📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 150

บทที่ 150
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

จอมบงการมักถูกแทนที่ด้วยคำว่า ‘ท่านผู้นั้น’ หรือไม่ก็ ‘เจ้านั่น’

ดูเหมือนคราวนี้จอมบงการจะพุ่งเป้ามาที่เด็กปีหนึ่งของโรงเรียนแสงเงิน

‘ค่ายยุวชนคืออีเวนต์ที่จอมบงการใช้รวบรวมเครื่องเซ่น…?’

ฉันย้อนนึกไปถึงค่ายยุวชนในเกม

ท่ามกลางความมืดมิด

ค่ายอบรมถูกตัดขาดจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากปัญหาด้านอุปกรณ์สื่อสาร

ภาพที่ฉันเคยเห็นบนหน้าจอสมาร์ตโฟนยังคงตราตรึงอยู่ในใจ

‘แผนของจอมบงการถูกขัดขวางไปแล้วหลายครั้ง คราวนี้มันคงเตรียมตัวมารัดกุมกว่าเดิมแน่’

ภายในเกม สืบเนื่องจากปัจจัยซ้อนทับอันประกอบไปด้วย: การร่วมมือระหว่างคณะครู โดยเฉพาะฮัมกึนยอง รวมถึงผลงานอันโดดเด่นของจูซูย็อกกับอันดาอิน และการคลุ้มคลั่งของแสงประทานคิมยูรี จอมบงการไม่มีทางเลือกนอกจากต้องถอยกลับไปมือเปล่า

อย่างไรก็ดี มีนักเรียนเคราะห์ร้ายบางคนเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา

‘เรายังไม่รู้ว่าเครื่องเซ่นมีไว้ทำอะไร แต่มั่นใจว่าสิ่งนั้นจะพรากชีวิตนักเรียน’

วังจีโฮยังคงเล่าต่อ

“ฉันคิดอยู่ว่าจะเปลี่ยนตารางกิจกรรมดีไหม แต่ถึงทำแบบนั้นไป ‘เจ้านั่น’ ก็แค่เปลี่ยนเป้าหมาย”

“ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้น”

หลังจากตอบด้วยท่าทีสุขุม วังจีโฮยืนจ้องหน้าฉันโดยไม่พูดอะไรอยู่สักพัก

“ดูไม่ตกใจเลยนะ รู้เรื่องนี้อยู่แล้วหรือ”

“ไม่รู้เรื่องเครื่องเซ่น”

“รู้ว่าค่ายยุวชนตกเป็นเป้าโจมตี?”

วังจีโฮเปลี่ยนคำถามทันที เพราะทราบดีว่าฉันไม่มีทางตอบ ไม่ว่าจะเซ้าซี้ถามแค่ไหน

“…ไว้ค่อยคุยกัน ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายในหมู่นักเรียนจะเป็นปัญหาเอาได้”

ฉันพยักหน้ารับคำพูดวังจีโฮ

ตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องขบคิด ไม่ได้มีแค่การอาละวาดของแสงประทานคิมยูรีอีกแล้ว

* * *

พักกลางวัน

จิตรกรฮงคยุงบ๊กกำลังตรวจสอบแฟ้มสะสมผลงานของนักเรียนชมรมในเครือศิลปะ

แม้จะไม่ได้รับนักเรียนของโรงเรียนแสงเงินเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการเหมือนมินกือริน แต่ฮงคยุงบ๊กก็มีแผนจะสอนทุกคนในฐานะครู

‘เด็กพวกนี้… คุ้มค่าที่จะถ่ายทอดวิชาให้’

เนื่องจากเคยผิดหวังกับทัศนคติของวัยรุ่นที่มีต่อมินกือริน เขาจึงปลีกวิเวกอยู่นมนาน แต่ปัจจุบันได้ตระหนักแล้วว่า ยังมีหนุ่มสาวไฟแรงมากพรสวรรค์ที่คู่ควรกับคำชี้แนะของเขาอยู่อีกไม่น้อย

ทั้งนักเรียนชมรมในเครือศิลปะของโรงเรียนแสงเงิน ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของสองศิษย์อาจารย์—ฮงคยุงบ๊กและมินกือริน

รวมถึงกลุ่มนักเรียนนายร้อยที่ลงทุนใช้ทิลต์โรเตอร์บินเข้ามาในหุบเขาเพราะเป็นห่วงเพื่อน

ขณะนึกถึงใบหน้าเหล่าเด็กๆ ฮงคยุงบ๊กอมยิ้มอย่างมีความสุข

ทันใดนั้นเอง

“ท่านจิตรกร!”

ไม่ใช่ใครนอกจาก ‘ทักกอซัน’ —ชายชราในชุดฮันบกที่กำลังตามหาศิษย์ชั่วคราว ผู้หนีหายไปตลอดช่วงพักกลางวัน

เขาจ้ำพรวดเข้าไปหาฮงคยุงบ๊กแล้วกล่าวด้วยท่าทีเร่งรีบ

“ไอ้ระยำที่ท่านเคยคิดจะตัดมือมัน… ตอนนี้มือขาดแล้ว”

“เกิดอะไรขึ้น เล่ามาให้ละเอียด!”

ทักกอซันเริ่มเล่าเรื่องราว

ไล่ตั้งแต่รายงานการสืบสวนศิษย์เก่าของฮงคยุงบ๊ก ซึ่งทักกอซันได้รับจากเส้นสายในแวดวงอัยการและตำรวจ

ศิษย์คนดังกล่าวประสบอุบัติเหตุร้ายแรง มือถูกเครื่องตัดกระดาษแบบเก่าสับจนขาด จนถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและถูกจับกุมในที่สุด

“มีอุบัติเหตุเหลวไหลแบบนั้นด้วยหรือ…”

“เท่าที่ฟังมา ดูเหมือนไอ้เวรนั่นจะเมาหนักขณะเกิดเรื่อง ผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินกว่า 0.2 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งผลการตรวจสารเสพติดก็ยังเป็นบวก…”

ถ้าเมาแล้วขับในสภาพนี้ โทษสถานเดียวคือการยกเลิกใบขับขี่แล้วนำตัวไปขึ้นศาล โดยไม่สนใจว่าจะก่ออุบัติเหตุหรือยัง

ในสภาพดังกล่าว หากเสพยาเข้าไปอีก จะเผลอทำพลาดจนตัดมือตัวเองขาดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

“สวรรค์ลงโทษมันแล้ว! ไอ้สวะนั่นถูกตัดมือขาด!”

“หืม…”

ทักกอซันกำลังยิ้มอย่างมีความสุข

เขาเชื่อว่าฮงคยุงบ๊กคงโล่งใจขึ้นมาก เนื่องจากหนึ่งในความคาใจได้ถูกสะสางด้วยตัวมันเอง

แต่ต่างจากทักกอซันที่มีความสุข ฮงคยุงบ๊กครุ่นคิดซับซ้อน

เขาไม่เชื่อว่าทัณฑ์สวรรค์มีจริง

เพราะถ้ามีของแบบนั้น บุคคลที่สมควรถูกตัดมือเป็นร้อยครั้งอย่างอดีตศิษย์ของตน ไม่ควรมีชีวิตรอดมาจนถึงปัจจุบัน

‘…ใครบางคนจงใจตัดมือเขาโดยทำให้ดูเหมือนอุบัติเหตุ… ต้องเชี่ยวชาญจนตบตาตำรวจได้ และต้องเป็นคนที่รู้เรื่องนี้ด้วย’

คนแรกที่เขาคิดถึงคือ ‘เผ่ามังกร’ ซึ่งเป็นผู้ช่วยครูประจำชั้น*ของห้อง 1/0

(*สรุปว่ายงเจกอนเป็น ‘ผู้ช่วย’ ครูประจำชั้นนะครับ ทาง raw ใช้คำค่อนข้างโบราณ ผมอ่านไม่แตกฉานเอง ขออภัยเป็นอย่างสูงครับ)

‘ถ้าเป็นเผ่ามังกรคงกลบเกลื่อนเรื่องแบบนี้ได้ไม่ยาก… แต่ถ้าไม่ใช่ลูกหลาน พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องเคลื่อนไหว’

บุคคลที่น่าสงสัยรายถัดไป คือประธานมูลนิธิวังมยอง

มีข่าวลือหนาหูว่า มีเผ่าแท้อยู่เบื้องหลังมูลนิธิวังมยอง

คนร้ายที่ถูกตัดมือเคยสร้างความปวดหัวให้มูลนิธิวังมยองมาก่อน จึงไม่แปลกหากจะถูกแก้แค้น

ถ้าเป็นมูลนิธิวังมยอง… คงจัดฉากได้ไม่ยากเย็น

‘ติดหนี้บุญคุณเข้าแล้ว…’

ฮงคยุงบ๊กมองไปทางตึกเงินจรัสด้วยสีหน้าที่ยากจะอ่านความคิด

* * *

หลังเลิกเรียน

ในห้องชมรมหนังสือพิมพ์

มุนแซรอนกำลังเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากันระหว่างศิษย์ชั่วคราวของ ‘เกรตทัก’ เบ๊ขนมปัง VS ยอดฝีมือลับ เม็งเฮียวทง

เธอหันมาพูด

“ข่าวแบบนี้ขายไม่ได้แน่… มันยังขาดความน่าตื่นเต้น! เบ๊ขนมปังบังยุนซบอ่อนแอเกินไป!”

มุนแซรอนกล่าวพลางวิเคราะห์ฝีมือบังยุนซบบนโฮโลแกรม

เป็นวิดีโอสั้นๆ ขณะบังยุนซบถูกเม็งเฮียวทงจับได้ว่าแอบสูบบุหรี่ หรือไม่ก็กำลังวิ่งหนีโดยคีบบุหรี่ไว้ระหว่างนิ้ว

ฉันรู้อยู่แล้วว่าเบ๊ขนมปังอ่อนแอ แต่ก็ไม่คิดว่าภายนอกจะดูอ่อนแอยิ่งกว่าเม็งเฮียวทง ผู้มีส่วนสูงต่ำกว่ามาตรฐานเด็กผู้ชายม.ปลาย

“เม็งเฮียวทงกับเบ๊ขนมปัง… ความแตกต่างของพลังมีมากเกินไป! ที่บังยุนซบวิ่งหนีเกรตทัก คงเพราะรู้ว่ายังไงตัวเองก็แพ้อยู่แล้ว…”

เม็งเฮียวทงเคยสูสีกับจูซูย็อกสมัยม.ต้น อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในไฟต์คลับ

แม้หลักสูตรแสงเงินจะช่วยให้บังยุนซบพัฒนาขึ้นเล็กน้อย แต่ความต่างชั้นก็ยังมากเกินไปอยู่ดี

หากไม่ได้รับการฝึกสอนจากผู้บำเพ็ญทัก ผลลัพธ์ก็คงชัดเจนจนไม่ต้องสืบ

‘ถ้าปล่อยเอาไว้ เม็งเฮียวทงคงชนะได้ง่ายเกินไป’

มุนแซรอนกล่าวอย่างกระตือรือร้น พลางมองฉันด้วยสีหน้าคาดหวัง

“หรือก็คือ… รองหัวหน้าห้องจอมพิรุธต้องทำอะไรสักหน่อยแล้วล่ะ”

…อย่างนี้นี่เอง

เมื่อลองมาคิดดู ฉันกับมุนแซรอนมีเป้าหมายสอดคล้องกัน

เธออยากให้การแข่งขันสูสีมากขึ้น ส่วนฉันอยากให้เม็งเฮียวทงได้เป็นศิษย์ของผู้บำเพ็ญทัก

“ฉันจะช่วยทำให้บังยุนซบฮึกเหิมเอง”

“รู้งานดีนี่! ฝากด้วยนะ”

ฉันเปิดหน้าต่างแชตที่ประวัติการสนทนามีแต่ชื่อร้านเบเกอรี่

[ฉัน] นี่

ข้อความถูกอ่านทันที แต่ยังไม่มีคำตอบ

ผ่านไปสักพัก ข้อความสั้นๆ ถูกส่งกลับมา

[บังยุนซบ] ㅗㅗㅗ (อีโมชูนิ้วกลาง)

…ยังปากแจ๋วอยู่สินะ

อยากโดนซ้อมสักสามยก หรืออยากซื้อขนมปังสามชิ้น?

แต่ถ้าคำนึงว่าบังยุนซบยังกล้าทำตัวเหิมเกริมหลังจากผ่านอะไรต่อมิอะไรมามาก หมอนี่มีจิตใจเข้มแข็งจนน่าชื่นชมโนเวลกูดอทคoม

‘อดทนเอาไว้นะ’

ถึงจะรู้สึกไม่ดีเท่าไร แต่ฉันตัดสินใจกระตุ้นบังยุนซบ เพื่อพัฒนาการของตัวละครอันมีค่า—เม็งเฮียวทง

[ฉัน] ถ้านายชนะเม็งเฮียวทงได้ ฉันจะยอมยกเลิกสัญญา

[บังยุนซบ] หา?

[บังยุนซบ] พูดจริง?

[บังยุนซบ] ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม?

ข้อความพรั่งพรูอย่างบ้าคลั่ง

[ฉัน] ถ้าไม่เชื่อ ฉันจะให้มุนแซรอนช่วยตีพิมพ์ข่าว

ถึงหมอนี่จะตอบว่าเชื่อ ข่าวก็จะถูกตีพิมพ์อยู่ดี

มุนแซรอนแอบเหล่โฮโลแกรมของฉัน

ดูจากการที่แอบขยิบตาให้ เธอคงจะเห็นด้วยกับฉัน

[บังยุนซบ] ถ้าผิดข้อตกลง ฉันฆ่าแกแน่!

…ด้วยฝีมือในตอนนี้ นายยังไม่มีปัญญาทำหรอกนะ

เมื่อเห็นฉันปิดโฮโลแกรมหลังจากคุยเสร็จ มุนแซรอนกล่าวด้วยสีหน้าพึงพอใจ

“ค่อยน่าดูขึ้นมาหน่อย! มาเริ่มโฆษณาแล้วจองสถานที่กันเถอะ”

“ฉันจองไว้แล้ว”

“ฮะฮะฮะฮะ! จุดพลุด้วยดีไหม?”

“โอ้! วังจีโฮจะเตรียมให้หรือ? เอาสิ!”

หลังจากนั้น เด็กชมรมหนังสือพิมพ์เริ่มปรึกษาหารือเกี่ยวกับการเตรียมจัดมวยคู่หยุดโลก

นอกจากเม็งเฮียวทง นักเรียนห้อง 1/0 ก็คงตั้งตารอศึกนี้เช่นกัน ดังนั้นต้องเตรียมการให้รัดกุม

“วันนี้นายก็มีแข่งหมากรุก?”

“ใช่ นายไปก่อนได้เลย”

“ฉันจะไปดู”

หลังออกจากห้องชมรมหนังสือพิมพ์ ฉันกับวังจีโฮย้ายไปที่ห้องกลุ่มย่อยสเทลเมต

…หมอนี่ตามมาทำไมกันนะ

แต่แน่นอน สำหรับซาวอลเซอึมกับฮันอีที่เพิ่งเริ่มศึกษาหมากรุก ฉันอ้าแขนต้อนรับด้วยความเต็มใจ

“เชิญเชิญ! เชิญนั่ง!”

คู่แข่งของฉันในวันนี้—มาจินซึง กำลังรออยู่ในห้องแข่ง

ถึงจะรู้สึกปวดหูกับเสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ฉันก็โกรธความกระตือรือร้นของตัวละครไม่ลง

‘มาจินซึงยังค่อนข้างใหม่กับหมากรุก… สงสัยวันนี้จะไปติวทัน’

ต่างจากฉันที่รอบคอบรัดกุม มาจินซึงเดินหมากแบบกล้าได้กล้าเสีย

ในท้ายที่สุด การเผชิญหน้ากับมือใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์และความรอบคอบ จบลงในเวลาอันสั้น

แต่ก็ไม่แย่เท่ากับตอนที่โดนสกอล่าเมตไปคราวก่อน

“คราวนี้ฉันเดินได้มากกว่าสี่ตา! ถือเป็นพัฒนาการสินะ! เจ๋งเป้ง!”

มาจินซึงดูเศร้าๆ แต่ก็พึงพอใจ

เมื่อเสร็จการวิเคราะห์สั้นๆ ของกลุ่มผู้ชม ฉันเดินออกจากห้องชมรม

ทันใดนั้น

“อึยชิน ขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม”

ยงเจกอนรั้งตัวฉันไว้

“งั้นพวกเราไปบ้านยูรีก่อนนะ”

“อา… ไปกันก่อนเลย”

ซาวอลเซอึมกับฮันอีเดินออกไปแล้ว แต่วังจีโฮยังไม่ขยับ

“…หืม”

วังจีโฮมองสลับระหว่างฉันกับยงเจกอนด้วยตาเป็นประกาย

สงสัยอยากรู้ว่าจะคุยเรื่องอะไรกัน

ขณะคิดหนักว่าควรตะเพิดเจ้าของโรงเรียนกลับไปด้วยวิธีไหน

เด็กๆ นิสัยดีช่วยฉันคลี่คลายปัญหา

“จีโฮ มัวทำอะไรอยู่? มาเร็ว!”

“เร็วเข้า!”

วังจีโฮชักสีหน้าเล็กน้อย แต่ซาวอลเซอึมกับฮันอีคอยรบเร้าจนเขาไม่มีทางเลือก

จนกระทั่งเหลือแค่ฉันกับยงเจกอนในห้องแข่ง

ตัก! ปาซ!

เมื่อยงเจกอนดีดนิ้ว ด้านในห้องพลันถูกคลุมด้วยลูกบาศก์มิติสีเขียวหยก

…คงจะพูดเรื่องที่ให้ใครได้ยินไม่ได้

“ได้รับข้อความจากจุนยอลหรือยัง”

อะไรอีกล่ะนั่น

“ยังเลยครับ”

“แลกเปลี่ยนดีไวซ์โค้ดกันแล้ว… แต่ยังไม่ได้ส่งข้อความสินะ”

…ถูกลากเข้าไปในบทสนทนากับดักอีกแล้ว

“เมื่อวานเจ้านัดพบจุนยอลด้วยรูปลักษณ์จอมโจรผาแดงใช่ไหม? สีหน้าจุนยอลดูดีขึ้นมากทีเดียว… ก่อนหน้านี้เจ้าก็คงเห็น โดยเฉพาะระหว่างที่แข่งหมากรุกด้วยกัน ภาษากายของจุนยอลดูไม่ดีเลย… พักหลังมานี้เขาดูหดหู่มาก จนย็อมบังยอลกับมังกรครามถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ เรื่องใหญ่ถึงขั้นนั้นเลยล่ะ”

เมื่อ ‘ชื่อนั้น’ หลุดออกมา สมองของฉันเริ่มปั่นป่วนอีกครั้ง

ใช้เวลาสักพักกว่าจะตั้งสติได้

‘…ทำเป็นพูด นายเองก็อยู่ในกลุ่มที่กินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกันนั่นแหละ’

ฉันยังไม่ลืมภาพที่ยงเจกอนเดินไหล่ห่อเมื่อวานซีน คงเพราะโกรธตัวเองที่เผลอเข้มงวดกับย็อมจุนยอลเกินไป

“หืม… จุนยอลดูจะเห่อดีไวซ์ใหม่มากแท้ๆ เอาแต่เขียนแล้วลบเขียนแล้วลบอยู่นั่น นึกว่าได้คุยกันแล้วเสียอีก… หรือว่าเจ้าให้รหัสปลอม?”

ต้องเป็นรหัสจริงอยู่แล้วสิ

ว่าแต่… ย็อมจุนยอลกลับไปทำตัวแบบนั้นที่บ้าน?

ถ้าเขาไม่กล้าส่งมาก่อน เดี๋ยวฉันเป็นฝ่ายส่งไปหาเอง

“ดูจากการตอบสนอง คงเป็นรหัสจริงสินะ… จุนยอลผู้รอบคอบของเราคงกลัวว่าจะเผลอทิ้งร่องรอยไว้ จนทำให้อาจารย์จอมโจรผาแดงตกอยู่ในอันตราย”

ฉันเอาแต่ยืนฟังพลางปิดปากสนิท เพื่อมิให้ติดกับดักบทสนทนาของยงเจกอน

เขาคงดูออก จึงเอาแต่พรั่งพรูสมมติฐานอยู่ฝ่ายเดียว

“เท้าที่ข้าสังเกตเห็นในฐานะผู้ช่วยครูประจำชั้น… เจ้ามี ‘เกณฑ์’ ในการเลือกปฏิบัติต่อผู้คนอยู่… ใช่ไหมล่ะ”

เกณฑ์ที่ยงเจกอนหมายถึง

ฉันพอจะเดาออก

เหล่าตัวละครควบคุมได้ ซึ่งผูกพันกับฉันมานานนับสิบปี

เป็นความจริงที่ฉันมักจะยอมอ่อนข้อให้บุคคลที่เป็นตัวละครควบคุมได้

“ข้าเดาว่าจุนยอลน่าจะผ่าน ‘เกณฑ์’ ของเจ้า ดังนั้น แม้จะมีความเสี่ยงที่ตัวจริงอาจถูกเปิดเผย แต่เจ้าก็ยอมใจอ่อนกับจุนยอลเป็นพิเศษ”

“…ผมไม่รู้ว่าครูพูดถึงอะไร ถ้าหมดเรื่องคุยแล้ว ขอตัวนะครับ ผมมีนัดกับเพื่อนๆ ต่อ”

ฉันพยายามเฉไฉเพราะรู้สึกไม่สบายใจกับหัวข้อสนทนา

“คุยเรื่องนี้แล้วอึดอัดหรือ”

ให้ตายสิ… อ่านใจเก่งฉิบหาย

ยงเจกอนดูร่าเริงกว่าปกติ คงเพราะย็อมจุนยอลกลับมาร่าเริงแล้วเช่นกัน

“ชักอยากรู้แล้วสิว่า ‘เกณฑ์’ ของเจ้าคืออะไร”

ปัซ!

เมื่อฉันหันหลังแล้วเดินไปทางประตูห้องชมรม ศาสตร์แห่งมิติพลันถูกยกเลิก

โดยไม่คิดจะต่อความยาวสาวความยืด ฉันก้มหน้าก้มตาเดินตรงไปที่บ้านคิมยูรี

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset