสนับสนุนจากรัฐ]

[สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดคยองกี “ทางเราจะดำเนินการตรวจสอบโรงเรียนมัธยมต้นของรัฐบาลทั้งหมดในจังหวัด”]

จังหวัดคยองกี, โรงเรียนรัฐบาล, ตกแต่งบัญชีเพื่อยักยอกเงิน

ทันทีที่ได้ยินกลุ่มคำดังกล่าว ฉันนึกถึงโรงเรียนเก่าของเม็งเฮียวทง—โรงเรียนมัธยมต้นทันแร

คราวก่อนที่เจอกัน ฉันฝากฝังเรื่องนี้ไว้กับซองกุกอุนเพราะคำร้องของฉันถูกปัดตก

ดูเหมือนเขาจะช่วยจัดการอย่างเอาจริงเอาจัง

…แถมโรงเรียนอื่นก็ยังโดนหางเลขไปด้วย ตัวละครของฉันไม่ธรรมดาจริงๆ

[ฉัน] ขอบคุณครับ

[ซองกุกอุน] ฉันทำสิ่งที่ควรทำในฐานะตัวแทนประชาชน ทางนี้ต่างหากที่ต้องขอบคุณ

[ซองกุกอุน] ถ้ามีอะไรก็ติดต่อมาได้นะ

ฉันกดออกจากห้องแชต เพื่อตรวจสอบรายชื่อโรงเรียนแห่งอื่นๆ ที่โดนหางเลขไปด้วย

จากโรงเรียนมัธยมต้นกว่าหกร้อยแห่งในจังหวัดคยองกี เป็นโรงเรียนรัฐบาลถึงห้าร้อยแห่ง

ในจำนวนนั้น ห้าสิบแห่งถูกตรวจพบว่ามีการทุจริต

ระหว่างกำลังไล่ดูชื่อทั้งห้าสิบโรงเรียน ฉันเริ่มพบความไม่ชอบมาพากล

‘เกือบทุกโรงเรียนอยู่ใกล้กับโรงเรียนทันแร… คำนึงจากลักษณะนิสัยของซองกุกอุน อย่างเขาไม่น่าจะตรวจสอบแค่ละแวกเดียว แต่เป็นทั้งจังหวัด’

ฉันเปิดแผนที่ด้วยโฮโลแกรมเพื่อยืนยันตำแหน่ง และนั่นช่วยให้มั่นใจ

โรงเรียนทั้งหมดในรายชื่อ ตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนม.ต้นทันแรจริงๆ

‘…แค่บังเอิญ?’

ฉันพยายามเชื่อมโยงข้อมูลในเกมกับข้อมูลในปัจจุบัน แต่ก็ยากที่จะด่วนสรุปเพราะมีเบาะแสน้อยเกินไป

“อึยชิน? ฉันนึกว่านายเป็นเด็กหอเสียอีก”

“สวัสดี!”

ปัจจุบันยังเช้าอยู่ ประตูทางเข้าหลักจึงค่อนข้างเงียบ

กรรมการรักษาระเบียบสองคนที่เข้าเวรคุมประตูหลัก—มาจินซึงและโอเยจี กล่าวทักทายฉัน

“สวัสดีครับ”

ได้ยินฉันทักทายตอบ โอเยจีหัวเราะในลำคอ

“ซูย็อกเล่าเรื่องซีฮูให้ฟังแล้ว”

บนเรือคีโมโพลียา โอเยจีเคยประจันหน้ากับแขกที่นินทาโดซีฮูเสียๆ หายๆ

แม้ในเกมจะไม่ได้เปิดเผย แต่ดูทั้งสองจะสนิทกันพอสมควร

“ถ้าอึยชินไม่ได้ติดต่อมา ได้ยินว่าซีฮูเกือบทำตัวงี่เง่าจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ขอบคุณมากนะ”

“…ผมไม่ได้ทำอะไรเลย คนที่เจอโดซีฮูคือครูฮัมกึนยองต่างหาก ส่วนคนที่พากลับไปคือจางนัมอุก”

“ถ้าตอนนั้นหัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียนต้องแก้ไขปัญหาตามลำพัง เขาคงเลือกติดต่อไปหาครอบครัวหรือไม่ก็โรงเรียนเตรียมทหาร และเรื่องราวก็จะลุกลามบานปลาย… ถ้าไม่ใช่เพราะอึยชินกับนัมอุกช่วยกัน ซีฮูคงเดือดร้อนมากแน่… เขาติดหนี้พวกนายแล้ว”

โอเยจีขอบคุณฉันอีกครั้งด้วยสายตาที่ซาบซึ้งใจ

ฉันทำตัวไม่ถูก จึงมองต่ำแก้เขินจนสังเกตเห็นนาฬิกา

ตัวเรือนและหน้าปัดเป็นสีโรสโกลด์ (Rose Gold) เชื่อมติดกับสายหนัง

เข็มสั้น เข็มยาว และเข็มวินาทีทำจากทองคำขาว และตัวเลขประดับตกแต่งด้วยเพชรแท้

‘ก็เข้าใจได้อยู่หรอกที่คนอย่างโอเยจี เพลเยอร์ซึ่งประสบความสำเร็จพอสมควร แถมยังเป็นทายาทตระกูลแชโบลจะมีนาฬิกาหรูๆ ใส่ แต่ว่า… ทำไมสายหนังกับเม็ดมะยมถึงเป็นสีแซนด์พิงก์ล่ะ?’

เพิ่งเผาเสื้อผ้าสีแซนด์พิงก์ไปพร้อมกับจูซูย็อกไม่ใช่หรือไง?

แล้วทำไมถึงสวมนาฬิกาข้อมือที่มีสีนั้น?

“หือ? มีอะไรหรือ”

“นาฬิกาข้อมือของรุ่นพี่สวยมากเลยครับ แบรนด์ไหนเอ่ย”

ฉันอยากขุดคุ้ยแหล่งที่มา แต่ถ้าถามตรงๆ คงจะกระโตกกระตากไปหน่อย จึงลองตะล่อมอ้อมๆ ไปก่อน

“อ้อ ไอ้นี่น่ะหรือ…”

ทันใดนั้น โอเยจีตอบด้วยใบหน้าอมชมพู

“เห็นว่าสั่งทำจาก ‘นือรู’ นะ… เป็นเรือนเดียวในโลก”

ไม่ใช่แบรนด์ไหน แต่สั่งทำพิเศษจากนือรู?

ค่านาฬิกาที่ฉันคำนวณไว้เล่นๆ อาจต้องเพิ่มศูนย์อีกสองตัว

‘เธอไม่มีทางสั่งนาฬิกาสีแซนด์พิงก์มาเองแน่ คงได้เป็นของขวัญ’

…โอเยจีไม่ใช่คนติดหรู อาการเขินที่เราเห็นคงมาจากตัวผู้ให้ของขวัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทนสวมนาฬิกาสีแซนด์พิงก์ที่เกลียดนักหนา

‘ไม่ใช่ว่าถูกผู้ชายแปลกๆ หลอกอยู่นะ…’

แม้แต่พระเอกของเกมอย่างจูซูย็อก ก็ยังไม่เคยอยู่ในสายตาโอเยจี

อีกฝ่ายเป็นใครกันแน่?

ขณะฉันคิดไม่ตกว่าควรตามสืบเรื่องนี้ต่อดีไหม

“โอ้! นั่นมันเด็กห้อง 1/0 นี่นา!”

มาจินซึงตะโกนเสียงดัง

จากอีกฟากของประตูหลัก ฉันเห็นซงแดซอกเดินเข้ามาด้วยใบหน้าหดหู่ ดูไม่เข้ากับรูปร่างที่ดูสง่าผ่าเผย

‘ช่วงนี้มินกือรินต้องมาชมรมศิลปะแต่เช้าทุกวัน แถมพักนี้ก็ไม่ได้มาโรงเรียนด้วยกัน เขาคงหดหู่เพราะแทบไม่ได้เจอกันเลยในช่วงเช้า’

จิตรกรมินกือรินกำลังเห่ออุปกรณ์ใหม่ๆ ที่ชมรมศิลปะสั่งเข้ามา

และสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะเข้าสู่เทศกาลเตรียมตัวสอบ ใครยังค้างคาอะไรในชมรมก็ต้องรีบสะสางให้จบ

ที่ซงแดซอกหดหู่ก็เพราะเขารู้สถานการณ์เป็นอย่างดี จึงไม่กล้าออกปากคัดค้าน

“เฮ้! เด็กห้อง 1/0 ที่ใส่ชุดลำลองเมื่อวันก่อนน่ะ!”

เสียงตะโกนของมาจินซึงทำหูฉันแทบอื้อ

ซงแดซอกหันมาจ้องมาจินซึงโดยไม่เก็บซ่อนความหงุดหงิด

“ทำไม มีอะไร?”

“วันนี้นายจะเข้าเรียน?”

ซงแดซอกดูไม่เหมือนแต่งชุดนักเรียน เนื่องจากสวมเสื้อเชิ้ตที่ขายตามท้องตลาดเป็นครึ่งท่อนบน

เขาจ้องหน้ามาจินซึงที่กำลังยืนขวางทาง แล้วพูดอย่างฉุนเฉียว

“วันนี้ใส่กางเกงนักเรียนมา ผมไม่ได้ทำผิดกฎโรงเรียน อย่ามาเกะกะน่า…”

“ในที่สุดนายก็มาโรงเรียนแล้วสินะ!”

มาจินซึงยังคงตะโกนขณะมองหน้าซงแดซอก

“ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียน! ถ้ามีเรื่องอะไรก็เรียกกรรมการรักษาระเบียบได้ทุกเมื่อ! พวกเรามีประโยชน์กว่าสภานักเรียนมากโข!”

มาจินซึงกล่าวอย่างเป็นมิตร ราวกับลืมไปแล้วว่าคราวก่อนเคยถูกซงแดซอกที่ใส่ชุดลำลองตอกหน้าหงายไป

เมื่อเห็นทัศนคติของอีกฝ่าย ซงแดซอกรีบปิดปากสนิท

ฉันได้ยินโอเยจีแอบพึมพำเบาๆ ว่า ‘จินซึงก็ยังสมองทึบเหมือนเคย’

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ”

เป้าหมายที่ฉันยืนคอยอยู่—ซงแดซอก มาถึงโรงเรียนแล้ว

ฉันกล่าวคำอำลากับรุ่นพี่ทั้งสองแล้วลากตัวซงแดซอกไป

เขาตอบสนองมาจินซึงไม่ถูก จึงยอมตามฉันมาแต่โดยดี

“เดี๋ยวนะ… นายเป็นเด็กหอนี่ ทำไมมายืนอยู่ที่ประตูหน้า”

“พอดีมีอะไรจะให้นาย”

ฉันมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้กำลังยิ้มมีพิรุธ แต่ซงแดซอกกลับขมวดคิ้วเหมือนไม่เชื่อ คงเพราะสภาพแวดล้อมชวนให้คิดแบบนั้นโนlวลกูดอทคoม

“ได้ยินว่าคราวก่อนนายอธิบายเรื่องดาวเทียมให้เพื่อนๆ ฟังอย่างละเอียดเลยนี่ สนใจด้านนั้นใช่ไหมล่ะ”

“แล้วมันยังไง”

“ถ้าส่งข้อความไปหา นายคงไม่ได้เปิดอ่าน ก็เลยมารอนายด้วยตัวเอง”

ฉันเปิดหน้าประกาศรับสมัครเด็กฝึกงานบนเว็บไซต์สมาคมเพลเยอร์ให้เขาดู

ซงแดซอกขมวดคิ้วมองโฮโลแกรม จากนั้นก็ทำตาลุกวาว

“ห้องควบคุมเพลเยอร์ SAT-K ในตึกสมาคม… ลองสมัครดูสิ นายจะได้เห็นของจริง”

ซงแดซอกที่เดินข้างๆ ฉัน ชะงักฝีเท้าทันที

ราวกับว่าอยู่ดีๆ ก็ก้าวขาไม่ออก

“ลองเก็บไปคิดดูนะ”

พูดจบ ฉันส่งลิงก์ประกาศรับสมัครให้ซงแดซอก

จากนั้นก็รีบย่ำเท้าจนมาถึงห้อง 1/0 โดยทิ้งเขาที่กำลังยืนทำหน้าซื่อบื้อไว้ตามลำพัง

* * *

ก่อนจะหมดพักกลางวัน

ระหว่างกำลังอ่านข่าวจากดีไวซ์บนทางเดินที่ไม่ค่อยมีใครใช้ เสียงหนึ่งดังขึ้น

“นักเรียนอึยชิน วันนี้มาโรงเรียนสินะ”

ครูกงชองวอนปรากฏตัวราวกับภูตผี

น้ำเสียงของเขาทั้งสุขุมและทุ้มลึก

โดดไปจองตั๋วสนามเบสบอลจัมชิลเอย โดดไปโรงเรียนม.ต้นทันแรในวันครูเอย รวมถึงการนอนหมดสติด้วยฝีมือจักรวาลเหนือรูปหน้าต้นอารามสวรรค์

แม้ทั้งหมดจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฉันขาดเรียนคาบ ‘แนะนำเอนามี’ ค่อนข้างบ่อย

เขาคงคาใจ เพราะประวัติการโดดเรียนของฉันมีแค่วิชาของเขา

‘ว่าแต่… หาเราเจอได้ยังไง’

วันนี้ฉันเปลี่ยนสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เพราะตำแหน่งเดิมถูกวังจีโฮหาพบแล้ว

ครูกงชองวอนที่เพิ่งเป็นครูประจำ ไม่มีอำนาจในการแกะรอยนักเรียนจากดีไวซ์

“ไปกันเถอะ”

“…ครับ”

คาบเรียนในเทอมแรกเหลือไม่มากแล้ว ฉันจึงตามเขาไป พลางให้คำมั่นสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่

ฮันอีกับเพื่อนร่วมวิชาอาจไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ฉันรู้สึกผิดที่ขาดเรียนบ่อยกว่าใคร

* * *

หลังเลิกเรียน

บ้านของคิมยูรี, หลังจากเอาชนะเอซของชมรมละคร—ยอนการัม ซึ่งมีเพื่อนๆ ห้อง 2/0 ยกโขยงตามมาให้กำลังใจ

“ถ้าอึยชินไม่ได้ห้ามไว้ ฉันคงเรียกทุกคนไปเชียร์ด้วยแล้ว!”

“ใช่!”

“ไม่ต้องมานั่นแหละดีแล้ว”

แม้ฉันจะชนะ แต่ซาวอลเซอึมดูจะไม่พอใจที่ห้องเราพ่ายแพ้ด้านปริมาณกองเชียร์

ทั้งที่เรียนคนละชั้นปี แต่พวกเขากลับเกิดความรู้สึกลึกๆ ว่า ‘ไม่อยากแพ้’

คงเพราะเป็นห้องศูนย์เหมือนกัน

“ในห้องแข่งที่มีนั่งน้อย ถ้าไปกันหมดอาจจะไม่พอ”

“ถ้าไม่มีที่นั่ง ฉันบินเอาก็ได้!”

“ถึงจะบินไม่ได้ แต่ฉันยืนได้”

ถัดจากคำพูดซาวอลเซอึมกับเม็งเฮียวทง วังจีโฮช่วยเสริม

“ถ้ามันแคบนัก เราเช่าโรงยิมแข่งก็ได้นี่”

มันต้องขออนุญาตก่อนไม่ใช่หรือไงฟะ

…แต่ถ้าเจ้าของโรงเรียนเช่าเองก็คงอีกเรื่องสินะ

“จีโฮพูดถูก ฉันเองก็อยากเห็นการแปรอักษรเรืองแสงของรุ่นพี่ห้องศูนย์เหมือนกัน”

“ถึงฉันจะไปไม่ได้ แต่ช่วยวาดรูปให้กำลังใจได้นะ…”

“…เข้าใจแล้ว ไว้คราวหน้าจะชวนนะ”

พอได้ยินคิมยูรีกับมินกือรินพูดแบบนั้น ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด

ในเมื่อเพื่อนร่วมชั้นยืนกรานว่าต้องไปดูให้ได้ ฉันก็ต้องให้พวกเขามาดู

“แล้วจะแข่งอีกทีตอนไหน”

“คงไม่ใช่เร็วๆ นี้…”

“แต่ยังไงก็ควรวางแผนล่วงหน้านะ”

“เห็นด้วย!”

“นี่… พวกนายไม่ได้มาติวกันหรือไง”

ซงแดซอกถามขึ้น แต่ไม่มีใครสนใจ

ลงเอยด้วย พวกเราระดมสมองกันเพื่อคิดแผนเชียร์ที่เหนือกว่าห้อง 2/0

* * *

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ

ขณะใกล้ปิดทำการ

“ท่านจิตรกร… มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“โฮ่… นึกว่าใคร ที่แท้ก็ตัวแทนประชาชนนี่เอง”

ส.ส. ซองกุกอุนและจิตรกรฮงคยุงบ๊ก

พวกเขาบังเอิญเจอกันที่หน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์

“ไม่ยักรู้ว่าท่านก็อยู่ที่โซลด้วย ไม่อย่างนั้นคงแวะไปหาด้วยตัวเองแล้วครับ”

“คนหนุ่มงานยุ่งแบบเธอจะมาหาฉันทำไมเล่า เฮะเฮะเฮะ!”

ฮงคยุงบ๊กยิ้มให้ซองกุกอุน ด้วยสายตาที่เหมือนมองหลานชายในไส้

“ชอบศิลปะกับเขาด้วยหรือ”

“ครับ ผมอยากมาเห็นผลงานของท่านด้วยตาตัวเอง”

“ถ้าอย่างนั้น ให้ฉันนำทางเถอะ”

“ฮะฮะ! ไม่อยากเชื่อว่าระดับศิลปินแห่งชาติจะลดตัวมาเป็นภัณฑารักษ์ให้ผม”

“เร็วเข้าเถอะ ฉันอยากให้เธอให้เห็น ‘อีมูกีสู่สวรรค์’ ที่วาดโดยฉันกับศิษย์… พักนี้มีนักเรียนเพิ่มขึ้น ทำเอานึกถึงวันเก่าๆ เลยล่ะ…”

ซองกุกอุนพยายามเล่นมุก แต่ฮงคยุงบ๊กแสร้งทำหูทวนลมแล้วเดินนำไป

แต่ละก้าวของศิลปินแห่งชาติดูเริงร่าและมีความสุข

จนกระทั่งฮงคยุงบ๊กหยุดยืนตรงใจกลางพิพิธภัณฑ์

ตรงข้ามกับจุดที่เขายืน คือกระจกนิรภัยที่ด้านในมีกรอบรูป

‘นี่น่ะหรือ อีมูกีสู่สวรรค์…’

แม้จะเป็นผลงานร่วมระหว่างอาจารย์กับศิษย์เอก แต่ดูแล้วก็ไม่ได้น่าประทับใจอะไร

ซองกุกอุนเก็บงำความรู้สึก พลางรวบรวมคลื่นพลังวิเศษไว้ที่ดวงตาซึ่งได้รับพรคุ้มครองจากเบื้องบน

ซ่า…

หลังจากมองรูปวาดอยู่สองสามวินาที ซองกุกอุนตัดสินใจเก็บคลื่นพลังวิเศษ

เพราะแม้จะมองด้วยเนตรดังกล่าว แต่มันก็ยังเป็นแค่รูปวาดธรรมดา

‘หรือว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่การมอง… เห็นทีคงต้องฟังเรื่องราวจากปากท่านจิตรกรโดยตรง’

ขณะซองกุกอุนคิดเช่นนั้นแล้วหันไปมองฮงคยุงบ๊ก

อีกฝ่ายกำลังทำหน้าเหมือนสมัยที่เพิ่งสูญเสียศิษย์ไปหมาดๆ

“ท่านจิตรกร?”

เขาไม่ตอบสนองคำเรียกของซองกุกอุน

แต่หันไปพูดกับบุคคลที่ห้อยป้ายพนักงานพิพิธภัณฑ์ด้วยสีหน้าดำมืด

“เรียกผู้ดูแลมา… เรียกตำรวจด้วย”

“เกิดอะไรขึ้นครับ ท่านจิตรกร?”

พอได้ยินว่าส.ส. ซองกุกอุนกับจิตรกรฮงคยุงบ๊กมาเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ ผู้อำนวยการได้เตรียมตัวออกมาต้อนรับพอดี

แม้ผู้ดูแลจะก้มศีรษะอย่างพินอบพิเทา แต่ฮงคยุงบ๊กยังคงไม่ลดโทสะ

“เป็นผู้ดูแลของที่นี่ได้ยังไง!”

“ท่านจิตรกร… เกิดอะไรขึ้นหรือครับ… ผมทำอะไรพลาดไป”

“มีตาหามีแววไม่… ทำไมคนไม่เอาไหนถึงได้ทำงานดูแลพิพิธภัณฑ์ระดับประเทศ! ให้ตายสิ…”

ฮงคยุงบ๊กผู้เดือดดาล ชี้ไปยังอีมูกีสู่สวรรค์ด้านหลังกระจกนิรภัย

“นี่มันของปลอม! ผลงานขีดเขี่ยอันหยาบกร้านนี้มิใช่ ‘อีมูกีสู่สวรรค์’ ที่ฉันกับลูกศิษย์วาดขึ้นมา!”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset